นางร้ายเจ้าน้ำตา
ชีวิตของมินตราไม่ใช่เรื่องง่าย แม้ฝันไว้ว่าจะดีขึ้นทุกวัน แต่ก็ยังเจอแต่อุปสรรคใหญ่หลวงรออยู่ทุกอย่างก้าว ดีที่ได้มีโอกาสเจอเขา...คิลเลี่ยนหนุ่มลูกครึ่งชาวอังกฤษก็คอยช่วยเหลือ เป็นหลักให้เธอได้มีชีวิตที่ดีขึ้น หนทางรักที่อาจไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบแต่จะจบด้วยความสมหวัง
Tags: นางร้าย

ตอน: Crying Villain ตอนที่ 16

นางร้ายเจ้าน้ำตา Crying Villain ตอนที่ 16

“ดีใจจังเลยค่ะ ที่ได้มากับพี่โมแทน มินต์จะได้ไม่เหงา” มินตราโล่งใจที่มีนะโมมาเป็นเพื่อน

สถานการณ์ที่เมืองไทยเลวร้ายจนเธอไม่อยากกลับไป มีคนเอาของสดมาขวางใส่เธอหลายคน เพราะเข้าใจผิดเรื่องภาพเหล่านั้น และเธอก็ไม่กล้าแก้ข่าว

ภาพนั้นทำให้คนเข้าใจเธอผิด ดีที่แฟนคลับที่เมืองนอกไม่ถือสา และคิลเลี่ยนก็ออกมาปกป้องมินตราด้วยการไม่แก้ข่าว เพราะยิ่งแก้ข่าวยิ่งทำให้เรื่องเลวร้ายขึ้น

‘ภรรยาผมเป็นคนดีที่มักถูกคนทำร้ายด้วยความไม่เข้าใจเสมอ ผมรักภรรยาของผมมาก และไม่เชื่อภาพที่ดูเหมือนจงใจใส่ร้ายภรรยาผม’

มินตราค่อยโล่งใจกับปฏิกิริยาแฟนคลับ หลังจากที่คิลเลี่ยนโพสต์ข้อความและภาพความสนิทสนมระหว่างเขาและเธอ เขาช่วยเธอได้อีกครั้ง แม้บางคนจะไม่สนใจและเกลียดเธอก็ตาม

“พี่จะไปเยี่ยมไอ้มนต์อยู่แล้ว อย่าคิดมากสิ” นะโมพูดถึงน้ำมนต์ น้องสาวที่แต่งงานกับนักวิชาการหนุ่มชาวฮ่องกง และย้ายไปอยู่ที่นั่นกับสามี

“ไม่งั้นเสียเงินค่าตั๋วแย่เชียวค่ะ ถึงคืนได้เงินแต่ก็เสียอยู่ดี อีกอย่างมินต์ดีใจที่ไม่ต้องมาคนเดียว ยังไงพี่ไปร่วมงานกับมินต์ด้วยนะคะ มินต์จะได้ไม่ต้องกังวลใจ” มินตรารีบหาคนช่วย ไม่อยากไปคนเดียวโดยไม่รู้จะเจออะไรบ้าง

“ถ้ามินต์ให้มนต์กับแฟนเขาไปด้วยนะ” นะโมไม่อยากออกงานกับเธอตามลำพัง เกรงว่าคนจะเข้าใจรุ่นน้องสาวผิดไปอีก จึงขอให้น้องสาวไปด้วย

“ยิ่งดีสิคะ ไปกันเยอะ มินต์จะได้ไม่เหงา มีคนพูดภาษาจีนเป็นอีกสองคนช่วยได้เยอะ” มินตราก็รู้สึกว่าภาษาจีนเธอไม่ค่อยแข็งแรงเท่าไรนัก

“กลัวแต่รวมตัวกันนินทาพี่น่ะสิ เพราะมีพี่คนเดียวฟังภาษาจีนไม่เข้าใจ” นะโมพูดติดตลก ก่อนมองตามสายตามินตราไปทางด้านข้างอีกข้าง

“มีสามีแล้วยังจะพาชู้ไปเที่ยวอีกนะ ดาราสมัยนี้มั่วได้อีก” ผู้หญิงคนนั้นพูดจบก็ย้อนกลับไปนั่งที่นั่งของตัวเอง

นะโมหันไปมอง เห็นมินตรามองไปนอกหน้าต่าง เห็นเงาสะท้อนเหมือนกำลังร้องไห้ “อย่าไปคิดมาก พี่กับมินต์ไม่ได้เป็นอย่างที่เขาว่าสักหน่อย”

มินตราพยักหน้าช้าๆ ก่อนพูดอย่างปลงๆ “มินต์ไม่เป็นอะไรหรอกค่ะ เดี๋ยวก็ชิน”

นะโมถอนหายใจยาว หากมินตราเป็นคนรักเขา เขาคงกอดปลอบ แต่เธอไม่เพียงแต่ไม่ใช่คนรักเขา เธอยังเป็นภรรยาของชายอื่นอีกด้วย เขาก็ได้แต่นิ่งเงียบแล้วหากิจกรรมทำ อ่านหนังสือไปเรื่อยๆ

พอเครื่องถึงฮ่องกงแล้ว เขาก็เดินตามมินตราลงจากเครื่อง เห็นมินตราถูกผู้หญิงคนนั้นชน ก็ขมวดคิ้ว แล้วเดินตามไป แต่มินตราดึงเขาไว้

“พี่เคบอกว่า ใครจะทำอะไรก็ปล่อยเขา เรื่องของมินต์กับพี่เค เราเข้าใจกันดี ไม่ต้องไปสนใจการกระทำของคนอื่นหรอกค่ะ พี่โมก็อย่าไปคิดมากเลยนะคะ คนชั่วถ้าเรายิ่งไปตอบโต้ ก็ยิ่งเหมือนไฟลามทุ่งนะคะ” มินตราอธิบายความพอให้ได้ยินแค่เธอกับรุ่นพี่ แต่ผู้หญิงคนนั้นชะลอฝีเท้าก็ได้ยินพอดี

“นี่หล่อนว่าใครยะ กระหรี่ไฮโซอย่างหล่อนน่ะ มีสิทธิอะไรมาว่าคนอื่น แค่เป็นดารา ได้แสดงหนังหน่อย ก็คิดว่าตัวเองเห็นหงส์หรือยังไง” ผู้หญิงคนนั้นต่อว่าเธออย่างแรง

มินตรามีสีหน้าตื่นตระหนก น้ำตาร่วง ไม่คิดว่าจะถูกว่าแรงๆ แบบนี้

“จะบ้าหรือไงป้า แต่งหน้าอย่างกับจะไปออกงิ้ว หัวเสียกับใครมา ก็อย่าไปลงที่รุ่นน้องผมสิ หน้าตาก็ดี แต่พูดออกมาทียิ่งกว่าแม่ค้ากลางตลาด ทำตัวสันดานต่ำมากนะ ป้า สามีถึงไม่อยากเอาล่ะสิ เงียบเลยนะ ไปไกลๆ เลย ไม่อยากให้น้ำลายเสนียดจัญไรมาโดนตัว หัดแปรงฟันเสียมั่ง ปากจะได้สะอาด เผื่อใจจะสะอาดกว่านี้” นะโมจัดหนักทันที เพราะทนพฤติกรรมไม่ไหว ไม่สนใจผู้โดยสารคนอื่นที่มองมา

