ไฟรักรัญจวน โดย ภคพร (วางแผงแล้ว)
ซีรีย์นี้ชื่อว่า 5 อสูรคอนเนอร์ค่ะ พระนางเป็นคนธรรมดานะคะ
แต่ฉายาอสูรนี่ได้มาเพราะบุคลิกเฉพาะตัว
สำหรับเรื่องแรกที่จะเปิดตัวคือ
“รัตติกาลรัญจวน”’ เป็นภาคของแวมไพร์นะคะ เรื่องนี้เขียนจบแล้วค่ะ อยู่ในขั้นตอนรีไรท์
ยังไม่ได้ส่งที่ไหน ดังนั้นเลยจะเอามาลงให้อ่าน 70% ก่อนนะคะ

สำหรับ 5 อสูร มีฉายาอะไรบ้าง ขอแนะนำก่อนให้เป็นน้ำจิ้มดังนี้ค่ะ

แวมไพร์
บรุษลึกลับที่ไม่เคยปรากฏโฉมต่อหน้าสื่อ
ชายหนุ่มคือจักรพรรติเงาผู้กุมอำนาจอยู่เบื้องหลังอาณาจักรคอนเนอร์อย่างเงียบๆ
ปมในอดีตทำให้เขาปิดตัวเองและไม่เคยเปิดหัวใจให้ใครเลย

ฟินิกซ์
เพลย์บอยเจ้าเสน่ห์ ผู้สดใสเจิดจ้าราวกับเทพอพอลโล่ เขารักอิสระ เกลียดพันธะ สาวสวยสำหรับเขาคือคนที่เอาไว้ควงเล่น ส่วนคนขี้เหร่แต่มีสมองเอาไว้ช่วยทำงาน แล้วถ้าทั้งสวยและมีสมองล่ะทำยังไง? อย่าหวังเลยว่าจะชายตามอง นั่นน่ะตัวอันตรายชัดๆ

มังกรน้ำแข็ง
ชายหนุ่มผู้งามสง่าราวประติมากรรม เขาเงียบขรึมเย็นชาจนดูเหมือนไร้หัวใจ
แต่เพื่อความรักแล้วผู้ชายคนนี้พร้อมจะเปลี่ยนเป็นเพลิงกัลป์
เพื่อแผดเผาอุปสรรคตรงหน้าให้มอดไหม้

ไลแคนท์
สายเลือดนอกคอกของตระกูลคอนเนอร์ เจ้าของคาสิโนและธุรกิจด้านมืดหลากหลาย
คนว่าเขาเป็นอสูรร้าย แต่ภายในใจอสูรตนี้กลับเต็มไปด้วยความอ้างว้าง
ที่หยั่งรากลึกสุดจะหยั่ง

คราเครน
หญิงสาวหนึ่งเดียวในห้าอสูร เจ้าหล่อนงดงาม เก่งกาจ ฉลาดเฉลียว
สิ่งที่คำนึงถึงมีเพียงอำนาจและเงินตราเท่านั้น
ความรักน่ะหรือ? อารมณ์ไร้ประโยชน์แบบนั้นโยนทิ้งมันไปได้เลย


คำโปรย รัตติกาลรัญจวน



สิ่งที่ “น้ำงาม” รู้เกี่ยวกับเจ้านายคนใหม่คือเขาชื่อ “เควิน โคฮาคุ คอนเนอร์”



หนุ่มลูกครึ่งอเมริกันญี่ปุ่นคนนี้เป็นนักธุรกิจมากความสามารถ

แต่กลับเก็บตัวอยู่ในคฤหาสน์ตลอดเวลา

เขาไม่เคยเปิดเผยโฉมหน้าต่อหน้าสาธารณชนเลย

จนสื่อพากันขนานนามว่า “แวมไพร์”



ใครๆ ก็ว่าปีศาจร้ายตนนี้ไร้หัวใจ

แต่สิ่งที่ปรากฏเบื้องหน้าน้ำงามกลับกลายเป็นชายหนุ่มรูปงามนัยน์ตาโศก



ดวงตาสีอำพันของเขาดูดกลืนจิตวิญญาณของเธอเข้าไปตั้งแต่วินาทีแรกที่เห็น

น้ำงามหลงรักเควินหมดหัวใจ โดยไม่รู้เลยว่าสำหรับเขาแล้วนี่เป็นเพียงแค่เกม

เธอคือของขวัญที่ญาติตัวแสบส่งมาให้เล่นฆ่าเวลาเท่านั้น



“ถ้าเควินรักน้ำงาม เขาจะแพ้”



ชายหนุ่มเกลียดความพ่ายแพ้

แต่สิ่งที่ชิงชังยิ่งกว่าคือการถูกทรยศ

เขาจะทำเช่นไรเมื่อรู้ว่าคนที่กำลังเผลอมอบใจให้เป็นสปาย


อ่านแล้วถูกใจรบกวนกดไลค์แฟนเพจให้ด้วยนะคะ https://www.facebook.com/nomekaa


Tags: โรแมนติก ดราม่าเบาๆ โรมานซ์นิดๆ พยาบาลสาว นักธุรกิจหนุ่ม แวมไพร์ โรคแพ้แดด

ตอน: บทที่ 12 พี่ชาย

บทที่ 12 พี่ชาย

หลังจากกลับจากสุสานมารดาแล้ว เควินก็เก็บตัวอยู่ในห้องอีกหลายวันตามคาด ที่ผิดคาดคือเขายอมกินยอมนอนตามปกติและให้น้ำงามมาอยู่เป็นเพื่อนด้วย

