นางร้ายเจ้าน้ำตา
ชีวิตของมินตราไม่ใช่เรื่องง่าย แม้ฝันไว้ว่าจะดีขึ้นทุกวัน แต่ก็ยังเจอแต่อุปสรรคใหญ่หลวงรออยู่ทุกอย่างก้าว ดีที่ได้มีโอกาสเจอเขา...คิลเลี่ยนหนุ่มลูกครึ่งชาวอังกฤษก็คอยช่วยเหลือ เป็นหลักให้เธอได้มีชีวิตที่ดีขึ้น หนทางรักที่อาจไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบแต่จะจบด้วยความสมหวัง
Tags: นางร้าย

ตอน: Crying Villain ตอนที่ 15

นางร้ายเจ้าน้ำตา Crying Villain ตอนที่ 15

เสียงถอนหายใจดังขึ้นเรื่อยๆ นึกถึงเช้าที่ต้องจากเขามาทำให้รู้สึกเหงามากขึ้น มินตรานั่งถอนหายใจซ้ำๆ ไม่รู้ทำไม ถึงติดสามีมากขึ้น คงเพราะต้องห่างกัน ทั้งที่สามปีแรกของการแต่งงานได้อยู่ด้วยกันตลอด แต่ก็ไม่ได้อยู่แบบสามีภรรยาแบบนี้

สักพักมีคนออกมาจากห้องทำงานของสมเจตน์ เลขาฯ เขาก็เชิญเธอเข้าไปพบ เธอก็เอางานให้เขาดู คุยกันเรื่องรายละเอียดของแบบ แล้วเขาก็พยักหน้า เธอจึงสรุปในตอนท้าย

“มีแบบมาให้เลือกเท่าจำนวน แล้วถ้าฉันไม่ถูกใจ เธอจะทำยังไง” สมเจตน์ถามแล้วยิ้มเอ็นดูลูกสะใภ้

“คิดว่าน่าจะพอใจค่ะ ก็เลยไม่ได้เอาแบบที่เหลือมาให้ดู อีกอย่างแบบที่เหลือก็สามารถเอาไปใช้งานอื่นได้ ถ้าเอามาให้คุณดู เกิดคุณอยากได้ ฉันก็เสียของอีกสิคะ อีกอย่างฉันต้องพิจารณาดีแล้วว่าเป็นแบบตามที่คุณต้องการค่ะ อาจมีการปรับแก้ แต่ฉันก็พยามดีที่สุด” มินตราอธิบายและงานก็เสร็จแล้ว จึงขอตัว “กลับก่อนนะคะ”

“อืม” สมเจตน์พยักหน้าอนุญาต แต่มินตรายังไม่ทันเดินออกจากห้อง ประตูก็เปิดออกแล้วแพรพลอยก็เข้ามา เมื่อมินตราเห็นก็ถอยทันทีแล้วหยุดในระยะที่หลบพ้นจากฝ่ามือของแพรพลอยอย่างระมัดระวัง

“มีอะไร ต้องมาถึงบริษัทเลย” สมเจตน์ถามภรรยาที่ยืนจ้องมินตรา

“มาชวนไปทานมื้อเที่ยงค่ะ แล้วแม่นี่มาทำไม” แพรพลอยถามแล้วมองไปที่มินตรา

“มาทำงานให้ฉันน่ะสิ นั่งรอก่อน ฉันมีงานที่ต้องจัดการ” สมเจตน์บอกภรรยา แล้วพิมพ์ข้อความบอกสาวิตรีไม่ต้องรอ เพราะเมียเขามาที่นี่ แล้วคงไม่ไปง่ายๆ เขาเองก็มีงานที่ต้องจัดการ จึงจะไปวันอื่นแทน

แพรพลอยจะเดินเข้าไปหามินตรา มินตรารีบหลบไปอีกทาง รู้รักษาตัวรอดไว้ก่อน ไม่อยากถูกตบซ้ำๆ

“คุณแม่มาแล้วเหรอครับ” โชติรีบเข้ามาเพราะรู้ว่าแม่มาและมินตราก็คุยงานกับพ่อเขาอยู่ด้วย

“ไงลูก แม่ก็แวะมาชวนพ่อไปทานมื้อเที่ยงด้วยกัน ลูกจะไปด้วยไหมล่ะ” แพรพลอยไม่คิดจะทำอะไรมินตราอยู่แล้ว จึงเดินไปนั่งที่ชุดรับแขก

“ผมจะไปทานกับหวานใจน่ะครับ เอ้อ ไง มินต์ เดี๋ยวไปคุยงานกับพี่อีกทีนะ” โชติสบตาพ่อเขา แล้วพามินตราออกไปจากห้อง ไม่อยากให้มีเรื่องกันในห้องทำงานของพ่อเขาอีก เพราะพ่อเขาเริ่มรำคาญกับสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วเอาตัวออกห่างจากแม่เขามากขึ้น

สมเจตน์กับแพรพลอยก็อยู่ในห้องตามลำพัง โดยไม่มีเรื่องพูดอะไรกันอีก

มินตราตามหลังโชติออกมาได้ ก็ถาม “งานอะไรเหรอคะ”

“ไม่มีหรอก พี่แค่จะพามินต์ออกมาจากห้องน่ะ มาเถอะ เดี๋ยวพี่พาไปส่ง” โชติบอกอย่างมีน้ำใจ มินตราในวันนี้แตกต่างจากที่เขาเคยรู้จัก หล่อนแต่งเนื้อแต่งตัวมากขึ้น ไม่ถึงกับโป๊ แต่ก็ดูมีสีสัน

“ขอบคุณค่ะ” มินตราค่อยรู้สึกดีกับเขามากขึ้น ที่เขาช่วยเธอให้ออกมาจากห้องนั้นได้ ก่อนจะต้องเจอแพรพลอยตบอีกรอบ

เธอรอจนลิฟต์เปิดออก ก็เดินเข้าไปด้านใน เธอกับเขาอยู่อย่างเงียบๆ สองคน

“งานของพ่อพี่เป็นยังไงบ้าง” โชติหาเรื่องคุยเหมือนกำลังเริ่มจีบเธอใหม่แต่ไม่ใช่เธอคนเดิม

“ก็ดีค่ะ ใกล้เสร็จแล้ว ฉันก็ดีใจ จะได้กลับไปหาพี่เคเร็วๆ ก่อนไปงานเปิดตัวหนังที่ฮ่องกงค่ะ” มินตรายิ้มให้เขา กลับต้องตกใจ เมื่อโชติเข้ามาประชิดแล้วจูบเธอ

มินตราพยายามผลักแต่เขากอดเอาไว้แน่น สุดท้ายเธอก็กัดริมฝีปากเขาอย่างแรง จนเขาผงะแล้วถอย

โชติแตะที่ริมฝีปาก มองแล้วเห็นเลือด ก็เงื้อมือขึ้นจะตบด้วยความโมโห มินตราตกใจถอย โชคดีที่ลิฟต์เปิดออกมาพอดี มีคนกำลังจะขึ้นลิฟต์ เธอก็รีบแทรกออกไป แล้วรีบออกไปส่วนที่จอดรถ

