เงารักเงาใจ
เมื่อ...



เขาและเธอต้องใช้ชีวิตคู่โดยปราศจากความรัก





และ…



เขา ชายหนุ่มผู้ที่เคยพึงพอใจผู้หญิงอีกคนแต่กลับ

ต้องแต่งงานกับผู้หญิงอีกคน





ส่วน…

เธอ หญิงสาวผู้ชอกช้ำจากความรัก

และใช้การแต่งงานกับผู้ชายอีกคนเพื่อตัดใจจากคนรักเก่า





แต่…

จะเป็นเช่นไรเมื่อคนที่เขาพยายามลืมกลับจำ

และ...คนที่เป็นรักแรกของเธอต้องการจะรื้อฟื้น





เรามาช่วยกันลุ้นกับพวกเขาสองคนว่า

จะสามารถฟันฝ่า อุปสรรคไปได้ตลอดรอดฝั่งหรือไม่

ใน นิยายรักดราม่า

เงารักเงาใจ

(เปลี่ยนชื่อจากสุดรักจากใจ)




Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: เงารักเงาใจ ตอนที่ 3 75 เปอร์เซ็นต์



สุปรางวดีกำลังทาครีมที่โต๊ะเครื่องแป้ง ปลายนิ้วลูบไล้ไปทั่วแขนและลำคอก่อนจะหยิบครีมเพื่อจะทาที่ขาต่อ จู่ๆ ครีมในมือก็ถูกแย่งมาถือโดยคนในร่างหนา สุปรางวดีเงยหน้ามองเห็นภาคดนัยยืนยิ้ม สายตาคมมองเธออย่างมีความหมายแอบแฝง หญิงสาวลุกขึ้นยืนถามเขาเสียงอ่อน



“อาบน้ำเสร็จแล้วหรือคะ” ภาคดนัยพยักหน้าแล้วพาเธอมานั่งที่ขอบเตียง ส่วนเขาก็ย่อตัวลงนั่งที่พื้นตรงหน้าเธอ บีบขวดครีมจนเนื้อครีมหยดมาที่ฝ่ามือจากนั้นก็ลูบไปที่เรียวขาขาวเนียนของเธอ สุปรางวดีนั่งอมยิ้มจนเป็นที่สงสัยของอีกฝ่าย



“นี่คุณยิ้มทำไม” สุปรางวดีใช้สองมือเล็กจับใบหน้าของเขาให้ขึ้นมองเธอก่อนจะบรรจงรอยจูบบนหน้าผากของเขาอย่างขอบคุณ อีกฝ่ายหลับตานิ่งแต่ก็ยิ้มตอบรออีกฝ่ายอธิบาย



“ที่ฉันยิ้มเพราะฉันไม่คิดว่าคุณจะทำแบบนี้”



“แล้วจูบเมื่อกี้ล่ะ”



“ฉันจูบหน้าผากคุณแทนคำขอบคุณค่ะ ขอบคุณที่ทำให้ฉันเหมือนเป็นเจ้าหญิง” ภาคดนัยยิ้มไม่หุบก้มลงหยิบขาเธออีกข้างมาลูบไล้ด้วยครีมกลิ่นหอม สุปรางวดีดึงมือเขาขึ้นมาจับ



“ในตอนนี้ถึงฉันจะยังบอกคำว่ารักคุณไม่ได้เต็มปาก แต่คุณก็มีค่ามากสำหรับฉัน” ภาคดนัยลุกมานั่งที่เตียงถือโอกาสกอดเธอไว้แน่นรับรู้ถึงอารมณ์ที่เธอกำลังเป็น เพราะเขาเองก็ไม่แตกต่างจากเธอเท่าไรนัก



