บ่วงรักนายพราน
เรื่องชุลมุน ซุ่มซ่าม เข้าใจผิดของธีรดากับจอมวายร้ายปารินทร์ เจ้าของคำจำกัดความ หล่อ สปอร์ต ใจดี รักหมา(ไม่น่ารอด) 'หากใครจะคิดว่าผมกำลังคบกับใคร ผมอยากให้ใครต่อใครคิดว่าผมคบกับคุณ'

การรู้สึกว่า 'ใช่' กับใครสักคนไม่ใช่เรื่องที่เกิดขึ้นได้ทุกวัน ปารินทร์รู้สึกว่าธีรดา 'ใช่' สำหรับเขา แต่กลับพบในภายหลังว่าเธออาจเป็นผู้หญิงที่เข้ามาทำลายความรักของน้องสาว การเอาคืนในแบบชิงไหวชิงพริบที่ใช้ธุรกิจบังหน้าทั้งที่เป็นเรื่องของหัวใจล้วนๆ จึงเกิดขึ้น
Tags: ความรัก ภาคต่อ หวานรักพยัคฆ์ร้าย

ตอน: ตอนที่ 3...50%

ตอนที่ 3

ธีมาเดินทางเข้ากรุงเทพฯ ในขณะที่ธีรดาเดินทางไปเชียงรายพร้อมของฝากที่ได้มาตามลิสต์เต็มกระเป๋า ลุงสอนมารอรับเหมือนทุกครั้ง กระเป๋าเดินทางที่เต็มไปด้วยของฝากถูกหิ้วไปที่รถ ตอนนี้เพิ่ง 7 โมงครึ่ง หาอะไรกินก่อนไปหาพ่อที่คลินิกก่อน หรือว่าไปปล้นอาหารเช้าที่บ้านปีย์วราดีล่ะ รายนี้แต่งงานไปเมื่อปีก่อน มาแรงแซงทางโค้งทุกคู่ซะงั้น
ยังไม่ทันได้ออกรถเรื่องน่าปวดหัวก็มาดับฝันในทันทีที่สุงสอนส่งโทรศัพท์ที่เพิ่งคุยมาให้
“โทรศัพท์จากปางไม้ครับคุณกวาง กรุ๊ปทัวร์มีปัญหา”
หญิงสาวรับมาคุย วิราวัณเป็นผู้ดูแลนักท่องเที่ยวและทีมทัศนะศึกษา แต่ปัญหามันมีอยู่ว่ากรุ๊ปนักท่องเทียวที่มาถึงตอน 7 โมงครึ่งยังมาไม่ครบ ขาดไปหนึ่งคน
“ได้ค่ะคุณกิ๊ฟ เดี๋ยวกวางรอรับแขกคนนี้ให้” เธอบอกสั้นๆ ปลายสายถอนใจโล่งอก
แต่คนรับปากช่วยนี่สิบ่นพึมในใจ เพราะแขกคนนี้ก็ช่างไม่รู้เวลาเลย ดูสิมาเลทแบบนี้พากันยุ่งยากกันไปหมด แถมชื่อยังกับคุณชายจากที่ไหน น่าจะพวกไฮโซตื่นเช้ามาขึ้นเครื่องไม่ไหวซะละมั้ง ถ้าอยากมาเที่ยวธรรมชาติแล้วตื่นสาย อย่างนี้มาแล้วจะได้ประโยชน์อะไร

