บ่วงรักนายพราน
เรื่องชุลมุน ซุ่มซ่าม เข้าใจผิดของธีรดากับจอมวายร้ายปารินทร์ เจ้าของคำจำกัดความ หล่อ สปอร์ต ใจดี รักหมา(ไม่น่ารอด) 'หากใครจะคิดว่าผมกำลังคบกับใคร ผมอยากให้ใครต่อใครคิดว่าผมคบกับคุณ'

การรู้สึกว่า 'ใช่' กับใครสักคนไม่ใช่เรื่องที่เกิดขึ้นได้ทุกวัน ปารินทร์รู้สึกว่าธีรดา 'ใช่' สำหรับเขา แต่กลับพบในภายหลังว่าเธออาจเป็นผู้หญิงที่เข้ามาทำลายความรักของน้องสาว การเอาคืนในแบบชิงไหวชิงพริบที่ใช้ธุรกิจบังหน้าทั้งที่เป็นเรื่องของหัวใจล้วนๆ จึงเกิดขึ้น
Tags: ความรัก ภาคต่อ หวานรักพยัคฆ์ร้าย

ตอน: ตอนที่ 1...100%

ตอนที่ 1 (จบตอน)

“ค่ะ คุณ...” ธีรดายิ้มเขินๆ เรื่องที่เธอทำมันไม่น่าเอามาชื่นชม เท่าที่เขาไม่ด่าแถมก็แทบกราบแล้ว
“สิงห์ ส่วนชื่อของคุณธีรดาใช่ไหม ตอนพามาหาหมอผมต้องกรอกประวัติให้คุณเลยถือวิสาสะ ขอโทษด้วย”
“ค่ะคุณสิงห์ ก็มันจำเป็น” เธอบอก แก้มร้อนวูบๆ พอสบตาคนหล่อ เธอเป็นอย่างนี้ทุกที หญิงสาวรีบหยิกตัวเอง เธอยิ่งปลื้มโรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์อยู่ พอจะพูดเสียงดันหายต้องกระแอมอยู่หลายครั้ง หมดกันภาพพจน์ที่มีอันน้อยนิด “เอ่อ ฉันคงไม่รบกวนคุณมากเกินไปถ้าจะถามว่าคุณช่วยไอ้ตัวเล็กมาด้วยหรือเปล่า”
“คิดว่าผมเป็นซุปเปอร์แมนหรือไงคุณ”
อ้าว! ฟังอย่างนี้แล้วจี๊ด ตัดคะแนนความหล่อลดลงเหลือครึ่งเดียว โทษฐานไม่ดูแลสัตว์ที่ตกทุกข์ได้ยาก
“ขอบคุณค่ะที่ช่วยฉันไว้” เธอเหวี่ยงขาลงจากเตียง แม้ว่าจะมึนหน่อยๆ คุณหมอทำไมช้าจัง ไปถามอาการของตัวเองน่าจะเร็วกว่า ป่านนี้เจ้าตัวเล็กยังอยู่ที่เดิมหรือเปล่าหนอ จำได้รางๆ ว่ามันวิ่งไปชนแบริเออร์หลังจากถูกรถเฉี่ยว เจ็บมากไหมไม่รู้
“ไม่ต้องลงมาจากเตียงเตรียมจะไปช่วยสัตว์โลก ทั้งที่ตัวเองเดี้ยงเลยคุณ” สิงห์ดุ ผู้หญิงอะไรทั้งบ้าบิ่น ทั้งใจร้อน แล้วดูเมื่อนาทีก่อนยังมองเขาอย่างขอบคุณ ตอนนี้มองมาอย่างกับเขาทำผิดนักหนา “ไอ้ตัวเล็กของคุณน่ะถึงมือหมอแล้ว ตอนนี้หลับปุ๋ยไปแล้วมั้ง”
ดวงตานางมารเปลี่ยนเป็นนางฟ้าชั่วพริบตา อยากบ่นกลับใจจะขาดว่าทำไมไม่บอกตั้งแต่แรก แต่เขาเป็นผู้มีพระคุณ การด่าผู้มีพระคุณถือว่าบาป เพราะฉะนั้นให้คะแนนความหล่อกลับมาเท่าเดิม พร้อมกับเพิ่มคะแนนรักสัตว์ให้ด้วย
