สัญญารัก...ข้ามฟ้า (สนพ ดอกหญ้า 2000)
เอริน..ว่าที่มัคคุเทศก์คนใหม่วัย 25 ปี ที่โชคชะตานำพาให้พบกับใครบางคนที่แดนไกลในครั้งอดีต และต้องจากกันไป
ชานนท์..นักธุรกิจหนุ่มใหญ่วัย 35 ปี เขากำลังกลับมาตามหาอดีตที่หายไปหลังจากปล่อยเธอไปเมื่อหนึ่งปีก่อน พร้อมกับมาทวงสัญญารักที่จะทำให้เธอต้องจนมุม...อีกครั้ง


Tags: สัญญารัก...ข้ามฟ้า , รักโรแมนติก , ซึ้งกินใจ

ตอน: ตอนที่ 18 ตัดสินใจ..

รถญี่ปุ่นสีขาวแล่นไปบนถนนสายเอเชียด้วยความเร็วไม่มากนัก เพื่อจะเดินทางไปยังเป้าหมายของราเชลคือบ้านสวนโฮมสเตย์ของเอริน กรณ์เหลือบตาดูหญิงสาวข้างกายที่นั่งหลับตานิ่งอยู่เป็นนานด้วยสีหน้าเคลือบแคลงสงสัยได้แต่คิดอยู่ในใจ

“ยัยนี่แปลกๆแฮะ จะตามมาด้วยทำไมกันนะ”

ชายหนุ่มบ่นพึมพำก่อนจะละสายตามองตรงไปยังถนนข้างหน้าอย่างไม่ใส่ใจ โดยไม่รู้ตัวว่าราเชลหรี่ตามองได้ยินคำพูดของเขาที่แสนจะขัดหู

“นินทาเผาขนจริงนะ ฉันยังไม่หลับย่ะ”

ราเชลเอ่ยเสียงขุ่นทั้งที่ยังหลับตาทำทีไม่สนใจมองชายหนุ่มข้างกายแต่อย่างใด ทำเอากรณ์ถึงกับงงก่อนจะถามเรื่องที่ข้องใจ และคำพูดของกรณ์ก็ทำเอาราเชลถึงกับลืมตาขึ้นมามองเขม็งยังชายหนุ่มอย่างขัดหูกับคำพูดของเขาไม่น้อย

“ไม่ได้หลับหรอกเหรอ ผมถามจริงๆเถอะคุณ รักเค้ามากเหรอคนนั้นน่ะ”

“ถามทำไม ไม่ต้องรู้ไม่ใช่เรื่องของนาย”

ราเชลตอบเสียงขุ่น จนกรณ์ถึงกับยักไหล่แต่ก็ยังไม่วายพูดเย้าแหย่ให้หล่อนต้องขุ่นข้องหมองใจเพิ่มเข้าไปอีก

“ก็เห็นไปขอผู้ชายถึงที่ ทำไมไม่เอาสินสอดไปขอหมั้นเค้าด้วยเลยล่ะ เหมือนอินเดียไง ผู้หญิงไปขอผู้ชายไม่ผิดนะ เออ... ว่าแต่ผู้ชายคนนั้นน่ะ ชื่ออะไรนะ อเล็กซ์ ใช่มั๊ย” กรณ์เหล่ตามองราเชลที่หน้าบูดสนิทอย่างขำขัน

“ถามทำไม...ไม่ต้องมายุ่งเลย ขับรถไปฉันจะหลับถึงแล้วปลุกด้วยเข้าใจมั๊ย” ราเชลสะบัดหน้าพรืดหันหน้าออกนอกหน้าต่างไปไม่สนใจกรณ์ที่หัวเราะเยาะเบาๆอย่างน่าหมั่นไส้

“โอเค ๆๆ ไม่ถามก็ได้ อยากรู้จริงจริ๊งว่านายอเล็กซ์คนนี้จะเป็นผู้ชายแบบไหน ถึงทำให้ผู้หญิงอย่างคุณต้องวิ่งโร่มาตามถึงที่”

คำพูดของกรณ์ทำเอาราเชลถึงกับเอามืออุดหูอย่างรำคาญใจไม่ต่อปากต่อคำอีก ได้แต่มองออกไปนอกหน้าต่างที่เต็มไปด้วยต้นไม้สีเขียวขจีริมทางอย่างเหม่อลอย

