แก้วขวัญวันรัก
เรื่องราวของสี่สาวพี่น้องที่ต้องตามล่าหาแฟนให้ได้ภายในสามเดือน ก่อนที่จะถูกจับคลุมถุงชนกับเจ้าบ่าวที่ไม่เคยเห็นหน้า ดังนั้นภารกิจ และปฏิบัติการลับของการตามหาแฟนจึงเริ่มข้น
แต่ติดปัญหาที่แก้ไม่ตกนั่นคือ

คนหนึ่ง ขี้เหวี่ยงขี้วีน คบกับผู้ชายได้ไม่เกินหนึ่งวัน ผู้ชายคนนั้นต้องหนีเปิง เจ้าของฉายา
“สวยเหวี่ยงวีน”

คนหนึ่ง ซุ่มซ่ามจอมโก๊ะ เจ้าของฉายา “สาวโก๊ะมหาวิบัติ”

คนหนึ่ง ด้านชาต่อความรัก ไร้ความรู้สึกกลับความรัก เจ้าของฉายา “ดอกไม้น้ำแข็งไร้อารมณ์”

และอีกคนหนึ่ง สาวสวยหมดเท่ แต่ใจเธอคือหญิงแท้ แต่กลัวการมีความรัก เจ้าของฉายา
“เจ้าสาวกลัวฝน”

Tags: สี่สาว รักแท้ ความรัก การตามหา

ตอน: 13 คุณต้องรับผิดชอบ!!!!

13
คุณต้องรับผิดชอบ!!!



“กรี๊ด!!!”

เพล้ง!!!!

รักจิราและวันวิวาห์ที่กำลังยืนอยู่หน้าห้อง มองหน้ากันอย่างตกใจ รักจิราที่ไวกว่าเปิดประตูวิ่งเข้าไปในห้อง ในขณะที่วันวิวาห์รู้สึกว่าเหตุการณ์นี้มันคุ้น ๆ เหมือนมันพึ่งจะเกิดขึ้นต่างแค่คนและสถานที่ เมื่อเดินเข้าไปก็เห็นคนบ้า ไม่สิ แก้วกัลยากำลังทำลายข้าวของที่อยู่ใกล้ตัวอย่างบ้าคลั่ง แก้วน้ำในมือปามันลงพื้นจนแตกกระจาย ที่พื้นมีก้อนหนังสือพิมพ์ที่ขยำจนเป็นก้อนโยนทิ้งอยู่ที่พื้น ใบหน้าสวยแม้ไม่มีเครื่องสำอางกำลังเปลี่ยนเป็นหน้ายักษ์ รักจิราก้มหลบหมอนที่ปาเข้าใส่ผนังระบายความโกรธที่ปะทุขึ้นมาเรื่อย ๆ รักจิรามองจนแก้วกัลยาหาของที่อยู่ใกล้มือปาไม่ได้จึงเดินข้ามเศษแก้วและข้าวของที่กระจัดกระจายไปหยิบก้อนหนังสือพิมพ์ฉบับบันเทิง ก่อนจะเห็น และทำหน้าอ๋อในทันที เมื่อวานตอนอยู่ช่วยตรวจต้นฉบับที่ส่งมา เธอก็เห็นข่าวนี้ผ่านตาเธอมาแล้ว

“ตัวเลิกบ้าก่อนเจ๊แก้ว มันก็แค่ข่าวเอง”

“คุณเพชรทำแบบนี้ได้ยังไง ฉันต้องมานอนแบ๊บแบบนี้เพราะเขา ถ้าเขาเชื่อฉันส่งคนมาคุ้มกันคีตะ ฉันก็จะไม่ต้องมาเป็นแบบนี้ นี่ฉันนอนอยู่โรงพยาบาลตั้งแต่เมื่อวาน เขายังไม่แม้แต่มาเยี่ยมฉัน มีหน้าไปเดินจูงมือกันแบบนี้อีกหรอ ฉันไม่ยอม”

“พอแล้วเจ๊แก้ว ตัวทำเสียงดังโครมคราม กรี๊ดกร๊าดเดี๋ยวคุณพยาบาลก็ขึ้นมาว่า แล้วนี่ตัวไปทำลายข้าวของเพื่ออะไร ทำแล้วช่วยให้คุณเพชรเธอไม่ไปเดินกับคุณดาหวันได้หรอ แล้วตัวไม่กลัวหรือไง โมโหมาก ๆ ระวังเถอะตีนกาจะขึ้น อายุจะเข้าเลขสามอีกไม่กี่เดือนแล้ว แก่ก่อนจะสี่สิบอย่าหาว่าเค้าไม่เตือน อารมณ์ก็ไม่ต่างจากคนวัยทองยังจะหน้าแก่เร็วอีก” อารมณ์ที่สงบลงเริ่มปะทุขึ้นอีกครั้งเมื่อได้ยินรักจิราพูด

“ไอ้รัก!!!”

“พอได้แล้ว นี่มันโรงพยาบาลนะแก้ว รัก” วันวิวาห์เป็นคนที่ทนไม่ไหว ด้วยเธอก็ทำงานในโรงพยาบาล และโรงพยาบาลเป็นสถานที่ที่ต้องการความสงบ แต่สองสาวเล่นมาแข่งกันใช้เสียง ปกติคนห้ามทัพทั้งสองต้องเป็นขวัญชีวัน แต่นี่ขวัญชีวันไม่อยู่ ถ้าเธอไม่ห้ามห้องได้แตกแน่

“ก็...”

