แก้วขวัญวันรัก
เรื่องราวของสี่สาวพี่น้องที่ต้องตามล่าหาแฟนให้ได้ภายในสามเดือน ก่อนที่จะถูกจับคลุมถุงชนกับเจ้าบ่าวที่ไม่เคยเห็นหน้า ดังนั้นภารกิจ และปฏิบัติการลับของการตามหาแฟนจึงเริ่มข้น
แต่ติดปัญหาที่แก้ไม่ตกนั่นคือ

คนหนึ่ง ขี้เหวี่ยงขี้วีน คบกับผู้ชายได้ไม่เกินหนึ่งวัน ผู้ชายคนนั้นต้องหนีเปิง เจ้าของฉายา
“สวยเหวี่ยงวีน”

คนหนึ่ง ซุ่มซ่ามจอมโก๊ะ เจ้าของฉายา “สาวโก๊ะมหาวิบัติ”

คนหนึ่ง ด้านชาต่อความรัก ไร้ความรู้สึกกลับความรัก เจ้าของฉายา “ดอกไม้น้ำแข็งไร้อารมณ์”

และอีกคนหนึ่ง สาวสวยหมดเท่ แต่ใจเธอคือหญิงแท้ แต่กลัวการมีความรัก เจ้าของฉายา
“เจ้าสาวกลัวฝน”

Tags: สี่สาว รักแท้ ความรัก การตามหา

ตอน: 9 ผู้หญิงเจ้าแผนการ

9
ผู้หญิงเจ้าแผนการ

แก้วกัลยาตื่นแต่เช้า ใบหน้าสวยที่แต่งแต้มด้วยสีสันของเครื่องสำอางนั้นสดใสกว่าทุกวัน สองเท้าก้าวออกจากห้องด้วยท่าทีมาดมั่นสุด ๆ วันนี้แก้วกัลยาอยู่ในชุดสีแดงรัดรูปดูเก๋ไก๋ที่พึ่งถอยออกจากร้านมาไม่กี่วันก่อน ด้วยชุดที่สั้นทำให้ได้อวดโชว์เรียวขาเรียวยาวสวยไร้รอยราคี ในมือถือกระเป๋าสีเดียวกับชุดเดินลงมาด้านล่าง บรรยากาศในบ้านเงียบอีกเช่นเคย เธอเดินลงมาเห็นสมาชิกสองคนของบ้านกำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะอาหาร รักจิราดูรีบร้อนกว่าทุกวันกำลังรีบยัดขนมปังปิ้งเข้าไปในปากและวิ่งออกจากบ้านไป วันวิวาห์ได้แต่มองโดยไม่ได้คิดถาม แก้วกัลยาเดินมาทิ้งตัวนั่งลงที่เก้าอี้ตัวตรงข้ามกับวันวิวาห์ที่กำลังกินน้ำเต้าหู้อยู่

“รักซื้อมาเผื่อ เอาไหม” แก้วกัลยาพยักหน้า วันวิวาห์เดินไปหยิบแก้วน้ำเต้าหู้ที่เทรอไว้แล้วมาวางให้

“ขอบใจ แล้วยัยรักรีบไปไหนอีก ออกจากบ้านเช้าอีกแล้ว” แก้วกัลยาถาม และหยิบไอโฟนขึ้นมาเปิดเช็คข่าวของวันนี้ โดยตั้งใจเลือกข่าวซุบซิบไฮโซทันทีที่เปิดมาเจอข่าวแรก เรียวปากสวยได้รูปที่ทาด้วยลิปสติกสีแดงก็เหยียดยิ้มทันที

“ทำงาน เห็นว่าไปสายไม่ได้ แล้ววันนี้จะไปไหนอีกแต่งตัวเสียสวยเยิ้มขนาดนี้ ดูเหมือนวันนี้จะอารมณ์ดี หาวิธีจับเจ้าชายได้แล้วหรือไง” แก้วกัลยาไม่ได้โกรธคำพูดของวันวิวาห์และส่งโทรศัพท์ให้วันวิวาห์ดู วันวิวาห์มองภาพในจอ สีหน้าไม่ได้แปรเปลี่ยนไปจากเดิมเท่าไหร่นัก เมื่อเห็นรูปในสมาร์ตโฟนเครื่องนี้ รูปเหตุการณ์สด ๆ ร้อน ๆ จากเมื่อวาน เธอคิดไว้แล้วว่าแก้วกัลยาคงไม่ยอมคว้าน้ำเหลียวกลับมามือเปล่าแน่ ๆ แล้วก็จริง เมื่อเธอได้ผลงานชิ้นโบว์แดงกลับมานั่นคือ ข่าวของเธอกับเพทายตอนนี้กำลังลุกโหมขึ้นตามที่แก้วกัลยาต้องการ เธอตั้งใจไปนั่งกินข้าว ถลาตัวเข้าไปกอด และหอมแก้มโชว์ปาปารัสซี่ที่ดักรออยู่ ต้องการขึ้นหน้าหนึ่งในเพทายรู้ว่าถ้าเธออยากได้ยังไงก็ต้องได้ และนี่ก็แค่น้ำจิ้มเท่านั้นของจริงคือหลังจากนี้ต่างหาก

“วิธีนี้จะได้ผลหรอ”