สองหนุ่มสาวไม่ถึงกับอยู่ด้วยกันตลอดเวลา แต่ส่วนใหญ่น้ำงามจะนอนค้างในห้องนี้เพราะทนเควินรบเร้าไม่ไหว พ่อตัวดีอ้างว่าเขายังอ่อนแอและเศร้าเกินกว่าจะอยู่ลำพังได้

สิ่งที่ทั้งสองทำร่วมกันไม่ได้มีแค่เรื่องเซ็กส์เท่านั้น แต่ยังได้พูดคุยถึงงานอดิเรกความชอบส่วนตัว เรื่องครอบครัว ชีวิตวัยเด็กและอะไรต่อมิอะไรอีกหลายอย่าง ในที่สุดเควินก็ยอมเปิดปากถึงสาเหตุที่ทำให้รู้สึกแย่หลังกลับจากสุสานมารดา

“ผมก็อดนึกไม่ได้ว่าเพราะผมหรือเปล่าแม่ถึงตาย”

“ไม่ใช่อย่างนั้นเด็ดขาดค่ะ ไม่ใช่ความผิดของคุณ”

“คุณพูดเหมือนพ่อผมเลย” ชายหนุ่มยิ้มขื่นๆ “พ่อบอกเป็นเพราะแม่เป็นคนดีเกินไป สวรรค์ก็เลยเรียกตัวคืน พ่อผมแทบไม่เคยเข้าโบสถ์ด้วยซ้ำ ตลกนะว่าไหมที่เชื่อเรื่องแบบนี้”

เควินเล่าต่อว่าพ่อห้ามไม่ให้เขาโทษตัวเอง แต่กลับแบกรับความผิดทั้งหมดเอาไว้คนเดียว โทษว่าที่ภรรยาต้องจากโลกนี้ไปเป็นเพราะดูแลได้ไม่ดี ทั้งที่ความจริงแล้วไม่ใช่เลย

“ทุกคนคิดว่าผมจำไม่ได้ว่าแม่ตายเพราะอะไร แต่จริงๆ แล้วผมจำได้แม่นเลยล่ะ”

แม่อาจจะป่วยตาย แต่สาเหตุการตายนั้นมีที่มาที่ไป ผู้หญิงที่ยังสาวสุขภาพแข็งแรงแบบแม่ไม่น่าจะต้องมาสิ้นใจเพราะโรคปอดได้ ถ้าเธอไม่ออกไปตากลมหนาวที่ระเบียงทั้งที่ตัวเปียกปอน

“แม่มีอาการทางจิต ไม่รู้เกิดขึ้นเมื่อไร แต่มักจะเหม่อลอย ทำอะไรไม่รู้ตัวเสมอ นานๆ แม่จะเป็นทีก็เลยไม่มีใครเอะใจ มีผมคนเดียวเท่านั้นที่รู้ แต่ก็ไม่เคยบอกใคร ถ้าผมบอกพ่อหรือมามิ ทั้งคู่คงไม่ปล่อยแม่เอาไว้ตามลำพัง”

“ตอนนั้นคุณยังเด็กนะคะ จะไปรู้ได้ยังไงว่าควรทำอย่างไร”

“ผมรู้ ถึงอย่างนั้นมันก็ยากเกินกว่าจะให้อภัยตัวเอง คุณเข้าใจผมไหมน้ำงาม ยิ่งเห็นพ่อต้องเจ็บปวดผมก็ยิ่งรู้สึกผิด”

เหตุผลหนึ่งที่เควินไม่ต่อต้านเรื่องที่บิดาส่งพยาบาลมาเฝ้าดูแลเขาตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง เพราะเข้าใจความรู้สึกของพ่อว่าไม่อยากจะสูญเสียคนสำคัญไปอีก สำหรับพ่อแล้วเขาไม่ใช่แค่ลูกชายแต่ยังเป็นตัวแทนของผู้หญิงที่รักหมดหัวใจด้วย

น้ำงามไม่ปลอบเควินด้วยคำพูดแต่โอบกอดคนตัวโตกว่าเอาไว้ในอ้อมแขนแทน แล้วปล่อยให้ภาษากายทำหน้าที่ของมัน

หญิงสาวรู้ดีว่าชายหนุ่มเข้าใจสัจธรรมของโลกดี ที่พูดมาเพียงเพราะอยากหาที่ระบายเท่านั้น สิ่งที่เธอช่วยได้ไม่ใช่การให้คำแนะนำหรือช่วยย้ำว่าเขาไม่ผิด แต่เป็นการคอยอยู่เคียงข้างจนกว่าจะกลับมาเข้มแข็งต่างหาก

ความเงียบกับไออุ่นจากตัวของน้ำงามช่วยเควินเอาไว้ได้อีกครั้ง เขาเข้าใจความรู้สึกของการมีใครสักคนก็วันนี้เอง แม้จะรู้สึกดีขึ้นนานแล้วแต่ชายหนุ่มก็ยังแกล้งตีหน้าเศร้าอ้อนต่อไป แต่ก็ทำได้ไม่นานนักเพราะน้ำงามจับพิรุธได้ทันทีที่สบตา

“ถ้าคุณรู้สึกดีขึ้นแล้ว ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปฉันจะกลับไปทำงานนะคะ”

“อยู่กับผมอีกสักหน่อยไม่ได้เหรอ ผมยังรู้สึกแย่อยู่เลย”

“ยิ้มระรื่นอย่างนี้ฉันเชื่อคุณไม่ลงหรอกค่ะ”

