หงส์ซ่อนลาย
เธอจะทำยังไง ในเมื่อรู้ว่าคนที่ฆ่าพี่ชายเธอ คือคนรักของเธอเอง
Tags: มาเฟีย ตบจุบ รักโรแมนติก ดรา่่มา

ตอน: ตอนที่ ๒ ชายเจ้าของรอยสักทารันทูรา

“นั่นสินะ ฉันลืมไปว่าฉันกำลังคุยอยู่กับผู้ชายไม่ใช่ผู้หญิง” เธอหัวเราะเสียงแผ่ว “ถ้าสักวัน...ฉันแก่หง่อม ไม่สวยเหมือนอย่างในตอนนี้ แล้วคุณยังจะพูดเหมือนตะกี้อยู่หรือเปล่า”

สายตาของเขาชำเลืองมองมายังจีนา ใบหน้าของเธองดงาม ดวงตากลมโตจมูกโด่งของเธอเชิดรั้นเรียวปากเป็นสีกุหลาบเหมือนทับทิม เส้นผมราวกับไหมถูกรวบไว้ยาวจรดกลางหลัง ดูทั้งรูปร่างและหน้าตาของเธอสวยราวกับดาราภาพยนตร์หรือไม่ก็นางแบบ ที่มองเห็นก็คือดวงตาเป็นประกายคมจัดและดูท่าไม่ยอมใครง่าย ๆ คงไม่ปล่อยให้ตัวเองต้องแก่ชราหาความงามไม่ได้หรอก

“ไม่ว่าคุณจะแก่ชราและหาความงามไม่ได้ ผมก็ไม่เปลี่ยนคำพูดหรอก”

จีนามองไปยังวาเลนติโน มองเขาเหมือนมีเจตนาอื่นแต่แล้วก็มองไม่เห็นอะไรนอกจากรอยยิ้มเรียบบริสุทธิ์

“คุณกำลังจะทำให้ฉันเชื่อนะ ว่าผู้ชายดี ๆ ก็ยังดีอยู่ในโลกนี้ด้วย”

“ลองให้ผมถามคุณดูบ้างดีกว่า ว่าคุณปรารถนาคู่ครองที่จะเป็นผู้นำหรือเป็นผู้ตาม”

“ไม่มีใครเป็นผู้นำ และไม่มีใครเป็นผู้ตาม ฉันชอบความเท่าเทียมกันค่ะ” เธอตอบ

“ถ้าอย่างนั้น แปลว่าเราไม่ต้องแยกแยะการทำงานระหว่างผู้หญิงกับผู้ชาย ให้ผู้หญิงมาคอยทำงานบนตึกสูง ๆ หรือทำงานหนักอาบเหงื่อตากน้ำ เวลาขึ้นรถบัสประจำทางผู้ชายก็ไม่ต้องลุกให้ผู้หญิงนั่ง ผู้ชายไม่จำเป็นต้องให้เกียรติผู้หญิงอย่างที่คุณพูดงั้นสิ”

จีนามองลงไปยังด้านล่างเมืองวินเซนต์

“ฉันไม่ได้หมายถึงเรื่องนั้น...ฉันก็แค่ต้องการความเท่าเทียมกันระหว่างความเป็นมนุษย์เท่านั้นเอง คุณพูดถูกว่าฉันมองผู้ชายในแบบอุดมคติเกินไปหน่อย ผู้ชายสำหรับฉันไม่ต้องมีอะไรมากหรอก ขอแค่ให้เป็นสุภาพบุรุษ ให้เกียติผู้หญิง แล้วก็ปกป้องคนที่เขารักก็เพียงพอแล้ว”

รอยยิ้มบาง ๆ ผุดขึ้นที่ริมฝีปากบาง เขาไม่ตอบว่าอะไร

“คุณเป็นผู้ชายคนแรกนะที่ฉันคุยด้วยได้แบบนี้ เห็นคุณครั้งแรกฉันนึกว่าเป็นเจ้าชายซะอีก”

ใบหน้าคมเข้มชำเลืองมองมายังเธอ พร้อมกับคลี่ริมฝีปากเห็นไรฟันน้อย ๆ กิริยานั้นถึงแม้ว่าเขาจะไม่ตอบรับ แต่เธอก็รู้ว่าต้องมีใครบางคนพูดเหมือนอย่างเธอ ท้องฟ้ากรุงโรมเริ่มเปลี่ยนเป็นมืดสลัว เพราะแสงอาทิตย์สุดท้ายตกลงไปสู่เมืองวินเซนต์สาดเป็นแสงสีส้ม อากาศที่นี่เริ่มเย็น ความหนาวเย็นจนแทบทำให้เลือดในกายจับตัวเป็นก้อนแข็ง ทำให้จีนาเริ่มยืนกอดอก วาเลนติโนมองดูเธอแล้วก็ถอดเสื้อคลุมสีเทาเข้มส่งมาให้เธอ

“อะไรคะ”

“ใส่ซะสิ อากาศตอนนี้เริ่มเย็นแล้ว เดี๋ยวคุณจะเป็นหวัดเอาได้”

จีนามองดูเสื้อคลุมของเขา ถ้าหากว่าเธอเอามาสวมใส่ก็แปลว่าเขาต้องทนหนาวน่ะสิ

“ไม่ดีกว่า อีกเดี๋ยวฉันก็กลับแล้ว”