รู้สึกหนักใจไม่น้อยหลังจากออกมาจากบ้านของสิทธิ์ ความรู้สึกสังหรณ์ใจครามครันทันทีที่เห็นสีหน้าอึกอักของสิทธิ์ตอนที่หล่อนเอ่ยของให้ช่วยเรื่องชานนท์กำลังรบกวนจิตใจ

‘หวังว่าฉันคงไม่มาช้าไป…คุณอย่าทิ้งฉันนะ..อเล็กซ์’

////////////

ท่ามกลางแมกไม้อันสงบร่มรื่นตลอดริมทางเดินที่มีคบไฟไม้สีเหลืองนวลตาปักเรียงรายตลอดทาง ลมเย็นโชยพัดมาปะทะผิวของชายหนุ่มจนต้องกระชับผ้าพันคอสีเทาผืนสวยที่ซื้อมาจากฟลอเรนซ์เข้าหาตัวเพิ่มความอบอุ่น ตั้งใจหมายจะเอาให้เอรินดูผ้าพันคอคู่ที่เหมือนกันกับที่เขาเคยให้หล่อนเมื่อจากกันคราวนั้นให้ชื่นใจ ชานนท์ผิวปากอย่างอารมณ์ดีตลอดทางที่เดินลงมาจากบ้านต้นไม้จนมาถึงห้องอาหารริมหาด

ภายในห้องอาหารโปร่งขนาดเล็กริมหาด นักท่องเที่ยวต่างชาติประปรายนั่งกันเป็นคู่อยู่ที่ตั่งตั้งพื้นบนหาดทรายด้านนอกร้านเสียเป็นส่วนมาก ชานนท์มองไปรอบๆบริเวณด้วยสายตาสอดส่องหาสาวน้อยที่นัดกันไว้ตั้งแต่บ่ายแต่ก็ไม่เจอแม้เงา

“อ้าวคุณ...จะทานอะไรดีครับ”

เจ้าปื๊ดเดินเข้ามาในร้านอาหารพร้อมด้วยบางสิ่งบางอย่างที่ชานนท์ได้แต่มองอย่างสนใจ

“อะไรน่ะปื๊ด” ชานนท์พยักเพยิดกับหนุ่มอ่อนวัยกว่าอย่างถือสนิท พร้อมทั้งส่งสายตาไปยังสิ่งที่อยู่ในมือเจ้าปื๊ดอย่างสนใจ

“อ๋อ..ปูนิ่มครับ ผมไปโป๊วมาจากร้านป้าพิม เนี่ยเคาะจากน้ำขึ้นมาสดๆเลยนะ เพิ่งลอกคราบ คุณอยากได้สักจานมั๊ยอร่อยเด็ดสุดๆ แต่ขอบอกก่อนว่าเมนูนี้แพงมากนะคร๊าบ” เจ้าปื๊ดพูดติดตลกชูเจ้าปูนิ่มไปมาตรงหน้าชานนท์ที่มองอย่างสนใจ

“มันตายรึยังล่ะ ถ้าตายแล้วก็เอามาสักจาน ถ้าไม่ตายก็ไม่ต้องเอามาหรอก ฉันกินไม่ลง อ้อ..แล้วเอรินไปไหน นัดกับฉันไว้ว่าจะมากินข้าวด้วยกันยังไม่เห็นหน้าเลยปื๊ด”

ชานนท์เอ่ยถามด้วยสีหน้าฉงนใจ แล้วก็ยิ่งต้องสงสัยหนักขึ้นไปอีกเมื่อเห็นสีหน้าอึกอักไม่ยอมตอบของเจ้าปื๊ดคนร่าเริงเป็นนิจ“เอ่อ..คือ คุณหนู คือ”

“อะไรวะปื๊ด อ้ำอึ้งอยู่นั่นหล่ะ บอกมาเร็วๆ” คำพูดคาดคั้นของชานนท์ที่เห็นท่าทีอึดอัดของปื๊ด ทำเอาเจ้าปื๊ดได้แต่ถอนหายใจก่อนจะอ้อมแอ้มตอบเบาๆ

