แก้วขวัญวันรัก
เรื่องราวของสี่สาวพี่น้องที่ต้องตามล่าหาแฟนให้ได้ภายในสามเดือน ก่อนที่จะถูกจับคลุมถุงชนกับเจ้าบ่าวที่ไม่เคยเห็นหน้า ดังนั้นภารกิจ และปฏิบัติการลับของการตามหาแฟนจึงเริ่มข้น
แต่ติดปัญหาที่แก้ไม่ตกนั่นคือ

คนหนึ่ง ขี้เหวี่ยงขี้วีน คบกับผู้ชายได้ไม่เกินหนึ่งวัน ผู้ชายคนนั้นต้องหนีเปิง เจ้าของฉายา
“สวยเหวี่ยงวีน”

คนหนึ่ง ซุ่มซ่ามจอมโก๊ะ เจ้าของฉายา “สาวโก๊ะมหาวิบัติ”

คนหนึ่ง ด้านชาต่อความรัก ไร้ความรู้สึกกลับความรัก เจ้าของฉายา “ดอกไม้น้ำแข็งไร้อารมณ์”

และอีกคนหนึ่ง สาวสวยหมดเท่ แต่ใจเธอคือหญิงแท้ แต่กลัวการมีความรัก เจ้าของฉายา
“เจ้าสาวกลัวฝน”

Tags: สี่สาว รักแท้ ความรัก การตามหา

ตอน: 14 ไม่ใช่ผู้ชาย



แว๊บมาลงนิยายให้ค่ะ ช่วงนี้หืดขึ้นคอ ต้องเตรียมทำรายงาน แวะมาได้บ้างบางช่วง
และววันนี้วันสาบฝนตกปลอย ๆ เป็นฤกษ์ดี เหมาะกับการอ่านนิยาย (ของตัวไรเตอรเอง 555)



14
ไม่ใช่ผู้ชาย


แก้วกัลยาที่นอนไม่หลับทั้งคืนเพราะมัวแต่คิดถึงเรื่องเพทาย เช้ามาถึงแทนที่เธอจะได้ไปหาเพทาย เธอต้องแวะกลับไปที่ร้านเสื้อของเธอ ที่ลูกค้ามาโวยวายว่าชุดที่ซื้อไปไม่มีคุณภาพ เธอต้องหาทางจัดการลูกค้าคนนั้นจนรู้ว่าแม่คุณเล่นเอาเสื้อผ้าเนื้อดีแบบนี้ไปปั่น ซึ่งแน่นอนว่าผ้าเนื้อดีแบบนี้ใครเขาปั่นกัน สุดท้ายกลายเป็นลูกค้าคนนี้ตั้งหากที่ผิด เธอต่อว่ากลับเสียหน้าหงาย บังอาจมาทำให้เวลาอันมีค่าของเธอเสียหาย แต่ยังไม่ทันย้ายตัวออกจากร้าน บีน่าเพื่อนสาวหุ้นส่วนของเสื้อผ้าแบรนด์ K.B เป็นเสื้อผ้าวัยรุ่นในยุคใหม่ที่กำลังมีชื่อเสียงและกำลังจะเป็นแบรนด์ระดับโลกอีกแบรนด์หนึ่ง ก็โทรมาทวงเสื้อผ้าคอนเล็คชั่นใหม่ที่จะเปิดตัวในฤดูร้อนนี้ ซึ่งเธอก็เกือบลืมล้าว่าออกแบบชุดไว้แล้วเธอก็ทำแบบหาย พอหาเจอเธอต้องคุยคอนเซปเสื้อผ้าผ่านโทรศัพท์ กว่าจะจัดการปัญหาเสร็จก็ปาไปเกือบเย็น หลังจากจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวมาตั้งแต่เช้า ตอนนี้เธอดี้ด้าสุด ๆ จะได้ไปเจอเพทายเสียที แก้วกัลยาต้องโทรให้มงกุฎขับรถมาส่ง ในใจแก้วกัลยาตอนนี้กำลังบ่นในใจว่าไม่น่าโกหกว่าแขนหักเลย ตอนนี้ทำอะไรก็ไม่ทันใจ หลังจากรอมงกุฎมารับเธอก็มุ่งหน้าไปหาเพทาย บริษัทวีนัส มีเดียตอนนี้กำลังวุ่น นักข่าวที่มาออกันหน้าบริษัท แต่ทางบริษัทยังไม่สามารถให้แถลงข่าวใด ๆ ได้ เธอโทรหามินตรา มินตราบอกเพทายว่ามีการประชุมบอร์ดบริหาร ทุกคนวิ่งวุ่นไม่เป็นอันทำอะไร

“คุณแก้ว” มินตราที่รับสายมือระวิงหันมามองด้วยสีหน้าดีใจสุด ๆ

“คุณเพชรอยู่ในห้องไหมมิน”

“อยู่ค่ะ แต่ตั้งแต่กลับออกมาจากห้องประชุมตอนเที่ยง ก็ยังไม่ออกจากห้องเลย”

“แล้วมันเกิดอะไรขึ้น ทำไมภีมอยู่ ๆ กลายเป็นโจรข่มขืน ลักพาตัวขึ้นมาได้ล่ะ”

“มินก็ยังไม่รู้อะไรแน่ชัดหรอกค่ะ คุณภีมถูกจับเมื่อคืนหลังจากมีมือดีปล่อยคลิปของคุณภีม จนมันเป็นเรื่องใหญ่ค่ะ จนถึงตอนนี้คุณภีมยังไม่ให้การอะไรกับตำรวจนอกจากปฏิเสธ” แก้วกัลยาพยักหน้ารับ

“แล้วได้คุยกับภีมหรือยัง”

“คุณภีมปฏิเสธว่าไม่รู้ เลยต้องรอสอบสวนอีกที แต่ตอนนี้สถานการณ์แย่เข้าขั้นวิกฤติแล้วค่ะ นี่มีคนบ้าที่ไหนไม่รู้ขุดเบื้องหลังนักร้องเรา ตอนนี้ทั้งนินิว ไอลีน เจอาร์ อีกหลายคนโดนขุดพฤติกรรมแย่ ๆ ขึ้นมาแฉว่อนเน็ต ภาพนักร้องในวีนัสกำลังแย่แล้วค่ะ ตั้งแต่เช้าจนถึงตอนนี้ดิฉันเช็คตารางหุ้นให้คุณเพทายหุ้นบริษัทตกฮวบฮาบคุณเพทายยิ่งเครียด”