‘คุณปารินทร์ เหมวัฒกุล’
ธีรดาอ่านป้ายชื่อของคนที่ทำให้ต้องแขวนท้องรอ เธอนั่งรอใกล้ๆ กับประตูทางออก เมื่อดูจากตารางเที่ยวบินแล้วแขกรายสุดท้ายจะมาถึงประมาณ 8 โมงครึ่ง ในเวลาเดียวกันธีมาคงถึงกรุงเทพฯ แล้วเหมือนกัน นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เราสลับงานกันทำ ปีก่อนที่เธอถูกรถเฉี่ยวจนแขนหักธีมาต้องลงไปคุมงานที่กรุงเทพฯ ส่วนเธอมาดูแลทางนี้ ซึ่งจริงๆ แล้วแทบไม่มีอะไรต้องลงแรงนอกจากการตรวจงานที่เรียบร้อยดีอยู่แล้ว
เราชอบเถียงกันตลอดว่าใครเป็นพี่ ใครเป็นน้อง ธีมามักอ้างว่าตัวเองอายุมากกว่า 1 นาทีเพราะฉะนั้นต้องเป็นพี่ ทั้งๆ ที่ 1 นาทีแทบไม่มีความหมายอะไรเลย แต่หลายๆ เหตุการณ์ก็ทำให้เธอแอบยอมรับธีมาเป็นพี่ชายจริงๆ นั่นล่ะ ที่ต้องแอบเพราะถ้าพูดออกไปเธอได้ถูกข่มให้ยอมเป็นน้องที่ยอมทำตามคำสั่งของพี่ชายแน่ๆ ใครจะยอมได้
เสียงประกาศเที่ยวบินที่เธอรอคอยมาถึงแล้ว ธีรดาเดินไปถือป้ายชื่อตรงประตูทางออกของผู้โดยสารภายในประเทศ หวังว่าแขกรายนั้นคงสะดุดตาป้ายชื่อบ้าง ชายคนหนึ่งเดินตรงมาหาพร้อมแว่นดำที่ปิดบังสายตา เสื้อสีขาวกับกางเกงยีนสีน้ำเงินเข้ม หญิงสาวขมวดคิ้วเมื่อเริ่มคุ้นๆ ว่าน่าจะเคยพบผู้ชายคนนี้มาก่อน
“คุณเองเหรอที่ทางปางไม้บอกว่าจะมารับผม” ชายหนุ่มถามพร้อมกับถอดแว่นตาออก ขาแว่นถูกพับแล้วเสียบลงที่คอเสื้อ
ธีรดาลดป้ายลงถอนใจเหลือจะเชื่อ หลังจากครั้งสุดท้ายที่พบกันแล้วเธอโดนดุ ไม่คิดไม่ฝันเลยว่าเราจะได้พบกันอีกทั้งๆ ที่เธอไม่มีเบอร์ของเขาด้วยซ้ำ ยังคิดอยู่เลยว่าถ้าบานชื่นตกลูกคงต้องฝากบอกเขาผ่านหมอเจน
“ถ้าคุณเป็นแขกเพียงคนเดียวที่ตกเครื่องมาช้ากว่าเวลานัดร่วมชั่วโมงจนต้องนั่งเครื่องลำต่อมา ฉันก็น่าจะใช่คนที่มารอรับเพื่อพาคุณไปที่ปางไม้ธารธีรา” เธอตอบ แม้จะตำหนิแต่ก็ยังยิ้มให้นะเออ
สิงห์ก้มหน้าลงนิดหนึ่งอย่างยอมรับความผิดนั้น เขาไม่ได้ตื่นสายหรือใช้ข้ออ้างว่ารถติดสำหรับการมาช้ากว่าเวลานัด แต่เหตุผลที่มาช้าคงบอกธีรดาไม่ได้
“ครับ ผมเอง ขอโทษที่ทำให้รอ”
“เชิญที่รถค่ะ จะให้ฉันเรียกคุณว่ายังไงดีคะ” คราวก่อนดุใส่เสียเธอหน้าเหวอ ถ้าเรียกแบบสนิทสนมเดี๋ยวโดนอีกรอบคราวนี้เธอไม่ยอมแล้วนะ