“คุณยอมหนาว เพื่อที่จะไม่ใส่เสื้อของคนแปลกหน้างั้นหรือ” เขาตอบสั้น ๆ ดวงตาทอประกายยิ้ม ๆ

จีนามองหน้าเขา พยายามมองหาอะไรบางอย่างในสายตาคู่นั้นแต่ก็มองไม่เห็นอะไร ถึงแม้เธอจะหนาวสักเพียงไหน แต่จะให้เอาเสื้อคลุมของเขามาสวม ทั้ง ๆ ที่เพิ่งพบเจอกันไม่นานมันก็ไม่ควรอยู่ดี

“ขอบคุณค่ะ” เธอยิ้ม ๆ แล้วเอาเสื้อของเขามาสวม

มันอบอุ่นมากเพราะแนบสนิทลำตัวของเขามาตลอด จีนาชำเลืองมองวาเลนติโน พลางมองเห็นรูปร่างสูงกำยำในแบบผู้ชาย เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อในแบบที่เธอไม่เคยเห็น จีนาพยายามหลบสายตาไปทางอื่นเมื่อเห็นเขาชำเลืองมองเธอด้วยรอยยิ้ม

“อุ่นไหม” เขาถามสั้น ๆ

“มันอบอุ่นมาก ขอบคุณ” เธออ้อมแอ้มตอบ

มือหนาของเขาเอื้อมมาจับคอเสื้อทั้งสองข้างเข้าหากัน วาเลนติโนเดินเข้ามาใกล้เธอ จนหญิงสาวได้กลิ่นบุหรี่หรือโคโลญจาง ๆ ใบหน้าของเธอเปลี่ยนเป็นสีกุหลาบ ที่ผ่านมาเธอยังไม่เคยให้ใครเข้ามาใกล้ได้ขนาดนี้ แม้แต่พี่ชายของตัวเอง เธอไม่รู้ว่าวาเลนติโนจงใจหรือเปล่าแต่เขาเพียงแต่หยุดอยู่ตรงหน้าเธอ ใบหน้าคมสันอยู่ห่างเธอแค่เอื้อมเพียงแค่ฝ่ามือเดียว

มือหนาของเขาจับคอเสื้อของเธอให้คลุมแน่นขึ้น มีแววตายิ้ม ๆ ให้แก่เธอ จีนาค่อยโล่งขึ้นเมื่อเขาถอยออกไป เธอเอ่ยขอบคุณ เวลานี้ท้องฟ้าข้างบนเปลี่ยนเป็นสีมืดมิด เธอเห็นเขาก้มมองดูนาฬิกาข้อมือเรือนหรู อากาศเริ่มเย็นมากจนจีนาอยากจะถอดเสื้อคืนให้แก่เขา ดูเหมือนวาเลนติโนจะรู้ทันเขาเอื้อมมือมาจับคอเสื้อของเธอ

“อากาศเย็นแล้ว เห็นทีผมควรจะต้องกลับเสียที”

“ถ้าอย่างนั้น เสื้อนี่คุณเอากลับ...” จีนาทำท่าจะถอดเสื้อคืนให้แก่เขา แต่วาเลนติโนส่ายหน้าช้า ๆ เอื้อมมือมาจับมือบางที่ทำท่าจะถอดเสื้อคืนให้แก่เขา

“ใส่กลับไปเถอะ คุณพูดเองไม่ใช่หรือว่าผู้ชายในโลกนี้ควรให้เกียรติผู้หญิง ผมก็เป็นผู้ชายหนึ่งในนั้นด้วยเหมือนกัน”

จีนาแก้มเปลี่ยนเป็นสีกุหลาบ รู้ว่าเขาต้องการใช้ข้ออ้างอันนี้เพื่อให้เธอไม่ถอดมันออก

“ฉันพูดถึงคนอื่น ไม่ได้หมายถึงคุณเสียหน่อย ขอโทษนะคะถ้าคำพูดของฉันจะทำให้คุณเข้าใจว่าอย่างนั้น บางครั้งผู้ชายหลายคนก็ย่อมเสียสละเพื่อผู้หญิงที่เขารัก แต่ไม่ได้หมายความว่าสิ่งที่ฉันพูดจะเป็นการบังคับให้คุณยอมเสียสละเสื้อให้กับฉัน”

“ไม่เป็นไร ผมเต็มใจ”

จีนาถอนหายใจยาว

“เป็นหวัดขึ้นมาแล้วอย่ามาว่ากันก็แล้วกัน” เธอยักไหล่

วาเลนติโนจุดประกายรอยยิ้มบนเรียวปาก

“แล้วพบกันใหม่นะ ผมไปก่อนล่ะ”

วาเลนติโนก้มลงกระซิบแผ่วที่ริมหูเธอ ทำเอาจีนาก้าวถอยหลังโดยไม่รู้ตัว เธอได้ยินเสียงหัวเราะผะแผ่วจากริมฝีปากนั้น ก่อนที่เขาจะก้าวเดินลงบันไดไป จีนาเม้มปากแน่นเพราะไม่เคยให้ใครเข้าใกล้เธอมาก่อน ความอบอุ่นจากเสื้อคลุมที่เขาให้เธอสวมมีกลิ่นบุหรี่จาง ๆ โดยไม่รู้ตัวมือบางยกขึ้นจับชายเสื้อตรงคอขึ้นมาห่มไว้จนแนบสนิท จีนายิ้มน้อย ๆ นัยน์ตาเป็นประกาย เผลอลืมสนิทที่จะถามเขาว่าเธอจะเจอเขาได้ที่ไหนเพราะจะเอาเสื้อไปซักแล้วเอามาคืน เธอเหลียวมองไปหาเขา แต่ปรากฏว่าวาเลนติโนหายไปแล้ว

“ลืมถามไปเลย ว่าจะเอาเสื้อไปคืนเมื่อไหร่...”