“ฉันว่านะแก้วเอาเวลาพักผ่อน แล้วออกจากโรงพยาบาลไปจัดการกับเขาเองดีกว่า มานั่งกรีดร้องเป็นคนบ้ามันไม่ได้ช่วยอะไรหรอกนะ ส่วนรัก นี่ใกล้จะแปดโมงแล้ว ไปทำงานได้แล้ว เดี๋ยวเจ๊ดูแก้วเอง” รักจิราเลือกจะไม่เถียงเมื่อเจอโหมดดุของวันวิวาห์ที่หน้ากลัวกว่าแก้วกัลยาที่ชอบส่งเสียงเป็นมลพิษทางหูเสียอีก

“ไปก็ได้” รักจิราเดินออกไปจากห้อง ในห้องเหลือเพียงแค่แก้วกัลยาและวันวิวาห์ วันวิวาห์เดินไปกดโทรศัพท์ต่อสายให้แม่บ้านมาเก็บข้าวของ จนห้องกลับสู่สภาพปกติ

“เป็นไงดีขึ้นไหม” แก้วกัลยาที่นั่งสงบสติอารมณืได้แล้วก็พยักหน้า

“ฉันออกจากโรงพยาบาลได้เมื่อไหร่”

“อาการไม่มีอะไรร้ายแรงมาก พรุ่งนี้เช้าก็กลับบ้านได้แล้ว” วันวิวาห์ตอบ

“วันนี้ได้ไหม เดี๋ยวนี้ได้เลยยิ่งดี” วันวิวาห์มองความใจร้อนของญาติผู้พี่ “ฉันไม่เป็นอะไรแล้วจริง ๆ นะวัน ขอร้องล่ะ ถ้าฉันไม่ได้ออก ฉันต้องนอนไม่หลับ อยู่ไม่สุขนะ” วันวิวาห์รู้ว่าถ้าแก้วกัลยาอยู่ในโหมดอยากได้ ต้องได้ อยากทำต้องทำ ใครก็ขัดไม่ได้ ถึงเธอไม่อนุญาต แก้วกัลยาต้องมีวิธีออกไปแน่นอน

“ก็ได้เดี๋ยวฉันไปคุยกับหมอหวาให้ แต่สัญญาว่าจะไม่ทำอะไรที่ทำให้ตัวเองต้องเป็นอันตราย ต้องดูแลตัวเองให้ดีห้ามไปก่อเรื่องจนกว่าจะหาย” แก้วกัลยาพยักหน้ารับ

“เอ่อ...ฝากไปดูคีตะด้วยนะวัน ไม่รู้เป็นยังไงบ้าง” วันวิวาห์พยักหน้าและเดินออกไป วันวิวาห์หยิบโทรศัพท์ของตัวเองกดโทรหา

“คุณมงกุฎมารับแก้วที่โรงพยาบาลวรรณเวศด้วยนะคะ ด่วนเลย” แก้วกัลยากดวางสาย ตอนนี้เธอกำลังคิดแผนเผด็จศึกเพทาย เธอไม่ยอมแน่ เธอเจ็บขนาดนี้ยังไม่มาให้เธอแสดงมารยาใส่อีก เดี๋ยวได้รู้กัน วันวิวาห์ที่เดินออกมา มองเห็นกลุ่มนักข่าวที่ยังปักหลักจะเข้าไปในห้องของคีตภัทร วันวิวาห์ส่ายหน้าและขอทางเข้าไป หน้าห้องมีพยาบาลและบุรุษพยาบาลคอยกันนักข่าวไว้ ซึ้งเมื่อพยาบาลเห็นว่าวันวิวาห์จะเข้าไป จึงหลีกทางให้ วันวิวาห์เดินเข้าไปด้านในที่ตอนนี้มียิหวา ตรวจอาการของคีตภัทรอยู่ คีตภัทรหันมามองวันวิวาห์ที่เดินเข้ามาและยิ้มออกมา รอยยิ้มของเขาทำให้วันวิวาห์หยุดยินไม่ก้าวเข้าไปต่อ ในชีวิตเธอไม่เคยยิ้มแบบเขาได้สักครั้ง

“คุณวันมาเยี่ยมผมหรอครับ” เขาถามเสียงดูตื่นเต้น

“เปล่าค่ะ แก้วให้ฉันมาดูคุณแทน และคุณก็ปกติดีฉันจะกลับห้องแล้ว หมอหวาคนไข้ห้อง 506 จะขอกลับบ้าน ฉันดูอาการแล้วก็ไม่หนักมาก หมอหวาจะให้กลับได้เลยไหมคะ”

“เดี่ยวหวาแวะไปตรวจอาการอีกรอบ ถ้าไม่เป็นอะไรจริง ๆ ก็ให้กลับได้” วันวิวาห์พยักหน้า ก่อนจะออกไปปลายตามองไปที่คนป่วยที่ก็กำลังมองเธอตาละห้อย เหมือนอยากจะให้เธออยู่ต่อ แต่พอสบตาคม ๆ กลับไม่กล้าพูด วันวิวาห์เดินหายออกจากห้องไปแล้ว ตาของเขายังจับจ้องไปที่ประตูหวังว่าวันวิวาห์จะเดินกลับเข้ามา

