ไฟรักรัญจวน โดย ภคพร (วางแผงแล้ว)
ซีรีย์นี้ชื่อว่า 5 อสูรคอนเนอร์ค่ะ พระนางเป็นคนธรรมดานะคะ
แต่ฉายาอสูรนี่ได้มาเพราะบุคลิกเฉพาะตัว
สำหรับเรื่องแรกที่จะเปิดตัวคือ
“รัตติกาลรัญจวน”’ เป็นภาคของแวมไพร์นะคะ เรื่องนี้เขียนจบแล้วค่ะ อยู่ในขั้นตอนรีไรท์
ยังไม่ได้ส่งที่ไหน ดังนั้นเลยจะเอามาลงให้อ่าน 70% ก่อนนะคะ

สำหรับ 5 อสูร มีฉายาอะไรบ้าง ขอแนะนำก่อนให้เป็นน้ำจิ้มดังนี้ค่ะ

แวมไพร์
บรุษลึกลับที่ไม่เคยปรากฏโฉมต่อหน้าสื่อ
ชายหนุ่มคือจักรพรรติเงาผู้กุมอำนาจอยู่เบื้องหลังอาณาจักรคอนเนอร์อย่างเงียบๆ
ปมในอดีตทำให้เขาปิดตัวเองและไม่เคยเปิดหัวใจให้ใครเลย

ฟินิกซ์
เพลย์บอยเจ้าเสน่ห์ ผู้สดใสเจิดจ้าราวกับเทพอพอลโล่ เขารักอิสระ เกลียดพันธะ สาวสวยสำหรับเขาคือคนที่เอาไว้ควงเล่น ส่วนคนขี้เหร่แต่มีสมองเอาไว้ช่วยทำงาน แล้วถ้าทั้งสวยและมีสมองล่ะทำยังไง? อย่าหวังเลยว่าจะชายตามอง นั่นน่ะตัวอันตรายชัดๆ

มังกรน้ำแข็ง
ชายหนุ่มผู้งามสง่าราวประติมากรรม เขาเงียบขรึมเย็นชาจนดูเหมือนไร้หัวใจ
แต่เพื่อความรักแล้วผู้ชายคนนี้พร้อมจะเปลี่ยนเป็นเพลิงกัลป์
เพื่อแผดเผาอุปสรรคตรงหน้าให้มอดไหม้

ไลแคนท์
สายเลือดนอกคอกของตระกูลคอนเนอร์ เจ้าของคาสิโนและธุรกิจด้านมืดหลากหลาย
คนว่าเขาเป็นอสูรร้าย แต่ภายในใจอสูรตนี้กลับเต็มไปด้วยความอ้างว้าง
ที่หยั่งรากลึกสุดจะหยั่ง

คราเครน
หญิงสาวหนึ่งเดียวในห้าอสูร เจ้าหล่อนงดงาม เก่งกาจ ฉลาดเฉลียว
สิ่งที่คำนึงถึงมีเพียงอำนาจและเงินตราเท่านั้น
ความรักน่ะหรือ? อารมณ์ไร้ประโยชน์แบบนั้นโยนทิ้งมันไปได้เลย


คำโปรย รัตติกาลรัญจวน



สิ่งที่ “น้ำงาม” รู้เกี่ยวกับเจ้านายคนใหม่คือเขาชื่อ “เควิน โคฮาคุ คอนเนอร์”



หนุ่มลูกครึ่งอเมริกันญี่ปุ่นคนนี้เป็นนักธุรกิจมากความสามารถ

แต่กลับเก็บตัวอยู่ในคฤหาสน์ตลอดเวลา

เขาไม่เคยเปิดเผยโฉมหน้าต่อหน้าสาธารณชนเลย

จนสื่อพากันขนานนามว่า “แวมไพร์”



ใครๆ ก็ว่าปีศาจร้ายตนนี้ไร้หัวใจ

แต่สิ่งที่ปรากฏเบื้องหน้าน้ำงามกลับกลายเป็นชายหนุ่มรูปงามนัยน์ตาโศก



ดวงตาสีอำพันของเขาดูดกลืนจิตวิญญาณของเธอเข้าไปตั้งแต่วินาทีแรกที่เห็น

น้ำงามหลงรักเควินหมดหัวใจ โดยไม่รู้เลยว่าสำหรับเขาแล้วนี่เป็นเพียงแค่เกม

เธอคือของขวัญที่ญาติตัวแสบส่งมาให้เล่นฆ่าเวลาเท่านั้น



“ถ้าเควินรักน้ำงาม เขาจะแพ้”



ชายหนุ่มเกลียดความพ่ายแพ้

แต่สิ่งที่ชิงชังยิ่งกว่าคือการถูกทรยศ

เขาจะทำเช่นไรเมื่อรู้ว่าคนที่กำลังเผลอมอบใจให้เป็นสปาย


อ่านแล้วถูกใจรบกวนกดไลค์แฟนเพจให้ด้วยนะคะ https://www.facebook.com/nomekaa


Tags: โรแมนติก ดราม่าเบาๆ โรมานซ์นิดๆ พยาบาลสาว นักธุรกิจหนุ่ม แวมไพร์ โรคแพ้แดด

ตอน: บทที่ 13 กิโมโน

บทที่ 13 กิโมโน

น้ำงามกำลังเดินออกมาจากห้องไปทำงานพอดี ตอนที่มามิเอากิโมโนมาให้ เนื่องจากเควินไม่ได้นัดเธอเอาไว้ล่วงหน้า หญิงสาวก็เลยแปลกใจที่อยู่ๆ เขาส่งคนมาช่วยเธอแต่งตัว