“คุณหนูนอนพักอยู่ที่ห้องครับ เนี่ยคุณน่ะพาคุณหนูไปสมบุกสมบันถึงไหนมา กลับมาคุณหนูเลยเป็นลมเป็นแล้งไปเลย ไม่รู้รึไงว่าคุณหนูไม่ค่อยแข็งแรงมาตั้งแต่เกิดเทียวเข้าเทียวออกโรงพยาบาลอยู่เป็นประจำน่ะ”

เจ้าปื๊ดสีหน้าอมภูมิแถมแววตาตำหนิมา ชานนท์ถึงกับผุดลุกขึ้นยืนทันทีที่ฟังเจ้าปื๊ดพูดจบ

“อะไรนะ!! เกิดอะไรขึ้นแล้วเค้าเป็นยังไงบ้าง พาฉันไปหาหน่อยปื๊ด”

ชานนท์ตรงเข้ามาประชิดปื๊ดพร้อมทั้งเขย่าแขนหนุ่มอ่อนวัยกว่าอย่างแรงทำเอาเจ้าปื๊ด และก๊อพ่อครัวที่แอบชำเลืองมองและเงี่ยหูฟังอยู่ถึงกับตกใจกับกิริยาที่ดูจะเป็นห่วงสาวน้อยอย่างมากมายของแขกหนุ่มวีไอพีประจำบ้านต้นไม้

“ใจเย็นๆคุณ ป้าเฝ้าอยู่เดี๋ยวรอให้ลุงกับป้ามาตรวจความเรียบร้อยที่บ้านพักกับที่นี่ก่อน ผมค่อยพาคุณไปหาคุณหนูนะ ตอนนี้สั่งอะไรทานรอไปก่อนก็แล้วกัน..ไม่ต้องรีบ ไม่ต้องรีบ..นะ”

เจ้าปื๊ดหันไปสบตากับก๊อพ่อครัวเอกที่มองอย่างสนใจ ทันทีที่ปลอบให้ชานนท์เบาใจไปเปลาะหนึ่งแต่ไม่วาย

“ฉันอยากไปเดี๋ยวนี้ ฉันเป็นห่วงเอรินจะบ้าตายอยู่แล้วนะปื๊ด”

“โอ้โห คุ๊ณ ทำยังกับเด็กหนุ่มก็ไม่ปาน คุณหนูน่ะแค่เป็นลมคร๊าบไม่ได้เป็นไรมาก รอแป๊บนึงก็ได้ โอ๊ะ!! นั่นๆลุงกับป้าลงมาแล้ว ไม่ได้การแล้ว เร็วคุณรีบชิ่ง เร๊วๆๆ”

เจ้าปื๊ดยื่นปูนิ่มให้พี่ก๊อรับไปอย่างงงๆก่อนจะคว้าแขนชานนท์ให้วิ่งตามไปตัวปลิว ชายหนุ่มได้แต่วิ่งตามเจ้าปื๊ดไปโดยไม่ทันตั้งตัว ก๊อมองตามก่อนจะส่ายหน้าอย่างอิดหนาระอาใจในความแก่นไม่แพ้เจ้านายสาวของเจ้าปื๊ด

////////////

ภายในกระท่อมหลังเล็กสีขาว..อาณาเขตใหม่ของเอรินซึ่งต่อเติมออกมาจากบ้านสวนโฮมสเตย์ สงบร่มรื่นไปด้วยต้นไม้ดอกกลิ่นหอมนานาพรรณ ชานนท์เดินตามเจ้าปื๊ดเข้าไปในอาณาเขตบริเวณบ้านหลังน้อยด้วยสีหน้าฉงนใจ กระท่อมหลังนี้หลบลี้จากสายตาของเขาและแขกผู้มาเยือนได้อย่างมิดชิดทีเดียว

“ปื๊ด ทำไมเอรินแยกออกมาอยู่บ้านนี้ล่ะ แล้วพ่อแม่เค้าไม่เป็นห่วงรึไง”

ชานนท์เอ่ยอย่างข้องใจ ทันทีที่เดินมาหยุดยังหน้าประตูบ้านหลังน้อย เจ้าปื๊ดที่กำลังจะเคาะเรียกเอรินจึงหันมาตอบไปพลางชะเง้อชะแง้มองหาสาวน้อยที่เงียบสนิทอยู่ในบ้าน