“เหมือนเดิม เรารู้จักกันแล้ว ไม่ใช่คนแปลกหน้า จะเรียกชื่อจริงให้เมื่อยปากทำไมล่ะครับ”
ธีรดาหันไปมอง ‘คนรู้จัก’ อยากค้อนใส่ใจจะขาด แต่ลูกค้าคือพระเจ้า เพราะฉะนั้นต้องเก็บอาการ ถ้าไม่เปรียบเทียบเรื่องหน้าตาระหว่างธีมากับปารินทร์ สองคนนี้ปากดีพอกัน เพียงแต่ปารินทร์ดูมีชั้นเชิงมากกว่า ทว่าทำให้เกิดอาการอยากแจกหมัดได้พอๆ กัน ช่างเป็นพรสวรรค์ที่ไม่ควรเอาเป็นเยี่ยงอย่างจริงๆ
รถจอดอยู่ไม่ไกลนัก ทำให้เดินแบบเงียบๆ ระคนเหล่ใส่เบาๆ ไม่ถึง 5 นาทีก็ถึง ลุงสอนเดินมาช่วยถือกระเป๋าของปารินทร์ไปไว้ที่กระบะท้ายรถซึ่งมีกล่องใส่สัมภาระขนาดใหญ่อยู่ อีกทั้งยังมีของอื่นๆ อย่างพวกปุ๋ยและพวกกระแป๋งอีกหลายใบที่เพิ่งซื้อมาใหม่ๆ อยู่ด้วย
“ไปกันเถอะค่ะลุงสอน แขกรายสุดท้ายของวันนี้มาถึงแล้ว”
“เดี๋ยวผมนั่งกระบะท้ายแล้วกัน คุณไปนั่งในรถเถอะ จะได้ไม่ต้องเบียดกัน” สิงห์เสนอ
“จะดีหรือคุณ เห็นไหมว่ากระบะท้ายขนของมาด้วย มานั่งเบียดๆ กันเนี่ยแหละ อีกแป๊บเดียวก็ถึงปางไม้แล้ว ถ้าคุณไม่สะดวกใจก็เก็บเนื้อเก็บตัวหน่อยแล้วกัน” ธีรดาพูดเล่นให้เขาไม่รู้สึกแปลกที่แปลกทาง
“ก็ได้ ผมเข้าใจแล้วว่าสมัยนี้ผู้ชายเป็นฝ่ายเสียหาย ไม่ใช่ผู้หญิง”
อ้าว! ธีรดามองผู้เสียหาย นี่เขาแปลเจตนาของเธอผิด หรือว่าเธอพูดไม่เคลียร์กันแน่เนี่ย อุตส่าห์หวังดี เอ หรือว่าเธอเองแหละที่ขัดความหวังดีของเขา ถ้าไม่ใช่แขกล่ะจะย้อนให้อึ้ง ท่องไว้ ลูกค้าคือพระเจ้า
“ถ้างั้นฉันเปลี่ยนใจแล้ว เชิญคุณไปนั่งกระบะท้ายเลย”
“ฝันไปเถอะ รีบๆ เข้าไปสิคุณ ยืนนานๆ ไม่เมื่อยหรือไงครับ” สิงห์เปลี่ยนใจเมื่อเห็นหน้าเหวอๆ ของธีรดา ไม่รู้เป็นยังไง ปากของเขามอมเมื่ออยู่กับเธอทุกทีสิน่า
ธีรดาอดไม่ได้เลยค้อนใส่ ลูกค้าก็ลูกค้าเถอะ แล้วเข้าไปนั่งในรถก่อน เบียดลุงสอนยังดีกว่าเบียดเขา สิงห์เข้าไปนั่งในรถอีกคน พอเห็นที่ว่างประมาณคืบระหว่างเขากับเธอก็เลยพูดลอยๆ ว่าที่เหลือ คนกลางเลยเขยิบกลับมานิดหนึ่งแต่ก็ยังเหลือที่อีกประมาณเซนกว่าๆ ได้ ชายหนุ่มหัวเราะเบาๆ ธีรดาหันมามอง เขาหยุดหัวเราะแต่ยังมองที่ว่างอันน้อยนิด ก็เขาไม่อยากเสียหาย เว้นที่ว่างให้แล้วไม่ดีหรือไงล่ะยะพ่อเนื้อทอง

