หทัยรักจ้าวทะเลทราย
ไม่มีเจ้าชายผู้สูงศักดิ์ ไม่มีผู้หญิงธรรมดา ณ ดินแดนผืนทรายสีทองแห่งนี้ จะมีเพียงรัก และมีเพียงแค่เรา “หัวใจรักสองดวง” จะผูกพันไว้ด้วยกัน จากนี้ จวบจนตลอดกาล
Tags: เจ้าชาย , ทะเลทราย , รัก , ซึ้ง , โรแมนติก

ตอน: 2


ภายในรถตกอยู่ในความเงียบจนน่าอึดอัด ชายหนุ่มและหญิงสาวต่างพากันวนเวียนอยู่ในห้วงแห่งความคิดของตัวเอง

เอกภพได้แค่ครุ่นคิด ใคร่ครวญ หาวิธีทางออกเพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น และที่กำลังจะเกิดต่อจากนี้ อย่างคนที่รู้ดีว่าเรื่องในวันนี้เป็นเพียงการเริ่มต้นเท่านั้น และจะไม่จบลงง่ายๆ

ซึ่งจะมีอีกมากมายหลากหลายเรื่องราว ให้ต้องตามแก้อย่างไม่หวาดไม่ไหวแน่นอน

ส่วนแพรพลอย ได้แต่เพียงคิดทบทวนอย่างไม่เข้าใจว่าสิ่งที่ตัวเองกำลังพบเจออยู่คืออะไรกันแน่

เธอทำผิดตรงไหน ยังไง เธอต้องการรู้ เพื่อที่จะได้ทำการแก้ไข

เธออาจจะไม่ได้เป็นคนมีชื่อเสียง หรือมีเกียรติยศของวงศ์ตระกูลใดๆ ที่ต้องรักษา แต่อย่างน้อยเธอก็เป็นคนหนึ่งที่มีศักดิ์ศรีไม่ได้น้อยหรือด้อยค่าไปกว่าคนอื่นๆ

เธอไม่ต้องการให้มีคนมาตราหน้าว่าแย่งผู้ชาย ไม่ต้องการสู้รบปรบมือ หรือช่วงชิงคนรักของใคร

และที่สำคัญก็คือผู้ชายคนนั้น เป็นคนที่เธอไม่ได้รู้สึกพิเศษอะไรด้วยเลยสักนิด นอกจากเพียงจะรับรู้ว่าเขาเป็นผู้ชายที่ดีคนหนึ่งเท่านั้น

“น้องพลอย”

พลอยละสายตาจากวิวทิวทัศน์ข้างทาง และหันไปมองใบหน้าหล่อเหลา เมื่อได้ยินน้ำเสียงทุ้มนุ่มที่ขานเรียก

“พี่ขอโทษนะครับสำหรับเรื่องวันนี้”

เอกภพพูดด้วยสีหน้า ท่าทางจริงจัง ด้วยความรู้สึกผิดที่สุด

แม้ว่าจะไม่ได้ตั้งใจให้เกิดขึ้น ไม่ต้องการให้เรื่องทุกอย่างเป็นแบบนี้

แต่ก็ต้องยอมรับอย่างลูกผู้ชายว่าเรื่องราวทั้งหมด มีสาเหตุมาจากเขาเพียงคนเดียวเท่านั้น

“ไม่เป็นไรค่ะ พลอยเข้าใจ”

แพรพลอยยิ้มบางๆ อย่างให้กำลังใจชายหนุ่มที่ทำหน้าเศร้าสร้อย

เอกภพฉีกยิ้มกว้างอย่างดีใจ หลังจากที่นึกหวาดกลัวว่าเธอจะโกรธและรังเกียจ

แต่ใบหน้าหล่อเหลาก็ต้องหุบยิ้มลงทันที พร้อมกับหัวใจที่รู้สึกวูบโหวงราวกับจะหลุดลอยหายไปจากอก เมื่อได้ยินประโยคถัดมา

“แต่ พลอยคิดว่าเราไม่ควรพบกันอีกดีกว่าค่ะ”

“เอี๊ยยยยด !!”