พอมีน้ำงามอยู่ใกล้ๆ เควินก็อารมณ์ดีขึ้นมาแบบไม่รู้ตัว ริมฝีปากบางมีรอยยิ้มน้อยๆ แต่งแต้มอยู่ตลอดอย่างที่ไม่เคยเป็น

“ใจร้าย ไม่ทันไรคุณก็เบื่อผมแล้ว ตั้งใจจะฟันแล้วทิ้งใช่ไหม”

น้ำงามหันมาค้อนใส่ ดูพูดเข้าเถอะฝ่ายที่ต้องห่วงว่าจะถูกฟันแล้วทิ้งมันเธอมากกว่า

“ฉันไม่ได้เป็นอย่างที่คุณพูดสักหน่อย แค่รู้สึกไม่ดีที่ต้องทิ้งภาระเรื่องงานเอาไว้กับคนอื่นต่างหากล่ะคะ”

น้ำงามอยู่กับเควินตลอดก็จริง แต่ที่นี่มีกฎว่าที่ห้องพยาบาลจะต้องมีคนประจำอยู่ตลอด เวลางานของมาร์กกับซาร่าจึงเพิ่มขึ้นมาอย่างเลี่ยงไม่ได้

“คบกันไม่ทันไรคุณก็แคร์คนอื่นมากกว่าผมแล้ว นายนี่มันน่าสงสารเป็นบ้าเลยเควิน” เควินหันมาเล่นบทโศกด้วยการคร่ำครวญกับตัวเอง

“คนอย่างคุณนี่เขาไม่เรียกน่าสงสารหรอกนะคะ ออกจะหล่อ รวย มีพร้อมทุกอย่าง” หญิงสาวเอ่ยด้วยความหมั่นไส้

“เป็นคำประชดที่ฟังแล้วชื่นใจจัง” ชายหนุ่มสูดจมูกแล้วเลยไปหอมแก้มหญิงสาว จากนั้นก็กอดตัวเธอเอาไว้แน่น

น้ำงามหันมากอดตอบ แต่ก็ใช่ว่าจะยอมใจอ่อน

“ฉันจะไปทำงานแล้วค่ะ อีกเดี๋ยวเจอกันนะคะ”

ถ้าเขาอยากอยู่กับเธอมากกว่านี้ก็ต้องยอมออกไปข้างนอก เควินรู้ดีว่าสมควรแก่เวลาที่จะออกไปสะสางงานที่คั่งค้างได้แล้ว กระนั้นก็ยังเลือกที่จะทำตามใจตัวเองเป็นการทิ้งทวน

น้ำงามยังไม่ทันเดินไปพ้นจากเตียง เขาก็ดีดนิ้วเพื่อปิดไฟในห้อง ทันทีที่ห้องมืดสนิทแวมไพร์วายร้ายก็โผเข้าหาเหยื่อสาว แล้วจัดการเธอในความมืดด้วยริมฝีปากและสัมผัสละมุน


ตั้งแต่มีความสัมพันธ์กับเควิน สถานะของน้ำงามก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง แม้เขาจะรับปากเป็นมั่นเป็นเหมาะว่าจะไม่ออกคำสั่งเปลี่ยนแปลงอะไรที่ทำให้เธอต้องอึดอัด ทว่าปฏิกิริยาของคนรอบตัวก็เปลี่ยนไปอยู่ดีเพราะมีข่าวเรื่องเธอกับเควินหลุดออกไป

คนนอกที่ทำงานส่วนอื่นอย่างจอร์จกับมิเชลดูสุภาพกับเธอมากขึ้น แต่ก็ยังไม่ทำตัวให้อึดอัดเท่าคนรับใช้ในบ้านที่บัดนี้พร้อมใจกันเรียกเธอว่า ‘คุณผู้หญิง’ ทั้งยังพยายามปรนนิบัติรับใช้แบบเกินพอดีอีกด้วย แม้แต่ชุดชั้นในพวกเธอก็เก็บไปซักให้ น้ำงามไม่ชอบการดูแลแบบนี้ก็เลยไปโวยวายใส่ตัวการ

“สั่งให้เมดเลิกวุ่นวายกับฉันเกินพอดีได้แล้วนะคะ”

“ผมเปล่าสั่งนะ ไม่รู้เรื่องเลย สาบานได้ว่าผมไม่เคยยุ่งเรื่องในบ้าน” เควินยืนกรานหนักแน่น

พอคิดดูก็จริงอย่างที่เขาว่า เควินไม่ใช่ผู้ชายจำพวกที่จะมาใส่ใจว่าผู้หญิงของเขาจะอยู่อย่างไร มีคนคอยปรนนิบัติดูแลหรือเปล่า

“แน่ใจนะคะว่าคุณไม่ได้พูดอะไรเลย”

“แน่ใจสิ นอกจากมามิแล้ว ผมไม่เคยคุยกับพวกเมดเลย”

‘เมดพวกนั้นแค่อยากประจบเธอจริงๆ น่ะหรือ’

น้ำงามรู้สึกว่ามันมีอะไรแปลกๆ เลยทำใจเชื่อไม่ค่อยได้ นิ่งคิดสักพักก็นึกออกว่าลืมใครบางคนไป

“คุณได้พูดอะไรกับเกลิคไหมคะ”

“ไม่นี่...คิดว่าไม่นะ”