“ชอบหมอวันหรอคะ” ยิหวาถาม เธอมองสามตาที่มองตามไปนั่นออก เธอยิ้มนิด ๆ

“ครับ หมอวันเธอเป็นหมอเฉพาะทางหรอครับ” เขายอมรับออกมาอย่างลูกผู้ชาย

“ค่ะ หมอวันเป็นหมอหัวใจค่ะแถมเป็นหมอที่ใจน้ำแข็งสุด ๆ หักอกหนุ่ม ๆ ทั้งคนไข้ และหมอมานับไม่ถ้วนแล้วนะคะ ถ้าจะจีบต้องเตรียมใจไว้ ถึงหมอวันจะเป็นหอมหัวใจ แต่เวลาอกหักหมอวันเธอไม่รักษาให้นะคะ”

“พูดแบบนี้แสดงว่ามีคนจีบคุณหมอเยอะหรอครับ”

“เยอะมากต่างหากค่ะ คนไข้แท้คนไข้เทียมต่อคิวทั้งจีบทั้งหยอด หมอวันยังไม่สน ไม่ใช่ว่าหมอวันหยิ่งหรอกนะคะ เธอเป็นอย่างนี้ตั้งแต่สมัยเรียนแรก ๆ ฉันก็คิดว่าเธอหยิ่ง แต่รู้จักไปเรื่อย ๆ ถึงรู้ หมอวันไม่เข้าใจความรัก เธอเป็นพวกด้านชากับความรู้สึกที่เรียกว่ารัก พูดให้ตายหมอวันก็ไม่เข้าใจสิ่งที่คุณพยายามสื่อ ชีวิตหมอวันมีสามอย่างครอบครัวสิทธิทรัพย์อาภา แม่ และหนังสือ มีแค่นั้นค่ะ ถ้าคิดจะจีบเชื่อเตรียมใจไว้บ้างนะคะ ถ้าอย่างนั้นฉันขอตัวนะคะ” แล้วยิหวาก็เดินออกไป



แก้วกัลยาเปิดประตูโดยใช้มือข้างที่ไม่ได้เข้าเฝือกเดินลงจากรถ คุณมงกุฎถือกระเป๋าวิ่งตามขึ้นไปเพราะกลัวเจ้านายสาวจะไปก่อเรื่อง แก้วกัลยากดลิฟต์ขึ้นไปชั้นยี่สิบเจ็ดซึ่งเป็นชั้นผู้บริหาร มินตราที่กำลังนั่งพิมพ์งานอยู่หันมาเห็นมองสภาพแก้วกัลยาด้วยความตกใจและวิ่งเข้ามาขวางไว้เมื่อรู้ว่าแก้วกัลยาจะเข้าไปในห้อง

“หลบไป”

“ไม่ได้นะคะ คุณเพชรมีแขก ไม่อนุญาตให้ใครเข้าพบ แล้วคุณแก้วออกจากโรงพยาบาลแล้วหรอคะ ท่าทางยังไมหายเลยนะคะ” มินตราพูดและมองใบหน้าที่ซีดกว่าทุกวัน รวมถึงร่างกายที่ไม่อำนวย

“หลบไปมินตรา”

“คุณแก้ว มินขอร้องนะคะ ให้มินโทรเข้าไปแจ้งคุณเพชรก่อน” แก้วกัลยามองคนที่พูดไม่รู้เรื่อง

“คุณมงกุฎฝากด้วยนะคะ” มงกุฎเดินเข้ามากันตัวมินตราไว้ แก้วกัลยาก็รีบเปิดประตูเดินเข้าไป สิ่งที่เห็นตรงหน้าทำให้แก้วกัลยากำมือขวาไว้แน่น ดารินทิพย์กำลังนั่งอยู่ที่เก้าอี้ตัวข้าง ๆ ในขณะที่เพทายกำลังเหมือนสอนงานบางอย่าง เธออยู่ที่นี่มาสองอาทิตย์ถ้าไม่ได้พยายามเข้าใกล้เพทายเอง แต่ดารินทิพย์ไม่ต้องทำอะไรเขาก็พร้อมจะเข้าใกล้เข้าหาเอง ในห้องไม่ได้มีแค่สองหนุ่มสาว แต่มีสุจิราที่แยกมานั่งกดโทรศัพท์ ทันทีที่ได้ยินเสียงคนเปิดประตูเข้ามาสุจิราก็หันไปมองเช่นเดียวกับเพทายที่กำลังสอนงานให้กับดารินทิพย์

“คุณ...”

“ฉันแก้วกัลยา หวังว่าคุณจะยังจำได้” แก้วกัลยาพูดและปรายตามองดารินทิพย์ที่ดูเหมือนจะตกใจและแปลกใจกับการปรากฏตัวของแก้วกัลยาในเวลานี้

“คุณมาได้ยังไง คุณควรจะอยู่โรงพยาบาล” เพทายเอ่ย

“มาดูหน้าคนใจดำไงคะ คุณเห็นสภาพฉันไหม ฉันต้องเจ็บตัวแบบนี้มันเพราะใคร ถ้าคุณไม่รู้ฉันจะบอกให้ มันเพราะคุณ ถ้าคุณเชื่อจดหมายขู่ตั้งแต่ฉบับแรกฉันก็จะไม่เป็นแบบนี้ ถ้าคุณรับโทรศัพท์ฉันเมื่อวาน ฉันก็ไม่เป็นแบบนี้ คุณให้ฉันทำงานอะไรฉันก็ไม่เคยเกี่ยง แต่ฉันเป็นแบบนี้คุณไม่คิดจะมาเยี่ยมฉันหน่อยหรอคะ มาแสดงความเสียใจสักนิด”

