เกมรักกับดักพิศวาส (สนพ.มายเลิฟ)

Tags: นิยายรัก,นายแบบ

ตอน: ตอนที่ 13

ตอนที่ 13

ว่าจะทานข้าวเที่ยงแล้วอยู่คุยกับคนเป็นพ่ออีกสักครู่แล้วจะกลับ แต่ไปๆ มาๆ กลับกลายเป็นว่าเขาหลวมตัวอยู่เรียนรู้และช่วยงานคนเป็นพ่อเพลินไปหน่อยจนกระทั่งเย็น มารู้ตัวอีกทีตอนท่านทักนั่นแหละ

“ว่าไงไอ้เสือ ไม่น่าเชื่อว่าจะอยู่จนถึงเวลาเลิกงานได้”

เสียงทักนั้นทำให้บอลด์วินยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดูแล้วอุทานอย่างตกใจ

“เฮ้ย! จะเลิกงานแล้วเหรอครับเนี่ย”

“อื้อ อีกยี่สิบนาที เป็นไงพอไหวไหม” คนเป็นพ่อตอบเสียงกลั้วหัวเราะกับหน้าตาของลูกชายท่ำหน้าราวกับเกิดเรื่องใหญ่โตขึ้น

“งานน่ะพอไหวครับ แต่จะไปให้ทันเวลานัดนี่สิจะไหวหรือเปล่า เวลานี้รถติดแน่ๆ” บ่นพลางรีบกุลีกุจอเตรียมตัวจะกลับ

และนี่เองทำให้นายสุชายรู้ล่ะว่าลูกชายทำหน้าตาตื่นเพราะอะไร กลัวไปไม่ทันนัดนี่เอง ก็ใครจะไปรู้ล่ะว่านัดกันตอนเย็นนึกว่านัดดึกท่านเลยไม่ได้เตือน

“นัดเขาไว้กี่โมงล่ะ”

“ผมจะไปรับเธอที่ทำงานน่ะครับ และกว่าเขาจะเก็บของเสร็จก็ราวๆ ห้าโมงเกือบๆ หกโมงประมาณนี้แหละครับ งั้นผมขอตัวเลยแล้วกันนะครับ” พูดจบร่างสูงก็เดินเร็วออกจากห้อง คนเป็นพ่อได้แต่ตะดกนไล่หลังไปว่า

“วันไหนแกว่างก็แวะเข้าบริษัทหน่อยแล้วกัน”

ด้วยความรีบบอลด์วินจึงตอบแบบไม่หันหลังกลับมาว่า

“ไม่ขอรับปากแล้วกันนะครับ”



ด้วยความที่กลัวไปไม่ทันเวลาระหว่างขับรถบอลด์ก็ยายามต่อสายหาบุษบันตลอดเวลา แต่สิ่งที่ตอบรับจากปลายสายคือไม่สามรถติดต่อได้ในขณะนี้ ซึ่งเขาก็ไม่ทราบว่าโทรศัพท์ของหญิงสาวถูกปิดเอาไว้เพราะยังไม่เลิกงานหรือแบ๊ตหมดกันแน่ ถึงอย่างนั้นบอลด์วินที่หงุดหงิดกับรถติดอยู่แล้วต้องมาหงุดหงิดกับที่ติดต่อบุษบันไม่ได้อีกก็ยังกดต่อสายอยู่เป็นระยะๆ จนกระทั่งไปถึงสถานที่จัดงานในเวลาหกโมงกว่าๆ

และเมื่อไปถึงเขาก็เห็นทีมงานเดสเซอร์ที่คุ้นตาบางคน เดินออกมาไม่รอช้าเขารีบเดินเข้าไปถามถึงบุษบันทันที

“โทษนะครับ บุษอยู่ข้างในหรือเปล่าครับ”

เดรสเซอร์สาวหนึ่งในลูกทีมของอโรชาหันมายิ้มแล้วตอบคำถามนายแบบหนุ่มที่คุ้นตาเสียงอ่อนเสียงหวานระคนอิจฉาคนที่ถูกถามถึงนิดๆ