“สรุปว่าไม่หรือใช่ค่ะ” น้ำงามหรี่ตามองอย่างคาดคั้น

หลังจากรู้นิสัยใจคอกันมากเข้าเควินก็ได้ตระหนักว่าสาวน้อยแสนหวานคนนี้เป็นคนหัวรั้นผิดกับท่าทีที่มักจะแสดงออก เขาเลยจำเป็นต้องอ้อมแอ้มคายความลับออกมา

“ผมแค่บอกเกลิคไปเองว่าคุณเป็นผู้หญิงของผม”

“อะไรนะคะ!” น้ำงามร้องลั่น

อย่างนี้ไม่เรียกว่าเรื่องของเธอกับเขาบังเอิญหลุดออกไปแล้ว เรียกว่าเป็นคนปล่อยข่าวออกไปเองจะเหมาะกว่า

“ผมบอกว่าผมบอกเกลิคไปว่าคุณเป็นผู้หญิงของผม”

“ไม่ใช่อย่างนั้นค่ะ คุณนึกยังไงถึงบอกต่างหาก”

“ก็มันเป็นเรื่องจริงนี่ หรือคุณอยากให้ผมทำตัวแบบพวกลักกินขโมยกิน ลักลอบมีความสัมพันธ์กับคุณ”

คุยไปคุยมาน้ำเสียงของเควินก็ชักจะเปลี่ยนไปเป็นน้อยใจ

‘ถนัดจริงนะไอ้เรื่องพลิกสถานการณ์จากผิดเป็นถูกเนี่ย’

“ฉันไม่เถียงคุณแล้ว เอาเป็นว่าช่วยบอกเมดด้วยก็แล้วกันนะคะว่าอย่ายุ่งกับพวกชุดชั้นในฉัน พวกนั้นฉันซักเองได้ แล้วก็ไม่ต้องส่งคนมาทำสปาให้บ่อยๆ ด้วย ฉันไม่ชอบนวดเท่าไร”

“ได้ครับผมแล้วแต่คุณผู้หญิงจะบัญชา” เควินยอมถอยโดยง่ายเพราะไม่อยากเสี่ยงทำให้เธอโมโห

แค่เรื่องที่เขาบอกให้เกลิคประกาศออกไปก็น่าจะมากพอแล้วที่จะปรามไม่ให้มีใครหน้าไหนมายุ่งกับผู้หญิงของเขา น้ำงามอาจจะไม่รู้ตัวแต่นอกจากเขาแล้วที่นี่มีคนหมายปองเธออยู่หลายคนทีเดียว บางรายเขียนจดหมายมาขอเดตด้วย แต่ของพวกนั้นไม่เคยส่งถึงเพราะเกลิคเป็นคนเก็บเอาไปทิ้งให้ ในฐานะพ่อบ้านที่รู้ใจเจ้านายเป็นอย่างดี

“พูดแล้วทำตามด้วยนะคะ ไม่อย่างนั้นฉันจะหนีคุณไปเที่ยวแล้วไม่กลับมาจริงๆ ด้วย”

“คุณจะไปไหน”

เควินรู้อยู่แล้วแต่ก็ยังแกล้งถาม

“เสาร์นี้ฉันมีนัดเดตกับหนุ่มหล่อค่ะ”

น้ำงามยั่วแต่เขาไม่ยักหึง ชายหนุ่มบอกว่าขอให้เดตให้สนุกโดยไม่ถามเลยสักนิดว่าไปไหนกับใคร แค่นี้ก็รู้แล้วว่าไม่มามิก็เกลิคคงมารายงานว่าเธอมีนัดออกไปข้างนอกกับพี่ชาย

น่านฟ้าติดต่อกลับมาหลังจากที่เงียบหายไปเกือบสามเดือน ชายหนุ่มบอกว่ากลับมาแล้ว ตอนนี้ได้งานใหม่อยู่ที่เคนทักกี้ ถ้าน้ำงามว่างก็ออกมาเจอกันหน่อย เขาจะเป็นฝ่ายมาหาเองเพราะคล่องเรื่องเส้นทางมากกว่า

น้ำงามดีใจมากที่พี่ชายย้ายมาอยู่รัฐติดกัน เธอขอแลกเวรเพื่อให้มีวัดหยุดตรงกับพี่ นัดแนะกันแล้วก็จัดการจองรถเพื่อขับออกมาเจอกัน หญิงสาวเฝ้ารอที่จะได้พบกับคนในครอบครัวโดยไม่รู้เลยว่างานใหม่ของพี่ชายกำลังนำพาปัญหามาให้เธอ


เดือนมีนาคมจัดได้ว่าเป็นตอนปลายของฤดูหนาว ถ้าเป็นแคลิฟอร์เนียป่านนี้อากาศคงเริ่มอุ่น บางวันอุณหภูมิจะอยู่ที่ 20 องศา เรียกว่าหนาวกำลังชื่นใจสำหรับน่านฟ้า ไม่เหมือนที่นี่ที่อุณหภูมิยังเป็นเลขตัวเดียวอยู่ มองไปทางไหนก็เห็นแต่หิมะขาวโพลน

‘เขาเกลียดหิมะ ถ้าเลือกได้ก็ไม่อยากจะมาทำงานในที่ห่วยแตกอย่างนี้เท่าไร’

ชายหนุ่มกดไฟแช็กเพื่อจุดบุหรี่ในมืออย่างหงุดหงิด ไม่ทันได้สูบก็โดนแย่งไป

“ไหนว่าเลิกได้แล้วไงพี่น่าน” น้ำงามมองตาเขียว

เธอไม่อยู่คุมความประพฤติไม่ทันไรก็กลับมาติดอีกแล้ว

“ขอโทษที ระยะนี้พี่เครียดก็เลยลืมตัว” ชายหนุ่มยกมือขึ้นไหว้แบบมือเดียว

น้องสาวผู้สุดแสนจะเข้มงวดจึงส่งสายตาไปให้ เป็นเชิงว่าให้ส่งบุหรี่ทั้งหมดที่มีในตัวมา น่านฟ้าเลยต้องจำใจส่งของกลางให้ทั้งซอง