นะโมดึงแขนมินตราเข้าไปที่ตรวจสอบเอกสารจนเรียบร้อยแล้วก็รีบพาไปหาน้องสาวทันที

“ขอบคุณพี่โมนะคะ” มินตรายกมือไหว้อย่างซึ้งใจ

น้ำมนต์เห็นและได้ยินก็ถาม “มีอะไรเหรอ พี่โม มินต์ขอบคุณพี่ทำไม”

เธออายุน้อยกว่านะโมไม่ถึงสองปี แต่อายุมากกว่ามินต์หนึ่งปี ก็เคยเห็นมินตรามากับพวกรุ่นน้องของพี่ชายอยู่

“เจอยัยป้าปากหมาคนหนึ่ง หาเรื่องมินต์ตั้งแต่บนเครื่อง พอลงจากเครื่องก็ยังมาหาเรื่องอีก” นะโมเล่าความให้น้องสาวฟัง

“อย่าไปคิดมากเลยว่ะ มินต์ ปากคนน่ะยืดยาวจะตาย ยิ่งเป็นเรื่องฉาวๆ ยิ่งอยากกระพือให้คาวไปใหญ่ พี่ก็คิดๆ อยู่นะว่ามินต์กับพี่โมจะเจอดีไหม เจอเข้าจริงๆ ข้อหาหนักเสียด้วย อย่าไปคิดมากเลย สามีมินต์เข้าใจก็พอแล้วล่ะ” น้ำมนต์พาทั้งสองไปที่รถ สามีเธอไปทำงาน เธอจึงมารับพี่ชายกับมินตราเอง

“ขอบคุณค่ะ พี่มนต์” มินตรายกมือไหว้แล้วก็สบายใจ เธอช่วยเอาของขึ้นรถ แล้วก็ขึ้นไปนั่งเรียบร้อย จากนั้นก็มองภาพระหว่างทางเรื่อยๆ

น้ำมนต์ไปส่งมินตราที่โรงแรมก่อนแล้วค่อยพาพี่ชายไปพักที่ห้องชุดของสามีกับตัวเอง เมื่อถึงโรงแรมแล้ว เธอจึงบอกมินตราเพื่อนัดเจอกัน “เย็นๆ พี่จะมารับไปทานมื้อเย็นกันนะ ทีมงานไม่ได้นัดใช่ไหม”

“นัดเจอกันตอนบ่ายค่ะ เสร็จแล้วก็พรุ่งนี้เลย” มินตราบอกแล้วก็รับคำ ได้เบอร์โทรของน้ำมนต์ไว้แล้วก็ขอตัวไปที่ห้องพัก

น้ำมนต์ก็ขับรถออกมา พอถึงตึกที่สามีเป็นเจ้าของห้องชุด ก็ขึ้นไปที่ห้อง ซึ่งเป็นห้องชุดที่มีพ่อแม่สามีขจองน้ำมนต์อยู่รวมด้วย เป็นห้องชุดขนาดใหญ่พอสมควร

“ไม่คิดจะไปหาบ้านอยู่บ้างเหรอ” นะโมเห็นแล้วก็สงสารน้องสาว เพราะน้องสาวเคยอยู่บ้านหลังใหญ่ที่เมืองไทย แม้ตอนมาเรียนต่อที่ฮ่องกงก็ตาม

“แอนดี้เขาสะดวกน่ะ อีกอย่างครอบครัวเขาก็อยู่มานานแล้ว จะให้ไปไหนได้ล่ะ” น้ำมนต์แนะนำพี่ชายให้พ่อแม่ของสามีรู้จัก และนะโมก็ทักทายอย่างสุภาพ ห้องชุดนี้มีสองห้องนอน เขาคงต้องนอนที่โซฟา เพื่อประหยัดค่าห้องพัก

“พี่คิดยังไงมาหาเนี่ย” น้ำมนต์ถามให้แน่ใจอีกรอบ

“ก็แม่ฝากมาเยี่ยมไง” นะโมตอบคำตอบเดิม

“ถามจริงๆ แม่ฝากมาเยี่ยม หรือมาเพราะอย่างอื่น ไม่ได้นะ มินต์มันมีผัวแล้ว ต่อให้ชอบยังไงก็ต้องคิดดีๆ นะ” น้ำมนต์รีบดักคอพี่ชาย เพราะดูท่าทางมินตราจะรักสามีมากด้วย

“แม่ฝากมาเยี่ยม” นะโมยืนยันคำเดิม แล้วก็เอาของฝากมาให้พ่อแม่ของน้องเขย แล้วก็เล่นกับหลานสาว จากนั้นก็เปลี่ยนเรื่องไปเรื่อยๆ แล้วกะเวลาไปทานมื้อค่ำกับมินตรา

เขาไม่อยากคิดอะไรมาก และไม่อยากให้น้องสาวคาดคั้นเขา บางครั้งเขาก็รู้ว่าเขาไม่สามารถปฏิเสธท่าทางอ่อนไหวของมินตราได้เลย แล้วเขาก็เป็นห่วงด้วย แม้เธอจะเคยมาถ่ายหนังที่นี่ตามลำพังก็ตาม หากท่าทางกังวลใจของเธอหลังรู้ว่าสามีมาไม่ได้ชัดเจนมาก

ต่อให้หัวใจเขาไม่มีวันได้รักมาครอง...แต่เขาก็ไม่อยากให้เธอต้องเสียใจซ้ำๆ จากเรื่องที่เกิดขึ้น

**********************************

คิ้วงามขมวดเข้าหากันอย่างงุนงง เพราะเธอได้รับสายจากสมเจตน์ น่าแปลกที่สมเจตน์โทรมาถามสารทุกข์สุขดิบเธอแบบนี้ ทำให้เธอกังวลมากขึ้น

“ที่โทรมาถาม ก็เรื่องข่าวนั่นแหละ” สมเจตน์บอกในตอนท้าย

ถ้าเป็นคนอื่น เขาคงพูดตรงๆ แต่เมื่อเจอมินตราสองสามครั้ง รู้สึกว่าเธออ่อนไหวมากเช่นกัน ทำให้เขานึกไม่ออกว่าช่วงที่อยู่กับคิลเลี่ยนที่อังกฤษ หล่อนอยู่รอดมาได้ยังไง สุดท้ายเขาก็เดาว่าเจ้าลูกชายคงให้การดูแลอยู่นั่นเอง

“ข่าวทำไมเหรอคะ” มินตราพยายามเก็บเสียงไม่ให้สั่น กลัวจะถูกปลายสายกล่าวหาอีกคน

“ฉันรู้ว่ามันเป็นข่าวเท็จ และฉันก็แอบสืบจนรู้เรื่องแล้วว่าใครที่ทำแบบนั้นกับเธอ ฉันอยากจะจัดการขั้นเด็ดขาด แต่ต้องได้รับความร่วมมือจากเธอ” สมเจตน์บอกคร่าวๆ ไม่อยากให้ลูกสะใภ้หวาดหวั่น