“ไม่นึกว่าคนหน้าตาอย่างกับอาจารย์ฝ่ายปกครองจะใจดี๊ใจดี ขอบคุณค่ะ”
สิงห์กอดอกมองธีรดาพลางถอนใจแทนการหัวเราะท่าทางแปลกๆ ของอีกฝ่าย ถามว่าแปลกยังไงเขาก็ตอบไม่ถูก แค่รู้สึกว่าเธอไม่เหมือนผู้หญิงทั่วๆ ไป เจ็บตัวเพราะหมาตัวเดียวยังทำร่าเริงอยู่ได้
“ผมไปแล้วนะ มีประชุมสำคัญ ส่วนนี่นามบัตรหมอเจ้าของไข้หมา หายเดี้ยงแล้วอยากไปเยี่ยมก็ตามสะดวก”
“ค่ะ” หญิงสาวรับนามบัตรมา ขอบคุณไปแล้วนี่ ให้พูดอย่างอื่นก็นึกไม่ออก
สิงห์พยักหน้าให้แล้วเดินออกไปจากห้อง ไหล่ทั้งสองข้างตั้งบ่าและเดินอย่างคนมั่นใจ ผมยาวประบ่าของเขาถูกมัดรวบไว้ด้วยโบสีดำ เหมือนมาเฟียอิตาลี แต่หน้าไทย นี่เขาจะไปประชุมที่ประเทศอะไรเนี่ย ธีรดามองตามพอแผ่นหลังกว้างลับตาถึงได้นั่งยิ้มกับตัวเอง
“หล่อ สปอร์ต ใจดี รักหมา...ไม่น่ารอด”
จบกัน ขอเพ้ออีกสักนาทีก็ไม่ได้ คุณหมอเดินมาหาพอดี เธอเลยต้องรีบตั้งสติฟังอาการของตัวเองที่นอกจากแขนหักแล้วก็มีรอยช้ำตามส่วนต่างๆ ผลตรวจสมองไม่มีอะไรน่าห่วง แค่นี้ก็ถือว่าเป็นข่าวดี เธอได้กลับบ้านไม่ต้องนอนค้างที่โรงพยาบาลตามคาด
ธีรดาแวะเคลียร์ค่ารักษาที่เคาน์เตอร์ อาการมึนหายไป พอออกมาจากห้องถึงได้รู้ว่าตอนนี้มืดมากแล้ว สมควรก็มันจะ 2 ทุ่มเข้าไปแล้วนี่ เพราะฉะนั้นเรื่องไปเยี่ยมไอ้ตัวเล็กคงต้องเป็นเรื่องของวันพรุ่งนี้ แค่ลากสังขารให้ถึงบ้านก็แทบแย่แล้วมั้ง
“ฉันมาเคลียร์ค่ารักษาค่ะ”
หญิงสาวบอกชื่อของตัวเองไป เจ้าหน้าที่ทำการคีย์ข้อมูลไม่ถึงนาทีก็หันมายิ้มกว้างให้ แหม โรงพยาบาลนี้บริการดีจัง แต่ขอล่ะ ไม่อยากมาบ่อยๆ
“ผู้ชายที่มากับคุณจัดการให้เรียบร้อยแล้วค่ะ”
คะแนนความมีน้ำใจถูกกดให้ไม่ยั้ง แต่เธอทำตัวเองเจ็บ เขาจะมาจ่ายค่ารักษาให้ทำไม ไม่ใช่นิยายเสียหน่อย เมื่อกี้โมเม้นต์รักแรกพบไม่มีเลยสักกะติ๊ดนึง แล้วที่สำคัญเธอไม่ชอบเป็นหนี้บุญคุณใครยิ่งเป็นเงินยิ่งไม่ได้
“ไม่ทราบว่าทางโรงพยาบาลพอจะมีเบอร์ติดต่อของคุณสิงห์บ้างไหมคะ ฉันอยากคืนเงินให้เขาน่ะค่ะ”
“เอ่อ ทางเราไม่มีค่ะ ขอโทษด้วยนะคะ”
ธีรดาอยากเขกหัวตัวเองที่ไม่ได้ขอเบอร์ของผู้ชายคนนั้นไว้ แต่คิดอีกทีไม่ขอน่ะดีแล้ว ถ้าขอไปเขาคงสยองเธอแน่ๆ อยู่ดีๆ มาขอเบอร์คนแปลกหน้า เอาเถอะ ถ้าเจอกันได้ครั้งนึง มันคงมีโอกาสต่อไปล่ะน่า วันนี้กลับบ้านให้ได้ก่อนก็แล้วกัน ถึงตอนนี้อยากขับรถเองคงไม่ได้แล้ว เกลียดเฝือกจริงๆ เลย แล้วกระดูกของเธอน่ะทำไมอ่อนแอนักเดี๋ยวหักๆ