เสียงล้อรถยนต์บดเบียดกับท้องถนนจนดังกึกก้อง พร้อมกับที่หักเลี้ยวเข้าจอดริมข้างทางด้วยความรวดเร็ว

เอกภพหันมาจับมือเนียนไปกอบกุมไว้ด้วยความหวงแหน

“ไม่นะครับน้องพลอย พี่ขอโทษ พี่สัญญาว่าเหตุการณ์แบบนี้จะไม่เกิดขึ้นอีก พี่ยอมทุกอย่าง แต่อย่าบอกให้พี่ไปจากชีวิตน้องพลอยเลยนะครับ พี่ขอร้อง พี่ทนไม่ได้จริงๆ”

เธอมองผู้ชายตัวใหญ่โตที่นั่งอยู่ตรงหน้า ซึ่งกำลังอยู่ในอาการหวาดผวาและตัวสั่นราวกับเด็กน้อยที่ช่างน่าสงสารเหลือเกิน

“คุณเอกภพคะ”

เธอพยายามเรียก เพื่อให้เขามีสติกลับคืนมา

“พี่ขอร้อง นะครับ น้องพลอย ให้โอกาสพี่ อย่าไล่พี่ไปไหน”

พลอยมองเอกภพด้วยความเห็นใจ

เธอรับรู้ เข้าใจ และเชื่อว่าความรู้สึกของเขาที่มีมอบให้กับเธอนั้นคือแท้จริง

ไม่ได้แฝงไว้ซึ่งความหลอกลวงอย่างที่ผู้ชายสุดแสนเพียบพร้อมคนหนึ่งควรจะเป็น ดั่งเช่นพวกเพลย์บอยจอมเจ้าชู้คนอื่นๆ

เธอรู้ว่าเขาเป็นคนดี เป็นผู้ชายที่ดี

แต่จะทำอย่างไรได้ล่ะ ในเมื่อเธอ “ไม่ได้รัก” เขาเลย

Xหทัยรักจ้าวทะเลทรายX


ร่างอรชรลงจากรถคันหรู โดยที่มีชายหนุ่มหน้าหล่อเดินมาส่งถึงทางเข้าหอพัก

“ขอบคุณนะคะ”

“พรุ่งนี้เช้าพี่มารับนะครับ”

“เอ่อ คือ”

“ฝันดีนะครับ พรุ่งนี้พบกัน”


เธอมองตามร่างสูงที่เดินจากไปจนลับตา พร้อมกับความคิด ความรู้สึก ที่กำลังตีกันจนยุ่งเหยิง

อยากจะแก้นิสัยใจอ่อนของตัวเอง ให้เข้มแข็ง และเด็ดขาดมากกว่านี้

แต่ก็ไม่รู้จะเริ่มต้นทำยังไง เพื่อขจัดความอ่อนแอที่อยู่ในจิตใจออกไปให้หมด

อยากจะเป็นคนที่กล้าปฏิเสธ และพูดความรู้สึก ความต้องการของตัวเองให้ชัดเจน

แต่ก็หวาดกลัว วิตกกังวลว่าอาจจะทำให้คนอื่นต้องเสียใจ เกรงว่าจะเป็นการทำร้ายทำลายน้ำใจกัน

“คุณพลอยคะ”

เธอหันไปมอง เมื่อได้ยินเสียงเรียก

“มีจดหมายของคุณพลอยค่ะ”

ป้าผู้ดูแลหอพักเอ่ยบอก พร้อมกับนำจดหมายมายื่นส่งให้

“ขอบคุณนะคะคุณป้า”

เธอรับจดหมายมา และเดินไปที่ลิฟต์ กดขึ้นไปบนชั้น 5 อย่างคุ้นเคย

เมื่อมาถึงหน้าห้องที่เปรียบดั่งเป็นสถานที่พักอาศัย เธอก็แตะคีย์การ์ด จากนั้นก็เปิดประตูเข้าไปในห้อง

ก่อนจะเดินไปทิ้งตัวเหยียดยาวลงบนที่นอนนุ่มด้วยความเหน็ดเหนื่อย

เธอไม่ได้เหนื่อยกาย เพราะเธอรักและภาคภูมิใจที่สุดกับงานที่ทำอยู่ทุกวันนี้

มีความสุขในทุกครั้งที่ได้นั่งอยู่ท่ามกลางพวกเด็กๆ ที่รายล้อมรอบตัว ชื่นใจที่ได้เห็นรอยยิ้มที่บริสุทธิ์และไร้เดียงสาเหล่านั้น

แต่ตอนนี้เธอกำลังเหน็ดเหนื่อยใจ รู้สึกท้อแท้กับโลกในแบบผู้ใหญ่ที่เต็มไปด้วยการแย่งชิง และความยุ่งเหยิงต่างๆ ที่กำลังเผชิญอยู่ในตอนนี้

เธอรีบควานหาโทรศัพท์จากในกระเป๋าสะพาย เมื่อได้ยินเสียงเรียกเข้าที่ดังขึ้นเรื่อยๆ

“ว่าไงจ๊ะ หนูนา”

เธอขานรับ เพราะดูที่หน้าจอแล้วรู้ว่าเป็นใครที่โทรเข้ามา

“พลอย เห็นการ์ดหรือยัง กรี๊สสส กรี๊สสสส !”