“ทำไมฉันต้องใส่กิโมโนด้วยคะ”

“นี่เป็นคำสั่งของมาสเตอร์เค ฉันก็ไม่ทราบรายละเอียด” มามิตอบด้วยน้ำเสียงกระด้าง

วันนี้คุณหัวหน้าแม่บ้านดูอารมณ์ไม่ดีสักเท่าไร น้ำงามเลยไม่กล้าซักมาก หญิงสาวเดาเอาว่าต้นเหตุมาจากความเอาแต่ใจของเควิน ก็เลยยอมสวมกิโมโนที่เขาจัดเตรียมมาให้แต่โดยดี เพราะไม่อยากให้มามิกับพวกสาวใช้ต้องเดือดร้อน

หญิงสาวไม่เคยสวมกิโมโนมาก่อนเลยไม่รู้ว่ามีขั้นตอนยุ่งยากหลายอย่าง มองด้วยตาก็เห็นว่าใส่ง่ายๆ เพราะเป็นชุดเหมือนเสื้อคลุมที่ไหนได้ต้องระมัดระวังทุกขั้นตอนเลยทีเดียว

เริ่มจากการสวมถุงเท้าก่อน ที่ทำแบบนั้นเพราะเมื่อแต่งตัวเสร็จแล้วชุดจะแน่นมากทำให้เอี้ยวตัวลำบาก ถ้าจะใส่ให้สวยก็ต้องห้ามใส่ชุดชั้นในตามปกติ แต่สวมชุดข้างในที่เป็นผ้าฝ้ายสีขาวแทน

นอกจากนี้ยังต้องจัดตำแหน่งชุดให้ถูกต้องด้วย เส้นศูนย์กลางทางด้านหลังต้องอยู่กลางลำตัวพอดี ความยาวของชายกิโมโนจะต้องอยู่ระดับปิดส้นเท้า ที่สำคัญคนช่วยใส่จะต้องมือเบาจัดตำแหน่งเป็นและห้ามทำให้ชุดยับอย่างเด็ดขาด เรียกว่าเป็นการแต่งตัวที่ทำให้รู้สึกเหนื่อยมากทีเดียว

“นี่เป็นกิโมโนของคุณแม่มาสเตอร์เค ลวดลายที่เห็นได้จิตรกรชื่อดังเป็นผู้ออกแบบ มูลค่าของมันในตอนนี้จัดว่าสูงมาก แต่ก็ยังไม่เท่าคุณค่าทางจิตใจ ดังนั้นกรุณาสวมใส่อย่างระมัดระวังด้วยนะคะ” มามิเตือนเสียงเข้ม

“ฉันจะระวังค่ะ”

น้ำงามกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ เธอรู้สึกเกร็งเสียยิ่งกว่าตอนเป็นพยาบาลฝึกหัด แล้วต้องเจอกับเคสผู้ป่วยหนักเสียอีก

นอกจากจะแต่งตัวให้แล้ว มามิยังเกล้าผมให้น้ำงามด้วยปิ่นด้วย เธอบอกว่าส่วนเดียวที่จะอวดได้ก็คือลำคอ ดังนั้นไม่ควรจะเอาอะไรมาปิดไว้

“หนูมีคอที่สวยคล้ายคุณพี่อายากะ” มามิมีท่าทีอารมณ์ดีขึ้นมาบ้าง

เมื่อเตรียมตัวเรียบร้อยแล้ว คนที่แต่งตัวให้ก็รับหน้าที่พาน้ำงามไปส่งที่ห้องชั้นสาม สองสาวไม่ได้พูดอะไรกันเลยตลอดทางจวบจนกระทั่งใกล้ถึงที่หมาย มามิจึงพูดให้ได้ยินกันเพียงสองคนว่า

“คุณหนูโคฮาคุชอบเธอมาก เพราะฉะนั้นอย่าได้คิดทรยศคุณหนูเด็ดขาดเข้าใจไหม”

ประโยคนี้ดังเพียงแผ่วแต่หนักแน่นในความรู้สึก น้ำงามสัมผัสได้ในทันทีว่าผู้หญิงคนนี้จะไม่มีวันให้อภัยคนที่ทำร้ายเควินอย่างเด็ดขาด



ห้องสี่เหลี่ยมที่ใช้สำหรับดินเนอร์และดูดาวในคราวก่อน บัดนี้แปลงสภาพเป็นสวนสวยสำหรับชมซากุระไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

นอกจากผนังสี่ด้านที่เต็มไปด้วยต้นซากุระที่ผลิดอกสะพรั่ง กลางห้องยังมีเครื่องฉายแบบสามมิติอยู่ด้วยให้บรรยากาศสมจริงมากขึ้นไปอีก

เควินนั่งอยู่กลางหมู่ไม้ เขาให้คนเตรียมเสื่อกับอาหารเอาไว้ให้ พร้อมกับเปิดเสียงนกร้องคลอเบาๆ เสริมบรรยากาศให้ยิ่งรื่นรมย์มากขึ้นไปอีก

