เงารักเงาใจ
เมื่อ...
เขาและเธอต้องใช้ชีวิตคู่โดยปราศจากความรัก
และ…
เขา ชายหนุ่มผู้ที่เคยพึงพอใจผู้หญิงอีกคนแต่กลับ
ต้องแต่งงานกับผู้หญิงอีกคน
ส่วน…
เธอ หญิงสาวผู้ชอกช้ำจากความรัก
และใช้การแต่งงานกับผู้ชายอีกคนเพื่อตัดใจจากคนรักเก่า
แต่…
จะเป็นเช่นไรเมื่อคนที่เขาพยายามลืมกลับจำ
และ...คนที่เป็นรักแรกของเธอต้องการจะรื้อฟื้น
เรามาช่วยกันลุ้นกับพวกเขาสองคนว่า
จะสามารถฟันฝ่า อุปสรรคไปได้ตลอดรอดฝั่งหรือไม่
ใน นิยายรักดราม่า
เงารักเงาใจ
(เปลี่ยนชื่อจากสุดรักจากใจ)
เขาและเธอต้องใช้ชีวิตคู่โดยปราศจากความรัก
และ…
เขา ชายหนุ่มผู้ที่เคยพึงพอใจผู้หญิงอีกคนแต่กลับ
ต้องแต่งงานกับผู้หญิงอีกคน
ส่วน…
เธอ หญิงสาวผู้ชอกช้ำจากความรัก
และใช้การแต่งงานกับผู้ชายอีกคนเพื่อตัดใจจากคนรักเก่า
แต่…
จะเป็นเช่นไรเมื่อคนที่เขาพยายามลืมกลับจำ
และ...คนที่เป็นรักแรกของเธอต้องการจะรื้อฟื้น
เรามาช่วยกันลุ้นกับพวกเขาสองคนว่า
จะสามารถฟันฝ่า อุปสรรคไปได้ตลอดรอดฝั่งหรือไม่
ใน นิยายรักดราม่า
เงารักเงาใจ
(เปลี่ยนชื่อจากสุดรักจากใจ)
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้
ตอน: เงารักเงาใจ ตอนที่ 3 30 เปอร์เซ็นต์
ตอนที่ 3
ภาคดนัยยืนกัดกรามแน่น ใบหน้าบอกว่าไม่สบอารมณ์อย่างมาก สุปรางวดีที่ยืนจับมือเขาอยู่ข้างๆ สัมผัสได้ถึงอาการมือสั่นและเย็น นี่เป็นครั้งแรกที่เธอรับรู้ได้ว่าเขากำลังโมโห และอาจจะอารมณ์พลุ่งพล่านได้ง่าย วิไลเชิดหน้าชูคอราวกับเป็นนางพญาหงส์
“ฉันมาทวงสมบัติในส่วนที่ฉันควรจะได้ เพราะฉันก็เป็นเมียคนหนึ่งของพ่อคุณเหมือนกัน” ภาคดนัยตอบในทันที
“เสียใจ พ่อผมไม่ได้ยกสมบัติให้เมียคนไหนนอกจากแม่ผม เมียที่ถูกต้องตามกฎหมายส่วนเมียที่มาด้วยความใคร่ อย่าหวังว่าจะได้อะไรจากพ่อผม” วิไลทำตาดุดันมือสองข้างกำแน่นด้วยความโกรธแค้น ภาคดนัยยืนกราน “กลับไปซะ เท่าที่คุณได้จากพ่อผมก่อนที่ท่านจะตายมันก็มากพอแล้วและผมก็หวังว่าเมียนอกระบบอย่างคุณจะไม่มาก่อกวนอีก ไม่อย่างนั้นอย่าหาว่าผมไม่เตือน คุณคงจะรู้ดีว่าคนอย่างผมทำได้ทุกอย่างเพื่อให้ฝ่ายผมได้ประโยชน์มากที่สุด” วิไลยืนตัวสั่น มองหน้าทีละคนก่อนจะสะดุดกับผู้หญิงที่ยืนข้างภาคดนัย สุปรางวดีสบตาวิไลแล้วรู้สึกหวั่นๆ บีบมือภาคดนัยไว้มั่น