เธอยกโทรศัพท์ออกแทบไม่ทัน หลังจากเสียงทางปลายสายกรี๊ดกร๊าดเข้ามาจนแสบแก้วหู

“โอย อะไรเนี่ย หนูนา”

“ได้รับจดหมายของมีราห์หรือยัง รีบเปิดดูสิ”

“เดี๋ยวแป๊ปนึงนะ”

เธอบอกและเดินไปตรงโต๊ะที่มีซองจดหมายวางอยู่ เห็นจดหมายจ่าหน้าเป็นชื่อของเธอ ซึ่งถูกส่งมาจากอามีราห์ เพื่อนสาวอีกคนหนึ่งที่สนิทที่สุดในชีวิตนี้ และมีเพียงแค่ 2 คนเท่านั้น

เมื่อเปิดซองและเห็นสิ่งที่อยู่ข้างใน เธอก็ร้องอุทานออกมาด้วยหลากหลายความรู้สึก

“การ์ดแต่งงาน !”

ทั้งตื่นเต้น ตกใจ แปลกใจ และดีใจ ไปในคราวเดียวกัน

“ใช่ แต่งงาน มีราห์จะแต่งงานแล้ว เย้ๆ กรี๊สๆ”

เธอยิ้มกว้างอย่างขำขันกับน้ำเสียงของหนูนา ที่ทำราวกับกำลังจะมีโอกาสได้เป็นเจ้าสาวซะเอง

เธอไล่สายตาอ่านรายละเอียดที่ปรากฏอยู่ในการ์ด

กำหนดการงานแต่งจะจัดขึ้นในวันที่ 24 เดือนหน้า ซึ่งเป็นเวลาอีกเกือบสองเดือนนับจากวันนี้

เธอยิ้มกับการ์ดด้วยความรู้สึกปลาบปลื้ม อิ่มเอมไปกับความสุขที่กำลังรอคอยต้อนรับเพื่อนของเธออยู่ในวันข้างหน้า

ริมฝีปากสวยแย้มยิ้มสดใส เมื่อเหลือบสายตาไปเห็นว่ามีกระดาษอีกใบหนึ่งถูกสอดแทรกมาอยู่ในซองจดหมาย

ตั๋วเครื่องบิน ที่จะมุ่งหน้านำพาเธอเดินทางไปสู่ ประเทศ “ลาเนียญ่า” ในเร็ววันนี้


อีกไม่นาน ไม่นานเกินที่จะรอคอย

Xหทัยรักจ้าวทะเลทรายX


เธอตื่นมาในตอนเช้าด้วยความรู้สึกมีความสุขและสดใส หลังจากที่เมื่อคืนนี้ได้คุยวีดีโอลิงค์กับทั้งอามีราห์และหนูนา

เราสามคนเป็นเพื่อนสนิทที่รักและผูกพันกันที่สุด ซึ่งพวกเรามีโอกาสได้พบเจอและคบหาเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เรียน ม. ปลาย จนเข้ามหาวิทยาลัย จวบจนวันนี้ก็เป็นเวลา 7 ปีกว่าแล้ว

จนเมื่อเรียนจบ ต่างคนก็ต่างแยกย้ายกันไปในเส้นทางชีวิตของตน แต่ยังคงติดต่อกันมาตลอดอย่างไม่เคยขาดหาย

โดยหนูนาเข้าทำงานในบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร ส่วนอามีราห์เดินทางกลับบ้านเกิดของตัวเอง หลังจากที่จากบ้านจากเมืองมาศึกษาอยู่ที่ประเทศไทยเป็นเวลาหลายปี

และเมื่อได้รับข่าวคราวว่าเพื่อนรักกำลังจะแต่งงาน ซึ่งเรียกได้ว่าแทบจะเป็นความใฝ่ฝันอันสูงสุดในชีวิตของลูกผู้หญิงทุกคน