ทางเข้าปางไม้ได้รับการพัฒนากว่าเมื่อปีก่อนมาก ไม่มีการกระเด้งกระดอนหรือชวนหลอนเวลาขับกลางค่ำกลางคืนอีกแล้ว ทางลาดคอนกรีตอย่างดีไม่ต้องกังวลเวลาฝนตกหนักๆ แล้วทางจะพัง มีไฟตามทางส่องแสงสว่างเวลาค่ำคืน ใช้เวลาเดินทางเกือบชั่วโมงโดยมีเสียงคุยของธีรดากับลุงสอนเป็นหลัก ในขณะที่แขกฟังเฉยๆ ก็มาถึงปางไม้ทันเวลาหลังอาหารเช้าที่เตรียมไว้ต้อนรับแขก ปารินทร์บอกว่าเขาอิ่มมาจากบนเครื่องแล้วจึงไม่ทานอาหารเช้าที่ปางไม้เตรียมไว้รอ
วิราวัณเดินมาหาธีรดาที่รถ ส่วนลุงสอนพาปารินทร์ไปสมทบกับแขกที่เดินทางมาถึงก่อนหน้านี้ ส่วนกระเป๋าเดินทางใบเล็กพนักงานได้นำไปไว้ที่รีสอร์ตให้
“ขอบคุณมากนะคะคุณกวาง”
“ไม่เป็นไรค่ะคุณกิ๊ฟ แต่ต่อไปเราต้องมีแผนรองรับถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้อีกนะคะ” เคสของปารินทร์ไม่ใช่ครั้งแรก ทุกคนมีเหตุผลของการผิดเวลา แต่ควรเกิดขึ้นบ่อยจนกลายเป็นว่าลูกค้าไม่เคยทำอะไรผิด
“ค่ะคุณกวาง”
วิราวัณขอตัวไปทำหน้าที่ต่อ แม้ว่าหน้าจะจ๋อยหน่อยๆ เพราะธีรดาไม่ค่อยตำหนิใคร แต่หากมีข้อให้ตำหนินั่นหมายถึงว่าปัญหานั้นสมควรได้รับการแก้ไขได้แล้ว ธีรดามองแขกที่จะมีแบบนี้ทุกวันเสาร์อาทิตย์อยู่ครู่หนึ่งจึงแยกตัวเดินขึ้นบันไดหินเพื่อไปยังบ้านบนเนิน สิงห์มองตามจนกระทั่งเธอเดินถึงตัวบ้าน อดสงสัยไม่ได้ว่าบันไดทางขึ้นเคยทำให้เธอบาดเจ็บบ้างหรือเปล่า

