ภารกิจปราบพยศ (ชุดหน่วยซีล เล่ม 2)
ผู้หญิงที่จะมาเคียงข้างเขา ไม่จำเป็นต้องเป็นหญิงเก่งกาจมาจากไหน ไม่ต้องสวยมาก ไม่ต้องร่ำรวยหรือมีหน้ามีตาในสังคม สิ่งต่างๆ เหล่านั้นล้วนไม่สำคัญกับเขาเท่ากับ...
นม!
"บอกไว้เลย ฉันไม่ชอบผู้หญิงนมแบน!"

.............................................................................

หลังจากที่ได้เอกสารลึกลับจากผู้ที่ใช้ชื่อสั้นๆ ว่า 'Ang'
องค์กรก่อการร้ายลึกลับที่ใช้ชื่อว่า 'โครนอส' จึงถูกเปิดโปง
เรดทีมและซิลเวอร์ทีมของซีลทีมซิกซ์จึงต้องทำงานกวาดล้างกลุ่มคนอันตรายนี้อย่างหนัก รวมทั้งการตามล่าหาตัว 'Ang' ด้วย
เพราะมั่นใจว่าเขาหรือเธอคนนั้นจะต้องตกอยู่ในอันตรายใหญ่หลวงแน่นอน

แต่แล้วในวันที่ได้หยุดพักหลังภารกิจอันแสนยาวนาน
เจสัน ฟอสเตอร์ แห่งหน่วยซีลรู้สึกว่าตัวเองดวงตกสุดขีด ที่มาขับรถชนผู้หญิงคนหนึ่ง
ยายตัวสูงเก้งก้าง ทาปากแดงแจ๋ แต่งตัวโอเวอร์แบรนด์เนม
แถมยายผู้หญิงสติแตกคนนี้กลับจำความไม่ได้เลย พูดแต่ว่ากำลังโดนตามฆ่า
หลักฐานใดๆ ก็หายไปหมดแล้ว
สวย...ก็สวยอยู่หรอกนะ แต่สเปคเขาต้องสาวตัวเล็กๆ น่ารัก ไม่ใช่เสาไฟฟ้าบ้าพลังอย่างยายนี่
เจสันกำลังจะส่งยายคนสติแตกนี่ให้เอฟบีไอแท้ๆ แต่แล้วก็พบว่าเธอไม่ได้บ้าอย่างที่เข้าใจ
แต่เธอโดนตามล่าจริงๆ!!!
หรือว่าเธอจะคือ 'Ang' พยานบุคคลสำคัญที่พวกเขากำลังตามหา!!!


Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: บทที่ 1 ชีวิตที่พลิกผัน 50%





บทที่ 1 ชีวิตที่พลิกผัน



หลายสัปดาห์ก่อนหน้านั้น


‘จะมีวันไหนบ้างไหมนะที่นิวยอร์กจะไม่วุ่นวาย’ หนึ่งเสียงเล็กโอดครวญอยู่ในใจ ขณะที่เจ้าตัวกำลังฝ่าด่านผู้คนที่แสนพลุกพล่านรีบเข้ามายังตึกสำนักงานใหญ่ของยูเอ็น สถานที่ทำงานของเธอ หญิงสาวทำงานในฐานะล่ามและนักแปลเอกสาร พวกเจ้าหน้าที่ชั้นผู้ใหญ่บอกว่าส่วนมากจะมีคนไปสอดส่องเด็กระดับหัวกระทิตั้งแต่สมัยไฮสกูล และเธอเองก็อยู่ในเป้าหมายของพวกนั้น เหตุเพราะเธอสามารถสื่อสารได้มากกว่าห้าภาษา ทั้งอ่านเขียนฟังไม่ผิดพลาดเลยแม้แต่นิดเดียว หนำซ้ำระดับการเรียนยังเข้าขั้นอัจฉริยะอีกด้วย พอเรียนจบ เขาก็เรียกตัวมาทำงานที่นี่ทันที