โชติได้สติรีบตามไป แม้จะมีคนเห็นเขาเงื้อมือ แต่เขาไม่สนใจ ตามไปจนถึงที่จอดรถ แล้วตะโกนเรียก “มินต์ เดี๋ยวก่อน”

มินตราไม่ฟัง รีบไปที่รถ ปลดล็อกแล้วขึ้นรถ ก่อนล็อกอีกทีแล้วค่อยสตาร์ทเครื่องเตรียมถอยรถ

“มินต์ เปิดสิโว๊ย!!!” โชติทุบรถอยากให้มินตราออกมาคุยกัน แต่มินตราติดเครื่องยนต์แล้วออกรถ โดยไม่สนใจท่าทีของเขา

มินตราตื่นตกใจ น้ำตาไหล มือสั่น ก็ค่อยๆ ขับรถออกไปช้าๆ จนกระทั่งถึงบ้าน เธอเลี่ยงจะไปเจอแม่ ก็ขึ้นห้องนอนทันที ตอนนี้น้องๆ ไปที่ร้านกันแล้ว อยู่แต่แม่ที่ช่วยเลี้ยงหลานแทน

เสียงโทรศัพท์ดังไม่หยุด มินตรามองเห็นเบอร์โชติที่โชว์อยู่ก็ตัดสายทิ้งแล้วกดปิดเครื่อง ก่อนนอนพักผ่อนอย่างเสียอารมณ์และหวาดกลัว เมื่อนึกถึงตอนที่โชติเงื้อมือขึ้นจะตบเธอ พอตกเย็นก็ตื่นขึ้นมา นึกขึ้นได้ว่าสามีจะต้องโทรหาเธอแน่ก็เปิดเครื่องอีกครั้ง เห็นสายของสามีก็รีบโทรกลับ

“ทำไมวันนี้ปิดเครื่องล่ะ” คิลเลี่ยนถามภรรยาอย่างแปลกใจ

“นายโชติโทรมาก่อกวนค่ะ ก็เลยปิดเพราะรำคาญ แล้วมินต์ก็เผลอหลับไปค่ะ” มินตราพยายามปล่อยวาง จึงไม่ได้เล่าสิ่งที่เกิดขึ้นให้สามีฟัง

“มันบ้าไม่เลิกจริงๆ มินต์ก็ระวังหน่อยก็แล้วกันนะ” คิลเลี่ยนพูดด้วยความเป็นห่วง แล้วก็เล่าความตามปกติ เพราะระยะทางที่ห่างกันทำให้กลัวว่าเธอจะกังวลใจ

มินตราถามเล็กน้อยเหมือนเคย เขาก็เล่าเท่าที่จำเป็น เขากับเธอต่างก็พูดคุยกันไม่เคยเกินหนึ่งชั่วโมงเพราะต่างก็ไม่ใช่คนช่างพูดเท่าไรนัก สักพักก็วางสาย เธอถอนหายใจยาว โล่งใจที่ผ่านชีวิตไปได้อีกหนึ่งวัน

**********************************

เมื่อมินตราพยายามหลีกเลี่ยงโชติ เขาก็ต้องหาทางพบเธอจนได้ โชติวางแผนการบางอย่างไว้ โดยความช่วยเหลือจากศนิ เขาขอให้ศนิช่วงจองที่พักให้ที่บางแสน เพราะเดินทางสะดวก และเขาไม่อยากเอาชื่อเขาจองที่พัก กลัวว่าหวานใจจะรู้เรื่องเข้า

พอถึงเวลาแล้ว เขาก็เดินทางไปก่อน จากนั้นก็โทรหามินตราทันที แต่พอเธอไม่รับสาย เขาก็ส่งข้อความหาเธอ เขาวางแผนมาดี เพราะพ่อเขาพาแม่เขาไปต่างประเทศ เพื่อพักผ่อนประจำ

มินตราเห็นข้อความของเขาเกี่ยวกับเรื่องงานจึงโทรกลับ “สวัสดีค่ะ เรื่องงานมีอะไรเหรอคะ”

“โธ่ ถ้าไม่ใช่เรื่องงาน มินต์จะไม่คุยกับพี่เลยใช่ไหม” โชติหาทางบ่ายเบี่ยง

“ไหนว่ามีเรื่องานจะคุยไงคะ มีอะไรคะ” มินตราเร่งเขาเพราะไม่อยากคุยกับเขานานนัก

“วันนี้มินต์ว่างหรือเปล่า พี่มีงานที่พ่อฝากไว้ แต่พี่ออกพักตากอากาศที่บางแสนน่ะ มันอยู่ในรถที่พี่เอามาด้วย พ่อพี่โทรมาเร่งให้เอาให้มินต์ไปดูแล้วก็แก้ไขน่ะสิ พี่จะมาพักห้าวันน่ะ มินต์พอจะมาได้ไหม” โชตินึกเสียดายมินตรามาก จึงวางแผนชั่วออกมาจนได้

มินตราครุ่นคิด เห็นว่าบางแสนอยู่ไม่ไกลมากนัก พอไปกลับได้ ก็รับปาก “ได้ค่ะ”

“งั้นมานี่นะ” โชติอธิบายเส้นทางคร่าวๆ ก่อน รู้ว่ายังไงระหว่างทางมินตราก็ต้องถามทางอีกแน่ เพราะไปอยู่เมืองนอกเสียหลายปี

“ค่ะๆ” มินตรารับคำก่อนตัดบทวางสาย แล้วก็แต่งตัวเพื่อออกบ้าน

บรรพ์เห็นพี่สาวแต่งตัวใหม่ก็นึกแปลกใจ วันนี้วันพุธ วันหยุดของร้าน เขากับแฟนเลยมาเตรียมขนม เห็นพี่สาวที่ตอนแรกบอกว่าไม่ไปไหน แต่งตัวสวยก็ถาม “แต่งตัวจะไปไหนพี่”

มินตราสวมเสื้อไม่มีแขนสีมพูอ่อนดูสุภาพ สวมกางเกงขาสั้นเป็นปกติแล้วถือรองเท้าส้นสูงไว้ในมือ “นายโชติน่ะสิ เอางานที่คุณสมเจตน์ฝากให้พี่ไปที่บางแสน บอกให้ไปเอาเพราะคุณสมเจตน์เร่งจะให้พี่ดูให้ได้น่ะ”

“ตลกน่าพี่ ต้องไปถึงบางแสนเลยเหรอ” บรรพ์เห็นไม่น่าไว้ใจ ท่าทางจะร้ายมากกว่าดี

“พี่ก็กลัวๆ อยู่ แต่ให้ทำยังไงล่ะ จะติดต่อคุณสมเจตน์ก็ติดต่อไม่ได้ ไปต่างประเทศไม่เปิดเครื่อง พี่ก็ต้องลองเสี่ยงดู กะว่าไปถึงจะเรียกออกมาที่ลานจอดรถ ก็คงได้มั้ง” มินตราได้แต่ระวังตัวมากขึ้น เพราะมีพฤติกรรมหลายอย่างของโชติที่แสดงให้เห็นว่าเขาไม่น่าไว้ใจ