“ไฟแช็กด้วยค่ะคุณพี่ชาย”

“เฮ้ย! ไม่ได้นี่ของแพง”

“แพงก็ดี ยึดไว้จะได้เข็ดไม่กล้าซื้อใหม่เอาไว้จุดบุหรี่สูบอีก”

“ไม่ใช้จุดบุหรี่ก็พกไว้เป็นอุปกรณ์ฉุกเฉินได้นี่ อย่างเอาไว้ก่อไฟ จุดเทียนไข อะไรแบบนี้”

ถึงจะฟังดูมีเหตุผลแต่น้ำงามก็ไม่ใจอ่อน สุดท้ายแล้วไฟแช็กราคาแพงก็โดนยึดไปจนได้ บ่งบอกว่าเจ้าตัวไม่กล้าหือกับน้องสาวสักเท่าไร ความที่อายุห่างกันแค่ปีเดียว สองพี่น้องเลยสนิทกันมาก เผลอๆ น้ำงามจะทำตัวเป็นผู้ใหญ่กว่าในหลายเรื่องด้วยซ้ำ

วันนี้สองพี่น้องนัดเจอกันที่ร้านกาแฟร้านใหญ่ในเมืองแฟร์แฟกซ์ น่านฟ้าเลือกมุมสูบบุหรี่ น้ำงามก็เลยจัดการให้พี่ชายย้ายสถานที่ก่อน จะได้ไม่สูดควันแล้วเกิดอาการอยากสูบขึ้นมาอีก

“ไม่ได้เจอกันนานสวยขึ้นเยอะเลยนะเรา”

“ขอบคุณค่ะพี่ชาย แต่ชมไปก็ไม่ได้ของคืนหรอกนะคะ”

“ว้า!...ดันรู้ทันอีก”

สองพี่น้องสบตากันแล้วหัวเราะร่วน ต่างฝ่ายต่างนึกขอบคุณบิดามารดาที่ยอมมีลูกหลายคน น่านฟ้ากับน้ำงามเลยได้รู้จักคำว่าพี่น้อง

“ตอนนี้พี่เป็นนักข่าวให้สำนักข่าวท้องถิ่น งานส่วนใหญ่ก็เขียนสคริปต์กับคอลัมน์เศรษฐกิจเหมือนเคย แล้วเราล่ะเป็นไงบ้าง”

“สบายดีค่ะ ที่จริงสบายเกินไปด้วย งานใหม่นี่วันๆ แทบจะไม่ได้ทำอะไรเลย น้ำหนักขึ้นมาตั้งเยอะ” น้ำงามเอามือตบท้องประกอบคำพูด

“แล้วได้ทำงานกับพวกคอนเนอร์คนไหนล่ะ”

น้ำงามไม่เคยบอกพี่ชายว่านายจ้างเธอเป็นใคร แต่ก็ไม่ได้นึกสงสัยเพราะคิดว่าพ่อกับแม่คงจะบอกพี่ ไม่อย่างนั้นคงจะติดต่อมาหาเธอไม่ได้

“ความลับค่ะ พูดไม่ได้ เดี๋ยวถูกไล่ออก” น้ำงามทำท่ารูดซิปปากก่อนจะจิบกาแฟ

“ถ้าเดาไม่ผิดต้องเป็นคนนั้นแน่ เควิน โคฮาคุ ใช่ไหม เจ้าของฉายาแวมไพร์”

น้ำงามเกือบจะสำลักกาแฟที่ดื่ม เธอจะประมาทพวกนักข่าวอย่างพี่ไม่ได้เลย

“ไม่รู้ค่ะ” หญิงสาวหันหน้าหนี

“อะไรกัน เดี๋ยวนี้หัดมีความลับกับพี่กับเชื้อนะเรา”

“เขาเรียกว่าจรรยาบรรณต่างหาก”

“เข้าใจแล้วครับคุณพยาบาลสาวแสนดี” น่านฟ้ารับคำแต่ก็ยังไม่วายตอดเล็กตอดน้อยถาม “เควินนี่หน้าตาเป็นยังไง หล่อมากไหม”

“หล่อค่ะ อ๊ะ! อย่ามาหลอกถามกันนะ” น้ำงามโวยวาย

“หลอกที่ไหน ก็แค่ชวนคุยเรื่อยเปื่อย คิดมากไปได้”

ไม่ว่าจะชวนคุยเรื่องอื่นอย่างไร น่านฟ้าก็มักจะวกกลับมาที่เรื่องเกี่ยวกับเควินเสมอ ในที่สุดน้ำงามก็จับได้ว่าพี่ชายสนใจในตัวนายจ้างของเธอผิดปกติ

“สารภาพมาเดี๋ยวนี้เลยว่าอยากได้เงินรางวัลใช่ไหม”

น้ำงามนึกขึ้นมาได้ว่ามีคนประกาศให้รางวัลอย่างงาม ถ้าสามารถนำรูปของเควินมาลงนิตยสารได้

