นางร้ายเจ้าน้ำตา
ชีวิตของมินตราไม่ใช่เรื่องง่าย แม้ฝันไว้ว่าจะดีขึ้นทุกวัน แต่ก็ยังเจอแต่อุปสรรคใหญ่หลวงรออยู่ทุกอย่างก้าว ดีที่ได้มีโอกาสเจอเขา...คิลเลี่ยนหนุ่มลูกครึ่งชาวอังกฤษก็คอยช่วยเหลือ เป็นหลักให้เธอได้มีชีวิตที่ดีขึ้น หนทางรักที่อาจไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบแต่จะจบด้วยความสมหวัง
Tags: นางร้าย

ตอน: Crying Villain ตอนที่ 14

นางร้ายเจ้าน้ำตา Crying Villain ตอนที่ 14

ควันบุหรี่ลอยกระจายไปทั่วห้อง วัยห้าสิบปลายของเขาไม่ทำให้เขาดูน่าสนใจน้อยลง อาจมีเหนื่อยบ้างแต่สุดท้ายเขาก็กลับไปนอนร่วมเตียงกับภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายของเขา

เขาผุดลุกขึ้นหลังจากบุหรี่หมดมวน จากนั้นก็เข้าห้องอาบน้ำชำระล้างร่างกายจนสะอาด พอออกมา หญิงสาววัยสามสิบปลายก็เข้ามาจัดห้อง

“จะกลับแล้วเหรอคะ” สาวิตรีถามสามีที่ออกมาจากห้องน้ำ โดยไม่คาดหวังให้เขาอยู่ค้างคืนด้วย

“ใช่แล้วล่ะ นี่เงินเดือนของเธอ” สมเจตน์เอาเงินออกมาแล้วยื่นให้

“ขอบคุณค่ะ ท่าน” สาวิตรียอมรับสภาพนี้มาตั้งแต่ยังสาว เมื่อก่อนเธอหยิ่งนัก ไม่ยอมเป็นเมียเก็บใคร แต่เพราะสมเจตน์ช่วยเหลือครอบครัวเธอเอาไว้ เธอจึงยอมสละรักกับคนรัก แล้วยอมเป็นเมียเก็บเขา

สมเจตน์พยักหน้าช้าๆ แล้วมองกุญแจรถยนต์ของลูกสะใภ้ หยิบมันขึ้นมาแล้วใส่กระเป๋า จากนั้นก็ถาม “แม่เธอเป็นยังไงบ้างล่ะ”

“แข็งแรงค่ะ ท่าน อาทิตย์หน้า ดิฉันขอไปทอดผ้าป่าที่ต่างจังหวัดได้ไหมคะ ท่าน อยากกลับไปเยี่ยมบ้านสักสองอาทิตย์ด้วยค่ะ” สาวิตรีบอกสามี แล้วช่วยเขาจัดเสื้อผ้าให้เข้าที่ ฉีดน้ำหอมที่เขาใช้ประจำให้ เพื่อไม่ให้คุณนายที่บ้านเขาต้องกังวล

“ตามใจเธอแล้วกัน” สมเจตน์บอกอนุญาตอย่างไม่ใส่ใจนัก

“พรุ่งนี้ท่านจะมาอยู่ไหมคะ” สาวิตรีเห็นเขามาในวันที่ไม่ได้นัดก็ตามให้แน่ใจ จะได้เตรียมตัวถูก

“ตามเดิมนั่นแหละ” สมเจตน์บอกอย่างเฉยชา ก่อนจะขึ้นรถ “เตรียมอาหารเย็นไว้ด้วยแล้วกัน”

“ค่ะ ท่าน ขับรถดีๆ นะคะ ท่าน” สาวิตรีปิดประตูรถให้สามี แล้วยืนรอส่ง

บ้านหลังนี้เขาซื้อไว้ให้ตั้งแต่เธอย้ายมาอยู่กับเขา พออยู่กับเขาครบสิบปี เขาก็โอนบ้านหลังนี้ไว้ให้เธอ เธอรู้ว่าเขาทำหมัน และไม่มีทางที่เธอจะมีลูกกับเขา หากจะเลิกรากันไปก็ได้ แต่สุดท้ายเธอก็ไม่อยากไปเริ่มต้นใหม่กับใคร คนรักเก่าก็มีครอบครัวไปแล้ว สามียังเลี้ยงดูส่งเสีย เธอก็ถือว่าเป็นบุญ

เรื่องลูก...เธอเลิกคิดไปนานแล้ว ดูเหมือนเขาจะระมัดระวังอย่างมากเรื่องนี้ และทำหมันทันทีที่ลูกชายที่เกิดจากคุณนายครบสิบขวบ พอมาเจอเธอ เขาก็ไม่มีทางมีลูกอีก

สาวิตรีเคยถามสามี เขาบอกว่ามีแค่สองคนก็พอ ถ้ามันจะไม่ได้เรื่อง มันก็คงไม่ได้เรื่องทุกคนนั่นแหละ เธอมองตามแล้วกลับเข้าบ้าน ถึงยังไงเขาก็มาหาเธอตามตารางเวลาที่เขามีให้ สิ่งใดที่เขาให้เธอ เธอจะนำไปให้หลานๆ แทน

**********************************

เมื่อขับรถออกมาจากบ้านสาวิตรีแล้ว เขาก็ขับไปตามทางเรื่อยๆ จนออกทางหลวง เขานึกถึงลูกสะใภ้ที่ท่าทางใสซื่อมีน้ำใจ เมื่อก่อนเขาไม่เคยมองหล่อนละเอียดนัก เพราะไม่อยากยุ่งกับแฟนลูกชาย พอตอนเป็นสะใภ้ใหญ่แล้ว เขาค่อยมองลึกลงไป น่าสงสารเจ้าหล่อนที่มาได้ลูกชายเขา แม้จะได้ทีละคนก็เถอะ เพราะลูกเขาแต่ละคนร้ายน้อยเสียที่ไหน

เขาขับมาในช่วงที่ไม่ค่อยมีรถ ก็ได้ยินเสียงที่กระจกข้าง ดีที่กระจกไม่แตก แค่มีรอย เขาได้ยินสองครั้งก็ตกใจเหยียบเบรก ทีนี้เห็นรถจักรยานยนต์จอดขวางทางเขา แล้วคนยิงก็ยิงที่หน้ารถอีก เขาก็ตัดสินใจขับรถชนทั้งคนทั้งรถ ดีที่เป็นรถขับเคลื่อนสี่ล้อ เขาก็เลยปีนขึ้นไปบนรถจักรยานยนต์คันใหญ่ แล้วเลยไป จากนั้นก็โทรแจ้งความ ได้ยินเสียงยิงอีกรอบ เขาหันไปมอง

“ขอแจ้งความครับ ผมถูกคนลอบยิงครับ ผม สมเจตน์ ล่ำประเสริฐสุทธิ” สมเจตน์อธิบาย แล้วขับรถเดินหน้าไปจอดห่างๆ

สักพักตำรวจก็มา แล้วรถฉุกเฉินก็มาด้วย สมเจตน์เห็นคนยิงกับคนขับถูกรถบดบาดเจ็บสาหัส มองดูหลังรถก็เห็นรอยปืน ท่าทางคนยิงจะยิงก่อนตาย คาดว่าทั้งสองคงตายไปแล้ว

“คุณนี่ตั้งสติดีมากนะครับ” ตำรวจเข้ามาสำรวจรถ เห็นกระจกรถมีรอยร้าว “กระจกนิรภัยน่ะครับ คุณถึงไม่ถูกยิง”