“รู้สึกจะไม่เห็นนะคะ”

“ผมอยากรบกวนคุณเข้าไปดูให้ผมอีกรอบได้ไหมครับ คือผมติดต่อเธอไม่ได้น่ะครับสงสัยโทรศัพท์เขาแบ๊ตจะหมด”

“ได้ค่ะ รอแป๊บนะคะ”

ถ้าเป็นคนอื่นขอร้องจ้างเธอก็ไม่ไปดูให้หรอกแต่นี่นายแบบสุดหล่อขอร้องทั้งทีเต็มใจยิ่งกว่าเต็มใจเสียอีก

เดรสเซอร์สาวหายเข้าไปด้านในไม่นานก็เดินยิ้มออกมา บอลด์วินยิ้มตอบแล้วถามอย่างมีความหวังว่าบุษบันอาจจะยังไม่ออกมา

“ว่าไงครับ”

“บุษกลับบ้านไปเมื่อครู่นี้เองค่ะ”

ชายหนุ่มทำหน้ายุ่งขมวดคิ้วมุ่นว่าบุษบันกลับกับใครแล้วทำไมไม่รอเขาทั้งที่บอกเอาไว้แล้วแท้ๆ

“กลับกับใครครับ”

“เรื่องนี้ไม่ทราบค่ะ”

“ขอบคุณครับ”

เมื่อเป็นอย่างนั้นบอลด์วินก็ขอบคุณเดรสเซอร์สาวแล้วหมุนตัวเดินกลับไปขึ้นรถ แล้วบึ้งไปหาบุษบันที่คอนโด ด้วยความหวังที่ว่าเธอคงจะนั่งรถกลับไปก่อนเพราะขี้เกียจรอเขา แต่ก็มีคำถามต่างๆ ผุดขึ้นมาแย้งว่าถ้าเธอไม่รอทำไมไม่โทร.บอกเขาสักนิด จะได้ไม่ต้องขับรถย้อนกลับไปกลับมา



“ไปไหนของเขานะ โทรศัพท์ก็โทรไม่ติด” บอลด์วินบ่นอย่างหัวเสียเมื่อมาถึงคอนโดของบุษบันกลับพบว่าหญิงสาวยังไม่กลับห้อง

ตอนแรกคิดว่าหญิงสาวงอนเคาะห้องไม่ยอมเปิด และคงลืมไปมั้งว่าเขามีกุญแจสำรองแต่พอไขห้องเข้าไปกลับปรากฏว่าไม่มีคนอยู่ นั่นหมายความแน่ชัดว่าบุษบันยังมาไม่ถึงห้องหรือไม่ก็ยังไม่กลับห้อง

บอลด์วินนั่งรอนอนรอหญิงสาวนานร่วมชั่วโมงจนทนรอต่อไปไม่ไหว สุดท้ายก็ต้องออกไปข้างนอก ไปขับรถวนไปเรื่อยนานเป็นชั่วโมงเหมือนกันถึงวนกลับมาที่คอนโดหญิงสาวอีกครั้ง ด้วยความหวังว่าเจ้าของห้องอาจจะกลับมาแล้วแต่ก็ต้องผิดหวัง

ร่างสูงเดินไปเปิดทีวีแล้วกลับมาทิ้งตัวลงนอนบนโซฟาหวังจะดูรายการทีวีฆ่าเวลา แต่ก็ดูแทบจะไม่รู้เรื่องเพราะตาคอยมองแต่ประตูห้องว่าเมื่อไหร่มันจะถูกเคาะหรือถูกเปิดจากเจ้าของห้องเสียที

และครึ่งชั่วโมงผ่านไปสิ่งที่ชายหนุ่มรอคอยก็มาถึง ประตูห้องถูกไขและเปิดเข้ามาพร้อมกับการปรากฏตัวของบุษบัน ที่ทำหน้าตกใจที่เห็นเขาอยู่ในห้อง