“ผมติดธุระ” เขาตอบ

“ธุระของคุณคือการไปนั่งกินข้าวกับแม่หนูคนนั้นหรอคะ” เพทายมองแก้วกัลยาที่มาแปลกกว่าทุกวัน ทุกวันเธอจะมองตาเขาเยิ้ม ๆ พูดเสียงหวานจนน่ากลัว แต่วันนี้เธอกับแปลงร่างเป็นยักษ์อย่างลืมตัว

“คุณก็รู้ว่าตอนนี้ที่บริษัทมีเรื่องถ้าผมไม่เยี่ยมคุณพวกนักข่าวต้องสัมภาษณ์”

“ค่ะ คุณมันใจดำ ดีค่ะ ยิ่งคุณใจร้ายกับฉันเท่าไหร่ แล้วคุณจะยิ่งเสียใจ ที่ฉันออกมาจากโรงพยาบาลเพื่อมาหาคุณโดยเฉพาะ ฉันจะมาบอกคุณว่าจากนี้จนกว่าฉันจะหายคุณต้องรับผิดชอบฉัน”

“แกพูดบ้าอะไร” สุจิราเอ่ยขึ้น

“หุบปากไปเลยนะซูซี่ ถ้าเธอยังอยากมีปากไว้กินข้าวอย่ามายุ่ง” สุจิราปิดปากที่อ้าอยู่ลงเมื่อเจอเสียงตวาดของแก้วกัลยา เสียงที่ฟังดูน่ากลัวมากกว่าทุกครั้ง เพราะมันมากกว่าการข่มขู่

“และเห็นไหมว่าฉันกำลังคุยธุระกับคุณเพชรอยู่ เธอรู้ไหมว่าควรทำยังไง”

“คุณจะให้ผมรับผิดชอบอะไร”

“ฉันให้คุณเลือกเอาแล้วกันว่าคุณจะตกลงยอมรับผิดชอบฉันเอง หรือให้ฉันฟ้องคุณน้า คุณก็รู้ตอนนี้คุณน้าเธอเอ็นดูฉันแค่ไหน ถ้าคุณน้าสั่งคุณจะขยับหนีไม่ได้อีก คราวนี้ฉันรวบหัวรวบหางคุณแน่” แก้วกัลยาพูดโดยไม่แคร์ดารินทิพย์เลยสักนิด

“คุณขู่ผม”

“แต่คุณทำให้ฉันโกรธ บีบให้ฉันต้องทำ คุณดูสภาพฉันมันแย่แค่ไหน เลือกเอาจะตกลงเอง หรือให้เรื่องนี้ต้องไปเป็นภาระกับคุณน้า คุณคงไม่อยากให้คุณน้าเธอยุ่งยากใจ เลือกสิคะ”

“คุณคิดว่าผมกลัวหรอ”

“ฉันรู้คุณไม่กลัว แต่ถ้าคุณอยากให้คุณน้าที่กำลังไปปฏิบัติธรรมที่อินเดียต้องร้อนใจกับเรื่องบริษัท ก็ตามแต่คุณต้องการแล้วกัน” แก้วกัลยาหันไปมองมงกุฎที่ยืนอยู่ด้านหลังส่งโทรศัพท์มือถือมาให้เธอ แก้วกัลยากดเบอร์โทรออกและตั้งใจเปิดเสียงให้เพทายได้ยิน

ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด

(ฮัลโหลว่าไงจ๊ะหนูแก้ว) แก้วกัลยายิ้มเมื่อปลายสายกดรับ

“ตกลง” แก้วกัลยายิ้มอย่างผู้ชนะและยกโทรศัพท์ปิดเสียงคุยกับปลายสายสองคน แก้วกัลยาพูดสักพักก็วางสายและมองผู้ชายที่กำลังเข่นเขี้ยวกำมือแน่น

“คุณสัญญาแล้วนะคะ ว่าจากนี้คุณจะต้องดูแลรับผิดชอบจนกว่าร่างกายฉันจะกลับมาครบถ้วยสมบูรณ์ ต้องตามใจฉันมารับมาส่งตามที่ฉันต้องการ”

“มากไปไหม” สุจิราสอดขึ้นมา แก้วกัลยาตวัดสายตามองอีกครั้ง สุจิราหลบตาหนีอย่างหวาด ๆ ให้กับนางมารร้ายตรงหน้า แก้วกัลยาหันไปมองเขาอีกครั้ง เธอรู้ว่ายิ่งทำแบบนี้เขาจะยิ่งไม่ชอบเธอ แต่เธอมีทางเลือกที่ไหนอย่างน้อยมัดตัวเขาไว้กับเธอก่อน แผนจากนั้นค่อยว่ากันใหม่ จนกว่าจะถึงวินาทีสุดท้าย ไม่ว่าจะใช้แผนอะไรเธอก็พร้อมเสี่ยง เธอไม่มีอะไรจะเสียอยู่แล้ว จะเสียอีกนิดจะเป็นไรไป