“ผมต่างหากที่ต้องขอบคุณคุณที่ให้ผมมีค่ามากมายขนาดนี้ สังคมภายนอกต่างรังเกียจตระกูลของผมเพียงเพราะพ่อผมมีข่าวไปล่อลวงเด็กผู้หญิงที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ ในตอนนั้นไม่มีใครอยากคบค้าสมาคมกับตระกูลของผมเลย มีเพียงพ่อของคุณที่เชื่อว่าพ่อผมบริสุทธิ์” คนพูดดูสีหน้าเจื่อนลงไปนิด สุปรางวดีลอบมอง หยิบมือหนามากุม ลองชั่งใจถามเขาเสียงอ่อน



“แล้วคุณล่ะคะ คุณคิดว่าคุณพ่อของคุณทำเรื่องแบบนั้นจริงหรือเปล่า” ภาคดนัยเลื่อนสายตามามองหญิงสาวเห็นแววตาแน่นิ่งที่รอฟังคำตอบจากเขา ปลายนิ้วเรียวขึ้นเสยผมหญิงสาวก่อนจะหยิบมือเล็กแล้วยกขึ้นมาจุมพิตเบาๆ แล้วลุกขึ้นเหมือนไม่อยากตอบ สุปรางวดีลุกตามเรียกชื่อเขาเสียงอ่อน



“คุณภาคดนัย” เสียงนั้นทำให้เขาต้องหยุดชะงักแล้วหันกลับมามอง คลี่ยิ้มอบอุ่น



“คุณนอนก่อนเถอะ เดี๋ยวผมขอลงไปเคลียร์งานก่อน” สุปรางวดีใจแป้วมองร่างหนาเดินออกจากห้องด้วยใบหน้าที่เรียบเฉย ร่างเล็กนั่งลงเหมือนเดิมในใจต้องการให้เขาระบายสิ่งที่มันอัดอั้นตันใจ อย่างน้อยเธอก็อยากมีส่วนร่วมในการช่วยเขาตัดสินใจ



ภาคดนัยเดินลงมาถึงห้องทำงาน หยิบเอกสารที่อยู่บนโต๊ะมาพลิกอ่านแล้วสายตาก็เลื่อนลอยเมื่อหวนนึกถึงคำพูดของสุปรางวดี



“แล้วคุณล่ะคะ คุณคิดว่าคุณพ่อของคุณทำเรื่องแบบนั้นจริงหรือเปล่า”



ภาคดนัยสีหน้าแน่นิ่งทั้งที่ในใจตอนนี้รู้สึกไม่ต่างจากแก้วที่ร้าว สิ่งที่เขารับรู้มาตั้งแต่เด็กคือความเจ้าชู้ที่ไม่รู้จักจบจักสิ้นของบิดาตัวเอง ถึงแม้เรื่องที่บิดาพรากผู้เยาว์จะไม่ใช่เรื่องจริงแต่ทุกคืนเขาจะเห็นบิดาทะเลาะกับมารดาเกี่ยวกับเรื่องผู้หญิง มันเป็นสิ่งที่เขาจดจำฝั่งใจมาตลอด



ประตูห้องเปิดออกโดยไม่มีเสียงเคาะหรือเสียงเอ่ยใดๆ ภาคดนัยเงยหน้าขึ้นมองแทบสะดุ้ง เมื่อเห็นผู้หญิงสวยในชุดนอนสีแดงแสนวาบหวิว ภาคดนัยกลืนน้ำลายรู้สึกหายใจขัดขึ้นมาทันที ปากหนาถามออกไป



“คุณสุปรางวดี ยังไม่นอนอีกหรือครับ” สุปรางวดีในชุดแดงเริด ทำสายตายั่วยวนก่อนจะเดินตรงมาหาเขาแต่อีกฝ่ายไหวตัวรีบลุกขึ้ นแล้วเดินวนมายืนที่หน้าต่างที่เปิดรับลมเย็นๆ รอบดึก สุปรางวดีส่ายหน้าตอบเสียงอ่อน



“ปรางค์นอนไม่หลับนะคะ”



