เงารักเงาใจ
เมื่อ...



เขาและเธอต้องใช้ชีวิตคู่โดยปราศจากความรัก





และ…



เขา ชายหนุ่มผู้ที่เคยพึงพอใจผู้หญิงอีกคนแต่กลับ

ต้องแต่งงานกับผู้หญิงอีกคน





ส่วน…

เธอ หญิงสาวผู้ชอกช้ำจากความรัก

และใช้การแต่งงานกับผู้ชายอีกคนเพื่อตัดใจจากคนรักเก่า





แต่…

จะเป็นเช่นไรเมื่อคนที่เขาพยายามลืมกลับจำ

และ...คนที่เป็นรักแรกของเธอต้องการจะรื้อฟื้น





เรามาช่วยกันลุ้นกับพวกเขาสองคนว่า

จะสามารถฟันฝ่า อุปสรรคไปได้ตลอดรอดฝั่งหรือไม่

ใน นิยายรักดราม่า

เงารักเงาใจ

(เปลี่ยนชื่อจากสุดรักจากใจ)




Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: เงารักเงาใจ ตอนที่ 2 30 เปอร์เซ็นต์


ตอนที่ 2



ธิดารัตน์ถูกเพชรกล้าเหวี่ยงไปชนกับเตียงนอนขนาดใหญ่และแรงพอที่จะทำให้คนตัวเล็กล้มไปนอนกลิ้งบนเตียง กระนั้นหญิงสาวยังลุกขึ้นยืนมองผู้ชายตรงหน้าอย่างตื่นตระหนก สายตาคมที่กำลังมองเธอด้วยความโกรธ ธิดารัตน์กลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็นมองฝ่ายตรงข้ามด้วยความหวาดกลัวก่อนที่ตัวเธอจะถูกเขาจับล๊อคไว้อีก



“ปล่อยฉันนะคะ”



หญิงสาวสะบัดดิ้นเมื่อถูกอีกฝ่ายจับต้นแขนเธอ แรงบีบของมือหนาทำให้หญิงสาวน้ำตาคลอด้วยความเจ็บปวด แถมปากหนาของเขายังตอกย้ำให้เธอรู้สึกเจ็บยิ่งกว่า



“เป็นเมียผมมันอดยากมากนักหรือไงถึงได้ไปอ่อยผู้ชายคนอื่นมา คงจะไปไหนต่อไหนกันมาแล้วสิท่าถึงเพิ่งกลับบ้านมา” ธิดารัตน์โมโหสะบัดแขนหนีแล้วผลักเพชรกล้าล้มกับพื้น เพชรกล้ายิ่งโมโหลุกขึ้นยืนหมายจะกระชากเธอให้สาสมกับที่เธอผลักเขาจนล้ม ความไหวของเท้าหนาไม่เท่ามือเล็กที่ไปคว้าโคมไฟมาถือในมือได้ทันก่อนจะชูมันขึ้นมาแล้วพูดเตือนสติเขา



“อย่าเข้ามานะคะ ถ้าไม่อยากหัวแตก” เพชรกล้ากัดกรามแน่นแสยะยิ้ม



“คุณกล้าหรือ แม้แต่ปฏิเสธพ่อแม่คุณยังทำไม่ได้เลย แล้วนับประสาอะไรกับเรื่องทำร้ายคน” ธิดารัตน์เม้มปาก กัดฟันพูด



“ฉันไม่เคยพูดเล่น ถ้าคุณไม่กลัวหัวคุณแตกก็เข้ามาสิ รับรองว่าฉันตีหัวคุณไม่ยั้งมือแน่” เพชรกล้ามองเห็นแววตาที่แน่วแน่ ร่างหนายืนนิ่งแล้วส่ายหน้าไปมา



“ผมถามคุณจริงๆ เถอะ คุณจะทนอยู่กับผมไปเพื่ออะไร อยู่ไปก็มีแต่เจ็บตัว ความจริงเราน่าจะหย่ากันไปให้พ้นๆ” ธิดารัตน์ใจเสีย เธอไม่ต้องการหย่าและคิดไว้เสมอว่าสักวันผู้ชายคนนี้จะรักเธอเหมือนอย่างที่เธอรักเขาจนหมดหัวใจ ความกลัวทำให้หญิงสาวต้องเอ่ยในสิ่งที่ไม่อยากพูด



