เงารักเงาใจ
เมื่อ...



เขาและเธอต้องใช้ชีวิตคู่โดยปราศจากความรัก





และ…



เขา ชายหนุ่มผู้ที่เคยพึงพอใจผู้หญิงอีกคนแต่กลับ

ต้องแต่งงานกับผู้หญิงอีกคน





ส่วน…

เธอ หญิงสาวผู้ชอกช้ำจากความรัก

และใช้การแต่งงานกับผู้ชายอีกคนเพื่อตัดใจจากคนรักเก่า





แต่…

จะเป็นเช่นไรเมื่อคนที่เขาพยายามลืมกลับจำ

และ...คนที่เป็นรักแรกของเธอต้องการจะรื้อฟื้น





เรามาช่วยกันลุ้นกับพวกเขาสองคนว่า

จะสามารถฟันฝ่า อุปสรรคไปได้ตลอดรอดฝั่งหรือไม่

ใน นิยายรักดราม่า

เงารักเงาใจ

(เปลี่ยนชื่อจากสุดรักจากใจ)




Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: เงารักเงาใจ ตอนที่ 3 100 เปอร์เซ็นต์




“แล้วตอนนี้รู้หรือยังครับ” ภาคดนัยยังคงแกล้งถามเธอไปเรื่อย เห็นอีกฝ่ายเงียบแล้วหลบหน้าเขา ความอยากรู้ทำให้ภาคดนัยต้องขยับตัวเข้าหาจังหวะนั้นร่างเล็กรีบถอยหลังอย่างเร็ว จนลืมคิดไปว่าเธอยืนอยู่สุดเตียงแล้ว ผลออกมาก็คือ



“โครม” ร่างเล็กตกลงมาถึงพื้นแต่ไม่ได้ตกแค่คนเดียวเพราะร่างหนาของภาคดนัยก็ตกลงมาด้วย แขนแข็งแรงถูกเป็นที่รองศีรษะให้หญิงสาว การล้มตัวลงครั้งนี้ทำให้สุปรางวดีตกอยู่ในอ้อมแขนของภาคดนัย ความเป็นห่วงทำให้เขาต้องเอ่ยถามออกมา



“สุปรางวดี คุณเป็นยังไงบ้าง เจ็บตรงไหนหรือเปล่า เมื่อกี้คุณเอาอะไรลงผมจะได้ดูว่ามันมีแผลฟกช้ำหรือเปล่า” สุปรางวดีอ้าปากค้างรีบดันตัวเขาออกห่างก่อนเธอจะลุกขึ้นแล้วทำท่าเจ็บสะโพก ภาคดนัยเห็นเธอเอามือลูบสะโพกจึงถามขึ้น



“เอาสะโพกลงหรือ ไหน ขอผมดูหน่อยว่ามีแผลไหม” สุปรางวดีเดือดร้อนรีบปฏิเสธทันที



“เออ ไม่ค่ะ ไม่เป็นไร ปรางค์ไม่เป็นอะไรเลย”



“แน่ใจนะ” เมื่อจบคำพูด สายตาคมก็จ้องเธอแน่นิ่งราวกับกำลังคิดอะไร ฝ่ายสุปรางวดีก็เริ่มร้อนๆ หนาวๆ ยกมือขึ้นปิดคอเสื้อที่เว้าลึกจนเห็นอะไรต่อมิอะไรก่อนจะลุกขึ้นยืนเดินกระเพรกมานั่งที่เตียงใหม่ ภาคดนัยส่ายหน้าแล้วลุกมานั่งที่เตียงข้างๆ อีกฝ่ายเหมือนจะรู้ตัวรีบถอยหนีไปอีก



“คุณจะหนีผมไปไหนอีก เดี๋ยวก็ตกเตียงอีกหรอกครับ” สุปรางวดียิ้มเจื่อนๆ แล้วมือเล็กก็ถูกมือหนาจับขึ้นมากุมไว้



“เพราะความอยากยั่วผมแท้ๆ ถึงทำให้คุณเจ็บตัว ทีนี้รู้หรือยังว่าไม่ควรทำอะไรแบบนี้” สุปรางวดีพยักหน้าหงิกๆ



“ค่ะ รู้แล้วค่ะ ปรางค์บ้าเอง ต่อไปปรางค์จะไม่แต่งตัวยั่วคุณอีกแล้ว”



