บ่วงรักนายพราน
เรื่องชุลมุน ซุ่มซ่าม เข้าใจผิดของธีรดากับจอมวายร้ายปารินทร์ เจ้าของคำจำกัดความ หล่อ สปอร์ต ใจดี รักหมา(ไม่น่ารอด) 'หากใครจะคิดว่าผมกำลังคบกับใคร ผมอยากให้ใครต่อใครคิดว่าผมคบกับคุณ'

การรู้สึกว่า 'ใช่' กับใครสักคนไม่ใช่เรื่องที่เกิดขึ้นได้ทุกวัน ปารินทร์รู้สึกว่าธีรดา 'ใช่' สำหรับเขา แต่กลับพบในภายหลังว่าเธออาจเป็นผู้หญิงที่เข้ามาทำลายความรักของน้องสาว การเอาคืนในแบบชิงไหวชิงพริบที่ใช้ธุรกิจบังหน้าทั้งที่เป็นเรื่องของหัวใจล้วนๆ จึงเกิดขึ้น
Tags: ความรัก ภาคต่อ หวานรักพยัคฆ์ร้าย

ตอน: ตอนที่ 2...50%

ตอนที่ 2

กวินตามาทำงานตรงเวลา การเปิดบริษัทเป็นของตัวเองจากทุนของพ่อทำให้เธอรู้ค่าของเวลา ในขณะเดียวกันก็ไม่พร้อมที่จะถูกเอาเปรียบ เพราะฉะนั้นการมาทำงานสายในบริษัท ‘กาวิต้า’ ถือว่าเป็นเรื่องร้ายแรงที่อาจถูกตำหนิหากสายติดต่อกันถึง 3 ครั้ง เมื่อวานเธอออกไปคุยกับลูกค้าตลอดบ่าย วันนี้ในช่วงเช้าเธอคงมีงานต้องเคลียร์ไม่น้อย
พนักงานในออฟฟิศเล็กๆ มีเพียง 8 คนรวมธุรการที่ทำหน้าที่ประสานงานผสมแม่บ้าน หญิงสาวเปิดประตูห้องทำงานของตัวเอง กองงานมีไม่มากอย่างที่คิด หนึ่งในนั้นมีซองเอกสารที่ทำให้หัวใจของเธอพองโตเมื่อคิดว่าอาจจะเป็นเอกสารตอบรับการออกแบบเฟอร์นิเจอร์จากลูกค้าที่เซลล์ไปติดต่อไว้ เธอรีบเปิดซองแล้วหยิบเอกสารในซองออกมา ทว่าในซองยังมีซองเล็กๆ อีกซองหนึ่ง พอเปิดออกก็พบรูปภาพหลายใบที่แค่เห็นเท่านั้นออฟฟิศที่เงียบสงบก็เต็มไปด้วยสีสันฉูดฉาดทันที
“กรี๊ด!!!”
“เป็นอะไรหรือคะคุณวิตา” วดีเปิดประตูเข้ามาเมื่อได้เสียงนายสาวกรี๊ดลั่นออฟฟิศ
กวินตากำมือแน่นรีบเก็บอาการเมื่อเห็นเลขาเข้ามา ยัยนี่ทำงานดี แต่ปากสว่าง
“ไม่มีอะไร ไม่ได้สั่งเข้ามาทำไม ไม่ได้เคาะประตูใช่ไหม”
“ขอโทษค่ะ”
วดียกมือไหว้รีบเดินออกไปจากห้อง อยู่ๆ ร้องกรี๊ดเธอก็นึกว่าเป็นอะไร แต่กลายเป็นโดนดุเสียนี่ กวินตารอจนประตูปิดเรียบร้อยก็กรี๊ดอีกรอบแต่คราวนี้กรี๊ดลมไร้เสียง ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าใครส่งมา
“เล่นแบบนี้หรือยัยกวาง” รูปหลายใบถูกฉีกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยด้วยความโมโหทั้งคนส่งมาให้และผู้ชายสองคนในรูป “ไอ้ผู้ชายเฮงซวยไม่กินชะนีแล้วมาทำแอ๊บมาทำไมยะ โอ๊ย! โมโห”
มีไม่กี่คนที่รู้ว่าแฟนคนแรกหลังจากหมดหวังจากพี่ปุ๊คือเตวิช อุตสาห์ดีใจว่าหาแฟนได้ทั้งหล่อและรวย ที่ไหนได้มันดันแอ๊บแมน คบเธอเป็นแฟนบังหน้าเพื่อไม่ให้ที่บ้านรู้ว่าที่แท้ชอบไม้ป่าเดียวกัน วันดีคืนซวยไปเจอนักข่าวเข้าเพราะคู่รักของเขาดันเป็นดาราชื่อดัง ภาพพวกนี้เคยหราที่หน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์เมื่อ 5 ปีก่อน แต่ยัยกวางยังเก็บไว้แล้วส่งมาให้เธอโมโหอีกจนได้ แค้นนี้จำไว้เราต้องได้ชำระกันแน่