“คุณไปไหนมา” ก่อนที่หญิงสาวจะทันได้พูดอะไร บอลด์วินที่ลุกขึ้นจากโซฟาด้วยสีหน้าบึ้งตึงก็ชิงถามขึ้นก่อน

“คุณมาตั้งแต่เมื่อไหร่คะ”

“แล้วคุณไปไหนมา” เขาเลือกที่จะถามมากกว่าจะเป็นคนตอบคำถาม

“โทรศัพท์ก็ไม่เปิด ผมกดโทร.หาจนมือจะหักแล้วมั้ง” และตบท้ายด้วยการประชดประชันเสียงเข้ม

บุษบันถอนหายใจก่อนจะรีบเอาโทรศัพท์ที่เธอเพิ่งรู้ว่าตัวเองลืมชาร์ตก็ตอนเลิกงาน ไปชาร์ตพร้อมกับเปิดเครื่อง และเสียงข้อความเตือนการโทรเข้าของบอลด์วินก็ดังมาอย่างต่อเนื่อง แสดงให้เห็นว่าจำนวนครั้งที่เขาพยายามโทร.หาเธอนั้นไม่เกินจริง ทำให้ตอนนี้เธอรู้สึกผิดขึ้นมา

“โทษทีคะพอดีแบ๊ตมันหมด เมื่อคืนลืมชาร์ต”

“แล้วคุณไปไหนมา” ชายหนุ่มยังถามคำถามเดิมที่ไม่ได้คำตอบเสียทีด้วยน้ำเสียงที่เข้มขึ้นมากกว่าเดิมเป็นเท่าตัว

“ไปทานข้าวกับพี่ซี”

เธอไม่ได้โกหกแต่ก็ไม่ได้บอกทั้งหมด ไม่รู้สิในใจลึกๆ กลัวเขาเข้าใจผิดทั้งที่จริงแล้วมันไม่ใช่เรื่องี่เธอต้องแคร์

“พี่ซีหรือนายซันน้องพี่ซีกันแน่”

แต่เหมือนอีกฝ่ายจะพอเดาอะไรลางๆ ได้จากชื่อของอโรชา

“เอะ คุณนี่บอกว่าพี่ซีก็พี่ซีสิ แล้วฉันไปจะไหนกับใครต้องรายงานคุณด้วยเหรอ”

“ขอโทษผมมันไม่ใช่คนสำคัญอย่างนายซันเพื่อนสนิทของคุณนี่ ห่วงคุณให้ตายก็ไม่มีความหมายอะไรอยู่แล้ว”

“คุณจะมาห่วงฉันเรื่องอะไร ก็คุณเองไม่ใช่เหรอที่เป็นคนผิดนัดน่ะ”

เมื่อโดนหญิงสาวทำเสียงเข้มใส่บ้างบอลด์วินก็เริ่มจะเสียงอ่อนลงบ้าง จากทั้งเพราะเพิ่งจะตระหนักได้ว่าตัวเองก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของหญิงสาวมากเกินไป

“พอดีผมทำงานเพลินไปหน่อย และขามารถก็ติดด้วย แต่ผมก็พยายามติดต่อคุณนะ”

“ก็บอกแล้วไงคะว่าแบ๊ตหมด ฉันเปล่าโกหกเสียหน่อยหลักฐานก็มี” ว่าพลางพยักพเยิดไปที่โทรศัพท์ที่เธอกำลังชาร์ตแบ๊ต

“แต่คุณก็น่าจะยืมโทรศัพท์เพื่อนหรือคนรู้จัก ไม่ก็โทรศัพท์สามธารณะก็ได้โทร.บอกผมนิดหนึ่ง ผมจะได้ไม่เป็นห่วงขับรถวนหาเหมือนคนบ้า”

“คุณตามหาฉันเหรอคะ”

บุษบันเลิกคิ้วถามอย่างประหลาดใจพอๆ กับตอนนี้หัวใจมันพองโตคับอกไปกับความปลาบปลื้มกับการแสดงออกเล็กๆ น้อยๆ ของชายหนุ่มแม้เขาจะทำไปด้ยเหตุผลใดก็ตาม