“แต่ผมอยากให้คุณแต่งตัวยั่วผมนะ แต่ต้องแต่งยั่วผมแค่คนเดียวเท่านั้น ห้ามแต่งตัวยั่วผู้ชายคนไหนอีกโดยเฉพาะ นายเพชรกล้านั่น” คนพูดเหมือนหวงก้าง สุปรางวดีเลิกคิ้วถามกลับ



“คุณเพชรกล้ามาเกี่ยวอะไรด้วยคะ”



“ก็เขาเคยเป็นคนรักเก่าของคุณมาก่อน ผมกลัวและก็หวง คุณอย่าทำให้ผมเสียใจนะครับ คุณปรางค์” ในประโยคนั้นเหมือนเขาใส่ความรู้สึกบางอย่างเข้าไปด้วย ซึ่งเธอสัมผัสได้ว่าความรู้สึกนั้นคือความกลัว



“ฉันไม่มีวันทำให้คุณเสียใจหรอกค่ะ แล้วคุณก็ห้ามทำร้ายหัวใจฉันด้วย ไม่อย่างนั้นฉันจะหนี หนีคุณไปให้ไกลที่สุด ให้คุณไม่สามารถตามหาฉันจนเจอ” สุปรางวดีเน้นย้ำแต่ภาคดนัยรู้สึกใจคอไม่ดี



“พูดเป็นลาง อย่าพูดแบบนี้อีกนะครับ ผมไม่ชอบ”



“งั้นก็ปล่อยปรางค์ได้แล้ว ปรางค์ง่วง ปรางค์จะนอนค่ะ”



“แต่ผมยังไม่ง่วงนี่” ว่าแล้วสายตายียวนก็กลับมากำเริบขึ้นอีก หญิงสาวทำตาดุใส่ เอ่ยอย่างไม่ใยดี



“งั้นคุณก็กลับไปทำงานต่อสิค่ะ ถ้ายังไม่ง่วงอีกจะอยู่ทำงานจนเช้าเลยก็ไม่มีใครว่า” เธอสะบัดมือมือออกจากเขาแล้วล้มตัวจะนอนแต่อีกฝ่ายดึงมือเธอดึงให้ลุกมานั่งคุยกันก่อน



“ก็ผมตื่นแล้วจะให้ผมกลับไปทำงานต่อได้ยังไง” คนพูดยังไม่เลิกจ้องตาสุปรางวดี หญิงสาวรู้สึกแปลกๆ ในคำพูดของเขา แล้วจู่ๆ เขาก็ก้มลงต่ำเหมือนพยายามจะบอกอะไรเธอแต่สุปรางวดีกลับเข้าใจในทันที



“คนบ้า”



“นี่ว่าผมบ้าแบบนี้แสดงว่าคิดทะลึ่งอยู่ละสิครับ” สุปรางวดีทำหน้าไม่ถูกเอียงหน้าหนีไปทางอื่น ภาคดนัยส่ายหน้าแล้วหยิบมือสองข้างของเธอขึ้นมา สุปรางวดีหันมามองนัยน์ตาแปลกๆ



“ผมตื่นแล้วและก็มีแค่วิธีเดียวที่จะทำให้ผมหลับแล้วก็หลับลึกด้วย” สุปรางวดีเลิกคิ้ว จ้องเขาอย่างสงสัย





เพชรกล้ากำลังนอนหลับอยู่บนเตียง ในสภาพที่เหลือแต่กางเกงขาสั้นเพียงตัวเดียว ผ้าห่มหนาถูกมือเล็กคลุมปิดร่างของเพชรกล้าไว้ก่อนที่หญิงสาวจะเก็บเสื้อผ้าที่เธอถอดไว้ใส่ตะกร้า ใบหน้าสวยหวานแต่นัยน์ตาเศร้าหันมามองชายหนุ่มที่นอนนิ่งอยู่บนเตียง แล้วจู่ๆ น้ำตาของเธอก็ไหลซึมออกมา มันเป็นความเสียใจ ความเจ็บปวด ความน้อยใจ ทุกความรู้สึกที่มันกำลังถาโถมเข้ามาหาตัวเธอ ธิดารัตน์รีบเช็ดน้ำตาคิดในใจอย่างเจียมตัวว่าคนอย่างเธอแค่ได้แต่งงานกับผู้ชายที่เธอรักมันก็เพียงพอแล้ว หากสักวัน ถ้าเขาจะมองเห็นคุณค่าในตัวเธอบ้างสิ่งนั้นก็นับเป็นกำไรที่สูงสุดในชีวิตของเธอ