“เอ๋” มินตราได้แต่งง ก่อนอธิบาย “พี่เคบอกว่าไม่ต้องไปวุ่นวายกับเรื่องในเมืองไทยค่ะ ทางบริษัทหนังเขาไม่สนใจที่เมืองไทยเท่าไรค่ะ อีกอย่างฉันก็ไม่ได้ทำอย่างนั้นจริงๆ พี่เคก็เลยบอกว่าไม่ต้องสนใจ”

“ไม่สนใจไม่ได้ เพราะมันมีชื่อฉันเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย เอาเป็นว่าเธออนุญาตแล้วก็แล้วกัน ฉันจะให้ทนายความเป็นตัวแทนฟ้องคนสร้างข่าวให้เป็นตัวอย่าง ว่าจะทำข่าวต้องมีจรรยาบรรณ ไม่ใช่สักแต่หาประโยชน์จากคนอื่นอย่างคึกคะนอง เห็นว่าเธอได้รับความเดือดร้อนจากคนหูเบาด้วยไม่ใช่เหรอ รู้ไหมว่ามีภาพเธอกับผู้ชายอีกคนอัพขึ้นเมื่อกี้นี้เอง ด่าเธออย่างเผ็ดมันด้วย ฉันจะฟ้องให้หมด ถ้ามันทำให้เธอกับคิลเลี่ยนเสียชื่อ เพราะใครๆ ก็รู้แล้วว่าเธอคือลูกสะใภ้ของฉัน และคิลเลี่ยนเป็นลูกชายฉันด้วย เข้าใจนะ จะมาปล่อยไว้เฉยๆ ไม่ได้ ต้องรู้จักปกป้องศักดิ์ศรีไว้บ้าง” สมเจตน์ตัดบทในตอนท้ายอย่างเฉียบขาด

“ค่ะ ตามแต่คุณจะกรุณา” มินตราก็ได้แต่ยอมรับ ไม่รู้ว่าต้องเจออะไรบ้าง

“งั้นฉันจะให้คนส่งเอกสารยินยอมให้เป็นตัวแทนไปแล้วกันนะ อยากรีบจัดการให้เป็นชิ้นเป็นอัน เธอก็รอรับสายด้วยแล้วกัน คนของฉันจะไปหาเธอพรุ่งนี้แล้วล่ะ” สมเจตน์สรุปความอีกเล็กน้อยแล้วก็วางสาย มัดมือชกเพราะเขาวางแผนไว้หมดแล้ว

มินตรามึนงงเล็กน้อย แต่ยังเป็นช่วงบ่ายของวัน จึงไม่กล้าโทรไปรบกวนสามี แต่ไปตามนัดกับทีมงาน เพื่อนัดแนะกันให้เรียบร้อย รวมทั้งเสื้อผ้าที่เธอต้องใส่ในวันงานอีกด้วย ฝ่ายเสื้อผ้าเอาแบบมาให้ แล้วเลือกให้เสร็จ เธอต้องใส่ชุดผ่าอกจนเห็นสะดือ ดีที่ยังปิดหน้าอกสองข้างไว้ แล้วผ่าหลังถึงเอว สีแดงเพลิงให้สมกับความร้ายกาจในเรื่อง

ทั้งรองเท้าและช่างแต่งหน้าให้พร้อม นัดแนะกันจบแล้วเธอก็แจ้งว่าขอพาเพื่อนไปด้วย เพราะไม่อยากอยู่ตามลำพัง ซึ่งทีมงานก็รับคำตามเรื่อง

“คุณมินต์ครับ ผู้กำกับกับผู้คัดเลือกนักแสดงอยากนัดคุยเรื่องหนังใหม่กับคุณ แต่หนังเรื่องนี้ยังต้องใช้เวลาเตรียมบทกับฉากอีกสองปี ไม่ทราบว่าคุณมีเวลาว่างวันไหนพอจะนัดคุยบ้างได้ไหมครับ” ฝ่ายติดต่อประสานคุยกับเธอแล้วนัดแนะช่วงเวลา ที่โรงแรมแห่งนี้ทางนี้ได้จองให้เธอเท่ากับช่วงเวลาที่เธอมา

มินตรานั่งฟังแล้วบันทึกข้อมูลลงแท็ปเล็ตของเธอให้เรียบร้อย จากนั้นก็แยกกับทีมงานแล้วขึ้นไปที่ห้องพัก นอนหลับอยู่พักใหญ่ ก่อนมีสายโทรเข้า “สวัสดีค่ะ”

“ไงจ๊ะ เมียจ๋า” คิลเลี่ยนทักทายมินตราอย่างอ้อนๆ ตอนนี้เขาได้เวลาพัก พรุ่งนี้ถึงเริ่มงานต่อ

“พี่เคน่ะ ทำเสียงเหมือนเมาเลยค่ะ” มินตราพยายามตื่นและสดชื่น ถึงอย่างไรที่เขาโทรมาเธอก็ดีใจแล้ว

“เมานิดหน่อย วันนี้พี่ได้พักหนึ่งวัน เลยดื่มนิดนึงจ๊ะ คิดถึงเมียจัง” คิลเลี่ยนเมาแล้วก็พูดอ้อน

“ก็อดทนหน่อยค่ะ เมาแล้วก็ปิดบ้านดีๆ นะคะ นอนหลับให้สบาย ไว้สร่างเมาค่อยโทรหามินต์ก็ได้นี่คะ” มินตราแอบยิ้มที่เขาคิดถึงเธอ

“ก็คิดถึงเมีย ไม่ให้โทรหาเมียจะให้โทรหาใครล่ะ อยากกอดเมียจัง เมื่อไรจะได้กอดนะ” คิลเลี่ยนออดอ้อนต่อไป

เขาไม่ได้เปิดบ้านต้อนรับใครอยู่แล้ว ตั้งแต่เช้ายังไม่ได้เปิดประตูที่ล็อกไว้ตั้งแต่เมื่อคืน จึงไม่ห่วงว่าใครจะบุกเข้ามาทำร้ายเขาตอนเมา

“ก็รอพี่ว่างอยู่เนี่ยค่ะ อืม ไม่รู้จะคุยรู้เรื่องไหม พ่อพี่โทรมาบอกว่าจะดำเนินการฟ้องร้องคนที่ปล่อยข่าวมินต์น่ะค่ะ” มินตราเล่าความไปตามเรื่อง ส่วนคิลเลี่ยนก็แค่รับฟังเท่านั้น

“สงสัยโทรหาพี่ไม่ติดมั้ง พี่เพิ่งเปิดเครื่องตอนคิดถึงมินต์เนี่ยแหละจ๊ะ ช่างเถอะ เขาอยากทำอะไรให้เขาทำไปเถอะ” คิลเลี่ยนพูดแล้วก็หาว

“แหม เมาจริงจังใช่ไหมคะ หาวเสียงดังเชียว ไปนอนเถอะค่ะ มินต์จะไปเตรียมตัวไปทานมื้อค่ำกับพี่โม” มินตราบอกสามีแล้วว่ามากับนะโมที่เป็นรุ่นพี่

