เกมรักกับดักพิศวาส (สนพ.มายเลิฟ)
Tags: นิยายรัก,นายแบบ
ตอน: ตอนที่ 15
ตอนที่ 15
และเหตุการณ์จากวันนั้นทำให้อริญชย์ที่รู้ถึงความสัมพันธ์ของบุษบันกับบอลด์วินเดินหน้าทำคะแนนหวังจะชิงตัวและหัวใจของบุษบันมาเป็นของตนให้เร็วที่สุด โดยมีอโรชาที่จับตามองคนทั้งคู่อยู่พอทราบเรื่องจากน้องชายเธอก็ไม่ลืมที่ให้การสนับสนุนในทุกๆ ด้านไม่เว้นแม้แต่ให้หญิงสาวหยุดงานในช่วงเวลาทีจิตใจไม่ปกติอย่างตอนนี้ และก็ไม่ลืมที่จะส่งข่าวบอกน้องชายสุดที่รักด้วย
แต่ด้านบอลด์วินก็ไม่ต่างกัน ตั้งแต่เกิดเรื่องวันนั้นความสัมพันธ์ของเขากับบุษบันเหมือนจะมีปัญหา หญิงสาวไม่ยอมรับโทรศัพท์ไปหาที่ห้องก็ไม่ยอมคุยด้วย และนั่นทำให้พักนี้เขาไม่ได้มาค้างที่นี่ทุกคืน แต่ก็แวะมาหาหญิงสาวแทบทุกวัน และวันนี้ก็เช่นกัน
ประตูห้องที่ปิดสนิทและภายในห้องก็เงียบเชียบเขาเดาว่าหญิงสาวอาจจะยังไม่ตื่น เพราะวันนี้ทีมเดรสเซอร์ซึ่งมีอโรชาเป็นหัวหน้าทีมมีงานตั้งแต่ช่วงบ่ายเป็นต้นไป เรื่องงานของทีมเดรสเซอร์นี้เขาต้องวิ่งเต้นหาตารางงานของทีมเดรสเซอร์ทีมนี้จากคนรู้จักในวงการ ซึ่งก็ไม่ยากเกินความสามารถ ก็บุษบันไม่ยอมรับโทรศัพท์ของเขานี่
ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!
ช่วงหลังจากวันเกิดเรื่องเขาหัดมีมารยาทมากขึ้นด้วยการเคาะประตูห้องนอนขออนุญาตจากเจ้าของห้องก่อน จากที่ปกติเขามักถือวิสาสะเปิดเข้าไปเองทุกที
เงียบไม่มีเสียงตอบรับ ทำให้ชายหนุ่มลองหมุนลูกบิดประตูปรากฏว่ามันไม่ได้ล็อค เขาเลยถือวิสาสะเปิดเข้าไปซะเลย ภายในห้องว่างเปล่า หรือจะอยู่ในห้องน้ำ พอเดินไปดูก็ไม่มีใคร ดังนั้นสรุปได้ว่าเจ้าของห้องไม่อยู่
เธออาจจะออกไปหาซื้อของข้างนอกก็ได้ คิดอย่างนั้นบอลดืวินจึงนั่งรอนอนรออยู่เกือบชั่วโมงก็ยังไม่เห็นบุษบันกลับมา เขาลองโทร.หาก็ติดและคราวนี้รับสาย
เขาดีใจจนอดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้
“บุษดีจังที่คุณรับสาย”
“แต่ผมไม่รู้สึกดีสักนิดที่คุณโทร.มา”
เสียงทุ้มของผู้ชายที่ตอบลกับมาทำให้รอยยิ้มของบอลด์วินหายไปในพริบตา และแน่นอนเขาจำได้ว่ามันเป็นเสียงใคร
“นี่คุณมารับโทรศัพท์บุษได้ยังไง”
“พอดีบุษไม่อยากรับเลยให้ผมรับแทนเพราะรำคาญ เข้าใจไหม หรือต้องให้แปลไทยเป็นอังกฤษถึงจะเข้าใจ”
“ขอผมคุยกับบุษหน่อยสิ”
“เขาไม่อยากคุยกับคุณ”
“ให้เขาบอกผมเองสิผมจะเชื่อ”
“เอาอย่างนี้นะคุณวินซ์ บุษยังไม่อยากคุยกับคุณ แต่ผมอยากคุยกับคุณ”
“แต่ผมไม่มีเรื่องจะคุยกับคุณ” บอลด์วินบอกเสียงรำคาญระคนหงุดหงิดที่มีผู้ชายคนอื่นถือสิทธิ์มารับโทรศัพท์ของบุษบัน
“งั้นขอให้คุณเป็นผู้ฟังที่ดีก็พอ”
“ก็ว่ามาสิ”
“ยุติความสัมพันธ์ของคุณกับบุษซะ”
“คุณไม่มีสิทธิ์มาพูดเรื่องนี้ ความสัมพันธ์ของผมกับบุษจะยุติหรือไปต่อคนตัดสินคือผมกับบุษเท่านั้นคุณไม่เกี่ยว”
บอลด์วินบอกอีกฝ่ายเสียงกลั้วหัวเราะราวับมันเป็นเรื่องตลก แต่มันเป้นตลกร้ายสำหรับเขา เรื่องยุติความสัมพันธ์เขยังไม่ทันตั้งตัวรับมันในตอนนี้