“ปูว่าบูมไปกับพี่มินต์ดีไหม อย่างน้อยก็มีเพื่อนไปด้วย” ปูเสนอเพราะไม่อยากนั่งเป็นห่วง รู้จักพี่สาวคนรักมานาน เห็นเป็นคนซื่อ กลัวถูกหลอกไปทำมิดีมิร้าย ทั้งคนรักก็บอกอยู่ว่านายโชตินิสัยไม่ดี

“ว่างเหรอ ไปกับพี่สิ ทั้งสองคนก็ได้ คุยงานแปบเดียว แวะซื้อของกินกลับบ้านด้วยไง” มินตรารีบหาเพื่อน เธอก็ไม่อยากไปคนเดียว

“ได้ครับ ไปไหมปู” บรรพ์หันไปถามแฟนสาวอีกที

“ไปก็ได้ ไปกันเลยแล้วกัน” ปูบอกเพราะเธอก็แต่งตัวธรรมดาอยู่แล้ว ไม่ต้องแต่งองค์ทรงเครื่องมาก

บรรพ์พยักหน้าช้าๆ แล้วขอกุญแจรถพี่สาว พี่จะได้ไม่เหนื่อย

“รอบไปพี่ขับแล้วกันนะ รอบกลับบูมขับ แล้วนี่บอมไปไหน” มินตราถามเพราะเห็นหลานชายอยู่กับแม่

“บอมเอาขนมไปส่งฮะ ลูกค้านัดวันนี้ เราส่งให้ได้ แต่ไม่เปิดร้านเท่านั้นเอง” บรรพ์บอกเล่าความตามจริง

“คิดจะเปิดร้านทุกวันบ้างเปล่าล่ะ แบบจ้างคนมาช่วยดูร้านน่ะ” มินตราถามน้องชายขณะเดินไปที่รถ

“อย่าเพิ่งเลย พี่ ร้านมันเพิ่งเริ่ม ทุนยังไม่คืนมา ก็ไม่มีเงินหมุนอีก ไปเรื่อยๆ ก่อนดีกว่า ตอนนี้เริ่มคนติดใจเค้กที่ร้านแล้วครับ แต่ยังรับสั่งทำมากไม่ได้ ทำไปตามขั้นตอนดีกว่าครับ ไม่อยากฝึกคนใหม่ ผมไม่ไว้ใจ กลัวทำเสียชื่อ” บรรพ์อธิบาย แล้วพี่สาวก็คุยเรื่องร้านเขาไปเรื่อยๆ

ปูนั่งด้านหลังก็ผล็อยหลับไป เพราะเหนื่อยกับร้านมาหลายวัน แต่ก็ยังขยันช่วยทำขนมทุกวันไม่เคยขาด ตอนนี้เริ่มมีเงินส่งไปทางบ้านแล้ว ทำให้ทั้งหมดมีกำลังใจมากขึ้น

เมื่อใกล้ถึงบางแสน มินตราก็โทรถามทางโชติจนรู้จุด ก็ให้น้องชายขับไปจนถึงที่พักของเขา

“ให้ผมเข้าไปด้วยไหมพี่” บรรพ์ไม่อยากให้พี่สาวเข้าไปคนเดียว เขาไม่ไว้ใจแฟนเก่าพี่สาวเท่าไรนัก

มินตรามองว่างานของสมเจตน์เป็นเรื่องที่เป็นความลับ แค่รับงานมาแล้วกลับคงไม่ต้องอยู่นาน “ไม่ต้องหรอก บูม พี่ไปไม่ถึงสิบนาทีหรอก ถ้าเกินกว่านั้นเข้าไปตามหานะ”

“ได้เลยพี่” บรรพ์ตั้งเวลาไว้สิบนาที “ถ้าสิบห้านาทีไม่มา จะเข้าตามนะพี่ หลังไหนยังไงบอกด้วย”

ปูพยักหน้าช้าๆ แล้วย้ายไปนั่งข้างคนขับ ระหว่างรอ

มินตราเดินเข้าไปตามลำพัง ผ่านบังกะโลหลายหลัง จนถึงหลังของเขา เห็นเขานั่งรอที่ด้านหน้าก็โล่งใจ ไม่เห็นแฟนสาวของเขา เธอก็เข้าใจว่าเขาคงไม่อยากให้แฟนสาวลำบากใจ

“สวัสดีค่ะ” มินตรายกมือไหว้เขา แล้วยืนรอ

“สวัสดีจ๊ะ นั่งก่อนสิ ขับรถมาเหนื่อยๆ” โชติลุกขึ้นไปโอบจะพาไปนั่ง แต่มินตราถอยห่าง เขาก็แค่ยิ้มแห้งๆ

“อย่าเลยค่ะ เดี๋ยวแฟนพี่จะว่าเอา เอางานมาเถอะค่ะ มินต์จะได้กลับ” มินตรายืนรอและไม่ยอมขยับ

“เฮ้อ” โชติแกล้งทำเป็นถอนหายใจ ก่อนส่งน้ำให้ “แฟนพี่ไม่ได้มาด้วยหรอก ที่บ้านเขาชวนไปเที่ยวยุโรป แล้วพี่อยากหลบมาทบทวนอะไรบางอย่างน่ะ ดื่มน้ำก่อน แล้วนั่งรอนะ พี่จะเข้าไปเอาเอกสารให้”

มินตราคอแห้งอยู่แล้ว เห็นน้ำผลไม้ใหม่ๆ ก็ดื่มอย่างไม่คิดมาก เธอนั่งที่เก้าอี้เพราะเขาเข้าไปนานเกินไป เธอก็เลยขอเวลาน้องเพิ่มอีกสิบนาที

“ก็ได้ แต่รีบออกมานะพี่” บูมเร่งพี่สาว รู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไร

มินตราได้แต่รับคำ สักพักรู้สึกมึนๆ ลืมตาได้แต่ก็เบลอไปหมด

โชติออกมาเห็นยาออกฤทธิ์แล้วก็ได้ยิ้ม “เป็นอะไรล่ะมินต์ ไม่สบายเหรอ ไปพักด้านในนะ”

มินตราอยากปฏิเสธ แต่กลับทำตามที่เขาบอกทุกอย่าง ใจนึกกลัวแต่สมองก็สั่งงานช้าลง รู้สึกว่าถูกพยุงไปเรื่อยๆ ใจก็หวังให้น้องชายตามมาทันเวลา และหาห้องที่เธอบอกเจอ

โชติวางเธอที่เตียง แล้วก็ถอดเสื้อเธอออกหมด แล้วเข้าไปเล้าโลม เขารู้ว่าเธอยังรู้สึกตัว แต่ก็รู้ว่าเธอไม่สามารถขัดขืนได้ ก็เป็นทีของเขาที่รอวันนี้มานาน ถึงแม้เธอจะมีสามีแล้ว แต่ก็ไม่ไกลเกินเอื้อม