“ก็ได้ แต่อย่ายุ่งกับแม่ผม ผมอยากให้ท่านได้พักผ่อน” แก้วกัลยาพยักหน้า เธอก็ไม่ได้กะฟ้องหรอก ทำแบบนั้นเธอก็บาปแย่สิ เธอก็แค่ขู่เขาเล่น ๆ เพราะเธอรู้ไงว่าถ้ามาไม้นี้ยังไงเขาก็ต้องยอม

“ผมว่าวันนี้คุณกลับไปก่อนเถอะ ผมไม่ได้ไล่คุณนะ แต่คุณควรจะห่วงตัวเอง คุณอย่าเอาร่างกายมาต่อลองเล่นให้เป็นเรื่องสนุก” เพทายเอ่ยเตือน เขานับถือเธอจริง ๆ ที่กล้าออกจากโรงพยาบาลทั้งที่สภาพไม่สมบูรณ์

“ก็ได้เห็นแก่ที่คุณอุตสาห์เป็นห่วง ฉันกลับก็ได้ แต่พรุ่งนี้แปดโมงก่อนคุณเข้าบริษัทคุณต้องแวะมารับฉัน แม้ฉันจะไม่สามารถทำงานเดิมได้ แต่ฉันยังคงยืนยันคำเดิมว่าฉันจะทำงานกับคุณ ดังนั้นจากนี้จนกว่าจะตัดเฝือกออกที่ไหนมีคุณที่นั่นมีฉัน วันนี้ฉันจะยอมกลับ ไปค่ะคุณมงกุฎ” แก้วกัลยาเดินได้สามก้าวก็หยุดและหันไปมองดารินทิพย์ที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เพทาย ทันทีที่เห็นเธอสบสายตาไปมองเธอก็รีบหลบตาหนีอย่างหวาด ๆ เหมือนรู้ว่าเธอไม่สามารถสู้แก้วกัลยาได้ สายตาของผู้หญิงคนนี้เคลือบยาพิษ

“ฉันขอพูดกับเธออีกครั้งนะดาหวัน ถ้าคิดจะลงเกมส์ อย่าทำนิสัยแบบนั้น มันไม่น่ารักเลย ถ้าคนจับได้ เธอจะเสียหายนะดาหวัน ฉันเตือนเธอด้วยความหวังดี”

“คะ...คุณหมายความว่ายังไง” ดารินทิพย์ถาม

“ฉันว่าเธอก็น่าจะรู้ว่าฉันหมายความว่ายังไง ถ้าเธอเหมาะสมกับคุณเพชรอย่างแท้จริง ฉันคงไม่ลงเกมส์นี้หรอก ดังนั้นถ้าอยากให้ฉันยอม หยุดพฤติกรรมที่เธอกำลังทำอยู่นั่นซะ และที่สำคัญอย่าไปเชื่อยัยคางคกอสรพิษนั่นมากนัก ชีรอตีท้ายครัวเธออยู่”

“แก” สุจิราหันมามอง แต่แก้วกัลยาไม่อยู่ให้เธอมองจิกแล้ว ขณะที่เพทายมองดารินทิพย์

“ดาไม่รู้จริง ๆ ว่าคุณแก้วเธอหมายถึงอะไร บางทีคุณแก้วอาจจะหมายถึงเรื่องที่ครอบครัวดากำลังจะเหลือแต่เปลือก” เพทายมองดารินทิพย์และยิ้มส่งมาให้ เขาก็พอรู้อยู่บ้างที่คุณหญิงดาวเรืองแนะนำลูกสาวของเธอให้กับเขาเพื่ออะไร แต่เขาไม่ได้สน เขาสนเปลือกในของดารินทิพย์มากกว่า แม้ตอนนี้จะยังไม่ได้ให้สถานะที่แน่นอน แต่เขาก็คิดว่าเธอเหมาะสมกับเขาด้วยนิสัยที่เรียบง่าย มีความเป็นกุลสตรี สเปคของเขาไม่ได้สูงส่งเลิศเลอ เขาต้องการแม่ของลูกที่ดีก็แค่นั้น ที่วันนี้ดารินทิพย์มาก็เพื่อปรึกษาธุรกิจของครอบครัวที่เธออยากจะช่วยกู้คืนให้กลับมารุ่งเรืองอีกครั้ง หลังจากเสียบิดาไป ครอบครัวของดารินทิพย์เหลือเพียงสองแม่ลูก ดารินทิพย์ไม่ได้จบบริหารมาโดยตรงจึงต้องการให้เขาช่วย เขาเองก็พร้อมยื่นมือช่วย

“คือ...วันนี้ดาของกลับก่อนนะคะ อีกอย่างพี่เพชรเองก็ต้องทำงาน ไว้ถ้าไม่เข้าใจดาโทรมาอีกที ขอตัวนะคะ” สุจิรามองดารินทิพย์ที่เดินออกไป สุจิราเดินเข้ามาหาเพทาย

“แม่นั่นตั้งใจกล่าวร้ายดา คุณเพชรต้องระวังตัวนะคะ ซูซี่เป็นห่วงคุณต้องเข้าไปวุ่นวายกับชีวิตของแม่นั่น ในวงการเซเลป ไฮโซ ใคร ๆ ก็รู้ฉายา นางมารอสรพิษของแม่นั่น แก้วกัลยาสามารถจัดการคนที่ขวางทางได้ในพริบตา ใคร ๆ ก็รู้กัน ผู้ชายที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับยัยนั่นถ้าทำให้ยัยนั่นไม่พอใจ ยัยนั่นเล่นเอาครอบครัวเขาระส่ำระส่าย คุณเพชรระวังตัวให้ดีนะคะ ซูซี่ไปนะคะ” แล้วสุจิราก็เดินหนีไปหลังจากทิ้งระเบิดให้กับเพทาย