“แต่ผมรักบุษ ผมให้ความรัก ความมั่นคงและอีกหลายๆ อย่างทั้งในแง่ของวัตุหรือความรู้สึกได้ ซึ่งต่างกับคุณที่ให้ได้แค่ความใคร่เพียงแค่ข้ามคืน”
“เรื่องนั้นถามผู้หญิงเขาดีกว่าไหมว่าเขาจะเลือกใคร”
ท้าทายออกไปทั้งที่ไม่แน่ใจหรอกว่าบุษบันจะเลือกตัวเองหรือเปล่า แต่เท่าที่คบกันมาเขาคงไม่ได้รู้สึกไปเองหรอกมั้งว่าบุษบันนั้นหลงใหลในตัวเขาไม่น้อย
“ผมไม่คิดถามแต่จะทำให้เห็น แล้วคอยดู คุณเตรียมตัวออกไปจากชีวิตของบุษได้เลย”
ไม่ต้องรอให้เขาได้โต้ตอบอริญชย์ก็ชิ่งตัดสายไปก่อน เขาพยายามไปอีกครั้งแต่คราวนี้ทางนั้นปิดเครื่องหนี เขาทำอะไรไม่ได้นอกจากเดินงุ่นง่านไปมาอยู่ในห้อง อย่างไม่คิดจะไปไหนเขาจะรอจนกว่าบุษบันจะกลับมาวันนี้เขาต้องพูดกับหญิงสาวให้รู้เรื่องว่าเอาอย่างไร
แต่รอแล้วรอเล่านั่งรอนอนรอเผลอหลับไปตื่นขึ้นมากลางดึกก็ไม่มีทีท่าว่าบุษบันจะกลับห้อง โทรศัพท์ก็ไม่ยอมเปิดเครื่อง นั่นทำให้บอลด์วินข่มตาหลับต่อไม่ได้ รู้แน่แม้ว่ายังไงคืนนี้บุษบันคงไม่กลับห้อง เรื่องนั้นม่สำคัญหรอกมันสำคัญที่หญิงสาวไปค้างที่ไหนกับใครต่างหาก หรือว่า…อริญชย์
คิดแค่นั้นพายุแห่งความไม่พอใจก็โหมกระหน่ำเข้ามาอย่างไม่อาจจะห้ามได้ เขารู้ว่าบุษบันมีสิทธิ์เลือกแต่…อาจจะไม่ใช่ก็ได้บุษบันมีเพื่อนเยอะแยะอาจจะไปค้างกับใครสักคนคิดเพื่อความสบายใจของตัวเอง แต่ถึงจะพยายามคิดอย่างนั้นแต่บอลด์วินก็ออกจากห้องขับรถตะเวนไปทั่ว ในใจคิดว่าเขาอาจจะไปหาผู้หญิงสักคนที่ช่วยผ่อนคลายในตอนนี้ เขาจะกดโทร.หาเธอเหล่านั้นหลายครั้งแต่ก็เปลี่ยนใจ มันไม่อารมณ์จะทำอย่างนั้นพูดกันจริงๆ คือตั้งแต่มีบุษบันเขาไม่คิดถึงผู้หญิงคนอื่นเลยด้วยซ้ำ
บอลด์วินขับรถไปเรื่อยเปื่อยตอนแรกว่าจะกลับบ้านตัวเอง ต่ด้วยความที่ยังคาใจเขาจึงเปลี่ยนเป้าหมายไปที่คอนโดของบุษบันอีกครั้งในเวลาเกือบจะหกโมงเช้า
เขานั่งนิ่งอยู่ภายในรถที่จดสนิทอยู่พักใหญ่ก่อนจะลงจากรถด้วยสีหน้าที่อิดโรย และในขณะที่ปิดประตูรถและล็อคมันอย่างเอยเชื่อย และตอนนั้นเองเขาเห็นรถคันหนึ่งวิ่งเข้ามาภายในบริเวณจอดรถ ตอนแรกว่าจะไม่สนใจจะเดินขึ้นห้องของบุษบันอยู่แล้วเชียว แต่เสียงคุยกันของคนที่เพิ่งลงจากรถคันเมื่อครู่ มันคือเสียงที่คุ้นเคยทำให้เขาหันควับ
“บุษ”
เขาบอกตัวเองก่อนจะหมุนตัวเดินตรงไปหาบุษบันและแน่นอนคนที่เจ้าของรถคืออริญชย์ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
“ขอบใจนายมากนะที่มาส่ง”
บุษบันบอกพร้อมรอยยิ้มน้อยๆ หลังจากที่เธอได้ไปนอนค้างกับอริสรารู้สึกว่าตัวเองสบายใจขึ้น ทุกคนไม่ตำหนิหรือเอ่ยถึงเรื่องความสัมพันธ์ของเธอกับบอลด์วิน ทั้งที่เธอแน่ใจว่าทุกคนรู้เรื่องจากอริญชย์แน่นอน คงคิดเป็นเรื่องส่วนตัวของเธอมั้ง
มีแต่เธอเท่านั้นที่พอความสัมพันธ์อันฉาบฉวกับบอลด์วินถูกเปิดเผยเธอถึงกับอยู่ไม่เป็นกลัวสายตาของคนอื่นและสังคม ทั้งที่เรื่องนี้เธอน่าจะคิดก่อนจะเริ่มสัมพันธ์ด้วยซ้ำ
“ไม่เป็นไรเราเต็มใจ ยังไงก็อย่าลืมเรื่องของเราด้วยนะ”
แต่ก่อนที่ทั้งสองจะได้พุดคุยหรือลากัน เสียงของบอลด์วินที่เต็มไปด้วยความไม่พอใจก็ดังแทรกขึ้นมา
“บุษ!”