“เชิญทุกท่านไปขึ้นขบวนรถฟาร์มแทรกเตอร์เพื่อเที่ยวชมปางไม้ทางนี้เลยค่ะ”
วิราวัณประกาศออกไมโครโฟน เมื่อถึงเวลา 10 โมงตรงขบวนรถฟาร์มแทรกเตอร์ซึ่งพ่วงที่นั่งให้นักท่องเที่ยวได้เยี่ยมชมปางไม้โดยไม่ต้องเหนื่อยแรงก็มาจอดรอ นักท่องเที่ยว 19 ชีวิตที่มาเพื่อสัมผัสธรรมชาติพากันขึ้นไปนั่งในรถที่พ่วงมา 2 คัน ปารินทร์เดินไปขึ้นรถพ่วงคันที่สองพร้อมกล้องคู่ใจ
รถแทรกเตอร์ขับพานักท่องเที่ยวเข้าสู่ทางเข้าสู่ป่าของปางไม้ธารธีรา แดดไม่แรงมาก มีลมเย็นๆ โชยมาทำให้บรรยากาศสดชื่น ทักท่องเที่ยวหลายคนมาเป็นกลุ่ม 3-4 คนเลยทำให้เกิดเสียงหัวเราะเฮฮา พากันชี้ไปยังต้นไม้ที่ยืนต้นเรียงกันอย่างเป็นระเบียบ วิราวัณเริ่มบรรยายเกล็ดเล็กเกล็ดน้อยให้แขกฟังจะได้ไม่เงียบจนถึงน้ำตกปลายทาง
“ปางไม้ธารธีราที่ทุกท่านกำลังเที่ยวชมในขณะมีพื้นที่ที่ได้ใช้ประโยชน์แล้วประมาณ 1100 ไร่ และส่วนที่อยู่ระหว่างการพัฒนาพื้นที่อีกประมาณ 500 ไร่ค่ะ โดยผลผลิต 70 % จะเป็นไม้แปรรูป โดยทางเรามีกระบวนการทำไม้แปรรูปซึ่งถ้าขบวนรถผ่านในส่วนของการผลิต ดิฉันจะอธิบายให้ทุกท่านฟังนะคะ”
มีการยกมือจากกลุ่มนักท่องเที่ยววัยรุ่นที่มากันเป็นกลุ่ม “แล้วมีไม้อะไรบ้างคะ ที่เคยได้ยินว่าไม้เนื้อแข็ง เนื้ออ่อนมันคืออะไร ต่างกันยังไงหรือคะ”
“เป็นคำถามที่ดีมากค่ะ ไม้แปรรูปแบ่งออกเป็น 3 แบบ คือ ไม้เนื้ออ่อน ไม้เนื้อแข็ง และไม้เนื้อแกร่งค่ะ เดี๋ยวจะอธิบายให้ฟังทีละอย่างนะคะ ไม้เนื้ออ่อนก็พวกไม้ฉำฉา ไม้กะบาก ไม้ยาง ไม้จำปาป่า เป็นต้น ไม้พวกนี้จะเหนียว แต่ไม่ค่อยแข็งแรงทนทาน มีน้ำหนักเบา เหมาะกับงานตกแต่ง ทำเครื่องมือเครื่องใช้ ส่วนไม้เนื้อแข็ง ชื่อก็บอกแล้วนะคะว่าแข็ง ไม้พวกนี้ก็เช่น ไม้สัก ไม้ตะแบก ไม้ประดู่ ไม้มะม่วง เป็นไม้ที่มีวงปีมากกว่าไม้เนื้ออ่อน มีความแข็งแรงทนทาน มีน้ำหนักมาก ไม้พวกนี้เหมาะจะนำไปทำเฟอร์นิเจอร์ งานก่อสร้างบ้าน สุดท้าย ไม้เนื้อแกร่ง เช่น ไม้ประดู่ ไม้แดง ไม้เกลือ ไม้เต็ง มีความแข็งแรงทนทานดีมาก ต้องมีอายุไม่น้อยกว่า 60-70 ปีขึ้นไปจึงจะนำมาใช้งานได้ มีน้ำหนักมาก เอาไปพวกวงกบหน้าต่าง ประตู คาน ตง เสาค่ะ”
“แล้วที่ปางไม้มีไม้อะไรบ้างล่ะครับ” นักท่องเที่ยววัยกลางคนที่น่าจะมาพร้อมกับภรรยาถามขึ้นบ้าง คนอื่นๆ รอฟัง ปารินทร์ก็เช่นกัน
“ปางไม้ธารธีรามีไม้แปรรูปจากไม้ 7 ชนิด ค่ะ คือ ไม้สัก ไม้ตะแบก ไม้ยาง ไม้เตง ไม้แดง ไม้ตะแบก และไม้ยางนาค่ะ”
“การตัดไม้ยางนาที่นี่ตัดได้เลยหรือเปล่าครับ” ปารินทร์ถามขึ้นบ้าง
“ไม่ได้ค่ะ ยางนาเป็นไม้สงวน ไม่ว่าโตมาเองหรือว่าปลูกขึ้น หากจะโค่นต้องทำการขออนุญาตเจ้าพนักงานก่อน โดยทางปางไม้ธารธีราได้ทำการขออนุญาตที่สำนักงานทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมประจำจังหวัดอย่างถูกต้องสำหรับการโค่นและแปรรูปด้วยเลื่อยยนต์ค่ะ”