“อะไร!! ไปทานข้าวกับผู้ชายที่ไม่ใช่สามีได้ยังไง พี่ไม่ให้ไป” คิลเลี่ยนก็ทำเสียงเข้มขึ้นมาทันที

“ไปทานกันหลายคนค่ะ ไม่ได้ไปสองคนสักหน่อย น้องสาวพี่โม พี่มนต์น่ะค่ะ เขาพาสามีมาด้วย แล้วมินต์ก็รู้จักพี่มนต์ดีนะคะ ให้มินต์ไปนะ” มินตราแกล้งขออนุญาตเขา ไม่รู้ว่าเขาหึง นึกว่าเขาแกล้งขู่เท่านั้น

“ก็ได้ๆ ถ่ายรูปมาให้ดูด้วยว่าไปกันหลายคน ไม่ได้ไปสองคน เมียใคร ใครก็หวง ไม่รู้ล่ะ” คิลเลี่ยนพูดเสียงขุ่นๆ แต่ก็พยายามเก็บความหงุดหงิดไว้

“ได้เลยค่ะ จะถ่ายให้ครบสี่คนเลย จริงสิคะ พี่เครู้ข่าวของวันนี้ไหมคะ” มินตราถามสามีเพราะยังไม่ได้เปิดดูข้อมูลอะไรเลย

“ยังเลย พี่ก็ตื่นมาซ้อมเพลง ดื่ม คิดถึงเมีย แล้วก็ยังไม่ได้ติดต่อกับโลกภายนอกเลย” คิลเลี่ยนพูดแล้วก็เปิดดูซักหน่อย เห็นมีคนเอาภาพภรรยากับนะโมมาโพสต์ที่หน้าแฟนเพจและหน้าไทม์ไลน์ของเธอก็ยักไหล่ “รูปกับผู้ชายนี่เหรอ”

“เหรอคะ มินต์ยังไม่ได้ดูเลยค่ะ” มินตราก็เปิดดูเช่นกัน เห็นรูปตัวเองเดินกับรุ่นพี่ ตอนขาออก เห็นข้อความแล้วตกใจ น้ำตาเกือบไหล

‘กระหรี่ไฮโซควงชู้มาช็อปปิ้งไกลถึงฮ่องกง คงเสพสมเสพสุข สวมเขาให้ผัวโง่อยู่แน่’

“มินต์ไม่ได้คิดจะทำอย่างนั้นนะคะ” มินตรารีบอธิบาย กลัวเขาโกรธอีก

คิลเลี่ยนมองดูเฉยๆ ไม่คิดมากอะไร แล้วพูดปลอบ “ช่างมันเถอะมินต์ คนมันจะหาเรื่องน่ะ ต่อให้มินต์เดินกับคนไม่รู้จัก มันก็ว่ามินต์พาชู้มาด้วย ไม่ต้องไปคิดมาก”

“ค่ะๆ เฮ้อ ทำไมใครๆ ก็ใจร้ายกับมินต์จังเลยค่ะ” มินตราถอนหายใจยาว รู้สึกน้อยใจที่ใครๆ ก็ไม่ชอบ

“น่าๆ อย่าเครียดไป พี่เชื่อใจมินต์คนเดียวก็พอ” คิลเลี่ยนได้ยินเสียงกดกริ่งก็รีบตัดบทวางสาย

มินตราถอนหายใจยาว แล้วพิมพ์ข้อความชี้แจงแฟนคลับ แต่ไม่สนใจคนอื่น

‘ผู้ชายคนนี้คือรุ่นพี่ของมินต์เองนะคะ เขามาเยี่ยมน้องสาวที่ฮ่องกง ไม่รู้ว่าจะอธิบายยังไงแล้ว เหนื่อยเหลือเกิน’

ข้อความจากแฟนคลับไทยตอบกลับมา ‘พวกเรายังเป็นกำลังใจให้เสมอ เราได้เจอพี่มินต์ ได้คุยกับพี่มินต์ รู้ว่าพี่มินต์เป็นคนดี ใครที่หลงเชื่อก็คือคนหูเบา เราเอาใจช่วยให้กำลังใจนะคะ’

ข้อความจากฝั่งอังกฤษก็ไม่ถือสาเชื่อข่าว เพราะมินตราถูกร้ายอยู่บ่อยๆ ทั้งที่ไม่ค่อยไปหาเรื่องใคร เธอยังเป็นคนอัธยาศัยดี ชวนแฟนคลับไปทำบุญบริจาคทานบ่อยๆ จึงมีแฟนคลับที่เหนียวหนึบและหนักแน่นพอที่จะไม่เชื่อถือคำพูดหรือรูปภาพที่สามารถแต่งสรรปั้นเรื่องได้

เป็นความโชคดีในความโชคร้ายของมินตรา...

**********************************

เสียงกริ่งดังขึ้นหลายรอบ คิลเลี่ยนสวมเสื้อคลุมตัวเดียวแล้วไปดูว่าใครมา เป็นมาแอลิซก็ถอนหายใจก่อนเปิดประตูให้ เพราะหล่อนจะต้องเซ้าซี้อีกนานแน่ ถ้าเขาไม่เปิดประตูสักที

“อะไรกัน อาบน้ำเหรอ เปิดช้าเชียว” มาแอลิซพูดอย่างมีจริต เห็นเขาถือแก้วเหล้าอยู่ก็ยิ้ม แอบกดโทรศัพท์โทรออก แล้วเดินเข้าบ้านเขา

“เปล่าหรอก แต่วันพักเลยขี้เกียจ แล้วไม่ได้นัดใครมาด้วยน่ะ” คิลเลี่ยนตอบและเห็นเธอถือวิสาสะเดินเข้ามาในบ้านก็ได้แต่ปล่อยเข้ามา เขาวางแก้วเหล้าที่บาร์แล้วหันไปถาม “มีอะไรเหรอ”

มาแอลิซเปิดม่านออกแล้วค่อยหันมาคุย “ก็อยากมาเยี่ยม เพิ่งจะได้มีวันว่างตรงกันนี่นะ”

พักหลังคิลเลี่ยนรับงานที่ไม่ตรงกับมาแอลิซ เพราะเพลงที่เขาเล่นตอนนี้ เล่นแต่เพลงของคนอื่นมากขึ้น เขาเข้าวงดนตรีใหญ่ไปแล้วด้วย และเพลงของเขาก็ถูกดัดแปลงให้สามารถเล่นในวงได้ และมีนักร้องอื่นอยู่แล้ว ทั้งเธอยังมีงานเยอะจนไม่สามารถปลีกตัวไปร่วมงานได้

“ขอบใจ แค่นี้ใช่ไหม วันนี้ผมอยากพักผ่อน ไม่มีเวลารับรองคุณหรอกนะ ยังไงคุณกลับไปก่อนเถอะ ไว้เราค่อยนัดทานมื้อเที่ยงวันอื่น” คิลเลี่ยนปฏิเสธ เพราะเขาก็เมามากพอที่จะต้องนอนพัก แทนที่จะทำผิดกับภรรยาเขา

มาแอลิซลุกขึ้นแล้วเดินมาหาเขาอย่างมีจริต ก่อนจะถอดเสื้อโค้ทออกเปลือยกายต่อหน้าเขา “เรามาทำกิจกรรมคลายเครียดกันเถอะ”