“ก็ได้ ฉันไปก็ได้แต่อย่าเพิ่งดีใจไปเพราะฉันไม่หยุดอยู่แค่นี้แน่ ฉันต้องกลับมาทวงในสิ่งที่ฉันควรจะได้” แล้ววิไลก็เดินออกจากบ้านไปด้วยใบหน้าที่บึ้งตึง พิศสมัยถอนหายใจรู้สึกโล่งอกอย่างมาก หันมาทางหลานชาย
“ป้าว่าเราแจ้งตำรวจดีกว่าไหม นังวิไลมันบ้า มันอยากได้สมบัติจนเป็นบ้าไปแล้ว”
“อย่าเลยครับ ผมว่าเธอก็แค่ขู่ ไม่ทำอะไรจริงๆ หรอกเพราะเธอก็คงไม่กล้าเสี่ยงกับผมเหมือนกัน” ภาคดนัยว่าแล้วก้มลงมองที่มือตอนนี้มีมือเล็กกุมไว้
“จะไว้ใจได้หรือ คนเห็นแก่เงินอย่างมันย่อมทำได้ทุกอย่าง ไม่อย่างนั้นคงไม่เปลี่ยนระดับจากเลขาหน้าห้องเป็นเลียขาบนเตียง” พิศสมัยเอ่ยเสียงเหยียด ภาคดนัยยืนนิ่ง สุปรางวดีลอบมองคล้อยตาม
ที่โต๊ะ อาหารถูกจัดวางอย่างเรียบร้อย ภาคดนัยนั่งหัวมุมมีพิศสมัยนั่งฝั่งขวาและสุปรางวดีนั่งฝั่งซ้าย สีหน้าแววตาที่แน่นิ่งของภาคดนัยทำให้พิศสมัยรู้สึกเป็นกังวล หันมาทางสุปรางวดีแล้วหาเรื่องคุย “นี่หนูปรางค์ช่วยตาดนัยทำอาหารทั้งหมดนี่เลยหรือ” สุปรางวดีหันมาทางพิศสมัยแล้วพยักหน้าหงิกๆ สายตาไม่วายหันมาทางภาคดนัยยังเห็นเขานั่งนิ่ง ลองตักอาหารตรงหน้าใส่จานพิศสมัย
“คุณป้าลองทานดูสิค่ะ ว่าอร่อยไหม” พิศสมัยจับช้อนตักอาหารใส่ปาก
“รสชาติมันแปลกๆ นะ”
“ไม่อร่อยหรือคะคุณป้า” สุปรางวดีถามหน้าตาตื่น ภาคดนัยลอบมองเห็นพิศสมัยยิ้มให้สุปรางวดี
“อร่อยสิจ๊ะ ฝีมือหนูปรางค์หรือ ก็ไม่เลวเลยนะ” ภาคดนัยขึ้นทันที
“ฝีมือผมต่างหากละครับคุณป้า หลานสะใภ้คุณป้าก็แค่ลูกมือผม” พิศสมัยแอบยิ้ม ไอ้เรื่องทำอาหารภาคดนัยไม่ยอมน้อยหน้าใครหน้าไหน สุปรางวดีลอบมอง ก่อนจะคลี่ยิ้มดีใจที่ภาคดนัยกลับมามีอารมณ์ร่วมในการสนทนาอีกครั้ง
เสร็จจากรับประทานอาหารมื้อควบเช้าเที่ยง ภาคดนัยก็พาสุปรางวดีมาดูห้องนอนซึ่งเดิมเป็นห้องนอนของเขา แต่ตอนนี้มีสุปรางวดีเข้ามาร่วมอาศัยด้วย ภายในห้องจึงถูกเปลี่ยนใหม่หมดจากทุกอย่างที่เคยเป็นสีทึบตอนนี้ดูสว่างไปทุกมุมห้อง สุปรางวดีเดินสำรวจโดยมีภาคดนัยเดินตาม ปากหนาถามขึ้นหลังจากที่เธอเดินวนกลับมายืนยังจุดเดิมซึ่งคือหน้าเตียง