“คุณวินซ์!”
“เราต้องคุยกัน”
ไม่พูดเปล่าบอลด์วินเข้าไปกระชากหญิงสาวอย่างแรงตามอารมณ์จนร่างบางเซถลาไปปะอกกว้าง อริญชย์เห็นท่าทางไม่ดีจึงรีบดึงบุษบันกลับ
“หยุด! คุณจะทำอะไรบุษ”
“ไม่เกี่ยวกับนาย”
“ไม่เกี่ยวได้ยังไง”
“แค่นอนด้วยกันคืนเดียวจะอ้างสิทธิ์หรือไง”
เมื่อความโมโห จะโมโหหรือไม่พอใจเพราะอะไรก็ตามทำให้บอลด์วินเผลอปากพูดอย่างที่ใจคิดออกไป โดยไม่คิดว่ามันจะทำร้ายจิตใจคนฟัง ที่เรียกชื่อเขาอย่างไม่พอใจ
“คุณวินซ์!”
“หรือไม่จริง” บอลด์วินหันมาตะคอกกลับเสียงเข้ม
“ฉันขอชกหน้านายให้หายบ้าสักทีเถอะ” สิ้นเสียงอริญชย์ก้ปล่อยหมัดขวาใส่ปลายคางบุ๋มของบอลด์วินเข้าไปเต็มๆ
พลั๊วะ!
พลั๊วะ!
สองหนุ่มได้แลกหมัดกันสมใจหลังจากที่ก่อนหน้านั้นโดนห้าม ท่ามกลางเสียงกรีดร้องและตะโกนห้ามอย่างตกใจของบุษบัน
“หยุด! ทั้งสองคนหยุดเดี๋ยวนี้ หยุด! ฉันบอกให้หยุดยังไงล่ะ” เมื่อเห็นท่าไม่ดีบุษบันเอากระเป๋าไล่ทุบคนนั้นทีคนนี้ทีพร้อมทั้งพยายามแทรกกลางของทั้งสอง
และแม้จะต่างคนต่างอยู่ในอารมณ์โมโห แต่ก็กลัวว่าบุษบันจะโดนลูกหลงจึงยอมหยุดอย่างเสียไม่ได้ บุษบันมองทั้งสองคนอย่างไม่พอใจ แต่ก็เลือกที่จะเข้าไปดูแลอริญชย์ก่อน เพราะอย่างน้อยเขาก็เป็นฝ่ายถูกในสายตาเธอ
“ซันนายไม่เป็นอะไรใช่ไหม”
“ไม่เป็นไร แค่นี้เอง ฝากไว้ก่อนถ้าคุณทำอะไรบุษล่ะก็เจอหนักกว่านี้แน่”
เมื่อโดนท้าทายบวกกับความไม่พอใจที่พุ่งจนถึงขีดสุดที่เห็นอีกฝ่ายออเซาะบุษบัน ทำให้บอลด์วินจะถลาเข้าใส่อริญชย์อีกครั้ง
“หยุดเดี๋ยวนี้นะคุณวินซ์!”
