หงส์ซ่อนลาย
เธอจะทำยังไง ในเมื่อรู้ว่าคนที่ฆ่าพี่ชายเธอ คือคนรักของเธอเอง
Tags: มาเฟีย ตบจุบ รักโรแมนติก ดรา่่มา
ตอน: บทที่ 4 ไม่ชอบผู้ชายโรแมนติก (สนพ.เลิฟอีส)
วาเลนติโนเป่าลมออกจากปาก ส่ายหน้าด้วยความระอาใจ
“คุณเป็นคนบังคับ ให้ผมต้องเอาชนะคุณเองนะ”
จีนาพูดไม่ออก ได้แต่จ้องหน้าเขานิ่ง
“คุณโกงฉัน”
“คนที่เป็นฝ่ายโกงก่อน ไม่เห็นมีใครพูดถึง” วาเลนติโนเอ่ยเสียงราบเรียบ
ใบหน้าหวานค่อย ๆ ลุกขึ้นและจับมือของชายหนุ่มลุกขึ้นยืน หญิงสาวยังไม่รู้ว่าตอนที่เขาจับเธอทุ่มลงกับพื้นวาเลนติโนออมแรงไว้เพียงบางส่วน เธอยิ้มให้เขาเป็นครั้งแรก เพราะนี่เป็นการพ่ายแพ้ให้กับพวกผู้ชายอกสามศอก และเป็นการแพ้ที่เธอเต็มใจ
“คุณเก่งจริง ๆ คุณเรียนศิลปะการต่อสู้มาแล้วเหรอ”
“ก็เคยเรียนมาบ้าง แต่ก็ไม่เก่งเท่าไหร่” เขาถ่อมตัว
“โกหก” เธอยักไหล่ “คุณเคยเรียนมา แล้วก็ไม่ธรรมดาด้วย คุณรู้จักหมดทุกกระบวนท่าและเอาแต่หลบหลีกฉันได้หมด แค่คุณออกแรงครั้งเดียวฉันก็ถูกคุณทุ่มจนหมดท่า ถามจริง ๆ...คุณเรียนรู้มาจากโรงฝึกสอน หรือว่าใช้เป็นประจำกันแน่”
เจ้าของโรงฝึกสอนเดินเข้ามาใกล้เธอและวาเลนติโนด้วยรอยยิ้มเจื่อน ๆ ดูเขาเป็นห่วงเธอมาก กลัวว่าเธออาจจะบอบช้ำหรือกระดูกอาจร้าวไปก็ได้
“เป็นยังไงบ้างครับ คุณจีนา คุณบอบช้ำตรงไหนบ้าง”
ชายวัยกลางคนใส่แว่น ส่ายหน้าอย่างระอาใจ
“ผมบอกแล้ว ว่าให้คุณเบา ๆ มือกับเธอหน่อย”
จีนาหันหน้าไปมองเจ้าของโรงฝึกทันที พลางขมวดคิ้วคู่สวย
“หมายความว่ายังไง ที่ว่าเบา ๆ หน่อย”
“ก็แบบว่า...คุณวาเลนติโนน่ะเป็นแขกผู้มีเกียรติที่ผมเชิญมาทำการฝึกซ้อมให้พวกคุณได้เห็น ฝีมือเขาน่ะระดับอาจารย์เลยเชียวเชียว ผมถึงบอกคุณแล้วไงว่าอย่ามาต่อสู้กันเลย กลัวคุณจะเจ็บตัวเปล่า ๆ” เขาพูดเสียงอ่อย
ใบหน้าหวานอึ้งคอแข็งไปนาน ปรายตามองใบหน้าคมสันที่ซ่อนยิ้มมองมายังเธอด้วยประกายตาวาววับ ตอนแรกที่เธอได้ยิน นึกว่าเจ้าของโรงฝึกกลัวว่าชายหนุ่มจะเจ็บซะอีก แต่ที่ไหนได้ กลับกลายมาเป็นเธอซะนี่ จีนากัดริมฝีปากตัวเองจนเจ็บ
ถูกหลอกเสียได้...