“พวกมันเอารถมาจอดหน้ารถผม แล้วมายิงอีกสองนัด ผมตั้งสติได้ก็ขับชนอย่างนี้แหละครับ ไอ้คนขับมันมั่นใจมากว่ายังไงผมต้องถูกยิง มันเลยจอดรถดู ถึงไม่ทันระวังว่าผมจะขับรถชน” สมเจตน์เจอเรื่องมาก็มาก แบบนี้เขาไม่พลาดจะป้องกันตัวเอง

“เดี๋ยวผมให้ตำรวจไปส่งนะครับ เดี๋ยวเราจะสืบสวนให้ละเอียด” ตำรวจให้คนไปส่งเพราะมีนักข่าวตามมาด้วย

สมเจตน์เห็นอย่างนั้นก็รีบหลีกกลับบ้าน พอไปถึงก็เห็นนักข่าวมารอ แต่ดีที่ไม่มีใครตามเข้าบ้าน พอไปถึงเห็นมีคนรออยู่เพียบ เพราะโทรมาบอกที่บ้านไม่ให้เป็นห่วงก่อนแล้ว

“พ่อเป็นยังไงมั่ง” โชติเข้ามาหาพ่อด้วยความเป็นห่วง

“ตกใจน่ะสิ ดีที่รถที่มินต์เป็นกระจกนิรภัยทั้งคัน ไม่งั้นคงตายคารถไปแล้ว” สมเจตน์พูดอย่างโล่งใจ

“ทำไมเอารถของมินต์ไปขับ” กมลถามลูกชายทันที ระแวงเล็กน้อย กลัวลูกชายเอาหลานสะใภ้ทำเมีย

“พอดีออกไปกินข้าวกับมินต์ครับ แล้วผมว่าจะไปธุระหน่อย มินต์ก็เลยให้รถเอาไปขับ บอกว่าขับเองอันตรายน้อยกว่า” สมเจตน์บอกตามตรง โล่งใจไปทีที่เอารถของมินตรามา ไม่งั้นคงไม่ได้กลับบ้านอย่างมีชีวิต

“หรือว่านังมินต์มันวางแผน ล่อให้คนมายิงคุณ ต้องใช่แน่ๆ นังนี่มันอสรพิษ” แพรพลอยรีบสรุปทันที อยากใส่ไฟลูกสะใภ้เมื่อมีโอกาส

“จะบ้ารึไง มันจ้างคนมาฆ่าฉันแล้วมันจะได้อะไร โง่แล้วอวดฉลาด” สมเจตน์ด่าเมียคุณหนูของตัวเองแล้วส่ายหน้า ก่อนหันมาเล่าความอีก

“ก็ถ้าไม่ใช่ แล้วทำไมต้องจำเพาะมีคนจ้างยิงวันที่คุณเอารถมันมาขับด้วยล่ะ” แพรพลอยก็แย้ง แต่โชติรีบห้าม เพราะพ่อเพิ่งผ่านความเป็นความตายมา ไม่อยากให้แม่กวนอารมณ์ หากแพรพลอยก็แย้ง “หรือมันไม่จริง”

“เฮ้อ อย่างเธอนี่มันตัดสินใจอะไรง่ายๆ” สมเจตน์ได้ยินเสียงออดหน้าบ้าน ก็รู้ว่ามินตรามาแล้ว จึงให้คนไปเปิดประตูบ้าน รถอีกคันของมินตราก็เลี้ยวเข้ามา

มินตราตกใจที่สมเจตน์โทรไปบอกว่าเกิดอะไรขึ้น จึงบอกจะมาเยี่ยมทันที พอเข้ามาถึงในบ้าน แพรพลอยเห็นมินตราเข้ามาก็เดินเข้าไปแล้วตบหน้ามินตราอย่างแรง จนโชติต้องเข้ามาห้าม

“ตบพี่ผมทำไมเนี่ย” บรรพ์มาทีหลังก็ถามทันที เข้าไปดูแลพี่สาว

“พี่สาวแกจ้างมือปืนมายิงสามีฉัน” แพรพลอยสรุปในทันที เพื่อให้ทุกอย่างจบง่ายๆ

“เงียบนะ!! คุณแพร” สมเจตน์ตะคอกภรรยาทันที พอภรรยาจะพูดอีก เขาก็ชี้นิ้วห้าม ก่อนหันไปมองลูกสะใภ้ “ขอโทษแทนภรรยาฉันด้วย เขาเป็นห่วงฉันมากเกินไป นั่งก่อนสิ จริงๆ ฉันจะบอกให้มาตอนเช้า แต่สัญญาณตัดไปเสียก่อนน่ะนะ รถของเธอ ทางตำรวจเขาจะเก็บไว้เป็นหลักฐานก่อนนะ”

“อ๋อค่ะ” มินตรากลืนน้ำตาอย่างรวดเร็ว เกือบร้องไห้ตกใจด้วย “มินต์ไม่รู้นะคะว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้”

“ฉันรู้น่า” สมเจตน์บอกอย่างเข้าใจ และถอนหายใจที่ลูกสะใภ้ถูกตบแบบไร้สาระ

“ไอ้มือปืนมันไม่ได้ดักยิงตอนคุณออกมาจากบ้านมันเหรอ นังนี่มันร่านจริงๆ เอาลูกชายสองคนแล้วยังจะเอาพ่อเขาอีก” แพรพลอยสรุปไปเองอีกครั้ง เพื่อให้ทุกคนเห็นด้วยกับความคิดเธอ

“นี่ถ้าเธอไม่เงียบอีกล่ะก็ ขึ้นไปข้างบนแล้วไม่ต้องลงมาอีก” สมเจตน์หันไปตวาดภรรยาอีกรอบ ก่อนหันมาคุยกับลูกสะใภ้เป็นเชิงปลอบ “ไม่ต้องคิดมาก ฉันรู้ว่าไม่ใช่ฝีมือเธอหรอก อย่าไปฟังคำพูดไร้สาระของคนว่างงานเลยนะ”

โชติฟังแล้วตะลึง ไม่คิดว่าพ่อจะออกมาจากบ้านมินตราในเวลานี้ และท่าทางของพ่อในเวลานี้ ดูอ่อนลงและปลอบลูกสะใภ้อย่างที่ไม่เคยทำกับลูกๆ มาก่อน ยิ่งทำให้เขาคิดระแวงมากขึ้น

“คุณพูดเรื่องบ้าอะไร สามีคุณส่งพี่สาวผมแล้วก็ออกมา หลังเที่ยงแค่นิดเดียว จะพูดบ้าอะไรให้คิดด้วย อีกอย่างสามีคุณก็ไม่ได้ถูกยิงแถวบ้านพี่ผมสักหน่อย อย่ามากล่าวหากันนะ คุณสมเจตน์ไม่เป็นอะไรแล้ว เรากลับบ้านกันเถอะพี่” บรรพ์ไม่อยากให้พี่สาวโดนกล่าวหาซ้ำๆ ก็ประคองพี่สาวที่ขวัญเสีย แล้วหันมาอีกรอบ “พี่สาวผมน่ะ ใจดีเกินไป ไม่คิดเลยว่าคนรวยอย่างพวกคุณจะดูถูกน้ำใจคนจนอย่างพวกเรา ที่มาดูเนี่ยก็เพราะเป็นห่วงจริงๆ พี่เคพูดถูก ไม่จำเป็นอย่ามาให้พวกคุณดูถูก”