บุษบันผละจากอริญชย์แล้วถลาเข้าไปผลักอกของบอลด์วินเอาไว้ แล้วหันมาบอกอริญชย์ที่พร้อมจะกระโจนใส่ไม่ต่างกัน
“ซันนายกลับไปก่อนนะ”
“แต่ว่า…”
“ไม่เป็นหรอกฉันคุยกับเขาได้”
“ก็ได้ แล้วจะโทร.หานะ”
“อื้อ”
อริญชย์พยักหน้าอย่างรับรู้เล็กน้อยก่อนจะเดินถอยหลังพร้อมกับยกมือขึ้นแตะมุมปากที่โดยต่อยเล็กน้อยก่อนจะหมุนตัวเดินไปขึ้นรถแล้วขับออกไป
บุษบันปรายตามองบอลด์วินอย่างตำหนิก่อนจะเดินหนีขึ้นห้องโดยไม่คิดจะพูดอะไร โดยมีบอลด์วินเดินตามหลังไปเงียบๆ
“คุณไปค้างคืนกับหมอนั่น” บอลด์วินเปิดประเด็นทันทีที่ประตูห้องถูกปิดลง
บุษบันวางกระเป๋าของตัวเองที่โซฟาแล้วหมุนตัวมายืนกอดอกเผชิญหน้ากับบอลด์วินที่พักนี้เธอไม่ได้มองหน้าเขาเต็มๆ เลยสักครั้ง ก่อนจะบอกเสียงเข้มว่า
“คุณกำลังกล่าวหาฉัน”
“หรือไม่ใช่” ชายหนุ่มเค้นเสียงถามด้วยใบหน้าที่ตึงเครียด
“ไม่ใช่ และถึงจะใช่คุณก็ไม่มีสิทธิ์ไปต่อว่าหรือทำร้ายเขา”
“แต่มันเริ่มก่อน”
“สมควรไหมล่ะ คุณดูถูกเขาและฉัน” บุษบันตะคอกใส่เขาขณะที่เดินกลับไปกลับมาภายในห้องเหมือนยืนอยู่บนที่ร้อนไม่สามารถอยู่นิ่งได้
“ผู้หญิงผู้ชายที่หายได้ด้วยกันทั้งวันทั้งคืนมันจะอะไรล่ะ” บอลด์วินตวาดกลับไปบ้าง
บุษบันหันขวับกะพริบตาถี่ๆ แล้วถามเสียงสั่นๆ ว่า
“นี่คุณว่าฉันใจง่าย นอนกับผู้ชายไม่เลือกอย่างนั้นเหรอ”
“ง่ายหรือไม่ง่ายคุณรู้อยู่แก่ใจ”
“ใช่ ฉันมันใจง่าย ใจง่ายกับคุณ ใจง่ายกับผู้ชายทุกคน พอใจหรือยัง”
บุษบันตะโกนใส่บอลด์วินพรอมกับผลักอกเขาแรงๆ และตอนนี้เองชายหนุ่มถึงเพิ่งสำนึกว่าตัวเองพูดแรงไป
“คือผม…”
“ฉันว่าเรายุติความสัมพันธ์กันตรงนี้ดีไหม” หญิงสาวบอกเสียงอ่อนระคนเหนื่อยล้า
“แสดงว่าคุณกับไอ้หมอนั่น”
“ฉันเหนื่อยที่จะต้องมานั่งแก้ตัวกับคนที่ไม่คิดจะฟังอย่างคุณ ทั้งที่จริงๆ แล้วฉันไม่จำเป็นต้องแก้ตัวด้วยซ้ำ”
“ผมขอโทษ”
“ขอโทษที่อารมณ์เสียใส่คุณ ก็ตั้งแต่เกิดเรื่องระหว่างเราไม่เหมือนเดิม”
“ฉันแค่รู้สึกไม่ดีที่คนอื่นมารู้เรื่องน่าอายของตัวเอง”
“แถมวันนี้มาหา คุณก็ไม่อยู่ โทร.ไปหมอนั่นก็รับสาย”
“เรื่องนั้นฉันไม่เห็นรู้เรื่อง”
“ผมรอคุณที่ห้องทั้งคืน เช้ามาคุณกลับกลับมากับหมอนั่น ผมเลยยั่วและคิดว่าคุณกับหมอนั่น…”
“เรานอนบ้านเดียวกัน แต่คนล่ะห้อง”
“คุณคงไม่รู้ว่าฉันสนิทกับบ้านนี้ทั้งบ้าน นายซันนอกจากจะมีพี่สาวแล้วเขายังมีน้องสาวฝาแฝด ยัยซายด์เป็นเพื่อนสนิทของฉันค่ะ”
******************************************************************************************************************************
มาอัพให้อ่านอีกตอนแล้วนะคะ จะอัพ จันทร์-พุธ-ศุกร์เลยนะคะ แทนเรื่องเพียงขวัญที่ต้องปั่นใหม่
ขอบคุณทุกการติดตามนะคะ (^_/\_^)
เกศมณี
04/04/57