...จีนากระซิบแผ่ว

“เมื่อวานเธอไปไหนมา พี่ตามหาซะทั่วไปหมด”
เสียงที่บ่งบอกถึงความไม่พอใจดังมาจากปากของพี่ชาย สายตาของลูซิโอดังขึ้นทันทีเมื่อเดินลงบันไดมาเห็นเธอที่นั่งทานกาแฟยามเช้าหลังจากที่เมื่อวานเขาออกไปข้างนอกเนื่องจากติดธุระ ร่างบางยักไหล่ขณะนั่งกินกาแฟ เขาชำเลืองมองหน้าน้องสาวอย่างจับผิด แต่จีนาก้มหน้าอย่างไม่รู้ไม่ชี้เอามือพลิกนิตยสารไปมาตั้งหน้าตั้งตาอ่าน

“ฉันลืมโทรศัพท์ไว้ในรถ ก็เลยไม่ทันได้รับน่ะค่ะ”

“เธอไม่ต้องมาแก้ตัว ซานโตรมารายงานฉันหมดแล้ว ฉันโทรศัพท์ตามเธอตั้งหลายรอบแต่เธอก็ไม่ยอมรับสาย เธอไปไหนมาจีนา”

กะแล้วต้องมีคนมารายงาน

“ว่าแล้วเชียว” เธอบ่นพึมพำ

“จีนา พี่บอกเธอแล้วใช่ไหมว่าช่วงนี้อย่าไปไหนคนเดียว อย่างน้อยก็ต้องมีคนคุ้มกันไปด้วย ระยะนี้มันเป็นช่วงอันตรายระหว่างกลุ่มมาลโซและแก็งค์โลเซนโซหรือแก็งค์อื่น ๆ ถ้าหากว่าเธอถูกจับเอาตัวไป ไม่แน่ว่าอาจจะถูกทรมานหรือถูกฆ่าพี่จะทำยังไง จริงอยู่ที่พี่จะต้องล้างแค้นมันจนล่มสลาย แต่มันจะมีประโยชน์อะไรในเมื่อไม่สามารถช่วยเธอออกมาได้เลย”

น้องสาวคนสวยของลูซิโอยิ้มนัยน์ตาทอประกายวาววับ

“ใครจะกล้ามาทำร้ายน้องสาวของกลุ่มมาลโซล่ะคะ มีพี่ลูซิโออยู่ทั้งคน ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ฉันแค่ออกไปเดินเล่นเฉย ๆ อากาศตอนเย็นของเมืองวินเซนต์มันเย็นสบายดีออกจะตายไป”

“ไม่ต้องมาเปลี่ยนเรื่อง ซานโตรบอกว่าเธอเอาปืนมาขู่เขาแล้วห้ามไม่ให้ตามไป จีนาเธอชักจะทำให้พี่เป็นห่วงซะแล้วสิ”

“ฉันก็แค่ขู่ ไม่ได้ยิงเสียหน่อย”

เธอยักไหล่ น้องสาวคนสวยของลูซิโอดื่มกาแฟจนหมดถ้วย พี่ชายของเธอถอนหายใจยาวส่ายหน้าน้อย ๆ รู้ดีว่าจีนามีนิสัยอย่างไร เธอมีนิสัยไม่ยอมใครแถมยังยิงปืนแม่นอีกด้วย ไอ้นิสัยที่ชอบเอาชนะและไม่ชอบให้ใครมายุ่งกับชีวิตส่วนตัวทำเอาเขาต้องเอามือกุมขมับ ปีนี้น้องสาวของเขาอายุยี่สิบสามเกือบยี่สิบสี่แล้ว ทั้ง ๆ ที่มีลูกชายของนักการเมืองหรือใครอีกหลายคนที่มองเห็นความงามของน้องสาวเขา แล้วพยายามจะเข้าใกล้ก็โดนลูกปืนยิงเข้าใส่ จนลูซิโอจนใจเบื่อหน่ายไปหมด

“จีนา เธอไปไหนมา” เขาถามเคร่งเครียด

“ไปเดินเล่นมาค่ะ” เธอตอบสั้น ๆ

“นั่นแหละ พี่อยากรู้ว่าเธอไปไหนมา”