จากวันนั้นจนถึงวันนี้ก็กินเวลาหลายปีแล้วที่ อังควิภา ลอว์เรนซ์ หญิงสาวลูกครึ่งอเมริกัน-ไทยทำงานอยู่ที่นี่ ปัจจุบันเธออายุ 26 ปี เป็นนักแปลและล่ามคนสำคัญที่มักถูกเรียกใช้อยู่บ่อยๆ เงินเดือนของหญิงสาวจึงสูงลิบลิ่ว ชีวิตการเป็นอยู่ของเธอจึงสุขสบายไปด้วย เธอมักแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าแบรนด์ดัง เครื่องสำอางเนื้อดีดี ด้วยรูปร่างสูงโปร่งแบบบาง และเครื่องหน้าที่ค่อนไปทางแม่ของเธอซึ่งเป็นคนเอเชียทำให้หญิงสาวดูสวยโฉบเฉี่ยวดุจนางพญา เธอมักจะแต่งหน้าอ่อนๆ แต่กลับทาลิปติกสีแดงสดตลอดเวลาจนเป็นที่ชินตาของผู้คน ถ้าไม่ใช่ริมฝีปากแดงสดเหมือนสีเลือดนกแล้วล่ะก็...ต้องเป็นอังควิภาตัวปลอมแน่นอน


‘วันนี้หัวหน้าให้เธอออกนอกสถานที่ด้วยนะแอง อย่าสายล่ะ’ เสียงของเลขาฝ่ายเอกสารดังหลอกหลอนในหัวของเธอตลอดเวลา อังควิภาเร่งฝีเท้าจนกระทั่งอีกไม่กี่บล็อกก็ถึงทางเข้าเขตสำนักงานใหญ่ของยูเอ็นแล้ว ทว่าเมื่อตอนที่รอรถคันหนึ่งที่ตัดหน้าไป เธอกลับเห็นสิ่งผิดปกติบางอย่าง


กระจกรถยนต์คันนั้นทำให้เธอมองเห็นผู้ชายคนหนึ่งที่เธอจำได้ว่าเห็นเขาเดินตามเธอมาตั้งแต่ตอนขึ้นรถไฟใต้ดินจากที่พักมาแล้ว และตอนนี้ก็ยังตามหลังเธออยู่ด้วย


หรือว่าจะหลงเสน่ห์...

สาวสวยฉีกยิ้มมั่นใจ แล้วจึงสะบัดผมสีน้ำตาลยาวถึงกลางหลังใส่แล้วเดินจากไปอย่างมาดมั่น กระทั่งมาถึงสำนักงานใหญ่ของยูเอ็น


“หัวหน้าให้เธอตามไปด้วยนะ วันนี้มีออกนอกสถานที่” ทันทีที่ไปถึงโต๊ะทำงาน เพื่อนโต๊ะข้างๆ ก็ส่งเสียงพร้อมทั้งยื่นเอกสารให้


“ทำไมเมื่อวานไม่เห็นหัวหน้าพูดอะไรเลย”

“ฉันจะรู้เหรอ เธอรีบไปหาหัวหน้าเถอะ เขาจะให้เธอออกไปพร้อมเขาเลย”


“ได้สิ ขอบใจมาก” ร่างเพรียวระหงคว้าเอกสารปึกใหญ่แล้วหมุนตัวเดินออกไปทันที อังควิภาก้าวเท้าฉับๆ แต่ละก้าวบ่งบอกถึงความมั่นใจเต็มเปี่ยม กระทั่งมาถึงห้องทำงานหัวหน้าของเธอ


“ได้ข่าวว่าวันนี้ต้องออกนอกสถานที่หรือคะหัวหน้า”

“ใช่แล้วมิสลอว์เลนซ์ ออกไปเดี๋ยวนี้เลย”

“พอจะบอกได้ไหมคะว่าไปไหน”

