บ่วงรักนายพราน
เรื่องชุลมุน ซุ่มซ่าม เข้าใจผิดของธีรดากับจอมวายร้ายปารินทร์ เจ้าของคำจำกัดความ หล่อ สปอร์ต ใจดี รักหมา(ไม่น่ารอด) 'หากใครจะคิดว่าผมกำลังคบกับใคร ผมอยากให้ใครต่อใครคิดว่าผมคบกับคุณ'

การรู้สึกว่า 'ใช่' กับใครสักคนไม่ใช่เรื่องที่เกิดขึ้นได้ทุกวัน ปารินทร์รู้สึกว่าธีรดา 'ใช่' สำหรับเขา แต่กลับพบในภายหลังว่าเธออาจเป็นผู้หญิงที่เข้ามาทำลายความรักของน้องสาว การเอาคืนในแบบชิงไหวชิงพริบที่ใช้ธุรกิจบังหน้าทั้งที่เป็นเรื่องของหัวใจล้วนๆ จึงเกิดขึ้น
Tags: ความรัก ภาคต่อ หวานรักพยัคฆ์ร้าย

ตอน: ตอนที่ 13

ตอนที่ 13

มือบางชักหนี แต่ไม่สำเร็จเมื่อปารินทร์ไม่ยอมปล่อยมือของเธอง่ายๆ เขานึกไว้อยู่แล้วว่าเธอจะต้องโมโหใส่ ธีรดาทำหน้ามุ่ยแจกค้อนให้อีกที มันน่าชกแถมด้วย แต่ทำไม่ได้ เดี๋ยวงานพัง
“ฉันเคยเป็นแฟนกับพี่ปุ๊ ตั้งแต่ตอนเรียนมหา’ลัย จากตอนนั้นมาตอนนี้ก็ 8 ปีแล้ว เพราะฉะนั้นคงไม่แปลกที่ฉันจะรู้จักแม่ของพี่ปุ๊ คืนนั้นฉันช่วยคุณป้าพาพี่ปุ๊ขึ้นนอนเพราะเขาเมามาก หลังจากนั้นฉันก็นั่งคุยกับท่าน แปลกดีเหมือนกันถึงจะไม่ได้พบกันนานแล้ว พอได้คุยกันเลยคุยยาวกว่าฉันจะขอตัวกลับ เรื่องมันก็มีเท่านี้แหละ ฝากบอกน้องสาวคุณด้วยถ้าฉันอยากคืนดีกับพี่ปุ๊คงไม่รอมาจนป่านนี้หรอกย่ะ” ธีรดาเสียงสั่นด้วยความโมโห ถ้าเขาถามเธอคงบอกไปนานแล้ว
ปารินทร์ยิ้มกว้างไม่สนใจสายตาขวางๆ ที่มองมา เขาสบายใจ มีความสุขและรู้สึกว่าเธอสวยขึ้นภายในพริบตา เขานึกถึงผู้หญิงบ้าบิ่นที่กล้าวิ่งไปกลางถนนเพื่อช่วยหมาแค่ตัวเดียว เธอดีงามมาตั้งแต่ครั้งแรกที่พบกันจนกระทั่งนาทีนี้
“ถ้างั้นคุณต้องช่วยผมตามหากิ๊กของปุราณ”
“เพื่ออะไร ฉันไม่ได้อยากได้พี่ปุ๊มาตั้งแต่แรกสักหน่อย” ธีรดาโวยวายลั่นพยายามดึงมือออก แต่เขายังไม่ยอมปล่อย เมื่อทำอะไรไม่ได้ก็เลยถอนใจฮึดฮัดด้วยความขัดใจ ทำไมเธอต้องไปช่วยน้องสาวมือน้ำเดือดของเขาด้วย
“ก็เพื่อธุรกิจของธารธีรากับพาราลิสต์น่ะสิ ถ้าคุณตกลงผมจะลืมเรื่องรายงานที่ผมยังไม่ได้รับ แล้วเรามาตั้งหน้าตั้งตาทำมาหากินกันต่อ” ปารินทร์แกล้งพูดเป็นการเป็นงาน
ธีรดาขมวดคิ้วคิดหนักเลยไม่ทันเห็นสายตาอบอุ่นและห่วงใยของปารินทร์ที่มองเธออยู่ตลอดเวลา ถ้าเธอไม่ทำตามข้อตกลงนี้ไม้ล็อตสามก็ถูกระงับเหมือนกับไม้ล็อตต่อๆ ไปน่ะสิ แต่ถ้าช่วยเขา หญิงสาวส่ายหน้าถอนใจเซ็งๆ ไม่อยากคิดถึงยัยมือน้ำเดือดให้เสียอารมณ์ คนอย่างพี่ปุ๊น่ะหรือจะนอกใจผู้หญิงที่ตัวเองรัก ผู้หญิงอีกคนของพี่ปุ๊คงไม่มีหรอก เธอมั่นใจ
“ก็ได้ ฉันตกลง ทำไมฉันต้องมาเกี่ยวข้องกับคุณและน้องสาวของคุณอีกเนี่ย”
“เป็นอันว่าตกลง” ปารินทร์สรุปด้วยใบหน้าเรียบเฉย มีเพียงเขาเท่านั้นที่รู้ว่าจริงๆ แล้วเขา ‘เฉย’ อย่างที่แสดงออกไปหรือเปล่า
ธีรดาดึงมือออกคราวนี้ปารินทร์ยอมปล่อยมือง่ายๆ แถมยังลุกขึ้นแล้วยื่นมือมาให้เธอจับ หญิงสาวมองแล้วเชิดใส่เพราะยังโมโหไม่หาย แต่ความที่นั่งนานแล้วดันเป็นเหน็บจำต้องจับมือเขาแล้วลุกขึ้น แทนที่จะเสียหน้าถ้าต้องใช้มือยันพื้นตอนจะลุกขึ้นมา เธอแค่ใกล้ 30 ไม่ใช่ 50 สักหน่อย ทำไมสังขารมันทำร้ายกันขนาดนี้เนี่ย