น้ำงามเหลียวมองรอบตัวอย่างถูกใจ ถึงจะไม่ใช่ของจริงแต่สวยเหลือเกิน หญิงสาวอดที่จะเอื้อมมือไปสัมผัสกับกลีบดอกไม้ที่กำลังโปรยปรายลงมาไม่ได้ แม้จะรู้ว่ามันเป็นเพียงภาพมายาก็ตาม

ในขณะที่หญิงสาวกำลังเพลิดเพลินกับความงามในรูปแบบสังเคราะห์ เจ้าของสถานที่กลับสนใจชมสิ่งที่สามารถจับต้องได้มากกว่า เควินคิดเอาไว้ตั้งแต่แรกแล้วว่าน้ำงามจะต้องใส่กิโมโนขึ้น แต่ไม่นึกเลยว่าใส่แล้วจะเหมาะเจาะขนาดนี้

“คุณสวยจัง” ชายหนุ่มยิ้มกว้างเมื่อหญิงสาวเดินมาหา

น้ำงามลังเลที่จะนั่งลงเพราะกลัวชุดยับ แต่สุดท้ายก็ต้องตามใจ เพราะทนลูกอ้อนทางสายตาไม่ได้

พอเธอนั่งลงแล้ว เควินก็เปิดอาหารญี่ปุ่นในกล่องออกมาอวด เขาให้พ่อครัวเตรียมเอาไว้ให้เป็นพิเศษ โดยระบุชัดว่าอาหารสำหรับชมซากุระ

ตั้งแต่พ้นวัยเด็กมาเควินก็รับประทานอาหารญี่ปุ่นแทบจะนับครั้งได้ ที่คฤหาสน์แห่งนี้มีเชฟอาหารญี่ปุ่นอยู่ก็เพราะพ่อเป็นคนจ้างมา เวลาคิดถึงแม่ท่านมักจะให้คนทำอาหารญี่ปุ่นจัดขึ้นโต๊ะ บรรดาภรรยาของพ่อไม่มีใครถูกจริตกับพวกปลาดิบสักคน ถึงเรื่องมันจะเกิดขึ้นนานแล้ว แต่เควินก็ยังจำสีหน้าพะอืดพะอมของคนพวกนั้นได้อยู่เลย

“หัวเราะอะไรคะ”

“พอดีผมนึกเรื่องตลกขึ้นมาได้น่ะ”

“เล่าให้ฟังได้ไหมคะ”

“ได้สิ มันไม่ใช่ความลับอะไร กินไปคุยไปนะ”

ชายหนุ่มหยิบกุ้งชุบแป้งทอดป้อนเข้าปากน้ำงามเป็นอย่างแรก ระยะหลังเขาเริ่มจะรู้สึกสนุกกับการเป็นคนป้อนบ้างแล้ว คนเจ้าเล่ห์ชอบบังคับให้อีกฝ่ายกินจนหมดห้ามเหลือเศษอะไรติดนิ้วเขาอย่างเด็ดขาด น้ำงามเลยรู้สึกขาดทุนทั้งขึ้นทั้งล่อง

ในระหว่างที่หญิงสาวเคี้ยวกุ้ง ชายหนุ่มก็เล่าเกี่ยวกับภรรยาทั้งสามคนของบิดาให้ฟังไปด้วย เรื่องราวที่แฝงไปด้วยอคติบอกให้รู้ว่าเควินไม่ลงรอยกับคนพวกนั้น

“คุณเกลียดพวกเธอเหรอคะ”

“ผมเกลียดทุกคนที่ดูถูกแม่ผม” เควินตอบแบบเหมารวม

สเตลล่า ลิซ่า มาเรีย คือชื่อของภรรยาทั้งสามของบิดา สเตลล่ากับลิซ่าเปรียบประดุจนางมารร้ายในสายตาเขา คนเดียวที่พอจะยอมรับได้ก็คือมาเรีย

ที่รู้สึกดีกว่าคนอื่นไม่ใช่เพราะว่าเธอเป็นคุณยายของฟินน์ แต่ที่ไม่เกลียดก็เพราะเธอเป็นคนเดียวที่ไม่เคยมาหาเรื่องแม่ หลังจากที่เขากลายเป็นลูกกำพร้า มาเรียก็ดูเหมือนจะเป็นคนที่ห่วงใยเขารองลงมาจากพ่อ ทว่าก็ไม่ได้แสดงออกมาอย่างชัดเจนนัก เพราะเกรงอำนาจของภรรยาอีกสองคน

“อย่าเกลียดเธอเลยนะคะ พวกเธอน่าสงสารออกค่ะ” น้ำงามว่า

“พวกนางแม่มดพวกนั้นน่ะนะ คุณไม่รู้จักเธอ ไม่มีทางเข้าใจหรอก”

“ฉันว่าฉันเข้าใจนะคะเพราะว่าฉันเป็นผู้หญิงเหมือนกัน บางทีพวกเธออาจจะไม่อยากร้ายก็ได้ แต่ไม่รู้จะทำอย่างไร เวลาเราถูกแย่งของรักไปก็ต้องทวงคืนหรือโต้กลับไม่ใช่หรือคะ”