“ก็ใครจะไปรู้ล่ะว่าคุณจะเป็นห่วงฉันขนาดนี้ และที่สำคัญฉันก็จำเบอร์คุณไม่ได้ด้วย” เธอตอบเสียงอ่อยในตอนท้าย

“ก็…เห็นคุณกลับห้องช้ากว่าปกติ ถ้ารู้ว่าคุณไปกับพี่ซีหรือน้องพี่ซีผมคงไม่ห่วงหรอก ความสุขของคุณนี่”

“ความสุขอะไรแค่ไปทานข้าว ว่าแต่คุณทานอะไรมาหรือยังคะเนี่ย”

คนถูกถามส่ายหน้าอย่างไว จริงๆ เขาลืมมันไปด้วยซ้ำ

“ออกจากบริษัทของพ่อผมก็ตรงมาหาคุณเลย แถมมาถึงคุณก็หนีไปกับคนอื่นซะงั้น ผมจะเอาเวลาที่ไหนทานกันเล่า”

“เพื่อเป็นการไถ่โทษฉันทำอาหารให้คุณทานแล้วกัน แต่ขอดูก่อนนะคะว่ามนตู้เย็นมีอะไรที่พอทำทานได้บ้าง คุณก็นอนดูทีวีรอไปก่อนแล้วกันนะคะ”

เธอบอกอย่างเอาใจก่อนจะรีบเดินหายเข้าไปในห้องครัว ที่เดี๋ยวนี้ตั้งแต่บอลด์วินเทียวไปเทียวมาหรือค้างที่นี้บ่อยๆ เธอก็ได้เข้าครัวบ่อยขึ้นกว่าแต่ก่อนเยอะ



ประมาณยี่สิบนาทีข้าวสวยร้อนๆ กับหมูทอดกระเทียมก็พร้อมเสิร์ฟบนโต๊ะ

“เสร็จแล้วค่า คุณวินซ์คะมาทานข้าวได้แล้วค่ะ ทานแล้วก็จะได้รีบกลับซะนะคะ”

ตอนแรกเจ้าของร่างสูงก็เดินยิ้มแฉ่งมาดีๆ อยู่หรอกแต่พอเจอประโยค ‘ทานแล้วก็จะได้รีบกลับซะนะคะ’ ทำเอาหุบยิ้มแทบไม่ทัน

“ใครบอกผมจะกลับ ทานแล้วผมก็จะอาบน้ำนอนต่างหากล่ะ”

“นี่คุณจะยึดห้องฉันเป็นที่ซุกหัวนอนตลอดเลยหรือไงกันคะ”

“ได้ก็ดี” เขาตอบพลางตักข้าวใส่ปากอย่างไม่ยี่หระ

“ทำอย่างนั้นไม่ได้ ฉันมีเพื่อนมีฝูงเกิดใครมาเห็นคุณที่ห้องฉันเข้าจะให้ฉันแก้ตัวกับเพื่อนๆ ว่ายังไง”

“ก็ไม่ต้องแก้”

“คุณจะให้ฉันบอกพวกเขาว่ายังไงล่ะคะ บอกว่าเราเป็นเซ็กส์เฟร์นกันอย่างนั้นเลยใช่ไหมคะ” คราวนี้บุษบันตอบด้วยน้ำเสียงไม่พอใจบ้าง แม้มันจะเป็นเงื่อนไขที่เธอตั้งขึ้นมาเองก็เถอะ

“เปล่าซะหน่อย ก็วันไหนเพื่อคุณจะมาก็บอกแล้วกันผมจะไม่มา”

“งั้นวันนี้เลยเป็นไงคะ”

“ไม่ทันล่ะ เพราะคงไม่มีเพื่อนคนไหนมาหาคุณค่ำมืดอย่างนี้ ถ้ามีคงเป็นไอ้เพื่อนสนิทของคุณมากกว่ามั้ง”

ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!