ผลจากทำเยอะ แต่คิดน้อยทำให้ธีรดาต้องลางานในวันต่อมา วิภา...เลขาวัยดึกช่วยเคลียร์นัดของเธอในวันนี้ออกไปก่อน หญิงสาวนอนพักจนสายของวันก็อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ป้าอร...แม่บ้านทำอาหารไว้รอ พอถูกถามว่าไปทำอะไรมาแขนถึงได้ใส่เฝือกเธอเลยตอบว่าหกล้ม ไม่ได้โกหก แค่พูดไม่หมดเท่านั้นเอง
ธีรดานั่งรถแท็กซี่ไปคลินิกตามนามบัตรที่สิงห์ให้ไว้ซึ่งไม่ไกลจากบ้านของเธอนัก คลินิก ‘บ้านรักสัตว์’ ดูน่ารักเมื่อทาสีชมพูคาดฟ้าเหมือนหวานเย็น ดูสดใส คนหรือสัตว์ถ้าอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดีอาการเจ็บป่วยย่อมหายเร็วขึ้น ที่เคาน์เตอร์มีสาวน้อยหน้าตาน่ารัก คงเป็นคุณหมอที่น่าจะมีแฟนคลับเป็นเจ้าของหมาแมวเยอะน่าดู ขนาดเธอยังมองแล้วชอบเลย
“เอ่อ ฉันมาหาเจ้าตัวเล็กที่น่าจะเพิ่งพามาส่งรักษาเมื่อวานตอนบ่ายๆ ผู้ชายตัวสูงๆ ผมสีดำ ตาสีน้ำตาล มีไหมคะ”
เจนจิรายิ้มให้ธีรดา ใช่อย่างที่ได้รับการบอกเล่าไว้ก่อนหน้านี้เลย...ผู้หญิงผมยาว สูงเพรียว หน้าตาเหมือนแมวและแขนซ้ายใส่เฝือก
“มีค่ะ คุณธีรดาใช่ไหมคะ พี่สิงห์บอกไว้”
“ค่ะ คุณหมอ” ดีแฮะ พูดนิดเดียวก็เข้าใจ สงสัยอีตาคุณสิงห์คงเป็นลูกค้าของที่นี่กระมัง
“ตามเจนมาเลยค่ะ อาการเจ้าตัวเล็กของคุณไม่หนักหนานะคะ แค่โดนเฉี่ยว แต่ที่น่าห่วงก็ตรงมันกำลังท้องเลยอุ้ยอ้าย”
“แล้วลูกๆ ในท้องของมันปลอดภัยไหมคะหมอ” ถึงว่าตอนที่เห็นมันเดินช้า ตัวเล็กแต่พุงโต นึกว่าอ้วนที่แท้กำลังท้องอยู่นี่เอง เกือบไปแล้วไหมล่ะ
ไอ้ตัวเล็กที่ต้องเปลี่ยนเป็นนังตัวเล็กผงกหัวขึ้นมามองหมอกับธีรดา ไม่มีวี่แววว่ามันจดจำผู้ช่วยชีวิตมันได้ แต่อย่างน้อยมันยังส่ายหางให้อย่างเป็นมิตร
“ผลตรวจออกมาดีค่ะ พี่สิงห์บอกว่าคุณธีรดาไปขวางไว้ทำให้รถคันนั้นแค่เฉี่ยวเจ้าตัวเล็กของคุณเท่านั้น แต่มันตกใจเลยวิ่งไปชนกับแบริเออร์กลางถนนเลยขาหน้าซ้นเดินไม่ไหว”
ที่ขาหน้าของมันมีผ้าพันไว้ ธีรดาก้มมองแขนตัวเองแล้วยิ้ม อะไรมันจะบังเอิญเหมือนได้ขนาดนี้
“ดีจัง ขอบคุณนะคะคุณหมอ”
“ไม่เป็นไรค่ะ หมอแนะนำให้มันพักรักษาตัวที่นี่ก่อน หมาไม่มีปลอกคอ อาจไม่มีเจ้าของนะคะ ถ้าหลังจากมันหายแล้ว...”