“ไม่ล่ะ ผมมีภรรยาแล้ว จะไม่คิดจะนอกใจภรรยาผม” คิลเลี่ยนหยิบเสื้อโค้ทพยายามจะสวมคืนให้ แต่เธอกลับกระตุกสายคาดเอวเขา แล้วพยายามถอดเสื้อคลุมอาบน้ำของเขา ทำให้เขาต้องยื้อกับเธอ “คุณจะบ้าหรือไง หยุดนะ”

พอเขาพยายามจะดึงเสื้อคลุมให้เข้าที่ เธอก็พยายามกระชากออก และหันข้างให้หน้าต่าง สักพักก็พยายามโน้มจนดึงเขาคร่อมตัวเธอ เขายังคงสวมกางเกงขาสั้นไว้ข้างใน แต่ก็ทำให้ภาพออกมาดูน่าหวาดเสียว เพราะมาแอลิซเปลือยกายอยู่ หล่อนโน้มหน้าเข้าหาเขา จูบเขาขณะที่เขาพยายามยันตัวลุกขึ้น ทำให้ลำบากพอสมควร แทนที่จะเกิดอารมณ์ เขากลับโกรธจัดมากไปกว่าเดิม

หากเขาต้อการเอง มันคงเข้าทางเธอ แต่นี่เขาปฏิเสธจริงจัง สิ่งที่เธอทำจึงทำให้เขาโกรธจัด ยันพื้นอย่างแรงแล้วถอยออกมาสำเร็จ แต่หล่อนก็เกาะติดมาอยู่บนตัวเขา เขาก็ผลักเธอจนสุดแรง จนเธอหงายหลังตึง เขาก็ลุกขึ้นยืน จัดเสื้อคลุมให้เรียบร้อย แล้วจับเธอสวมเสื้อโค้ทขณะที่เธอกำลังมึน แล้วลากเธอออกไปจากบ้าน

“ไปให้พ้น” คิลเลี่ยนไล่เธอไปแล้วก็ปิดล็อกประตู ถอนหายใจยาวที่หล่อนเกิดบ้าขึ้นมาแบบนี้

เขาปิดม่านแล้วเดินขึ้นชั้นบน ก่อนหลับพักผ่อน อยากหนีให้พ้นจากความวุ่นวายทั้งหลายที่เกิดขึ้น

ขณะที่มาแอลิซจะทุบประตู ก็นึกขึ้นได้แล้วยักไหล่ ไปหาทางระบายอารมณ์ที่อื่นก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นเขาคนเดียวเสียเมื่อไร จึงรามือไปหนึ่งรอบถือว่าสำเร็จตามแผนส่วนหนึ่งก็พอ

**********************************

การโปรโมทหนังเป็นไปได้ด้วยดี มินตราค่อยโล่งใจ ยังต้องอยู่คุยงานอีกหน่อย แล้วก็มีกำหนดกลับที่แน่นอนแล้ว เธอก็สบายใจได้มาก หากพอเปิดเช็คในเฟสบุ๊ค เธอก็เป็นตกใจ เมื่อมีคนเอาภาพสามีกับมาแอลิซที่ต่างก็เปลือยมาโพสต์ไว้หน้าไทม์ไลน์ของเธอ

‘คู่สามีภรรยาเปิดกว้าง ให้อิสระกันคั่วมั่วคาว’

มินตราร้องไห้แล้วกดโทรออกทันที แม้จะเป็นช่วงเวลาที่เขากำลังจะขึ้นเวทีก็ตาม

“ร้องไห้ทำไม” คิลเลี่ยนได้ยินเสียงร้องไห้ก่อนจึงถามอย่างสงสัย ใกล้ถึงเวลาขึ้นเวทีแล้ว เขาก็รับให้เสร็จๆ ไป

“มีข่าวพี่กับมาแอลิซ” มินตราพูดได้แค่นี้เขาก็สวนกลับมาทันที

“เรื่องแค่นี้เอง พี่ไม่มีเวลาคุยหรอกนะ พี่เห็นแล้วเมื่อเช้า แต่พี่กำลังเตรียมตัวขึ้นเวที” คิลเลี่ยนพูดอย่างรำคาญใจ ยิ่งข่าวซุบซิบที่นี่ก็เยอะพอแล้ว เขากำลังจะขึ้นเวที จึงไม่อยากให้เรื่องแบบนี้เข้ามาวุ่นวาย

“มันไม่จริงใช่ไหมคะ” มินตราถามให้แน่ใจ

“จะบ้าหรือไง ถ้ามันจริง พี่คงหย่ากับเธอไปเอามาแอลิซเป็นชาติแล้ว อย่างี่เง่าได้ไหม ทีเธอล่ะ มีภาพกับคนโน้นคนนี้ พี่ยังเชื่อเธอเลย แล้วนี่มาถามทำไม เอาเวลาไปทำอย่างอื่นแทนได้ไหม เลิกเสพข่าวบ้าๆ พวกนี้สักที แค่นี้นะ พี่จะขึ้นเวทีแล้ว ทำไมต้องมาทำให้วุ่นวายใจก่อนขึ้นเวทีด้วยนะ” คิลเลี่ยนกดตัดสายทันที เขาต้องการทำสมาธิอีกสักพัก เพราะเธอมาทำให้เสียสมาธิแล้ว

มินตรานอนซบหมอนร้องไห้หนักขึ้น เมื่อเขาตัดบทวางสายแบบนี้ ก่อนมีเสียงเคาะประตู เธอก็ไปดูแล้วเปิดออกไปต้อนรับ แต่ยิ้มไม่ออก

นะโมเห็นมินตราร้องไห้ก็แปลกใจ “เป็นอะไรเหรอ มินต์”

มินตราส่งภาพข่าวให้รุ่นพี่ แล้วก็นอนร้องไห้ต่อ

“เคว่ายังไงบ้างล่ะ” นะโมต้องถามก่อนอย่างมีสติ

“พี่เคว่ามินต์งี่เง่า ทีมินต์มีข่าวเขายังเชื่อใจมินต์ เขาว่ามินต์ทำให้เขาวุ่นวาย” มินตราพูดแล้วก็ร้องไห้อีก

นะโมเห็นเป็นเรื่องอารมณ์ล้วนๆ ก็ได้แต่สงสาร เขาปล่อยเธอร้องไห้จนสงบ โดยทิ้งระยะห่างพอสมควร

“ขอโทษนะคะ” มินตราพูดขึ้นมาทันที เมื่อได้สติ ถอนหายใจยาว

“ขอโทษทำไมล่ะ พี่รู้ว่ามินต์กำลังเศร้า แล้วสามีก็ไม่เข้าใจอารมณ์ของมินต์ มันเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ แต่พี่อยากให้มินต์ตั้งสตินะ ถ้าข่าวมันจริง คิดว่าคนอย่างเคเขาจะทำยังไง” นะโมถามอย่างเป็นกลาง อยากจะเข้าข้างมินตรา แต่เขาก็ไม่อยากทำตัวเป็นเด็กๆ ที่ต้องเลือกข้างแบบนั้น