“รู้เรื่องนี้ด้วยหรือเรา เก่งสมกับมีพี่เป็นนักข่าว ว่าไงสนใจร่วมมือกันไหมล่ะ เดี๋ยวจะหากล้องแบบพิเศษไปให้ ถ้าเอารูปมาได้พี่ช่วยขายเอง หักค่าดำเนินการแค่สามสิบเปอร์เซ็นต์เท่านั้น” น่านฟ้าพูดหน้าตาเฉย

“บ้า! ไม่มีทางเสียล่ะ เป็นตายร้ายดียังไงงามก็ไม่ขายใครกิน พี่น่านหยุดฝันกลางวันได้เลย”

เห็นน้องสาวทำท่าจะเคือง คนเป็นพี่เลยรีบขอโทษแล้วบอกไปว่าล้อเล่น

“ก็แค่อยากรู้อยากเห็นเท่านั้นเอง นิสัยนักข่าวนี่นา ไม่ว่าใครได้ทำงานสายเศรษฐกิจก็อยากจะเห็นหน้าแวมไพร์แห่งตระกูลคอนเนอร์เป็นบุญตาสักครั้งทั้งนั้น”

แก้ตัวเสร็จแล้วน่านฟ้าก็กล่อมให้น้องสาวเชื่อว่าเขาไม่ได้คิดเป็นจริงเป็นจังเรื่องรางวัล แค่รู้สึกสนใจความลึกลับของคนที่ได้ชื่อว่าเป็นตำนาน

น้ำงามเพิ่งมารู้ตอนนี้เองว่าเควินยังมีอีกฉายาหนึ่งคือ ‘จักรพรรดิเงาแห่งคอนเนอร์’ ว่ากันว่าเขาคือผู้ที่อยู่เบื้องหลังการจัดการทั้งหลายในบริษัท นอกจากนี้ยังมีอิทธิพลขนาดว่าสามารถเปลี่ยนกระแสเศรษฐกิจโลกได้เลย

สายตาของน่านฟ้าบ่งบอกว่าเขาเป็นคนที่เข้าถึงยากและยิ่งใหญ่มาก คู่รักที่ไม่สามารถเปิดเผยตัวได้อย่างน้ำงามก็เลยรู้สึกถึงความห่างของชนชั้นมากขึ้นไปอีก

คุยไปคุยมาน่านฟ้าก็อ้อนวอนขอให้น้องสาวช่วยสเก็ตช์ภาพเควินให้ น้ำงามปฏิเสธอย่างแข็งขันในทีแรก แต่ก็พ่ายกับแรงตื๊อในที่สุด น่านฟ้าบอกว่าแค่อยากเห็นรูปเป็นบุญตาเท่านั้น จะไม่เอาไปเผยแพร่ที่ไหนเด็ดขาด อีกอย่างรูปวาดไม่ใช่รูปถ่าย ถึงได้ไปก็เอาไปรับรางวัลไม่ได้อยู่ดี

น้ำงามใจอ่อนในที่สุด หญิงสาวยอมวาดภาพของเควินให้พี่ชายดู ส่วนหนึ่งที่ยอมตามใจพี่ทั้งที่รู้ว่าผิดเพราะอยากให้พี่ได้เห็นใบหน้าของคนที่กำลังคบหาอยู่ ปกติเธอกับพี่แทบจะไม่เคยมีความลับต่อกัน พอพูดอะไรมากไม่ได้เลยรู้สึกอึดอัดใจอยู่ลึกๆ

หญิงสาวจัดการฉีกกระดาษหน้าที่มีรูปวาดของเควินออก ทันทีที่พี่ชายดูเสร็จ เธอฉีกมันเป็นชิ้นๆ แล้วจัดการเอามาเผาทำลายด้านนอก

น้ำงามเป็นคนกำจัดหลักฐานด้วยมือของตัวเอง ทั้งยังไว้ใจพี่ชายเป็นอย่างมาก จึงคิดว่าการกระทำของตัวเองไม่ใช่เรื่องใหญ่ ไม่นานก็ลืมเหตุการณ์ในวันนี้ไปอย่างรวดเร็ว กว่าจะรู้ตัวว่าทำพลาดไปก็สายไปเสียแล้ว

จริงอยู่ที่น่านฟ้าทำเพียงแค่มองภาพเหมือนนั้น เขาไม่มีหัวศิลป์ขนาดจะวาดเลียนแบบน้องสาวได้ แต่ก็ฉลาดพอที่จะใช้ลูกเล่น ชายหนุ่มติดกล้องเอาไว้ที่อกเสื้อ ถึงมันจะเล็กจิ๋วแต่ก็มีประสิทธิภาพพอจะเก็บภาพทุกอย่างได้อย่างคมชัด โดนเฉพาะภาพเหมือนของเควิน


โทรศัพท์สายตรงจากเจ้าของคฤหาสน์ ถูกต่อไปยังห้องหัวหน้าแม่บ้านในตอนค่ำ มามิรีบรับสายเจ้านายในทันที แล้วก็ได้ยินเสียงสั่งรัวๆ ดังมา

“มามิเอาไอ้นั่นออกมาหน่อย ชุดที่แม่เคยใส่ไปชมดอกไม้กับพ่อน่ะ”

“คุณหนูจะเอาไปทำไมคะ” มามิถามด้วยความฉงน

“เอาให้น้ำงามใส่ ปลายเดือนมีนาแบบนี้คนญี่ปุ่นเขาชอบไปชมดอกซากุระกันไม่ใช่เหรอ”