“มาหลอกกันได้นะ”
วาเลนติโนไม่ตอบ เขาปล่อยให้ชายวัยกลางคนพร่ำออกมาเรื่อยเปื่อย จีนาหมุนตัวก้มลงเก็บเสื้อนอกแล้วเดินออกไปนอกประตู ด้วยความหงุดหงิด ใบหน้าคมสันยกมือปรามเสียงบ่นของเขา จากนั้นร่างสูงก็หยิบเสื้อคลุมขึ้นมาสวมแล้วเขาก็เดินตามเธอออกไป หญิงสาวเดินมาจนถึงหน้าประตูลิฟต์ชั้นบน จึงเหลือบมองไปเห็นวาเลนติโนยิ้มบาง ๆ เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าเธอ
“ตามมาทำไม” เธอเอ่ยเสียงกระด้าง
“ถ้าเมื่อครู่นี้ทำให้คุณหงุดหงิด ผมก็ขอโทษด้วย”
“ไม่จำเป็น ฉันแค่หงุดหงิดเรื่องของเจ้าของโรงฝึกเท่านั้น ไม่เกี่ยวกับคุณหรอก”
“หงุดหงิดเรื่องอะไร”
“ก็เรื่องที่เขาบอกว่าคุณ...” จีนาอ้าปากค้าง แล้วก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่ “ช่างเถอะ ฉันขี้เกียจจะคุย”
วาเลนติโนซ่อนรอยยิ้ม ใบหน้าคมสันรู้ดีว่าทำไมเธอถึงได้หงุดหงิดกับเรื่องนี้ ประตูลิฟต์เปิดออก จีนาก้าวเข้าไปข้างในก่อนตามด้วยชายหนุ่มร่างสูงเดินเข้าไปพร้อมกัน ภายในนั้นเป็นห้องสี่เหลี่ยมแคบ ๆ เธอยืนกอดอกหันหน้าไปทางอื่น ไม่คิดที่จะชวนเขาคุยด้วย
“แปลกนะ เวลาที่คนเราตั้งใจเอาชนะกลับทำได้ทุกอย่าง แต่เวลาที่ยอมแพ้ก็ทำเป็นลืมไปเสียได้” น้ำเสียงเรียบ ๆ เอ่ยขึ้นเหมือนจะไม่ได้ชวนคุยอะไร
จีนาหันกลับไปมองทันที
“คุณพูดเรื่องอะไร”
“ถ้าผมสามารถเอาชนะคุณ ผมก็จะได้ทุกอย่างที่ต้องการ...คุณบอกเองไม่ใช่หรือ”
จีนาคอแข็ง ใช่เธอลืมไปแล้วจริง ๆ ก็ใครจะไปรู้ล่ะว่าเขาสามารถเอาชนะหญิงสาวได้จริง ๆ เธอประสานสายตากับดวงตาสีนิล ดวงตาคมลึกของเขาไม่ปรากฏริ้วรอยของเล่ห์เหลี่ยมใด ๆ
“แล้วคุณต้องการอะไรล่ะ คงไม่ได้ต้องการให้ฉันขึ้นเตียงกับคุณไม่ใช่หรือ” เธอพูดอย่างประชดประชัน
“ก็กำลังคิดอยู่” เขาตอบหน้าตาเฉย
จีนาเหวี่ยงกำปั้นจะทุบไปที่ไหล่เขา ร่างบางเม้มปากแน่นหน้าแดงจัด
“ถึงคุณจะคิด ! ฉันไม่มีทางทำอย่างนั้นแน่”
บ้าจริง ที่เธอพูดก็เพราะคิดว่าเขาไม่กล้าจะพูดอย่างนั้นต่างหาก
วาเลนติโนหัวเราะแผ่วเบา นัยน์ตาเป็นประกายยามท้องฟ้ายามรัตติกาล
“ผมกำลังครุ่นคิดอยู่ แต่เสียดายที่ตอนนี้ยังคิดไม่ออก เอาเป็นว่า...ตอนนี้เราไปหาอะไรทานกันเถอะ นี่ก็ใกล้ได้เวลาเที่ยงแล้วด้วย”
จีนาปรายตามองหน้าเขา นี่เขาพูดจริง ๆ เหรอ
“คุณเอาชนะฉันไม่ใช่เหรอ ทำไมฉันถึงต้องเลี้ยงคุณด้วย”
“ผมเลี้ยงคุณเองก็แล้วกัน เป็นการขอโทษเรื่องเมื่อที่ผมจับคุณทุ่มก็แล้วกัน”
“ดีนะที่เอวไม่หัก..ก็ได้ฉันจะไปกับคุณ”