มือเล็กกำลังทำหน้าที่กอดคนตัวใหญ่แม้จะกอดไม่มิดก็ตาม ภาคดนัยซกหน้าไว้กับวอกคอของหญิงสาว กลิ่นหอมในตัวเธอทำให้เขารู้สึกผ่อนคลาย มือหนากอดกระชับตอบแต่ยังไม่อาจหลับตาลงได้หากยังไม่อธิบายอะไร



“เมื่อก่อน ตอนผมเด็กๆ แม่จะนอนกอดผมอย่างนี้ทุกคืน และผมจะนอนหลับฝันดี ไม่มีครั้งไหนที่ผมจะฝันร้ายเลยสักครั้ง กระทั่งแม่ผมตาย หลังจากนั้นเป็นต้นมาผมไม่เคยนอนหลับสนิทเลยสักครั้ง ผมเหมือนคนหวาดระแวง หวาดกลัวกับอะไรสักอย่าง ผมต่อสู้กับความรู้สึกแบบนี้มานานมากแล้วแต่มันก็ไม่หายสักที กระทั่งตอนนี้ผมรู้สึกอบอุ่นกับอ้อมกอดที่คุณปรางค์มอบให้ผม ขอบคุณนะครับที่ยอมทำให้ผม” สุปรางวดีวางแก้มลงบนศีรษะเขาจนได้กลิ่นหอมๆ จากเส้นผมของเขา เอ่ยเสียงอ่อน



“ไม่อยากจะเชื่อว่าคนอย่างคุณจะมีมุมแบบนี้ด้วย”



“คุณเชื่อผมเถอะ เพราะชีวิตคนเราไม่ได้สมบูรณ์แบบซะทุกอย่าง ผมเองก็เหมือนกัน”

“งั้น ฉันจะช่วยคุณเองค่ะ ทุกคืนฉันจะนอนกอดคุณอยู่แบบนี้จนถึงเช้า คุณเองจะได้นอนหลับสบาย ไม่ต้องกังวลกับอะไรอีก” ภาคดนัยกอดร่างสุปรางวดี ภรรยาสาวรู้สึกตื้นตันใจอย่างบอกไม่ถูกแล้วเปลือกตาคมก็ปิดสนิท สุปรางวดีนอนนิ่งรับรู้ได้ว่าเขานอนหลับไปแล้ว เผลอยิ้มออกมา



เช้าวันต่อมา เพชรกล้าเริ่มขยับตัวก่อนที่เปลือกตาหนาจะเปิดขึ้นมารับกับแสงสว่าง ร่างหนาลุกมาพิงที่ขอบเตียง สายตาคมมองดูไปรอบๆ จำได้ในทันทีว่าเป็นห้องนอนของเขา นึกไม่ออกว่ามานอนอยู่ที่นี่ตั้งแต่ตอนไหน ร่างหนาลุกจากที่นอนแล้วยืนตะลึงกับตัวเองที่มีเพียงกางเกงขาสั้นใส่แค่ตัวเดียวเท่านั้น



“เฮ้ย...” เพชรกล้ารีบวิ่งไปหยิบผ้าขนหนูมาพันกายแล้วนึกแต่ก็ส่ายหน้าไปมาด้วยความไม่เข้าใจ ทันใดนั้นเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น เขายืนรอให้ประตูบานนั้นเปิดออกจนปรากฏผู้หญิงในชุดเดรสสีชมพูอ่อน ในมือของเธอมีกาแฟถือมาด้วย ชายหนุ่มถึงเพิ่งเข้าใจบางอย่าง



“เมื่อคืน ฝีมือคุณใช่ไหม” ธิดารัตน์มองเขาผ่านๆ แม้เมื่อคืนเธอจะเป็นคนถอดเสื้อผ้าเขาแต่มันก็ไม่ได้สว่างมากพอ ที่เธอจะเห็นเขาเหมือนอย่างตอนนี้ แก้วกาแฟถูกวางที่โต๊ะเครื่องแป้งก่อนที่ร่างเล็กจะหมุนตัวเพื่อหลบเลี่ยงที่จะตอบคำถามเขา