**********************************

สีหน้าเคร่งเครียด เพราะผ่านไปอีกสิบนาทีพี่สาวยังไม่ออกมาและไม่รับสาย บรรพ์ไม่รอแล้ว รีบไปหาบังกะโลหลังนั้นทันที พร้อมแฟนสาว ทั้งสองช่วยกันมองหา จนมาเจอ แล้วเห็นข้าวของพี่สาววางอยู่ที่โต๊ะ มองซ้ายขวาก็ไม่เห็น ก็รีบเข้าไปบิดลูกบิด เมื่อเปิดออกได้ เห็นผู้ชายถอดเสื้อแล้วกำลังก้มลงเล้าโลมผู้หญิงอยู่ก็โกรธจัด

เมื่อโชติได้ยินเสียงเปิดประตูก็ตกใจ หันไปมอง แต่เจอหมัดเข้าไปเต็มๆ

บรรพ์เห็นพี่สาวเปลือยช่วงบนก็โกรธมากไปอีก เข้าไปชกโชติไม่ยั้ง ต่างฝ่ายต่างก็ต่อสู้กัน

“พี่มินต์!!” ปูรีบเข้าไปประคอง คว้าเสื้อมาสวมให้ลวกๆ เห็นมินตราท่าทางเบลอๆ ก็รู้ว่าต้องถูกวางยา เพราะเป็นไปไม่ได้ที่มินตราจะดื่มเหล้าในเวลาอย่างนี้

“โอ๊ยๆ!!!” โชติร้องโอดร้องโอย เพราะเมื่อบรรพ์พลาดท่า เขาตั้งหลักได้แล้วก็ใส่กลับ แต่บรรพ์คว้าขวดฟาดเขาอย่างจัง ทำท่าจะแทงเขาด้วย เขาก็ได้แต่หลบ

“พาพี่มินต์ไปที่รถเลย” บรรพ์คอยกั้นทางออกไว้ให้ แล้วปูก็พยุงมินตราที่กำลังมึนๆ ออกไปจากห้อง มินตรายังพอเดินได้อยู่ แต่ก็ไม่ค่อยมีสติ ตอนนี้ใครให้เธอทำอะไร เธอก็ได้แต่ทำตามเท่านั้น

บรรพ์เห็นแฟนสาวออกไปแล้วก็หันมามองหน้าโชติ “ผมไม่เคยคิดเลยนะว่าพี่จะเลวได้อย่างนี้”

โชติก็พูดไม่ออกได้แต่รอดูท่าที เห็นบรรพ์ถอยหลังแล้วออกไปจากห้อง เขาก็ปิดประตูห้องอย่างหงุดหงิด คาดว่าคงไม่ได้เข้าใกล้มินตราอีกแน่นอน แล้วได้แต่หวังว่าจะไม่มีการแจ้งความ

**********************************

เมื่ออยู่ในรถแล้ว ปูก็ประคองมินตรา สวมเสื้อให้เรียบร้อย ท่าทางฤทธิ์ยาจะยังไม่หมดง่ายๆ

“เอาไงอ่ะ บูม พาพี่มินต์ไปโรงพยาบาลหรือเปล่า” ปูถามคนรักด้วยความเป็นห่วง

“ไม่นะ” มินตราพยายามปฏิเสธ กลัวเป็นเรื่องใหญ่

บรรพ์ครุ่นคิดก่อนถอนหายใจ ภาพพี่สาวเปลือยคงติดตาเขาไปอีกนานแน่ๆ คิดแล้วต้องเอาน้ำมนต์ล้างตา เพราะพี่สาวก็เปรียบเสมือนแม่เขา เขาคิดแล้วค่อยตอบ “พาพี่มินต์กลับบ้านดีกว่า”

บรรพ์ขับรถไปตามถนน กินเวลาเป็นชั่วโมง ก็มองกระจกหลัง เห็นพี่สาวกับคนรักหลับกัน เขาก็โล่งใจ ต้องพยายามทำใจเย็นแล้วขับรถจนถึงบ้าน

“บูมแวะซื้อกับข้าวก่อนนะ” มินตราสร่างจากฤทธิ์ยาก็เตือนน้องชาย

“ได้ครับๆ” บรรพ์หาที่จอดรถแถวร้านอาหาร “ผมลงไปซื้อเอง พี่พักกับปูในรถเถอะ ผมล็อกรถแล้วลงไปเอง”

“ขอบใจมาก บูม” มินตรายังคงหลับตาลงอยู่ แล้วนอนให้สบายมากขึ้น เช่นกันกับปูที่หลับต่อเมื่อคนรักบอก

สักพักบรรพ์ก็กลับมาพร้อมอาหารหอมไปทั่วรถ มินตราตกใจตื่น ก่อนรีบเปิดประตูรถออกไป แล้วอาเจียนออกมา บรรพ์รีบหาน้ำดื่มส่งให้พี่สาว ปูก็รีบช่วยเอายาดมมาส่งให้พี่แฟน

“สงสัยพี่มินต์ยังเมายาอยู่อ่ะนะ” ปูบอกแล้วก็ค่อยๆ พยุงส่งน้ำให้ดื่มเพื่อล้างปาก

“สงสัย ไม่ไหวเลยจริงๆ” มินตราส่ายหน้าช้าๆ

“ไปหาหมอไหมพี่ ให้หมอตรวจหน่อย” บรรพ์เป็นห่วงพี่สาวมากขึ้นเรื่อยๆ

“ไม่ต้องหรอก พี่อยากกลับไปนอนที่บ้านน่ะ สงสัยเพราะไม่มีอะไรในท้องด้วยแหละ ยังไม่ได้กินอะไรเลย” มินตราพยายามเรียกสติ “พี่อยากรีบกลับเข้าบ้าน ไปนอนพัก คิดว่ายานั่นคงไม่อันตรายหรอก”

“แต่พี่ไม่ไปตรวจหน่อยเหรอ จะให้แจ้งความไหม” บรรพ์ถามพี่สาวด้วยความเป็นห่วง

มินตราส่ายหน้าช้าๆ เช็ดปากอย่างเหนื่อยอ่อน แล้วตัดสินใจ “อย่าให้มันเป็นเรื่องเลย บูมก็ซัดเขาไปหลายหมัดแล้ว พี่ก็ไม่โดนทำอะไร ไม่อยากให้เป็นเรื่องใหญ่ เรากลับบ้านไปอยู่อย่างสงบๆ ของเราดีกว่านะบูม ไม่ต้องบอกพี่เคด้วยนะ พี่ปลอดภัยก็ดีแล้วล่ะ พี่ไม่อยากให้ใครกังวลเรื่องพี่อีก”

บรรพ์ได้แต่รับคำ ตอนนี้พี่สาวเป็นหลักของครอบครัว แม้เขาจะเป็นห่วงแต่ก็ต้องเชื่อฟังพี่สาว เขาพาทั้งสองกลับบ้านอย่างปลอดภัย และไม่พูดเรื่องที่เกิดขึ้น ส่วนปูก็ทำแบบเดียวกัน ทั้งหมดนั่งทานอาหารเย็นกับครอบครัว และพยายามทำตัวเองให้สดชื่น