“เพิ่งต่อเติมเสร็จไม่นาน ลุงออกเงิน คุณกรณ์ออกแรงหาคนมาช่วยกันทำให้เนี่ยแหละครับ แบบบ้านนี้ได้มาพร้อมๆกับบ้านต้นไม้ คุณมินคนสวยอุตส่าห์ให้มาฟรีๆเลยนะไม่คิดเงินด้วย ใจดีสุดๆ ปื๊ดล่ะปลื้มใจ”

เจ้าปื๊ดพูดไปสายตาก็สอดส่องชะเง้อชะแง้มองผ่านหน้าต่างเข้าไปภายในห้อง มือก็ลองบิดลูกบิดประตูเล่นอย่างคนมือซน“เอ๊ะ..ประตูไม่ล็อค คุณหนูนี่จริงเล้ย”

“นี่ปื๊ด..ถามหน่อยสิ ใครกรณ์ แล้ว..”

ยังไม่ทันที่ชานนท์จะได้พูดอะไรต่อ เจ้าปื๊ดก็จุ๊ปากขัดจังหวะจนชายหนุ่มต้องเงียบเสียง “ตามผมมา เร็วๆ” เจ้าปื๊ดกวักมือให้ชานนท์ย่องตามเข้าห้องไป แต่ชานนท์ยื้อไว้ก่อนจะไล่เจ้าปื๊ดให้กลับไปทำงานของตนตามเดิม

“เดี๋ยวๆ ปื๊ด ไปทำงานไป๊.. เดี๋ยวฉันเข้าไปดูเอรินเอง”

“จะ..จะดีเหรอคุณ เกิดใครมาเห็นเข้ามันไม่ดีนา”

เจ้าปื๊ดยังคงอิดออดจนชานนท์ดันหลังเจ้าปื๊ดไปจนพ้นประตูก่อนจะล็อคประตูทันที เจ้าปื๊ดได้แต่เหล่มองจากทางหน้าต่างจนชานนท์ต้องปิดม่านลง แล้วบอกผ่านทางหน้าต่างให้เจ้าปื๊ดพอได้ยิน

“เอาน่า ฉันจะระวัง ขอดูเค้าแป๊บเดียวแล้วฉันจะออกไป นายไม่ต้องห่วง”

เมื่อเห็นว่าเจ้าปื๊ดเดินลับสายตาออกไป ชานนท์ก็หันกลับมามองยังเตียงสีขาวหลังใหญ่ที่มีร่างบอบบางของเอรินนอนนิ่งอยู่ ชานนท์ยืนจ้องมองใบหน้านวลสวยแสนรักนิ่งอยู่อย่างนั้น ก่อนจะนั่งลงบนริมเตียงใช้ฝ่ามือหนาปัดไรผมที่บิดเกลียวยุ่งเหยิงอย่างรักใคร่ ใบหน้านวลสวยของเอรินไม่มีร่องรอยของความเจ็บปวดหรือเหน็ดเหนื่อยใดๆ และยังหลับสนิทไม่มีทีท่าว่าจะรู้สึกตัว

‘เธอแค่เหนื่อยเลยเป็นลมไปใช่มั๊ย..เอริน ไม่ใช่เพราะเธอรู้เรื่องที่ฉันกำลังทำอยู่ใช่มั๊ย..ใช่สิมันคงยังไม่เร็วขนาดนั้น..เธอคงยังไม่รู้ ฉันไม่อยากทำร้ายเธอเลย แต่ฉัน...ฉันหยุดตัวเองไม่ได้’

ชานนท์นั่งเหม่อมองใบหน้าเอรินนิ่งนานด้วยความรู้สึกมากมายที่ประดังประเดกันเข้ามา จนไม่ทันได้สังเกตเห็นว่าเอรินเริ่มรู้สึกตัว ดวงตากลมใสกระพริบถี่อย่างไม่เชื่อสายตาว่าจะเจอชานนท์ที่นี่

“คุณ..คุณ เข้ามาได้ยังไงคะ”

และแล้วก็เป็นเอรินที่ปลุกชานนท์ให้ตื่นจากภวังค์ความคิดของตน“ฟื้นแล้วเหรอ ฉันได้ยินว่าเธอเป็นลมก็เลยให้ปื๊ดพามาหาเธอ”