“เดี๋ยวฉันจะดูแลมันต่อเองค่ะคุณหมอ อาจเป็นโชคชะตาก็ได้ละมั้ง ถ้าวันนั้นฉันขับรถผ่านไปตรงนั้นอาจไม่ทันเห็นมันก็ได้ เพราะฉะนั้นฉันจะคิดว่ามันคงตามหาฉันอยู่พอดี” ธีรดาตั้งใจไว้แล้วถ้าหมาไม่มีเจ้าของก็จะรับไปเลี้ยง
เจนจิรายิ้มกว้างที่หมาจะได้มีเจ้าของ หลายครั้งที่หมาถูกรถชนมา พอรักษาหายไม่มีเจ้าของมารับ เธอน่ะรับเลี้ยงจนแม่ที่อยู่เชียงใหม่บ่นว่ามันเต็มบ้านไปหมดแล้ว บางตัวเลี้ยงไม่ไหวก็ฝากให้เพื่อนเลี้ยง ขนาดพี่สิงห์ยังไม่เว้นเลย
“ใจดีจัง ส่วนเรื่องค่ารักษาพี่สิงห์บอกไว้ว่าจะดูแลให้นะคะ”
ธีรดาชักสงสัยตงิดๆ ว่าคุณหมอหน้าตาน่ารักเป็นอะไรกับคุณสิงห์ แต่ใครจะกล้าถาม ว่าแต่อีตาคุณสิงห์นี่จะตามจ่ายให้เธอทำไม ชักแปลกๆ แฮะ
“ไม่เป็นไรค่ะ ฝากบอกเขาด้วยนะคะว่าขอบคุณมาก ฉันขอจ่ายเงินค่ารักษาของหมาตัวนี้เอง แล้วก็ค่ารักษาเมื่อวานถ้าเป็นไปได้ขอเลขที่บัญชีมาด้วยจะขอบคุณมาก ฉันอยากคืนเงินให้เขาค่ะ”
หมอเจนพยักหน้าหงึกๆ พลางมองธีรดาชัดๆ อีกรอบ มั่นใจว่าไม่เคยเห็นผู้หญิงคนนี้มาก่อนแน่ๆ แถมคนพาหมามายังไม่เคยพูดถึงจนกระทั่งเมื่อวานอีกด้วย
“ค่ะ เจนจะบอกพี่สิงห์ให้ ถ้ารายนั้นว่างรับโทรศัพท์นะคะ”
ธีรดายิ้มตอบ ยังไงก็ได้ที่เธอจะไม่เป็นหนี้ผู้ชายคนนั้น ไม่ใช่ว่าไม่พอใจ แต่มันไม่ใช่เรื่องที่เขามาจ่ายอะไรต่อมิอะไรให้ เธอไม่ใช่คนเห็นแก่ได้ขนาดนั้น
เจนจิราขอตัวไปหน้าร้านเมื่อมีลูกค้าพาแมวมารักษา ธีรดานั่งอยู่หน้ากรงของนังตัวเล็ก แต่พุงโต มันลืมตาเงยหน้ามองเธออีกรอบ แล้วทำเมิน สงสัยจำเธอไม่ได้จริงๆ เธอนั่งดูอาการของมันอยู่พักใหญ่พร้อมกับคิดชื่อให้มันไปด้วย ไหนๆ มีชวนชม กับดอกรักแล้ว เพิ่มดอกไม้อีกสักดอกคงจะดี
“เดี๋ยวพรุ่งนี้ฉันมาใหม่นะ บานชื่น จำเลยนะ ไม่ว่าก่อนหน้านี้แกชื่ออะไรลืมไปซะ ตอนนี้แกมีชื่อใหม่ เสือคงชอบแกเหมือนกันนะบานชื่น”
บานชื่นเอาขาตะกายกรงเบาๆ ไม่รู้ว่ามันรำคาญหรือว่าชอบชื่อใหม่ มือบางยื่นนิ้วไปลูบที่ขาหน้าของมันเบาๆ มันหลับตาพริ้มชอบใจ ก่อนจะยกมือขึ้นมาป้ายหัวป้ายตาตัวเองอย่างเอียงอาย การสร้างไมตรีกับบานชื่นคงไม่ยากอะไร รับรองหายเมื่อไหร่ไปอยู่ด้วยกันที่บ้าน มันจะได้เป็นคุณนายประจำบ้านของสาวโสด แต่บานชื่นมันก้าวหน้ากว่าเดือนหน้าคงได้เป็นแม่หมาแล้วมั้ง