มินตราไปตามแรงของน้องชาย เสียใจที่เป็นห่วงคนอื่นไปทั่ว แล้วเป็นเหตุให้คนกล่าวหาในสิ่งที่เธอไม่ได้ทำ

“ไม่ต้องกังวลเรื่องพี่สาวเธอหรอก ฉันน่ะรู้อยู่แก่ใจดี ไอ้คิลเลี่ยนมันไม่ชอบหน้าฉัน แต่มันไม่เคยอกตัญญูจ้างวานใครมาฆ่าฉัน ส่วนมินต์เนี่ยฉันดูออก เธอน่ะดีเกินไป ไม่ทำอย่างนั้นหรอก ไว้รถซ่อมเสร็จแล้วฉันจะให้คนเอาไปคืน” สมเจตน์บอกตาม นึกเห็นด้วยที่มินตราจะกลับบ้านไปก่อน

“ค่ะ ลานะคะ” มินตราหันมาไหว้ลา แล้วถอนหายใจยาวตามน้องชายไปขึ้นรถ

โชติมองตาม รู้สึกร้อนใจขึ้นมา จึงถามพ่อ “พ่อไม่ได้มีอะไรกับมินต์แน่ๆ ใช่ไหมครับ”

สมเจตน์ขมวดคิ้วหันไปมองลูกชายอย่างหงุดหงิด “นี่แกคิดว่าฉันจะเอาลูกสะใภ้มาเป็นเมียน้อยหรือยังไง ถึงหล่อนจะสวยแต่มีผู้หญิงสวยๆ อีกหลายคน ถ้าฉันจะเอาจริงๆ แต่เหตุมันเกิดหลังจากฉันไปบ้านสาวิตรีต่างหาก พวกมือปืนมันคงตามฉันมาหลายวัน เพิ่งสบโอกาส ดีแค่ไหนแล้วที่รถไอ้คิลเลี่ยนมันเป็นกระจกนิรภัยทั้งคัน ไม่งั้นฉันคงเป็นผีเฝ้าถนนไปแล้ว น่ารำคาญจริงๆ”

“งั้นพ่อกับแม่ไปนอนก่อนนะ แกไม่เป็นไรก็ดีแล้ว” กมลประคองภรรยากลับเก๋งจีนเพื่อเข้านอน ทั้งสองโล่งใจที่ลูกชายปลอดภัยไม่มีรอยขีดข่วนก็เรียกว่าโชคดีมากแล้ว

แพรพลอยมองสามีอย่างพิจารณา อยากจะพูดอีกหลายคำ แต่สามีไม่เปิดช่อง

“เธอจะไปนอนไหม ฉันเพิ่งรอดตายมาได้ ยังจะหาเรื่องอีก” สมเจตน์เดินนำขึ้นไปชั้นบนก่อน หงุดหงิดที่มีเมียโง่ๆ ทำให้ชีวิตวุ่นวาย

“แม่ว่าพ่อพูดจริงไหม” โชติไม่แน่ใจนัก ออกระแวงมากกว่า นึกขวางถ้าพ่อจะทำอย่างนั้นจริงๆ

“มันต้องมีอะไรกับพ่อแกแน่ๆ ไม่งั้นอยู่ๆ ทำไมพ่อแกใจดีกับไอ้คิลเลี่ยน บางทีไอ้คิลเลี่ยนมันอาจตั้งใจเอาเมียมันใส่พานให้พ่อแก พ่อแกถึงเอ็นดูมันนัก นังมินต์ก็คงได้กับพ่อแกมานานแล้วล่ะ” แพรพลอยพูดอย่างคนระแวงไปเสียหมด

เธอไม่เคยทำงานอะไร ในชีวิตพอเรียนจบก็แต่งงานกับสมเจตน์ ระหว่างนั้นสมเจตน์ก็มีคนรักซ่อนไว้หลายคน หล่อนทำเป็นไม่สนใจ ยังไงใบทะเบียนสมรสก็เป็นของเธอ แต่ตอนนี้มีมินตราเข้ามา เหมือนทุกอย่างกำลังวุ่น ไม่รู้ทำไมเห็นมินตราครั้งแรกตอนลูกชายพามาบ้าน หล่อนก็รังเกียจออกนอกหน้า

ความจนก็เป็นจุดหนึ่งที่หล่อนไม่ปลื้ม ท่าทางซื่อๆ โง่ๆ ยิ่งทำให้เธอหมั่นไส้เข้าไปอีก ยุลูกชายให้เลิกมานานแล้ว สุดท้ายได้โอกาสมินตราไปเมืองนอก จับลูกสาวของเพื่อนสามีที่ทำธุรกิจกับสามีมานานมาให้ รายนั้นถ้าชอบใจแล้วถึงไหนถึงกัน มัดใจลูกชายเสียอยู่หมัดทันที

ความสำเร็จที่แพรพลอยได้โล่งใจอยู่พักใหญ่ จนมินตรากลับมาในชีวิตอีกรอบ ในฐานะลูกสะใภ้ของสามี ทำให้เธอหงุดหงิดทุกครั้งที่ได้เจอ จนต้องตบให้หายคันมือ รู้ว่ามินตรายังไงก็ไม่สู้ ก็ยิ่งสะใจ

**********************************

สีหน้าแปลกใจเกิดขึ้นเมื่อมินตราได้รับสายจากโชติ แต่คงไม่น่าแปลกใจเท่าข่าวเธอกับสมเจตน์แน่ ไม่รู้ว่าอะไรทำให้คนคิดไปว่าสมเจตน์กับเธอมีอะไรกัน เพราะมักพบเห็นเธอกับเขา แต่ที่ว่ามักพบเห็น ก็แค่ครั้งเดียวที่เธอไปทานข้าวกับเขาและมีโชติกับแฟนสาวอยู่ด้วยตลอด

“เป็นอะไรพี่” บรรพ์ถามพี่สาวที่ขมวดคิ้วแล้วทิ้งตัวลงนั่งอยู่ไม่ห่างนัก

“กำลังคิดอยู่ว่าโทรกลับไปดีไหม” มินตราบอกอย่างลังเล เพราะสายไม่ได้รับของโชติ

“ใครล่ะ” บรรพ์ถาม แล้วก็อุ้มหลานชายมาลูบหลังให้ เพราะคู่แฝดเลี่ยงไปอาบน้ำอยู่ ส่วนพ่อแม่ก็มาอยู่ที่นี่ด้วย บ้านที่อยู่มาแต่เด็กกำลังถูกสร้างขึ้นใหม่ ข้าวของในบ้านก็ขนไปฝากไว้ที่โกดังให้เช่า

“นายโชติโทรมา แต่ช่างเถอะ พี่โทรหาพี่เคดีกว่า” มินตราบอกแล้วลูบผมหลานชาย ก่อนจะขึ้นชั้นบนโทรหาสามี เมื่อถึงห้องนอนก็ทิ้งตัวลงนอนคว่ำแล้วกดโทรออกหาสามี

“เป็นข่าวกับพ่อพี่เหรอ” คิลเลี่ยนออกอาการงง เพราะเพิ่งตื่น

“ใช่ค่ะ ข่าวไม่ค่อยดี ว่ามินต์ไปหลอกล่อพ่อพี่ แล้วก็ยังหลอกพ่อพี่ไปโดนยิงอีกค่ะ” มินตราเล่าความแล้วใจห่อเหี่ยว ถ้าตอนนี้อยู่ด้วยกันก็คงดี สามีคงกอดปลอบเธอได้แน่นอน