“แล้วการประชุมเป็นยังไง พวกคณะกรรมการพวกนั้นเล่นงานอะไรคุณเพชรหรือเปล่า”

“ค่ะ พวกคณะกรรมการบอกว่าถ้าคุณเพทายแก้ปัญหาไม่ได้จะปลดคุณเพทายออก”

“ตาแก่พวกนั้นตาไปแล้ว นี่มันเหนือการควบคุม แล้วการคัดสรรนักร้องมันก็ไม่ได้มาจากคุณเพชร ฉันจะเข้าไปพบ เธอทำงานของเธอไปเถอะ” แก้วกัลยาเปิดประตูเข้าไปในห้องหลังจากเคาะประตู สภาพของเพทายดูค่อนข้างแย่กว่าทุกวันเขาอดหลับอดนอน คิดหาทางแก้ปัญหาจนเผลอนอนฟุบหลับไป แก้วกัลยากำลังจะกลับออกไป เพราะไม่อยากกวน แต่เขากลับตื่นขึ้นมา

“คุณ...”

“ฉันพึ่งรู้ข่าว คุณโอเคนะคะ” เขาพยักหน้า แต่สีหน้าเขามันฟ้อง ใบหน้าเขาไม่ได้มีความนิ่งเฉยสุภาพเฉกเช่นทุกวัน วันนี้เขาดูเหนื่อยดูล้าจนเธอรู้สึกไม่ดี

“มีคนจะดิสเครดิตคุณและบริษัทคุณรู้ใช่ไหม” เขาพยักหน้า “แล้วคุณรู้ไหมว่าเป็นฝีมือใคร” เขาเงียบไม่ตอบ แน่นอนดวงตาของเขาแข็งกร้าวขึ้นมาอย่างนี้รู้แน่ แต่เธอไม่อยากซักต่อ เรื่องบางเรื่องเธอคิดว่ายังไม่ถึงเวลาถามก็รอก่อนดีกว่า เกิดเขาโมโหไม่ยอมพูดด้วยเธอจะแห้วอีก ที่เป็นอยู่ตอนนี้ก็ไม่ใช่ว่าดีสักเท่าไหร่

“คุณควรจะกลับบ้านนะ ไปพักผ่อน ถ้าได้กลับไปนอนคิดคุณอาจจะคิดออกว่าควรจะทำยังไงต่อ” แก้วกัลยาเอ่ยและมอง แต่เขากลับไม่ยอมขยับตัว แก้วกัลยาขมวดคิ้วกับผู้ชายที่ชอบขัดคำสั่งเธอ เมื่อพูดดี ๆ ไม่ขยับ แก้วกัลยาก็เดินเข้าไปใกล้เขา เพทายลุกขึ้นทันทีที่แก้วกัลยาเดินมาถึงตัว ประสบการณ์หลาย ๆ อย่างบอกเขาว่าผู้หญิงคนนี้ต้องกำลังคิดลวนลามเขา

“วันนี้ฉันไม่แกล้งคุณหรอกค่ะ แค่จะมาชวนคุณไปกินข้าว มินบอกว่าคุณไม่กินข้าวไม่กลับบ้านตั้งแต่เมื่อคืน สภาพแบบนี้มันไม่เหมือนคุณเลยนะคะ ไปกินข้าวกันค่ะ”

“ไม่ ผมจะทำงาน”

“ทำอะไรกันค่ะ ฉันเห็นคุณนั่งคิดหาทางแก้ปัญหาหัวแทบแตก แต่ก็ยังไม่เห็นคิดอะไรออก ปัญหาถ้ายังแก้ไม่ได้อย่าดันทุลังสิคะ ฉันเชื่อว่ายังไงคนเก่ง ๆ แบบคุณต้องแก้ได้ แต่ถ้าคุณไม่พักผ่อน คุณเกิดล้มขึ้นมา ทีนี้จะแก้ไม่ได้ นะคะไปพัก แล้วกลับมาคิดใหม่ว่าจะทำยังไง” เพทายหันมามองแก้วกัลยาด้วยสายตาสงสัยว่าผู้หญิงที่แต่งตัวสวยไปวัน ๆ เดินโฉบไปมา คิดแบบนี้ได้ด้วยหรอ

“ก็ได้ผมจะกลับบ้าน” เพทายเอ่ยและคล้อยตามแก้วกัลยา แต่เมื่อเขาทำท่าจะเดินออกไป

“ไม่ทันแล้วค่ะ ตอนนี้คุณต้องไปกินข้าวกับฉัน คุณรู้ไหมวันนี้ทั้งวันฉันก็ยุ่งมา ฉันอยากมาหาคุณตั้งแต่เช้า ถ้าไม่ติดงาน วันนี้คุณจะได้เห็นหน้าฉันตั้งแต่เช้าแล้ว”

“แต่...”

“ไปกันค่ะที่รัก ฉันหิวข้าวจนไส้แทบบิดแล้ว” แก้วกัลยาฉวยโอกาสเขาเผลอพุ่งเข้ามาคล้องแขนข้างที่ไม่ได้ใส่เฝือกและลากเขาเดินออกไป พอเขาจะอ้าปากค้าน เธอก็มองหน้าเขาและมองมาที่แขนข้างที่ใส่เฝือกอยู่ เป็นอันเข้าใจว่าห้ามขัดใจฉัน เขาขับรถไปตามทางที่แก้วกัลยาบอกเงียบ ๆ จนถึงร้านที่เธอบอก เธอนั่งนิ่งเขาต้องเดินไปเปิดประตูให้แก้วกัลยาเดินคล้องแขนเขาไว้