และเหตุการณ์จากวันนั้นทำให้อริญชย์ที่รู้ถึงความสัมพันธ์ของบุษบันกับบอลด์วินเดินหน้าทำคะแนนหวังจะชิงตัวและหัวใจของบุษบันมาเป็นของตนให้เร็วที่สุด โดยมีอโรชาที่จับตามองคนทั้งคู่อยู่พอทราบเรื่องจากน้องชายเธอก็ไม่ลืมที่ให้การสนับสนุนในทุกๆ ด้านไม่เว้นแม้แต่ให้หญิงสาวหยุดงานในช่วงเวลาทีจิตใจไม่ปกติอย่างตอนนี้ และก็ไม่ลืมที่จะส่งข่าวบอกน้องชายสุดที่รักด้วย
แต่ด้านบอลด์วินก็ไม่ต่างกัน ตั้งแต่เกิดเรื่องวันนั้นความสัมพันธ์ของเขากับบุษบันเหมือนจะมีปัญหา หญิงสาวไม่ยอมรับโทรศัพท์ไปหาที่ห้องก็ไม่ยอมคุยด้วย และนั่นทำให้พักนี้เขาไม่ได้มาค้างที่นี่ทุกคืน แต่ก็แวะมาหาหญิงสาวแทบทุกวัน และวันนี้ก็เช่นกัน
ประตูห้องที่ปิดสนิทและภายในห้องก็เงียบเชียบเขาเดาว่าหญิงสาวอาจจะยังไม่ตื่น เพราะวันนี้ทีมเดรสเซอร์ซึ่งมีอโรชาเป็นหัวหน้าทีมมีงานตั้งแต่ช่วงบ่ายเป็นต้นไป เรื่องงานของทีมเดรสเซอร์นี้เขาต้องวิ่งเต้นหาตารางงานของทีมเดรสเซอร์ทีมนี้จากคนรู้จักในวงการ ซึ่งก็ไม่ยากเกินความสามารถ ก็บุษบันไม่ยอมรับโทรศัพท์ของเขานี่
ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!
ช่วงหลังจากวันเกิดเรื่องเขาหัดมีมารยาทมากขึ้นด้วยการเคาะประตูห้องนอนขออนุญาตจากเจ้าของห้องก่อน จากที่ปกติเขามักถือวิสาสะเปิดเข้าไปเองทุกที
เงียบไม่มีเสียงตอบรับ ทำให้ชายหนุ่มลองหมุนลูกบิดประตูปรากฏว่ามันไม่ได้ล็อค เขาเลยถือวิสาสะเปิดเข้าไปซะเลย ภายในห้องว่างเปล่า หรือจะอยู่ในห้องน้ำ พอเดินไปดูก็ไม่มีใคร ดังนั้นสรุปได้ว่าเจ้าของห้องไม่อยู่
เธออาจจะออกไปหาซื้อของข้างนอกก็ได้ คิดอย่างนั้นบอลดืวินจึงนั่งรอนอนรออยู่เกือบชั่วโมงก็ยังไม่เห็นบุษบันกลับมา เขาลองโทร.หาก็ติดและคราวนี้รับสาย
เขาดีใจจนอดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้
“บุษดีจังที่คุณรับสาย”
“แต่ผมไม่รู้สึกดีสักนิดที่คุณโทร.มา”
เสียงทุ้มของผู้ชายที่ตอบลกับมาทำให้รอยยิ้มของบอลด์วินหายไปในพริบตา และแน่นอนเขาจำได้ว่ามันเป็นเสียงใคร
“นี่คุณมารับโทรศัพท์บุษได้ยังไง”
“พอดีบุษไม่อยากรับเลยให้ผมรับแทนเพราะรำคาญ เข้าใจไหม หรือต้องให้แปลไทยเป็นอังกฤษถึงจะเข้าใจ”
“ขอผมคุยกับบุษหน่อยสิ”
“เขาไม่อยากคุยกับคุณ”
“ให้เขาบอกผมเองสิผมจะเชื่อ”
“เอาอย่างนี้นะคุณวินซ์ บุษยังไม่อยากคุยกับคุณ แต่ผมอยากคุยกับคุณ”
“แต่ผมไม่มีเรื่องจะคุยกับคุณ” บอลด์วินบอกเสียงรำคาญระคนหงุดหงิดที่มีผู้ชายคนอื่นถือสิทธิ์มารับโทรศัพท์ของบุษบัน
“งั้นขอให้คุณเป็นผู้ฟังที่ดีก็พอ”
“ก็ว่ามาสิ”
“ยุติความสัมพันธ์ของคุณกับบุษซะ”
“คุณไม่มีสิทธิ์มาพูดเรื่องนี้ ความสัมพันธ์ของผมกับบุษจะยุติหรือไปต่อคนตัดสินคือผมกับบุษเท่านั้นคุณไม่เกี่ยว”
บอลด์วินบอกอีกฝ่ายเสียงกลั้วหัวเราะราวับมันเป็นเรื่องตลก แต่มันเป้นตลกร้ายสำหรับเขา เรื่องยุติความสัมพันธ์เขยังไม่ทันตั้งตัวรับมันในตอนนี้
“แต่ผมรักบุษ ผมให้ความรัก ความมั่นคงและอีกหลายๆ อย่างทั้งในแง่ของวัตุหรือความรู้สึกได้ ซึ่งต่างกับคุณที่ให้ได้แค่ความใคร่เพียงแค่ข้ามคืน”