ปารินทร์ทำตามที่รับปากไว้ เขาโทรหาเจนจิราให้นำเสื้อผ้ามาให้แล้วเล่าสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนจะไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเช่นเดียวกับธีรดา ระหว่างรอหมอเจนไปเยี่ยมบานชื่นกับลูกๆ แล้วตรวจร่างกายให้ 3 ด่างเสียเลย พอตรวจเสร็จก็มานั่งคุยกับป้าอรถึงได้รู้ว่าพี่ชายมาที่บ้านของพี่กวางหลายครั้งแล้ว ถึงว่าพักนี้อารมณ์ดีอย่างกับคนละคน
พอเห็นสายตาของน้องสาว ปารินทร์ก็แทบอยากไล่ให้กลับๆ ไปได้แล้ว เจนจิราเหมือนรู้แกวรีบขอตัวกลับ แต่ยังไม่วายกระซิบถามว่า...หลับสบายดีไหม ชายหนุ่มทำหน้าดุใส่เพราะต่อให้หลับลำบาก เขาก็พร้อมจะนอนที่นี่ถ้าเจ้าของบ้านอนุญาต
ธีรดาไปถึงสถานีตำรวจโดยมีปารินทร์ขับรถให้และคอยให้คำแนะนำทุกอย่าง เธอมีหน้าที่แค่เล่าว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเองบ้าง คนที่ขัดแย้งด้วย เขาพยักหน้าให้เธอพูดได้เต็มที่ เธอจึงบอกไปว่าไม่ได้สงสัยใคร ให้เป็นหน้าที่ของตำรวจที่จะช่วยตามหาคนร้ายมาให้ได้ มีความคืบหน้าว่าได้ชื่อคนที่ไปเช่ารถแล้ว แต่น่าแปลกมากเมื่อตำรวจสืบต่อไปกลับพบว่าสำเนาบัตรประชาชนที่คนร้ายนำมาใช้เป็นหลักฐานการเช่ารถกลับเป็นบุคคลที่เสียชีวิตไปแล้ว แสดงว่าคนร้ายวางแผนไว้แล้วว่าจะไม่ให้ตำรวจสาวถึงตัวได้ถึงได้ใช้หลักฐานของคนตายแล้ว
ปารินทร์ขับรถมาส่งเธอที่บ้านเพราะวันนี้เธอยังตะเกียกตะกายไปทำงานไม่ไหวแน่ๆ เขาจอดรถหน้ารั้วบ้านไม่ได้ขับเข้าไป เธอเดาว่าเขาคงมีงานต้องไปทำต่อ
“ขอบคุณที่ช่วยหลายเรื่องๆ นะคุณ”
“ผมต่างหากที่ต้องขอบคุณสำหรับ...เรื่องนั้น” ปารินทร์จับมือธีรดาแล้วบีบเบาๆ และดีใจมากที่เธอไม่ดึงมือกลับ แถมยังใช้มืออีกข้างมาจับมือของเขาแล้วบีบๆ กลับมาบ้าง
“คนทำผิด ต่อให้ฉันไม่ได้พูดวันนี้ ตำรวจก็ต้องหาคนร้ายมาจนได้นั่นแหละ ฉันรู้ว่าคุณเปิดใจกว้าง แต่เราเป็นเพื่อนกัน เพื่อนคงไม่ทำร้ายเพื่อนได้หรอกค่ะ” อย่างน้อยถ้าไม่ได้เขาช่วยไว้เธอคงตายทั้งเป็นไปแล้วก็ได้ “ขับรถดีๆ ล่ะคุณ ถ้าเป็นไปตามกำหนด อีก 2 วันไม้ล็อตที่ 3 จะไปถึงโกดังของพาราลิสต์อย่างปลอดภัย ไม่มีการถูกแอบเปลี่ยนสอดไส้อีก”
“ขอบคุณที่ไม่ทำให้ผมไม่ผิดหวังในตัวคุณเลย...ธีรดา”
ธีรดาดึงมือกลับก้มหน้ายิ้ม เวลาปารินทร์ยิ้มเต็มริมฝีปากเขารู้ตัวบ้างหรือเปล่าว่าความหล่อของเขาเพิ่มขึ้นอีกพันเปอร์เซ็นต์ได้ หัวใจของเธอเต้นระรัวจนเจ็บอก ไม่ไหว อย่างนี้เธอตายแน่ หญิงสาวรีบเปิดประตูก้าวออกไปจากรถแล้วเดินแกมวิ่งเข้าบ้านไป แก้มเห่อร้อนวาบไปหมด
ปารินทร์มองตามจนกระทั่งเธอเข้าบ้านไปจึงขับรถจากไปพร้อมหัวใจที่พองโตคับอก ความรู้สึกหวานละมุนในอกไม่ได้เกิดกับเขานานเท่าไหร่แล้วนะ