“งั้น คุณอยากดื่มนมไหม เดี่ยวผมไปเอามาให้” สุปรางวดีส่ายหน้า ขยับเท้าเดินมาหาอีกฝ่ายยืนตัวแข็งทื่อ กระทั่งเธอเดินมาเกาะแขนของเขาแล้วซบหน้าลงกับอกกว้าง



“ปรางค์ไม่ได้หิวนมแต่ปรางค์หิว...” ความผิดปกติทำให้ภาคดนัยต้องถามออกไปทันที



“คุณสุปรางวดี คุณแปลกไปนะ มีอะไรหรือเปล่า”



“แปลกยังไงค่ะ ปรางค์ก็แค่อยากจะผ่อนคลายให้คุณ คุณรู้ตัวไหมว่าคุณเครียดเกินไป” ภาคดนัยยิ้มออก เพราะรู้แล้วว่าสิ่งที่สุปรางวดีทำเพื่อต้องการให้เขาผ่อนคลาย มือหนาวางบนไหล่บางแล้วผลักออกห่างตัวเขาช้าๆ ปรากฏให้เห็นดวงหน้าแปลกประหลาดใจของเธอ



“นี่คุณไม่รู้สึกอยากพิศวาสฉันบ้างเลยหรือคะ” ภาคดนัยอมยิ้ม นัยน์ตาระยิบระยับ ตอบเธอตามตรง



“ตอนแรกก็ว่าจะรอให้คุณพร้อมเสียก่อน แต่พอมาเห็นคุณอยู่ในชุดนี้แล้ว ผมแทบอดใจไม่ไหว” กลายเป็นว่าคนที่ทำเก่งตั้งแต่ต้นอย่างสุปรางวดีต้องขนลุก หญิงสาวยิ้มแหยงๆ ยิ่งเห็นดวงตาเป็นประกายของภาคดนัยก็ยิ่งหน้าเสีย รีบแกะมือเขาออกแล้วหันหลังให้



“ฉันว่าฉันง่วงแล้วละคะ คืนนี้ราตรีสวัสดิ์นะคะคุณภาคดนัย” เธอเอ่ยจบก็ทำท่าจะเดินหนีแต่ต้องตกใจตื่น เมื่อถูกอีกฝ่ายฉวยโอกาสอุ้มเธอจากข้างหลัง ร่างเล็กลอยลิ่วตกมาอยู่ในอ้อมกอดของเขา ภาคดนัยยิ้มกรุ่มกริ่มนึกอยากแกล้งเธอเล่น



“มายั่วให้ผมคลั่งแล้วคิดจะไปดื้อๆ แบบนี้หรือครับ”



“คือ ตอนแรกฉันแค่อยาก...”



“ไม่ครับ คุณต้องแทนตัวเองว่าปรางค์ เพราะเมื่อกี้ที่คุณแทนตัวเองว่าปรางค์ คุณน่ารักมาก” เสียงนั้นเบาหวิวข้างๆ หู สุปรางวดีขนลุกทั่วร่างพยายามหาทางเกลี่ยกล่อมให้เขายอมวางเธอลง



“คุณภาคดนัยค่ะ” อีกฝ่ายส่ายหน้าเหมือนรู้ใจ



“ไม่มีทางที่ผมจะปล่อยคุณ คืนนี้ผมจะนอนกับคุณ” จบคำพูด ภาคดนัยอดกลั้นหัวเราะไว้ไม่อยู่ เมื่อเห็นดวงตากลมเบิกกว้างอย่างที่เขาเห็นแล้วต้องยิ้ม สุปรางวดีดิ้นแล้วมือเล็กยังจิกไปที่หน้าอกของเขาอีก



“คุณภาคดนัย คุณปล่อยฉันลงเดี๋ยวนี้นะ”