วันนี้เควินค้นอัลบัมรูปเก่าๆ แล้วบังเอิญไปเจอรูปถ่ายของพ่อกับแม่เข้า เลยนึกถึงกิโมโนของแม่ขึ้นมาได้ แม่มีกิโมโนอยู่เป็นจำนวนมาก ครึ่งหนึ่งพ่อเป็นคนเก็บรักษาเอาไว้ ส่วนอีกครึ่งตกเป็นของเขา ชายหนุ่มมีของต่างหน้าของมารดาอยู่เป็นจำนวนมากอยู่แล้ว ก็เลยให้มามิเป็นคนเก็บรักษากิโมโนราคาแพงพวกนี้แทนตน เขาไม่ว่าหากเธอจะหยิบมาใส่ แต่มามิก็ไม่เคยอาจเอื้อมใช้ของที่เป็นของคุณพี่เลย

“จะดีหรือคะคุณหนู นี่เป็นของสำคัญของคุณผู้หญิงนะคะ”

ในบรรดาชุดทั้งหมด ชุดที่ใส่ไปชมดอกไม้กับสามีเป็นชุดโปรดของคุณพี่เลยทีเดียว

“ดีสิ แม่คงดีใจถ้ามีคนหยิบเอามาใส่”

เควินเข้าใจอุปนิสัยของมารดาดีทีเดียว อายากะไม่เคยยึดติดกับพวกทรัพย์สินเงินทอง ถ้าไม่ใช่ของที่มีคุณค่าทางจิตใจ เธอก็ไม่เคยหวงแหนมันเลยเพราะมองเป็นของนอกกาย

แม้จะรู้ความจริงข้อนี้เป็นอย่างดี มามิก็ยังลังเลที่จะให้น้ำงามสวมใส่ของสำคัญ คุณหนูโคฮาคุหลงใหลหญิงสาวมากก็จริง แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าระดับคะแนนพิศวาสที่มามิมีให้น้ำงามจะเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย

ถ้าลองถามอายากะว่าเธอพอใจหรือไม่ หากได้น้ำงามมาเป็นลูกสะใภ้ คุณพี่คงแค่ยิ้มแล้วไม่ว่าอะไรเหมือนเคย แต่สำหรับมามิแล้วคงตอบว่าต้องดูกันอีกยาว ใจคนนั้นยากแท้หยั่งถึง ถ้าเป็นไปได้เธอก็อยากจะปกป้องคุณหนูโคฮาคุให้ถึงที่สุด รวมไปจนถึงสมบัติของคุณหนูด้วย

“ดิฉันเพิ่งนึกได้ค่ะว่าชุดนั้นเหมือนจะชำรุด จะรีบใช้ไหมคะ ดิฉันจะได้เร่งส่งซ่อมให้ แต่คงต้องใช้เวลาสักระยะ” มามิปั้นเรื่องโกหก

“เอาตัวอื่นก็ได้ กิโมโนสีขาวที่มีลายดอกไม้สีฟ้ายังอยู่ดีไหม”

เควินเลือกตัวใหม่โดยการพลิกอัลบั้มภาพดู

‘นี่ก็ของสำคัญอีกเหมือนกัน’

มามิไม่รู้จะเคืองหรือจะชื่นชมรสนิยมของคุณหนูโคฮาคุของเธอดี กิโมโนที่เธอเก็บรักษาเอาไว้มีกว่าครึ่งร้อย แต่ของที่เห็นว่าสำคัญมีแค่สามชิ้น แล้วเควินก็จงใจเลือกออกมาเสียสองในสาม

กิโมโนผืนที่สองนี้ลวดลายในผ้าได้จิตรกรชื่อดังเป็นคนวาดให้ สถานะของเขาเป็นเสมือนญาติและอาจารย์ของคุณพี่อายากะ เมื่อรู้ว่าต้องจากกันไกลก็เลยมอบผลงานชิ้นสำคัญให้ไว้เป็นที่ระลึก คุณพี่เก็บรักษามันเอาไว้เป็นอย่างดีทีเดียว ทั้งชีวิตเคยหยิบมาสวมแค่สองครั้งเท่านั้น

ครั้นจะอ้างว่าเสียหายอีกก็ทำไม่ได้ มามิเลยต้องฝืนตอบรับว่ามันยังอยู่ดี

“ชิ้นนั้นลายไม่แก่ไปสักหน่อยหรือคะ”

“ผมว่าสวยดีออก เอาตัวนี้แหละ แม่ก็ใส่ตอนที่อายุพอๆ กับน้ำงามไม่ใช่หรือไง ไปแต่งตัวให้เธอแล้วพามาหาผมที่ห้องชั้นสามตอนเที่ยงคืนนะ” เควินตัดสายเมื่อสั่งงานเสร็จ

มามิจำเป็นต้องทำตามคำสั่งของเจ้านายอย่างเลี่ยงไม่ได้ เธอลงไปที่ห้องชั้นหนึ่งแล้วไขประตูห้องเก็บกิโมโนออก คนที่ยังจงรักภักดีต่อเจ้านายเก่าไล้มือไปบนกิโมโนตัวสวยด้วยสายตาครุ่นคิด

“ขอโทษนะคะคุณพี่ มามิขัดคำสั่งคุณหนูไม่ได้จริงๆ” มามิพึมพำก่อนจะกอดมันเอาไว้แนบอก


+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

สวัสดีท้ายตอนค่ะ เอาตอนนี้มาลงพร้อมกับแจ้งข่าวดี นิยายเรื่องนี้ผ่านการพิจารณาของสำนักพิมพ์ไลต์ออฟเลิฟแล้วนะคะ เย่!! มาสเตอร์เคได้เป็นเล่มแล้ว แต่จะออกเมื่อไรตอนไหนจะแจ้งให้ทราบกันอีกครั้งค่ะ