“เฮ้อ” คิลเลี่ยนตั้งสติประมวลใหม่ “พี่ว่ามินต์มาหาพี่ดีกว่านะ ที่บ้านน่ะให้บูมดูแลแล้วกัน”

“เหรอคะ” มินตราถอนหายใจยาว แต่ก็เทใจไปอยู่กับสามีเกินครึ่ง

“ใช่ มาเถอะ มาทำงานที่นี่ดีกว่าอยู่ที่นั่นแล้วปวดหัวเปล่าๆ” คิลเลี่ยนตัดสินใจแทนภรรยา เขาก็คิดถึงเธอจะแย่อยู่แล้ว แต่งานยุ่งขึ้นเตียงได้ก็สลบ จะกินจะนอนก็ลำบาก ไม่ค่อยได้กินอะไรมาก เพราะความเครียดสะสมด้วย

มินตราเล่าความเพิ่มเติมอีก ทำให้คิลเลี่ยนถอนหายใจ

“เรื่องทำร้ายร่างกายนี่ ยัยคุณนายแพรถนัดนักแหละ นี่พ่อพี่ก็โทรมา แต่พี่ไม่ได้โทรกลับ สงสัยโทรมาเรื่องนี้ล่ะมั้ง” คิลเลี่ยนส่ายหน้าช้าๆ “พี่ไม่คิดว่าพ่อพี่จะสิ้นคิดขนาดเอามินต์ไปทำเมียหรอกนะ ไม่ต้องคิดมาก ถึงพ่อพี่จะทำอะไรได้หลายอย่าง แต่เขาจะไม่ฝืนใจใคร คนอย่างพ่อพี่ถือว่าตัวเองฉลาด มีวิธีอีกมากที่จะทำให้มินต์เป็นของเขา แล้วคงไม่เริ่มตอนนี้ เพราะเขาก็กลัวว่ามินต์จะเอางานของเขาไปขายที่อื่นด้วย”

มินตราฟังคิลเลี่ยนอธิบายแล้วก็สบายใจ นัดแนะกันอีกนิด แล้วก็วางสายไป จากนั้นมินตราก็ตัดสินใจโทรหาโชติ เพราะเขาโทรหาเธออีกรอบ

“งานที่พ่อพี่กับมินต์ทำด้วยกัน พี่จะให้มินต์เอามาคุยกับพี่แทน แม่พี่จะได้สบายใจ” โชติอธิบายให้มินตราเข้าใจ หาโอกาสอยู่กับมินตราตามลำพังไปด้วย

“ไว้ฉันคุยกับพ่อคุณแล้ว ฉันค่อยตัดสินใจนะคะ แค่นี้ใช่ไหมคะ” มินตราตัดบท เมื่อรู้ว่าเขาโทรมาเรื่องอะไร

“มินต์อย่าพยายามดึงดันจะคุยงานกับพ่อพี่เลยนะ พี่ไม่อยากให้มีข่าวเสียหายอีก” โชติพยายามกล่อม เพราะท่าทางมินตราจะไม่อยากคุยงานกับเขาง่ายๆ แน่

“นี่เป็นเรื่องงานของฉันกับพ่อคุณ ถ้าท่านต้องการให้คุณเข้ามาทำด้วย ท่านคงบอกฉันเอง ขอโทษนะคะ ฉันต้องไปช่วยน้องเลี้ยงหลานแล้วค่ะ สวัสดี” มินตราตัดบทและวางสาย รำคาญที่เขาเซ้าซี้เธอ

เมื่อคิดเรื่องที่จะไปอยู่กับคิลเลี่ยน มินตราก็สบายใจได้มากขึ้น จากนั้นก็จองตั๋วแล้วคิดถึงช่วงที่จะได้ไปหาสามี

**********************************

มินตราออกมาเดินเล่นที่ห้างใหญ่ เธอมาตามลำพัง เห็นของไหนอยากได้ก็ซื้อ แต่ก็ไม่มีสิ่งไหนที่เธออยากได้เท่ากับการได้อยู่กับสามี และเผอิญก็ได้เจอกับคนรู้จัก

“พี่โม” มินตราเข้าไปทักทายและไหว้รุ่นพี่ที่ไม่ได้เจอกันหลายปี

“อ้าว ยัยมินต์ โห สวยขึ้นอีกเป็นกอง เมื่อก่อนว่าสวยแล้วนะ” นะโมทักทายแล้วมองรุ่นน้องสาว ที่ตอนนี้สวมชุดสีชมพูแล้วมีกางเกงขาสั้นอยู่ด้านใน ผมยาวพอประมาณ แต่ดูนุ่มสลวย

“ ไม่ได้เจอกันนานนี่คะ ไหนๆ แล้ว ถ้าพี่ไม่มีธุระ ไปกินข้าวเที่ยงกันนะคะ” มินตราถามหลังจากพูดคุยกันอีกนิด

“ไปสิ นี่ถ้าไม่ว่าง ไม่ได้เข้าห้างหรอก” นะโมตามรุ่นน้องสาวเข้าไปนั่งร้านอาหารไทยในห้าง เมื่อนั่งลงก็เลือกอาหารแล้วค่อยเริ่มคุย “ไงล่ะชีวิตตอนนี้ พี่น่ะ นานๆ จะออกไปไหน ออกมาก็ได้เรื่องเลย โชคดีจริงๆ”

“แลกเฟส แลกทวิตเตอร์ก่อนค่ะ” มินตรารีบถามแลก เพราะขาดการติดต่อกันไปนานมาก

“พี่มีที่ไหน” นะโมบอกรุ่นน้องแล้วก็หัวเราะ

“อ้าวเห็นมือถือพี่ออกจะไฮโซ มาๆ มินต์ช่วยทำให้” มินตราแบมือขอมือถือรุ่นพี่ แล้วก็จัดการสมัครให้เรียบร้อย แล้วก็แอดเพื่อนไว้หมดค่อยคืนให้

“ขอบใจ” นะโมมองรุ่นน้องสาวเพลิน จนลืมถามสารทุกข์สุขดิบ “จริงๆ พี่ก็ไม่รู้จะเล่นทำไมล่ะนะ”

“เดี๋ยวมินต์จะไม่อยู่เมืองไทยแล้วค่ะ พี่นี่ไม่ได้ติดต่อใครเลยใช่ไหมเนี่ย” มินตราดื่มน้ำจนหมดก็สั่งต่อ

“ก็นะ พี่ชอบวาดภาพ เพื่อนๆ ที่มีมันก็โทรมาหาเรื่อยๆ ไง ว่าแต่ไปเมืองนอกทำไมเหรอ” นะโมถามอย่างสงสัย

“ไปอยู่กับสามีค่ะ แล้วมินต์ก็ทำงานที่เมืองนอกด้วย งานแสดงหนังน่ะค่ะ พี่เข้าไปในเพจ Mintra Pierce Fanpage ค่ะ นี่ไงคะ” มินตราทำให้ดูแล้วยื่นให้รุ่นพี่ผ่านทางแท็ปเล็ต

นะโมมัวแต่ฟังคำว่า ‘สามี’ แต่พอเธอยื่นให้ก็มองอย่างสนใจ “แล้วพี่จะเข้าไปกดไลค์บ้างทำยังไง”