ธีรดาไปทำงานในวันต่อมา ถามว่าหายเพลียหรือยัง บอกเลยว่ายัง แต่ถ้าขืนยังนอนอยู่บ้านไม่เกินครึ่งวันธีมาคงมาถามให้หายข้องใจว่าเธอเป็นอะไรกันแน่ แค่ที่บอกว่าเป็นหวัดตัวร้อนคงอ้างไม่ได้แล้ว อายุเท่ากันแท้ๆ แต่ชอบทำตัวเป็นพี่ชายอยู่เรื่อย
วิภานำเอกสารเข้ามาให้เซ็น ต่อด้วยทีมออกแบบนำแบบมาให้ดูเผื่อว่าเธอจะให้แก้ไขอะไรก่อนจะนำเสนอลูกค้า ธุรกิจออกแบบเฟอร์นิเจอร์ยังไม่ใช่ธุรกิจหลัก แต่สามารถสร้างชื่อเสียงให้กับปางไม้ธารธีราได้ ก่อนเที่ยงเธอได้พักสายตานิดหน่อย ยังไม่ทันได้ทำตามใจตัวเองวิภาก็เข้ามาพร้อมซองเอกสารที่เพิ่งได้รับมาสดๆ ร้อนๆ
“มีจดหมายถึงคุณกวางค่ะ”
ธีรดารับจดหมายมายิ้มให้เลขาและรอจนประตูปิดจึงเปิดซองจดหมายออกดู จดหมายอะไรทำไมมีแต่ชื่อผู้รับ ไม่มีชื่อคนส่ง เธอวางจดหมายมองอย่างชั่งใจก่อนจะใช้กระดาษทิชชู่พันนิ้วแล้วค่อยๆ เปิดจดหมาย เผื่อยัยวิกาส่งหมามุ่ยมาให้อีกน่ะสิ แต่พอเห็นของในซองเธอคิดว่าคงไม่ใช่ยัยวิตาหรอกที่ส่งมา
“เอกสารสมัครประกวดผลงานงั้นหรือ”
ใครส่งมาให้ก็ไม่รู้ ถ้าเธอจำไม่ผิดการประกวดรายการนี้ไม่ใช่ว่าจะขอใบสมัครมาได้ทุกคน บริษัทที่ได้รับใบสมัครต้องได้รับการเชิญให้เข้ามาประกวดเพื่อแข่งขันความสร้างสรรค์ในการคิดผลงานบริษัทละ 1 คน บริษัทที่ชนะการประกวดจะได้เป็นตัวแทนของวิลเลสประจำประเทศไทย เท่าที่เธอรู้ ‘วิลเลส’ เป็นบริษัทออกแบบและผลิตเฟอร์นิเจอร์จากยุโรป เป็นแบรนด์อันดับต้นๆ ของโลก ส่งมาให้ผิดคนหรือเปล่า แต่ว่าชื่อที่เขียนหน้าซองเป็นเธอแน่ๆ อย่างน้อยก็มีเบอร์ติดต่อกลับล่ะน่า เอาไว้ตอนบ่ายเธอจะลองโทรไปถามผู้จัดการประกวดดูก็แล้วกัน

ดูเหมือนว่าการได้ปุราณกลับมาจะนำมาซึ่งการเสียความรักเต็มร้อยที่เคยได้จากพี่ชายไป ศศิภารู้สึกมาสักพักแล้วว่ามีบางอย่างเปลี่ยนแปลงไป จากผู้ชายเคร่งเครียดที่เวลาทั้งหมดมอบให้งานและครอบครัว เวลานี้กลับร่าเริงยิ้มง่าย และหายไปจากเวลาที่เธอเคยยึดไว้ เธอมั่นใจว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นระหว่างพี่ชายกับผู้หญิงคนนั้น
วันก่อนเธอไปที่บ้านของธีรดาเพราะอยากไปด่าให้สาแก่ใจเผื่อว่าจะเลิกยุ่งกับเธอและปุราณเสียที แต่กลับพบว่าพี่ชายอยู่ที่นั่นและยังมีท่าทางสนิทสนมกัน เธอต้องทำอะไรสักอย่างก่อนที่ธีรดาจะแย่งทุกคนที่เธอรักไปจนหมด เท่าที่สั่งสอนไปคงไม่พอที่จะทำให้ผู้หญิงคนนั้นออกไปจากชีวิตของเธอง่ายๆ สินะ
นุชรีได้ยินเสียงโทรศัพท์ดังจึงรีบมารับ พอเห็นว่าใครที่โทรมาก็แทบอยากวางสาย แต่ก็ต้องจำใจรับอยู่ดีเพราะถ้าไม่ได้ศศิภาเธอคงไม่ได้มาทำงานเป็นเลขาของปุราณ
“มีอะไรหรือศศิ วันนี้ฉันมีงานยุ่งทั้งวันเลยล่ะ” นุชรีบอกไว้ก่อนเพราะกำลังจะมีประชุมอีก 15 นาทีนี้
“มันกำลังจะแย่งพี่ชายของฉันไป” ศศิภาเค้นเสียงตอบด้วยความแค้นใจระคนน้อยใจ หลายวันที่ผ่านมาพี่ชายหายไปก็เพราะไปหาผู้หญิงคนนั้น
“มันของเธอน่ะใคร”
“นังธีรดา มันจะเอายังไง พี่ปุ๊ก็จะเอา พี่สิงห์ก็ยังไม่เว้น”
นุชรีชะงักมือที่กำลังจะหยิบแฟ้ม เริ่มกลับมาตั้งใจฟังเพื่อน แต่โรคประจำตัวของศศิภาทำให้เธอจำเป็นต้องถามย้ำ
“เธอคิดมากไปหรือเปล่า”
“นี่เธอไม่เชื่อฉันเหรอ มันกล้าขนาดส่งรูปของมันกับพี่ปุ๊มาให้ฉัน ฉันไม่ได้คิดไปเองหรอกนะ”
“แล้วเธอจะทำยังไงล่ะ”
“เธอต้องช่วยฉันคิดสิ” ศศิภาสั่งเหมือนที่เคยสั่งเพื่อนมาโดยตลอด
นุชรีแอบถอนใจ แต่ก็ยอมช่วยเพื่อนคิดแผนอยู่ดี ศศิภาเป็นคนมีปมด้อย กลัวไม่มีใครรักและกลัวเสียคนที่รักไป ช่างไม่รู้เสียเลยว่าความกลัวนั้นแหละกำลังจะทำให้ตัวเองเสียทั้งคนรักและพี่ชายไป