มินตราทานได้เล็กน้อยก็ขอตัวขึ้นไปนอนพัก เพราะเริ่มรู้สึกมึนๆ

“ไม่สบายเหรอ มินต์” เมตตาถามแล้วมองหน้าซีดๆ ของลูกสาวด้วยความเป็นห่วง

“เดินทางไกล พี่มินต์เลยมึนค่ะพ่อ เดี๋ยวปูพาพี่มินต์ไปนอนเองค่ะ ถ้าเป็นลม จะได้ช่วยดูแล” ปูขอตัวแล้วช่วยพยุงพาพี่สาวแฟนขึ้นชั้นสอง

“มินต์มันทำงานหนักจริงๆ เลยนะ พ่อ” บุษบาพูดกับสามีด้วยความเป็นห่วงเช่นกัน

“ใช่แล้วล่ะ เราก็ต้องทำหน้าที่ของเราให้ดี อย่าสร้างปัญหาให้มินต์ล่ะนะ” เมตตาเตือนทุกคนแล้วก็ทานอาหารต่อ

บรรพ์ได้แต่เป็นห่วง แต่รับปากพี่สาวแล้วว่าจะไม่พูดออกมา แม้ต้องอึดอัดใจก็ตาม

**********************************

เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นในยามย่ำค่ำ แต่มินตรากำลังยุ่งกับหลานชายที่งอแงมาก เพราะไม่สบายตัว จึงได้แต่อุ้มปลอบ วันนี้เจ้าตัวเล็กไม่ค่อยสบายตัวจึงหงุดหงิดง่าย งอแงร้องไห้ตลอดเวลา

“พี่โมรับสายให้มินต์หน่อยสิคะ” มินตราพยายามปลอบหลานชาย “ไม่สบายตัวเหรอนัท ป้ามินต์โอ๋อยู่นี่ไง”

นะโมที่มาพักบ้านรุ่นน้องสาวตามคำชวน จึงกดรับสายแทน “สวัสดีครับ”

คิลเลี่ยนชะงักเล็กน้อยก่อนถามปลายสาย “นั่นมือถือมินต์หรือเปล่าครับ”

“ใช่ครับ คือมินต์พยายามกล่อมหลานหลับอยู่ครับ” นะโมตอบแทน แล้วก็มองบุษบามาอุ้มหลานต่อ ก็ส่งให้มินตรา

มินตรารับสายแล้วก็ยิ้ม “คิดถึงพี่เคจังเลยค่ะ”

นะโมเห็นเธอเดินหลบขึ้นห้องไปคุยกับสามีก็ได้แต่ถอนหายใจ เขาเข้าเมืองเพื่อทำธุระ แล้วมินตราเห็นว่าห้องว่างเยอะ จึงให้เขาเข้ามาพัก คะยั้นคะยอจนเขาใจอ่อน

มินตราเข้าห้องก็ปิดประตู แล้วถามเขาซ้ำ เมื่อเขาเงียบไปนาน “พี่เคยังอยู่ไหมคะ”

“อยู่สิ” คิลเลี่ยนถอนหายใจยาว คนรับสายเสียงไม่เหมือนน้องฝาแฝดของเธอ แล้วก็ไม่เหมือนพ่อเธอด้วย เขาได้แต่งุนงง เพราะมันก็เป็นช่วงย่ำค่ำของเมืองไทยแล้ว

“พี่เคงานยุ่งมากเลยนะคะ มินต์คิดถึงพี่จะแย่แล้ว ไม่กล้าโทรไป เพราะถ้าพี่ไม่ว่าง ยังไงก็ไม่ได้คุยแน่ๆ” มินตราจึงเป็นฝ่ายพูด เพราะไม่ได้คุยกับสามีมาหลายวันแล้ว

“มินต์เปิดดูเฟซบุ๊คบ้างหรือเปล่า” คิลเลี่ยนตั้งสติได้ก็เข้าเรื่อง

“ไม่เลยค่ะ ทำไมเหรอคะ” มินตราถามอย่างงุนงง

“แล้วได้อ่านหนังสือพิมพ์บ้างหรือเปล่า” คิลเลี่ยนถามอีกรอบ พยายามข่มใจให้เย็น

“ไม่ค่ะ ทำไมเหรอคะ” มินตราเป็นงงที่เขาถามแบบนั้น

“คิดจะอ่านข่าวอะไรบ้างไหม” คิลเลี่ยนโกรธก็ตะคอกเสียดัง

มินตราตกใจและงุนงงอย่างมาก “เกิดอะไรขึ้นคะ”

“เปิดดูเฟสบุ๊คสิ” คิลเลี่ยนกระชากเสียงอย่างแรง

มินตราต้องเปิดดู เห็นข้อความเป็นพันส่งมาถึงเธอ เห็นภาพที่เธอเปลือยอก มีผู้ชายหันหลังกำลังจะทำมิดีมิร้าย แล้วก็มีอีกหลายภาพ ที่เล่าเรื่องได้อย่างร้ายกาจ

มินตราเริ่มสะอื้นไห้ สักพักก็ปล่อยโฮออกมา “มะ...มินต์...ไม่...ได้...ทำ...นะ...คะ”

คิลเลี่ยนกระแทกลมหายใจอย่างแรง พยายามใจเย็นแล้วพูดกับมินตรา “แต่มันไม่ใช่ภาพตัดต่อ พี่เอาไปให้ผู้เชี่ยวชาญดูแล้ว มันเป็นภาพแอบถ่าย มันเกิดอะไรขึ้น”

มินตราพยายามตั้งสติแล้วเล่าความ “บูมก็เข้าไปช่วยมินต์ มินต์คิดว่าเรื่องมันจะจบ”

“จบ?? เอาอะไรมาคิด ทำไมไม่เล่าให้พี่ฟังว่ามันเกิดอะไรขึ้น ทำบ้าอะไร!!!” คิลเลี่ยนตะคอกอีกรอบ ทำให้มินตรายิ่งร้องไห้หนักขึ้นอีก เขาก็พูดเสียงเรียบ “หยุดร้องก่อนได้ไหม! ร้องไห้แล้วมันช่วยอะไรได้!”