ธีรดาหัวเราะลั่นเมื่อเห็นเบอร์ของกวินตาที่หนาจอโทรศัพท์ของตัวเอง เธอกดรับแต่แกล้งเอาโทรศัพท์ไปจ่อกับลำโพงรถแท็กซี่ที่กำลังเปิดเพลงชาติพอดี รักชาติกันไว้ อย่าตีกัน แค่แกล้งกันขำๆ พอ กวินตาหูแทบแตก พอโทรกลับไปอีกรอบ ธีรดากลับฮำเพลงใส่ไม่สนใจปลายสายว่าจะฟังหรือไม่ฟังก่อนกดวางแบบไม่แคร์สื่อ เธอไม่ทำใครก่อน แต่ก็ไม่เคยยอมให้ใครมาทำร้ายฝ่ายเดียวเหมือนกัน
วันนี้มีประชุมในตอนเช้า ส่วนตอนบ่ายไม่มีงานอะไรมาก ธีรดาเลยมีเวลานั่งออกแบบเฟอร์นิเจอร์ ธีมาเคยถามเธอว่าทำไมสนใจงานออกแบบจากไม้ เห็นผู้หญิงส่วนใหญ่ถ้าไม่ออกแบบเสื้อผ้า ก็น่าจะเป็นเครื่องประดับ ใครจะไปตอบได้ ชอบก็คือชอบ แค่นั้น ทำแล้วมีความสุข อย่างน้อยความสุขของเธอก็ทำให้เกิดบริษัทลูกของธารธีราล่ะน่า ถ้าพร้อมกว่านี้เธอจะตั้งโรงงานผลิตเฟอร์นิเจอร์ ตอนนี้ทีมออกแบบขอธารธีรามีอยู่ 3 คน ออกแบบงานได้ลูกค้ามาหลายบริษัทแล้ว รายล่าสุดก็เพิ่งทำให้กวินตาองค์ลงไงล่ะ
ก่อนเลิกงานเล็กน้อยธีรดานั่งรถแท็กซี่มาที่คลินิกบ้านรักสัตว์ หมอเจนกำลังรักษาแมวที่เจ้าของช่างสะเพร่าที่เอายาพาราเซตามอลมาให้แมวกิน ไม่รู้หรือไงว่าให้กินไม่ได้เพราะมันจะตาย เจ้าของแมวนั่งตาแดงๆ อยู่ข้างเจ้าเหมียว บางครั้งความไม่รู้ช่างน่ากลัว ยามีประโยชน์เมื่อกินให้ถูกกับโรค แต่ถ้ากินผิดเมื่อไหร่มันจะกลายเป็นยาพิษเมื่อนั้น หมอเจนบอกว่าต้องรอดูอาการ ถ้าเจ้าเหมียวแข็งแรงพอมันอาจจะผ่านคืนนี้ได้ ธีรดาภาวนาให้มันรอดด้วยเถอะ
“บานชื่น เอ่อ นังตัวเล็กเป็นยังไงบ้างคะคุณหมอเจน” ธีรดาถามเมื่อเจนจิราว่างแล้ว
“พรุ่งนี้ก็กลับบ้านได้แล้วค่ะ จะไปหา...บานชื่นไหมคะ ตอนนี้คงกินอาหารเสร็จพอดี ผู้ช่วยของหมอบอกว่ามันชอบให้เล่นคางค่ะ แป๊บเดียวหลับพริ้ม นานอีกนิดก็หลับไปเลย ดูเป็นหมาเลี้ยงง่ายดีนะคะ”