“ก็ไม่รู้สิ แต่งานนี้ฉันเดินเครื่องเต็มที่ เตรียมพร้อมดับเครื่องชน ไม่ได้ให้รู้ไป ว่าแต่ แล้วเธอล่ะวัน มีเวลาไม่มากหรอกนะ ไม่หาไว้ระวังต้องแต่งงานกับเฮียเหมานะ เอาอย่างนี้ให้ฉันช่วยไหม”

“ไม่ล่ะ ถึงตอนนั้นถ้าไม่มีก็ไม่มี ฉันจะคุยกับอากงอีกครั้ง”

“เธอจะเย็นชาไปถึงไหนกันวัน ผู้ชายตั้งมากตั้งมายเข้ามาขายขนมจีบ รับเขาไว้พิจารณาบ้างก็ได้นะมันไม่ได้เสียหาย ฉันรู้เธอไม่สนเรื่องความรัก เธอไม่ยึดติด ไม่ต้องการ แต่ฉันอยากให้เธอให้โอกาสตัวเองบ้าง เปิดใจให้กว้าง เธอจะต้องเจอความรักที่สวยงามแน่ ๆ” วันวิวาห์ทำหน้าไม่สนใจสิ่งที่แก้วกัลยาพูด หยิบแก้วไปวางไว้ในซิงค์ล้างจานและเดินออกไป แก้วกัลยามองวันวิวาห์และส่ายหน้ากับท่าทีที่เย็นชา เพราะเรื่องของแม่เป็นบทเรียนสอนให้วันวิวาห์ไม่เชื่อใจในความรัก จากไม่เชื่อ ไม่สน กลายเป็นเย็นชา เย็นชาจนด้านชา ใคร ๆ ยื่นไมตรีจิตให้เธอก็ไม่ตอบรับ แถมยังทำให้ผู้ยื่นไมตรีช้ำใจด้วยท่าทีที่เย็นชาสุด ๆ เธอไม่รู้ว่าทำไมบรรดาพี่น้องของเธอถึงมีปัญหาที่แตกต่างกันขนาดนี้ แต่เธอต่างจากวันวิวาห์ แม้จะต้องเสียใจมานับครั้งไม่ถ้วน แต่เธอเชื่อว่าสักวันเธอจะเจอรักแท้ เจอผู้ชายที่จะมาเป็นโลกทั้งใบของเธอ และเขาก็คือเพทาย แก้วกัลยารีบเก็บแก้วและเดินถือกระเป๋าวิ่งออกจากบ้านไป จุดหมายในเช้าวันนี้คือค่ายเพลง วีนัส เรคคอร์ด ครึ่งชั่วโมงต่อมาแก้วกัลยามาถึงจุดหมาย ฝ่าด่านรถติดมาจนถึงด้วยใจที่กำลังเบิกบานสุด ๆ ประชาสัมพันธ์หันมามองเธอและส่งยิ้มหวานให้ทันที

“ไม่ได้มานานเลยนะคะคุณแก้ว” แก้วกัลยายื่นถุงขนมที่ซื้อมาฝากส่งให้ประชาสัมพันธ์หน้าหมวยที่ยิ้มรับอย่างยินดี ตลอดระยะเวลาครึ่งปีที่เธอตามเพียรตามตื้อเพทาย เมื่อเขาไม่ต้องรับขับสู้เธอ เธอใช้เวลาเหล่านั้นตีสนิทคนทั้งบริษัทตั้งแต่แม้บ้าน ยันศิลปิน ดังนั้นคนที่เห็นเธอไม่มีใครเอ่ยปากไล่เหมือนช่วงแรก ๆ เธอซื้อใจคนทั้งบริษัทมาเป็นพวกหมดแล้ว ก็เหลือซื้อใจของผู้บริหารค่ายเพลงนี่ล่ะที่ไม่ยอมใจอ่อนเสียที

“วันนี้คุณเพชรอยู่ไหมคะ” แก้วกัลยาถาม

“อยู่ค่ะ ว่าแต่ ภาพในนิตยสารเมื่อเช้า จริงไหมคะ” ประชาสัมพันธ์สาวขาเม้าส์เอ่ยถาม พลางหยิบนิตยสารขึ้นมาเปิดโชว์ ในวันนี้นิตยสารซุบซิบไฮโซทุกฉบับมีภาพของเธอและเขาปรากฏอยู่ในเล่ม และหน้าปกอย่างแน่นอน

“ไม่รู้สิคะ แก้วขอขึ้นไปข้างบนนะคะ แล้วก็ขอยืมนิตยสารเล่มนี้ด้วย”

“เอาไปเลยค่ะ เอ่อ...แต่อย่าบอกนะคะว่าพี่ปล่อยให้ขึ้นไป” แก้วกัลยาพยักหน้าและเดินไปที่ลิฟต์กดชั้นสูงสุดของตึก ซึ่งเป็นชั้นผู้บริหาร ลิฟต์เปิดออกแก้วกัลยาเดินมาหยุดอยู่หน้าห้องมีโต๊ะของเลขาตั้งอยู่ แต่ไร้เงาของเลขา ซึ่งเธอสืบรู้มาแล้วว่าเลขาของเพทายลาออกไปแล้ว น่าเสียดาย เพราะแหวนเลขาคนเก่าคนนี้เธอตีซี้จนหล่อนยอมบอกเรื่องเพทายทุกอย่าง แม้แต่ตารางงาน ทำให้เธอมาหาเขาได้ถูกจังหวะทุกครั้งที่เขาว่าง