พูดไม่ทันขาดคำเสียงเคาะประตูหน้าห้องก็ดังขึ้น สองหนุ่มสาวมองหน้ากันคล้ายกับกำลังดูท่าทีของกันและกันนิดหนึ่งก่อน บอลด์วินจะวางช้อนและรีบวิ่งมาที่ประตู โดยมีบุษบันวิ่งไล่ตามลังมาพร้อมกับร้องห้ามไม่ให้เขาเปิด

“คุณอย่าเปิดเชียวนะ”

บุษบันที่วิ่งมาตะครุบเขาไว้ได้ทันขู่เสียงเข้มเบาๆ ก่อนดึงร่างสูงให้ออกห่างจากประตู แล้วส่องตาแมวดูว่าใครคือแขกที่ไม่ได้รับเชิญในยามวิกาล

และทันทีที่เห็นชายหนุ่มอีกคนที่เพิ่งแยกกันไปไม่นาน ก็เขาเพิ่งมาส่งเธอที่คอนโดหลังจากทานข้าวเสร็จแล้วก็กลับ แฃ้วตอนนี้เขากลับมาทำไมอีก

“นายซัน!”

บุษบันอุทานชื่อคนที่ยืนรออยู่หน้าประตูพลางทำหน้าตาตื่นหมุนตัวยืนพิงประตู มองซ้ายมองขวาว่าจะจัดการกับตัวปัญหาใหญที่ยืนเท้าเอวตรงหน้ายังไงดี

“นี่ใช่ไหมเพื่อนที่ว่า ตายยากจริงพูดถึงปุ๊บก็มาเคาะห้องปั๊บ” บอลด์วินบ่นเสียงไม่ดังแต่ก็ไม่ใช่เบาเสียทีเดียว จนเธอต้องกระโดเข้าไปตะปบปากเขาเอาไว้

“เบาๆ สิคุณ”

“ทำไม”

ถามเหมือนไม่รู้ทั้งที่รู้อยู่เต้มอกว่าบุษบันไม่อยากให้ใครรู้เรื่องของเธอกับเขา คนอื่นเขาไม่ว่าแต่กับไอ้หมอนี่เขาอยากให้รู้นัก

“ก็ทำไมล่ะ ฉันขี้เกียจตอบคำถาม และคุณกลับเข้าไปทานข้าวต่อ แล้วห้ามออกมาเดินเพ่นพ่านเด็ดขาด”

“แล้วถ้าหมอนั่นเกิดอยากไปดูห้องครัวของคุณล่ะ”

ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!

คนข้างนอกเคาะประตูอีกครั้งพร้อมกับร้องเรียก

“บุษ…นอนยังเปิดประตูให้ผมหน่อย”

“รอแป๊บนะ” บุษบันตอบรับก่อนจะหันมาถลึงตาและกระซิบเสียงเขียวไล่คนดื้อด้านที่ยังยืนกอดอกจังก้าไม่ยอมขยับไปไหน

“คุณไปเถอะน่า ฉันมีวิธีจัดการของฉัน”

“ไปก็ได้” ว่าแล้วก็หมุนตัวเดินหายเข้าไปในห้องครัวตามเดิม

บุษบันชะเง้อคอมองจนเห็นว่าคนในห้องทำตัวเรียบร้อยจึงค่อยๆ แง้มเปิดประตูไปคุยกับอริญชย์ โดยที่พยายามไม่ให้อีกฝ่ายได้เห็นภายในห้องมากนัก

“มาเคาะห้องซะดึกมีอะไรหรือเปล่า”

“เราเอานี่มาคืน”

ชายหนุ่มบอกพร้อมกับยกแว่นกันแดดที่มันหล่นออกจากกระเป๋าถือของเธอตอนไหนก็ไม่รู้ขึ้นพรอมกับรอยยิ้ม

“ขอบใจมาก แต่ที่จริงแค่นี้เองพรุ่งนี้ฝากพี่ซีมาคืนก็ได้”