พิชชาแปลกใจมากที่ยัยน้องสาวตัวแสบของปารินทร์เป็นฝ่ายโทรมาหาและนัดเธอมาพบ อีกทั้งศศิภายังเป็นฝ่ายมานั่งรอ ทั้งที่ปกติเคยยอมรอใครเสียที่ไหน หญิงสาวเก็บความสงสัยเอาไว้รีบเดินเข้าไปในร้านที่พอมีคนเข้ามาอยู่พอสมควร บางคนจำเธอได้ก็เข้ามาขอถ่ายรูป ทำให้ศศิภาเบ้ปากไม่พอใจที่การรอดูเหมือนจะถูกยืดเวลาออกไปหลายนาทีกว่าพิชชาจะเดินมาถึงโต๊ะที่เธอนั่งรอ
“น่าแปลกที่เธอเป็นฝ่ายโทรหาฉัน” พิชชาทักทายพลางนั่งลง การพบกันครั้งก่อนทำให้เธอเสียหน้าเพราะยัยนี่แกล้งทำกาแฟหกจนเสื้อผ้าของเธอเปื้อน คนในร้านพากันหันมามอง สาบานได้คราวนี้ต้องไม่เกิดเหตุการณ์แบบนั้นอีก
สองสาวมองกันราวกับประเมินอีกฝ่ายและรอจนกระทั่งบริการมาเสิร์ฟเครื่องดื่มแล้วนั่นล่ะ คนที่นัดมาถึงได้พูดลอยๆ ขึ้นมาว่า
“พรุ่งนี้พี่สิงห์จะเดินทางไปฝรั่งเศส ถ้าไม่อยากวืดจากผู้ชายที่เธออยากจับมาตลอดชีวิตก็ถือว่าไม่ได้ยินเสียก็ได้”
นักเปียโนสาวหรี่ตาไม่ไว้ใจนัก ใครๆ ก็รู้ว่ายัยนี่แสบได้ขนาดไหน ไม่ว่าผู้หญิงคนไหนที่เข้ามาทอดสะพานให้ปารินทร์ได้ม้วนเสื่อเก็บตั้งแต่ยังไม่ทันได้เริ่มอ่อยด้วยซ้ำไป ขนาดเธอที่เป็นว่าที่คู่หมั้นยังไม่ได้รับการยกเว้น
“แล้วมาบอกฉันทำไม เธอไม่ชอบฉันไม่ใช่หรือ”
ศศิภายิ้มกว้าง ครั้งนี้พิชชาเริ่มมีประโยชน์สำหรับเธอแล้วน่ะสิ จากว่าที่คู่หมั้นเธอจะช่วยให้เป็นคู่หมั้นสมใจ ก่อนจะกำจัดออกไปก็แค่นั้น
“พอดีฉันมีคนที่ไม่ชอบมากกว่าเธอแล้วน่ะสิ นี่เวลาออกเดินทาง”
กระดาษใบเล็กที่กว่าเธอจะได้มาต้องเค้นถามดิฐอยู่เป็นนานสองนานถูกส่งให้พิชชา ศศิภาเรียกพนักงานมาคิดเงินแล้วเป็นฝ่ายเดินจากไปง่ายๆ โดยไม่มีเหตุการณ์อะไร
พิชชาขมวดคิ้วคิดหนักไม่ค่อยเชื่อน้องสาวของปารินทร์เท่าไหร่ แต่การที่เธอรู้ว่ากำลังมีคู่แข่งทำให้ยอมไม่ได้ กระดาษในเล็กถูกเก็บใส่กระเป๋าก่อนที่ผู้มาที่หลังจะออกจากร้านไปอีกคน เธอไม่ได้พักสมองมานาน ไปฝรั่งเศสสัก 3 วันคงจะดี