ก๊อก ก๊อก ก๊อก

แก้วกัลยาไม่รอให้เจ้าของห้องตอบรับ เปิดประตูเข้าไปทันที เจ้าของห้องกำลังนั่งเปิดแฟ้มเอกสาร ไม่ได้เงยหน้าขึ้นมาสนใจเธอแม้แต่น้อย แก้วกัลยาเองก็ยังยืนนิ่งไม่เอ่ย เพราะเธออยากเห็นหน้าเขาตอนเงยหน้ามาเจอเธอแบบตะลึง ๆ มากกว่า เพทายเองเริ่มแปลกใจว่าแขกที่เข้ามาทำไมไม่พูดเสียที จึงเงยหน้าขึ้นจากแฟ้มเอกสาร ใบหน้าหล่อตกใจอย่างที่คิดไว้ ก่อนมันจะถูกกลบเกลื่อนด้วยความเรียบเฉย เขาทำท่าจะก้มหน้าลงไปสนใจแฟ้มต่อ แต่แก้วกัลยากลับเดินอ้อมโต๊ะมาหยุดยินข้าง ๆ เก้าอี้ของเขา และวางนิตยสารลงตรงหน้าเขาอย่างตั้งใจ

“คุณทำอะไรของคุณ คุณ...”

“แก้วกัลยาค่ะ” แก้วกัลยายิ้ม เธอชอบที่เห็นหน้าเขาตอนโกรธบ้าง โมโหบ้าง ไม่ใช่ว่าเธอโรคจิต แต่สีหน้าสุภาพ อ่อนโยนนั่นมันคือหน้ากากของสังคมที่เขาสร้างขึ้น เธอไม่ได้อยากได้ใบหน้าที่อยู่ต่อหน้าสังคม การที่เขาโมโหนั่นหมายว่าว่านี่ต่างหากคือตัวตนของเขาอีกด้าน ยิ่งหน้าเขาแดงก่ำเวลาโกรธมันตลกพิลึก เจ้าตัวคงไม่รู้เลยว่ากำลังลายเป็นของเล่นของเธอโดยไม่รู้ตัว

“ผมรู้ แต่คุณทำอะไรของคุณ เอาหนังสือนี่ออกไปจากโต๊ะผมได้แล้ว ผมไม่ว่างมาอ่านนิตยสารก๊อสซิบพวกนี้หรอก ถ้าไม่มีธุระอะไรก็เชิญ” เขาเอ่ยปากไล่ตรง ๆ เพราะบทเรียนที่ผ่านมาสอนเขาว่าผู้หญิงคนนี้พูดอ้อม ๆ ยิ่งตีความมั่วซั่ว และพูดตรงเธอก็ไม่ได้เจ็บกระเทือนอะไรแม้แต่น้อย ยังปั้นหน้ายิ้มใส่เขาได้เหมือนเช่นทุกครั้ง

“อะไรกันที่รักใจร้ายกับแก้วแต่เช้าเลยนะคะ ดูก่อนสิคะ ดูเสร็จแล้วจะขว้างทิ้งก็ไม่ว่า” เขามองรูปในนิตยสาร สายตาแปรเปลี่ยนเป็นความไม่พอใจอย่างรุนแรง พลางสบมองคนที่ยังยืนยิ้งแฉ่งอยู่อย่างไม่สะทกสะท้าน

“คุณทำอะไรของคุณ”

“ฉันเปล่านะ ฉันยังไม่ได้ทำอะไรเลยนะวันนี้” แก้วกัลยายืนทำหน้าซื่อตาใสใส่เขากลับไป

“แล้วข่าวบ้านี่มันอะไร คุณวางแผนไว้ใช่ไหม แก้วกัลยา” เขามองภาพในนิตยสารด้วยสีหน้าโกรธมาก พลางคิดไปว่าเขาพลาดอีกแล้ว เขาพลาดที่เผลอตัวทำตามแผนของผู้หญิงคนนี้

“ก็ไม่รู้สินะ แต่ฉันไม่ได้ฉลาดขนาดวางแผนเป็นฉากเป็นตอนขนาดนั้นเสียหน่อย คุณเองที่เดินตามฉันมา คุณเองที่ดึงตัวฉันกลับมา ที่เหลือมันก็ตามน้ำค่ะ อย่าซีเรียตสิคะ ดูสิเดี๋ยวไม่หล่อนะคะ คุณไม่ได้เป็นอย่างในข่าวบอกจะร้อนตัวไปทำไม ข่าวซุบซิบสองสามวันก็ซาลงไปแล้ว อย่าคิดมากสิคะที่รัก” แก้วกัลยามองใบหน้าที่กำลังเดือดสุด ๆ เพทายข่มความโกรธลงไป ไม่อยากต่อความอีกจึงออกปากไล่ทันที

“คุณมีอะไรอีกแก้วกัลยา ถ้าไม่มีก็เชิญ ผมมีงานมีการต้องทำ” เขาเลือกตัดปัญหา ไม่อยากต่อความยาวสาวความยืดกับสาวตรงหน้าอีก

“ใครบอกว่าไม่มี ฉันเอานี่มาคืนคุณ คุณดาหวันโทรหาคุณทั้งคืน ฉันเลยต้องปิดเครื่องทิ้ง เช้านี้ก็โทรมาอีก แต่ฉันไม่ได้รับนะ เห็นไหมว่าฉันมีมารยาทพอ”