“แบบนี้สิคะถึงจะน่ารัก” แก้วกัลยายื่นมือไปดึงแก้มเพทายเบา ๆ เหมือนคู่รักที่หยอกล้อกัน เพทายหันมามองตาขวางที่เธอเริ่มลามปามและเยอะกับเขา แต่แก้วกัลยาก็ทำเป็นมองไม่เห็นดวงตาคม ๆ ของเขา สถานการณ์ตอนนี้คนภายนอกคงจะมองว่าคู่รักกำลังง้องอนกัน เพราะใบหน้าคนหนึ่งกำลังยิ้มอย่างสุขใจ อีกคนกำลังสะกดกั้นอารมณ์โกรธ นี่เค้ายังปวดหัวไม่พอใช่ไหม ผู้หญิงคนนี้ถึงต้องมาเพิ่มเรื่องให้เขาปวดหัว พลันคดีเก่าแก่ที่แก้วกัลยาทำให้ไว้ทำให้เขาระแวงจึงมองสำรวจไปรอบ ๆ ลานจอดรถ

“ไม่ต้องมองหรอกค่ะ ร้านนี้เป็นร้านประจำของแก้วแล้วก็พวกน้องของแก้ว แน่นอนว่าไม่มีปาปารัสซี่ เป็นร้านเพื่อนแก้วเอง เข้าไปเถอะค่ะ ฉันจะหลอกคุณทำไมกันคะ ฉันรู้น่าว่าเวลาไหนควรเล่าไม่ควรเล่น เร็วสิคะ” เขาเดินตามแรงดึงเข้าไปในร้านอาหารสวนขวัญ เป็นร้านอาหารที่ดูร่มรื่น ภายนอกมีต้นไม้ปลูกดูสบายตายิ่งเข้ามานั่งก็ให้ความรู้สึกเหมือนนั่งกินข้าวในสวนที่บ้านตัวเอง ด้านข้างเป็นแม่น้ำ ถ้ากินตอนกลางคืนคงจะได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศริมทะเล แก้วกัลยาชะงักเมื่อเสียงเรียกดังขึ้น

“เจ๊แก้ว!!!” แก้วกัลยาหันไปมอง และทำหน้าบึ่งขึ้นมาทันทีที่เห็นว่าเป็นยัยน้องสาวตัวดี เธออุตสาห์จะพาเขามากินข้าวดินเนอร์สองต่อสอง แต่งานนี้หมดสิทธิ์แล้ว เพราะสายตาของทั้งโต๊ะทั้งคือรักจิรา นิรุธและหฤทัยกำลังมองมาที่เธอ เธอจึงดึงตัวให้เพทายตามตัวเธอมา รักจิราจ้องทั้งสองแบบตาไม่กระพริบ ออกแนวตกใจมากกว่าที่พี่สาวเธอควงมากับเพทาย เธอไม่อยากจะเชื่อ

“เลิกมองได้แล้วไอ้รักคนนี้หวง”

“ไม่มองก็ได้ เค้าแค่ตกใจ ว่าแต่...” รักจิรามองตาพี่สาวเป็นเชิงว่าแนะนำสิ

“คุณเพชรนี่รักจิราเป็นน้องสาวฉัน นั่นเพื่อนน้องฉันรุธ กับหวาน ส่วนคนนี้คือคุณเพทาย หรือคุณเพชรที่รักของฉันแกน่าจะรู้จักอยู่แล้วนี่รัก รุธ หวาน ถ้ารู้จักแล้วเราไปกันเถอะค่ะ” เพทายไม่ค่อยชอบใจกับสถานะที่แก้วกัลยายัดเยียดให้ ขณะที่แก้วกัลยากำลังจะควงเพทายหนีไป รักจิราจับข้อมือแก้วกัลยาไว้

“จะไปไหนล่ะเจ๊แก้ว นั่งด้วยกันก็ได้ โต๊ะพวกเรานั่งได้ตั้งหกเจ็ดคน ไปนั่งทำไมให้เปลืองโต๊ะ นั่งด้วยกันนะคะคุณเพชร” เพทายพยักหน้าและเดินไปนั่งลงที่ข้าง ๆ นิรุธ แก้วกัลยามองจิกใส่รักจิราที่ยิ้มเยาะเย้ย แก้วกัลยาเดินมานั่งข้าง ๆ เพทายแทนที่จะนั่งข้างนอกสาว นิรุธเดินไปหยิบเก้าอี้อีกตัวและเปลี่ยนไปนั่งหัวโต๊ะแทน

“ตัวเลิกมองได้แล้ว ปกติก็เป็นมารร้ายอยู่แล้ว ยิ่งจิกยิ่งเหมือน ว่าไหมคะคุณเพชร” อยู่ ๆ รักจิราก็หันไปถามความเห็นผู้ชายที่เปิดสั่งอาหารเพิ่มอีกอย่าง เขายิ้มนั่นก็คือคำตอบแล้ว ปกติเขายิ้มให้คนแปลกหน้าที่ไม่ใช้คู่ธุรกิจเสียเมื่อไหร่

“เห็นไหมคุณเพชรเขาคิดแบบเค้า ว่าตัวเป็นนางมารร้าย”

“หุบปากไปเลยไอ้รัก ปากไม่สร้างสรรค์ รุธช่วยเอาไก่อุดปากลูกพี่แกด้วย จะได้ไม่เห่าใส่ชาวบ้านเขา” เพทายมองพี่น้องที่เชือดเฉือนกันทางคารม มันไม่ได้ดูเหมือนคนโกรธกันแบบศัตรู แต่มันให้ความรู้สึกถึงพี่น้องที่ทะเลาะกัน มันดูแปลกตาสำหรับเขาในลุคนี้ของแก้วกัลยา

“คุณเพชรคะทานนี่สิคะ ของโปรดแก้วเลยนะคะ รับรองอร่อยเหาะ”

“ของโปรดตัวบางทีอาจจะไม่ใช่ของโปรดคุณเพชรเขาก็ได้นะเจ๊แก้ว บางทีของที่ตัวตักให้คุณเพชรอาจจะแพ้ จริงไหม...แค่ก ๆ” แก้วกัลยาหันไปตักข้าวตัวเองและยัดใส่ปากน้องสาวที่ไม่ยอมจบ รักจิราสำลักข้าวนั้นและมองตาขวาง