ธีรดากลับบ้านพร้อมแขนหนักอึ้งที่ทำให้นึกรำคาญตัวเอง นั่งอ่านหนังสืออยู่ครู่เดียวก็หลับ ตื่นมาอีกทีก็ได้เวลาอาหาร เธอกินอาหารแบบเหงาๆ เพียงคนเดียว ตริณโทรมาบอกว่ามีนัดกลุ่มเพื่อนมหา’ลัย เธอปฏิเสธไปเพราะสภาพแบบนี้นอนอยู่บ้านดีที่สุด
วิภามายืนรอนายสาวที่ประตูทางเข้าออฟฟิศในวันต่อ เลขาและพนักงานพากันถามธีรดาว่าไปทำอะไรมา สงสัยส่วนที่เปราะที่สุดในร่างกายของเธอคงเป็นแขน นอกนั้นทนดีไม่มีหักตั้งแต่จำความได้ หญิงสาวเข้ามาในห้องทำงานพอได้นั่งก็ถอนใจพลางบิดตัวที่ยังเมื่อยก่อนกดโทรหาเลขาเป็นอันเริ่มงานหลังจากได้พักเพิ่มอีกหนึ่งวัน
“มีอะไรส่งเข้ามาได้เลยค่ะพี่วิภา”
ไม่ถึง 2 นาทีประตูก็เปิดออกพร้อมวิภาที่เข้ามาพร้อมแฟ้มงานหนาปึ๊ก
“มีห้าแฟ้มค่ะ แฟ้มนี้ทางทีมออกแบบเพิ่งส่งมาให้เมื่อวาน แล้วนี่ลูกค้ารายใหม่ที่ทางฝ่ายเซลล์เพิ่งไปติดต่อมา มีน่าสนใจมากๆ อยู่บริษัทนึงค่ะ ถ้าได้ลูกค้ารายได้ การบุกตลาดยุโรปคงง่ายขึ้น ส่วนอีก 3 แฟ้มรอการอนุมัติค่ะ”
ธีรดารับแฟ้มลูกค้าที่น่าสนใจมาดูคร่าวๆ พาราลิสต์ (Paralist) ชื่อนี้เธอเคยได้ยินมาก่อนตอนไปรับรางวัลที่ญี่ปุ่นเมื่อปีก่อน ตัวแทนจากพาราลิสต์ไปที่นั่นเหมือนกัน เท่าที่รู้พาราลิสต์เป็นบริษัทผลิตและส่งออกเฟอร์นิเจอร์ชั้นนำของเอเชียและมีลูกค้าอยู่ทั่วโลก
“น่าสนใจมากนะคะ เดี๋ยวกวางขออ่านก่อน ถ้าเปิดตลาดยุโรปได้จริงคงเป็นข่าวดีที่สุดในรอบปีของเราเลยค่ะ”
“อ้อ มีของอีกอย่างค่ะ มีคนมาส่งให้คุณกวางเมื่อเช้านี้เอง”
วิภาเดินกลับไปที่โต๊ะทำงานของตัวเอง ไม่นานนักก็กลับมาพร้อมช่อดอกกุหลาบสีแดงดอกใหญ่ตูมเต่ง ธีรดามองแล้วขมวดคิ้ว ไม่ได้ดีใจเพราะมันดูแปลกๆ วันนี้ไม่ใช่วันวาเลนไทน์สักหน่อย
“ส่งผิดที่หรือเปล่าคะพี่วิภา”
“ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ มีการ์ดอยู่ คงไม่ผิดที่หรอกมั้งคะ คนส่งบอกเองว่าส่งให้คุณกวาง”
“ขอบคุณค่ะ”
ธีรดายิ้มกว้าง ถึงจะตงิดๆ ว่าคนส่งอาจส่งผิดก็ได้ แต่เพื่อให้หายคาใจการ์ดที่เหน็บติดมาเลยถูกเปิดอ่าน
‘ยินด้วยด้วย’
“ของใคร ไม่เห็นเขียนชื่อไว้ ส่งผิดซะละมั้ง” แต่ลายมือแบบนี้มันคุ้นๆ แฮะ ธีรดาขมวดคิ้วนั่งนึก
ใช่แล้ว! หญิงสาวหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา อย่างนี้มันน่าโทรไปเฉ่งให้หายอยากคนส่งดอกไม้มาให้ แต่ยังไม่ทันกดเบอร์ คนก่อเรื่องกลับโทรมาเสียก่อน ดี...กำลังอยากคุย
“เธอส่งดอกไม้มาใช่ไหม?”