ชานนท์ลูบไล้เรียวแก้มนวลที่พยายามฉีกยิ้มกว้างให้เขาอย่างรักใคร่ เอรินจับมือชายหนุ่มที่กำลังมอบสัมผัสอบอุ่นบนเรียวแก้มนิ่มของตนอย่างรักใคร่เช่นกัน

“ค่ะ แต่ฉันหายแล้ว สบายดีแล้วด้วยค่ะ”

เอรินพยายามจะลุกนั่งแต่ชานนท์ก็จับไหล่ให้หญิงสาวนอนลงตามเดิม พร้อมทั้งห่มผ้าให้อย่างเบามือ เอรินเฝ้ามองการกระทำของเขาอย่างอุ่นใจ แต่ก็มีสีหน้าหวั่นวิตกเมื่อนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้

“คุณออกไปก่อนเถอะค่ะ เดี๋ยวพ่อกับแม่มาเห็นเข้าจะไม่ดี คือ..ฉันยังไม่ได้บอกท่านเลย คงดูไม่เหมาะแน่ที่เราอยู่ด้วยกันตามลำพังในห้องอย่างนี้นะคะ แล้วฉันจะไปทานข้าวด้วยนะ ขอเวลาแป๊บนึง”

เอรินส่งสายตาหวานฉ่ำเอาใจ ปากบางสวยยิ้มกว้างจนทำเอาชานนท์อดใจไม่ไหวโน้มตัวลงมาจูบแผ่วเบาที่ริมฝีปากสวย คลอเคลียไปมาอย่างแสนรัก“เดี๋ยวสิ ยังไม่อยากไปเลย อยากนอนกอดเธอจัง”

ชานนท์ล้มตัวลงนอนเคียงข้างภรรยาสาวน้อยพร้อมทั้งเอ่ยหยอกเย้า จมูกหนาถูไถไปมากับจมูกงอนของเอรินอย่างเอ็นดู ราวกับห้องทั้งห้องเป็นสีชมพู สองหนุ่มสาวโอบกอดกันและกันด้วยความรักโดยไม่ทันได้สนใจว่าใครบางคนกำลังเปิดประตูเข้ามาและเห็นภาพแนบชิดเข้าอย่างตกตะลึง แล้วใครคนนั้นก็อุทานออกมาเสียงดังทำเอาชานนท์และเอรินรีบผละออกจากกันด้วยสีหน้าตื่นตกใจ

“ทำอะไรกันน่ะ!!”

///////////////////

ท่ามกลางความมืดที่มีเพียงแสงสลัวจากโคมไฟไม้ที่ปักเรียงรายอยู่ตามทาง ลมตะวันออกพัดโชยเอากลิ่นหอมของดอกเกดในสวนไม้หอมเข้ามาอย่างแผ่วเบา ภายในห้องนอนเล็กของเอรินที่มีเพียงแสงไฟจากหัวเตียงสลัว ชานนท์และเอรินโอบกอดกันและกันนิ่งนานอยู่บนเตียงเล็กของเอรินราวกับจะถ่ายทอดความรักและความอบอุ่นให้แก่กันและกัน จนลืมที่จะระวังว่าจะมีใครบางคนโผล่พรวดพราดเข้ามาเห็น และใครคนนั้นก็ถึงกับยืนนิ่งตะลึงงันไปอย่างไม่เชื่อสายตา...

“ทำอะไรกันน่ะคุณ!! ทำอะไรคุณหนู”

เจ้าปื๊ดตะคอกเสียงใส่ชายหนุ่มที่กำลังโอบรัดคุณหนูคนสวยของตนเอาไว้ด้วยลักษณะท่าทางหมิ่นเหม่ ส่งผลให้เอรินถึงกับเบิกตากว้าง ผลักชานนท์ออกห่างจากตัวทันทีก่อนจะลุกขึ้นนั่งจัดเสื้อผ้าหน้าผมของตนให้เข้าที่ด้วยใบหน้าแดงก่ำ

“เอ่อ..ปื๊ด นายเข้ามาได้ไง ฉันว่า.. ฉันล็อคประตูแล้วนี่”

ชานนท์ลุกขึ้นยืนข้างเตียงพร้อมลูบท้ายทอยตนเองพูดแก้เก้ออย่างขัดเขินที่เจ้าปื๊ดเข้ามาเห็นบทเลิฟซีนระหว่างเขากับเอรินเข้าอย่างจัง ทั้งที่สัญญากับเจ้าปื๊ดเป็นมั่นเหมาะว่าจะไม่ทำรุ่มร่าม

“ปื๊ด..คือ ฉัน คือ...”