“นี่ ไม่ได้ยินที่ผมถามหรือยังไง” ธิดารัตน์ไม่สนใจเดินตรงไปที่ประตูสุดท้ายก็ถูกเขาฉุดข้อมือเล็กแล้วเหวี่ยงจนไปชนขอบเตียง ร่างเล็กลงนั่งที่เตียงไม่ทันจะลุกเพราะถูกมือหนาจับกดไหล่ทั้งสองข้าง ดวงตาหวานผวาต่างจากดวงตาคมที่มองมาอย่างเอาเรื่อง



“ตอบมา เมื่อคืนคุณทำอะไรผม ทำไมผมถึงมาอยู่ในสภาพแบบนี้ แล้วเสื้อผ้าผมล่ะ” คำพูดแข็งกระด้างทำให้คนที่ฟังถึงกับน้อยอกน้อยใจ ธิดารัตน์ปัดมือพยายามจะลุกขึ้นแต่อีกฝ่ายไม่ยอม



“ว่ายังไง ตอบผมมาก่อนว่าเมื่อคืนมันเกิดอะไรขึ้น”



“มันไม่มีอะไรเกิดขึ้นค่ะ ก็แค่คนเมาที่เอาแต่เพ้อถึงเมียชาวบ้าน” ธิดารัตน์ว่าเสียงประชด ดวงตาที่ผ่านการร้องไห้มาทั้งคืนจ้องมองเขาอย่างไม่ยอมถอย เพชรกล้าปล่อยมือออกจากไหล่บางก่อนจะเดินไปหยิบเสื้อคลุมอาบน้ำมาสวมทับไว้ ธิดารัตน์ลุกขึ้นยืน



“กาแฟที่อยู่บนโต๊ะนั่น อาจจะข่มไปนิดแต่ถ้าคุณได้ดื่มมัน ก็คงจะหายแฮ้งและก็คงมีสติมากขึ้น” เพชรกล้าหันขวับไม่ทันจะเอ่ยอะไร เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น



“คุณประภัสสรมาหาค่ะ” ธิดารัตน์กับเพชรกล้าหันมาจ้องตากันอย่างแปลกใจ



“เรื่องเมื่อคืนผมไม่ได้ขาดสติจนทำอะไรคุณใช่ไหม” เพชรกล้าถามอีกครั้งหลังจากที่เขากับธิดารัตน์กำลังเดินลงจากบันได เพื่อไปพบประภัสสรที่ห้องรับแขก ธิดารัตน์ชะงักเท้าหันมายิ้มให้เพชรกล้า



“อย่าห่วงไปเลยค่ะ คุณไม่มีทางทำอะไรฉันอยู่แล้ว ไม่ว่าจะตอนมีสติหรือขาดสติเพราะจิตใต้สำนึกของคุณก็มีแต่คุณสุปรางวดี” วาจาแสนเรียบเฉยพอๆ กับใบหน้าจืดชืด เพชรกล้าพยักหน้ารู้สุกโล่งใจอย่างมากเอ่ยเสียงเรียบเช่นกัน



“ก็ดี ได้ยินแบบนี้ผมก็สบายใจ ลำพังแค่แต่งงานกับคุณก็นับเป็นสิ่งที่เลวร้ายที่สุดในชีวิตของผมแล้ว อย่าให้ต้องมีอะไรที่มันแย่กว่านี้อีกเลย” จบคำพูดของเพชรกล้า เท้าหนาก็เดินนำเธอไป ธิดารัตน์ฝืนกลั้นน้ำตาไม่ให้หวั่นไหวไปกับคำพูดของเขา ในเมื่อเธอเดินทางมาถึงขั้นนี้แล้วแน่นอนว่าเธอจะไม่ยอมจบลงง่ายๆ





ขอบคุณที่ติดตามอ่านนิยายไรเตอร์ แล้วอย่าลืมเม้นต์แสดงความคิดเห็นนะคะ ^^



กรงแก้ว
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 25 มิ.ย. 2557, 18:48:04 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 25 มิ.ย. 2557, 18:48:04 น.

จำนวนการเข้าชม : 1620





<< เงารักเงาใจ ตอนที่ 3 75 เปอร์เซ็นต์   เงารักเงาใจ ตอนที่ 4 ตัวอย่าง >>
Zephyr 25 มิ.ย. 2557, 23:34:30 น.
แหม อิจฉา สงสาร
เอาอารมณ์ไหนดีน้า


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account