“ใช่ เดาว่าตอนนี้คงคันคะเยอไปหมดล่ะสิ แหม ฉันก็ย้ำแล้วนะว่าใช้หมามุ่ยแค่นิดเดียวพอ ไงล่ะ คันมือถลอกไปหรือยังล่ะ ต่อไปฉันจะไม่ยอมให้ลูกค้าหลุดมือไปอยู่กับเธออีก” กวินตาหัวเราะเสียงสะใจเมื่อนึกภาพธีรดากำลังคันคะเยอ
ธีรดาหัวเราะกลับ ตั้งแต่เรียนมหา’ลัยจนกระทั่งมาทำงานเปิดบริษัทซึ่งก็ทับไลน์กันบางส่วน เธอค้าไม้แปรรูปและงานออกแบบเฟอร์นิเจอร์ที่เพิ่งเพิ่มมาเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งก็ทับไลน์บริษัทออกแบบเฟอร์นิเจอร์ของกวินตาพอดี อีกทั้งรางวัลนักออกแบบหน้าใหม่ที่เธอได้เมื่อปีก่อนก็ฟาดฟันกับคนของ ‘กาวิต้า’ เสียด้วย มันเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้จริงๆ ยังไม่หมดเท่านั้นนั้น เรายังทำธุรกิจค้าไม้เหมือนกันเสียด้วย เลยยิ่งไปกันใหญ่
“พวกลอบกัด ให้ผ่านนานเท่าไหร่ก็นิสัยเดิมๆ เอ หรือว่าไม่ใช่นิสัย แต่เป็น...”
กวินตาหัวเราะเสียงต่ำ เรื่องอะไรเธอจะรับ ถ้าไม่มีธีรดา งานของเธอคงไม่สนุกอย่างนี้หรอก ตั้งแต่เรียนจนมาทำงาน ทำไมถึงหนีกันไม่พ้นสักทีก็ไม่รู้ บ้านทำกิจการเหมือนกัน ชอบผู้ชายคนเดียวกัน แล้วยังต้องมาแย่งลูกค้ากันอีก
“เอาเวลาไปหาคาลามายด์มาทาดีกว่ามั้ง โทษฐานมือคันจนมาแย่งลูกค้าของฉันไป”
ธีรดาถอนใจไม่อยากเถียงเรื่องเดิมๆ ลูกค้าเป็นคนเลือกแบบ ไม่ใช่ว่าเธอไปยัดเงินให้เลือก ‘ธารธีรา’ เสียที่ไหน ของแบบนี้มันสู้กันที่ไอเดียใครตรงใจลูกค้าต่างหาก
“เบื่อจะเถียง ช่วยคิดอะไรแบบไม่เข้าข้างตัวเองเสียที แล้วก็เสียใจด้วย ฉันไม่ได้เป็นอะไรเลย ลายมือไก่เขี่ย แย่กว่าเด็กอนุบาลแบบนั้น ใครจะจำไม่ได้ ถ้าจะร้ายให้เข้าเส้นก็ช่วยใช้สมองให้มากกว่านี้หน่อย” เธอใส่กลับรวดเดียวจบแล้ววางสาย เรื่องอะไรจะยอมโดนย้อน ดีนะที่ไม่ได้จับดอกไม้ หวังว่าพี่วิภาคงไม่โดนอิทธิฤทธิ์ของหมามุ่ยเข้าหรอกนะ
คนกำลังใจมาอยากทำงาน ตอนนี้ขอตั้งหลักก่อน คุยกับกวินตาทีไรนึกถึงอดีตก่อนที่เราจะเป็นคู่แค้นกันทุกที ความจริงเธอกับกวินตาเคยเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน ถึงไม่ใช่เพื่อนสนิท แต่ก็ไม่หักเหลี่ยมโหดเหมือนในตอนนี้ เรื่องมันเริ่มจากเราสอคนดันไปชอบรุ่นพี่คนเดียวกัน แต่เธอคงมีภาษีกว่าหน่อยตรงที่เป็นหลานรหัสของพี่ปุ๊