“ยัยเจ๊แก้ว ตัวกล้ากับเค้าหรอ”

“เออ ทำไม แกจะทำไมฉันไอ้รัก อย่าคิดว่าเป็นมวยแล้วฉันจะกลัวแกตลอดนะ อย่าให้ถึงทีฉันบ้างนะ” รักจิราทำหน้าไม่สนใจตักอาหารใส่ปาก และตอนนั้นเองที่เธอมองเห็นผู้ชายท่าทางคุ้นตาเดินผ่านหน้าไป แต่ก็ส่ายหน้าพลางคิดว่าตัวเองคิดมาก อาหารมื้อนั้นดูครึกครื้น รักจิราและนิรุธเล่าเรื่องตลกกัน แก้วกัลยาที่ตั้งท่าจะรักษามาดที่แทบไม่เหลือกับร่วมวงด้วย เพทายมองผู้หญิงข้างด้วยสายตาแปลกเข้าไปอีก นี่หรือ ...นางมารอสรพิษ...

“ตัวกลับยังไง”

“เดี๋ยวให้คุณเพชรไปส่ง แกไปด้วยไหม”

“ถามแล้วจิกตามใส่แบบนี้ก็ไม่ต้องถามหรอก คุณเพชรคะฝากพี่สาวฉันด้วยนะคะ ทางที่ดีส่งเสร็จปิดประตูไล่ อย่าปล่อยให้เจ๊แก้วลากเข้าบ้านไม่อย่างนั้น คุณโดยเจ๊แก้วกินแน่”

“ไอ้รัก!!!” รักจิรารีบวิ่งหนีไป แก้วกัลยาหันไปมองเพทายที่จ้องหน้าเธออยู่

“คุณลืมวันนี้ไปเลยนะ ถือว่าวันนี้ฉันไม่ใช่แก้วกัลยา มารร้ายอสรพิษ” เพทายพยักหน้าและเดินนำแก้วกัลยาไปที่รถ เขาลืมความเครียดไปชั่วขณะ แต่เมื่อนึกถึงเรื่องงานเขาก็เครียดอีกครั้ง

รักจิรา นิรุธ และหฤทัยเดินไปที่ลานจอดรถ จนเดินมาถึงกลับเป็นผู้ชายสองคนกำลังกอดกัน ผู้ชายคนหนึ่งคือพอล สไตล์ลิสชื่อดังที่เธอเคยเจอ ส่วนอีกคนนั่นมันคุ้นเสียยิ่งกว่าคุ้น ก็นั่นมันหัวหน้างานเธอ อัสนี

“นั่นมันคุณอัสนีบอกอหนังสือพิมพ์พี่รักนี่คะ ไม่อยากจะเชื่อ หน้าตาก็ดีไม่น่าทำอะไรแบบนี้เลยนะคะ ทำอะไรไม่อายฟ้าดินเลย ไม่กลัวฟ้าผ่าเลยว่าไหมคะพี่รัก” หฤทัยเอ่ย

“พูดดี ๆ หน่อยยัยหวาน นั่นหัวหน้าฉัน เขากอดเพื่อนเขาผิดตรงไหน” นิรุธแก้ต่างให้เจ้านาย

“เพื่อนที่ไหนกอดกันตัวกลมดิ๊ก ออกแนวเพื่อนกูรักมึงว่ะมากกว่า” หฤทัยยังพูดไม่เลิก รักจิรามองภาพนั้นด้วยความรู้สึกหงุดหงิดใจ ไม่พอใจ อยากจะเข้าไปถาม ความรู้สึกแบบนี้มันหายไปนานมันมันถูกฝังไปพร้อมกับเขานั่นแหละ แต่พอมาเห็นแบบนี้ตะกอนที่อยู่ลึกสุดใจกับเริ่มขุ่นขึ้นมาอีกครั้ง

“ไม่จริงหรอกเจ๊ เฮียสายฟ้าออกจะแมน เจ๊ก็ทำงานกับเฮียสายฟ้าเขาบ่อย ๆ เจ๊ก็น่าจะรู้ว่าแมนไหม” นิรุธพูดเป็นเชิงถามความเห็นรักจิราที่ยินนิ่งเหมือนยังช็อค

“เขาอาจจะเป็นคิงไง”

“หุบปากไปเลย เอาอย่างนี้ไปถามเลยดีกว่าจะได้รู้ ผมมั่นใจว่าเฮียบอกอไม่ใช่เกย์ ดูไม่เหมือนสักนิด” หฤทัยมองคนที่ออกตัวแทนเจ้านายอย่างหมั้นไส้

“แต่ผู้ชายคนที่เจ้านายของนายกอดอยู่น่ะพักอยู่คอนโดเดียวกับฉัน ฉันเคยเห็นเขาหายไปด้วยกันทั้งคืน ลงมาอีกทีก็เช้า ถ้าไม่ได้ไปฟิชเจอริ่งกันจะไปทำอะไร นั่งเล่นปั่นแปะหรือไง” หฤทัยเถียงกลับ

“ไม่รู้อะไรอย่ามาเดามั่ว เธอนั่งเฝ้าหน้าห้องเขาหรือไงถึงรู้” นิรุธเองก็ไม่ยอมแพ้ เขารู้ว่าหฤทัยชอบรักจิรามาก และเขาก็รู้ว่ารักจิราไม่ใช่ทอม ไม่ใช่เลสเบี้ยน และเขารู้ความคิดของหฤทัยคิดจะมางาบลูกพี่เขา ไม่มีทางเสียหรอก เขาถึงต้องตามมากินข้าวด้วย เกิดยัยนี่แสร้งแบ๊วอ้อนลูกพี่สาวของเขาและหลอกไปปู้ยี้ปู้ยำเขาคงทำใจไม่ได้ ที่รุ่นพี่สาวที่เขาเคารพรักจะไปคว้ายัยเสแสร้งนี่เป็นแฟน ใคร ๆ ก็บอกออกว่าหฤทัยน่ะแอ๊บใส มีแต่รักจิรานั่นแหละที่มองไม่ออก

“ก็ห้องของคุณพอลอยู่ห้องข้าง ๆ ฉัน ฉันตื่นเช้ามาเขาก็เปิดประตูออกมาด้วยกัน แล้วนายจะเข้าใจยังไง ยอมรับซะเถอะเจ้านายของนายน่ะเป็นเกย์ ระวังเถอะเขาจะหลอกกินนาย”

“นี่...”