“ไม่เป็นไร เราเห็นว่ายังไม่ไกลเลยวนรถกลับมาคืนดีกว่า”

แม้เสียงคุยที่ไม่ดังมากแต่ด้วยความที่มันเป็นยามวิกาลทำให้คนที่นั่งนิ่งแทนการนั่งทานข้าวเลิกคิ้วขึ้นเมื่อได้ยินอริญชย์พูดคล้ายกับว่ามาส่งบุษบันที่คอนโดและเพิ่งกลับไป ไม่ใช่สิไม่ใช่คล้ายแต่เขาคิดว่ามันใช่เลยล่ะ

“เอ่อ…แล้วนี่ยังไม่นอนอีกเหรอ” อริญชย์ถามต่อหลังจากต่างคนต่างเงียบไปพักหนึ่ง ถ้าเขาต้องการอยู่ตรงนี้ต่ออีกสักนิดต้องหาเรื่องคุย

“กำลังเตรียมตัวจะอาบน้ำ แต่พอดีนายมาเคาะประตูเสียก่อน” คนที่ไม่อยากจะคุยแล้วตอบเสียไม่ได้

“งั้นเรากลับนะ” เมื่อไม่รู้จะคุยอะไรแล้ว อีกทั้งดูจากสีหน้าที่เหนื่อยอ่นของบุษบันเธอคงอยากอาบน้ำนอนแล้ว

“อื้อ”

บุษบันบอกอย่างโล่งใจ เมื่อร่างสูงของอริญชย์หมุนตัวจะเดินออก ทว่าความโล่งใจนั้นอยู่กับเธอได้ไม่ถึงนาที

“ขอโทษนะ เรารบกวนขอเข้าห้องน้ำหน่อยได้ไหม ถ้าอั้นไว้อย่างนี้คงไม่ถึงบ้านแน่ๆ”

“อะ…เอ่อ…”

บุษบันมองคนที่ลืมท้องตัวเองสลับกับการมองเข้าไปในห้องอย่างหนักใจอยู่ครู่หนึ่ง ทำให้อริญชย์ที่รอคำตอบมองเห็ความยุ่งยากใจในสีหน้าของเจ้าของห้องรีบออกตัวอย่างน่าเห็นใจ

“ถ้าบุษลำบากใจก็ไม่เป็นไร”

“ไม่เป็นไรแค่เข้าห้องน้ำเอง ได้สิ”

บุษบันคิดว่าคงไม่เป็นไรรู้สึกโชคดีที่ภายในห้องนี้มีสองห้องน้ำ หนึ่งละเขาจะไม่ต้องเข้าห้องนอนของเธอ และอีกห้องมันไม่ได้เดินผ่านห้องครัวที่มีคนคนที่ไม่อยากให้ใครเห็น

“ไปแล้วเหรอ”

จู่ๆ คนที่บุษบันบอกทานข้าวในครัวอย่างสงบเสงี่ยมก็โผล่หน้าออกมาถามหน้าตาเฉย



******************************************************************************************************************************



ถึงอาการจะร้อนแต่ก็เอานิยายร้อนๆ มาเสิร์ฟในวันหยุดสุดสัปดาห์ค่ะ อ่านไปซับเหงื่อไปได้เลยนะคะ 555

ขอบคุณทุกการติดตามนะคะ (^_/\_^)

เกศมณี

09/03/57



ปล.ตอนนี้มีการแจกนิยายเรื่องนี้ที่แฟนเพจนะคะ ใครอยากร่วมลุ้นตามไปเลยจ้า ^^
https://www.facebook.com/pages/%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%A8%E0%B8%A1%E0%B8%93%E0%B8%B5-%E0%B8%A3%E0%B8%94%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%93%E0%B8%B5/384857278252407



เกศมณี
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 9 มี.ค. 2557, 14:25:32 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 9 มี.ค. 2557, 14:25:32 น.

จำนวนการเข้าชม : 1531





<< ตอนที่ 12   ตอนที่ 14 >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account