สำหรับการลงอ่านให้อ่านตอนหน้าก็จะครบ 70 % ตามที่แจ้งไว้พอดี ขอบคุณสำหรับการติดตามนะคะ ตอนนี้กำลังจะเขียนภาคสอง อยากอ่านเรื่องของใครก่อนโหวตได้ค่ะ ตอนนี้เหลืออีก 3 หนุ่มกับ 1 สาว

ผู้เข้าประกวดหมายเลขหนึ่ง

ฟินิกซ์ (ฟินน์)

เพลย์บอยเจ้าเสน่ห์ ผู้สดใสเจิดจ้าราวกับเทพอพอลโล่ เขารักอิสระ เกลียดพันธะ สาวสวยสำหรับเขาคือของเล่น ส่วนคนขี้เหร่แต่มีสมองเอาไว้ช่วยทำงาน แล้วถ้าทั้งสวยและมีสมองล่ะทำยังไง? อย่าหวังเลยว่าจะชายตามอง นั่นน่ะตัวอันตรายชัดๆ

ผู้เข้าประกวดหมายเลขสอง

มังกรน้ำแข็ง (ดีแลน มาร์ส)

ชายหนุ่มผู้งามสง่าราวประติมากรรม เขาเงียบขรึมเย็นชาจนดูเหมือนไร้หัวใจ แต่เพื่อความรักแล้วผู้ชายคนนี้พร้อมจะเปลี่ยนเป็นเพลิงกัลป์ เพื่อแผดเผาอุปสรรคตรงหน้าให้มอดไหม้

ผู้เข้าประกวดหมายเลขสาม

ไลแคนท์ (เจคอบ)

สายเลือดนอกคอกของตระกูลคอนเนอร์ เจ้าของคาสิโนและธุรกิจด้านมืดหลากหลายคนว่าเขาเป็นอสูรร้าย แต่ภายในใจอสูรตนนี้กลับเต็มไปด้วยความอ้างว้าง ที่หยั่งรากลึกสุดจะหยั่ง

ผู้เข้าประกวดหมายเลขสี่

คราเครน (ซีรีน)

หญิงสาวหนึ่งเดียวในห้าอสูร เจ้าหล่อนงดงาม เก่งกาจ ฉลาดเฉลียว สิ่งที่คำนึงถึงมีเพียงอำนาจและเงินตราเท่านั้นความรักน่ะหรือ? อารมณ์ไร้ประโยชน์แบบนั้นโยนทิ้งมันไปได้เลย

ตอนนี้ยังไม่ได้เปิดตัวใครทุกคนเลยโฟกัสไปที่ฟินน์ แต่ของโฆษณาตรงนี้เลยว่าหนุ่มมังกรน้ำแข็งกับหนุ่มไลแคนท์ของเราก็แซ่บเวอร์นะฮ้า พิจารณาให้รอบคอบก่อนตัดสินใจนะจ๊ะ

แล้วพบกันตอนหน้าค่ะ ^O^



นิชาภา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 27 พ.ค. 2557, 12:48:15 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 27 พ.ค. 2557, 13:16:23 น.

จำนวนการเข้าชม : 1878





<< บทที่ 11 วันครบรอบ   บทที่ 13 กิโมโน >>
คิมหันตุ์ 27 พ.ค. 2557, 15:02:15 น.
อัลไรน้าาาาาตอนหน้าครบ 70% แล้วหรึนี่!!!!!!
ไวมากกกก ลุ้น ซีรีน ค่ะ ชอบผู้หญิง สวย เก่ง อิอิ


ไม้เอก 27 พ.ค. 2557, 18:25:31 น.
โหวตผู้เข้าประกวดหมายเลข 2 มังกรน้ำแข็ง คร้าาา ^^


goldensun 27 พ.ค. 2557, 19:03:11 น.
ตอนหน้าตอนสุดท้ายแล้วหรือคะ!!!!!!! ไม่อยากเลย กำลังสนุก อยากรู้ว่า เควินจะเข้าใจน้ำงามผิดรึเปล่า กับรูปที่พี่ชายน้ำงามได้ไป รอติดตามต่อค่ะ
เลือกฟินน์ค่ะ ดูขี้แกล้งเควินดี


ใบบัวน่ารัก 27 พ.ค. 2557, 19:34:53 น.
เป็นพี่น้องกันจริงหรือ
หาแต่เรื่องมาให้
ไม่จำเลยนะว่ามาอยู่กะแวมไพร์ได้อย่างไง


Zephyr 27 พ.ค. 2557, 22:09:29 น.
อิยะ จะครบแว้ว
อยากตีก้นมาสเตอร์เค 555 อารมณ์ไหนไม่รุ
โหวตสุดที่ร้ากกกกกกก ขาดใจ ดีแลนๆๆๆๆๆๆ


ribbin 28 พ.ค. 2557, 10:33:18 น.
จะออกเป็นเล่มเมื่อไรค้า รอสอยอยู่ค้า
อย่าให้รอนานเน้อ


นักอ่านเหนียวหนึบ 28 พ.ค. 2557, 23:28:05 น.
อร๊ายยยย ดีใจกะไรเตอร์ด้วยค่า
จะจบลงแล้ว แวมไพรม์สุดหล่ออออ
ต่อไปขอ เจ้าชายน้ำแข็งได้มิเคอะ เค้าอยากเห็นต้อนร้อนๆ ของฮี ฮิ้วๆๆๆๆๆ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account