คำพูดของน้ำงามทำให้เควินได้คิด เขาไม่เคยมองในแง่นี้มาก่อน คิดแต่ว่าแม่ถูกรังแกเท่านั้น บางทีแม่คงจะคิดอย่างน้ำงามก็เป็นได้ก็เลยไม่เคยโต้ตอบพวกนั้นเลย

“คุณจะเปลี่ยนไปไหมถ้าผมนอกใจคุณ”

“แน่นอนค่ะ รับรองว่าฉันร้ายกว่าพวกภรรยาพ่อคุณแน่”

“ฟังแล้วปลื้มจัง แสดงว่าคุณรักผมมากเลยใช่ไหม”

“ถนัดจังนะคะ เรื่องพูดเอาความดีเข้าตัวเนี่ย”

“ผมถนัดที่จะมองความจริงในใจคุณเสมอ” พูดแล้วเควินก็ทิ้งตัวลงบนตักนุ่ม

“อย่าค่ะ เดี๋ยวชุดยับ” หญิงสาวประท้วง

“ไม่เห็นเป็นไร ยับได้ก็รีดได้”

“แต่นี่เป็นของคุณแม่คุณไม่ใช่หรือคะ ของแพงด้วย คงไม่ดีถ้าฉันใช้ไม่ระวัง”

“ไม่ต้องคิดมากหรอก ผมยังมีชุดกิโมโนของแม่เก็บเอาไว้อีกเยอะเลย เอามาใส่ทุกวันทั้งเดือนยังไม่หมดเลย แล้วเสื้อผ้าน่ะเขาเอาไว้ใส่นะครับคุณผู้หญิง มาห่วงเรื่องเลอะเรื่องยับ วันๆ ไม่ต้องทำอะไรกันพอดี”

ชายหนุ่มยังเล่าอีกว่าแม่เคยใส่ชุดกิโมโนเล่นไล่จับกับเขาในสวนด้วย ได้ฟังอย่างนั้นน้ำงามเลยปล่อยให้นอนหนุนตักตามใจ

“ป้อนซาชิมิ ผมหน่อยสิ”

“เอาอะไรดีคะ”

น้ำงามพอจะแยกได้ว่าชิ้นไหนเป็นเนื้ออะไร โดยดูจากสีและลายของชิ้นเนื้อ

“คิดก่อนนะ”

ชายหนุ่มดีดตัวขึ้นมามองอาหารในกล่อง เขาอ้อมมาอยู่ด้านหลังน้ำงามแล้วโอบตัวเธอเอาไว้ ทำท่าเหมือนครุ่นคิด แต่ที่จริงแล้วกำลังวางแผนกินคนเป็นๆ ไม่ใช่เนื้อดิบ

เควินเอาคางมาเกยไหล่แล้วหาทางสอดมือเข้าไปในเสื้อของน้ำงาม พ่อตัวร้ายแอบปลดสายคาดเอวเธอเพื่อให้แทรกมือเข้ามาหาเนื้ออุ่นๆ ได้ง่ายขึ้น ไม่ถึงนาทีกิโมโนที่ใส่แสนยากเย็นก็เริ่มหลุดลุ่ย

“อย่าทำแบบนี้ค่ะเควิน ฉันใส่คืนเองไม่เป็นนะคะ” น้ำงามยึดมือแสนซุกซนเอาไว้

“เดี๋ยวให้มามิมาช่วยใส่ให้อีกก็ได้”

“ไม่เอาค่ะ น่าอายออก”

“ถ้าอย่างนั้นก็เปลี่ยนไปใส่ชุดอื่นแทน”

ชายหนุ่มจูบที่ซอกคอไล่ลงมาที่แผ่นหลังของหญิงสาว เขาครางอย่างพอใจเมื่อค้นพบว่าภายใต้กิโมโนปราศจากสิ่งกีดขวาง

น้ำงามเอี้ยวตัวไปประท้วงแต่กลายเป็นว่าทำให้เขาจูบเธอง่ายขึ้น ไม่ทันไรเธอก็พ่ายแพ้ต่อไฟเสน่หา หญิงสาวยอมขึ้นไปอยู่บนตักตามแรงดึง เปิดโอกาสให้เขาหยอกเย้าทรวงอกคู่งามได้ง่ายขึ้น

“สัมผัสผมหน่อย” ชายหนุ่มร้องขอ คำนี้เหมือนกับเป็นสัญญาณว่าเขาต้องการมีอะไรกับเธอ

“ไฟยังเปิดอยู่นะคะ” น้ำงามเตือน

ปกติเธอกับเขาจะมีสัมพันธ์กันในความมืดเท่านั้น ตอนแรกน้ำงามก็ไม่ชอบใจนัก เพราะมองอะไรไม่เห็นเลย แต่ตอนนี้กลับติดใจ เธอไม่รู้สึกเก้อเขินเวลามองไม่เห็น ทำให้สามารถปลดปล่อยอารมณ์ได้เต็มที่

“วันนี้ผมไม่อยากปิดไฟ”

“แต่ฉันอายนี่คะ”

“ของสวยงามมีอะไรให้น่าอาย”