“ถ้าคืนแล้วก็กลับไปสิ”

“ยังไม่หมดธุระของฉัน” เขาทำหน้าตึงขึ้นมาอีกครั้งกับผู้หญิงที่พูดไม่รู้เรื่อง

“คุณมีอะไรอีก ถ้าธุระของคุณมันไร้สาระ ผมจะเรียกรปภ.ขึ้นมาลากคุณลงไป” แก้วกัลยายังไม่ยอมวางโทรศัพท์คืนให้เขา พลางคิดว่าผู้ชายคนนี้นับวันยิ่งใจร้ายกับเธอขึ้นเรื่อย ๆ แต่แค่นี้มันขี้เล็บ เธออยากรู้เหมือนกันว่าเขาจะหนีเธอพ้นได้ยังไง แล้วจะใจแข็งกับเธออีกนานแค่ไหน น้ำหยดลงหินทุกวันมันยังกร่อนได้ นับประสาอะไรกับใจคน

“ใจร้ายกับฉันอีกแล้วนะคะ ฉันพึ่งรู้ว่าคุณแหวนพึ่งลาออก ตอนนี้ตำแหน่งเลขาคุณว่าง ฉันเลย...”

“ผมไม่รับ” เขาปฏิเสธออกไปทันทีอย่างรู้ทัน เขามองออกว่าผู้หญิงคนนี้คิดอะไรอยู่ เรื่องอะไรเขาจะหาเรื่องให้ตัวเองโดยใช่เหตุ ขืนยอมให้ผู้หญิงคนนี้เข้ามาปั่นป่วนในชีวิตเขามากกว่านี้ เขาคงได้ปวดประสาทตายแน่

“อะไรปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใยเลยหรอคะ เอาอย่างนี้ไหมคะ ฉันมีข้อเสนอ”

“ผมไม่รับข้อเสนออะไรจากคุณทั้งนั้น คุณว่างมากหรือไงแก้วกัลยา คุณเอาเวลาที่คุณตามผมไปทำงานมันจะมีประโยชน์กว่านี้นะ” ปกติถ้าโดนคำนี้คงจะวิ่งหนีไปอย่างรับไม่ได้ แต่แก้วกัลยาผู้ไม่ย่อท้อมองข้ามคำด่าเหล่านั้น และยังลอยหน้าลอยตาพูดต่ออย่างไม่สะทกสะท้านคำพูดใด ๆ ของเขา

“ฟังหน่อยสิคะ แลกกับอิสรภาพของคุณ จากนี้ฉันจะไม่มาตามคุณอีก ถ้าคุณยอมรับข้อเสนอนี้” เขามองหน้าเธอนิ่ง ๆ อย่างไม่เชื่อ แก้วกัลยาชูนิ้วขึ้นสามนิ้วเป็นการยืนยันคำสาบาน โดยมืออีกครั้งกำลังไขว้กันในท่ากากบาทไว้ เพทายนิ่งไปพักใหญ่ เหมือนกำลังคิดถึงผลลัพธ์จากข้อเสนอนี้ ถ้ามันทำให้เธอออกไปจากชีวิตเขาได้ตลอดกาลก็น่าจะลองเสี่ยงดู แต่เสี่ยงกับผู้หญิงคนนี้มันจะคุ้มไหม

“ข้อเสนออะไรของคุณ ว่ามา” น้ำเสียงของเขาห้วยสั้นอีกเช่นเคย

“อะไรกันอยากเขี่ยฉันออกจากชีวิตขนาดนั้นเลยหรอคะ ไม่เห็นต้องทำหน้าดุเลยนี่คะ ข้อเสนอของฉันมันสั้น ๆ ง่าย ๆ เลยค่ะ คุณให้เวลาฉันทำงานกับคุณสามเดือน ถ้าเกิดครบตามกำหนด แล้วคุณไม่ได้ชอบฉันมากขึ้น ฉันจะยอมออกไปจากชีวิตคุณทันที” เพทายยิ้มออกมาทันที เพราะผลลัพธ์มันแน่นอนอยู่แล้วตั้งแต่ยังไม่เริ่มด้วยซ้ำ อย่าว่าแต่สามเดือน สามปี เขาก็คงไม่มีวันหลงไปพิศวาสผู้หญิงคนนี้แน่ ๆ ผู้หญิงคนนี้นอกจากหน้าตาไม่มีอะไรให้หน้าพิศวาสเลยสักนิด ห่างไกลจากผู้หญิงในสเปคเขามากโข

“คุณจะบอกว่าคุณจะทำให้ผมรักคุณให้ได้ภายในสามเดือนงั้นสิ”

“ก็ประมาณนั้น แค่คุณให้โอกาสฉันได้อยู่ใกล้คุณ ด้วยการรับฉันมาทำงานในฐานะผู้ช่วยชั่วคราวก็ได้ หลังจากนี้ครบสามเดือนถ้าคุณยังยืนยันว่าไม่ ฉันจะไม่ยุ่งกับคุณอีก เป็นไงคุณได้ประโยชน์เต็ม ๆ มีแต่ฉันที่เสียประโยชน์” แก้วกัลยายิ้มออกมานิด ๆ พลางมองใบหน้าหล่อเหลาของหนุ่มตรงหน้าที่กำลังทำสีหน้าพินิจพิจารณา เธอรู้ยังไงเขาก็ต้องตกลง แสดงออกเสียขนาดนั้นว่ารังเกียจเธอ แต่อีกสามเดือนข้างหน้าใบหน้าที่รังเกียจเธอนี้จะเปลี่ยนไป เธอจะทำให้เขากลายเป็นแมวน้อยที่ตามเธอต่อย ๆ ให้ดู