“เป็นยังไงครับ ห้องนอนของเรา คุณอยู่ได้ไหม” สุปรางวดียิ้ม “ทำไมฉันจะอยู่ไม่ได้ละคะ ห่วงก็แต่คุณเสียอีกจะอยู่ร่วมห้องกับผู้หญิงได้ไหม” ภาคดนัยยิ้มมุมปาก มือหนาหยิบมือเล็กขึ้นมากุม แอบกระซิบเสียงต่ำ
“ได้ไม่ได้ คืนนี้ก็คงจะได้รู้กัน” แววตาคมมองมาทางเธออย่างมีความหมาย สุปรางวดีเสียววูบขึ้นมาก่อนจะเดินไปเปิดหน้าต่างมองออกไปข้างนอก ภาคดนัยเดินมายืนรับลมด้วยอีกคน สุปรางวดีเอียงหน้ามองเขา ภาคดนัยก้มลงมองเธอ ทั้งสองมองจ้องตากัน
“ผู้หญิงที่ชื่อวิไลเธอมาป่วนคุณบ่อยไหมคะ” ภาคดนัยหันหน้าไปมองออกข้างนอก เห็นต้นไม้น้อยใหญ่กำลังโบกพัดไปตามสายลม สุปรางวดีกลืนน้ำลาย มือเล็กวางบนมือหนาของเขา
“ฉันรู้ว่ามันเป็นเรื่องภายในครอบครัวของคุณ แต่ตอนนี้ฉันก็เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวคุณแล้ว เว้นเสียแต่ว่าคุณจะไม่เปิดใจยอมรับฉันเป็นคนในครอบครัวของคุณ” ภาคดนัยหันหน้ามามอง ส่ายหน้าไปมา สายลมพัดมาทำให้เส้นผมเธอหลุดลุ่ย มือหนาเก็บเส้นผมเธอไปไว้หลังหู ปากหนาพูดเสียงเบา
“สำหรับคุณ ผมให้มากกว่าคนในครอบครัว”
“แต่ก็คงไม่ใช่คนที่คุณรัก” ภาคดนัยดึงร่างเล็กมาโอบไว้
“เรื่องแบบนี้มันต้องใช้เวลา เหมือนที่คุณก็ต้องใช้เวลาในการตัดใจจากอดีตคนรักเก่าของคุณ” สุปรางวดีหน้าเจื่อนลงทันที พยักหน้าให้เขา ตอบเสียงอ่อน
“มันก็จริงของคุณ ความรักใช่ว่ามันจะเกิดขึ้นง่ายๆ แต่เมื่อมันเกิดแล้วมันก็ยากที่จะดับลงได้ง่าย” สุปรางวดีโค้งศีรษะพิงไหล่เขา สำหรับเธอผู้ชายอย่างภาคดนัยเป็นผู้ชายที่หายาก บุคลิกของเขาดูเหมือนจะเรียบง่ายแต่ความจริงแล้วแสนจะซับซ้อนจนอยากค้นหา
“แล้วตกลงผู้หญิงที่ชื่อวิไลเธอมาวุ่นวายกับคุณบ่อยไหม”
“ไม่ถึงกับบ่อย เดือนหนึ่งก็สองสามครั้ง”
“นี่ยังเรียกว่าไม่บ่อยอีกหรือคะ” ภาคดนัยอมยิ้ม
“ช่างมันเถอะ ผู้หญิงคนนั้นก็ได้แค่มาก่อกวน เธอทำอะไรผมไม่ได้หรอก ต่อให้คุณพ่อผมจะยกสมบัติให้เธอจริง ผมก็ไม่ยอมให้เธอ เพราะผมไม่มีทาง ให้สมบัติที่พ่อแม่ผมหามาอย่างยากลำบากตกไปอยู่ในมือคนแบบนั้นไม่ได้"
“แล้วเธอเป็นคนไม่ดีหรือคะ” ภาคดนัยดึงร่างเธอออกห่างเพียงนิด มองดวงตาสดใสที่ถามเขาอย่างไร้เดียงสา