มินตรานิ่งคิดแล้วถอนหายใจยาว “พี่เคคงหย่ากับมินต์แล้วไปคบกับมาแอลิซค่ะ”

“ทำไมคิดอย่างนั้นล่ะ ไม่คิดเหรอว่า เขาอาจจะแค่สนุกชั่วคราว ก็เลยไม่อยากเลิกกับมินต์” นะโมถามแล้วได้ยินเสียงเคาะประตูอีกรอบ เห็นน้องสาวอุ้มหลานสาววัยสามขวบมาด้วย ก็เปิดประตูให้

“พี่เคบอกมินต์เองนี่คะ อีกอย่างพี่เคก็เป็นคนแบบนั้น เขาไม่ทำอะไรแบบนี้ลับหลัง เขาทำต่อหน้าเลยค่ะ” มินตราเล่าต่อหลังทักทายกับน้ำมนต์แล้ว

“เรื่องอะไรเหรอคะ” น้ำมนต์เป็นงง แล้วปล่อยลูกเล่นของเล่นไป

นะโมจึงเล่าให้น้องสาวฟังคร่าวๆ พร้อมเอารูปให้ดู

“เป็นมนต์หน่อยไม่ได้ จะแหกอกให้แยกเลย” น้ำมนต์พูดอย่างเมามัน ทำให้พี่ชายมองเธอออย่างดุๆ

“พอเถอะ ยัยมนต์ ยุให้ผัวเมียเขาแตกแยกมันบาปนะ” นะโมสั่งสอนน้องสาว ก่อนจะหันไปคุยกับมินตรา “มินต์เชื่อมาก ว่าเขาจะไม่ทำลับหลังใช่ไหม”

“ใช่ค่ะ” มินตราบอกตามตรง แม้จะไม่มั่นใจนัก แต่ที่ผ่านมาเรื่องไหนเขาทำ เขาก็รับ เรื่องไหนไม่ได้ทำ เขาจะไม่รับแล้วโมโหมากด้วยเวลาใครเซ้าซี้ถามให้ยอมรับ

“งั้นมินต์ก็ต้องคิดถึงความเป็นไปได้ที่ว่าเป็นการจัดฉากขึ้น แล้วรอสามีมาตอบคำถามนี้เอง ว่าแต่เขาไม่คุยให้กระจ่างเหรอ” นะโมส่ายหน้าไม่ให้น้องสาวเข้าแทรก

“พี่เคเขากำลังจะขึ้นแสดงค่ะ เขาก็เลยยิ่งหงุดหงิดที่มินต์โทรไปหาตอนนั้น” มินตราบอกแล้วก็ถอนหายใจ ตอนนี้ใจเย็นมากแล้วน้ำตาก็หยุดไหล

“อะไรเรื่องแบบนี้มันต้องอธิบายเลยสิ ไม่ใช่รอทำงานเสร็จก่อน เรื่องของครอบครัวไม่สำคัญเลยรึไง เป็นพี่ไม่ได้ฉะแหลก” น้ำมนต์โกรธแทนมินตรามาก ทำให้ลูกสาวมองแม่อย่างงงๆ

“ใจเย็นๆ ก่อนสิ มนต์ มินต์ต้องรู้สิว่าเขาเป็นคนยังไง ก่อนจะขึ้นเวทีเขาก็ต้องเตรียมตัวก่อนอยู่แล้ว ไม่กี่ชั่วโมงเขาก็คงโทรมาคุยกับมินต์เองล่ะ” นะโมพูดอย่างมองโลกในแง่ดี

มินตราฟังแล้วก็เห็นด้วย “นั่นสิคะ พี่เคคงโทรมาเองล่ะค่ะ”

น้ำมนต์ได้แต่ขัดใจ “มินต์นี่มองสามีเขาดีมากเลยนะ”

“มนต์ต้องลองคิดดูนะ ตอนมินต์มีข่าวเสียๆ หายๆ สามีเขายังเชื่อใจมินต์เลย แล้วทำไมพอเกิดกับเขาบ้าง มินต์จะฟังเขาก่อนไม่ได้เชียวเหรอ” นะโมเตือนสติน้องสาว แล้วดักคอก่อนที่น้องสาวจะเถียง “อย่าเถียงนะว่า ถ้าแอนดี้มีเรื่องแบบนี้บ้าง มนต์จะไม่อยากฟังเขาอธิบาย”

น้ำมนต์พูดไม่ออก ได้ยินลูกสาวเริ่มโวยวายอยากกินขนม ก็ถอนหายใจยาวแล้วแกะขนมให้ลูกสาว

“พี่ว่ามินต์ใจเย็นๆ ก่อน รอจนเคเขาอธิบายค่อยว่ากัน ตอนนี้ก็ต้องรู้นะว่า อย่าเอาเรื่องไปให้เขา เขาจะได้ไม่รำคาญใจ จะกลายเป็นปัญหาใหญ่ แต่งงานแล้วต้องหนักแน่น ไม่ใช่ใครเอาภาพอะไร เอาคลิปอะไรมา ก็เชื่อไปเสียหมด มันแต่งกันได้หมดแหละ” นะโมเตือนสติทั้งน้องสาวและรุ่นน้อง ก่อนจะเอาขนมออกจากกระเป๋าแล้วส่งให้หลานสาว “โตแล้วจะดื้อเหมือนแม่ไหมเนี่ย”

“พี่โม” น้ำมนต์หันไปค้อนพี่ชาย ก่อนถาม “เราจะไปทานมื้อค่ำกันไหมคะ”

“มินต์ว่าสั่งขึ้นมาทานดีกว่าค่ะ ไม่งั้นพวกพี่ก็ไปทานกัน มินต์ไม่อยากออกไปไหนค่ะ” มินตราบอกแล้วก็ซุกผ้าห่มต่อ ไม่อยากออกไปไหนให้วุ่นวาย

“ก็ดี บอกแอนดี้ตามขึ้นมาที่ห้องก็แล้วกัน ห้องกว้างจะตาย ทานอะไรได้สบายแหละ” น้ำมนต์พูดแล้วก็โทรหาสามี ยังไงทานรูมเซอร์วิสก็ทานฟรี เพราะทีมงานออกให้อยู่แล้ว

มินตรามีเพื่อนอยู่ด้วยก็คลายใจไปได้ แม้จะกังวลใจเรื่องข่าวมากขึ้น เหมือนกำลังมีบททดสอบให้เธอต้องผ่านไปได้ แม้เมื่อก่อนเธอจะลำบาก แต่ก็อยู่ได้อย่างสงบ พอมีเงินและชื่อเสียงมากขึ้น เหมือนกับมีคนพยายามบ่อนทำลายเธอเพิ่มอีกด้วย

**********************************

เมื่อการแสดงเสร็จลง และงานเลี้ยงก็จบแล้ว คิลเลี่ยนก็ขับรถกลับบ้าน มาถึงเขาก็ดูข่าวเพิ่มเติมอีกเล็กน้อย เห็นภาพแล้วก็รู้ว่าแอบถ่ายจากนอกบ้าน เขาก็โทรหามินตรา แม้ที่ฮ่องกงจะเป็นช่วงเช้ามืดก็ตาม