วาเลนติโนพาหญิงสาวเดินมาประมาณสิบห้านาที ก็มาถึงย่านการค้าชื่อดังกลางเมืองมิลาน อันเป็นถนนแฟชั่นสายสำคัญ ที่เต็มไปด้วยห้องเสื้อของนักดีไซเนอร์ชื่อดัง นอกจากจะขึ้นชื่อในเรื่องของแหล่งท่องเที่ยวแล้ว ในบรรดาอาหารของชาติตะวันตกทั้งหมด อาหารอิตาเลียนได้รับการยกย่องว่าเป็นอาหารที่มีรสชาติถูกปาก จนเป็นที่แพร่หลายรู้จักกันไปทั่วโลกด้วยเช่นกัน เขาพาเธอเข้าไปในร้านแห่งหนึ่งที่มีเส้นพาสต้าหลายรูปแบบวางอยู่ในตู้กระจก พร้อมกับซอสและเครื่องปรุงนานาชนิดสีสันน่าสนใจ
บรรยากาศของที่นี่เป็นร้านอาหารอิตาเลียนแท้ ๆ
“ฉันเอาราวิโอลี่ค่ะ” จีนาชี้นิ้วไปยังห่อแป้งสีเหลืองทองน่ารับประทาน
“ผมขอเพนนาก็แล้วกัน แล้วก็...ไวท์องุ่นสองที่”
พนักงานเสิร์ฟค้อมศีรษะลง แล้วเดินออกไปอย่างสุภาพ จีนามองดูวาเลนติโนแล้วยิ้มบาง ๆ
“ตอนแรก ฉันไม่คิดเลยนะคะว่าคุณจะเป็นศิลปะป้องกันตัวด้วย ทำไมคุณถึงไม่บอกฉันเลยล่ะ”
“จำเป็นด้วยหรือที่ผมต้องบอกคุณ”
“อย่างน้อยก็ไม่ทำให้ฉันหน้าแตก หมอถึงกับไม่รับเย็บอย่างนี้”
วาเลนติโนหัวเราะเสียงแผ่ว น้ำเสียงของเขาฟังดูทุ้มรื่นหู
“ถ้ามันทำให้คุณหงุดหงิดผมก็ขอโทษด้วย แต่...บางครั้งผมก็ชอบอยู่เงียบ ๆ ไม่ชอบที่จะยุ่งเกี่ยวกับใคร อีกทั้งไม่ชอบให้ใครต่อใครมาถามเรื่องส่วนตัว”
จีนาเอามือท้าวคางมองเขา ที่จริง...จะพูดว่าเป็นความผิดของเขาก็ไม่ถูก เพราะเธอเองก็ฝ่ายท้าทายให้เขาออกมาต่อสู้และเขาก็ไม่ได้พูดว่าเคยเรียนศิลปะการป้องกันตัวเลยสักคำ ถ้าจะพูดว่าใครเป็นฝ่ายผิดก็คงไม่แคล้วเป็นตัวเอง ที่อุตส่าห์ไปท้าสู้ทั้ง ๆ ที่ยังไม่เคยรู้จักกับวาเลนติโนดีพอ
“ฉันเองก็ต้องขอโทษคุณด้วย...” เธอกระซิบแผ่ว “ตอนแรกที่ตั้งใจท้าคุณ ฉันไม่คิดมาก่อนเลยว่าคุณจะกล้าเดินออกมาเป็นคู่แข่งด้วย”
“แล้วเป็นยังไง”
“เข็ดแล้วค่ะ ต่อไปจะไม่ร้องท้าใครส่งเดชอีก ถ้ายังไม่รู้จักเขาดีพอ” จีนายิ้มเจื่อน
วาเลนติโนเพียงแต่ยิ้มบาง ๆ ให้เธอ นัยน์ตากรอบลึกของเขาเป็นประกายลึกซึ้ง ความจริง...เธอรู้สึกว่าเขาไม่เพียงแต่เคยเรียนศิลปะการต่อสู้มาก่อน เพราะเขาสามารถหลีกเลี่ยงและจับจังหวะได้ จนหลบได้หมดทุกกระบวนท่า รู้สึกเหมือนกับว่าเขามีชีวิตอยู่ท่ามกลางสิ่งเหล่านี้
มีนักธุรกิจที่ไหนบ้าง...ที่เป็นอย่างเขา
จีนาไม่ถามเขาอีกแล้วว่า ‘เขาเป็นใครกันแน่’ เพราะเธอรู้ว่าถึงถามไป วาเลนติโนก็ไม่ตอบตรง ๆ สักครั้ง ใบหน้าหวานมองไปที่ชุดเขา ดูจากเนื้อผ้าก็เห็นได้ชัดว่าต้องเป็นของดีมียี่ห้อ นาฬิกาที่เขาสวมใส่อยู่ก็เป็นยี่ห้อโรเล็ก ช่วงไหล่กว้างเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ ดูผิวเผินไม่น่าเชื่อว่าวาเลนติโนสามารถทุ่มเธอคว่ำด้วยเรี่ยวแรงขนาดนั้นได้เลย จีนาเหม่อมองเขาตรง ๆ กันกระทั่งได้ยินเสียงกระแอมเบา ๆ หญิงสาวจึงสะดุ้ง