“พอเถอะน่าจะเถียงกันทำไม”

“ผมไม่เถียงก็ได้ แต่ผมจะเข้าไปถามว่าตกลงใช่ไหม เฮียสายฟ้า!!! อุ๊บส์” นิรุธตะโกนขึ้น แต่รักจิราและหฤทัยตกใจกับการกระทำของเขารีบปิดปากและกดหันนิรุธให้ก้มลงหลบลงที่ซอกรถพร้อมกัน อันสีผละออกจากพอลและหันไปมองแต่ไม่เห้นใครก็คิดว่าหูฝาดเลยพาพอลขึ้นรถไป

“ทำอะไรของนายน่ะ” หวานเอ่ย

“ก็จะถาม”

“ถามแบบนี้ใครเขาจะยอมรับการ เป็นใคร ๆ ก็ปฏิเสธทั้งนั้นแหละ นายโง่ป่ะเนี่ย” หฤทัยเอ่ยด่า นิรุธอ้าปากจะต่อฝีปากกลับ แต่รักจิราก็หมดความอดทนกับทั้งสองคนที่เถียงกันข้ามหัวเธอ

“พอได้แล้ว อยากรู้ก็ตามไปสิ ทีนี้จะได้รู้ว่าใช่อย่างที่หวานบอกไหม” รักจิราเอ่ยและคว้ากุญแจรถของหฤทัยมาถือไว้และรีบวิ่งไปที่รถเธอ ตอนนี้เธออยากรู้มากว่าว่าเขาจะเปลี่ยนไปแล้วจริง ๆ น่ะหรือ ทั้งสองรีบวิ่งตามขึ้นไปที่รถเพราะกลัวว่ารักจิราจะทิ้งเขาสองคนไว้ ปฏิบัติการตามล่าความจริงจึงเริ่มขึ้น ทั้งหมดตามมาถึงคอนโดของหฤทัย และแอบทั้งสองตามขึ้นไป พวกเธอและเขามานั่งรออยู่ในห้องของหวาน โดยเปิดประตูออกมาชะเง้อมองประตูห้องข้าง ๆ เป็นพัก ๆ นิรุธสังเกตถึงความผิดปกติของรุ่นพี่สาวที่ดูจะเดือดเนื้อร้อนใจมาก

“ผมขอไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ นี่ห้องน้ำอยู่ไหน” หฤทัยชี้ไป นิรุธรีบวิ่งเข้าห้องน้ำ ในห้องนั่งเล่นจึงเหลือเพียงรักจิราและหฤทัย หฤทัยมองเสี้ยวหน้าที่นิ่งไปของรุ่นพี่

“พี่รักกลัวว่าพี่สายฟ้าเป็นเกย์หรอคะ พี่รักยังไม่ลืม...”

“พี่ไม่เก็บเรื่องเก่า ๆ มาให้รกสมอง อะไรที่ทิ้งไปแล้วพี่ไม่สนหรอก” รักจิราพูดและปรับสีหน้าให้เป็นปกติที่สุด

“แล้วพี่รักเชื่อหวานหรือเปล่าคะ หวานไม่ได้โกหกนะคะ หวานเห็นจริง ๆ ว่าเขาออกมาด้วยกัน หวานว่านะคะบางทีพี่สายฟ้าอาจจะเปลี่ยนไปแล้วจริง ๆ ผ่านมาเกือบสิบปีแล้ว ปกติพี่รักก็รู้ว่าพี่ฟ้าเกลียดพวกเกย์พวกตุ๊ด ถึงขั้นพวกถ้าเข้าใกล้พี่ฟ้าแกต่อยจนพวกนั้นไม่กล้าเข้าใกล้ แต่อยู่ ๆ ก็ไปเป็นเพื่อนกัน หวานว่ามันต้องมีเบื้องลึก หวานมองสายตาพี่รักออกนะคะว่ายังไม่เคยลืมพี่สายฟ้า แต่...”

“ช่างเถอะ พี่จะกลับบ้านแล้ว เขาจะเป็นเกย์หรือไม่เป็นก็ช่าง เพราะพี่กับเขาเราไม่มีทางกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้อีก ที่พี่มาดูก็เพราะเขาเคยเป็นคนรู้จัก และถ้าเขาเป็นจริง ๆ พี่จะได้เอาไปแบล็คเมล์เขา มีคิดแค่นั้น หวานรู้จักพี่มานานก็น่าจะรู้ว่าคนที่พี่เกลียดไปแล้วพี่จะไม่มีวันกลับไปรักอีก”

“ถ้าพี่รักคิดแค่นั้นก็ดีค่ะ หวานอยากให้พี่รักรู้นะคะว่าหวานห่วงพี่รัก หวานไม่อยากเห็นพี่รักต้องเสียใจเหมือนเมื่อสิบปีก่อน ผู้ชายที่เจ้าชู้ไม่สามารถเปลี่ยนตัวเองได้ และตอนนี้เขาอาจจะไม่ใช่พี่สายฟ้าคนเดิมอีกแล้ว ถ้าเขาเป็นเกย์จริง ๆ ถ้าพี่รักยังไม่ลืมเขา จะมีแต่พี่รักที่เสียใจ หวานรักพี่รักห่วงพี่รักหวังถึงเตือนนะคะ”

“พี่ก็รักหวาน” หฤทัยยิ้มขึ้นมาทันที “หวานเป็นน้องสาวที่น่ารักของพี่เสมอ ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน หวานก็เป็นน้องสาวที่พี่รัก ขอบใจนะหวาน แต่หวานเชื่อเถอะพี่ไม่มีวันยอมกลับไปเสียใจเพราะเขาอีก และที่สำคัญไม่ว่าเขาจะเป็นเกย์หรือไม่เป็น”
“เจ๊รักกลับเถอะ นี่มันจะสองทุ่มแล้ว กว่าจะถึงบ้านเจ๊อีก ส่วนเรื่องไร้สาระพวกนี้อย่าไปสนใจเลย” รักจิราหันมาวางมือลงบนหัวหฤทัยและยีเบา ๆ อย่างเห็นดู