เสียงออดดัง ธีรดาเดินมาหน้าบ้านอย่างเร่งรีบเพราะเธอกำลังจะไปทำงานสายแล้ว ปารินทร์ออกมายืนรอพอเธอเปิดประตูเล็กก็ถูกคว้าข้อมือให้เข้าไปในรถ พอดึงมือกลับเขายิ่งจับไว้แน่นไม่ปล่อย สุดท้ายก็ต้องยอมเข้าไปในนั่งรถ ดิฐหันมายิ้มให้เธอ เจ้านายกับลูกน้องจะไปไหนกันเธอไม่ได้สนใจ ถ้าเธอจะไม่ถูกพาเข้ามาในรถด้วย
“จะพาฉันไปไหนน่ะคุณ”
“ไปด้วยกันเถอะ” ชายหนุ่มบอกก่อนจะสั่งให้ดิฐออกรถได้แล้ว
ธีรดาดึงมือกลับ อดไม่ได้ก็ค้อนใส่คนเอาแต่ใจสักที เขากับเธอสนิทกันถึงขนาดไปไหนไปกันไม่ต้องถามตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วดูเถอะ นอกจากไม่ตอบคำถามแล้วปารินทร์ยังหยิบไอแพดมาเปิดทีวีออนไลน์ดูข่าวอีกด้วย
“ฉันว่านี่มันไม่น่าจะเป็นทางไปออฟฟิศของฉันนะคุณสิงห์”
“ก็ไม่ใช่น่ะสิ” เขาหันมาตอบพลางปิดไอแพด
“อ้าว! ถ้าคุณมีธุระต้องไปก็ปล่อยฉันลงตรงนี้สิ เดี๋ยวฉันนั่งรถแท็กซี่ไปเองก็ได้ คุณจะได้ไม่เสียเวลา” ธีรดาขมวดคิ้วใส่ จะว่าไปโรงพักก็ไม่ใช่ทางที่จะไปได้อีกนั่นแหละ
“ไม่เสียเวลาหรอก เดี๋ยวผมไปแล้ว คนขับรถจะพาคุณไปส่งที่ออฟฟิศเองแหละน่า”
ป่วยการถามต่อแล้วเขาจะพาเธอไปที่ไหนและเขาจะไปไหน เธอเลยฆ่าเวลาด้วยการหยิบขนมในกระเป๋าออกมากิน ปารินทร์แบมือขอ ธีรดาค้อนใส่แต่ก็แบ่งคุกกี้ให้เขากินด้วยกัน แถมยังเผื่อแผ่ไปถึงดิฐอีกด้วย นี่เรามาปิกนิกกลางถนนหรือไง ว่าแต่ทำไมเขาออกนอกเมืองมาที่สนามบินสุวรรณภูมิแล้วทำไมต้องพาเธอมาด้วยเนี่ย
“ทำไมฉันต้องไปสนามบินกับคุณด้วยล่ะ”
“ไหนคุณว่าเราเป็นเพื่อนกัน เพื่อนจะไปต่างประเทศตั้งหลายวันคุณไม่คิดจะไปส่งหน่อยหรือไง” ปารินทร์กอดอกยิ้มกว้าง หรือว่าที่เขาพูดมาไม่จริง
ธีรดากอดออกใส่เขาบ้าง ถ้าเหตุผลมีแค่นี้บอกกันแต่แรกก็สิ้นเรื่อง มาทำเป็นมีความลับทำไมก็ไม่รู้
“ก็ได้ค่ะ คุณไม่มีใครรอไปส่งบ้างหรือไง ท่าทางไม่ใช่คนขี้เหงาเสียหน่อย”
ปารินทร์ไม่ตอบเพราะมั่นใจว่าไม่ใช่คนขี้เหงา แต่มันแปลกตรงไหนที่วันนี้เขาอยากให้ธีรดาเป็นคนไปส่งที่สนามบิน อย่างน้อยก็เพื่อตัวเธอและตัวเขาเอง เหตุผลบางครั้งก็ไม่มีเหตุผล แค่ทำแล้วมีความสุข สบาย เท่านี้ยังไม่พออีกหรือไง