“สถานทูตของประเทศแห่งหนึ่งที่ตั้งอยู่ทางยุโรปตะวันออกน่ะ” เขาหลีกเลี่ยงที่จะพูดชื่อประเทศออกมาตรงๆ “รู้ใช่ไหมว่าตั้งแต่รัฐประหาร เรามีเรื่องต้องจัดการนิดหน่อย เขาต้องการคนที่คล่องภาษารัสเซียด้วย และเธอก็เป็นคนที่เก่งที่สุดของเรา”

คนถูกชมยืดตัวขึ้นทันที รอยยิ้มภูมิใจปรากฏขึ้นบนใบหน้าสวยโฉบเฉี่ยวของเจ้าหล่อน แล้วพยักหน้าน้อยๆ ราวกับจะถ่อมตน ทั้งที่ความจริงแล้วเธอแทบจะลอยได้ไปกับคำชมของหัวหน้า


“ถ้าอย่างนั้นก็ไปกันเถอะค่ะ”

“นี่เอกสารข้อมูลเรื่องที่เราจะต้องคุยกัน ทั้งด้านการทหารและการต่างประเทศของอียิปต์ อ่านไปบนรถก็ได้”

“ค่ะหัวหน้า” อังควิภากรีดกรายขึ้นรถลีมูซีนของหัวหน้าไป ระหว่างทางจากสำนักงานใหญ่ยูเอ็นไปยังสถานทูตดังกล่าวใช้เวลาพอสมควร ดังนั้นหญิงสาวจึงถือโอกาสนั่งอ่านเอกสารเรื่องที่จะต้องไปคุยงานไว้ด้วย อย่างน้อยก็จะได้รู้แนวทางว่าจะมีเรื่องอะไรบ้างสำหรับวันนี้


ข้อมูลของประเทศนี้ก็อย่างที่ทราบกันตามหน้าข่าวทั่วไป เกิดการรัฐประหาร ประชาชนบางส่วนอยากจะรวมดินแดนแห่งนี้เข้ากับอีกประเทศ แน่นอนว่าองค์การสหประชาชาติของเธอต้องยื่นมือเข้าไปช่วยอยู่แล้ว ดังนั้นจะต้องมีการปรึกษาหารือกันก่อนเล็กน้อย


อังควิภานั่งอ่านเอกสารไปเพลินๆ จู่ๆ ลีมูซีนก็เบรกกะทันหัน พร้อมกับเสียงสาดกระสุนใส่เข้ามายังรถที่เธอนั่งไม่ว่างเว้น


“ก้มหัวลง คุ้มครองท่านเลขา!” หนึ่งในบอดีการ์ดตะคอกเสียงดัง แล้วคุ้มกันท่านเลขาไปยังที่ปลอดภัย


แล้วเธอล่ะ!

อังควิภาได้แต่เข่นเขี้ยว เธออยากจะบ้าตายเสียให้ได้ ตอนนี้พวกบอดีการ์ดช่วยท่านเลขาไปแล้ว แต่ทิ้งเธอไว้แทนนี่นะ ขอสาปส่งให้พวกนี้ไปลงนรกกันให้หมด คิดอย่างไรถึงทิ้งเธอไว้ตรงนี้ได้ แต่ก็ช่างเถอะ อังควิภา ลอว์เลนซ์เสียอย่าง เธอเอาตัวรอดได้เสมอ


หญิงสาวออกจากรถที่ใช้เป็นที่กำบังแล้วรีบวิ่งเข้าไปปะปนกับฝูงชน เดินตัวลีบไปตามตัวตึกแล้วสาวเท้าหมายจะกลับไปยังสำนักงานยูเอ็น เธอมั่นใจว่าที่นั่นจะต้องปลอดภัยแน่นอน ทว่ายังเดินไปไม่ทันถึงไหน เธอก็กลับรู้สึกได้ว่ามึคีคนติดตามเธอตลอดเวลา


หญิงสาวหันขวับ ด้านหลังมีเจ้าหน้าที่และผู้คนมากมายกำลังสนใจเรื่องที่เกิดเมื่อครู่ รวมทั้งพวกนักข่าวก็ด้วย ทุกคนต่างก็มาถึงที่เกิดเหตุกันหมดแล้ว แต่ไม่ว่าจะมีผู้คนมากมายเท่าไหร่ กี่ร้อยกี่พันคนบริเวณนั้น ทว่ากลับมีหนึ่งคนที่เธอจำได้ดี


ผู้ชายแจกเกตดำที่ตามเธอมาตั้งแต่ออกจากบ้านนี่นา!