“คุณคงลืมไปแล้วว่าตระกูลของฉันยกหนี้สินให้ตระกูลคุณเพราะอะไร หนี้สินจำนวนมากมายมหาศาลชาตินี้คุณไม่มีทางหาเงินมาชดใช้ได้ ถ้าคุณหย่า หนี้สินทั้งหมดที่พ่อแม่ฉันยกให้ครอบครัวคุณก็เป็นอันโมฆะ คุณต้องหาเงินมาจ่ายหนี้ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะหมดเมื่อไร คิดดูให้ดีๆ นะคะว่ามันคุ้มไหม ถ้าคุณคิดจะหย่ากับฉัน” เพชรกล้ากัดกรามแน่น นึกโมโหตัวเองที่ไม่สามารถหาเงินจำนวนมากมายมาใช้คืนชัยชนะวัตรจนต้องจำใจแต่งงานกับธิดารัตน์เพื่อชดใช้หนี้ เพชรกล้าแววตาดูอ่อนลง ธิดารัตน์ได้ทีเอ่ยเตือนสติเขา



“ตอนนี้ผู้หญิงคนนั้นเธอก็แต่งงานกับผู้ชายที่คู่ควรไปแล้ว เธอมีสามีเหมือนกับคุณที่มีภรรยาแล้ว ดังนั้น...” ธิดารัตน์ยังพูดไม่จบก็ถูกเพชรกล้าสวนข้อความกลับสีหน้าไม่พอใจ



“ต่อให้สุปรางวดีจะมีลูกไปแล้วก็เถอะ ผมก็จะแย่งเธอกลับมาเป็นของผมตามเดิม”



“แล้วคุณคิดหรือคะว่าคุณสุปรางวดีเธอจะยังมีใจให้คุณอยู่ ผู้ชายที่เพียบพร้อมอย่างภาคดนัย อภิมหาบวรทรัพย์ ไม่มีผู้หญิงคนไหนปฏิเสธได้หรอกมีแต่คนโง่เท่านั้นที่จะทำแบบนั้น” ดวงตาหวานอมทุกข์ ความรักเท่านั้นที่ทำให้ธิดารัตน์ตกเป็นคนโง่งม เธอปฏิเสธในสิ่งที่ผู้หญิงทุกคนใฝ่ฝันเพียงเพราะเธอรักผู้ชายคนนี้ แม้ครอบครัวเธอจะกีดกันครอบครัวของภาคดนัยแต่หากเธอเต็มใจที่จะแต่งงานกับภาคดนัย ทุกอย่างก็จะไม่มีปัญหา แต่เธอโง่เองที่เลือกบูชาความรักมากกว่าความเหมาะสม เท้าหนาก้าวเท้ามาหา ธิดารัตน์ตกใจจับโคมไฟไว้มั่น



“อย่าเข้ามานะคะ ถ้าคุณไม่อยากเจ็บตัว ฉันไม่ได้ขู่นะ” เพชรกล้าหัวเราะหึหึ



“ทีกับผมทำเป็นหวงตัว แล้วทีกับไอ้ภาคดนัยดูคุณสนิทสนมกับมันมาก หรือว่าลับหลังผม คุณแอบไปขึ้นเตียงกับมันมาแล้วล่ะ”



“สารเลว” ธิดารัตน์เอ่ยทั้งน้ำตา เพชรกล้าชาไปทั้งตัว พูดใส่อารมณ์



“ถ้าคนอย่างผมมันสารเลว แล้วคนอย่างพวกคุณมันเรียกว่าอะไร ผู้ดีที่หน้าไหว้หลังหลอก ตลบตะแลง เจ้าแผนการอย่างพวกคุณเขาเรียกว่าอะไร ” ธิดารัตน์ยืนตัวสั่น เขาไม่เพียงต่อว่าเธอคนเดียวแต่กลับลากบิดามารดาของเธอมาพูดถึงให้เสื่อมเสียอีก ธิดารัตน์มองหน้าเพชรกล้าด้วยสายตาแห่งความผิดหวัง ปากอิ่มเอ่ยเสียงสั่น



“สิ่งที่คุณทำกับฉัน และคำพูดพล่อยๆ ที่ออกมาจากปากของคุณ นอกจากจะทำให้คุณดูต่ำลงแล้ว มันยังทำให้ฉันได้คิดว่า ผู้หญิงที่ชื่อสุปรางวดี เขาโชคดีแค่ไหนที่ได้คู่ครองอย่างภาคดนัย อภิมหาบวรทรัพย์” จบประโยคนั้นโคมไฟในมือก็ถูกมือหนาแย่งมาก่อนจะโยนมันทิ้งพื้นดังเพล้ง ธิดารัตน์ยกมือขึ้นปิดหูตัวเอง ความรู้สึกตอนนี้คือกลัวไปหมด ไม่นานมือเล็กก็ถูกกระชากโดยมือหนา