“เรื่องนั้นถามผู้หญิงเขาดีกว่าไหมว่าเขาจะเลือกใคร”
ท้าทายออกไปทั้งที่ไม่แน่ใจหรอกว่าบุษบันจะเลือกตัวเองหรือเปล่า แต่เท่าที่คบกันมาเขาคงไม่ได้รู้สึกไปเองหรอกมั้งว่าบุษบันนั้นหลงใหลในตัวเขาไม่น้อย
“ผมไม่คิดถามแต่จะทำให้เห็น แล้วคอยดู คุณเตรียมตัวออกไปจากชีวิตของบุษได้เลย”
ไม่ต้องรอให้เขาได้โต้ตอบอริญชย์ก็ชิ่งตัดสายไปก่อน เขาพยายามไปอีกครั้งแต่คราวนี้ทางนั้นปิดเครื่องหนี เขาทำอะไรไม่ได้นอกจากเดินงุ่นง่านไปมาอยู่ในห้อง อย่างไม่คิดจะไปไหนเขาจะรอจนกว่าบุษบันจะกลับมาวันนี้เขาต้องพูดกับหญิงสาวให้รู้เรื่องว่าเอาอย่างไร
แต่รอแล้วรอเล่านั่งรอนอนรอเผลอหลับไปตื่นขึ้นมากลางดึกก็ไม่มีทีท่าว่าบุษบันจะกลับห้อง โทรศัพท์ก็ไม่ยอมเปิดเครื่อง นั่นทำให้บอลด์วินข่มตาหลับต่อไม่ได้ รู้แน่แม้ว่ายังไงคืนนี้บุษบันคงไม่กลับห้อง เรื่องนั้นม่สำคัญหรอกมันสำคัญที่หญิงสาวไปค้างที่ไหนกับใครต่างหาก หรือว่า…อริญชย์
คิดแค่นั้นพายุแห่งความไม่พอใจก็โหมกระหน่ำเข้ามาอย่างไม่อาจจะห้ามได้ เขารู้ว่าบุษบันมีสิทธิ์เลือกแต่…อาจจะไม่ใช่ก็ได้บุษบันมีเพื่อนเยอะแยะอาจจะไปค้างกับใครสักคนคิดเพื่อความสบายใจของตัวเอง แต่ถึงจะพยายามคิดอย่างนั้นแต่บอลด์วินก็ออกจากห้องขับรถตะเวนไปทั่ว ในใจคิดว่าเขาอาจจะไปหาผู้หญิงสักคนที่ช่วยผ่อนคลายในตอนนี้ เขาจะกดโทร.หาเธอเหล่านั้นหลายครั้งแต่ก็เปลี่ยนใจ มันไม่อารมณ์จะทำอย่างนั้นพูดกันจริงๆ คือตั้งแต่มีบุษบันเขาไม่คิดถึงผู้หญิงคนอื่นเลยด้วยซ้ำ
บอลด์วินขับรถไปเรื่อยเปื่อยตอนแรกว่าจะกลับบ้านตัวเอง ต่ด้วยความที่ยังคาใจเขาจึงเปลี่ยนเป้าหมายไปที่คอนโดของบุษบันอีกครั้งในเวลาเกือบจะหกโมงเช้า
เขานั่งนิ่งอยู่ภายในรถที่จดสนิทอยู่พักใหญ่ก่อนจะลงจากรถด้วยสีหน้าที่อิดโรย และในขณะที่ปิดประตูรถและล็อคมันอย่างเอยเชื่อย และตอนนั้นเองเขาเห็นรถคันหนึ่งวิ่งเข้ามาภายในบริเวณจอดรถ ตอนแรกว่าจะไม่สนใจจะเดินขึ้นห้องของบุษบันอยู่แล้วเชียว แต่เสียงคุยกันของคนที่เพิ่งลงจากรถคันเมื่อครู่ มันคือเสียงที่คุ้นเคยทำให้เขาหันควับ
“บุษ”
เขาบอกตัวเองก่อนจะหมุนตัวเดินตรงไปหาบุษบันและแน่นอนคนที่เจ้าของรถคืออริญชย์ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
“ขอบใจนายมากนะที่มาส่ง”
บุษบันบอกพร้อมรอยยิ้มน้อยๆ หลังจากที่เธอได้ไปนอนค้างกับอริสรารู้สึกว่าตัวเองสบายใจขึ้น ทุกคนไม่ตำหนิหรือเอ่ยถึงเรื่องความสัมพันธ์ของเธอกับบอลด์วิน ทั้งที่เธอแน่ใจว่าทุกคนรู้เรื่องจากอริญชย์แน่นอน คงคิดเป็นเรื่องส่วนตัวของเธอมั้ง
มีแต่เธอเท่านั้นที่พอความสัมพันธ์อันฉาบฉวกับบอลด์วินถูกเปิดเผยเธอถึงกับอยู่ไม่เป็นกลัวสายตาของคนอื่นและสังคม ทั้งที่เรื่องนี้เธอน่าจะคิดก่อนจะเริ่มสัมพันธ์ด้วยซ้ำ
“ไม่เป็นไรเราเต็มใจ ยังไงก็อย่าลืมเรื่องของเราด้วยนะ”
แต่ก่อนที่ทั้งสองจะได้พุดคุยหรือลากัน เสียงของบอลด์วินที่เต็มไปด้วยความไม่พอใจก็ดังแทรกขึ้นมา
“บุษ!”