“พี่ไปนะหวาน ไม่ต้องไปส่งหรอก เดี๋ยวขากลับกลับคนเดียวมันอันตราย พี่มีไอ้รุธ พี่กลับได้” หฤทัยพยักหน้าและมองรักจิราเดินออกไปอย่างเศร้า ๆ เธอเกือบจะดีใจอยู่ ที่ได้ยินว่ารักจิราบอกรักเธอ แต่พอได้ยินคำว่าน้องสาว สถานะที่เขาให้เธอมาสิบปีที่ไม่เคยเปลี่ยนจิตใจก็ห่อเหี่ยวอีกครั้ง

“เจ๊รักน่ะหญิงไทยใจแท้ ไม่ใช่ทอม ไม่ใช่เลส เลิกคิดเลิกฝันว่าเจ๊รักจะหันมาชอบเธอ เพราะฝันให้ตายเธอก็ไม่ไม่ถึง สักวันเจ๊รักจะต้องมีผู้ชายดี ๆ มารัก ซึ่งก็ต้องเป็นเฮียสายฟ้าแน่ ๆ เพราะฉันเห็นเขากอดกัน ถ้าไม่อยากเสียใจก็เลิกคิด ไปหาคนที่รักเธอเถอะยัยวิปริต”

“ไอ้บ้า!!!” หฤทัยคว้าหยิบก้อนหินสีสวยที่ใช้ประดับห้องที่วางอยู่บนโต๊ะออกไป นิรุธที่ยังเดินไปพ้นประตุห้องจึงโดนเต็ม ๆ ที่หัว โชคดีที่ก้อนหินก้อนนั้นมันไม่ใหญ่ ไม่อย่างนั้นเขาหัวแตกไปแล้ว

โป๊ก!!!

“โอ๊ย!!! ยัยบ้าฝากไว้ก่อนเถอะยัยวิปริตแอ๊บแบ๊ว” หฤทัยตั้งท่าจะหยิบอีกก้อน แต่นิรุธปิดประตูวิ่งหนีออกไป เพราะก้อนที่หฤทัยหยิบมันใหญ่กว่าก้อนที่แล้ว เสี่ยงต่อหัวแตกมาก




รักจิรากลับมาถึงบ้าน ล้มตัวนอนลง ในหัวยังคิดเรื่องของสายฟ้าไม่หยุดทั้งที่บอกว่าไม่ได้คิดอะไรแต่ก็หงุดหงิดงุ่นง่านใจ และรับไม่ได้ที่ผู้ชายคนนั้นจะไม่ใช่ผู้ชายอีกแล้ว เธอคงจะเชื่อว่ามันไม่จริง ไม่มีทางเป็นไปได้ ก็อย่างที่หฤทัยเคยบอกว่าอัสนีเกลียดเพศที่สาม เขามีอดีตฝังใจกับคนกลุ่มนี้ ถ้าพวกเกย์ กระเทย เข้าใกล้เขาต่อยใส่ทันที แต่อยู่ ๆ เขากลับกอดเสียแนบเนื้อ แถมตอนเจอกันที่ร้านอาหารครั้งก่อนสรรพนามที่พอลใช้เรียกอัสนีก็คือ ...ที่รัก....

“โอ๊ย!!!” รักจิราที่พยายามข่มตาหลับ แต่ภาพของอัสนีกับพอลก็ตามวนเวียนอยู่ในความคิด และเธอยังคิดล้ำลึกขนาดที่ตัวเธอก็ไม่ได้เห็นเองว่าเขาหายไปทำอะไรกัน แต่กับมโนขึ้นมาเอง และก็มโนไม่หยุด มือควานหยิบโทรศัพท์ในกระเป๋าที่อยู่ข้างตัวและกดโทรหาคนที่เธอจะสามารถระบายได้

(ฮัลโหลว่าไงนี่มันจะสามทุ่มครึ่งแล้วยังไม่นอนอีกหรือไงรัก เดี๋ยวไปสายก็โดยสายฟ้าว่าเอาอีก) เสียงหวาน ๆ ปลายสายทำให้เธอคิดถึงขึ้นมาทันที แต่เมื่อได้ยินชื่อของคนที่ทำให้เธอนอนไม่หลับก็หงุดหงิดขึ้นมาอีกครั้ง

“เจ๊ขวัญนั่นแหละป่านนี้ยังไม่นาน อย่าบอกนะลุกมาอาขนมกินกลางดึก เค้าเตือนว่าไม่ให้กินตัวลืมไปแล้วหรือไง เดี๋ยวก็อ้วน” รักจิราตั้งท่าจะบ่น

(ตกลง โทรมาบ่นเจ๊หรือไงรัก)

“เปล่า คือว่า...คือ...คืออย่างนี้นะ...เอ่อ...”

(รักอยากพูดอะไรก็พูดมาเถอะ ระหว่างเราไม่มีอะไรต้องปิดบังอยู่แล้ว ถ้ารักเสียเวลาเอ่อ คืออย่างโน้น คืออย่างนี้ เจ๊ก็ไม่เข้าใจหรอก แล้ววันนี้ก็คงไม่ได้พูด) ขวัญชีวันพูด

“ตัวจำที่เขาบอกได้นะที่ว่าอีตาสายฟ้าน่ะมาเป็นหัวหน้างานเค้า แล้วทีนี้เค้าบังเอิญไปรู้ว่านายสายฟ้าเป็นเกย์ ตัวได้ยินไหม เขาเป็นเกย์เจ๊ขวัญ” น้ำเสียงที่ส่งผ่านสายไปกำลังรับไม่ได้และงุ่นง่านใจสุด ๆ

(แล้วไง เขาเป็นเกย์ก็เรื่องของเขาสิ เกี่ยวอะไรกับเรา แล้วเรารู้ได้ยังไงว่าเขาเป็นเกย์ เขาบอกเราหรออยู่ ๆ ไปฟันธงเองมันอาจจะเป็นเรื่องเข้าใจผิดก็ได้ สายฟ้าเขาจะเสียหายเอานะ)