แก้วกัลยากลับมาถึงบ้านในตอนเย็น เธอแวะไปร้าน จัดการงานของตัวเอง เพื่อเคลียร์ตัวเองให้ว่าง เธอมีเวลาหนึ่งเดือนในการพิชิตใจเขา งานนี้เธอต้องทำให้ได้ ถอยไม่ได้อีกแล้ว ถ้าถอยเธอไม่ได้เตรียมหมากสำรอง ยังไงก็พลาดไม่ได้ แก้วกัลยามองแบบชุดที่พึ่งร่างเสร็จ หลังจากจบเรื่องหาแฟน เธอต้องไปจัดงานแฟชั่นโชว์ชุดที่ฝรั่งเศส และหลังจากนั้นเธอจะไม่ว่าง เธอต้องเคลียร์ทุกอย่างภายในสามเดือน

“เจ๊แก้ว ตัวไปใส่เฝือกมาตั้งแต่เมือไหร่ เมื่อเช้าเค้ายังไม่เห็นเฝือกเลยนะ” รักจิราที่เดินเข้ามาเอ่ยขึ้น ในมือถืออาหารเย็นกลัวเข้ามา วันวิวาห์เดินลงจากห้องและทำหน้าไม่สบายใจ

“ก็พึ่งมีนี่แหละ”

“แต่แขนตัวไม่ได้หักนี่ เจ๊วันเจ๊แก้วกำลังทำอะไร” วันวิวาห์ส่ายหน้าไม่อยากตอบ เพราะเธอคิดว่าเธอกำลังทำผิดจรรยาบรรณแพทย์โดยช่วยแก้วกัลยาโกหก และยังไปคุยกับหมอยิหวา ขอให้หมอยิหวาใส่เฝือกให้ แก้วกัลยาอ้างว่าพึ่งรับบทละครเรื่องหนึ่งมา เธอต้องแขนหักเข้าเฝือกทำอะไรไม่ได้ต้องให้พระเอกดูและ แต่เธอยังไม่เข้าถึงอารมณ์ จึงอยากจะขอเข้าเฝือก สุดท้ายหมอยิหวาก็ยอมช่วยเพราะวันวิวาห์พยักหน้ายืนยันให้ ซึ่งนั่นทำให้วันวิวาห์รู้สึกไม่ดีตลอดทั้งวัน

“เอ๊ะ..อย่าบอกนะว่าเจ๊แก้วจะใช้วิธีนี้มัดคุณเพชร” แก้วกัลยายิ้ม

“สมกับเป็นน้องรักฉันจริง ๆ เลย” แก้วกัลยายิ้ม และมองผลงานของตัวเอง

“ตัวคิดว่ามันจะได้ผลหรอ ตัวแป๊กมากี่รอบแล้วเจ๊แก้ว เค้าว่าวิธีนี้มันไม่เวิร์กนะเจ๊แก้ว ตัวทำแบบนี้ไม่กลัวคุณเพชรเขาจับได้หรอ” แก้วกัลยาส่ายหน้า

“แกไม่ต้องห่วงหรอกน่า วิธีนี้ไม่แป๊กแน่ แถมยังตามติดคุณเพชรได้ตลอด คุณเพชรจะต้องเห็นความงามทั้งภายในและภายนอกจากฉัน” รักจิรามองท่าทางมั่นใจของแก้วกัลยา

“นางมารอสรพิษอย่างเจ๊มีความงามภายในด้วยหรอ โอ๊ย!!!” หมอนพุ่งปะทะเข้าที่หน้าของรักจิราเมื่อเอ่ยคำพูดขัดอารมณ์ของแก้วกัลยา

“หุบปากไปเลยคำพูดไม่ได้สร้างสรรค์เลยนะ” แก้วกัลยาเอ่ย

“ตามใจตัวแล้วกัน เตือนแล้วนะ ถ้าเกิดอะไรขึ้นตัวอย่ามากลายร่างใส่เค้านะเจ๊แก้ว แล้วเรื่องคดีล่ะเจ๊แก้ว ตัวได้ไปให้ปากคำมาหรือยัง” แก้วกัลยาทำหน้าเครียดอีกครั้ง

“แล้ว”

“เป็นฝีมือใคร คุณเพชรพอจะรู้ไหม”

“ยังไม่ได้คุยกันเรื่องคดี ตำรวจคิดว่าคนร้ายน่าจะต้องการทำร้ายคีตะ จากจดหมายที่ส่งมานั่น แต่ก็ยังไม่แน่บางทีคนร้ายอาจจะต้องการทำลายชื่อเสียงบริษัทด้วยก็ได้ เพราะผลมันกระทบกัน ตอนนี้ตำรวจกำลังตรวจสอบ”

“ในงานไม่มีกล้องวงจรปิดหรอ”