“การเข้าใจอะไรแต่เพียงผิวเผินไม่ได้ช่วยอะไรหรอกครับ” รอยเหยียดยิ้มปรากฏที่มุมปาก
จีนาหน้าแดงจัด เธอเม้มปากตัวเองแน่น
“ฉันไม่ได้คิดถึงเรื่องนั้น” ร่างบางค้านหัวชนฝา
“แต่สายตาของคุณ มันทำให้ผมอึดอัด” วาเลนติโนเองก็พูดตรง ๆ เหมือนกัน
“นี่คุณเป็นนักจิตวิทยาด้วยหรือ”
“ผมมองที่สีหน้าแววตาคุณ ผมก็รู้แล้ว”
จีนามองดวงตาสีนิล ราวกับต้องการให้ทะลุไปถึงความรู้สึกนึกคิด
“ฉันเพียงแต่...สงสัยว่านักธุรกิจอย่างคุณมันเกี่ยวข้องกับเรื่องพวกนี้ตรงไหน คนทำธุรกิจ อยู่แต่ในห้องทำงานส่วนตัว ทำไมถึงเก่งเรื่องป้องกันตัวแบบนี้ได้ คุณอย่ามาอ้างเลยว่าเป็นเรื่องของกีฬา เพราะที่ฉันเห็นคุณสามารถหลีกเลี่ยงจับจังหวะได้ จนหลบได้หมดทุกกระบวนท่า...”
วาเลนติโนยิ้มบาง ๆ สีหน้าของเขาไม่มีริ้วรอยของความกังวลใด ๆ
“คุณคงจะถามผมสินะว่า ผมทำธุรกิจอะไร”
“ฉันไม่ถามคุณหรอก เพราะถึงถามไปก็ไม่มีประโยชน์ เพราะคุณไม่ต้องการตอบ”
“ผมยังไม่เคยถามเรื่องส่วนตัวของคุณเลยสักครั้ง แต่คุณคิดจะล้วงเอาความลับจากฝ่ายผมคนเดียวหรือ”
“...ขอโทษด้วย ฉันไม่ได้ตั้งใจ”
ช่วงระยะเวลาไม่นาน อาหารก็ถูกนำมาเสิร์ฟวางอยู่บนโต๊ะ และมีไวน์องุ่นรินใส่แก้ว จีนารับประทานอาหารโดยไม่ยอมมองหน้าเขา วาเลนติโนยิ้มบาง ๆ คอยชำเลืองมองเธออยู่เป็นระยะ ๆ จนถึงเวลากลับ หญิงสาวเดินกลับไปประมาณสิบห้านาทีซึ่งเป็นที่จอดรถ เธอยกนาฬิกาข้อดูเป็นเวลากว่าบ่ายสองแล้ว ได้เวลากลับซักที
“ฉันกลับก่อนนะคะ ตอนออกมา...ไม่ได้บอกใครเอาไว้ด้วย”
“ครับ คุณจะไม่โทรไปบอกคนที่บ้านหน่อยหรือ”
“ไม่ต้องหรอกค่ะ เขาชินแล้ว”
“ยังจำสัญญาของเราได้หรือเปล่า”
จู่ ๆ วาเลนติโนก็พูดเรื่องนี้ขึ้นมา จีนาเงยหน้าขึ้นมองพลางนึกขึ้นมาได้
“สัญญาที่ว่าฉันจะทำทุกอย่างที่คุณต้องการนั่นเหรอคะ”
ใบหน้าคมสันไม่ตอบ แววตาที่มองมาที่เธอยากที่ใครจะรู้ได้
“เอาไว้ครั้งหน้า ถ้าคุณจำได้ก็อย่าลืมทวงก็แล้วกัน เพราะฉัน...เป็นคนขี้ลืมซะด้วย”
จีนายิ้มละไม ดวงตาเป็นประกาย ชายหนุ่มก้มหน้านิ่งเปิดประตูรถให้เธอ หญิงสาวทำท่าจะก้มลงไปนั่งที่รถ วินาทีนั้นเอง แก้มซ้ายของตัวเองก็ถูกสัมผัสจากเรียวปากอบอุ่น ร่างบางแข็งไปหมดทั้งร่าง ๆ คิดไม่ถึงเหมือนกัน ว่าเขาจะกล้าทำแบบนี้ จีนาหันไปอ้าปากค้าง แต่วาเลนติโนก็ผละถอยห่างออกไป พร้อมกับโบกมือให้ช้าๆ หมุนตัวเดินกลับหายลับไปในกลุ่มคนที่เดินปะปนอยู่ไปมา
คฤหาสน์สีขาวหลังใหญ่...