ขาดคำชายกิโมโนก็ถูกแหวกออก ชายหนุ่มลูบไล้ต้นขานวลเนียน แล้วเริ่มปลุกอารมณ์ของหญิงสาว ความต้องการทำให้เธอยอมกอดรัดเขา สัมผัสในทุกส่วนตามแต่ชายหนุ่มจะต้องการ

“อย่าเพิ่งถอดหมดนะ ผมชอบแบบนี้ เซ็กซี่ดี”

เควินตั้งใจไม่ดึงสายคาดเอวให้หลุดเลยเพราะอย่างนี้ ปกเสื้อที่เลื่อนมาตรงไหล่ปริ่มอกอิ่ม กับชายชุดที่แหวกขึ้นมาจนถึงโคนขาช่างดูเย้ายวนใจเสียจริง

ชายหนุ่มประคองร่างบางให้นอนลงกับพื้น แล้วทาบทับตัวลงไป ตอนนั้นเองที่เสียงกระแอมดังขึ้นขัดจังหวะ

“หวัดดีเค” ฟินน์ยืนยิ้มหน้าระรื่นอยู่ตรงกรอบประตู “โทษที...ไม่ได้ตั้งใจจะรบกวน ไม่ต้องรีบนะรอได้”

ดวงตาสีฟ้าครามของฟินน์เต็มไปด้วยประกายหยอกเย้า ที่ทำให้เควินหัวเสียไปกว่านั้นคือไอ้หลานชายตัวดีไม่มีทีท่าว่าจะหลบไปเลยสักนิด ในทางตรงกันข้ามกลับปักหลักยืนอยู่หน้าประตูราวกับมีเจตนาเกาะขอบดูหนังสด

“ออกไป!” เควินหันมาตวาดแล้วเอาตัวบังน้ำงามเอาไว้

หญิงสาวรีบจัดชุดให้เข้าที่แล้วก้มหน้างุดด้วยความอาย เมื่อรู้ว่ามีแขกที่ไม่ได้รับเชิญยืนอยู่ไม่ไกล

“อ้าว! เสร็จแล้วเหรอ ทำไมไวจัง” จอมกวนประสาทแสร้งทำเป็นไม่ได้ยินเสียงไล่

“ฟินน์...”

คราวนี้เควินมองตาขวาง แต่อีกฝ่ายก็หาได้เกรงกลัว ถ้าเจ้าของสถานที่ไม่เดินออกมาไล่เองเห็นทีคงไม่ยอมไป

“ขอผมไปจัดการหมอนั่นเดี๋ยวนะ”

ชายหนุ่มเอี้ยวตัวมาจูบแก้มหญิงสาวเร็วๆ จัดกางเกงให้เข้าที่เสร็จ ก็เดินอาดๆ ไปหาหลานชายตัวดีอย่างเอาเรื่อง

น้ำงามได้ยินเสียงโวยวายว่าเควินใช้ความรุนแรงในครอบครัวดังมาแว่วๆ จากนั้นเสียงก็เงียบหายไป รออยู่นานทีเดียวจึงมีคนมาบอกว่าชายหนุ่มติดงานด่วน ให้กลับห้องไปได้เลย หญิงสาวไม่นึกเคืองที่ถูกทิ้งเพราะเข้าใจว่ามันเป็นงาน เธอกลับไปเปลี่ยนชุดพยาบาล แล้วมานั่งเฝ้าจอมอนิเตอร์ว่างเปล่าตามหน้าที่



ย้อนไปเมื่อหนึ่งชั่วโมงก่อน ในขณะเควินกำลังก้าวอาดๆ ออกจากห้องเพื่อไปจัดการกับหลานชายตัวดี แวมไพร์เจ้าอารมณ์ตุ๊ยท้องคนตัวโตกว่าพอให้หายโมโห จากนั้นจึงค่อยซักถาม

“มีเรื่องสำคัญอะไรก็ว่ามา” เควินเดาได้โดยไม่ต้องบอก

ฟินน์มีอาณาจักรของตัวเองอยู่ที่นิวยอร์ก ถึงจะขี้เล่นปานใด ก็ไม่ได้ว่างขนาดมีเวลาเดินทางข้ามรัฐมาหาด้วยเหตุผลไร้สาระ

“ขอพื้นที่ที่เป็นส่วนตัวหน่อย แล้วจะเฉลย”

ชายหนุ่มปรายตาไปทางบอดี้การ์ดร่างสูงที่ยืนเยื้องกันไปไม่ไกล บ่งบอกว่าไม่อยากให้คนนอกได้ยินการสนทนา

เควินพยักหน้ารับ แล้วเดินนำไปที่ห้องนั่งเล่นส่วนตัวที่ชั้นสองซึ่งไม่มีกล้องติดอยู่ พอหย่อนก้นลงนั่งแล้วฟินน์ก็เปิดประเด็นที่ทำให้หางตากระตุก

“นายเริ่มเบื่อหล่อนหรือยัง” ฟินน์หมายถึงน้ำงามอย่างไม่ต้องสงสัย

“ยัง แต่นั่นไม่ได้หมายความว่านายจะชนะ”

“งานนี้ไม่เกี่ยวกับแพ้หรือว่าชนะแล้ว” ฟินน์เอ่ยด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียดผิดวิสัย “ฟังนะเค ทุกอย่างเป็นความผิดของฉันเอง ฉันไม่คิดว่ามันจะบังเอิญได้ขนาดนี้”