“มีอะไรล่ะ มันเป็นงานคอนเสิร์ตกลางแจ้ง เป็นคอนเสิร์ตสัญจร แถมรถก็ไม่ได้จอดตรงแถวตึก เลยไม่รู้ แต่ตำรวจกำลังหาภาพคนร้ายที่ขี่รถตามไล่ยิง ไม่รู้จะมีไหม เพราะถนนเส้นนั้นไม่มีกล้อง คงต้องหาตามตึกแล้วก็ร้านแถวนั้น หวังว่าจะมี ไม่อย่างนั้นก็น่าจะยาก สืบจากจดหมายที่ส่งมาน่าจะยากแล้วล่ะ แกคิดว่าไงรัก”

“มันเตรียมตัว มันมาดีมาก มันกำเล่นงานในวันนั้นเพราะทุกอย่างเอื้ออำนวยกับมัน ตัวไม่รอบคอบ ไปจอดรถที่รวมกับคนมาดูคอนเสิร์ต”

“ก็ลานจอดรถเฉพาะที่ทางทีมงานเค้าจัดให้มันไกล แถมระยะทางก็เดินไกลกว่าอีก ใครจะไปคิดว่าจะมีคนมารอบทำร้าย แถมกลางถนนรถคนนั้นก็ขับสวนไปมา”

“อาชญากรรมมันอยู่ใกล้ตัวเราตลอดเวลานะเจ๊แก้ว จริงสิ รถ กล้อง ...เจ๊แก้วรถเจ๊ติดกล้องไว้ที่รถไม่ใช่หรอ” แก้วกัลยาพยักหน้าเหมือนนึกขึ้นได้

“จริงสิ” แก้วกัลยายิ้ม แต่เหมือนจะนึกบางอย่างออก “แต่เหมือนกล้องหลังรถมันจะเสียนะ”

“เจ๊แก้ว!!! ทำไมตัวไม่เอาไปซ่อม เค้าจำได้ว่าเค้าเตือนตัวแล้วนะให้เอาไปซ่อมเกิดฉุกเฉิน” รักจิราเอ่ยและทำหน้าหงุดหงิดและเหนื่อยใจ

“ก็ฉันเอาไปฝากให้คุณมงกุฎเธอไปให้แล้ว แต่คุณมงกุฎเธอไม่ว่าง แล้วฉันก็ลืม แกอย่ามาทำหน้าดุเลยไอ้รัก แกไม่ใช่หรอที่ขับรถฉันออกไปเตะบอลกับพวกไอ้รุธ แล้วเตะจนมันเด้งไปกระแทกจนกล้องพัง” รักจิรานิ่งพูดไม่ออก

“แต่เค้าบอกตัวไปตั้งแต่เดือนก่อนให้เอาไปซ่อมนะเจ๊แก้ว นี่มันผ่านมาเป็นเดือนแล้ว”

“เลิกเถียงกันได้แล้ว ผิดด้วยกันทั้งคู่นั่นแหละ เถียงกันไปก็จับคนร้ายไม่ได้ ตอนนี้เราทำได้แต่รอว่าตำรวจจะหาภาพจากกล้องวงจรปิดได้ไหม ตอนนี้ไปกินข้าวกันได้แล้วกับข้าวที่รักซื้อมาจะเย็นหมด” รักจิราถือถุงเดินเข้าไปในครัว วันวิวาห์ก็เดินตามเข้าไปช่วย ส่วนแก้วกัลยากำลังนั่งนิ่งพยายามไล่เรียงเรื่องราว

“เจ๊แก้วจะกินไหม ถ้ากินก็มาช่วย เค้าไม่ใช่เจ๊ขวัญนะที่จะให้ตัวมานั่งรอกิน โดยไม่ได้ทำอะไรน่ะ” แก้วกัลยาเดินไปช่วย เสียงโทรศัพท์ของรักจิราดังขึ้น รักจิรากดสายรับ

“ว่าไงไอ้รุธ ว่าไงนะ!!! เออ ๆ ขอบใจ” รักจิราหันไปมองแก้วกัลยาที่ตอนนี้มือวางถุงอาหารแล้ว

“แกมีอะไร”

“เค้าไม่มีหรอกเจ๊แก้ว แต่สุดที่เลิฟของตัวกำลังจะมี เรื่องใหญ่แล้วงานนี้” รักจิราเอ่ย

“เรื่องอะไร”

“เมื่อกี๋ไอ้รุธโทรมาบอกว่า นักร้องสังกัดของคุณเพทาย นายภีม ภีมะอะไรนั่นโดยจับข้อหาข่มขืน ตอนนี้คลิปพ่อคุณว่อนเน็ตแล้ว ผู้ปกครองของคู่กรณีแจ้งจับข้อหาข่มขืนเด็กอายุต่ำกว่าสิบแปดปี” แก้วกัลยานิ่งค้าง นอกจากคีตภัทร บัณฑิตาหรือแบร์ ภีมะหรือภีม นักร้องหน้าใสที่สร้างชื่อเสียงให้บริษัทอีกคนหนึ่ง ภีมเป็นนักร้องที่มีภาพลักษณ์แตกต่างจากคีตภัทร ภีมมีลุคออกแนวแบดบอย แต่เขาผ่านการสกรีนมาแล้วไม่น่าจะมีปัญหาได้ แก้วกัลยาหันหลังจะวิ่งไป แต่รักจิราไวกว่าวิ่งเข้ามาขวางหน้าไว้

“ตัวจะไปไหนเจ๊แก้ว”