“ไปไหนแล้วยังไงคะ ปีนี้หนูก็อายุจะยี่สิบสี่แล้วนะคะ จะไปไหนมาไหนก็ต้องมีคนคุ้มกันไปด้วยตลอดน่ะ มันเป็นเด็กไม่รู้จักโต หนูโตพอแล้วนะคะพี่เลิกทำเหมือนหนูเป็นเด็กเสียที” เธอพยายามทำเสียงให้เป็นปกติที่สุด จีนารู้อยู่หรอกว่าพี่ชายเป็นห่วงเธอแค่ไหน แต่ทำแบบนี้เธอก็ไม่ยอมเหมือนกัน

“ถ้าความเป็นห่วงเธอเป็นภาระให้เธอล่ะก็ พี่จะไม่ทำ...แต่เธอต้องสัญญากับพี่ก่อน ว่าต่อไปจะออกไปเที่ยวที่ไหนก็ควรจะบอกให้คนของพี่ทราบเอาไว้ด้วย เราจะได้ตามไปช่วยไว้ได้ทัน”

“บอกไปก็เหมือนเดิม” เธอพูดลอย ๆ

“จีนา” เขาเอ่ยเสียงหนัก

“ก็ได้ค่ะ คราวนี้หนูจะออกไปไหนก็ต้องคอยรายงานให้คนของพี่รู้หมดทุกคน แล้วพี่จะคอยให้ลูกน้องพวกนั้นสะกดรอยตามอยู่ห่าง ๆ โดยพยายามทำเหมือนไม่ให้หนูรู้ตัว หนูก็จะพยายามทำเหมือนไม่เห็น โอเคไหมคะพี่ลูซิโอ” เธอประชดประชัน

ลูซิโอไม่ตอบ หากแต่แววตาของเขาก็เห็นได้ชัดว่าพอใจ

“พี่รู้ว่าเธอไม่สบายใจ แต่เมื่อไหร่ที่เราคุมอิตาลีไว้ได้ทั้งหมด ไม่มีแก็งค์โลเซนโซหรือแก็งค์อื่น ๆ พี่จะไม่ห้ามเธอเลย รอพี่หน่อยเถอะ อีกไม่นานเธอก็จะได้เป็นอิสระ”

เธอชะงักแก้วกาแฟกึก...

ถูกต้องแล้ว ในอิตาลีตอนนี้นอกจากกลุ่มมาลโซก็ยังมีแก็งค์มาเฟียอื่น ๆ อีกมากมาย ที่คอยห้ำหั่นกันฆ่ากันตายไม่มีที่สิ้นสุด จีนาได้ยินมาอย่างนี้ตั้งแต่รุ่นพ่อของเธอมานับไม่ถ้วนแล้ว การแก่งแย่งชิงดีกันระหว่างกลุ่มมาเฟียเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ จีนานั่งเงียบ ๆ เธอรู้ว่าตอนนี้สิ่งที่พี่ชายห่วงที่สุดคือแก็งค์โลเซนโซที่ทรงอิทธิพลและกร้าวแกร่งยิ่ง จนถึงขั้นที่ยิ่งใหญ่ไม่แพ้กลุ่มมาลโซเลยทีเดียว เมื่อไม่นานมานี้เธอได้ข่าวว่าเกิดการยิงกันในบ่อนใหญ่ก็เนื่องมาจากการไม่ลงรอยกัน

“พี่มีเรื่องอะไรอยู่ในใจหรือเปล่าคะ” เธอมองหน้าลูซิโอ ก็เห็นคิ้วของเขาขมวดมุ่น อันเป็นลักษณะของเขาที่คิดกังวลประจำตัว

“ไม่มีอะไรหรอก” เขาตอบยิ้ม ๆ ลูซิโอมักจะเลี่ยง ๆ อย่างนี้ เขาคงรู้ว่าเธอเป็นน้องสาวช่างระแวง และความหวาดระแวงนี้เอง ที่ทำให้เขาต้องระมัดระวังตัวในการพูดเสมอ

เธอชำเลืองมองพี่ชายเงียบ ๆ

“เกิดปัญหาอะไรขึ้นกับแก็งค์มาลโซเหรอคะ”

ลูซิโอเงียบไปพักใหญ่ เขาอึกอักคิดหาคำตอบให้น้องสาว

“บอกมาเถอะค่ะ หนูโตพอที่จะรู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับแก็งค์บ้างแล้ว แก็งค์โลเซนโซใช่ไหมคะ เมื่อสามวันก่อนหนูได้ยินข่าวการยิงกันตายในบ่อนการพนัน พวกเราตายไปสามคน พี่กลัวว่าถ้าหนูออกไปข้างนอกจะถูกพวกเขาจับตัวไป อาจนำไปทรมานหรือฆ่า ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกค่ะฝีมือยิงปืนของหนูไม่ว่าใครต่อใครหนูก็ไม่กลัวหรอก”

“ฉันรู้ว่าฝีมือการยิงปืนของเธอมันเป็นหนึ่งไม่มีสอง” ลูซิโอยิ้มแล้วก็เอื้อมมือมาลูบศีรษะเธอ สัมผัสได้ถึงเส้นผมนุ่มสลวย “เพียงแต่ว่าพี่ไม่อยากให้เธอต้องเข้ามายุ่งเกี่ยวเรื่องระหว่างแก็งค์มาเฟีย”

“หนูทราบค่ะ แต่ในเมื่อเราเกิดมาแล้วเราก็ไม่มีสิทธ์เลือกไม่ใช่เหรอคะ”