“ผมจะมั่นใจได้ยังไงว่าคุณจะไม่ผิดคำพูด” เพทายถามและมองผู้หญิงที่กล้าต่อลองเขา แก้วกัลยากล้าต่อลองแบบนี้ แสดงว่าต้องมีบางอย่างแอบแฝงแน่ ๆ เขาพอจะมองความเจ้าเล่ห์ของผู้หญิงคนนี้ออก

“ฉันไม่เคยผิดคำพูด สำหรับฉันพูดคำไหนคำนั้น ฉันมีเวลาแค่สามเดือน ถ้าถึงวันนั้นคุณยังยืนยันฉันจะยอมถอย ถึงฉันจะด้านแค่ไหน แต่ฉันก็มีขีดจำกัดนะคะ ว่าไงคะ ถ้าคุณตกลง จากนี้อีกสามเดือน ถ้าคุณไม่ต้องการพบหน้าฉัน ฉันจะไม่มาให้คุณเห็นหน้าอีก”
“ก็ได้ แต่จำคำของคุณไว้ก็แล้วกัน อย่าผิดคำพูด สิ่งที่ผมเกลียดที่สุดคือคนที่ไม่รักษาคำพูด และอีกสิ่งที่ผมเกลียดไม่แพ้กัน คือผู้หญิงช่วงตื้อแบบคุณ” แก้วกัลยาทำหน้าเศร้าที่ดูก็รู้ว่าเสแสร้งสุด ๆ

“ที่รักใจร้ายกับเค้าอีกแล้วนะคะ มันเจ็บนะรู้ไหม แต่เค้าให้อภัยที่รักได้เสมอ ต่อให้ที่รักจะด่าจะว่าเค้าก็ยังรักที่รักนะคะ” แก้วกัลยาดวงตาคมที่จ้องมองเธอเหมือนอยากจะไล่ให้เธอออกไปเต็มทีแล้ว

“ก็ได้ ๆ ฉันจะไม่กวนคุณแล้ว ชอบทำหน้าโหด ระวังแก่เร็วแล้วสาวจะหนี แต่ไม่ต้องกลัวเค้าไม่หนีที่รักหรอก โอ๊ะ...โอเค ๆ ไม่เล่นแล้วค่ะ เรื่องงานล่ะคะ” แก้วกัลยามองผู้ชายที่หล่อแต่ดุสุด ๆ

“แล้วคุณไม่ทำงานของคุณหรือไง”

“ฉันจัดการได้ คุณไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ ฉันจะทำงานที่คุณมอบหมายไม่ให้ขาดตกบกพร่องเลย นี่ค่ะโทรศัพท์คุณ” เพทายคว้ามือจะเอื้อม แต่เจ้าตัวกลับดึงมือกลับ ใบหน้าคมคร้ามเริ่มฉายแววไม่พอใจมากขึ้น สุดท้ายแก้วกัลยาก็ยอมยื่นโทรศัพท์ให้เขาอีกครั้ง เพทายรับโทรศัพท์จากมือของแก้วกัลยา ครั้งนี้เขาคิดว่าหล่อนต้องเล่นมุกเดินจึงกะจะคว้าโทรศัพท์แล้วดึงกลับมา แต่ไม่คิดว่าแก้วกัลยาจะจับมือเขาไว้ ในจังหวะกระชากทำให้ตัวเธอถลาเข้ามาด้วย และกลายเป็นว่ากระตุกเธอล้มลงมานั่งอยู่บนตักตัวเอง ซึ่งเจ้าตัวตอนแรกที่แสดงสีหน้าตกใจ แต่มันก็หายไปชั่ววินาทีหนึ่ง เธอเปลี่ยนเอามามือทั้งสองข้างมาคล้องคอเขาไว้ และเอียงหน้ามาซบอกกว้างอย่างไม่อายสายตาเขา

“อยากให้เค้ากอดก็ไม่บอก ที่รักไม่ต้องอายนะคะมันเป็นเรื่องธรรมชาติ กอดแล้วหอมแก้มด้วยดีไหมคะ” แก้วกัลยายังไม่เลิก และแกล้งต่อด้วยความสนุกสนานในใจ เขาพยายามจะแกะมือนุ่มของเธอออก แต่มือตุ๊กแกของเธอไม่มีทีท่าว่าจะหลุดออกง่าย ๆ แถมเจ้าตัวยังยื่นหน้าเข้ามาใกล้เขาเป็นจังหวะเดียวกับที่ประตูประออก ผู้หญิงสองคนก้าวเข้ามาในห้อง ใบหน้าของแก้วกัลยาและเพทายหันไปมองแขกที่เดินเข้ามา แก้วกัลยากระหยิ่มยิ้มขึ้นมาในใจ เมื่อเห็นแขกที่มาปรากฏกายอยู่หน้าประตูห้อง

“ดาหวัน” เพทายมองผู้หญิงที่เป็นว่าที่แฟนของเขา เขาพยายามแกะมือที่ไม่ต่างจากตีนตุ๊กแกของแก้วกัลยาออก แต่เจ้าตัวกลับล็อคคอเขาไว้แน่น และยังเอียงหน้าซบอกเหล่ตามองดารินทิพย์ และสุจิรา ซึ่งคนที่เดือดออกมาจากสีหน้าอย่างเห็นได้ชัดคือสุจิรา