ความหงุดหงิดของคิลเลี่ยนยิ่งทำให้มินตราร้องไห้มากขึ้น แต่พยายามไม่ส่งเสียงออกไป พอคิลเลี่ยนสงบใจได้ก็ถอนหายใจยาว

“มินต์ อย่าให้ไอ้โชติมันเข้าใกล้ได้อีก เข้าใจไหม อย่าไปยุ่งกับมันอีก แล้วงานกับพ่อพี่เสร็จหรือยัง” คิลเลี่ยนพยายามเปลี่ยนเรื่องและปรับน้ำเสียงให้นิ่งที่สุด

“ใกล้แล้วค่ะ แต่พ่อพี่อยากให้ดูตอนมันเสร็จอีกรอบ” มินตราเห็นข่าวกับข้อความแล้วก็อยากจะบ้า

“ไปฮ่องกงก่อนเหรอ” คิลเลี่ยนถามให้แน่ใจ ไม่อยากให้เธอออยู่ที่เมืองไทยอีก

“ค่ะ มินต์ต้องไปฮ่องกงก่อน กลับมาก็ดูรายละเอียดงานอีกที” มินตราบอกเล่าแล้วไม่รู้จะแก้ปัญหายังไง เมื่อคิลเลี่ยนไม่ช่วยเธอ แล้วยังโกรธเธออีก

“พี่ลืมบอกนะ พี่คงไม่ได้ไปฮ่องกงกับมินต์แล้วล่ะ มีงานแทรกเข้ามา โนอารับแทนพี่ไปแล้ว พี่ก็เลยต้องไปงานนี้ด้วย ไม่งั้นจะเสียชื่อ” คิลเลี่ยนบอกตามตรง ได้ยินเธอกลั้นสะอื้นก็รู้ว่าเธอคงเสียใจและร้องไห้ จึงปลอบ “เฮ้อ ข่าวมันออกไปแล้ว พี่ว่าก็ลืมๆ มันไปเสียเถอะ”

“พี่หายโกรธมินต์แล้วเหรอคะ” มินตราถามเขาอย่างกังวลใจ

“จะโกรธได้ยังไงล่ะ มินต์ไม่ผิดนี่ ก็แค่เหยื่อของเรื่องนี้” คิลเลี่ยนใจเย็นลงก็พูดปลอบ เขาเห็นภาพตอนแรกยอมรับว่าหึงและโกรธอย่างมาก พอหล่อนเล่าเรื่องและร้องไห้ก็ได้แต่ทำใจให้เย็นลง แม้จะยากเต็มทีก็ตาม

“มินต์อยากกลับอังกฤษแล้วค่ะ” มินตราบอกในตอนท้าย เพราะเกิดแต่เรื่องไม่ดี “มินต์ไม่อยากอยู่ที่นี่แล้ว ไม่เอาแล้ว”

“ใจเย็นๆ ก่อนสิ มินต์ ตอนนี้มินต์ก็ไม่ได้ออกไปไหนที่เป็นอันตรายก็ไม่ต้องไปสนใจหรอกนะ เดี๋ยวก็ไปฮ่องกงแล้ว อยู่ครึ่งเดือนเลยไม่ใช่เหรอ” คิลเลี่ยนถามตามเรื่อง เพราะหล่อนมีโปรโมทหนังที่นั่น เขานัดกับเธอไว้แต่พอดีมีงานมาแทรกยาว ทำให้ไม่สามารถไปหาเธอได้

“พี่เคต้องทำงานตลอดเลยเหรอคะ” มินตราถามอย่างเหงาๆ

“ใช่สิ ตั้งสามอาทิตย์น่ะ เพื่ออนาคตล่ะนะ มินต์ก็อดทนเข้าหน่อย พอเสร็จธุระที่เมืองไทยก็มาหาพี่แล้วกันนะ เรื่องข่าวก็อย่าไปคิดมาก พี่ไม่เชื่อข่าวหรอก” คิลเลี่ยนปลอบใจเธอ แม้จะยอมรับว่าหึงมากก็ตาม

“ค่ะ” มินตราค่อยสบายใจหน่อย เพราะเธอไม่อยากให้ข่าวมาทำลายครอบครัว

คิลเลี่ยนพูดคุยกับเธออีกหลายคำ ก่อนวางสาย พอวางสายแล้วเขาถึงได้นึกออกว่าจะถามเธอเรื่องผู้ชายที่มารับสาย หากเขาไม่โทรกลับไปแล้ว เพราะเขาต้องเข้าซ้อมอีก จึงไม่ได้โทรกลับไปถาม

**********************************

เมื่อข่าวนั้นมาถึงสมเจตน์ สมเจตน์ก็งุนงงไปพักใหญ่ ภรรยาเป็นคนเอาภาพมาให้ดู พร้อมพูดเยาะเย้ยลูกสะใภ้ของเขา ท่าทางหล่อนจะสะใจมากทีเดียว

สมเจตน์เห็นรอยสักที่ไหล่ขวา ก็มองหน้าลูกชาย เห็นอีกฝ่ายหลบตาก็ส่ายหน้าช้าๆ “เธอจะพูดแค่นี้ใช่ไหม”

“ใช่ ฉันบอกคุณแล้วว่าแม่นั่นไม่ได้วิเศษมาจากไหน สุดท้ายก็สวมเขาให้ไอ้คิลเลี่ยนเป็นไงล่ะ เชื่อหรือยังว่ามันต้องนอนกับผู้กำกับ ไม่งั้นคงไม่ได้แสดงหนังหรอก” แพรพลอยเยาะเย้ยเป็นการใหญ่

“พูดจบก็ออกไปได้แล้ว ฉันมีเรื่องงานจะคุยกับโชติ” สมเจตน์ไล่ภรรยาออกไปจากห้อง

แพรพลอยเยาะเย้ยจนสะใจแล้วก็ออกไป โดยมีไหมทองตามหลัง

โชติเห็นสายตาพ่อก็กลัวอยู่บ้าง กลัวว่าพ่อจะรู้ทันเขา

“แกมีอะไรจะสารภาพหรือเปล่า” สมเจตน์พูดขึ้นทันทีที่ประตูปิดลง

“อะไรครับพ่อ” โชติทำเป็นไม่รู้เรื่อง คิดจะไม่ยอมรับอยู่แล้ว

“คิดว่าฉันโง่นักหรือไง พูดมา จะได้ไม่ต้องเสียเวลาซัก” สมเจตน์ให้โอกาสลูกชาย แล้วถอนหายใจยาว

“โธ่...” โชติพูดยังไม่ทันจบ แก้วก็เฉียดหน้าเขาไป ทำให้เขาตกใจเริ่มกลัวพ่อมากขึ้น

“บอกแล้วว่าอย่าให้ต้องซัก” สมเจตน์เตือนลูกชายอีกครั้ง มองเป็นเชิงให้รู้ว่าครั้งต่อไปโดนหัวแตกแน่ แล้วเขาก็โยนหนังสือพิมพ์ซุบซิบตรงหน้าลูกชาย

โชติก็ได้แต่รับสารภาพความจริง

“ไอ้จัญไร นี่มึงคิดจะงาบเมียพี่ชายมึงเลยเหรอวะ ถึงยัยมินต์จะเคยเป็นแฟนแกมาก่อน แต่แกมันโง่ปล่อยให้หลุดมือไป แล้วแกยังคิดจะวางยาขืนใจเขาอีกเหรอวะ มึงนี่มันเลวจริงๆ ถึงกูจะมีผู้หญิงหลายคน แต่กูได้มาโดยเขาเต็มใจ นี่มึงอับจนหนทางต้องลอกเขาไปข่มขืนแล้วถ่ายภาพไปประจานสื่ออีกเหรอวะ” สมเจตน์ด่าลูกชายอีกหลายคำ