คืนนี้จีนาอยู่ในชุดกระโปรงสีดำ แหวกข้างสั้นจรดเข่ามีดอกไม้ปักอยู่บนไหล่ข้างซ้าย ใบหน้าหวานของเธอผุดผาดด้วยผิวขาวผ่อง ดวงตากลมโตเปล่งประกายราวกับแสงดาว คิ้วโก่งสวย จมูกโด่งเหนือเรียวปากสีกุหลาบแดงระเรื่อ เส้นผมของเธอเกล้าไว้เหนือศีรษะด้านหลัง ทิ้งปอยผมอ่อนละมุนระใบหน้ามน เธอใส่ต่างหู กับรองเท้าส้นสูง หากนี่คือเจ้าหญิง เธอคงเป็นเจ้าหญิงสูงศักดิ์ สูงสง่าและงดงามมากกว่าที่ใครต่อใครจะคาดคิด ดวงตาคู่สวยผุดผาดมองลงมาตรงห้องรับแขกด้านล่าง ที่มีลูซิโอผายมือต้อนรับน้องสาวผู้งดงามด้วยรอยยิ้ม
“ไม่เคยมีใครบอกเธอหรือ ว่าน้องสาวของพี่งดงามขนาดไหน”
“ไม่เคยมีใครบอกค่ะ นอกจากพี่ที่กำลังจะส่งน้องสาวไปดินเนอร์กับนักธุรกิจคนนั้น” คำพูดของเธอบาดลึกคนฟังจนเขาสะดุ้ง
“ไม่เอาน่า เธอบอกกับพี่แล้วไม่ใช่หรือ ว่าจะไปพบและดินเนอร์กับเขาแค่ครั้งสองครั้ง”
“แค่ครั้งสองครั้งนะคะ”
“ถ้าเธอลองคบกับเขา แล้วไม่ถูกใจใครก็ห้ามเธอไว้ไม่ได้” ลูซิโอยิ้มนัยน์ตาเป็นประกาย “นี่คือธุรกิจ มาเฟียกับนักการเมืองย่อมมีหุ้นส่วนต่อกันเสมอ เอาล่ะจีนา วันนี้เธอสวยมาก...สวยอย่างที่สุด”
จีนายิ้มบาง ๆ ดวงตาพราวระยับ
“ขอบคุณค่ะ”
“จะให้พี่ตามไปด้วยหรือเปล่า” เขาเอ่ยอย่างระมัดระวัง
“ไม่ต้องหรอกค่ะ มีอย่างที่ไหนบ้างในการดินเนอร์ครั้งแรกแล้วเอาพี่ชายไปด้วย”
“พี่ไม่ทำให้เธอลำบากใจใช่ไหม...จีนา” ลูซิโอมองเข้าไปในดวงตากลมโตของน้องสาว
“ไม่เลยค่ะ ดีเสียอีกจะได้รู้นิสัยกันไปเลยว่าเขาเหมาะสมที่จะเป็นคู่ของหนูหรือเปล่า บอกไว้ก่อนนะคะคู่ของหนูถ้าฝีมือไม่พอหรือไม่สามารถเอาชนะหนูได้ก็อย่าหวัง หนูไม่ใช่นางเอกในนิยายนะคะ จะได้ชอบคนที่โรแมนติกหรือช่างเอาอกเอาใจ ถึงจะดูดีมีเสน่ห์สักแค่ไหน...แต่ถ้าไร้ฝีมือ ก็แค่นั้น” เธอยักไหล่
“พี่ก็ว่าอย่างนั้น กิลโด...ไปส่งเธอที”
“ครับนายท่าน”
จีนาเดินออกไปที่ข้างประตูรถ ก่อนที่กิลโดจะเป็นเปิดประตูให้เธอเข้าไปในนั่งด้านใน