นั่นย่อมทำให้ทั้งเธอและหนูนาต่างก็ตื่นเต้นไม่แพ้กันเลยทีเดียว อีกทั้งยังถือโอกาสนี้ได้พบเจอหน้ากัน รวมทั้งยังเป็นการไปท่องเที่ยวในต่างประเทศครั้งแรกของเธอด้วย

เธอยิ้มน้อยยิ้มใหญ่และก้าวออกมาจากลิฟท์ของหอพัก เตรียมตัวที่จะเดินทางไปโรงเรียนเหมือนเช่นทุกวัน

ก่อนจะชะงักฝีเท้า เมื่อเห็นร่างสูงผู้มีใบหน้าหล่อเหลามานั่งรออยู่ตรงบริเวณโซฟารับแขก

“สวัสดีค่ะ คุณเอกภพ”

เธอกล่าวทักและยกมือไหว้ พร้อมกับที่เอกภพลุกยืนและเดินเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว

“อรุณสวัสดิ์ครับ น้องพลอย”

เอกภพก็ยังเป็นคนเดิม ที่รอบๆ ตัวเขามักจะปลกคลุม อบอวลไปด้วยบรรยากาศแห่งความอ่อนโยนและอ่อนหวานอยู่เสมอ

เธอยิ้มน้อยๆ และเดินตามเขาไปที่รถคันหรู ซึ่งจอดเทียบอยู่ตรงหน้าหอพัก

เอกภพล้วงหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาจากกระเป๋ากางเกงแสลคสีดำสุดเนี๊ยบ และกดรับสาย

“ได้ครับ ผมจะรีบไปเดี๋ยวนี้ !”

หลังจากวางสาย ชายหนุ่มก็หันมาหาเธอด้วยสีหน้าที่ไม่ค่อยดีนัก จนเธอสามารถรับรู้ได้ว่าคงจะมีเรื่องบางอย่างที่ร้ายแรงเกิดขึ้นอย่างแน่นอน

“คุณแม่บอกให้รีบไปที่โรงเรียนด่วนครับ !”


เธอนั่งอยู่ในรถด้วยความรู้สึกกระสับกระส่าย อย่างไม่ค่อยสบายใจสักเท่าไหร่นัก

แม้จะยังไม่รู้ว่ามีเรื่องอะไรที่เกิดขึ้น

แต่ราวกับมีเสียงมากระซิบบอกกับเธอว่า “ความฝัน” ที่สวยงามของเธอ กำลังจะพังทลายลง

Xหทัยรักจ้าวทะเลทรายX


ภายในโรงเรียนอนุบาลนุชนาฎเต็มไปด้วยพ่อแม่ผู้ปกครองอย่างเฉกเช่นปกติเป็นประจำทุกวัน

แต่ที่ผิดแผกแตกต่างไปในวันนี้ ก็คือในบริเวณโรงเรียนกลับพลุกพล่านและวุ่นวายไปด้วยกองทัพนักข่าว สื่อมวลชนหลายแขนง ที่พากันเดินทางมารวมตัวอยู่ ณ สถานที่แห่งนี้

รถสีดำมันปลาบเลี้ยวเข้ามาจอดภายในโรงเรียน พร้อมกับที่นักข่าวกรูกันมารายล้อมรอบตัวเธอจนเต็มไปหมด

เธอรู้สึกสายตาพร่ามัว และหวาดกลัว เมื่อเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว และแสงแฟลชที่วูบวาบอย่างไม่ยอมหยุดหย่อน

เอกภพรีบอ้อมมาอีกฝั่ง โอบประคองตัวเธอเอาไว้ด้วยท่าทางทะนุถนอมและหวงแหน และนั่นยิ่งเป็นการยั่วยุให้ทุกคนรีบเก็บภาพช๊อตเด็ดนี้ไว้อย่างระรัว

รวมทั้งคำถามที่ตามมาจากหลายคนจนเกิดเสียงเซ็งแซ่

“ผู้หญิงคนนี้ใช่มั๊ยครับคุณเอกภพ ที่คุณมิเชลประกาศว่าเป็น “แมวขโมย” !”