“เปล่านะพ่อ ผมไม่เคยถ่ายภาพถ่ายคลิปเก็บไว้ ผมจะมาประจานตัวเองทำไม” โชติรีบปฏิเสธในสิ่งที่เขาไม่ได้ทำ

“ก็ทำไมเฉพาะหน้ามึงที่เบลอไว้ หน้ามินต์ออกชัดอย่างนี้วะ” สมเจตน์ส่ายหน้าช้าๆ มองลูกชายอย่างสำรวจ “แผนของแกมีใครรู้อีกมั่ง”

โชติครุ่นคิด ก่อนนึกได้ แล้วบอกพ่อ “ศนิครับ เพื่อนของมินต์เขาเป็นคนหาสถานที่ให้ แต่เขาคงไม่ใช่คนติดกล้องหรอกครับ น่าจะเป็นคนในบังกะโลนั่นแหละ”

“ทำไมมันเจาะจงเบลอหน้าแกคนเดียววะ แปลว่ามันจงใจปิดเรื่องแก แล้วต้องการแฉมินต์คนเดียว ถ้าเป็นเด็กในบังกะโล มันต้องไม่เบลอหน้าใครเลยสิวะ” สมเจตน์ส่ายหน้าช้าๆ เบื่อความโง่เขลาของคนรอบข้าง “โง่ฉิบหาย ไม่รู้ว่าแกมันโง่เหมือนใคร”

โชติได้แต่เก็บกดความเครียดไว้ รู้ว่ายังไงพ่อก็คงไม่เข้าข้างเขา

“แล้วแกก็บังอาจอ้างงานของฉันอีก ให้ตายเถอะ พาแม่แกไปเที่ยวกลับมา ลูกทำเรื่อง เจริญล่ะ” สมเจตน์ถอนหายใจยาว “ช่างเถอะ เดี๋ยวฉันจัดการเอง”

โชติกำมือแน่น เหมือนเขาไม่เคยทำอะไรดีในสายตาพ่อ

“มีอีกเรื่อง ฉันได้ข่าวว่าแกสั่งเพชรเข้ามาเยอะเกินกว่าที่เราต้องใช้ไปหลายเดือน แกมันบ้าหรือเปล่าวะ ดีที่มีคนบอกฉัน ฉันถึงระงับไว้ทัน เลขาฯ แกพิมพ์เลขผิดไปตัวนึง แล้วไม่มีการเขียนกำกับจำนวนเป็นตัวอักษรอีก แกจะซื้อเพชรมาหาสวรรค์วิมานอะไรตั้งสิบเท่าวะ ถ้าฉันไม่อยู่สักคน แกจะทำยังไง” สมเจตน์ด่าลูกชายอีกรอบ

โชติตกใจเพราะเพิ่งรู้เรื่อง “ผมไม่ได้สั่งเยอะอย่างนั้น”

“สั่งสิวะ ตอนจัดซื้อเอาใบสรุปการสั่งซื้อส่งให้แกเซ็น ยังเซ็นมาไม่ตรวจสอบรายละเอียดอีก ดีที่บัญชีเขาเห็นว่าผิดปกติก็เลยระงับไว้รอฉันกลับมา ฉันจะบ้าตายกับแกจริงๆ เงินตั้งหลายสิบล้าน แกจะบ้าหรือยังไง ฉันจะไว้ใจให้แกดูแลงานต่อจากฉันได้ยังไงวะ” สมเจตน์กระแทกลมหายใจอย่างแรง มีลูกชายอ่อนแอแบบนี้ เขาก็เบื่ออย่างจริงจัง

“ผมขอโทษ” โชติได้แต่ยอมรับความผิด

“แกก็ดีแต่ขอโทษ ทำงานให้มันระมัดระวังหน่อยสิวะ ไปไกลๆ เลยไป เห็นหน้าแกแล้วมันหงุดหงิดว่ะ มีลูกแต่ละคน ใช้ไม่ได้สักคน” สมเจตน์ด่ารวม เพราะคิลเลี่ยนก็ไม่ยอมทำงานให้เขา ด้วยข้ออ้างต่างๆ นานา

โชติได้แต่เจ็บใจแล้วออกไปจากห้องทำงานของพ่อ เขาออกมาเห็นแม่กับไหมทองอยู่ด้วยกัน สักพักแม่ก็ไล่ไหมทองไป แล้วพูดคุยกับเขาด้วยความเป็นห่วงและสงสัย

แพรพลอยเห็นลูกชายท่าทางโกรธๆ ก็ถาม “พ่อเขาว่าอะไรเหรอ”

“ด่าตามเคย ผมทำอะไรไม่เคยถูกใจเท่าไอ้คิลเลี่ยนหรอก” โชติพูดอย่างน้อยใจ หลังจากที่คิลเลี่ยนได้มินตรามาเป็นภรรยาแล้ว ดูพ่อจะใจดีกับพี่ชายมากขึ้น

“มันจะทำอะไรได้ เอาเมียมันมาประเคนให้พ่อแกสิไม่ว่า ไปพักผ่อนเถอะ แม่จะขึ้นไปเอนหลังข้างบนหน่อย” แพรพลอยพูดแล้วขึ้นชั้นบนไปพักผ่อน

โชติมองเห็นไหมทองยืนแอบมองอยู่ก็พยักหน้าเรียกให้ตามขึ้นไปที่ห้อง เมื่อถึงแล้วก็ลากไหมทองเข้าห้องระบายอารมณ์เครียดของเขาอย่างบ้าคลั่ง เขาได้ไหมทองตั้งแต่หล่อนอายุสิบสี่ เขาขืนใจเธอในห้องของเขา หล่อนก็ไม่กล้าบอกใคร ภายหลังก็เป็นเมียเก็บของเขาเรื่อยมา เมื่อเขาต้องการ เธอก็ต้องมาที่ห้องเขา

ไหมทองก็ปล่อยอารมณ์ความต้องการเต็มที่ ยอมรับว่าเขาก็ทำให้เธอติดใจรสสวาทที่ซ่อนเร้น เพียงแต่เวลามีอะไรกับเขา เธอก็จะคิดถึงคิลเลี่ยนเสมอ เพราะความชอบส่วนตัวที่มีให้คิลเลี่ยนตั้งแต่ตอนย้ายเข้ามาอยู่ที่บ้านนี้ใหม่ ตอนนั้นเธออายุสิบขวบ และคิลเลี่ยนก็เป็นพี่ชายที่แสนดี คอยดูแลเธอทุกอย่าง

คิลเลี่ยนก็หน้าตาดีกว่าโชติมาก เพราะส่วนผสมที่ลงตัว

แม้จะคิดถึงคิลเลี่ยน แต่เธอก็ไม่เคยเผลอหลุดปากเรียกเขาออกมา พยายามเรียกชื่อของโชติตามที่เขาต้องการเสมอ และเธอก็ระวังป้องกันตลอด ไม่ต้องการมีลูกกับโชติที่เธอเกลียดนัก