“นี่นายกำลังพูดเรื่องอะไรอยู่กันแน่”

ฟินน์มักจะชอบพูดจาอ้อมค้อมในสองกรณี หนึ่งคือกวนประสาท สองคือกลัวว่าเขาจะโกรธ หนนี้เควินรู้สึกได้ว่ามันเป็นอย่างหลัง

“เรื่องพยาบาลสาวคนนั้น เห็นทีนายคงต้องตัดใจทิ้งของเล่นใหม่ ทั้งที่ยังสนุกไม่หนำใจแล้วล่ะ”

“หมายความว่ายังไง” เควินถามด้วยท่าทีไม่สบอารมณ์

ชายหนุ่มไม่พอใจที่หลานชายมองน้ำงามว่าเป็นของเล่น แม้ว่าก่อนหน้าตัวเองจะเคยปากเสียพูดอะไรทำนองนี้ออกไปก่อนก็ตาม

“เธอกำลังสมคบคิดกับพี่ชายเธอเพื่ออะไรบางอย่าง ฉันคิดว่าเธอเป็นสปายให้ไอแซก”

ไอแซกเป็นหลานชายคนโตของลิซ่า ภรรยาคนที่สองของโทมัส คอนเนอร์ ผู้หญิงคนนี้ได้ชื่อว่าร้ายกาจราวอสรพิษ ไอแซกสืบสายเลือดมาจากเธอ ย่อมต้องได้รับรหัสพันธุกรรมมาบ้าง ถึงจะไม่ได้เก่งกาจฉลาดเฉลียวอย่างผู้เป็นย่า แต่ก็รับเอานิสัยลอบกัดกับผูกใจเจ็บมาอย่างเต็มเปี่ยม ไม่ว่าจะเรื่องเล็กน้อยแค่ไหน ถ้ามันทำให้เควินกับฟินน์รำคาญใจได้ ชายหนุ่มก็ไม่ลังเลเลยที่จะทำ

เควินนิ่งงันไปกับความจริงที่ได้ยิน ดวงตาสีอำพันยามนี้ยังคงดูสงบนิ่ง ถ้าไม่สนิทกันคงไม่รู้ว่าท่าทีอย่างนี้เป็นสัญญาณอันตราย

“เล่ามาให้หมด”

น้ำเสียงเย็นๆ ทำให้ฟินน์กลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ ตอนนี้เควินกำลังโมโหมาก สายตาบอกชัดว่าถ้าเรื่องที่เล่ามาไม่มีมูลความจริง ฟินน์จะโดนเล่นงานถึงตาย

คนเป็นหลานไม่อยากเสียเวลาอธิบายให้มากความ ก็เลยเอาซองหลักฐานยื่นให้อีกฝ่าย แล้วอธิบายทุกอย่างแบบคร่าวๆ

น่านฟ้า แสงพลอยศิ คือพี่ชายแท้ๆ ของน้ำงาม ตอนที่ฟินน์ให้คนสืบประวัติเธอกับครอบครัวก็ยังเห็นว่ามันไม่มีอะไรผิดปกติ ชายหนุ่มเป็นนักข่าวธรรมดา ที่ใช้ชื่อจริงนามสกุลจริงของตัวเองในการเขียนข่าว เขาเห็นว่าปลอดภัยและคิดว่าน้ำงามผ่านการคัดเลือกมาอย่างดีแล้ว ก็เลยส่งตัวมาเป็นพยาบาลของเควิน โดยที่ไม่รู้เลยว่าพี่ชายของเธอยังมีอีกนามปากกาหนึ่ง

มาโค สตรอม คืออีกโฉมหน้าหนึ่งของน่านฟ้า เวลาออกหาข่าวเขาจะบอกใครๆ ว่ามีเชื้อสายเวียดนาม ชายหนุ่มใช้ความสามารถของตัวเอง ขุดคุ้ยประวัติหรือเรื่องไม่ดีของผู้มีอิทธิพลออกมาเพื่อรีดไถเงิน จนได้รับฉายานามว่าเป็นจอมแบล็กเมล์

ก่อนหน้านี้น่านฟ้าเคยพยายามที่จะหาภาพของเควินไปลงนิตยสารเพื่อรับรางวัล เห็นว่ากำลังร้อนเงินมากเพราะติดหนี้พวกมาเฟียเอาไว้

“มันติดต่อกับไอแซกอยู่ แต่จะมีคนชักใยอยู่เบื้องหลังอีกทีหรือเปล่า อันนี้ไม่แน่ใจ”

ฟินน์ไม่เคยกลัวไอแซกเลย ที่ทำให้เขาหวั่นใจคือย่าของชายหนุ่มมากกว่า

“ลิซ่าไม่มีส่วนหรอก เรื่องมันไร้สาระไป” เควินเอ่ยอย่างมั่นใจ

ลิซ่าเป็นผู้หญิงที่รักจะทำการใหญ่มากกว่าจะมาสนใจรายละเอียดปลีกย่อย สิ่งที่เธอปรารถนาไม่ใช่การทำให้เควินรำคาญใจ แต่เป็นการได้ยึดครองบริษัทคอนเนอร์ต่างหาก