บนชั้นที่ยี่สิบแปดเป็นโรงแรมหรูปูพื้นพรมแดงสามารถมองออกไปชมทิวทัศน์ยามค่ำคืนได้จากทางหน้าต่างที่โปร่งใส บนฝ้าเพดานตกแต่งด้วยโคมไฟระย้าสีส้มสว่างสดใสสไตล์อิตาลี ขณะที่บรรยากาศภายในภัตตาคารเต็มไปด้วยความอ่อนหวานของบทเพลงขับกล่อมจากไวโอลินที่นักดนตรีบรรเลงขึ้นสำหรับโอกาสพิเศษโดยเฉพาะ เธอก้าวย่างเข้าไปในภายใน สายตาของเธอมองดูบริเวณรอบข้าง ดูเหมือนว่าวันนี้บนชั้นโรงแรมหรูจะไม่มีใครเลยสักคน และนักธุรกิจคนนั้นคงจะซื้อภัตตาคารเอาไว้สำหรับเขาและเธอโดยเฉพาะ
“เชิญทางนี้เลยครับ” พนักงานต้อนรับโค้งศีรษะให้ และทำท่าจะเดินนำไป
“ไม่ต้อง ฉันเดินไปเอง”
จีนาเอ่ยปาก ทันทีที่สายตาคมปราบของเธอ ชำเลืองมองหาคู่ดูตัวคนใหม่ของตนจากโต๊ะด้านในสุด ก่อนที่สายตาคมจะสะดุดอยู่ที่ชายหนุ่มร่างสูงสวมเสื้อสูทสีขาว เส้นผมสีน้ำตาลอ่อนถือช่อดอกไม้สีแดงสดช่อใหญ่ ใบหน้าของเขาถึงไม่สะดุดตานักแต่ก็ไม่ขี้เหร่อะไร ตรงกันข้ามเขามีท่าทีสุขุม และมีรอยยิ้มกว้าง นัยน์ตาของเขาเปล่งประกายเจ้าชู้หน่อย ๆ ดูราวกับว่าเขาจะพึงพอใจเธออยู่มาก
...มากกว่าเธอคิดซะอีก
เมื่อเธอก้าวเข้าไปถึง หญิงสาวสวยร่างบอบบางในชุดกระโปรงสีดำสนิท ใบหน้าของเธอดูมีเสน่ห์น่าค้นหาเช่นเดียวกับริมฝีปากเอิบอิ่มที่สามารถสะกดสายตาของเขาได้ตั้งแต่แรกเห็น ก็ปรายยิ้มอย่างหวานที่สุด เขารีบลุกขึ้นเดินตางเข้ามาเลื่อนโต๊ะให้เธอ จีนาเอ่ยขอบคุณเบา ๆ แล้วนั่งลง
“ผมคิดว่าคุณจะไม่ยอมมาแล้วเสียอีก”
“คุณเอนริโกใช่หรือเปล่าคะ”
“ใช่ครับ” เขายิ้มแย้มพลางส่งช่อดอกกุหลาบใหญ่ให้แก่เธอ จีนาปรายตาลงต่ำพร้อมกับเลิกคิ้ว
“เนื่องจากอะไรคะ”
“ช่อดอกไม้ สำหรับคนพิเศษและค่ำคืนพิเศษสำหรับเรา หวังว่าคุณคงจะไม่รังเกียจนะครับ” นัยน์ตาของเขาเป็นประกาย ดูท่าทางเขาจะโรแมนติกไม่น้อย
“ขอบคุณค่ะ” เธอยิ้มหวานพลางรับเอาไว้ แล้วยื่นส่งให้กิลโดเอาไปถือไว้ราวกับจะเอาไปทิ้งหรือเอาไปเก็บไว้ในรถก็ไม่มีใครว่า อาการของเธอทำเอาเขาหน้าเสียเพราะความคิดไม่ถึง แต่เธอไม่สนใจ “มีอะไรหรือเปล่าคะ”
“เอ่อ...เปล่าครับ คุณจีนาจะไม่ดูข้อความในแผ่นกระดาษหน่อยหรือ”
“ไม่หรอกค่ะ” เธอเอ่ย “เพราะไม่ว่ายังไงคุณก็คงจะบอกฉันอยู่แล้วในค่ำคืนนี้”