ปารินทร์พยักหน้าเมื่อได้รับคำตอบแล้วฟังต่อ เหมือนนักท่องเที่ยวคนอื่นๆ ที่เริ่มกระตือรือร้นขึ้นเมื่อไกด์สาวเริ่มมีเกมให้เล่นระหว่างเดินทาง เขาหัวเราะเบาๆ เมื่อมีคนตอบถูกบ้าง ผิดบ้าง บางคนมากับเพื่อนก็ปรึกษากันยกใหญ่ พอผิดก็ชี้กันไปมาว่าใครเป็นคนคิดคำตอบ นักท่องเที่ยวที่มากันคงอยากสัมผัสธรรมชาติจริงๆ
“ในส่วนต่อไปจะเป็นส่วนของการแปรรูป ในส่วนนี้ที่ท่านเห็นจะเป็นไม้ที่ทำการตัดมาแล้วนำมาตากลักษณะเช่นนี้เรียกว่าไม้แปรรูปตากแห้ง (Air-Dried :AD) การจำหน่ายไม้แปรรูป ส่วนใหญ่จะต้องมีค่าความชื้นของไม้ไม่เกิน 19% ถ้าเกิน 19% ต้องถูกทำให้แห้งด้วยการอบแบบพิเศษ เรียกว่า คินน์ (Kilns)”
รถเคลื่อนต่อไปอีกนิดเดียวก็ถึงสิ่งปลูกสร้างขนาดใหญ่ที่มีทั้งส่วนเปิดโล่งและส่วนที่ปิดเป็นห้องขนาดใหญ่ ด้านหน้าเป็นลานตากไม้กินพื้นที่กว้างใหญ่หลายไร่ มีไม้จำนวนมหาศาลถูกเลื่อยมาขนาดความยาวใกล้เคียงกันและนำมาเรียงตากไว้อย่างเป็นระเบียบ ที่หน้าตัดของไม้มีการเขียนรหัสไว้ซึ่งก็คือวันที่ อายุของไม้ เป็นต้นไม้ชนิดไหน ต้นที่เท่าไหร่
“ทางขวามือจะเป็นโรงอบไม้ของเราค่ะ”
“ถ้าไม่อบหรือไม่ทำให้แห้งก่อนจะเกิดอะไรขึ้นบ้างล่ะครับ” ชายคนหนึ่งในอีกกลุ่มที่มากันชายล้วนถาม
“เกิดปัญหาในการนำไปใช้งานค่ะ ปัญหาหลักๆ ก็ เกิดการบิดงอของไม้เมื่อนำไปใช้งาน เกิดเชื้อราทำให้เกิดการผุพังค่ะ การอบไม้มีหลายขั้นตอน หากท่านใดสนใจสามารถมาขอแผ่นพับกระบวนการอบไม้ไปอ่านได้นะคะ”
มีหลายคนสนใจยกมือ เจ้าหน้าทำการแจกแผ่นพับที่ว่าด้วยเรื่องของกระบวนการอบไม้ให้นักท่องเที่ยว ปารินทร์ขอแผ่นพับมาอ่านดูเหมือนกัน รถเคลื่อนไปอีกไม่ถึง 5 นาทีก็ถึงน้ำตกที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ แต่พอดีว่าอยู่ในพื้นของปางไม้ธารธีราพอดี
“เชิญทุกท่านพักผ่อนตามอัธยาศัยค่ะ อาหารกลางวันตอนเที่ยงตรง ระหว่างนี้เชิญทุกท่านชมธรรมชาติของน้ำตกสามารถถ่ายรูปได้จุใจตามต้องการค่ะ ส่วนช่วงบ่ายเรามีโปรแกรมเที่ยวชมไร่องุ่นกับสวนส้มนะคะ หรือท่านใดอยากพักผ่อนอยู่ที่นี่ก็แจ้งได้นะคะ ตอนเย็นเจ้าที่จะมารับกลับที่พัก คืนนี้ 1 ทุ่มตรง เรามีแคมป์ปิ้งกันนะคะ” วิราวัณแจ้งอีกครั้งก่อนจะลงไปยืนรอที่ด้านล่าง
ปารินทร์เดินลงมายืดเส้นยืดสายก่อนจะเดินไปถ่ายรูปน้ำตกไว้เป็นที่ระลึก ตัวน้ำตกมี 2 ชั้นเพราะภูเขาที่พาน้ำลงมายังชั้นของน้ำตกไม่ได้สูงอะไรนัก น้ำไหลทอดยาวไปตามธารน้ำที่หากมองตามไปก็จะเห็นว่าไหลลงไปยังด้านล่างจนถึงชุมชนเล็กๆ ก่อนเข้ามาถึงปางไม้ธารธีรา ชายหนุ่มนั่งลงเอาขาจุ่มลงน้ำที่ไหลเอื่อยๆ ผีเสื้อที่แสนเชื่องกำลังรวมกลุ่มกันบินวนสร้างความงามให้อย่างน่าอัศจรรย์

แล้วจะมา up ต่อค่ะ ขอบคุณสำหรับการติดตามอ่าน



บรรพตี
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 17 เม.ย. 2557, 09:46:48 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 17 เม.ย. 2557, 09:46:48 น.

จำนวนการเข้าชม : 1404





<< ตอนที่ 2...100%   ตอนที่ 3...100% >>
แว่นใส 17 เม.ย. 2557, 20:59:02 น.
เจอกันอีกครั้ง


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account