“ไง มินต์”

“พี่เคเหรอคะ” เสียงอู้อี้ตอบกลับมา รู้สึกปวดตาเพราะนอนร้องไห้อยู่นานมาก หลังจากรุ่นพี่กลับไปหมดแล้ว

“ใช่สิ จะเป็นใครได้อีกล่ะ” คิลเลี่ยนตอบและพยายามใจเย็นมากขึ้น

“พี่เคโกรธมินต์อยู่เหรอ” มินตราถอนหายใจยาว พยายามตั้งสติคุยกับเขา

“โกรธสิ พี่ทำงานนะ ไม่ได้มาเดินเล่น ถ้าพี่เล่นเพลงได้ไม่ดี เราสองคนก็ได้อดตาย คิดเหรอว่าพี่จะยอมเอามาแอลิซน่ะ พี่มีเมียคนเดียว ถ้าคิดจะเอาเมียอื่น พี่จะหย่าเป็นคนๆ ไป” คิลเลี่ยนพูดอีกในตอนท้าย

“พี่เคจะหย่ากับมินต์เหรอ” มินตรากำลังจะร้องไห้อีกรอบ ตอนนี้จิตหลุดสติไม่มี ฟังอะไรก็จับผสมๆ กันไปหมด

“จะบ้ารึไง!! ใครจะหย่า แค่ต้องอยู่ห่างเมียก็เครียดพออยู่แล้ว แถมยังมีผู้หญิงมายั่วเช้ายั่วเย็น คิดว่าพี่ไม่อึดอัดหรือไง ภาพบ้านั่นน่ะ ก็ไม่กี่วันนี่เอง จำไม่ได้เหรอวันที่พี่เมาแล้วโทรหามินต์น่ะ มินต์เพิ่งมาถึงฮ่องกงเอง พี่ก็ไม่ได้ใส่ชุดนอนอยู่แล้ว ใส่บ็อกเซอร์แล้วก็เสื้อคลุม มาแอลิซมา หล่อนตั้งใจสร้างข่าวล่ะ มาถึงก็เปิดม่าน คงนัดแนะคนมาถ่ายรูปแล้ว แล้วก็เข้ามานัวเนียพี่ มันก็เท่านั้นแหละ พี่ก็เลยลากหล่อนไปนอกบ้านแล้วปิดประตูนอน” คิลเลี่ยนเล่าความได้มากขึ้น เพราะเสร็จงานแล้ว และรู้ว่ามินตราใจไม่ดีอยู่มาก

“อ๋อค่ะ” มินตราค่อยสบายใจมากขึ้น

“อารมณ์น่ะมีนะ แต่พี่ก็มีสติ อยากจะเอาใจจะขาด ถ้าไม่ติดมีเมีย ป่านนี้หายอึดอัดแล้ว จะคิดอะไรให้ใจเย็นบ้างสิ พี่ยังไว้ใจมินต์เลย แล้วทำไมมินต์ไม่ไว้ใจพี่บ้าง” คิลเลี่ยนตำหนิมินตราอีกรอบ แม้จะรู้ว่าวิสัยผู้หญิงไม่ว่าจะคนไหนก็ขี้หึงขี้หวง ไม่เว้นแม้แต่เมียสาวแสนสวยของเขา

“มินต์ขอโทษค่ะ” มินตราได้แต่รับผิดเสียงอ่อยๆ

“พี่รู้ว่ามันต้องมีเรื่องแบบนี้อีกเรื่อยๆ แต่เราก็สัญญากันไว้แล้วไม่ใช่เหรอ ว่าจะเชื่อใจกันจนถึงที่สุด พี่อาจเคยรักสนุกมาก่อน แต่เมื่อพี่บอกว่าจบ มันก็คือจบ หรือมินต์คิดว่าพี่เป็นคนสับปลับล่ะ” คิลเลี่ยนถามภรรยาตามตรง

“ไม่ค่ะ มินต์ไม่คิดอย่างนั้น” มินตราได้แต่ถอนหายใจโล่งใจแล้วก็ปวดหัวที่โดนเขาดุซ้ำๆ

“แล้วอย่าโทรมาตอนที่พี่น่าจะขึ้นคอนเสิร์ตอีก ก็รู้นี่ว่าพี่ไม่ชอบคนพูดไม่รู้เรื่อง เจอเรื่องอะไรมาก็ให้หนักแน่นไว้ก่อนสิ โทรมาตั้งหลายรอบ พี่นึกว่าเกิดเหตุร้ายอะไร” คิลเลี่ยนถอนหายใจยาว เห็นเธอเงียบก็รู้ว่าเสียขวัญ “ช่วงนี้พี่ยุ่ง แต่ละวันก็เปลี่ยนเพลงไปเรื่อยๆ พี่ต้องพยายามจำให้ได้ว่าจะเล่นเพลงอะไร มินต์ต้องเข้าใจด้วยสิ”

มินตราถอนหายใจยาว เพราะตอนนี้ดูเหมือนสามีจะไม่สนใจอะไรนอกจากเรื่องงานของเขา และเธอก็คงได้แต่อดทน “ค่ะ มินต์จะอดทนค่ะ”

“เฮ้อ เดี๋ยวจบงานนี้แล้ว พี่ว่าจะพักสักระยะ เราจะได้มีเวลาอยู่ด้วยกัน พวกที่ชอบยุยงปั่นหัวจะได้เลิกวุ่นวายกับเราสักที” คิลเลี่ยนถอนหายใจยาว ถ้าเธอไม่ติดงานของพ่อเขา ป่านนี้คงได้อยู่ด้วยกันแล้ว และปัญหาต่างๆ ก็คงไม่รุนแรงถึงป่านนี้

มินตราฟังคิลเลี่ยนอีกสองสามคำ แล้วยังไม่ง่วง ส่วนเขาคงเหนื่อยและง่วงเต็มที เพราะทำงานมาทั้งวัน และยังต้องตื่นเช้าไปซักซ้อมกับวงอีก ก่อนขึ้นแสดง จริงๆ เธอควรเห็นใจเขาและทำใจหนักแน่นมากกว่านี้

‘เวลาที่เรารักใครสักคน และเขาก็เชื่อใจเรา เหตุใดเราจะขาดสติและไม่เชื่อใจเขา’

มินตราโพสต์ข้อความลงบนไทม์ไลน์ แล้วลบภาพจากหนังสือพิมพ์ซุบซิบออกจากหน้าไทม์ไลน์ของตน พร้อมขอร้องให้แฟนเพจเลิกเสนอข่าวด้วย

‘ฉันขอร้องให้เอาภาพที่สร้างความเสียหายให้กับครอบครัวออกด้วยนะคะ ชีวิตคู่ของฉันกับสามีไม่ได้สร้างขึ้นมาจากสิ่งชั่วร้าย แต่สร้างขึ้นมาจากสิ่งสวยงาม หากว่ารักฉันมากพอ ขอให้หยุดนำเสนอข่าวเสียหายที่มุ่งทำลายชีวิตคู่ของฉันกับสามีนะคะ ได้โปรดเห็นใจเราด้วย ที่ผ่านมามีคนมุ่งร้ายเรามากแล้วจริงๆ ค่ะ’