ธีรดาถูกขอแกมสั่งให้เดินตามปารินทร์เข้าไปในท่าอากาศยานด้วย เธอยอมเดินตามเข้าไปทั้งที่ไม่เข้าใจเท่าไหร่ว่าเธอมาที่นี่ทำไม เพื่อส่งเขาขึ้นเครื่องอย่างนั้นหรือ บางทีเขาอาจจะมีเรื่องอะไรอยากคุยกับเธอก่อนไปละมั้ง แน่นอนต้องเป็นอย่างนี้แน่ๆ จู่ๆ เขาจะมาอยากให้เธอรอส่งขึ้นเครื่องทำไม ถ้าเป็นผู้หญิงที่กำลังกวักมือเรียกหยอยๆ นั่นค่อยเป็นไปได้หน่อย
“พี่สิงห์ ทางนี้ค่ะ”
ปารินทร์ประหลาดใจเหมือนๆ กับที่ธีรดามองเขาเหมือนอยากถามว่าถ้ามีคนไปรอส่งแล้วจะลากเธอมาด้วยทำไม เขาคว้าข้อมือของธีรดาไว้เมื่อเห็นว่าเธอกำลังจะชิ่ง
“นี่คุณ มีคนไปส่งแล้วจะลากฉันมาทำไม” คนถูกลากมากระซิบถาม
ปารินทร์ก็อยากจะตอบแต่ไม่ทันเมื่อพิชชาเดินแกมวิ่งมาจนถึงตัวก่อนจะคว้าแขนของเขาไปกอดอย่างสนิทสนม สายตาที่มองมาเต็มไปด้วยการแสดงความเป็นเจ้าของ ธีรดาดึงข้อมือออกรู้สึกทันทีว่ากำลังอยู่ผิดที่ผิดทาง แต่มือหนากลับไม่ยอมปล่อย
“ยังดีนะเนี่ยที่พิชมาก่อนเวลาไม่งั้นมาไม่ทันพี่สิงห์แน่ๆ เลย”
“ผมเปล่าชวน” ปารินทร์เอียงหน้ายื่นริมฝีปากไปกระซิบใกล้ๆ หูของธีรดา เจ้าตัวเอียงหน้าหนี แต่เพราะความที่ใกล้มากอย่างไรก็ต้องได้ยินที่เขาบอกอยู่ดี
“ขอโทษนะคะ คุณเป็นใคร ฉันไม่เคยเห็นคุณมาก่อน พี่สิงห์ไม่เคยเล่าให้พิชฟังเลยนะคะ” พิชชาถามพลางยิ้มให้ นี่สินะผู้หญิงที่ทำให้เธอกับศศิภาต้องร่วมมือกันช่วยกำจัดให้ออกไปจากปารินทร์
“ฉัน...”
“ธีรดาเป็นเพื่อนของพี่...ในตอนนี้” ปารินทร์พูดแทรกเลยถูกธีรดาค้อนใส่
พิชชามองข้อมือที่ปารินทร์จับไว้ ในขณะที่เธอได้เพียงแค่กอดแขนของเขา ถ้าดูจากสิ่งที่เป็นอยู่ในตอนนี้ก็พอเข้าใจได้แล้วว่าคู่แข่งของเธอคนนี้น่ากลัวไม่เบา แล้วยังคำพูดของปารินทร์ที่ฟังแล้วสะดุดหูชอบกลอีก
“ในตอนนี้หรือคะ”
“ขอบใจพิชมากที่มาส่งพี่” ปารินทร์เลี่ยงไม่ตอบ
พิชชายิ้มหวานพลางชี้นิ้วไปยังกระเป๋าใบใหญ่ที่วางไว้ใกล้ๆ เก้าอี้ที่เพิ่งลุกมา
“ใครว่าล่ะคะ พิชจะไปฝรั่งเศสอยู่พอดี ไม่คิดว่าจะบังเอิญขนาดนี้ ถ้ายัยศศิไม่บอก พิชคงไปเจอพี่สิงห์บนเครื่องแน่ๆ เลย” น้ำเสียงของพิชชาดูเหมือนแปลกใจจริงๆ ที่พบปารินทร์ที่นี่ “ตอนนี้ฉันมาแล้ว เพื่อนคงไม่จำเป็นแล้วละมั้งคะ”
ธีรดาปรายตามองข้อมือที่ถูกจับไว้ไม่ยอมปล่อย ปารินทร์ถอนใจยอมปล่อยแต่โดยดี พอหญิงสาวหันหน้ากลับแล้วเดินไป เขาก็ทนไม่ได้ที่เราต้องจากกันหลายวันพร้อมกับเรื่องค้างคาใจ
“พบกันบนเครื่องแล้วกันนะพิช”
“แล้วพี่สิงห์จะไปไหนล่ะคะ”
ปารินทร์ไม่ตอบ เมื่อคำตอบของเขาหาได้ไม่ยากเมื่อธีรดาเดินไปทางไหน เขาก็เดินตามไปทางนั้นนั่นเอง พิชชาเม้มปากกำมือแน่นด้วยความโมโห ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ออกมาระบายความโกรธกับศศิภา ยัยนั่นมันเจ้าเล่ห์ เดี๋ยวคงคิดได้เองแหละว่าต้องทำยังถ้าไม่ต้องการพี่สะใภ้เป็นผู้หญิงคนนั้น