“นั่นสินะ...” เขากระซิบแผ่ว สีหน้าแสดงความไม่พอใจออกมาแต่กลับคืนสู่ปกติอย่างรวดเร็ว
เธอประสานดวงตาให้กับเขา โดยที่ฝ่ายเอนริโกเป็นฝ่ายยิ้มให้เธออย่างเป็นมิตร ผู้ชายทุกคนร้อยทั้งร้อยปรารถนาที่จะสร้างความโรแมนติกให้แก่เธอ พยายามสร้างความประทับใจในการนัดครั้งแรก แต่...นั่นไม่ใช่เธอ เพราะผู้ชายที่เธอต้องการต้องเป็นชายที่เข้มแข็ง สามารถปกป้องเธอได้ แต่ดูจากผู้ชายที่นั่งอยู่ด้านหน้าของเธอนี้ นักธุรกิจที่มักจะออกงานสังคม มีสาวสวยห้อมล้อมมากมาย คงไม่มีอะไรแตกต่างไปจากอากาศธาตุ....
****************

เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 28 เม.ย. 2557, 10:42:25 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 28 เม.ย. 2557, 10:42:25 น.
จำนวนการเข้าชม : 1500
<< ตอนที่ 3 พบเจอกันอีกครั้ง | บทที่ 5 งานเต้นรำที่ไม่อาจทนฝืน (สนพ.เลิฟอีส) >> |

นักอ่านเหนียวหนึบ 28 เม.ย. 2557, 10:55:28 น.
อุ้ยยย หอมโฉบเฉี่ยววว
5555
นึกว่าคู่ดูตัววันนี้จะเป็นพี่วาเลนซะอีกกก
อุ้ยยย หอมโฉบเฉี่ยววว
5555
นึกว่าคู่ดูตัววันนี้จะเป็นพี่วาเลนซะอีกกก

เบลินญา 28 เม.ย. 2557, 15:08:22 น.
จริง ๆ ตอนเขียนนิยายเรื่องนี้ คิดว่าลุคนางเอก จะไม่มีคนชอบซะอีก แต่ความจริงแล้วมีคนชอบมาก ๆ เลยนะคะ นางเอกที่สู้คน ไม่ยอมแพ้ใคร เรียกว่าสวยเลือกได้...
จริง ๆ ตอนเขียนนิยายเรื่องนี้ คิดว่าลุคนางเอก จะไม่มีคนชอบซะอีก แต่ความจริงแล้วมีคนชอบมาก ๆ เลยนะคะ นางเอกที่สู้คน ไม่ยอมแพ้ใคร เรียกว่าสวยเลือกได้...

Zephyr 28 เม.ย. 2557, 23:01:04 น.
วาเลนผ่านมาตรฐานนางคนเดียวสินะ
เปิดตัวอย่างเลิศศศศศศศศ
อ่านแล้ว ผู้ชายคนอื่นในเรื่องดับ สนิท ฮ่าๆๆๆ
หาคู่แข่งเทียบหน่อยมั้ยคะ อิอิ
คิดว่าลูซิโอยังไม่สู้วาเลนเลย
แค่ชื่อก็ กินขาด อ้ากกกกก ฟินนนนนนน
วาเลนผ่านมาตรฐานนางคนเดียวสินะ
เปิดตัวอย่างเลิศศศศศศศศ
อ่านแล้ว ผู้ชายคนอื่นในเรื่องดับ สนิท ฮ่าๆๆๆ
หาคู่แข่งเทียบหน่อยมั้ยคะ อิอิ
คิดว่าลูซิโอยังไม่สู้วาเลนเลย
แค่ชื่อก็ กินขาด อ้ากกกกก ฟินนนนนนน