ก่อนจะมามีฐานะเป็นภรรยาของโทมัส เจ้าหล่อนเคยเป็นเลขานุการของเขามาก่อน แม้จะมีความสัมพันธ์กันจนให้กำเนิดลูกชาย เธอก็ไม่เคยคิดหยุดทำงาน เจ้าหล่อนคอยสู้อยู่เคียงบ่าเคียงไหล่สามี จนโทมัสยอมโอนถ่ายอำนาจในการบริหารงานมาให้หลายส่วน

น่าเสียดายที่ลิซ่ามีลูกชายที่ฉลาดแค่พอใช้ กับพวกหลานชายที่ไม่ค่อยจะได้เรื่องนัก ไอแซกคือหลานคนโตและเป็นคนที่พอจะมีแววเอามาปลุกปั้นได้มากที่สุด กระนั้นก็ไม่เคยทำอะไรได้ดั่งใจผู้เป็นย่า ตั้งแต่ฟินน์กับเควินร่วมมือกันจนได้หุ้นในบริษัทคอนเนอร์มา ไอแซกก็โดนกดดันอย่างหนัก เควินจึงฟันธงว่าไอแซกกระทำการเหล่านี้แต่เพียงลำพัง

“ก็จริงของนาย แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ควรประมาท”

“มั่นใจแค่ไหนว่าน้ำงามมีส่วนเกี่ยวข้องด้วย”

“ไม่เต็มร้อยแต่เกินห้าสิบ อาทิตย์ก่อนเธอกับพี่ชายนัดเจอกันที่ร้านกาแฟในเมือง พอดีฉันให้นักสืบตามดูอยู่ นายรู้ไหมว่ามีใครอีกคนอยู่ในร้านกาแฟด้วย”

“ใคร”

“คาร์โรล คนสนิทของไอแซก”

เมื่อได้ฟังคำตอบเควินก็ก้มหน้าลงแล้วเอามือประสานกันแน่น ท่าทางอย่างนี้บ่งบอกว่ากำลังคิดหนัก ฟินน์รอจนแรงบีบที่มือของชายหนุ่มคลายลงแล้ว จึงค่อยถามสิ่งที่ต้องการรู้

“นายจะทำยังไงต่อไป”

“ไม่ใช่เรื่องของนาย มีอะไรเพิ่มเติมฉันจะแจ้งไป”

นี่เป็นสัญญาณเตือนว่าต้องการอยู่ลำพัง ฟินน์ผุดลุกขึ้นอย่างรู้หน้าที่ ชายหนุ่มวางมือลงบนบ่าของอา แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงสำนึกผิด

“ขอโทษที่ชักศึกเข้าบ้านนะเค”

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
สวัสดีท้ายตอนค่ะ นี่เป็นตอนสุดท้ายแล้วนะคะที่จะลงให้อ่านในอินเตอร์เนต ส่วนที่เหลือตามอ่านได้ในเล่มค่ะ

นิยายเรื่องนี้จะออกในนามปากกา ภคพร กับสำนักพิมพ์ ไลต์ออฟเลิฟนะคะ เปลี่ยนชื่อเป็น ‘ไฟรักรัญจวน’ ทางสำนักพิมพ์ให้เปลี่ยนค่ะบอกชื่อนี้ดีกว่ารัตติกาลรัญจวนที่ฟังดูออกแนวแฟนตาซี

สำหรับกำหนดการวางแผง ตอนนี้ยังไม่ทราบนะคะ ถ้าทราบกำหนดแน่นอนเมื่อไรแล้วจะมาแจ้งให้ทราบในแฟนเพจค่ะ

ส่วนภาคต่อ หลังจากนับคะแนนโหวตแล้ว หนุ่มมังกรน้ำแข็งกินขาดค่ะ แต่..กองบก มิปลื้มพลอต มังกรน้ำแข็งของเค้า T^T (น้ำตาตกใน) เพราะว่านางเอกแก่กว่าพระเอก ครั้นจะปรับพลอตก็เสียดายของเดิม ก็เลยเปลี่ยนไปเขียนของพ่อหนุ่มไลแคนท์แทน

ขอบคุณสำหรับการติดตามนะคะ แล้วพบกันใหม่ในเรื่อง ‘บาปรักรัญจวน’ นะคะ เจ้าพ่อกาสิโน หล่อสไตล์ลาตินอเมริกัน แซ่บเวอร์ค่า



นิชาภา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 3 มิ.ย. 2557, 21:58:39 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 3 มิ.ย. 2557, 21:58:39 น.

จำนวนการเข้าชม : 1745





<< บทที่ 12 พี่ชาย   
konhin 3 มิ.ย. 2557, 22:17:40 น.
กระซิกๆ เมื่อไหร่จะได้อ่านต่อ สงสารน้ำงามจัง หวังว่าเควินจะไม่เอาแต่โทษเธอ


Zephyr 3 มิ.ย. 2557, 22:56:11 น.
อ้าว โธ่...... โน้ม อดอ่านเลย
ไลแคนท์ก็ได้ อ่านได้หมดอ่ะ
ทำไม บก ต้องจำกัดด้วย ให้พระเอกเด็กกว่าไม่ได้รึไง
เดี๋ยวนี้มีออกเยอะแยะ


คิมหันตุ์ 3 มิ.ย. 2557, 23:34:29 น.
อ้าวววเงิบรอต่อไปจ่ะ. วางแผงไวๆนะคะ ลุ้นแย่แล้ว


Sukhumvit66 3 มิ.ย. 2557, 23:56:00 น.
ว้า.....