“ไปดูคุณเพชร คุณเพชรต้องเครียดแน่นักร้องในสังกัดแต่ละคนมาโดยข้อหาติด ๆ กัน ฉันจะไปดูคุณเพชร” แก้วกัลยาสะบัดแขน แต่รักจิรามีแรงมากกว่า

“เค้าว่าตัวอยู่บ้านนี่แหละตัวไปก็จะเป็นปัญหา ตอนนี้คุณเพชรเค้าเครียดมากพอแล้ว ถ้าตัวไปอีกตัวจะยิ่งทำให้ปัญหามันเยอะกัน และคุณเพชรก็จะยิ่งเครียดไปอีก ตัวเชื่อเค้ารออยู่ที่นี่ รอฟังข่าวตอนนี้ข่าวปิดไม่มิดแล้ว มันเป็นข่าวใหญ่ ตอนนี้คุณเพชรจะต้องแก้ปัญหา ถ้าตัวอยากช่วย ช่วยคิดดีกว่าว่าจะทำยังไงต่อหลังจากนี้ ถ้าตัวมีวิธีช่วย คุณเพชรเขาจะได้เบาแรง ตัวมีวิธีอยู่แล้วนี่” แก้วกัลยาพยักหน้าอย่างเข้าใจ

“ตัวจะไปไหน ไม่กินข้าวก่อนหรอ”

“เก็บส่วนของฉันไว้ ตอนนี้ไม่มีอารมณ์” แก้วกัลยาเดินขึ้นไปบนห้อง ในมือคว้าหยิบโทรศัพท์ มือกดเลื่อนมาที่เบอร์เพทาย เธออยากจะโทรหาเขา แต่สายของเขาคงจะไหม้ ถ้าเธอโทรไปตอนนี้เขาคงจะเครียดหนักอย่างที่รักจิราบอก วันนี้เธอจะยอมอยู่บ้าน แต่พรุ่งนี้เธอจะไม่ยอมอยู่เฉย ๆ โดยไม่ไปเห็นหน้าเขา แก้วกัลยากดมาเลื่อนเบอร์อีกเบอร์หนึ่ง และกดโทรออก

“ฮัลโหลคุณมงกุฎฉันมีเรื่องให้คุณช่วย เสร็จงานนี้ฉันจะให้คุณลาพักร้อนสามเดือน เรื่องที่ฉันจะให้คุณช่วย ก็คือเรื่อง....”



...ติดตามตอนต่อไป...


ทักทายผู้อ่าน ค่ะ แวะมาแบบเร่งด่วน
ต้องเร่งเอาตอนมาอัพลงให้เพราะเดี๋ยวหลังอาทิตย์หน้าไรเตอร์จะไม่อยู่เกือบสามอาทิตย์ กลัวว่าจะไม่ว่างมาลงให้ ฝากแก้วขวัญวันรักด้วยค่ะ

ตอบคอมเมนส์กันหน่อยดีกว่าค่ะ
ใบบัวน่ารัก : นางเอกในเรื่องมีสี่คน ตอนที่ในส่วนของกรุงเทพยังอยู๋ด้วยกันสามคนนั่นคือแก้ว วัน และรัก
ส่วนขวัญนั้นอยู๋ที่เกาะดารา อยู่ในตอนที่4, 5

จ๊ะจ๋า : ในส่วนของพระเอกอันนี้คงรู้กันแล้ว แต่ใครคู่ใครอันนี้ลองติดตามดูค่ะ


ขอบคุณสำหรับทุกคอมเม้นส์นะคะ ทั้งคอมเม้นส์ของ แว่นแก้ว yimyum ไม่เอก ใบบัวน่ารัก และจ๊ะจ๋า ขอบคุณมากนะคะ เห็นคอมเม้นส์แล้วรู้สึกสดชื่น ขอบคุณที่เข้ามาติดตามกันนะคะ

และฝากคอมเม้นส์เป็นกำลังใจให้กันด้วยนะคะ
สามารถติดตามได้อีกช่องทางหนึ่งคือ http://writer.dek-d.com/414141/story/view.php?id=1169922
ไรเตอร์เองจะอัพทาง dek d เร็วกว่าหนึ่งวัน แต่ตอนจะไล่ ๆ กัน

รักผู้อ่านทุกคนนะคะ ขอบคุณค่ะ




พัชรีพร
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 22 มิ.ย. 2557, 20:10:44 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 22 มิ.ย. 2557, 20:12:37 น.

จำนวนการเข้าชม : 1553





<< 12 ปองรัก ปองร้าย   14 ไม่ใช่ผู้ชาย >>
แว่นใส 22 มิ.ย. 2557, 22:21:19 น.
รับผิดชอบอย่างดีเลย


yimyum 22 มิ.ย. 2557, 23:43:53 น.
ชอบคู่ของวันวิวาห์มากที่สุดเลยค่าาา><
วันพูดถูกการโกหกเป็นสิ่งไม่ดี แต่การลอกการบ้านเพื่อนคงไม่ผิด.....มั้ง 555 (เกี่ยวมั้ย--")


ใบบัวน่ารัก 23 มิ.ย. 2557, 06:45:46 น.
งะ เค้ายังลุ้นพระเอกของแต่ละคู่ไม่ขึ้นเลย
แต่ละคนร้ายๆทั้งนั้น นางเองเรายิ่งบอบบาง
โดยเพราะสาวที่ติดเกาะ เผาเกาะมันเลยเจ๊


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account