“จีนา เธอเสียใจหรือเปล่าที่เกิดมาเป็นน้องสาวของพี่”

จีนายักไหล่ ใบหน้าหวานของเธอรู้สึกจะปลง ๆ

“ถ้าเมื่อก่อนก็คิด คิดที่จะหนีไปใช้ชีวิตในโลกส่วนตัวที่แสนจะมีอิสระ แต่เดี๋ยวนี้จะให้หนูหลีกหนีพี่ไปโดยทิ้งภาระรับผิดชอบแก็งค์มาลโซ หนูทำไม่ได้หรอกค่ะ ขออย่างเดียวสิ่งหนึ่งที่หนูไม่อยากเข้าไปยุ่งเกี่ยวคือการค้ายาเสพติด และคิดว่าพี่ก็คงเข้าใจ”

ลูซิโอยิ้มบาง ๆ นัยน์ตาสุกปลั่ง

“พี่รู้ว่าเธอรังเกียจเรื่องพวกนี้ เอาล่ะพี่สัญญากับเธอว่าต่อไปนี้เรื่องยาเสพติดพี่จะพยายามห่าง ๆ ไว้ แต่ว่า...เธอรู้เรื่องแก็งค์โลเซนโซตั้งแต่เมื่อไหร่ ใครเป็นคนเอามารายงาน”

“หนูไม่ได้เป็นคนหูหนวกตาบอดนะคะ จะได้ไม่รู้เรื่องพวกนี้”

“อืม..นั่นสินะ”

“พี่คะ...” เธอมองตาพี่ชาย “ฝั่งอิตาลีทางตอนเหนือ หัวหน้าฝ่ายเราโดนยิงตายไปเมื่อสองอาทิตย์ก่อน ตอนนี้ไม่มีคนมาแทน พี่จะส่งใครไปคุมที่นั่นคะ”

ลูซิโอเอนหลังนั่งกับเก้าอี้ เรื่องนี้สิมันเป็นเรื่องหนักหนาสำหรับเขา

“พี่ว่าจะส่งอาแมนโดไปคุมที่นั่น”

จีนากระพริบตาถี่ ๆ นึกไปถึงชายหนุ่มลูกครึ่งอิตาเลียนผสมฝรั่งเศส บุคลิกเลือดร้อน มุ่งมั่นแรงกล้า ไม่เคยกลัวใคร เส้นผมตัดสั้นมีรูปรอยสักรูปทาลันทูราที่ต้นคอด้านซ้าย เขามีนิสัยชอบใช้มีดและปืนที่ยอดเยี่ยมไม่เคยเป็นรองใคร เรียวปากนั้นชอบแสยะยิ้มนัยน์ตาสีเขียวอ่อนเยาะหยัน บอกตามตรงว่าเธอไม่ค่อยชอบสายตาของเขาเลย ในอดีตพ่อของเธอเคยเก็บเอาเขามาชุบเลี้ยง อาแมนโดก็ติดตามจนเป็นคนสนิทของกลุ่มมาลโซ

“คนอื่นนอกจากนี้ไม่มีเหรอคะ”

“ตอนนี่พี่ยังไม่เห็นใครที่ดีไปกว่ามัน” ลูซิโอชำเลืองมองไปทางน้องสาว “ทำไมหรือ...เขาทำอะไรให้เธอไม่ชอบหรือเปล่า”

“เปล่าค่ะ นิสัยของเขาออกจะเลือดร้อน และมีส่วนที่เลวสุด ๆ ฉันไม่รู้หรอกนะคะว่าพี่คิดอะไรอยู่ แต่ถ้าพี่ตัดสินใจไปแล้วหนูก็ไม่ว่าอะไรหรอกค่ะ”

“พี่แค่อยากรู้ความเห็นของจีนา ก่อนที่พี่ตัดสินใจทำอะไร เอาล่ะสำหรับน้องคิดว่ายังมีใครที่เหมาะสมไปกว่าอาแมนโดอีกล่ะ”

เธอส่ายหน้าน้อย ๆ

“ถ้าพูดถึงความสามารถ ความก้าวร้าว ไม่กลัวใครและยิงปืนแม่น ฉันก็ยังไม่เห็นใครที่เหมาะสมไปกว่าอาแมนโดเลย แต่ถ้าหากเขาเป็นหัวหน้าฝั่งอิตาลีทางตอนเหนือ ฉันเกรงว่าความสามารถและอารมณ์เลือดร้อนไม่เกรงใจใคร จะทำให้ลูกน้องแข็งกร้าวและไม่ยอมฟังคำสั่งนะคะ”

ลูซิโอเอามือวางไว้บนแท่นโซฟาเคาะปลายนิ้วเป็นจังหวะ ราวกับกำลังชั่งใจอยู่

“ใครที่ไม่ยอมฟังคำสั่ง คนนั้นก็สมควรตาย”