“น่าเกลียดที่สุด” สุจิราเอ่ย ดารินทิพย์มองภาพนั้นและรีบเดินออกจากห้องไป ส่วนสุจิรามองเพื่อนที่ยอมล่าถอยออกไปง่าย ๆ อย่างไม่พอใจ พลางปลายตามองมาที่แก้วกัลยาอีกครั้ง สุดท้ายก็วิ่งตามเพื่อนไป

“ดาหวัน” เพทายเอ่ยเรียกชื่อสาวน้อยที่วิ่งออกไปอย่างตกใจ

“โอ๊ะ ฉันลืมบอกคุณไปได้ยังไงกันนะ ว่าฉันมีมารยาทที่จะไม่รับโทรศัพท์คุณ แต่ฉันก็ไม่มีมารยาทพอจะส่งข้อความไปหาคุณดาหวัน ว้า...ลืมบอกได้ยังไงนะ” เพทายมองผู้หญิงตรงหน้าด้วยแววตาโกรธ เขาแกะมือแก้วกัลยาออกได้สำเร็จ แต่อาจเป็นเพราะยอมแก้วกัลยาคลายมือออกด้วย มือของแก้วกัลยาจึงหลุดออกมาง่าย ๆ แต่แก้วกัลยาไม่คิดว่าเขาจะกล้าผลักเธอล้มลงไปกองกับพื้นและวิ่งออกจากห้องไป ร่างบางของแก้วกัลยากระเด็นไปชนกับเหลี่ยมตู้ที่ตั้งอยู่มุมห้อง เกิดเป็นรอยแผลเล็ก ๆ และเลือดไหลซึมออกมา แก้วกัลยาเช็ดน้ำที่ไหลลงมาจากหางคิ้วในตอนแรกคิดว่าเหงื่อ แต่เมื่อเห็นเป็นเลือดใบหน้าหวานก็ซีดขึ้นมาทันที

“เลือด เล่นแรงขนาดนี้เลยหรอ ดีถ้าฉันไม่ได้คุณ ฉันจะต้องเล่นงานคุณให้เจ็บแสบเลย” แก้วกัลยาบ่น และดันร่างตัวเองลุกขึ้นยืน สิ่งแรกที่ทำคือไปหาหมอ ใบหน้าสวยของเธอต้องไม่มีรอยแผลเป็นเด็ดขาด แต่เดินมาได้ถึงหน้าประตูห้องก็เห็นเพทายเดินออกจากลิฟต์มา เดาว่าคงตามดารินทิพย์ไปไม่ทัน เขามองแก้วกัลยาด้วยสายตาไม่พอใจ แต่พอหันมาเห็นเลือดที่ไหลซึมออกมาจากบาดแผลเล็ก ๆ ความรู้สึกผิดก็แล่นเข้ามาในใจ

“ที่รักใจร้ายกับเค้ามากไปแล้วนะคะ ครั้งหน้าเค้าจะไม่ยอมให้ที่รักทำกับเค้าแบบนี้ เจอกันพรุ่งนี้นะคะ” แก้วกัลยาเอ่ยและเดินผ่านหน้าเขาไปได้เพียงไม่กี่ก้าว

“เดี๋ยว” แก้วกัลยาหันมาส่งยิ้มให้เขา

“เลิกทำหน้าเหมือนคนบ้าสักที หัวคุณแตก ไปทำแผลก่อน” แก้วกัลยายิ้มกว้างออกมามากกว่าเก่าและวิ่งเข้ามาเกาะแขนเขาไว้อย่างได้ใจ

“ผมไม่ได้ทำเพราะพิศวาสคุณหรอกนะ แต่เพราะมนุษยธรรมต่างหาก” และเขาก็ดึงแขนตัวเองออกและเดินกลับเข้าไปในห้อง แก้วกัลยายิ้มมองผู้ชายที่ทำตัวใจร้ายแต่ก็แอบใจดีอยู่ลึก ๆ แบบนี้สามเดือนยังไงเธอก็ต้องคว้าหัวใจเขามาให้ได้อย่างแน่นอน