“คุณวินซ์!”
“เราต้องคุยกัน”
ไม่พูดเปล่าบอลด์วินเข้าไปกระชากหญิงสาวอย่างแรงตามอารมณ์จนร่างบางเซถลาไปปะอกกว้าง อริญชย์เห็นท่าทางไม่ดีจึงรีบดึงบุษบันกลับ
“หยุด! คุณจะทำอะไรบุษ”
“ไม่เกี่ยวกับนาย”
“ไม่เกี่ยวได้ยังไง”
“แค่นอนด้วยกันคืนเดียวจะอ้างสิทธิ์หรือไง”
เมื่อความโมโห จะโมโหหรือไม่พอใจเพราะอะไรก็ตามทำให้บอลด์วินเผลอปากพูดอย่างที่ใจคิดออกไป โดยไม่คิดว่ามันจะทำร้ายจิตใจคนฟัง ที่เรียกชื่อเขาอย่างไม่พอใจ
“คุณวินซ์!”
“หรือไม่จริง” บอลด์วินหันมาตะคอกกลับเสียงเข้ม
“ฉันขอชกหน้านายให้หายบ้าสักทีเถอะ” สิ้นเสียงอริญชย์ก้ปล่อยหมัดขวาใส่ปลายคางบุ๋มของบอลด์วินเข้าไปเต็มๆ
พลั๊วะ!
พลั๊วะ!
สองหนุ่มได้แลกหมัดกันสมใจหลังจากที่ก่อนหน้านั้นโดนห้าม ท่ามกลางเสียงกรีดร้องและตะโกนห้ามอย่างตกใจของบุษบัน
“หยุด! ทั้งสองคนหยุดเดี๋ยวนี้ หยุด! ฉันบอกให้หยุดยังไงล่ะ” เมื่อเห็นท่าไม่ดีบุษบันเอากระเป๋าไล่ทุบคนนั้นทีคนนี้ทีพร้อมทั้งพยายามแทรกกลางของทั้งสอง
และแม้จะต่างคนต่างอยู่ในอารมณ์โมโห แต่ก็กลัวว่าบุษบันจะโดนลูกหลงจึงยอมหยุดอย่างเสียไม่ได้ บุษบันมองทั้งสองคนอย่างไม่พอใจ แต่ก็เลือกที่จะเข้าไปดูแลอริญชย์ก่อน เพราะอย่างน้อยเขาก็เป็นฝ่ายถูกในสายตาเธอ
“ซันนายไม่เป็นอะไรใช่ไหม”
“ไม่เป็นไร แค่นี้เอง ฝากไว้ก่อนถ้าคุณทำอะไรบุษล่ะก็เจอหนักกว่านี้แน่”
เมื่อโดนท้าทายบวกกับความไม่พอใจที่พุ่งจนถึงขีดสุดที่เห็นอีกฝ่ายออเซาะบุษบัน ทำให้บอลด์วินจะถลาเข้าใส่อริญชย์อีกครั้ง
“หยุดเดี๋ยวนี้นะคุณวินซ์!”