เธอรู้สึกเจ็บราวกับถูกตบหน้า เมื่อได้ยินคำพูดที่เปรียบดั่งมีดแหลมคมกรีดลงบนเนื้อตัวของเธอจนแทบจะสิ้นสติ

ดวงตาคู่สวยหันไปมองผู้คนมากมายที่อยู่รอบๆ บริเวณนี้

ทุกสายตาของบรรดานักข่าวและช่างภาพ ต่างมองมาทางเธอและเต็มไปด้วยรอยยิ้มเหยียดหยามประดับอยู่บนใบหน้า

พ่อแม่ของเด็กๆ ที่เคยมองเธอด้วยแววตาแห่งความชื่นชม ในวันนี้กลับแสดงท่าทางและอาการรังเกียจอย่างเปิดเผย ด้วยความผิดหวัง

เธอเป็น “คุณครู” อาชีพอันทรงเกียรติ ที่จะต้องเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับนักเรียนตัวน้อยๆ ซึ่งเปรียบดังเป็นผ้าขาวแสนบริสุทธิ์

แต่เรื่องราวที่กำลังเกิดขึ้น ทำให้เธอไม่สามารถมีหน้าไปให้ใครเห็นได้อีก ไม่กล้ามองสบสายตากับใครต่อไป

แม้เธอจะรู้ดีแก่ใจว่าความจริงคืออะไร แต่คงไม่มีความสำคัญใดๆ อีก ในเมื่อทุกคนพากันตัดสินไปหมดแล้ว

ตัดสินว่าผู้หญิงตัวเล็กๆ คนหนึ่งคนนี้ “ทำผิด” ซึ่งเป็นเรื่องที่รุนแรงและเลวร้ายเหลือเกินในความรู้สึกของคนอื่นๆ

เธอเป็นเพียงผู้หญิงธรรมดา แล้วจะเอาอะไรไปสู้กับผู้คนมากมายในสังคมที่พร้อมจะเหยียบย่ำทำลายคนที่ล้มลงให้จมดิน

เธอไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรดีกับชีวิตต่อจากนี้

ตอนนี้เธอรู้เพียงแค่ว่า หมดเวลาลงแล้วสำหรับความฝันของเธอ

จบสิ้นเพียงเท่านี้ สูญสลายลงภายในชั่วพริบตา

ราวกับปราสาทที่ถูกก่อขึ้นบนหาดทรายสีขาว

แม้จะสวยงามสักเพียงใด แต่เมื่อน้ำทะเลพัดผ่านซัดสาดเข้ามา ก็จะไม่มีอะไรหลงเหลืออยู่อีกเลย


ใครหลายคนอาจต้องยอมสูญเสียบางอย่างไป เพื่อให้ได้สิ่งที่ดีกว่าเดิม

เช่นเดียวกับเธอที่ต้องเจ็บปวดและเสียใจ กับการสูญเสียความฝันอันสูงสุดในวันนี้

เพื่อรอวันและเวลาที่จะได้พบเจอกับสิ่งที่ยิ่งใหญ่ มีคุณค่า มีความสำคัญ และมีความหมายมากกว่านี้

ในสักวันหนึ่ง ..

Xหทัยรักจ้าวทะเลทรายX





ฝาก ebook เรื่อง "สัญญารักดวงใจฟาโรห์" กับ เรื่อง "หนึ่งเดียวนิจนิรันดร์" ด้วยนะคะ

มีให้โหลดแล้ววันนี้ที่ www.mebmarket.com ค่า

ขอบคุณค่า





ศศิธาราริน
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 2 พ.ค. 2557, 14:06:27 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 3 พ.ค. 2557, 13:55:25 น.

จำนวนการเข้าชม : 1749





<< 1   3 >>
ร้อยวจี 2 พ.ค. 2557, 14:34:29 น.
เศร้า


แว่นใส 2 พ.ค. 2557, 20:00:08 น.
จะเจอกันจริง ๆ หรือยัง


Zephyr 3 พ.ค. 2557, 11:34:48 น.
เจอกันในงานแต่งงานนี่ละม้างงง
ไปแล้วคงไม่ได้กลับมาอีก โฮะๆๆๆ


Zephyr 3 พ.ค. 2557, 11:36:25 น.
พอดีเราย้อนไปอ่านตอนแรก
ชื่อมันคนละชื่อกันค่ะ ตอนก่อนมิเชล ตอนนี้แองจี้
เปลี่ยนชื่อรึว่ามีสองคนคะ


ศศิธาราริน 3 พ.ค. 2557, 13:50:24 น.
แก้แล้วนะคะ K.Zephyr ขอโทษด้วยค่า .. เบลอไปนิสสส ^_^


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account