หมอเจนเดินนำธีรดาไปหลังคลินิก วันนี้บานชื่นมีเพื่อนมาเพิ่ม แต่หมาตัวนั้นยังสลบอยู่เพราะเพิ่งทำหมันเสร็จและรอเจ้าของมารับกลับบ้าน บานชื่อส่งเสียงงี้ดๆ เมื่อเห็นคนที่ช่วยชีวิตมัน
“จำฉันได้แล้วล่ะสิ” ธีรดายิ้มกว้างยื่นมือไปจับขาหน้าที่ตะกายออกมานอกกรง “พรุ่งนี้กลับบ้านด้วยกันนะบานชื่น”
เจนจิราหัวเราะเบาๆ ถ้าคนไม่เข้าใจเหมือนกัน มีหวังเธอกับคนรักสัตว์ที่คุยกับหมาหรือแมวอยู่คนเดียวคงถูกหาว่าบ้า ถึงมันจะตอบไม่ได้ แต่มันน่าจะเข้าใจและรู้สึกถึงความรักได้เหมือนมนุษย์นั่นแหละ
“หมอเจนคะ เรื่องที่ฉันฝากบอกคุณสิงห์”
“เจนบอกแล้วค่ะ พี่สิงห์บอกว่าไม่ไร ให้แล้วไม่คิดรับคืน ส่วนเรื่องของบานชื่น แล้วแต่คุณธีรดาค่ะ”
“เรียกสั้นๆ ว่ากวางก็ได้ค่ะ ถ้างั้นฉันฝากเงินไว้กับหมอเจนได้ไหมคะ”
ธีรดาหยิบซองเงินที่เตรียมไว้ออกมาจากกระเป๋า เธอกับผู้ชายคนนั้นไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย แล้วจะมาจ่ายเงินให้ทำไม แค่เป็นเพื่อนยังพูดได้ไม่เต็มปากเลยด้วยซ้ำ
คนถูกรับฝากยิ้มลำบากใจ ปฏิเสธเสียงเบา “ไม่ดีหรอกค่ะ เดี๋ยวพี่สิงห์โกรธ เจนว่าคุณกวางอย่าคิดมากเลยค่ะ เป็นน้ำใจช่วยๆ กันดีกว่า”
“ถ้างั้นบอกพี่สิงห์ของหมอเจนด้วยนะคะว่าช่วยมาให้เจอตัวสักหน่อย ฉันไม่ชอบรับเงินใครฟรีๆ”
“อูย จะบอกให้นะคะ” หมอเจนแบ่งรับแบ่งสู้
ธีรดาหันไปเล่นกับหมาต่อ ไม่อยากทำให้เกิดความลำบากใจ จริงอย่างที่หมอเจนบอก บานชื่นดูเป็นหมาเลี้ยงง่ายและเป็นมิตร เธอเคยไปช่วยหมาถูกรถเฉี่ยวแล้วกลับถูกมันกัด แต่เธอไม่โทษมันหรอก เวลาหมาเจ็บมันจะระวังภัยและหวาดกลัว การที่มันกัดเธอก็เพราะเหตุนั้น ตอนนี้มีลูกสามและมีแฟนชื่อดอกรักไปแล้ว