บุษบันผละจากอริญชย์แล้วถลาเข้าไปผลักอกของบอลด์วินเอาไว้ แล้วหันมาบอกอริญชย์ที่พร้อมจะกระโจนใส่ไม่ต่างกัน
“ซันนายกลับไปก่อนนะ”
“แต่ว่า…”
“ไม่เป็นหรอกฉันคุยกับเขาได้”
“ก็ได้ แล้วจะโทร.หานะ”
“อื้อ”
อริญชย์พยักหน้าอย่างรับรู้เล็กน้อยก่อนจะเดินถอยหลังพร้อมกับยกมือขึ้นแตะมุมปากที่โดยต่อยเล็กน้อยก่อนจะหมุนตัวเดินไปขึ้นรถแล้วขับออกไป
บุษบันปรายตามองบอลด์วินอย่างตำหนิก่อนจะเดินหนีขึ้นห้องโดยไม่คิดจะพูดอะไร โดยมีบอลด์วินเดินตามหลังไปเงียบๆ
“คุณไปค้างคืนกับหมอนั่น” บอลด์วินเปิดประเด็นทันทีที่ประตูห้องถูกปิดลง
บุษบันวางกระเป๋าของตัวเองที่โซฟาแล้วหมุนตัวมายืนกอดอกเผชิญหน้ากับบอลด์วินที่พักนี้เธอไม่ได้มองหน้าเขาเต็มๆ เลยสักครั้ง ก่อนจะบอกเสียงเข้มว่า
“คุณกำลังกล่าวหาฉัน”
“หรือไม่ใช่” ชายหนุ่มเค้นเสียงถามด้วยใบหน้าที่ตึงเครียด
“ไม่ใช่ และถึงจะใช่คุณก็ไม่มีสิทธิ์ไปต่อว่าหรือทำร้ายเขา”
“แต่มันเริ่มก่อน”
“สมควรไหมล่ะ คุณดูถูกเขาและฉัน” บุษบันตะคอกใส่เขาขณะที่เดินกลับไปกลับมาภายในห้องเหมือนยืนอยู่บนที่ร้อนไม่สามารถอยู่นิ่งได้
“ผู้หญิงผู้ชายที่หายได้ด้วยกันทั้งวันทั้งคืนมันจะอะไรล่ะ” บอลด์วินตวาดกลับไปบ้าง
บุษบันหันขวับกะพริบตาถี่ๆ แล้วถามเสียงสั่นๆ ว่า
“นี่คุณว่าฉันใจง่าย นอนกับผู้ชายไม่เลือกอย่างนั้นเหรอ”
“ง่ายหรือไม่ง่ายคุณรู้อยู่แก่ใจ”
“ใช่ ฉันมันใจง่าย ใจง่ายกับคุณ ใจง่ายกับผู้ชายทุกคน พอใจหรือยัง”
บุษบันตะโกนใส่บอลด์วินพรอมกับผลักอกเขาแรงๆ และตอนนี้เองชายหนุ่มถึงเพิ่งสำนึกว่าตัวเองพูดแรงไป
“คือผม…”
“ฉันว่าเรายุติความสัมพันธ์กันตรงนี้ดีไหม” หญิงสาวบอกเสียงอ่อนระคนเหนื่อยล้า
“แสดงว่าคุณกับไอ้หมอนั่น”
“ฉันเหนื่อยที่จะต้องมานั่งแก้ตัวกับคนที่ไม่คิดจะฟังอย่างคุณ ทั้งที่จริงๆ แล้วฉันไม่จำเป็นต้องแก้ตัวด้วยซ้ำ”
“ผมขอโทษ”
“ขอโทษที่อารมณ์เสียใส่คุณ ก็ตั้งแต่เกิดเรื่องระหว่างเราไม่เหมือนเดิม”
“ฉันแค่รู้สึกไม่ดีที่คนอื่นมารู้เรื่องน่าอายของตัวเอง”
“แถมวันนี้มาหา คุณก็ไม่อยู่ โทร.ไปหมอนั่นก็รับสาย”
“เรื่องนั้นฉันไม่เห็นรู้เรื่อง”
“ผมรอคุณที่ห้องทั้งคืน เช้ามาคุณกลับกลับมากับหมอนั่น ผมเลยยั่วและคิดว่าคุณกับหมอนั่น…”
“เรานอนบ้านเดียวกัน แต่คนล่ะห้อง”
“คุณคงไม่รู้ว่าฉันสนิทกับบ้านนี้ทั้งบ้าน นายซันนอกจากจะมีพี่สาวแล้วเขายังมีน้องสาวฝาแฝด ยัยซายด์เป็นเพื่อนสนิทของฉันค่ะ”
******************************************************************************************************************************
มาอัพให้อ่านอีกตอนแล้วนะคะ จะอัพ จันทร์-พุธ-ศุกร์เลยนะคะ แทนเรื่องเพียงขวัญที่ต้องปั่นใหม่
ขอบคุณทุกการติดตามนะคะ (^_/\_^)
เกศมณี
04/04/57
เกศมณี
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 4 เม.ย. 2557, 21:36:22 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 4 เม.ย. 2557, 21:36:22 น.
จำนวนการเข้าชม : 1471
<< ตอนที่ 14 | ตอนที่ 16 >> |
alecigor 4 เม.ย. 2557, 23:25:59 น.
หึงซะขนาดนี้ยังไม่รู้ตัวอีกเรอะว่ารัก
หึงซะขนาดนี้ยังไม่รู้ตัวอีกเรอะว่ารัก
konhin 4 เม.ย. 2557, 23:46:33 น.
หวงแต่ไม่คิดจะจริงจัง สาวก็คิดจะไปอ่ะดิ
หวงแต่ไม่คิดจะจริงจัง สาวก็คิดจะไปอ่ะดิ