ตึก ตึก ตึก

หนุ่มหล่อหน้าหวานคนหนึ่งกำลังวิ่งหนีกองทัพแฟนคลับออกจากซอยแห่งหนึ่ง ใบหน้าหล่อเต็มไปด้วยหยาดเหงื่อ หนุ่มหล่อหน้าใส และหวานดั่งผู้หญิงคนนี้คือ ...คีตภัทร วรรณเวศย์... หนังร้องหนุ่มที่กำลังเป็นเบอร์ต้น ๆ ของวงการเพลงในขณะนี้ หลังจากที่เคลียร์คิวจนว่างเจ้าตัวจึงตัดสินใจมาทำบุญที่วัดในวันว่าง แต่สิ่งที่ไม่คาดคิดมาก่อนคือเกิดไปเจอแฟนคลับสาวที่ประมูลเดตของเขาในงานการกุสลได้ แต่แค่เดตเดียวแม่คุณก็ตีตนไปเองว่าเป็นแฟน ทั้งที่เขาบอกแล้วว่าเขาแค่ทำตามหน้าที่ เขาคงจะคิดว่ามันเป็นเรื่องบังเอิญ ถ้าไม่เห็นบุคคลชุดดำจำนวนหนึ่งที่ยืนอยู่ด้านหลังเธอ เขาก็รู้ทันทีว่ามันไม่บังเอิญแล้ว แต่เจ้าหล่อนตั้งใจมาดักรอเขาต่างหาก และเมื่อที่เจ้าหล่อนเห็นหน้าเขา เธอก็สลัดทุกสิ่งทิ้งและวิ่งตามเขามา แต่เพราะเขาวิ่งหนีเธอก็เลยตะโกนชื่อเขาเสียดังลั่น ทำให้เหล่าบรรดามวลชนที่อยู่ในที่แห่งนั้นหันมามอง เมื่อเห็นว่าเป็นดาราก็พากันวิ่งตาม นอกจากกลุ่มคนชุดดำคนของคุณหนูไฮโซเขาก็ต้องวิ่งหนีเหล่าบรรดาแฟนคลับด้วย เกือบยี่สิบนาทีที่เขาวิ่งหาที่หลบ แต่กลับมีตาดีหันมาเจอ เขาจึงต้องวิ่งมาราธอน และวิ่งลัดเลาะซอยซึ่งยังมีเสียงที่ตามดังมาไม่ขาดสาย เขาตัดสินใจวิ่งข้ามถนนโดยไม่ได้มองทางในจังหวะนั้นรถคันหนึ่งก็วิ่งพุ่งเข้ามา คีตภัทรหันไปมองดวงตาที่ซ่อนอยู่หลังแว่นกันแดดสีดำกำลังฉายแววตาที่ตกใจสุด ๆ เมื่อรถคันหนึ่งกำลังวิ่งเข้ามาชนเขา เขาก้าวถอยหลังล้มลงไปกองกับพื้นในช่วงวินาทีแห่งชีวิตนั้น

เอี๊ยด!!!

เสียงเจ้าของรถที่เหยียบเบรกดังหวีดก้องไปทั่วถนน ส่วนตัวเขาเองก็ใจหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่มตั้งแต่เห็นว่ารถกำลังจะพุ่งเข้ามาชนเขานั่นแหละ เจ้าของรถที่เมื่อคิดว่าอยู่ในระยะที่ปลอดภัยก็วิ่งลงมาจากรถ เพื่อดูอาการของชายที่วิ่งเข้ามาตัดหน้ารถ เจ้าของรถคือสาวสวย รูปร่างสูงโปร่ง เธอคือน้องสาวลำดับสามของบ้านสิทธิทรัพย์อาภา เธอคือวันวิวาห์ วันวิวาห์ที่ตั้งสติได้รีบเปิดประตูลงมาดูชายที่วิ่งตัดหน้ารถของเธอ เธอเดินเข้ามาหยุดอยู่ตรงหน้าชายหนุ่มที่นั่งอยู่บนพื้น

“คุณคะ” เมื่อเห็นหนุ่มที่ตนเกือบจะขับรถชนยังไม่ยอมเงยหน้าจึงเอ่ยเรียก คีตภัทรที่รู้สึกได้ว่าตัวเองปลอดภัยแล้วก็เงยหน้าขึ้นมองเจ้าของเสียงหวานแต่กลับเย็นเยียบ พลันดวงตาที่สวยหวานไม่แพ้ผู้หญิงก็นิ่งงันราวกับต้องมนตร์สะกด เขามองเธอนิ่งค้างไปพักใหญ่ จนเธอต้องถือวิสาสะเขย่าตัวเขาอีกครั้ง

“คุณไม่ได้เป็นอะไรนะคะ” เธอถามอีกครั้ง เมื่อเห็นบาดแผลที่มีเลือดไหลมาจากศีรษะ และเสียงหวานที่ดังอยู่ตรงหน้าอีกครั้งก็ทำให้หนุ่มหน้าหวานขวัญใจประชาชนกลับมาได้สติ

“เอ่อ...”

“คีตะ” เสียงของแฟนคลับสาวที่ตามไม่เลิกดังขึ้น คีตภัทรตัดสินใจดึงตัวสาวสวยเจ้าของรถไปนั่งประจำตำแหน่งข้างคนจับ ส่วนตัวเองวิ่งอ้อมกลับไปนั่งตำแหน่งคนขับ เจ้าของรถคนสวยเองอยากจะท้วง แต่เห็นใบหน้าตื่น ๆ กับกลุ่มคนที่กำลังร้องเรียกและวิ่งตามทำให้ยอมเงียบเสียงให้คนแปลกหน้าขับรถออกไป เธอลอบสังเกตผู้ชายแปลกหน้าที่ใส่แว่นดำพลางไว้ แต่มันก็ปิดความหล่อแบบมีออร่าไว้ไม่มิด เมื่อหนึ่งชั่วโมงก่อนเธอออกจากบ้านแวะมาทำบุญที่วัดก่อนจะแวะเข้าไปที่โรงพยาบาล แต่ไม่คิดว่าจะมาเจอเหตุการณ์วุ่นวายแต่เช้า

“คือ...ผมขอโทษนะ ผมไม่ได้อยากจะทำตัวเสียมารยาท แต่คุณเข้าใจใช่ไหม” เขาพูดขณะขับรถมาจอดลงในวัดอีกแห่งที่เงียบและสงบไปแพ้กัน ก่อนจะหันมามองสาวเจ้าของรถที่มองหน้าเขาและขมวดคิ้ว

“คือ...”