ไม่มีทางที่เขาจะ ‘บังเอิญ’ ตามเธอมาถึงที่นี่แน่นอน หรือว่าผู้ชายคนนี้...


อังควิภาใจหายวาบ ผู้ชายคนนี้ตามเธอมาอย่างนั้นหรือ แสดงว่าเมื่อครู่นี้ไม่ได้มีใครมุ่งหมายชีวิตท่านเลขาแต่อย่างใด แต่เขาหวังชีวิตนักแปลเล็กๆ อย่างเธอต่างหาก!


“ฉันไปทำอะไรให้ใครเมื่อไหร่เนี่ย” หญิงสาวโอดครวญ แล้วรีบสาวเท้าเร็วๆ กึ่งเดินกึ่งวิ่งไปขึ้นรถไฟใต้ดินสถานีที่ใกล้ที่สุดทันที ระหว่างทางก็หันกลับมามองข้างหลังเป็นระยะๆ ก็พบว่าผู้ชายแจกเกตดำคนนั้นยังตามเธออยู่เลย นั่นก็ยิ่งทำให้หญิงสาวหวาดกลัวจนตัวสั่น


ขึ้นรถไฟใต้ดินมาได้แล้ว อังควิภาก็รีบเดินไปยังตู้ที่มีคนเยอะที่สุดทันที สายตายังมองหาผู้ชายคนนั้นว่าเขายังตามเธอมาอยู่หรือไม่ แล้วก็โล่งใจไปได้เปลาะหนึ่ง เพราะตอนนี้ไม่เห็นเขาแล้ว เธอจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นแล้วโทรไปหาเพื่อนสนิทของตัวเอง


“รับสายฉันหน่อยสิโรส” เธอพยายามต่อสายครั้งแล้วครั้งเล่าแต่ก็ยังเหมือนเดิม ปลายสายไม่ตอบรับเธอเลย แต่หญิงสาวก็ไม่อาจรอคอยอะไรได้อีกแล้ว เธอสาวเท้าเร็วๆ ลงจากรถไฟใต้ดิน แต่แล้วก็กลับถูกใครบางคนจับต้นแขนไว้แล้วกระชากรวดเดียวเข้าไปในห้องเก็บของทันที


ผู้ชายแจกเกตดำ!

อังควิภากลัวจนตัวสั่น เธอพยายามอ้าปากร้องแต่กลับไม่มีเสียงเล็ดลอดออกมาได้เลย ร่างแบบบางสั่นสะท้าน มองผู้ชายตรงหน้าด้วยความหวาดหวั่น


“สภาสิบสองอยู่ที่ไหน!” ชายชุดดำคำรามใส่ จนหญิงสาวเบ้หน้า นี่เขาพูดเรื่องบ้าบออะไรกัน เธอไม่รู้จักสภาสิบสองบ้าบออะไรทั้งนั้นแหละ รู้จักแต่สภาคองเกรสเท่านั้นแหละ


“ตอบมา ว่าสภาสิบสองอยู่ที่ไหน!” คราวนี้ไม่พูดเปล่า ชายแจกเกตดำกดปลายมีดลงกับหน้าท้องแบนราบของเธอ จนอังควิภาทนไม่ไหว เธอร้องออกมาอย่างเสียขวัญ


“ฉันไม่รู้ว่าแกพูดถึงอะไร”

“อย่ามาไขสือ บอกมาว่ามันอยู่ที่ไหน”