ไหมทองคิดถึงท่าทางที่คิลเลี่ยนแสดงกับมินตราแล้วก็โกรธนิดๆ เธอไม่เคยได้ในสิ่งที่ต้องการและต้องรองรับอารมณ์คนหลายคน ยิ่งเห็นท่าทางแกล้งซื่อใสของมินตราแล้ว เธอยิ่งหมั่นไส้อีกฝ่ายอย่างมาก และเมื่อคิดถึงหล่อนในอ้อมกอดของคิลเลี่ยน เธอก็ยิ่งเกลียดมากขึ้น

หลายปีที่เห็นโชติพามินตรามาที่บ้าน ไหมทองไม่เคยชอบขี้หน้าอีกฝ่าย จึงหาเรื่องแกล้งพูดเป่าหูให้แพรพลอยเกลียดมินตรา แต่ยังไม่คิดทำอะไรมากไปกว่านั้น เพราะถึงยังไงมินตราก็ต้องถูกเขี่ยออกไปจากชีวิตโชติ และไหมทองก็รู้ดีว่า โชติต้องแต่งงานกับลูกคุณหนู ถึงเธอจะเป็นได้แค่เมียเก็บก็ไม่สำคัญ

เมื่อเห็นมินตราได้แต่งงานกับคิลเลี่ยน...ความเกลียดชังก็ยิ่งทวีคูณ

**********************************

สวัสดีค่ะ คุณผู้อ่านทุกท่าน
ฉลองได้ขึ้นอันดับ 9 ของ Top 10 ค่ะ
มรสุมของน้องมินต์ยังไม่หมดนะคะ
ยังมาเรื่อยๆ แต่ก็จะผ่านไปได้เรื่อยๆ แน่นอนค่า ^^
ขอบคุณที่ติดตามนิยายนะคะ
ดูแลสุขภาพด้วยค่ะ

แฟนเพจคือ https://www.facebook.com/plerngwaree
แอดเพื่อนได้ที่ https://www.facebook.com/plerngwareebz

ขอบคุณคอมเม้นจาก
คุณ maplezaa - ครอบครัวเดียวกันค่ะ ยังอยู่ด้วยกันอีกนานค่ะ
พี่ตุ้งแช่ - เค้าหลงรักพี่นะโมต่างหากค่า 555+ ให้มินต์ได้กะพี่เคดีละ พี่โมจะได้เป็นของเราคนเดียว อิอิ
คุณkonhin - เดี๋ยวก็ได้สำนึกค่ะ
คุณใบบัวน่ารัก - ว่างมากก็โรคจิตค่า ^^ แหม น้องมินต์เขากระโดดสกายคิกไม่ไหวหรอกค่ะ

คุณนอนดูดาว - พวกเขาเติมรักให้กันสมอค่ะ

ป.ล. อ่านแล้วรักชอบนิยายเรื่องนี้ อย่าลืมกดไลค์นะคะ
ถ้าได้ตีพิมพ์ จะเอารายชื่อคนที่กดไลค์นี่แหละค่ะ
มาจับฉลากแจกหนังสือค่ะ อยากให้คนที่อ่านได้จริงๆ ค่ะ

ป.ล. ขอความร่วมมือ "งด" ช็อป e-Book จากทาง Ookbee นะคะ
เนื่องจากยังสงสัยอยู่ว่า ทำไมยอดดาวโหลดกับยอดที่เขาให้ไปวางบิลไม่ตรงกันค่ะ
ยังไม่ได้ถามไป แต่มันไม่ควรจะเป็นแบบนั้นนะคะ
เมื่อสงสัยขอหยุดการซื้อจากทางนั้นนะคะ
ขอบพระคุณที่เข้าใจค่ะ

**********************************
eBooks ผลงานที่ผ่านมานะคะ
1. ด้วยหัวใจ...พันรัก (229 บาท / 9.99$)
- http://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NjoiMjM5MjY5IjtzOjc6ImJvb2tfaWQiO3M6NDoiNDQ2NiI7fQ
- http://www.ebooks.in.th/ebook/13221/ด้วยหัวใจ...พันรัก

2. เราสามคน..หนทางเดียว (159บาท / 6.99$)
- http://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NjoiMjM5MjY5IjtzOjc6ImJvb2tfaWQiO3M6NDoiNDQyNyI7fQ
- http://www.ebooks.in.th/ebook/13203/เราสามคน..หนทางเดียว

3. ตามตะวัน ณ จันทร์พันดาว (159฿ / 6.99$)
- http://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NjoiMjM5MjY5IjtzOjc6ImJvb2tfaWQiO3M6NDoiNDQ2OSI7fQ
- http://www.ebooks.in.th/ebook/13231/ตามตะวัน_ณ_จันทร์พันดาว

4. แผนร้ายในทางรัก (139บาท / 5.99$)
- http://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NjoiMjM5MjY5IjtzOjc6ImJvb2tfaWQiO3M6NDoiNDI2MyI7fQ
- http://www.ebooks.in.th/ebook/13179/แผนร้ายในทางรัก

5. ผูกพัน...เข้าใจ...สายใยแห่งเรา (129บาท / 5.99$)
- http://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NjoiMjM5MjY5IjtzOjc6ImJvb2tfaWQiO3M6NDoiNjMzOCI7fQ
- http://www.ebooks.in.th/ebook/16015/ผูกพัน...เข้าใจ...สายใยแห่งเรา/



เพลิงวารี
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 14 มี.ค. 2557, 09:04:14 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 14 มี.ค. 2557, 09:04:14 น.

จำนวนการเข้าชม : 2164





<< Crying Villain ตอนที่ 14   Crying Villain ตอนที่ 16 >>
ตุ๊งแช่ 14 มี.ค. 2557, 10:26:37 น.
งานเข้าตลอดเลยนางเอกคนนี้


คิมหันตุ์ 14 มี.ค. 2557, 10:42:18 น.
โดนมือดีถ่ายภาพซะงั้น น่าสงสารจัง


เดิมเดิม 14 มี.ค. 2557, 12:42:50 น.
คุณสมเจตต์จัดการยัยศนิให้มินต์หน่อยเถอะค่ะ


konhin 14 มี.ค. 2557, 13:38:50 น.
ทำไมคนรอบข้างใจร้ายจัง สงสารมินต์ ขอหวานๆเบรคหน่อยได้มั้ยค้าาา น้ำตาซึม


จ๊ะจ๋า 14 มี.ค. 2557, 15:45:52 น.
เมื่อก่อนมินต์ไม่ขี้แยขนาดนี้ ท้องรึป่าว นิดๆหน่อยก็ร้อง


maplezaa 14 มี.ค. 2557, 20:46:15 น.
สมชื่อเรื่องจริงๆ ร้องตลอดๆๆ มิ้นต์อย่าร้องเยอะ สู้บ้างง


นักอ่านเหนียวหนึบ 15 มี.ค. 2557, 01:15:01 น.
ขุ่นพระ!!!!!
ศัตรูหนูมินต์เยอะไปหน๊ายยยยย
แล้ว อิตาพี่นะโมนี่มาจากวัดไหนนะ กลับไปไวๆ เลยยย
กลัวจิงๆ ตอนไปฮ่องกง มินต์จะโดนอะไรอีกกก ><


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account