“ไม่ผิดแน่ เค้าเห็นกับตาเลยนะ”

(ถ้าเขาเป็นจริง ๆ มันก็เรื่องส่วนตัวเขานะรัก แล้วเราจะมางุ่นง่านใจแทนครอบครัวเขาทำไม เอ๊ะ...นี่อย่าบอกนะที่โทรมา ไม่สบายใจเรื่องนี้ ปกติถ้าไม่ใช่เรื่องที่คิดไม่ตกจริง ๆ รักจะไม่ยอมปรึกษาพวกเจ๊)

“ก็...เค้ารับไม่ได้ไงเจ๊ขวัญ คนเคยรู้จักกัน แถมเคยคบกันอยู่ ๆ ก็เปลี่ยนไปชอบผู้ชาย เค้าไม่ได้เครียดนะ แต่เค้าแค่...แบบ...ไม่เข้าใจ” รักจิราพยายามอธิบาย และหาทางพูดให้ขวัญชีวันไม่ตีความหมายผิด

(แต่มันก็ไม่เห็นแปลก เขาไปเมืองนอกมาตั้งหลายปี แล้วเมืองนอกเขาก็เปิดเรื่องพวกนี้ แล้วเราจะคิดมากทำไมรัก การที่เราเดือดร้อนใจจนนอนไม่หลับ มันมีเหตุผลอื่นหรือเปล่า ลองสำรวจใจตัวเองดี ๆ นะ บางทีรักอาจจะ...)

“บะ...บ้าน่า มันไม่มีทางเป็นอย่างที่ตัวคิดหรอก เค้าก็แค่ไม่เข้าใจ มันแบบว่า...โอ๊ย!!! ไม่เอาแล้วไม่พูดเรื่องนี้แล้ว พูดเรื่องตัวบ้างดีกว่าเจ๊แก้ว ทำงานกับลูกสาวคุณวาทินเป็นไง ลูกสาวเขาไม่ดุเหมือนพ่อใช่ไหม” อยู่ ๆ รักจิราก็เปลี่ยนหัวข้อสนทนาซะอย่างนั้น ขวัญชีวันต่างจากแก้วกัลยาที่ไม่ซักต่อถ้าเจ้าตัวเลือกจะไม่พูด ทำให้เวลามีเรื่องไม่สบายใจรักจิราจะเลือกมาระบายกับขวัญชีวันมากกว่า

(น้องอีฟน่ารักดี พูดง่ายเชื่อฟัง ไม่ดื้อ)

“โชคดีที่ไม่ได้เชื้อดุพ่อมา ตัวพอจะรู้บ้างหรือยังว่าของอะไรที่พวกนั้นทำหาย แล้วตอนนี้เจอหรือยัง”

(เจ๊ก็ไม่รู้ แต่น่าจะยังหาไม่เจอ เพราะคุณวาทินเขายังเครียด ๆ ถ้าหาเจอแล้วเขาก็น่าจะบอกเราด้วยแหละ เพราะเราก็อยู่ในเหตุการณ์นั้น เอาไว้เจ๊จะลองถามคุณคิมดู ถ้าคุณคิดเธอยอมบอก) ขวัญชีวันเลือกที่จะเลี่ยงพูดเรื่องเหตุการณ์ระเบิดเมื่อหลายวันก่อน เพราะกลัวรักจิราจะไม่สบายใจ

“ตัวก็ส่งตาหวาน ๆ ให้เขาสิเจ๊แก้ว รับรองเขาต้องยอมบอกแน่ ผู้ชายเจอผู้หญิงตาแบ๊ว ๆ หวาน ๆ ของตัวเป็นอันต้องสยบทุกคนแหละ ตัวหัดงัดมันมาใช้บ้างสิ จริงสิพูดถึงคุณคิม เขาแนะนำให้ตัวจีบคุณคิมเป็นแฟน”

(บะ...บ้าน่า)

“เค้าพูดจริงนะ กว่าตัวจะกลับมาอาจไม่ทันได้หาแฟนแน่ ๆ อย่างน้อยหนีบพ่อบอดี้การ์ดหล่อเกาหลีมาด้วยอาจพอมีหวัง ไม่อย่างนั้นตัวต้องแต่งงานกับเฮียเหมา เค้าจะช่วยไม่ได้นะ”

(เจ๊จีบใครเป็นที่ไหนล่ะ อีกอย่างเจ๊ก็ไม่ได้ชอบคุณคิมเขาแบบนั้นด้วย แล้วตอนนี้คุณคิมเค้าไม่อยู่ให้เจ๊จีบด้วย อยู่แต่คุณทิม ใช้คุณทิมแทนได้ไหม) ขวัญชีวันพูดเล่นกับน้องสาว พลางหัวเราะคิกคัก

“อย่าบอกนะว่าเป็นอีตาบอดี้การ์ดหน้าดุนั่นน่ะ อย่านะเจ๊เค้ารับไม่ได้ที่พี่เขยเขาจะหน้าดุ ตาดุ หน้าตาก็โอหน้าเสียอย่างปากนี่หมามาก เค้ารับมือนายสายฟ้าก็เหนื่อยแล้ว ถ้าได้อีตาบอดี้การ์ดหน้าดุที่เป็นพี่เขยมีหวังเขาได้ตายก่อนวัยอันควรเพราะเถียงไม่ไหว”

(แต่คุณคิมเขาเป็นคนดีอยู่นะ แม้เขาจะทำหน้าดุ แต่เขาก็ช่วยเจ๊หลายเรื่อง) ขวัญชีวันพูด ดูอย่างตอนที่วาทินกำลังจะดุเธอสิ เขาก็มายืนข้าง ๆ แม้จะทำสีหน้าดุ แต่เธอสัมผัสได้ว่าเขากำลังปลอบและช่วยเธอในแบบของเขา

“ชื่นชมเขาแบบนี้อย่าบอกนะว่าเจ๊คิดอะไรกับอีตาบอดี้การ์ดหน้าดุจริง ๆ”

(บ้าน่า)