“ฉันไม่รู้!” ให้ไปสาบานที่ไหนก็ได้ เธอไม่รู้จักสิ่งที่เขาพูดเลย แต่ชายแจกเกตดำกลับไม่เชื่อในสิ่งที่เธอพูดเลยแม้แต่น้อย ทั้งยังอกปลายมีดลงไปอีก


“สาบานได้เลยคนสวย ถ้าเธอไม่ยอมบอกฉันแล้วล่ะก็ คอสวยๆ ของเธอจะไม่มีอยู่กับตัวอีกต่อไป”


กลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งไปทั้งห้องเก็บของเล็กๆ ยิ่งทำให้อังควิภาหวาดกลัวหนักกว่าเก่า เธอรู้ดีว่าการทำงานให้ยูเอ็นมีความเสี่ยงอยู่บ้าง แต่ทำงานมาตั้งหลายปีก็ยังไม่เคยสัมผัสกับตัวสักครั้ง ที่สำคัญคือเธอไม่รู้ว่าเธอไปทำอะไรให้ใครตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วจะตอบได้อย่างไรว่าสิบสองสภาหรือสภาสอบสองที่เขาต้องการคืออะไร


“ไม่จบแน่นอนใช่ไหม ได้...ฉันยังมีวิธีทรมานเชลยอีกเยอะ รับรองว่าเธอไม่ได้กลับบ้านของเธอแน่นอน...จะพูดได้หรือยังว่าสภาสิบสองอยู่ที่ไหน!”


“ฉันไม่รู้” หญิงสาวร่างบางยังยืนยันคำตอบเดิม แล้วก็ต้องกรีดร้องจนสุดเสียงเมื่อชายแจกเกตดำยกมีดในมือขึ้นจ่อเข้ากับลำคอของเธอจนได้เลือด


“ถ้าอย่างนั้นเรามาเล่นกับความกลัวของเธอหน่อยดีกว่า”

...................................................................


United Nations องค์การสหประชาชาติ สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในนิวยอร์ก

......................................................
มาอัพตอนแรกแล้วค่าาาาาาาาา เปิดตัวนางเอกผู้น่าสงสาร

ชี้แจงนะคะว่าเรื่องนี้ยังเขียนไม่เสร็จ เขียนไปอัพไป ดังนั้นอาจจะช้ามาก ต้องอ่านกลรักนฤมิตก่อนนะคะแล้วจะรู้ว่าอะไรเป็นอะไร นางเอกของเรื่องนี้สำคัญยังไง อยู่ในเล่มกลรักนฤมิตหมดเลย

ส่วนคนที่สั่งพี่เจ.ที (กลรักนฤมิต) ไว้ ตูนสั่งหนังสือไปกับสนพ.แล้วนะคะแต่ว่ายังมาไม่ถึงเลย ใจเย็นๆ นิดนึงน้าาาาาาาาาาาา

อนุญาตให้ตามจิกตามทวง ทวงๆๆ เข้าไปตูนจะได้เขียนเสร็จไวๆ อ่านแล้วคอมเม้นต์กันด้วยนะ ไม่งั้นจะไม่ลงให้อ่าน รอเล่มอย่างเดียว โฮะๆๆ

รักคนอ่านเสมอมาค่ะ

กรรัมภา (กนิษวิญา)












กนิษวิญากรรัมภา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 11 มิ.ย. 2557, 20:54:15 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 11 มิ.ย. 2557, 20:54:15 น.

จำนวนการเข้าชม : 1577





<< บทนำ+แนะนำหนุ่มๆ ในเรื่อง + คุยกันก่อนอ่าน   บทที่ 1 ชีวิตที่พลิกผัน 100% >>
แว่นใส 11 มิ.ย. 2557, 21:12:10 น.
น่าติดตาม ลุ้นระทึกมาก


pkka 11 มิ.ย. 2557, 22:00:46 น.
รอหนังสือจะไปซื้อ^^


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account