“นี่ค่ะ” มินตราส่งให้ มีความสุขที่ทุกอย่างผ่านไปได้ แต่เลื่อนอ่านข่าวแล้ว มีแฟนคลับเอาภาพข่าวที่เธอกับพ่อสามีออกจากโรงแรมพร้อมกัน เธอก็ขมวดคิ้ว แล้วขอตอบก่อน

‘แค่ทานอาหารเที่ยงด้วยกันมื้อเดียวและมีคนอื่นด้วยค่ะ อย่าคิดมาก เพราะฉันกับสามีต่างก็รู้ดีว่าอะไรเป็นอะไร’

“มีอะไรเหรอ มินต์” นะโมถามรุ่นน้องสาวด้วยความอ่อนใจ เห็นพ่อของโชติแล้วก็จำได้ เพราะเมื่อก่อนมีคนบอกอยู่ว่าแฟนรุ่นน้องเป็นใคร

“มินต์ไปทานมื้อเที่ยงกับคุณสมเจตน์หลังจากคุยเรื่องงานค่ะ ก็ไม่มีอะไร แล้วไม่ได้ไปสองคนด้วย มีพี่โชติกับแฟนเขาไปด้วย” มินตราบอกแล้วถอนหายใจ

“โชติกับแฟน? แล้วมินต์ไม่ใช่แฟนโชติเหรอ พี่หมายถึงมินต์ไม่ได้แต่งงานกับโชติเหรอ” นะโมถามอย่างงุนงง

มินตราฟังแล้วก็หัวเราะกับความไม่ระมัดระวังของตัวเอง เธอส่ายหน้าแล้วค่อยอธิบาย “ไม่ใช่ค่ะ สามีมินต์น่ะ เป็นลูกอีกคนของพ่อพี่โชติ จริงๆ มินต์ไม่อยากจะเรียกพี่โชติหรอกนะคะ คนแบบนั้น” มินตราพูดแล้วถอนหายใจ

“ยังไง พี่งงไปหมดแล้ว” นะโมเป็นงง ดูเหมือนเขาจะไม่ค่อยได้อัพเดตชีวิตรุ่นน้องเท่าไร

มินตราก็เล่าความตามตรง ละบางเรื่องไว้บ้าง ไม่พูดออกไป เดี๋ยวสามีจะเสียเครดิต

“อ๋อ อย่างนี้นี่เอง นายโชตินี่นิสัยไม่ดีเลยนะ จริงๆ พี่คิดแบบนั้นมานานแล้วล่ะ แต่รู้ว่ามินต์เป็นคนมองโลกในแง่ดี ก็เลยไม่ได้พูดอะไร” นะโมถอนหายใจยาว ดีที่รุ่นน้องผ่านเรื่องนี้มาได้ แต่ก็เสียดายที่รุ่นน้องสาวแต่งงานมีครอบครัวแล้ว

“นึกอีกทีก็ต้องขอบคุณพี่ พี่คอยช่วยระวังให้มาตลอด ช่วงที่พี่เรียนอยู่น่ะค่ะ” มินตราพูดตามตรง ก่อนจะเอาภาพสามีให้รุ่นพี่ดู “นี่คะ คิลเลี่ยน เพียร์ซ สามีมินต์ค่ะ เขาเป็นลูกของคุณสมเจตน์เหมือนกันค่ะ ตอนนี้เป็นนักเปียโนอยู่ที่ปารีสค่ะ แต่เขาเป็นลูกครึ่งอังกฤษนะคะ คุณสมเจตน์ไปเจอแม่ของเขา...เฮเลนที่อังกฤษ แล้วไม่บอกว่าแต่งงานแล้ว จนมีพี่เคเนี่ยแหละค่ะ ความมาแตกตอนเฮเลนมาเมืองไทยค่ะ”

“อ๋อ อย่างนี้นี่เอง” นะโมแค่รับรู้ เขาไม่มีสิทธิวิจารณ์เรื่องในครอบครัวของโชติ “มินต์มีความสุข พี่ก็ดีใจด้วยนะ”

“ตั้งแต่รู้จักกับพี่เค ก็มีความสุขมากค่ะ พี่เคคอยช่วยเหลือมินต์ตลอดค่ะ มินต์รู้สึกว่าโชคดีจริงๆ แล้วก็ดีใจมากที่ได้มาเจอพี่อีกรอบ มีสังคมโชเชี่ยลแล้ว อย่าหนีกันไปไม่ติดต่ออีกนะคะ คุณปู่รหัส” มินตราเรียกรุ่นพี่เหมือนสมัยเรียนแล้วก็หัวเราะ

นะโมก็หัวเราะไปพร้อมกัน จนกระทั่งมีสายเข้า มินตราจึงรับสาย

“สวัสดีค่ะ คุณสมเจตน์” มินตรารับสายพ่อสามีอย่างแปลกใจ เพราะมีเรื่องไม่นานนี่เอง

“เธอมาหาฉันที่บ้านหน่อยสิ” สมเจตน์บอกสั้นๆ

“คือว่าฉันอยู่กับเพื่อนค่ะ ไม่รู้จะเสร็จธุระเมื่อไร ตอนเย็นได้ไหมคะ” มินตราถามให้แน่ใจ

“แล้วแต่เธอแล้วกัน มาวันนี้นะ” สมเจตน์พูดแล้วตัดสาย

มินตราส่ายหน้าแล้วถอนหายใจ “ตอนนี้มินต์รับงานพ่อพี่เคน่ะค่ะ ปวดหัวน่าดูเลย ตอนนั้นหวังดีให้พ่อพี่เขายืมรถไป ดันเป็นวันเดียวกับที่พ่อพี่เขาโดนลอบยิง กลายเป็นเรื่องเลย คุณนายเขาว่ามินต์จ้างวานลอบยิงสามีเขาค่ะ”

“อย่างมินต์ พี่ไม่มีทางคิดเลยว่ามินต์จะทำแบบนั้น มันมีประโยชน์อะไรที่จะทำ เพราะยังไงสามีมินต์ก็ไม่ได้มรดกจากทางนั้นอยู่แล้วนี่นะ” นะโมสนับสนุนรุ่นน้อง ดูยังไงมินต์ก็ไม่เปลี่ยนไปจากเดิม ท่าทางซื่อๆ นั้นเป็นสิ่งที่เขาเห็นจนชินตา

“พี่เคก็บอกเหมือนกันค่ะ มินต์จะทำอย่างนั้นทำไม ถ้าทำ มินต์ก็คงไม่เอารถที่ติดกระจกนิรภัยป้องกันการปาหินให้เขาไปหรอกค่ะ คืองี้คะ พี่เคเขาเห็นข่าวแก๊งปาหินบ่อยๆ เขาเลยสั่งเปลี่ยนกระจกรถทั้งคันค่ะ พ่อพี่เคถึงไม่เป็นอะไร แล้วคุณนายก็มาว่ามินต์จงใจจ้างวานฆ่าค่ะ ดีที่ตำรวจเขาสืบสวนจนมินต์บริสุทธิ์” มินตราปรับทุกข์อย่างอ่อนใจ

“แล้วนี่เขาโทรมามีอะไรเหรอ” นะโมถามด้วยความเป็นห่วง

“ไม่รู้ค่ะ บอกแต่ว่าให้ไปหาที่บ้าน แต่ไม่ได้บอกอะไรมาก มินต์ก็ไม่อยากไปคนเดียวด้วย ขนาดไปกับน้องชาย คุณนายบ้านนั้นยังตบมินต์เลยค่ะ” มินตราบอกแล้วถอนหายใจยาว