ถึงจะนานแต่จำได้แม่น พี่ปุ๊เป็นนักกีฬาบาสของมหา’ลัย เพราะฉะนั้นสาวตามกรี๊ดตรึม หนึ่งในนั้นก็มีเธอกับยัยวิตาด้วย พอเป็นผู้ใหญ่ขึ้นแล้วคิดถึงช่วงเวลานั้น สาวๆ ที่ตามกรี๊ดพี่ปุ๊ก็คงเหมือนวัยรุ่นทั่วๆ ไปที่ตามกรี๊ดไอดอลเกาหลีละมั้ง เพียงแต่พี่ปุ๊ไม่เคยควงสาวคนไหนให้บรรดาแฟนคลับอกหัก ความใกล้ชิดระหว่างปู่รหัสกับหลานรหัสไปได้สวย ถ้าไม่เข้าข้างตัวเองเกินไปธีรดาก็มั่นใจว่าพี่ปุ๊จีบเธอ ถ้าขนาดมาส่งที่บ้านเกือบทุกวันและโทรหาเป็นเดือนๆ ไม่เรียกว่าจีบก็ไม่รู้จะเรียกว่าอะไรแล้ว
ทว่าวันหนึ่งพี่ปุ๊กลับหายเงียบไป เธอโทรไปก็ไม่รับ จนกระทั่งมารู้ในสัปดาห์ต่อมาว่าพี่ปุ๊อกหักจากเธอ ตอนไหนเมื่อไหร่ เธอไม่ได้พูดหรือทำอะไรที่จะทำให้เขาอกหักได้เลยสักนิด พี่ปุ๊ไม่ยอมพบหน้าเธอและพอเดือนต่อมาเขาก็เป็นแฟนกับพี่ปีสี่ที่คงแอบชอบพี่ปุ๊มานาน
‘พี่ปุ๊มีแฟนแล้ว’
ตอนนั้นธีรดาร้องไห้เสียใจ ธีมาถามเท่าไหร่เธอไม่เคยตอบเลยไปเกิดเรื่องชกกับพี่ปุ๊ เรื่องราวคงจบลงแค่นั้น ถ้าเธอกับพี่ปุ๊จะไม่พบกันในงานเลี้ยงหลังสอบเสร็จ เราได้มีโอกาสคุยกัน และวันนั้นเธอได้ต่อยเพื่อนเป็นครั้งแรก กวินตาเป็นคนไปบอกพี่ปุ๊ว่าเธอมีแฟนแล้ว เขาถึงอกหัก เพียงเพราะคิดว่าพี่ปุ๊จะหันไปสนใจตัวเองบ้าง แต่เปล่าเลย เราต่างอดทั้งคู่ ความเป็นเพื่อนอันน้อยนิดหายไปตั้งแต่วันนั้น พี่ปุ๊เรียบจบไปพร้อมกับยังเป็นแฟนกับพี่สี่คนนั้น เธออกหักซ้ำสอง
“ป่านนี้แต่งงานมีเมียมีลูกไปแล้วละมั้ง”
ธีรดาหัวเราะใส่ตัวเองที่นึกถึงเรื่องนี้ขึ้นมาทำไมอีก ทำกับยังรอพี่ปุ๊อยู่อย่างนั้นแหละ ถามว่าถ้าได้พบกันอีกครั้งแล้วพี่ปุ๊ยังโสดเธอจะทำยังไง หญิงสาวส่ายหน้าไม่รู้ใจตัวเองเหมือนกัน เรื่องราวมันนานจนทุกอย่างกลายเป็นความทรงจำ ความรักอาจเหลือเพียงแค่ความคิดถึงไปแล้วก็ได้



บรรพตี
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 6 เม.ย. 2557, 06:58:18 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 6 เม.ย. 2557, 06:58:18 น.

จำนวนการเข้าชม : 1633





<< ตอนที่ 1...50%   ตอนที่ 2...50% >>
แว่นใส 6 เม.ย. 2557, 10:03:25 น.
สมบูรณ์แบบเกินไปเนอะ


Sukhumvit66 6 เม.ย. 2557, 18:33:43 น.
กำลังสนุกเลย มาไวไวนะคะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account