“ฉันไม่เห็นด้วยเลยค่ะ กับการที่พี่จะมีความเห็นแบบนี้ จริงอยู่ที่ลูกน้องกลุ่มมาลโซเคยอยู่กับเรามานาน ใช้ชีวิตอยู่กับเราจนถึงตายแทนกันได้ถ้าจำเป็น แต่ถ้าพี่มอบอำนาจไปให้แก่อาแมนโดแล้วให้เขาคุมลูกน้อง ใช้อำนาจบาตรใหญ่ จนทำให้คนหมู่มากเกิดการแข็งข้อ แล้วจบลงด้วยความตายถ้าขัดขืน...ถ้าอย่างนั้นแก็งค์มาลโซก็ไม่แตกต่างไปจากกลุ่มอื่น ๆ เลยค่ะ”

“แล้วเธอจะให้พี่ทำอย่างไร” น้ำเสียงของเขาแข็งกร้าว

“เรื่องนี้ควรเรียกประชุม เรียกหัวหน้าทั้งหมดมาให้การตัดสิน ว่าควรจะให้ใครไปทำหน้าที่ที่อิตาลีตอนเหนือ ให้เขาเป็นคนตัดสินใจแล้วพี่ก็เอามาพิจารณาดูอีกที ว่าควรให้ใครไปคุมตำแหน่ง”

รอยยิ้มบาง ๆ ปรากฏอยู่ในสายตาคมกริบ

“ตกลง เอาไว้คราวหน้าพี่จะเรียกประชุมทุกฝ่าย แล้วถ้าตัดสินใจยังไงจะให้เธอมาร่วมฟังด้วย”

“ค่ะ”

“พี่มีเรื่องบางอย่างจะฝากฝังเธอ...” ลูซิโอชำเลืองมองไปทางน้องสาว

จีนาเป็นผู้หญิงสวยราวกับนางฟ้า เรียวปากเอิบอิ่มเป็นสีกุหลาบ ผิวกายก็นวลเนียนราวกับงาช้าง แต่ด้วยฐานะน้องสาวมาเฟียกับการเรียนสูง นอกจากนั้นแล้วก็ยังมีผู้ชายหลายคนที่เหลียวมองเธอ และพยายามทาบทามมายังลูซิโอ ถ้าจะเทียบได้กับจดหมายดูตัว โต๊ะทำงานเขาก็มีแต่ประวัติและฐานะผู้ชายเหล่านี้ทั้งสิ้น

ไม่ใช่ว่าเขายินดีไปเสียหมดหรอก เขาก็ยังเป็นพี่ชายที่มีความรักและหวงน้องสาวยิ่งกว่าไข่ในหินเสียอีก แต่ปีนี้จีนาก็อายุยี่สิบสี่ปีแล้ว เธอควรจะมีคู่และแต่งงานกับคนที่เธอรัก แต่น่าเสียดายที่จีนาไม่สนใจแถมยังดูถูกผู้ชายที่เขาเลือกมาให้ ทั้ง ๆ ที่คนเหล่านั้นก็มีฐานะและคู่ควรกับเธอ

“อะไรคะ” เธอก้มลงมองรูปถ่าย ที่พี่ชายเธอเอาออกมาจากกระเป๋าเสื้อแล้วส่งให้เธอ

“ลูกชายนักธุรกิจหลายคน แล้วก็หลานคนทำอสังหาริมทรัพย์” ลูซิโอเอ่ยเสียงหนัก “เขาพยายามติดต่อเธอ แต่เธอก็ไม่รับสายเลยสักคน”

เท่านั้นเอง น้องสาวคนสวยของเขาก็เลิกคิ้ว ริมฝีปากมีรอยยิ้มเยาะน้อย ๆ

“เขาก็เลยติดต่อมายังพี่ พร้อมรูปถ่าย....มาให้หนูดูตัวเหรอคะ อืม...ถ้าให้ดีต้องมีใบเกียรตินิยมแนบมาด้วย คนที่มาจีบหนูต้องเอาชนะหนูให้ได้เสียก่อน อย่างน้อยก็ฝีมือการยิงปืน หรือไม่ก็เทควันโด” เธอพูดติดตลก

“จีนาปีนี้เธออายุเท่าไหร่”

“ทำไมคะ อายุผู้หญิงจะแต่งงานเมื่อไหร่ก็ได้ อีกตั้งหลายปีกว่าจะถึงสามสิบ”

“คนเราเกิดมาก็ต้องแต่งงาน เธอจะเอาชนะทุกสิ่งทุกอย่างไปไม่ได้หรอก รูปถ่ายพวกนี้ความจริงพี่ไม่ได้ต้องการเอามาให้เธอดูหรอก แต่พอมาคิด ๆ ดู มันก็ควรจะถึงเวลาที่เธอควรจะแต่งงานออกไปได้แล้ว”

จีนาลอยหน้าลอยตาตอบ

“ใครเป็นคนออกกฎหมายคะ ว่าผู้หญิงอายุเท่าไหร่ถึงจะแต่งงานมีเหย้ามีเรือน”

“ผู้ชายเหล่านี้ก็เป็นถึงนักธุรกิจมีเงินทองมากมายหลายร้อยล้าน เป็นลูกหลานมาเฟีย ยังมีอะไรไม่คู่ควรกับเธออีกหรือ”