“จะให้พี่ไปเป็นเพื่อนไหมล่ะ พี่ว่างอยู่นะ ถ้าไม่อยากไปคนเดียว พี่ไปเป็นเพื่อนก็ได้” นะโมเห็นใจรุ่นน้องสาวมาก ดีที่เขาเข้ากรุงเทพมาเจอพอดี ไม่งั้นคงไม่มีเพ่อนไป

“ถ้าไม่เป็นการรบกวนนะคะ” มินตราค่อยโล่งใจที่มีเพื่อนไปด้วย

นะโมกับมินตราทานอาหารจนเสร็จแล้วออกไปด้วยกัน พอไปถึงบ้านของสมเจตน์ก็มีคนเปิดประตูให้เข้า เธอก็ไปรอที่เก๋งจีนแทน เพราะสมเจตน์ให้ไปรอที่นั่น จะได้หลีกเลี่ยงไม่ต้องเจอแพรพลอย

เมื่อสมเจตน์มาถึงก็ยกมือรับไหว้ทั้งสองคน มองนะโมอย่างพิจารณา หลังจากฟังลูกสะใภ้แนะนำ

“ตกลง คุณสมเจตน์มีอะไรเหรอคะ” มินตราถามให้แน่ชัด จะได้ไม่ต้องอยู่ที่นี่นาน

“มีสิ รถเธอน่ะ อีกสองอาทิตย์เสร็จนะ ฉันให้คนไปหาซื้อกระจกมาให้ด้วย มันเป็นรอยร้าวแล้ว ดีที่มันไม่แตก แล้วฉันก็ไปไหนไม่ได้ จนกว่ากระจกรถทุกคันในบ้านฉันจะเปลี่ยนเป็นกระจกนิรภัยเหมือนเธอ” สมเจตน์บอกตามตรง แล้วนึกขึ้นได้

“ได้ยินว่าเธอจะไปหาคิลเลี่ยนที่ฝรั่งเศสเหรอ แต่ดูเหมือนว่าจะถูกระงับนะ” สมเจตน์บอกเล่า เท่าที่เขารู้มา

“ทำไมล่ะคะ” มินตราแปลกใจขึ้นมาทันที เพราะยังไม่ได้ข่าว

“เฮ้อ เมียฉันเขาเข้าไปวุ่นวายนิดหน่อย เขารู้จักคนในสถานทูตน่ะ เขาไม่ยอมให้เธอไปจากเมืองไทย” สมเจตน์ไม่อยากทะเลาะกับภรรยา จึงเตือนมินตราไว้

“อะไรนะคะ แบบนี้ได้ยังไง ก็ฉันจะไปหาสามีฉัน” มินตราเริ่มตาแดง น้ำตากำลังจะไหล แต่พยายามทนไว้ “เรียกมาบอกแค่นี้ใช่ไหมคะ กลับล่ะค่ะ”

“เดี๋ยวสิ” สมเจตน์เรียกเอาไว้ “ฉันจะบอกว่า ให้ไปที่อังกฤษก่อน แล้วค่อยไปปารีส อย่างนั้นก็ไม่ผิด เพราะเธอถือวีซ่าของอังกฤษอยู่ด้วยไม่ใช่เหรอ ฉันบอกคิลเลี่ยนแล้ว มันก็บอกว่าวิธีนี้ก็ได้อยู่”

“ขอบคุณค่ะ” มินตราค่อยกลืนน้ำตาลงไปได้ แล้วรีบกลับ “ขอตัวไปจองตั๋วกลับอังกฤษเลยนะคะ”

“นี่เงินค่าตั๋วที่เธอต้องเสียไปฟรีๆ” สมเจตน์ยื่นเช็คให้ลูกสะใภ้ “อย่าว่าฉันใช้เงินยุติปัญหาเลยนะ เมียฉันเขานิสัยคุณหนูอย่างนี้ ฉันเองก็มีส่วนผิด ทำให้เขาเป็นอย่างนี้ แต่ยังไงเขาก็อยู่ร่วมชีวิตกับฉันมา”

มินตราถอนหายใจแล้วส่ายหน้า “ไม่เป็นไรค่ะ ฉันไม่รับดีกว่า และคิดว่าพี่เคคงปฏิเสธเหมือนกัน ถือเสียว่าทยอยชดใช้บุญคุณที่ซื้อบ้านให้อยู่นะคะ”

“ฉันบอกให้เอาไปก็เอาไป ไม่งั้นฉันจะให้คนโอนเข้าบัญชีเธอ บอกไอ้คิลเลี่ยนด้วย ให้มันโทรหาฉัน ไม่งั้นฉันจะให้คนไปพามันกลับเมืองไทย” สมเจตน์บอกแล้วยื่นอีกรอบ จนมินตราจำต้องรับ

“ขอบคุณค่ะ” มินตราไม่ได้ดูยอดเงินในเช็ค คิดว่าคงไม่เท่าไร “งั้นขอลาก่อนนะคะ”

สมเจตน์พยกหน้าแล้วอ่านหนังสือพิมพ์ต่อ ก่อนนึกขึ้นได้ “งานถึงไหนแล้ว”

“อาทิตย์หน้าก่อนไปอังกฤษจะเอามาให้ดูก่อนแค่ภาพร่างนะคะ แต่คงไม่ให้ไว้จนกว่าภาพจะเสร็จ” มินตราบอก

“มาที่บ้านนี่แล้วกัน โทรมาก่อนนะ กลับไปเถอะ ต้องไปส่งเพื่อนอีกนี่นะ” สมเจตน์ตัดบทไปอย่างไม่ใส่ใจอีก

มินตราจึงบอกลา แล้วออกไปพร้อมนะโม พอออกมาถึงด้านหน้าก็ต้องตกใจ เมื่อแพรพลอยเดินเข้ามาหา มินตราก็รีบเดินไปหลบข้างๆ นะโม เพราะเจอหน้าแพรพลอยทีไร ต้องถูกตบทุกครั้งไป

“พาชู้คนที่เท่าไรมาด้วยอีกล่ะ หล่อน” แพรพลอยเจอหน้าก็จิกทันที “มาทำไมล่ะ มาขอเงินหรือยังไง”

“คุณสมเจตน์บอกให้มาค่ะ” มินตราหลบอยู่ข้างๆ นะโม ไม่อยากจะต้องเจอตบอีกรอบ

“ได้ไปเท่าไรล่ะ ค่าทำขวัญหรือยังไง ทำขวัญบนเตียงไม่พอ ยังต้องมาจ่ายเงินค่าทำขวัญซ้ำๆ อีกนะ” แพรพลอยพูดเยาะเย้ย

“ทำไมคุณต้องพูดอย่างนี้ด้วย ท่าทางก็ไม่ใช่คนไร้การศึกษา แต่ทำไมถึงพูดอย่างคนใจทรามแบบนี้ รุ่นน้องผมไม่เคยทำพฤติกรรมแบบนั้นมาก่อน แล้วทำไมต้องพูดหาเรื่องด้วย” นะโมทนไม่ไหว จึงพูดปกป้องรุ่นน้องสาว

“อาจจะเคย ไม่งั้นจะเคยตัวได้ยังไง แหม ทำเป็นอ่อนแอให้ชู้มาตอบแทนสินะ” แพรพลอยได้ทีก็ย้อนต่อ มองทั้งสองอย่างดูถูกดูหมิ่น