ธีรดาเดินเร็วๆ รีบออกมาให้ไกลจากสองคนนั้น มันน่าโมโหไหมล่ะ เธอเป็นอะไรสำหรับเขางั้นหรือ เป็นเพื่อนแล้วไง ต้องถูกไล่ออกมาเหมือนเป็นติ่งติดตัวปารินทร์มาหรือไง มือของเธอถูกคว้าจับ พอหันไปก็เห็นคนก่อเรื่องให้ต้องถูกไล่ตามมา เขาจะเอายังไงกับเธอกันแน่
“ตามฉันมาทำไมล่ะคุณ เห็นหน้าฉันไหมว่ากำลังโมโห ถ้าไม่อยากโมโหฉันกลับไปบ้างก็ปล่อยมือแล้วทางใครทางมัน”
ปารินทร์ยิ้มกว้าง นี่ต่างหากตัวจริงของธีรดา เธอซื่อตรงและไม่เหมาะในเกมธุรกิจเพราะเก็บอารมณ์ไม่เก่ง อีกทั้งสิ่งที่คิดมักออกมาที่สีหน้าและดวงตา
“อยากแน่ใจว่าคุณไปที่รถของผม ไม่ใช่ขึ้นแท็กซี่เพราะโกรธผมน่ะสิถึงได้เดินตามมา”
“ฉันจะโกรธคุณทำไม ฉันโกรธแฟนของคุณต่างหากเล่า” ธีรดาถอนใจยาว ตอนนี้ต้องนับหนึ่งถึงสิบก่อน เธอกับเขายังต้องทำงานร่วมกันอีกนาน อย่ามีเรื่อง...ท่องไว้ๆ แต่เธอจะทนไม่ไหวก็เพราะจู่ๆ ปารินทร์หัวเราะขึ้นมานี่แหละ
“หัวเราะทำไม ฉันอารมณ์ไม่ดีอยู่ ถ้าไม่อยากถูกฉันว๊ากใส่ก่อนขึ้นเครื่องก็กลับไปได้แล้ว”
“โอเคๆ ผมสบายใจแล้ว อีก 3 วันเจอกัน” ปารินทร์เอ่ยกำลังจะเดินกลับไปอยู่แล้วถ้าจู่ๆ จะไม่ได้ยินเสียงเรียกจากไอ้หนุ่มหน้าเกาหลีที่กำลังเดินมาหาธีรดา
“กวาง...ทางนี้” ตริณยิ้มกว้างพอเห็นธีรดาโบกมือตอบ “ใช่จริงๆ ด้วย คราวก่อนลงจากลำปางก็ไม่ได้เจอกัน บังเอิญดีแท้กำลังจะไปหาที่บ้านพอดีเลย”
“จริงเหรอ ดีใจจัง แล้วตริณกำลังจะไปไหนล่ะ พักนี้ไม่ค่อยว่างเจอกันเลยนะ คลาดกันตลอดเลย ชักคิดถึงแล้วนะเนี่ย” ธีรดายิ้มกว้าง ตริณเป็นเพื่อนตั้งแต่สมัยมหา’ลัย ที่เธอติดต่อด้วยเสมอ แต่ไม่ว่าเจอกันกี่ครั้งตริณก็ยังคงเป็นผู้ชายอารมณ์ดียิ้มเก่ง ตอนที่เราเรียนด้วยกันมีเพื่อนเชียร์ให้เราสองคนเป็นแฟนกัน หลังจากเธออกหักจากปุราณ
“ผมมาส่งเพื่อน แล้วกวางล่ะ”
“ฉันก็มาส่งเพื่อนเหมือนกัน ตอนนี้จะกลับแล้วล่ะ”
ปารินทร์กอดอกมองธีรดาที่คุยกับผู้ชายอื่นทั้งที่เขายังยืนหัวโด่อยู่ใกล้ๆ แล้วคุยกันเหมือนมีกันแค่สองคนอีก คิดถงคิดถึงอะไร ฟังแล้วเลี่ยนชะมัด
“ถ้างั้นเราไปหาอะไรกินกันไหม ไม่ได้เจอกันมาเป็นเดือนแล้ว คราวก่อนนัดเข้าก๊วนกันกวางก็ไม่ได้ไป”
“พอดียุ่งๆ น่ะ ถ้างั้นเราไปกันเถอะ” ธีรดารับนัดทันทีกำลังจะเดินตามตริณไป ถ้าไม่มีมือของปารินทร์มาจับแขนไว้ ตริณมองมาไม่พูดอะไร แต่ก็ยังรอไม่ไปไหนเหมือนกัน
“อ้าวคุณ พอเจอ ‘คนอื่น’ ก็ลืมผมเลยเหรอ” ปารินทร์ก้มหน้ากระซิบเสียงเบาใกล้ๆ
ธีรดายิ้มให้ตริณก่อนจะหันมาค้อนใส่ปารินทร์ ตอนนี้เธอเริ่มแน่ใจแล้วว่าที่โมโหน่ะไม่ใช่ยัยพิชชาหรอก แต่เป็นเขานี่แหละ
“นี่คุณ มีแฟนแล้วก็คิดถึงแฟนสิ มาสนใจอะไรกับเรื่องของฉันล่ะ”
“ผมพูดสักคำหรือยังว่าใครเป็นแฟน”
มือบางยกขึ้นมาดึงมือของปารินทร์ออกจากแขน แล้วดูเถอะ แทนที่เขาจะรู้สึกผิดบ้างที่ทำเพื่อนของเธอต้องรอ รอยยิ้มแบบนี้โดนสักหมัดจะสลดไหม อยากทำมาก แต่ไม่อยากเสี่ยง
“สวัสดีค่ะ เดินทางปลอดภัยนะ” เธอย่นจมูกใส่เขาแล้วสะบัดหน้าพรืดพร้อมๆ กับเสียงหัวเราะที่ดังขึ้นทันที เธอเม้มปากไม่หันกลับ รีบเดินไปหาเพื่อนที่ยืนรอ “ไปกันเถอะตริณ”
ปารินทร์ยังคงยิ้มแม้รู้สึกว่าน่าจะมีคู่แข่ง สงสัยต้องรีบกลับแล้วละมั้งรวบรัดตัดความให้ไม่เกิน 2 วัน ไอ้หน้าเกาหลีมันหล่ออย่างกับพระเอก ถึงจะมั่นใจในตัวเองขนาดไหน แต่ตราบใดเขากับธีรดายังมีฐานะเป็นเพื่อนย่อมประมาทคู่แข่งไม่ได้ เขาเดินกลับมาที่เดิม พิชชารออยู่ คิ้วหนาขมวดมุ่นอยากรู้ว่าทำไมพิชชาถึงจองตั๋วไปฝรั่งเศสเที่ยวบินเดียวกับเขาได้ เรื่องบังเอิญนั้นตัดทิ้งไปได้เลย