“มีแน่ค่ะ ฉันไม่ได้สนใจกับการที่เขาจะเป็นนักธุรกิจหรือลูกชายมาเฟียใหญ่ แต่เขาต้องเอาชนะฉันให้ได้เสียก่อน พี่คะ พี่ไม่เคยเห็นผู้ชายที่กดขี่ทางเพศ ชอบให้ผู้หญิงอย่างเราเป็นช้างเท้าหลัง เป็นภรรยามีหน้าที่แค่บนเตียงหรือออกงานสังคม ถ้าผู้ชายทั้งโลกเป็นแบบนั้น หนูสู้อยู่คนเดียวซะดีกว่า”

ความคิดอย่างนี้แหละทำให้เธอครองตัวเป็นโสด

มันก็จริง...เขาไม่ปฏิเสธหรอกว่า พวกผู้ชายเหล่านี้ไม่ว่าจะเป็นลูกชายนักธุรกิจหรือมาเฟียกลุ่มอื่น ๆ มักจะเห็นภรรยาเป็นช้างเท้าหลัง กดขี่ทางเพศอย่างที่เธอว่า และเขาก็ไม่สนับสนุนให้เธอเป็นอย่างนั้นเสียด้วย ตั้งแต่เด็กเล็ก ๆ มา เขาคอยสอนให้เธอทำทุกอย่างเกี่ยวกับผู้ชาย ทั้งยิงปืน ทั้งศิลปะการต่อสู้เพื่อให้เธอไม่เป็นรองใคร จนในที่สุดเธอกลายเป็นผู้หญิงที่มองผู้ชายเป็นเรื่องไร้สาระ ปฏิเสธทุกอย่างและรูปที่เขานำมาเสนอ

จะโทษใครได้ ที่เธอเป็นอย่างนี้ก็เพราะตัวเขาเอง

ในที่สุดเขาก็ฝืนสัจธรรมไปไม่ได้ เขาเองก็อยากให้น้องสาวเป็นเหมือนไข่ในหิน ไม่ต้องการให้เธอออกห่างแต่งงานมีครอบครัว ปีนี้เธอก็อายุยี่สิบสี่แล้วอีกหกปีก็จะสามสิบ ถึงตอนนั้นคงหาคนที่จีบเธอหรือขอแต่งงานได้ยากเต็มที เห็นเธอยืนด้วยลำแข้งของตัวเองไม่สนใจผู้ชาย จะเป็นเพราะลูซิโอเกรงว่าเธอจะเป็นโสดเป็นสาวแก่ไปจนวันตาย เขายังจำได้ดีถึงดอกกุหลาบช่อใหญ่ที่มีลูกชายธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เอามาให้เธอ แทนที่เธอจะรับไว้และสูดกลิ่นหอมชโลมจิต เธอกลับสั่งให้คนนำไปทิ้งที่ถังขยะหน้าบ้าน โดยไม่แยแสกับมันอีกเลย

“เธอยังไม่ได้คบกับใครเลย แล้วเธอรู้ได้ยังไงว่าผู้ชายเหล่านั้นจะเป็นเหมือนกันหมด” ลูซิโอกล่าวเสียงต่ำ

“ถึงไม่คบก็รู้ค่ะ พี่คะพี่จะมัวมาสนใจอะไรกับหนู ทั้ง ๆ ที่พี่คิดจะครองตัวเป็นโสดไปจนวันตาย พี่มีผู้หญิงมากหน้าหลายตามาทอดสะพานให้ แต่พี่กลับไม่สนใจ แล้วอย่างนี้ยังจะมาห่วงหนูทำไมคะ” เธอย้อนถาม ทำเอาลูซิโอคอแข็งขึ้นมาทันที

“พี่ไม่ได้คิดจะครองตัวเป็นโสดไปตลอดชีวิต แต่ที่ยังไม่มีเพราะยังไม่เจอคนที่ใช่ต่างหาก”

“หนูก็เหมือนกัน เพราะว่ายังไม่เจอคนที่ใช่ ก็เลยไม่แต่งงานสักที” เธอลอยหน้าลอยตาตอบ

“มันไม่เหมือนกัน ผู้ชายถึงอายุจะมากเท่าไหร่ถ้าหากคิดจะแต่งงานก็สามารถที่จะครองคู่กันได้โดยไม่มีพันธะใด ๆ แต่สำหรับผู้หญิง....พี่ว่าอายุเลยเลขสามขึ้นไป คงจะหาได้ยากเต็มที” เขาเอ่ยอย่างระมัดระวัง

“เห็นแก่ตัวที่สุด ผู้ชายอายุแก่สักแค่ไหน ถ้าคิดจะแต่งงานย่อมหาผู้หญิงที่ทั้งสาวและสวย แต่ผู้หญิงถึงอายุเลยเลขสามขึ้นไปพอคิดจะแต่งงานก็ไม่มีผู้ชายดี ๆ เลยสักคน”

ลูซิโอกระแอมในลำคอเบา ๆ

“เอาเป็นว่า เธอลองไปคิดดูดี ๆ ผู้ชายเหล่านี้กำลังรอฟังคำตอบจากพี่อยู่ เขาเป็นลูกชายนักธุรกิจชื่อดัง แถมลุงของเขายังเป็นมาเฟียผู้ทรงอิทธิพล ถึงเธอจะไม่สนใจใยดี แต่อย่างน้อยก็ควรจะคิดถึงหน้าพี่บ้าง”

เธอถอนหายใจยาว พลางคิดประชดประชันว่าถึงเธอจะไม่ชอบ แต่อย่างน้อยก็น่าจะคบดูบ้างเห็นแก่ธุรกิจของพี่ชายงั้นสิ