“คุณหัวแตก” คีตภัทรเอามือคลำหัวตัวเอง และนึกขึ้นได้ตอนที่วิ่งหนีกองทัพแฟนคลับตนวิ่งไปชนเสามา แต่ไม่คิดว่าหัวจะถึงกับแตก วันวิวาห์ยื่นผ้าเช็ดหน้าให้หนุ่มที่กำลังนั่งนิ่งเหม่อลอย

“เอ่อ...ขอบคุณครับ” เขามองน้ำใจที่สาวแปลกหน้า แต่สวยสง่าหยิบยื่นให้อย่างขอบคุณและซึ้งใจ

“เดี๋ยวฉันทำแผลให้แล้วกัน ลงมาสิคะ” วันวิวาห์เอ่ยและเปิดหยิบกล่องปฐมพยาบาลกล่องเล็กที่ตนพกติดรถไว้เสมอลงมาด้วย ส่วนคนที่หัวแตกที่ได้แต่เดินลงจากรถเดินตามไปนั่งใต้ต้นไม้ เขาถอดแว่นออก ใบหน้าของสาวสวยยังคงนิ่งงันไม่มีท่าทีว่าจะคุ้นหน้า หรือตกใจที่เห็นนักร้องดังอย่างเขา

“เอ่อ...คุณไม่รู้จักผมงั้นหรอ” ดวงตาเย็น ๆ สบมองเขาและส่ายหน้าแทนคำตอบ เธอค่อย ๆ ทำแผลอย่างเบามือจนสุดท้ายเมื่อปิดพลาสเตอร์เสร็จก็จัดการเก็บของเดินหันหลับขึ้นรถ แต่

“คุณไม่รู้จักผมจริง ๆ สิ” วันวิวาห์พยักหน้าอีกครั้ง เขาเดินมาขวางหน้าเธอไว้

“ผมคีตภัทร ผมเป็นนักร้อง แต่ผมไม่ได้หลงตัวเองนะ คนครึ่งค่อนประเทศรู้จักผมกันทั้งนั้น แถมรูปผมยังติดอยู่ตามแผ่นป้ายตั้งเยอะ ละครผมก็เล่น ตอนนี้ก็ยังออนแอร์อยู่ คุณจะไม่รู้จักผมได้ยังไง” คีตภัทรไม่แน่ใจว่าเมื่อครู่วูบหนึ่งเขาเห็นสายตาไม่พอใจของเธอหรือเพราะมันจะกลืนหายไปพร้อมกับดวงตาที่แสนเย็นชาอย่างรวดเร็วทำให้เขาไม่แน่ใจ

“คุณเป็นนักร้อง ไม่ได้หมายความว่าทุกคนจะรู้จักคุณหรอกนะคะ คุณคงหารถกลับเองได้ ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ดิฉันขอตัว” วันวิวาห์เดินอ้อมตัวเขาจะขึ้นรถ แต่คีตภัทรที่ยังข้องใจจึงจับมือเธอไว้ ดวงตาสวยคมตวัดกลับมามองเขาในทันที เขารู้สึกขนลุกไปวูบหนึ่งและรีบปล่อยมือเธอออกทันที

“คือ...ผมอยากจะถามว่าคุณชื่ออะไร เผื่อเราเจอกันอีก” วันวิวาห์ไม่ได้เปลี่ยนสีหน้าไปจากเดิม

“ฉันไม่ชอบแนะนำตัวกับคนแปลกหน้า และคิดว่าเราคงไม่ได้เจอกันแล้ว ขอตัวนะคะ” พูดจบเจ้าตัวก็เปิดประตูรถขึ้นไปและขับออกไปทันที ทิ้งให้ซุปเปอร์สตาร์คนดังรู้สึกเสียเซลฟ์ที่เคยคิดว่าตนมีชื่อเสียงมาก และไม่อยากจะเชื่อว่ามีคนที่ไม่รู้จักเขา และไม่หลงเสน่ห์เขาอีกคน

“ผู้หญิงอะไร หน้าตาก็สวย แต่เย็นชาชะมัด” นั่นคือคำพูดสุดท้ายก่อนที่เขาจะเดินไปรับโทรศัพท์ที่พึ่งติดต่อมา




.....ติดตามตอนต่อไป....

รอติดตามกันในตอนต่อไปว่าแก้วกัลยาของเราคิดจะทำอะไร เธอจะพิชิตคุณเพชรได้ยังไง
ต้องช่วยกันลุ้น ช่วยกันติดตาม
ขอบคุณคำคอมเมนต์ ขอบคุณที่เข้ามาติดตามนะคะ



พัชรีพร
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 12 มิ.ย. 2557, 09:50:36 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 25 มิ.ย. 2557, 11:27:01 น.

จำนวนการเข้าชม : 1264





<< 8 เจ้านายคนใหม่ หรือเจ้ากรรมคนเดิม   10 ก่อร่างสร้างหนี้ >>
แก้วจินดา 12 มิ.ย. 2557, 13:08:37 น.
เปิดคู่ของคุณหมอวันวิวาห์แล้วใช่ไหมคะ


รวิกานต์ 12 มิ.ย. 2557, 14:56:33 น.
แก้วจะทำอะไรต่อนี่ล่ะที่น่าลุ้น


แว่นใส 12 มิ.ย. 2557, 20:49:30 น.
เจ้าแผนการจริง ๆ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account