“ไม่ ผมจะปล่อยคุณลงก็ต่อเมื่อเราไปถึงเตียงนอนของเราแล้ว” สุปรางวดียิ่งตาโต สีหน้าบ่งบอกว่ากำลังรู้สึกหวาดหวั่นกับสิ่งที่มันจะเกิดขึ้นในวินาทีข้างหน้า ฝ่ายภาคดนัยไม่รอช้ารีบเดินอุ้มสุปรางวดีขึ้นห้องนอนท่ามกลางเสียงตื่นเต้นใกล้ๆ หูของเขา



“เออ คุณภาคดนัยค่ะ ปล่อยปรางค์ลงเถอะคะ เดี๋ยวใครมาเห็นมันจะดูไม่ดีนะคะ”



“ไม่ดีตรงไหนละครับ ในเมื่อที่นี่มันบ้านผมแล้วเราก็ไม่ใช่ใครอื่น ผมเป็นสามีคุณ คุณเป็นภรรยาผม” เสียงนั้นฟังดูอ่อนโยนและอ่อนหวานมาก สุปรางวดีอ้าปากค้าง หาทางปฏิเสธ



“แต่ว่า...”



“ถ้าคุณไม่หยุดพูด ผมจะจูบคุณตรงนี้ เดี๋ยวนี้เลย” นั่นไม่ใช่คำขู่เพราะเธอเห็นเขาโน้มหน้าเข้าหาเธอ หญิงสาวเอียงหน้าไปทางอื่น ภาคดนัยยิ้มอบอุ่นก่อนจะเดินขึ้นบันได โดยสองแขนยังอุ้มร่างเล็กอยู่ เมื่อมาถึงห้องชายหนุ่มก็บรรจงวางร่างนั้นอย่างเบามือ และนุ่มนวลที่สุดเท่าที่ผู้ชายอย่างเขาจะทำได้ อีกฝ่ายเมื่อถูกวางลงเตียงก็เริ่มถอยหนี จ้องร่างหนาที่หย่อนตัวลงนั่งบนเตียงด้วย



“เออ คุณภาคดนัยค่ะ ฉันว่าคืนนี้เรารีบนอนกันดีกว่านะคะ พรุ่งนี้คุณต้องไปทำงานแต่เช้า” คนพูดทำเสียงให้เป็นปกติแต่ภาคดนัยสัมผัสได้ว่าเธอกำลังสั่น ความรู้สึกอยากแกล้งบันดลขึ้นมาอีกเมื่อได้เห็นชุดนอนแสนวาบวิวของเธอ ชายหนุ่มจ้องตาเป็นมันแกล้งทำท่าขยับจึงได้เห็นเธอหยิบหมอนมาบังกายตัวเองไว้ ปากอิ่มเม้มปากเข้าหากันอย่างมิดชิด แถมสายตายังมองเขาเหมือนเป็นตัวประหลาดสักตัว ภาคดนัยถามยิ้มๆ



“ก็ไหนว่าอยากให้ผมระบายยังไง ทำไมตอนนี้ถึงพยายามผลักไสไล่ส่งผมไปล่ะ”



“เออ คือฉันเปล่านะคะ ฉันไม่ได้ผลักไสแต่เพราะฉัน เออ ฉันก็แค่อยากรู้ว่าถ้าฉันแต่งตัวยั่วคุณแบบนี้แล้วคุณจะรู้สึกยังไงกับฉัน”



“แล้วตอนนี้รู้หรือยังครับ” ภาคดนัยยังคงแกล้งถามเธอไปเรื่อย เห็นอีกฝ่ายเงียบแล้วหลบหน้าเขา



กรงแก้ว
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 24 มิ.ย. 2557, 12:49:37 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 24 มิ.ย. 2557, 12:49:37 น.

จำนวนการเข้าชม : 1381





<< เงารักเงาใจ ตอนที่ 3 50 เปอร์เซ็นต์   เงารักเงาใจ ตอนที่ 3 100 เปอร์เซ็นต์ >>
Zephyr 25 มิ.ย. 2557, 23:33:26 น.
นั่นยั่วเค้า โดนเลย อุอุ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account