“ว่างมากก็ไปหาอะไรทำ ยัยไหม พาคุณนายไปพักได้แล้ว” สมเจตน์ออกมาห้ามภรรยา เพราะมีคนเห็นว่าภรรยามาถึงที่เก๋งจีนเพื่อด่ามินตราโดยเฉพาะ “ยังไม่รีบพาคุณนายไปหาอะไรทำอีกเหรอ”

ไหมคือหญิงสาวที่ตามหลังแพรพลอยมาตลอด เป็นคนสนิทของแพรพลอยแทนแม่ที่ตายไปแล้ว แต่เพราะไม่มีอะไรโดดเด่น จึงไม่ค่อยมีใครสังเกตนัก

แพรพลอยได้แต่สะบัดหน้าแล้วกลับ ส่วนไหมทองมองคุณผู้ชายอย่างรู้สึกผิด แล้วก็ตามคุณนายไปตึกใหญ่

มินตรารีบยกมือไหว้แล้วจับแขนรุ่นพี่ไปที่รถ ท่าทางหล่อนดูกลัวแพรพลอยพอสมควร ทำให้นะโมขมวดคิ้ว

“มีอะไรเหรอมินต์ ทำไมต้องกลัวผู้หญิงคนนั้นด้วย” นะโมเห็นเธอถอนหายใจก็ยิ่งแปลกใจ

“ทุกครั้งที่คุณแพรพลอยเจอมินต์ ต้องเข้ามาตบมินต์ตลอดเลยค่ะ ครั้งนี้มินต์เลยต้องหาที่หลบก่อนค่ะ” มินตราเล่าก่อนโล่งใจที่ขับรถออกมาจากบ้านนั้นได้ “ถ้าไม่จำเป็นมินต์ไม่อยากมาที่นี่เลยค่ะ พี่เคไม่เคยพูดอะไรตอนที่เขาเป็นเด็ก แต่มินต์คิดว่าเขาคงเจออะไรมาเยอะ มินต์มาที่นี่หลายครั้ง ตอนเป็นแฟนพี่โชติ ไม่เคยเจออะไรให้แปลกใจ แต่มาสองครั้งกับพี่เค รู้เลยว่าที่ผ่านมาเขาสร้างภาพค่ะ”

“อย่างนั้นเชียว” นะโมแปลกใจแต่เมื่อคิดถึงเหตุการณ์เมื่อครู่ก็พอเข้าใจ

“ใช่ค่ะ ตกลงพี่ให้ส่งที่โรงแรมใช่ไหมคะ แวะไปกินข้าวที่บ้านมินต์ก่อนนะคะ ตอนนี้พ่อแม่มินต์แล้วก็น้องๆ ก็อยู่กันค่ะ บ้านพ่อแม่น่ะ กำลังทำใหม่ค่ะ อีกหลายเดือนถึงเสร็จ พี่เคก็เลยให้มาอยู่ที่บ้านก่อน ถ้าตึกแถวตกแต่งเสร็จ เห็นว่าอาจจะย้ายไปอยู่ตึกแถวกัน แต่แม่เขาไม่ค่อยชอบย้ายที่ สุดท้ายแล้วก็ต้องอยู่ที่บ้านมินต์ไปก่อนค่ะ” มินตราเล่าความไปตามเรื่อง แล้วขับรถไปทางบ้านของเธอ

“ก็ได้ๆ ยังไงพี่ก็ไม่ได้ไปไหนอยู่แล้ว นานๆ เข้าเมืองสักที มีน้องใจดีให้กินข้าวฟรีก็โอเคอยู่นะ” นะโมพูดอย่างเอ็นดู

อยู่กับมินตรา ทำให้สบายใจได้มาก เพราะเธอปล่อยผ่านเรื่องร้ายๆ ได้เร็วอย่างคนมองโลกในแง่ดี แต่บางครั้งก็น่าเป็นห่วง หากไม่ใช่เพราะโชคดี เขานึกไม่ออกเลยว่าเธอผ่านช่วงวันเวลาที่เลวร้ายได้ยังไง

**********************************

เมื่อถึงสนามบินแล้วก็รับกระเป๋าตามปกติ มินตรามาเที่ยวบินจากอังกฤษ พอเห็นเขา เธอก็รีบลากกระเป๋าแล้วกระโดดกอดเขา กอดจูบกันอยู่พัก จากนั้นเขาก็พาเธอไปจากตรงนั้น

“อะไรจะคิดถึงพี่มากอย่างนั้น” คิลเลี่ยนพูดล้ออย่างไม่จริงจังนัก เพราะเขาก็คิดถึงเธอเช่นกัน

“นึกว่าจะไม่ได้มาหาพี่ซะแล้วนี่คะ คุณนายร้ายมากค่ะ ไม่ยอมให้มินต์ได้มาหาพี่” มินตราเริ่มเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นซ้ำอีกรอบ ขณะที่คิลเลี่ยนไม่ว่าอะไร เพราะรู้ว่าเธอต้องอึดอัดมาก จึงให้ระบายเสียให้พอ

เมื่อถึงบ้านแล้วก็เอากระเป๋าเธอขึ้นไปเก็บ ไม่ต้องกลัวว่าจะมีใครมาทำให้ชีวิตคู่เสียหาย พอได้จังหวะก็พุ่งเข้าหาภรรยาสาวทันที แสนจะคิดถึงเพราะอยู่ห่างไกลกันนานเกินไป

มินตราก็ไม่ขัดขืน ปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามอารมณ์และความต้องการของสามี

เมื่ออารมณ์ปรารถนาสงบลง คิลเลี่ยนพลิกตัวมองภรรยาที่นอนอยู่ข้างๆ นี่ยังกลางวันเขาเห็นมินตราหลับอย่างสบายใจก็เข้าไปกอดเธอไว้ในอ้อมแขนอีกครั้ง ทำให้มินตราต้องตื่นและลืมตามอง

“อะไรเหรอคะ” มินตราถามเขาอย่างงุนงง ด้วยเพราะเพิ่งตื่นยิ่งสงสัยว่าฝันหรือจริง

“เปล่านี่ อยากกอดเมียบ้างไม่ได้หรือไง ไม่ได้กอดเป็นเดือนๆ” คิลเลี่ยนจูบเธออีกครั้ง แล้วรู้สึกหิว “พี่ว่าเราไปหาอะไรกินเถอะ หิวแย่แล้วสิ มินต์น่ะ”

“ถ้าพี่ไม่พูด ก็คงไม่หิว แต่พอพูดขึ้นมาก็เริ่มหิวแล้วสิคะ” มินตรารวบผ้าห่มแล้วเดินไปหยิบเสื้อคลุมมาสวมไว้ ทั้งส่งให้เขาด้วย

คิลเลี่ยนรับมาแล้วสวม ก่อนเดินลงไปข้างล่าง หาเจออาหารแช่แข็งก็เอาใส่ภาชนะและเข้าเตาอบ เมื่อได้เวลาก็พอดีเอามานั่งทานกับมินตราที่ดื่มนมไปแล้วบ้าง

เขามองภรรยาแล้วได้ยิ้ม ก่อนลูบผมที่ย้อยลงมา “เย็นนี้เราไปทานนอกบ้านนะ พี่จองโต๊ะเอาไว้แล้วล่ะ”

“ค่ะ” มินตรายิ้มรับ ก่อนนึกขึ้นได้ “พรุ่งนี้มินต์ไปเยี่ยมคุณมาเตโอนะคะ”