“ก๊อก ก๊อก ก๊อก” เสียงนั้นขัดอารมณ์คนทั้งสอง ร่างสองร่างผละออกจากกัน ก่อนที่ประตูนั้นจะเปิดออกปรากฏร่างของสาวใช้
“คุณสุมาหาค่ะ” ภาคดนัยพยักหน้ารับทราบแล้วพาสุปรางวดีเดินลงมาหากุสุมาด้วยกัน ที่ห้องรับแขกกุสุมาในชุดเนี๊ยบดูดี ใบหน้าคม ผิวคล้ำยืนยิ้มให้ทั้งสอง ภาคดนัยถือโอกาสแนะนำให้สุปรางวดีรู้จัก
“นี่กุสุมา เพื่อนของผมเอง” สุปรางวดียิ้มให้กุสุมา อีกฝ่ายยื่นมือหาเธอใช้ธรรมเนียมฝรั่งในการพบปะสวัสดี สุปรางวดียื่นไมตรีสัมพันธ์ด้วยการยื่นมือไปรับ
“สวัสดีค่ะคุณสุปรางวดี”
“คุณรู้จักชื่อฉันด้วยหรือคะ” สุปรางวดีถามสีหน้างง กุสุมายิ้มหันสายตามาทางเพื่อนหนุ่ม
“ค่ะ ดนัยเล่าให้สุฟังนะคะ” ที่ห้องรับแขกทั้งสามนั่งคุยกัน กุสุมาเปิดฉากเริ่มต้นก่อน
“ต้องขอโทษจริงๆ ที่สุมางานแต่งงานของดนัยกับคุณสุปรางวดีไม่ได้ สุเพิ่งเดินทางกลับมาถึงวันนี้นี่เอง ตอนแรกจะกลับตั้งแต่เมื่อวานแล้วแต่งานมันมีปัญหาค่ะ เลยต้องอยู่เคลียร์งานก่อน”
“งานมีปัญหาอะไรหรือสุ” ภาคดนัยถามสีหน้าตื่น เพราะเขาเป็นคนส่งกุสุมาไปดูงานที่ต่างจังหวัดซึ่งเป็นอีกสาขาหนึ่ง
“ก็ลูกค้ารายใหญ่ของเรานะสิค่ะบอกว่างานของเราเป็นของมีตำหนิ เกรดต่ำ สุก็ไม่รู้นะคะว่าสินค้าของเราเป็นแบบนั้นจริงๆ หรือเปล่า เพราะพอสุจะขอดูทางเขาก็บ่ายเบี่ยง แถมยังบอกอีกนะคะว่าถ้าไม่ยอมลดราคาให้เขา ทางเขาจะฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายโทษฐานที่เราหลอกลวงเขา”
“ผมว่าเรื่องนี้น่าจะมีอะไรไม่ชอบมาพากลนะ ยังไงช่วงนี้สุคงต้องเหนื่อยหน่อย ไม่ว่ายังไง ทางที่ดีเราก็ไม่ควรถูกใครฟ้องเพราะจะทำให้เครดิตบริษัทเราเสียหาย”
“สุจะพยายามนะคะ จะหาทางแก้ไขปัญหาให้ทางเราได้ประโยชน์มากที่สุด” กุสุมาว่า

เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 21 มิ.ย. 2557, 10:08:23 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 21 มิ.ย. 2557, 10:08:23 น.
จำนวนการเข้าชม : 1352
<< เงารักเงาใจ ตอนที่ 3 ตัวอย่าง | เงารักเงาใจ ตอนที่ 3 50 เปอร์เซ็นต์ >> |

Zephyr 22 มิ.ย. 2557, 15:41:21 น.
หวังว่ากุสุมาจะไม่ใช่เพื่อนสนิท คิดไม่ซื่อนะคะ
หวังว่ากุสุมาจะไม่ใช่เพื่อนสนิท คิดไม่ซื่อนะคะ