“บ้าน่าอะไร พูดชื่อผู้ชายบนเกาะนั้นมาสองแล้ว เหลืออีกหนึ่งคุณวาทิน นี่ตัวทำงานกับเขาตั้งเป็นอาทิตย์ อยู่ในบ้านเดียวกับเขา ถึงแม้จะดุไปบ้างแต่เขาก็หล่อมากเลยนะ ตัวไม่ชอบเขาบ้างหรอ” รักจิราแกล้งถามเล่น ๆ ไม่ได้เอาจริงเอาจัง แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือความผิดสังเกตของขวัญชีวัน

(พูดอะไรของรัก พี่กับคุณวาทินเนี่ยนะ ไม่มีทางเป็นไปได้หรอก) ใช่เธอกับเขามันคนละโลกกันเลย รักจิราจับผิดสังเกตทางน้ำเสียง

“เจ๊ไม่เคยอ่านนิยาย หรือดูละครหรอ พระเอกให้นางเอกไปทำงานในบ้าน สุดท้ายก็...” ขวัญชีวันหน้าแดงขึ้นมาทันทีกับช่องว่างที่รักจิราเว้นไว้ พลันใบหน้าของวาทินก็ปรากฏขึ้นมาในห้องความคิด เธอเจอเขาสามเวลาหลังอาหาร เพราะเขาจะต้องกลับมาทานข้าวเป็นเพื่อนน้องอีฟทุกวัน เธอได้เห็นมุมอ่อนโยนของเขาตอนอยู่กับน้องอีฟ เขาเป็นคุณพ่อที่หน้ารัก แต่ก็แอบเข้มงวดไม่ได้ตามใจจนน้องอีฟเสียคน แรก ๆ เธอก็กลัวเขาแต่การที่เจอหน้าเขาบ่อย ๆ ซึมซับนิสัยของเขา เขาไม่ใช่คนที่ดุอะไรแบบนั้น แค่เป็นคนขรึม เป็นผู้ชายที่ดีมาก มีอยู่ครั้งหนึ่งที่เธอสะดุดหน้าคะมำตอนเขากลับมาพอดี เขาที่มองหน้าเธอนิ่ง ๆ ตอนแรกเธอคิดว่าเขาจะเดินผ่าน เขากลับเดินมาช่วยเธอ ผิดไหมที่เธอจะประทับใจเขา เธอแอบมองเขาบ่อย ๆ จนรู้สึกโหวง ๆ ในใจ และทุกครั้งที่นึกถึงเธอไม่รู้ตัวหรอกว่ากำลังยิ้มอย่างสุขใจแค่ไหน ผู้หญิงอย่างขวัญชีวันที่ไม่เคยมีความรักแยกความรู้สึกที่เป็นอยู่ไม่ออก แต่คนที่รู้จักเธอดีแยกออกแน่นอน

(ไม่มีทาง เขาเป็นมาเฟีย คนระดับนั้นไม่สนใจผู้หญิงกิ๊กก๊อกแบบเจ๊หรอก) ขวัญชีวันพูดและหน้าหมองลง

“พูดแบบนี้ แสดงว่าตัวชอบเขา เจ๊ขวัญ เจ๊ขวัญ ไม่ตลกเลยนะ เจ๊ขวัญตอบเค้าก่อนสิ” ขวัญชีวันถือโทรศัพท์ยืนนิ่งค้างพูดเถียงไม่ออก

“เงียบแบบนี้ เค้าเดาถูกสินะ นี่ผ่านไปยังไม่ครบเดือนตัวก็ชอบเขาแล้ว เค้าคิดไว้แล้วว่าอีตามาเฟียเนี่ยถึงจะดุแต่มีเสน่ห์เค้าก็พอมองออก ไม่ได้การล่ะ ถ้าเกิดตัวอยู่นานกว่านี้ตัวต้องตกหลุมรักเขาแน่ ๆ เขาไม่ขัดน่ะถ้าตัวจะเลือกใคร กับอีตามาเฟียคนนี้อันตรายเกินไป เค้าจะรีบหาเงินมาให้ ตัวอยู่ห่าง ๆ เขาไว้เลยนะ”

(รัก มันไม่ใช่)

“ไม่รู้แหละ เค้ารู้สึกได้ว่าผู้ชายคนนี้อันตราย เค้าไม่กวนแล้ว ตัวไปนอนเถอะ แต่เค้าไม่อยากให้ตัวต้องเดือดร้อน อย่ารักเค้า แค่ชอบก็มากพอแล้ว”

(รู้แล้วน่า เจ๊...ไม่ได้ชอบเค้าสักหน่อย เจ๊ง่วงแล้วแค่นี้ก่อนนะ) สายก็ตัดไป รักจิราเริ่มกลัว เธอไม่น่าให้ขวัญชีวันอยู่ที่นั่น เธอไม่คิดว่าขวัญชีวันจะได้ไปทำงานใกล้กับวาทินขนาดนั้น ผู้ชายคนนี้หล่อ รวย แต่อันตราย รักจิราที่ลืมเรื่องของสายฟ้าไปชั่วขณะเพราะกำลังห่วงขวัญชีวัน



....ติดตามตอนต่อไป....


ขอบคุณที่ติดตามนะคะ ขอบคุณคอมเม้นส์ ครั้งหน้าจะแวะมาอีกทีคงเป็นวันอาทิตย์เลย

ฝากคอมเม้นส์ด้วยนะคะ จะได้รู้ว่าสนุก น่าติดตาม หรือควรแก้ไขอะไร บ๊ายบายค่ะ



พัชรีพร
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 25 มิ.ย. 2557, 11:46:45 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 25 มิ.ย. 2557, 11:46:45 น.

จำนวนการเข้าชม : 1292





<< 13 คุณต้องรับผิดชอบ!!!!   15 หยุดหัวใจ >>
แว่นใส 25 มิ.ย. 2557, 21:50:44 น.
หลากหลายเรื่องราวจริงเชียว


ใบบัวน่ารัก 26 มิ.ย. 2557, 06:08:16 น.
ว้ายม่ายจิ๊งงงงงงงงงงง
คู่เกย์ สาวทอม รักในอดีต
เราว่าเรื่องนี้ต้องสืบอย่างใกล้ชิด


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account