“หือ??” คิลเลี่ยนมองเธออย่างสงสัย เห็นเธอพูดด้วยท่าทางปกติๆ ซื่อๆ ก็รู้ว่าเธอพูดเหมือนพบเพื่อนธรรมดา “ไปสิ พี่ไปด้วย พี่ว่างสามวัน เราจะใช้เวลาด้วยกันทั้งสามวันเลย”

“จริงเหรอคะ ดีจังเลยค่ะ” มินตรายิ้มดีใจมากที่ได้ใช้เวลากับเขามากที่สุด

“ดีใจซะพี่ตัวลอยเลย อยากอยู่กับพี่อย่างนั้นเชียว” คิลเลี่ยนขยี้ผมเธอเบาๆ อย่างเอ็นดู

“แน่นอนสิคะ ก็พี่เป็นสามีมินต์นี่ มินต์ต้องอยากอยู่กับพี่เป็นธรรมดาค่ะ” มินตราพูดอย่างอารมณ์ดี เธอไม่กล้าพูดว่า ‘รัก’ เพราะกลัวว่าเมื่อเขาฟัง จะเข็ดขยาดแล้วเอาตัวออกห่างจากเธอ เพราะเขาก็ไม่เคยพูดว่า ‘รัก’ ยิ่งทำให้เธอไม่กล้าพูดบอกรักเข้าไปใหญ่

คิลเลี่ยนมองท่าทีซื่อใสของเธออย่างเอ็นดู มองก็รู้ว่าเธอรักเขาจะแย่ แต่เขาก็ไม่อยากพูดว่า ‘รัก’ เพื่อผูกมัดเธอ ระหว่างเขากับเธอมีอะไรหลายอย่างที่ทำให้เขารู้สึกว่าเขากำลังผูกมัดเธออยู่ ก็ได้แต่มองเธอด้วยความรัก

**********************************

สวัสดีค่ะ คุณผู้อ่านทุกท่าน
มาเพราะผู้อ่านสั่งให้มา 555+
เดี๋ยวจะกัดผ้าเช็ดหน้าขาด
เพราะลุ้นว่าจะโดนพ่อตีท้ายครัวหรือเปล่า
มาเฉลยแล้วนะคะ อิอิ
ขอบคุณที่ติดตามนิยายนะคะ
ดูแลสุขภาพด้วยค่ะ

แฟนเพจคือ https://www.facebook.com/plerngwaree
แอดเพื่อนได้ที่ https://www.facebook.com/plerngwareebz

ขอบคุณคอมเม้นจาก
คุณนักอ่านเหนียวหนึบ - ตาลุงสมเจตน์ปล่อยลูกสะใภ้ค่า อิอิ
คุณkonhin - อ่ะแน่นอนค่ะ รอดปลอดภัย
พี่ตุ้งแช่ - โรคร้ายนิดนึงค่ะ
คุณใบบัวน่ารัก - ไม่โดนค่า ^^

คุณนอนดูดาว - ไม่เกิดอะไรขึ้นค่ะ 555+

ป.ล. อ่านแล้วรักชอบนิยายเรื่องนี้ อย่าลืมกดไลค์นะคะ
ถ้าได้ตีพิมพ์ จะเอารายชื่อคนที่กดไลค์นี่แหละค่ะ
มาจับฉลากแจกหนังสือค่ะ อยากให้คนที่อ่านได้จริงๆ ค่ะ

ป.ล. ขอความร่วมมือ "งด" ช็อป e-Book จากทาง Ookbee นะคะ
เนื่องจากยังสงสัยอยู่ว่า ทำไมยอดดาวโหลดกับยอดที่เขาให้ไปวางบิลไม่ตรงกันค่ะ
ยังไม่ได้ถามไป แต่มันไม่ควรจะเป็นแบบนั้นนะคะ
เมื่อสงสัยขอหยุดการซื้อจากทางนั้นนะคะ
ขอบพระคุณที่เข้าใจค่ะ

**********************************
eBooks ผลงานที่ผ่านมานะคะ
1. ด้วยหัวใจ...พันรัก (229 บาท / 9.99$)
- http://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NjoiMjM5MjY5IjtzOjc6ImJvb2tfaWQiO3M6NDoiNDQ2NiI7fQ
- http://www.ebooks.in.th/ebook/13221/ด้วยหัวใจ...พันรัก

2. เราสามคน..หนทางเดียว (159บาท / 6.99$)
- http://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NjoiMjM5MjY5IjtzOjc6ImJvb2tfaWQiO3M6NDoiNDQyNyI7fQ
- http://www.ebooks.in.th/ebook/13203/เราสามคน..หนทางเดียว

3. ตามตะวัน ณ จันทร์พันดาว (159฿ / 6.99$)
- http://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NjoiMjM5MjY5IjtzOjc6ImJvb2tfaWQiO3M6NDoiNDQ2OSI7fQ
- http://www.ebooks.in.th/ebook/13231/ตามตะวัน_ณ_จันทร์พันดาว

4. แผนร้ายในทางรัก (139บาท / 5.99$)
- http://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NjoiMjM5MjY5IjtzOjc6ImJvb2tfaWQiO3M6NDoiNDI2MyI7fQ
- http://www.ebooks.in.th/ebook/13179/แผนร้ายในทางรัก

5. ผูกพัน...เข้าใจ...สายใยแห่งเรา (129บาท / 5.99$)
- http://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NjoiMjM5MjY5IjtzOjc6ImJvb2tfaWQiO3M6NDoiNjMzOCI7fQ
- http://www.ebooks.in.th/ebook/16015/ผูกพัน...เข้าใจ...สายใยแห่งเรา/



เพลิงวารี
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 11 มี.ค. 2557, 15:32:10 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 11 มี.ค. 2557, 15:32:10 น.

จำนวนการเข้าชม : 1915





<< Crying Villain ตอนที่ 13   Crying Villain ตอนที่ 15 >>
maplezaa 11 มี.ค. 2557, 15:51:36 น.
ยัยคุณแม่กะพี่โชตินี่น่ารำคาญจริงๆๆๆๆๆ


ตุ๊งแช่ 11 มี.ค. 2557, 15:53:26 น.
ตอนจบช่วยจัดหนัก แม่สามีหน่อยนะ โดนทุเรียนสักลูกก็พอ..น่ารำคาญจริงๆ

นึกว่าจะไม่ได้กลับอังกฤษ ซะแล้ว ชีวิต ยิ่งกว่ามรสุมอีก เพราะ มรสุมมันมาไม่ทุกวัน

ไม่รู้จะเรียกอะไรดี เอิ่ม คนเขียน เคืองที่นางเอกได้พี่เคป่าวนี่ โยนเคราะห์ให้เยอะจริงๆ โยนความสุขมามั้งก็ได้นะ


konhin 11 มี.ค. 2557, 21:10:43 น.
อยากจัดการยัยแม่เลี้ยงสามี จริงๆ


ใบบัวน่ารัก 12 มี.ค. 2557, 05:49:17 น.
มินตรา เธอต้องเข้าครอส การโต้ตบกะคุณกระรัตบ้างนะ
ไปที่ไรโดนตบทุกที ถ้าไม่ว่าเดี๋ยวเดี้ยน สอนให้
ถ้าเป็นคุณหนูแล้วแต่งงานมีผัวเป็นนักธุรกิจใหญ่ไม่ได้ช่วยส่งเสริมกันเลยนะ
ว่างมาก เหมือนไร้การศึกษา เอามาเป็นเมียได้อย่างไง อยากรู้อะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account