ข้อความให้กำลังใจเข้ามาไม่ขาดสาย และเช่นเดียวกัน ข้อความว่าร้ายก็เข้ามาด้วย หากตอนนี้มินตราไม่สนใจข้อความเหล่านั้นแล้ว เธอปิดเครื่องแล้วมองดูท้องฟ้าที่ใกล้สว่างเต็มที่แล้ว

ยังมียามเช้าเกิดขึ้นในทุกวัน...แม้ชีวิตจะต้องพบเจอกับอะไร

**********************************

สวัสดีค่ะ คุณผู้อ่านทุกท่าน
มรสุมของน้องมินต์ก็ไม่ต่างอะไรกับของผู้เขียน
ช่วงนี้ปัญหาเยอะจริงๆ ขอให้ทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยดีค่ะ
สู้ๆ นะคะ เป็นกำลังใจทุกท่านที่กำลังเผชิญปัญหาเหมือนกัน
ใครจะดูถูกอะไรก็ช่างแล้วค่ะตอนนี้ ขอแค่ยังมีคนอ่านสักคนก็พอใจแล้วค่ะ
ขอบคุณที่ติดตามนิยายนะคะ
ดูแลสุขภาพด้วยค่ะ

แฟนเพจคือ https://www.facebook.com/plerngwaree
แอดเพื่อนได้ที่ https://www.facebook.com/plerngwareebz

ขอบคุณคอมเม้นจาก
พี่ตุ้งแช่ - เหมือนโรสแหละค่า 555+
คุณคิมหันตุ์ - ตั้งใจทำลายชื่อเสียงเลยค่า
คุณเดิมเดิม - จัดให้หนักค่ะ
คุณkonhin - ยังไม่หวานมั้งคะ เริ่มไม่แน่ใจ ^^"
คุณจ๊ะจ๋า - อิอิ ไม่บอกกกกกกกกกกกก
คุณ maplezaa - ใจสู้แม้น้ำตาจะไหลค่า
คุณนักอ่านเหนียวหนึบ - >.< พี่นะโมเป็นคนดีน้าาาาาาาา อย่าไล่เขาเลยค่า อิอิ

คุณนอนดูดาว - เพิ่มศัตรูวันละนิดจิตแจ่มใสค่ะ (ใช่เหรอ) 555+

ป.ล. อ่านแล้วรักชอบนิยายเรื่องนี้ อย่าลืมกดไลค์นะคะ
ถ้าได้ตีพิมพ์ จะเอารายชื่อคนที่กดไลค์นี่แหละค่ะ
มาจับฉลากแจกหนังสือค่ะ อยากให้คนที่อ่านได้จริงๆ ค่ะ

ป.ล. ขอความร่วมมือ "งด" ช็อป e-Book จากทาง Ookbee นะคะ
เนื่องจากยังสงสัยอยู่ว่า ทำไมยอดดาวโหลดกับยอดที่เขาให้ไปวางบิลไม่ตรงกันค่ะ
ยังไม่ได้ถามไป แต่มันไม่ควรจะเป็นแบบนั้นนะคะ
เมื่อสงสัยขอหยุดการซื้อจากทางนั้นนะคะ
ขอบพระคุณที่เข้าใจค่ะ

**********************************
eBooks ผลงานที่ผ่านมานะคะ
1. ด้วยหัวใจ...พันรัก (229 บาท / 9.99$)
- http://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NjoiMjM5MjY5IjtzOjc6ImJvb2tfaWQiO3M6NDoiNDQ2NiI7fQ
- http://www.ebooks.in.th/ebook/13221/ด้วยหัวใจ...พันรัก

2. เราสามคน..หนทางเดียว (159บาท / 6.99$)
- http://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NjoiMjM5MjY5IjtzOjc6ImJvb2tfaWQiO3M6NDoiNDQyNyI7fQ
- http://www.ebooks.in.th/ebook/13203/เราสามคน..หนทางเดียว

3. ตามตะวัน ณ จันทร์พันดาว (159฿ / 6.99$)
- http://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NjoiMjM5MjY5IjtzOjc6ImJvb2tfaWQiO3M6NDoiNDQ2OSI7fQ
- http://www.ebooks.in.th/ebook/13231/ตามตะวัน_ณ_จันทร์พันดาว

4. แผนร้ายในทางรัก (139บาท / 5.99$)
- http://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NjoiMjM5MjY5IjtzOjc6ImJvb2tfaWQiO3M6NDoiNDI2MyI7fQ
- http://www.ebooks.in.th/ebook/13179/แผนร้ายในทางรัก

5. ผูกพัน...เข้าใจ...สายใยแห่งเรา (129บาท / 5.99$)
- http://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NjoiMjM5MjY5IjtzOjc6ImJvb2tfaWQiO3M6NDoiNjMzOCI7fQ
- http://www.ebooks.in.th/ebook/16015/ผูกพัน...เข้าใจ...สายใยแห่งเรา/



เพลิงวารี
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 17 มี.ค. 2557, 07:44:30 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 17 มี.ค. 2557, 07:44:30 น.

จำนวนการเข้าชม : 2279





<< Crying Villain ตอนที่ 15   Crying Villain ตอนที่ 17 >>
ตุ๊งแช่ 17 มี.ค. 2557, 08:49:39 น.
ไม่รู้จะจัดอะไรให้หนูมินท์ดี ยาดม ยาลม ย่าหม่อง หรือใบบัวบกดี วุ้ย เรื่องร้ายเข้ามาไม่เว้นวรรคเลย

สู้ๆทั้งน้องมินท์และคนเขียน


นักอ่านเหนียวหนึบ 17 มี.ค. 2557, 10:13:12 น.
หุๆๆ อ่านแล้วคิดไปถึงมาม่า ของ ตม-ตน เมื่อคืนนี้เบยยยย
เป็นคนดี พูดดีอย่างหนูมินต์ ยังโดนสับซะเละขนาดนี้
เห้อออ คนเราใจร้ายกันมากเลยนะ
เค้าจะเลวจะร้ายยังไง ถ้าเค้าไม่ได้ทำให้เราเดือดร้อน ก็ไม่น่าไปต่อว่า ทำร้ายจิตใจ คิดเองเออเองแบบนี้เล้ยยย


ร้อยวจี 17 มี.ค. 2557, 10:16:21 น.
สู้ๆ ค่ะ


konhin 17 มี.ค. 2557, 11:37:10 น.
คนเราทำร้ายกันทั้งที่ไม่รู้จัก


เดิมเดิม 17 มี.ค. 2557, 12:34:10 น.
ตลอดๆ เลยหนูมินต์สู้ๆ


ใบบัวน่ารัก 17 มี.ค. 2557, 14:41:07 น.
มีแต่คนไม่ดีมาทำร้ายตลอดๆๆ
เลิกเป็นดาราเถอะ
ออกแบบจิวเวอรี่อย่างเดียวก็พอนะ


konhin 19 มี.ค. 2557, 02:06:17 น.
กลับไปอ่านตอนเก่าๆ เมื่อไหร่จะได้หวานกันน้อออ ขอตอนต่อไปเร็วๆนะคะ อินมาก


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account