“ขอให้คุณรู้ไว้อย่าง สุปรางวดีไม่คู่ควรกับผู้ชายคนไหนทั้งนั้นนอกจากผม จำเอาไว้ว่าคุณไม่มีสิทธิ์คิดหรือตัดสินใจแทนผม ถ้าผมเลือกได้ผู้หญิงอย่างคุณต่อให้ยกใส่พานแล้วถวายมาให้ผม ผมก็ไม่เอา” จบคำพูดมือหนาก็สะบัดมือเล็กออกห่างไม่เพียงแค่นั้นยังใช้สายตามองเธออย่างเหยียดหยาม ธิดารัตน์น้ำตาไหลพรากมองประตูห้องที่ปิดสนิท



ข้างนอกพิเศษกับกาญจนาออกมาจากห้องเพราะได้ยินเสียงเหมือนของตกแตกก่อนทั้งสองจะพบลูกชายเดินลงบันไดไปแล้ว ธิดารัตน์มองเศษแก้วจากโคมไฟแตกกระจัดกระจายก้มลงเก็บมันไปพร้อมกับน้ำตาที่ไหลริน ตั้งแต่เธอจำได้ เพชรกล้าไม่เคยทำหน้าที่สามีที่ดีกับเธอ เขามักจะทำตัวร้ายๆ กับเธอและตอกย้ำว่าเขาจำใจต้องแต่งงานกับเธอและทำเพื่อครอบครัว ใบหน้าหวานสลดลงไปนิด ยิ่งฝืนทนก็ยิ่งมองไม่เห็นทางสว่างในวันข้างหน้าและหากจะยุติในตอนนี้ทุกอย่างก็ยิ่งเหมือนจะแย่ลง เสียงเคาะประตูดังขึ้นมา หญิงสาวสะดุ้งแล้วมองไปที่ประตูได้ยินเสียงคนเรียก มือเล็กรีบเช็ดน้ำตาลุกขึ้นเดินไปเปิด



“หนูดา นี่มันเกิดอะไรขึ้น พ่อได้ยินเสียงเหมือนอะไรแตก” พิเศษถามลูกสะใภ้ กาญจนาก็ถามลูกสะใภ้บ้าง



“นั่นสิ ทะเลาะกันอีกแล้วใช่ไหม” ธิดารัตน์ยิ้มเจื่อนไม่อยากทำให้ท่านทั้งสองไม่สบายใจ ปฏิเสธเสียงเรียบ



“เปล่าค่ะคือ ดาซุ่มซ่ามเองเลยทำโคมไฟตกนะคะ” พิเศษหันมาสบตากาญจนาต่างรู้ดีว่าธิดารัตน์พูดโกหกเพราะคนที่พูดความจริงจะไม่หลบสายตาคู่สนทนาแบบนี้



“เดี๋ยวพ่อจะเรียกแหวนขึ้นมาเก็บกวาดให้ละกัน หนูดาก็อย่าไปเก็บเอง เดี๋ยวจะโดนบาดมือเอา” ฝ่ายกาญจนาเดินเข้ามาหาหยิบมือเล็กขึ้นมากุมไว้ลูบเบาๆ



“ถ้าหนูอึดอัดใจหรือมีปัญหาอะไรก็บอกแม่ได้นะ ถึงแม่จะเป็นแม่สามีแต่แม่ก็รักและเอ็นดูหนูมาก” ธิดารัตน์ฝืนยิ้มทั้งที่ในใจกำลังร้องไห้ มันจะมีประโยชน์อะไรในเมื่อลูกชายของนางไม่ได้รักและเอ็นดูเธอเหมือนนาง ธิดารัตน์เพียงพยักหน้าแทนคำตอบแล้วปล่อยน้ำตาออกมาหลังจากที่ประตูปิดสนิท





เพชรกล้าขับรถไปหาเหล้ากินก่อนจะขับรถไปเรื่อยเปื่อย ในใจกำลังรู้สึกกระวนกระวายใจเป็นที่สุด เมื่อนึกถึงว่าสุปรางวดีกำลังมีความสุขกับผู้ชายอีกคนที่ไม่ใช่เขา มือหนายกขึ้นมาลูบที่หน้าอกข้างซ้ายด้วยความรู้สึก เจ็บปวดที่สุด