จ๊ะจ๋า 4 มิ.ย. 2557, 00:25:19 น.
จบแบบไม่อ่านหนังสือไม่ได้อะ เหมือนจุดพีคจะอยู่ในส่วนที่เหลือ ค้างมากกกก


ใบบัวน่ารัก 4 มิ.ย. 2557, 05:58:45 น.
โดนเกลียดหรือไล่ออกจากงานไหม
เค้าสงสารจัง


ribbin 4 มิ.ย. 2557, 07:25:21 น.
แงงงง ค้างอ่ะ ต้องรออีกเป็นเดือนเลย เฮ้อ....
เรื่องอื่นๆจะลง 70% เหมือนกันไหมคะ
จะได้เอาคิดทบทวนดูว่าควรจะอ่านในเวปต่อดีไหม


นักอ่านเหนียวหนึบ 4 มิ.ย. 2557, 11:25:18 น.
โฮ. มีแต่ข่าวร้ายยยยย กุซิกๆๆ


ribbin 4 มิ.ย. 2557, 14:10:45 น.
เข้ามาชี้แจงเพิ่ม เดี๋ยวคนเขียนเข้าใจผิด
ไม่ใช่หมายความว่าจะต้องลงจนจบทุกเรื่องนะคะ ลงไม่จบก็ได้ ซื้ออ่านได้ ไม่มีปัญหา แต่ขอเป็นหนังสือออกหลังจากที่งดลงในเวปไม่นาน เคยเจอบางเรื่องค้างนานม๊าก รอเป็นปี จนป่านนี้ยังไม่ออก เบื่อมากเลย (เซ็งขนาดที่ว่าคงไม่ซื้อแล้วเรื่องนี้/นักเขียนคนนี้)


นิชาภา 4 มิ.ย. 2557, 17:31:17 น.
คุณ ribbin ซีรีย์นี้ลงประมาณ 70% ทุกเรื่องค่ะ ส่วนเรื่องช่วงเวลาวางแผงอันนี้กำหนดไม่ได้จริงๆ ค่ะ คือถ้างานผ่าน ผลงานพ้นมือนักเขียนไปแล้ว กระบวนการการจัดพิมพ์และจัดจำหน่ายจะเป็นของสำนักพิมพ์และสายส่งค่ะ

หนังสือจะได้วางแผงช้าหรือเร็ว ขึ้นอยู่กบกระบวนการกรทำงาของสำนักพิมพ์ ต้องดูคิวต้นฉบับขณะนั้นว่าต้นฉบับล้นไหม แผนการตลาดเป็นยังไง มีปัจจัยหลายอย่างมาเกี่ยวข้อง นักเขียนก็รองานออกเหมือนกันค่ะ แต่ก็ไม่สารมารถเร่งสำนักพิมพืได้ ดีหน่อยที่ไลต์ออฟเลิฟออกงานค่อนข้างเร็ว รอไม่กี่เดือนค่ะ จริงๆ ก็อัดอั้นตันทรวงอยากระบายเหมือนกัน เพราะบางเจ้างานผ่านแล้วต้องรอเป็นปีเลยก็มี บอกว่าจะวางให้งานหนังสือแต่เลื่อนแล้วเลื่อนอีก นักเขียนตัวน้อยๆ ก็ไส้แห้งกันไป T^T

เข้าใจความรู้สึกคนอ่านนะคะว่ารอมันทรมาน โน้มก็ติดนิยายเรื่องหนึ่งเหมือนกัน รอออกใจจะขาดรอนๆ ถ้าจะหายไปไม่ตามอ่านในเนตต่อก็ไม่ว่ากันค่ะ ไม่โกรธไม่เคืองแน่นอน


นิชาภา 4 มิ.ย. 2557, 17:34:18 น.
เพิ่มเติมค่ะ จะพยายามแก้ปัญหานิยายออกช้า ด้วยการเขียนตุนเอาไว้นะคะหรืออาจจะเขียนให้จบก่อน งานผ่านแล้วค่อยมาลง แต่อย่างหลังสงสัยทำได้ยาก ถ้าไม่ลงนิยายในเนต ไม่ได้อ่านคอมเมนต์นักอ่านที่รักยิ่ง เขียนไม่ค่อยออกจริงๆ ฮื้อออออ T^T


goldensun 4 มิ.ย. 2557, 18:02:42 น.
ค้างอย่างแรงเลยค่ะ อีกนานมั้ยคะ กว่าหนังสือจะออก น้ำงามไม่รู้เรื่องอะไรด้วย เควินจะฟังหรือจะตัดสินจาากหลักฐานแวดล้อม อยากรู้จัง


ribbin 4 มิ.ย. 2557, 18:35:51 น.
ขอบคุณนะคะที่เข้ามาชี้แจง ถ้างั้นอาจต้องขอโบกมือลาในเวปแล้วรออ่านตอนรวมเล่มเลย ต้องขอโทษด้วยนะคะ (ต้องอดทนให้ได้ ฮึ่ม!)


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account