เรื่องที่น่าเบื่อที่สุดของสาวโสดคงมีไม่กี่เรื่อง หนึ่งในหลายเรื่องนั้นเป็นเหตุผลของการใส่ชุดแซคเรียบแต่หรูในเย็นนี้หลังกลับจากคลินิก งานแต่งงานเป็นของแสลงสำหรับสาวโสดที่เพื่อนสนิทสมัยมหา’ลัย ค่อยๆ พากันแต่งงานกันไปทีละคนสองคน จนตอนนี้เหลือเธอกับยัยวิตา รายนั้นแต่งตัวคล้ายๆ กับเธอเสียด้วย พอสบตากันก็เลยอดขำไม่ได้ เธอน่าจะใส่แซคสีขาวมาแทนสีชมพู ไม่น่าเลยจริงๆ
“มาเหมือนกันหรือยะ” กวินตาทัก เรียวปากเคลือบลิปติกสีแดงยิ้มหมิ่นๆ ยามปรายตามองไปที่แขนของธีรดา ยัยนี่ซุ่มซ่ามเจ็บตัวได้ตลอดเวลาจริงๆ
“วันนี้ฉันเหนื่อย อยากลับฟันก็ไปที่อื่นก่อนแล้วกัน” แค่แบกแขนที่หุ้มด้วยเฝือกหนักๆ ก็กินพลังงานของเธอแทบไม่เหลือหลอ
กวินตาร้องเฮอะ ใช่ว่าเธออยากตอแยเลยเดินไปทักทายกลุ่มเพื่อน ธีรดาไปทักทายเจ้าสาวที่เป็นเพื่อนรหัสตอนเรียนมหา’ลัย มีลุงรหัสคนเดียวกัน ส่วนเจ้าบ่าวเพิ่งรู้จักวันนี้ ทุกคนมีแต่รอยยิ้ม บางคนพาลูกมาด้วย น่าตลกดีอีกครั้งเมื่อเธอหันไปแล้วกวินตามองมาพอดี สาวโสดในหมู่คนมีคู่ นี่คงเป็นเรื่องเดียวที่ยัยวิตาไม่สามารถบลัฟเธอได้ล่ะน่า
ถ้าตริณมางานนี้ด้วยก็ดีน่ะสิ เธอคงมีคนควงด้วยขำๆ ธีรดาแยกมุมไปคุยกับกลุ่มเพื่อนชมรมอาสา หลายคนถามถึงธีมา แน่ล่ะรายนั้นเป็นนักกิจกรรมตัวยง ถ้าไม่ติดว่างานปางไม้ยุ่งๆ เพราะเป็นช่วงก่อนสิ้นเดือนที่ต้องส่งไม้ให้ทันแล้วล่ะก็ คงได้ลงมาเฮพร้อมกันแล้ว
ใครคนนึงเดินเข้ามาในงานพร้อมๆ กับที่ธีรดาเดินไปคุยโทรศัพท์ ทว่าเพียงสบตาของคนที่มองมากลับเกิดวินาทีหยุดนิ่งอย่างไม่คาดฝัน ชายคนนั้นยิ้มให้แล้วเป็นฝ่ายเดินมาหา ในขณะที่เธอมือชาจนทำโทรศัพท์ร่วงลงพื้น
“กวาง...กวางใช่ไหมน่ะ”
“พี่...พี่ปุ๊ ใช่พี่ปุ๊จริงๆ ด้วย” เธอถามอย่างไม่แน่ใจนัก
ปุราณหัวเราะเบาๆ อดีตผ่านไปนานแล้ว แต่เขาไม่เคยลืมธีรดาและมั่นใจว่าเธอก็ไม่เคยลืมเขาเช่นกัน
“ก็ใช่น่ะสิ ดีจังที่ทักไมผิด เปลี่ยนไปเยอะเลยนะกวาง พี่เกือบจำไม่ได้”
หัวใจของธีรดาเต้นแรงเหมือนครั้งแรกที่ได้พบกับปุราณ เขายังคงเป็นผู้ชายที่มีรอยยิ้มกระชากใจและชวนฝัน เวลาไม่อาจทำให้เธอลืมรอยยิ้มของเขาได้เลย เข้าใจแล้วว่าทำไมหลายๆ คนถึงลืมรักแรกไม่ได้ เวลาไม่ได้พาอดีตให้จากไป แต่เวลาเก็บเม้นทุกความทรงจำไว้ในส่วนหนึ่งของสมองที่ถูกสั่งว่าให้ลืม แต่มันไม่เคยลืมเลย
“นานมากแล้วนะคะที่ไม่ได้พบกัน พี่ปุ๊สบายดีหรือเปล่าคะ”