สุปรางวดีเดินออกมาสูดอากาศรอบดึกที่ระเบียงด้านนอก เวลานี้เธอควรหลับไปแล้วแต่ทำไมถึงข่มตานอนไม่ลง หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้ารู้สึกผิดหวังที่คืนนี้มองไม่เห็นดาวสักดวง ท้องฟ้าดูมืดมิดเหลือเกินราวกับถูกกำมะหยีสีดำปกคลุมเอาไว้ นิ้วเรียวเสยเส้นผมยาวไปไว้หลังหูกำลังคิดว่าพรุ่งนี้ชีวิตของเธอจะมีการเปลี่ยนแปลงอะไรเกิดขึ้นบ้าง ทันใดนั้นเสียงกริ่งดังอยู่หน้าห้อง ดวงตากลมโตดูแปลกใจไม่น้อยเพราะดึกป่านนี้ใครที่ไหนจะมาหาเธอ ความข้องใจถูกไขข้อสงสัยเมื่อเท้าเล็กเดินไปเปิดประตูกลับส่งสายตาแปลกใจอย่างมากเมื่อเห็นเพื่อนบ้านที่อาศัยอยู่ข้างๆ คอนโดของเธอ



“มีอะไรหรือคะ” สุปรางวดีถามเสียงใส



“คือ ฉันไม่มีหรอกค่ะแต่คนๆ นี้นะสิค่ะ เขาน่าจะมีอะไรกับคุณ เห็นเรียกชื่อคุณแล้วเคาะประตูหน้าห้องของคุณอยู่นานแล้ว ฉันหวังดีเลยช่วยกดกริ่งให้” เหมือนจะเป็นการหวังดีที่ทำให้สุปรางวดีลำบากใจ ผู้ชายที่นั่งตัวนิ่งอยู่ข้างประตูของเธอแถมเนื้อตัวยังได้กลิ่นแอลกอฮอล์ฟุ้ง



“ขอบคุณมากค่ะ” สุปรางวดีเอ่ยขอบคุณและมองเพื่อนบ้านที่หวังดีเดินกลับเข้าห้อง ใบหน้าหวานก้มลงมองผู้ชายที่ไม่ได้สติเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ รู้สึกเหนื่อยและอ่อนล้าเหลือเกิน หากให้เขานอนอยู่ข้างนอกถึงเช้าคงถูกใครๆ นินทาหาว่าเป็นคนใจดำเป็นแน่



“เป็นไงเป็นกัน” สุปรางวดีพึมพำก่อนจะย่อตัวสะกิดเขาเบาๆ ปากอิ่มส่งเสียงเรียกชื่อเขาเบาๆ



“คุณเพชร คุณเพชรค่ะ”



“อย่ามายุ่ง ยังไงก็ไม่กลับบ้าน ผมจะอยู่กับคุณ ปรางค์” เสียงนั้นอู้อี้แต่สุปรางวดีจับใจความได้ หญิงสาวถอนหายใจรู้สึกเจ็บปวดกับคำพูดของเขา ปากอิ่มถามเขาซ้ำ “ถ้าคุณอยากอยู่กับปรางค์แล้วคุณไปแต่งงานกับคนอื่นทำไม คุณทำร้ายหัวใจปรางค์ทำไม” ดวงตากลมโตปล่อยน้ำตาออกมา เธอบอกตัวเองว่าจะไม่เสียน้ำตาให้เพชรกล้าอีกแต่จนแล้วจนรอดเธอก็ทำใจไม่ได้เสียที หรืออาจเป็นเพราะเขายังวนเวียนใกล้ๆ เธออยู่





ติ๊งต๊อง....



เสียงกริ่งหน้าห้องทำให้คนที่นอนไม่เต็มอิ่มรู้สึกขัดใจ แต่เสียงนั้นก็ยังคงดังต่อเนื่องจนสุปรางวดีต้องลุกขึ้นมา ปากเล็กตะโกนกลับไป “ตื่นแล้วค่ะ ตื่นแล้ว” หญิงสาวในชุดนอนตัวบางเดินออกมาจากห้องนอนตรงไปยังประตูหน้าห้องเพราะคิดว่าน่าจะเป็นเพื่อนบ้านข้างห้องคนเดิม มือเล็กขยับลูกบิดไปมาแล้วเปิดออกทันที