เจนจิรามาหาธีรดาในเย็นวันต่อมาเพราะมีคำสั่งตรงจากปารีสว่า...ไปดูบานชื่นแทนด้วย หมอสาวยิ้มกว้างเพราะรู้ทันว่านี่น่ะข้ออ้าง อยากให้เธอมาดูแลสาวบ้านนี้ต่างหากล่ะ หลังจากเกิดเรื่องอะไรๆ ก็ดูอึมครึม ปารินทร์เล่าให้เธอฟังว่าตำรวจกำลังสืบหาคนร้าย เรากังวลใจว่าจะเป็นศศิภา แต่ความที่รู้จักกันมานานทำให้เธอไม่ค่อยอยากเชื่อว่าจะเป็นไปได้ ปารินทร์ก็เหมือนกัน ถึงศศิภาจะเอาแต่ใจไปบ้าง แต่ถึงขนาดวางแผนจ้างคนเป็นเรื่องเป็นราวมันดูไกลตัวเกินไป
ศศิภาถูกเรียกตัวไปสอบสวนเพราะมีบันทึกประจำวันว่าเคยมีเรื่องมีราวกับธีรดามาก่อน หลังให้ปากคำเสร็จศศิภาก็กลับบ้านมาและอาละวาดใหญ่โตกับเธอว่าถูกใส่ร้าย แถมยิ่งเกลียดธีรดาหนักขึ้นไปอีก ก็ถ้าไม่ได้ทำจริงๆ ก็ดีไป
ธีรดาเป็นคนมาเปิดประตูรั้วในระหว่างที่ป้าอรกำลังทำอาหารอยู่ในครัว พอเห็นว่าใครก็มาก็ยิ้มกว้าง
“นึกว่าใครหมอเจนนี่เอง”
“พี่สิงห์ฝากเจนให้มาดูลูกๆ ของบานชื่นค่ะ บอกว่าให้ดูแลทั้งแม่หมา แม่ของหมาและลูกๆ ของมัน” เจนจิราบอกหน้าซื่อ นี่เธอพูดตามที่พี่ชายสั่งเลยนะ ไม่มีการแต่งเติม
ธีรดาหัวเราะเพราะเจนจิราเป็นคนพูด แต่ถ้าเป็นปารินทร์พูดล่ะก็ได้ถูกไล่กลับ
“ถ้างั้นวันนี้ทานอาหารเย็นด้วยกันนะคะ”
“แหม เจนกะเวลาถูกเผงเลย”
เจนจิราเดินเข้าไปในบ้าน ธีรดาพาเธอไปหาบานชื่นกับลูกๆ หมอเจนจัดการตรวจทั้งแม่และลูกๆ ให้อีกรอบ วันก่อนไม่มีเครื่องมือ แล้วเขียนใบนัดว่าต้องฉีดยาเจ้าตัวเล็กเมื่อไหร่ ธีรดารับใบนัดมาเก็บไว้อย่างดี
ความช่างพูดช่างคุยของเจนจิราทำให้เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ส่วนใหญ่เรื่องที่เล่าก็เป็นเรื่องการรักษาบ้าง เรื่องเปิ่นๆ ของหมอเจนเองบ้าง แต่ที่ดูจะเข้าเรื่องบ่อยก็คงไม่พ้นเรื่องของปารินทร์กับพิชชา
‘พี่พิชสนิทกับพี่สิงห์ เหมือนน้องมากกว่าคนรัก เจนมั่นใจว่าสองคนนี้เป็นอย่างอื่นไม่ได้หรอกนอกจากพี่ชายกับน้องสาว’
ธีรดาเดินมาส่งเจนจิราที่รถ รอจนหมอเจนกลับไปแล้วก็เดินมานั่งเล่นตรงศาลาที่ครั้งหนึ่งปารินทร์เคยชมว่าสวย เฮ้อ เธอเริ่มเบื่อตัวเองแล้ว ทำไมต้องเอาคำพูดหมอเจนมาคิดด้วย อีตาสิงห์กับเธอนับๆ แล้วน่าจะเรียกว่าเพื่อนร่วมงานมากกว่า การเกิดความรู้สึกอื่นใดกับคนที่มีแฟนแล้วถือว่าผิด ไม่ได้ๆ เธอจะมาเสียคนตอนใกล้ 30 ไม่ได้เด็ดขาด

แล้วจะมา up ต่อค่ะ



บรรพตี
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 12 มิ.ย. 2557, 09:34:19 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 12 มิ.ย. 2557, 09:34:19 น.

จำนวนการเข้าชม : 1384





<< ตอนที่ 12   ตอนที่ 14 >>
ร้อยวจี 12 มิ.ย. 2557, 12:06:49 น.
ชุลมุนกันใหญ่ ยัยศศิภาโรคจิตแน่ๆเลยค่ะ สนุกค่ะ มาอัพต่อนะคะ


แล่นแต๊ 12 มิ.ย. 2557, 14:14:44 น.
พี่สิงห์รีบกลับมาจีบหนูกวางต่อเร้ววว


Sukhumvit66 12 มิ.ย. 2557, 14:36:46 น.
^_________^


กาซะลองพลัดถิ่น 12 มิ.ย. 2557, 14:52:43 น.
ผู้หญิงต่อให้รวยล้นฟ้า มีชาติตระกูลขนาดไหน
ถ้าความรัก อิจฉาเข้าตาล่ะก้อนะ ขาดสติตลอด เซ็งกับยัยศศิ


แว่นใส 12 มิ.ย. 2557, 20:50:22 น.
เข้าทางใครดีน้า


Pampam 13 มิ.ย. 2557, 12:47:50 น.
Nutcharee


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account