“ตกลงค่ะ เพียงแต่...แค่นัดไปกินข้าวครั้งสองครั้งเท่านั้นนะคะ แต่หลังจากนั้นเซย์กู้ดบาย”

รอยยิ้มบาง ๆ จุดประกายที่มุมปากของลูซิโอ

“ตกลง”

“ถ้าพี่ไม่มีอะไรจะพูดแล้ว หนูขอตัวออกไปข้างนอกก่อนนะคะ” น้องสาวคนสวยของลูซิโอลุกขึ้นจากเก้าอี้ ชายหนุ่มตวัดสายตาคมกริบไปยังน้องสาว เอื้อมมือกำยำไปจับข้อมือบางไว้แน่น

“ไม่บอกพี่หน่อยหรือ ว่าเธอจะไปไหน พี่จะได้ให้คนคุ้มกันไปตามอารักขา” เขากล่าวเสียงทุ้มกังวาน ทำเอาจีนาเลิกคิ้วถอนหายใจยาว

“เรื่องแค่นี้ก็ต้องให้คนคุ้มกันไปด้วยเหรอคะ”

“จีนา” ลูซิโอกล่าวเสียงหนัก จึงทำให้น้องสาวคนสวยรู้ดีว่าไม่ควรจะอ้าปากว่าอะไรอีก

“ก็ได้ค่ะ หนูจะออกไปซื้อของ ดีเหมือนกันให้คนคุ้มกันไปด้วยหนูจะได้ให้เขาหิ้วของ ไม่หนักจะได้เดินสะดวกสบาย" น้ำเสียงของเธอฟังไม่ออกว่าเป็นการประชดหรือพูดลอย ๆ กันแน่

ลูซิโอเรียกคนคุ้มกันให้ตามเธอไป จากนั้นจีนาก็เปิดประตูเดินออกไปตามระเบียงตรงบันไดทางขึ้น จนเกือบที่จะชนเข้ากับอาแมนโด เธอผงะหงายหลังแต่ก็มีมือหนากำยำคว้าจับต้นแขนเธอไว้มั่นอีกมือคว้าเอว เธอขมวดคิ้วเงยหน้าขึ้นมองพอ ๆ กับความขุ่นมัว เมื่อเห็นผิวหน้าขาว เส้นผมตัดสั้นมีรูปรอยสักที่ต้นคอด้านซ้าย นัยน์ตาสีเขียวทอประกาย มือถือบุหรี่ยี่ห้อจิทานส์ลอยเป็นไอขาวขุ่นมัว

“อาแมนโด”

“ครับ คุณหนู ไม่ทราบว่าคุณหนูจะไปไหนหรือครับ” เขาเหยียดยิ้ม นัยน์ตาเป็นประกาย จีนาเม้าปากแน่นสะบัดมือออกทันที

“ถือดียังไง มาแตะต้องฉัน”

“อา...เมื่อตะกี้ผมเห็นคุณจะล้มก็เลยคว้าไว้ก่อน ขอโทษด้วยก็แล้วกัน”

จีนาก้าวถอยหลังไปก้าวหนึ่ง ทำเป็นเมินเฉยต่อลูกน้องฝีมือดีของลูซิโอ ผู้ชายคนนี้มีชื่อเสียงในด้านลบและเลวทรามที่สุด รอยสักรูปทาลันทูราที่ด้านหลังท้ายทอย กับดวงตาวาววับที่ทอประกายรุ่งโรจน์ ในบรรดาลูกน้องทั้งหมดของลูซิโอเขามีฝีมือยอดเยี่ยมที่สุด แต่นิสัยเย่อหยิ่งทระนงตน ทำให้เธอรังเกียจไม่อยากจะเสวนาด้วย

“นายคงจะมาหาพี่ลูซิโอ เพื่อมาเสนอตัวแทนที่รองหัวหน้าฝ่ายอิตาลีตอนเหนือที่ถูกยิงตายน่ะสิ”

อาแมนโดโค้งศีรษะ นัยน์ตาเป็นประกาย

“หาไม่ได้ ผมมาที่นี่เพราะเจ้านายเรียกผมมาต่างหาก”

***************************
ช่วยอ่าน และคอมเม้นท์เป็นกำลังใจให้คนเขียน เอาตอนใหม่มาลงด้วยนะคะ ^^’’
มีแต่คนอ่านไม่มีคนคอมเม้นท์เลยอ่ะ เศร้าจริง ๆ




เบลินญา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 24 ก.พ. 2557, 10:31:34 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 24 ก.พ. 2557, 10:31:34 น.

จำนวนการเข้าชม : 1414





<< ตอนที่ ๑ คู่อริ   ตอนที่ 3 พบเจอกันอีกครั้ง >>
เบลินญา 24 ก.พ. 2557, 10:33:56 น.
เอาตอนที่ 2 มาลงให้อ่านกันแ้ล้วค่ะ


นักอ่านเหนียวหนึบ 24 ก.พ. 2557, 17:10:26 น.
กรุบกริบๆๆ


Zephyr 27 ก.พ. 2557, 18:35:14 น.
ใครพระเอกกันเนี่ย


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account