แต่เมื่อประตูเปิดออกก็เผยคนตัวสูงยืนตระหง่านตรงหน้า เสื้อผ้าเขาในวันนี้เป็นเพียงชุดลำลองฟรีสไตล์ไม่ใช่ชุดสูทดูดีเหมือนเช่นเมื่อคืน สุปรางวดียืนตะลึงเพราะไม่คิดว่าจะเป็นภาคดนัยที่มาหาเธอแต่เช้าตรู่



“คุณภาคดนัย” หญิงสาวเอ่ยชื่อเขา อีกฝ่ายโค้งหัวลงนิดก่อนจะยืนตัวตรงตามเดิม

ภาคดนัยยิ้มมุมปากแล้วสายตาคมก็มองเธอแปลกๆ สุปรางวดีเหมือนรู้ตัวก้มลงมองตัวเองแล้วต้องรีบเอามือขึ้นกอดอกเพราะชุดนอนสายเดี่ยวของเธอมันเว้าลึกไปถึงร่องอก อีกฝ่ายยังคงยิ้มแฝงยื่นลิลลี่ที่ซ่อนไว้ด้านหลังให้เธอ สุปรางวดีทำหน้างงๆ แต่ก็รับมาถือไว้



“เอ ให้ฉันหรือคะ” อีกฝ่ายพยักหน้า



“ผมไม่รู้ว่าคุณชอบดอกอะไร แต่ผมชอบลิลลี่ก็เลยคิดว่าคุณน่าจะชอบมันด้วย” ภาคดนัยเอ่ยเสียงเบา สุปรางวดีพยักหน้า ปากอิ่มถามกลับไปด้วยความสงสัย



“เออ สำหรับดอกไม้ คุณให้ฉันเนื่องในโอกาสอะไรคะแล้ว มาหาฉันแต่เช้าแบบนี้มีเรื่องอะไรหรือเปล่า”



“ข้างนอกอากาศร้อนมาก ขอผมเข้าไปข้างในก่อนได้ไหมครับ แล้วผมจะตอบในสองข้อที่คุณถาม” ภาคดนัยว่ายิ้มๆ สุปรางวดีชะงัก เธอเพิ่งนึกได้ว่าเพชรกล้าก็นอนที่นี่และภาคดนัยอาจเข้าใจผิดเรื่องเธอกับเพชรกล้า หญิงสาวจึงรีบปฏิเสธเขาเสียงอ่อน



“เอ เอาไว้วันหลังได้ไหมคะ วันนี้ฉันว่ามันไม่สะดวกเท่าไร”



“ถ้าเป็นเรื่องที่คุณแต่งตัวไม่เรียบร้อย ผมไม่ถือ ยังไงเราก็เป็นสามีภรรยากัน เรื่องแบบนี้ยังไงมันก็ต้องเกิดขึ้น” สุปรางวดีทำหน้างง คำพูดของเขาดูกำกวมมาก ชายหนุ่มไม่รอให้เธอปฏิเสธอีกรอบตัดสินใจเดินเข้าไปด้านใน สุปรางวดีพยายามจะค้าน จนเขาสงสัย



“ที่คุณไม่ยอมให้ผมเข้ามาเป็นเพราะในห้องนี้คุณซ่อนอะไรไว้ ใช่ไหม” สุปรางวดีชะงักเถียงไม่ออก ภาคดนัยหน้านิ่งใช้สายตาคมสำรวจไปโดยรอบก่อนจะสะดุดที่รองเท้าผู้ชายหันมาถามเธอ “นี่รองเท้าใคร” สุปรางวดีสะดุ้ง มองไปตามที่มือเขาชี้ ไม่ทันได้อธิบายเสียงคนที่นอนอยู่ในห้องก็ดังขึ้น



“ปรางค์ ผมรักคุณ ได้ยินไหมว่าผมรักคุณ” สุปรางวดีหน้าซีดไม่กล้าสบตาภาคดนัยกลัวจะเจอกับสายตาไม่พอใจของเขา



กรงแก้ว
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 18 มิ.ย. 2557, 13:22:49 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 18 มิ.ย. 2557, 13:22:49 น.

จำนวนการเข้าชม : 1177





<< เงารักเงาใจ ตอนที่ 1 100 เปอร์เซ็นต์   เงารักเงาใจ ตอนที่ 2 60 เปอร์เซ็นต์ >>
Zephyr 19 มิ.ย. 2557, 21:15:34 น.
คู่หลักเริ่มน่ารักละ
แต่ดาอ่ะ เอาเรื่องหนี้มาขู่เพชรบ่อยๆ มันจะดีเหรอ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account