“สบายดี แย่จริง วันนี้พี่มีธุระต่อ มางานแต่งได้แป๊บเดียว เอาไว้เรานัดเจอกันก็แล้วกัน เดี๋ยวพี่ไปหาเจ้าบ่าวเจ้าสาวก่อน ดีใจมากเลยนะที่ได้พบกวาง” ปุราณก้มลงค้นนามบัตรในกระเป๋าจึงไม่เห็นสายตาของธีรดาที่มองมา ทว่าพอเงยหน้าสายตาแห่งความดีใจระคนคิดถึงก็ถูกเลือนให้กลับมาว่างเปล่าดังเดิม “นี่นามบัตรของพี่ แล้วกวางล่ะมีนามบัตรไหม พี่จะได้โทรหา”
“มะ...มีค่ะ นี่ค่ะ” เธอเปิดกระเป๋าสะพาย มือสั่นขึ้นมาจนรำคาญตัวเอง เธอคงใช้เวลานานพอเงยหน้าพี่ปุ๊ก็เก็บโทรศัพท์ยื่นมาให้เธอพอดี เธอรับโทรศัพท์คืนมาพร้อมๆ กับส่งนามบัตรให้
“แล้วพี่จะโทรหานะ” เขายิ้มให้แล้วยื่นมือมาจับไหล่บางบีบเบาๆ
“ค่ะ พี่ปุ๊”
ปุราณเดินเข้าไปในงาน ในขณะที่ธีรดามองตาม หัวใจอุ่นวาบราวกับความเย็นในอกหายไปเมื่อได้รับไออุ่นจากดวงตาเจ้าของรักแรก เจ้าบ่าวเจ้าสาวยกมือไหว้ปุราณ เพื่อนร่วมรุ่นและรุ่นน้องพากับเข้ามาทักทายเขา รวมทั้งกวินตาด้วย เขายังโดดเด่นท่ามกลางผู้คนเสมอ นี่เธอกำลังฝันไปหรือเปล่า เพิ่งคิดถึงปุราณเมื่อไม่กี่วันก่อน ตลอด 8 ปีที่ผ่านมาพยายามหาว่าเขาอยู่ที่ไหนก็ไร้วี่แวว ทว่าพอจะได้พบกลับง่ายดาย มือบางยกขึ้นมาบิดแขนตัวเองเต็มแรง เมื่อชักไม่มั่นใจแล้วว่าฝันไปหรือเปล่า
“โอ๊ย! เจ็บ รู้แล้วว่าไม่ได้ฝันไป”
ธีรดาคลำแขนป้อยๆ ดันนึกว่าฝันเลยหยิกเสียเต็มแรง ปุราณทักทายทุกคนเสร็จแล้วและกำลังเดินมาทางเธออีกครั้ง เขายิ้มกว้างให้หลานรหัสที่ยังคงยืนอยู่ที่เดิม เธอยิ้มตอบรู้สึกเต็มตื้นจนอยากร้องไห้ ถ้าตอนนั้นกวินตาไม่ทำแบบนั้น เธอกับพี่ปุ๊จะมีวันนี้เหมือนกับเจ้าบ่าวเจ้าสาวในงานหรือเปล่านะ ช่างน่าเศร้าเมื่อคิดว่าจนป่านนี้ปุราณคงไม่ใช่หนุ่มโสดในฝันของใครได้อีกแล้วกระมัง


ขอบคุณสำหรับการติดตามอ่านนะคะ^^



บรรพตี
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 8 เม.ย. 2557, 09:46:35 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 8 เม.ย. 2557, 09:46:35 น.

จำนวนการเข้าชม : 1571





<< ตอนที่ 1...100%   ตอนที่ 2...100% >>
แว่นใส 8 เม.ย. 2557, 17:47:33 น.
เดี๋ยวเรื่องจะตามมา


Sukhumvit66 8 เม.ย. 2557, 18:24:28 น.
รักแรก...มันลืมยากจริง ๆ


konhin 8 เม.ย. 2557, 23:40:35 น.
โอ๊ะ แปลว่าไม่ใช่นางร้ายแค่หมั่นไส้กันเฉยๆใช่ป่ะ?


บรรพตี 11 เม.ย. 2557, 11:03:11 น.
ใช่แล้วค่ะ กวินตาไม่ใช่ตัวร้าย แค่ตัวน่าหมั่นไส้เท่านั้นค่ะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account