เอรินหน้าแดงจัด พูดจาตะกุกตะกักมองชานนท์ที ปื๊ดทีอย่างยอมจำนนต่อสายตาเจ้าปื๊ดที่หรี่ตามองอย่างจับผิด

“หยุดเลย..ไม่ต้องพูดเลยคุณหนู ดีนะปื๊ดแอบป้าเข้ามาทางฝั่งบ้านใหญ่น่ะไม่งั้นคุณสองคนเสร็จแน่ เร็วๆเลย ป้ากับลุงกำลังจะกลับมาแล้ว ดีนะปื๊ดเห็นซะก่อน”

เจ้าปื๊ดระล่ำระลักบอกทันทีที่นึกขึ้นได้ แล้วก็ชี้มือพร้อมทำปากบุ้ยใบ้ไปทางชานนท์อย่างหงุดหงิด สายตาเรียวเล็กหรี่มองชานนท์ที่ไม่ทำตามคำพูดอย่างจับผิดและตำหนิ

“แต่คุณเนี่ยปิดล็อคประตู ปื๊ดจะเรียกก็กลัวป้ากับลุงจะได้ยิน ถามจริงเหอะคิดอะไรกันอยู่เนี่ย ทำอะไรไม่คิดเลยนะคุณ ค่อยตอบปื๊ดก็ได้ตอนนี้รีบๆออกไปก่อนเถอะคุณ ใครมาเห็นเข้ามันจะไม่ดีคุณหนูเป็นผู้หญิงจะมีแต่เสียหาย เข้าใจมั๊ย”

“อะ..อืม” ชานนท์เหลือบมองเอรินชั่วครู่อย่างรู้สึกผิด ก่อนจะตอบรับคำปื๊ดด้วยสีหน้าไม่สู้ดีนัก แล้วเจ้าปื๊ดก็สั่งความอีกรอบพร้อมดันหลังชานนท์ให้เดินไปทางประตูอีกทาง

“ไปทางประตูฝั่งสวนนะ ป่านนี้ลุงกับป้าเข้าบ้านมาแล้วแน่ อีกเดี๋ยวก็ต้องมาหาคุณหนู เร็วๆเถอะคุณ ปื๊ดจะช่วยครั้งนี้ครั้งเดียวนะ คราวหน้าถ้าไม่จัดการให้ถูกต้องตามประเพณี แล้วยังทำมารุ่มร่ามกับคุณหนูอีกจะหาว่าปื๊ดไม่เตือนไม่ได้นะ”

เจ้าปื๊ดจัดการเปิดประตูเสร็จสรรพพร้อมทั้งดันหลังชานนท์พรวดออกไปจากประตูอย่างรวดเร็วทำเอาชานนท์แทบจะเสียหลัก
ชายหนุ่มหันมาสบตาสาวน้อยที่ยืนอึ้งอยู่ในห้องด้วยแววตาสับสน ใจก็อยากจะประกาศออกไปเหลือเกินว่าพวกเขาสองคนเป็นอะไรกัน แต่เมื่อเห็นแววตาขอร้องจากเอรินทำเอาชานนท์อดใจอ่อนไม่ได้

“รู้แล้วๆ ผลักอยู่ได้ เจ้านี่นี่ เอริน..เดี๋ยวฉันโทรหานะ”

ชานนท์ตะโกนบอกหญิงสาวในห้องเสียงไม่ดังนัก เอรินได้แต่พยักหน้ารับอย่างไม่รู้จะทำอย่างไร จะเดินตามออกมาก็ไม่ได้เพราะเจ้าปื๊ดยืนขวางเป็นจระเข้ขวางคลองอยู่

“ยัง ยังไม่ไปอีกนะคุณ ระวังจะโดนลูกปืนลุงไม่ใช่น้อย”

เจ้าปื๊ดรีบเดินออกมาหน้าห้องปิดประตูกั้นเอรินไว้ข้างในไม่ให้ชานนท์เห็นพร้อมทั้งยืนกันท่าอยู่ที่หน้าประตู ทำเอาชานนท์มองอย่างฮึดฮัดขัดใจก่อนจะชี้หน้าเจ้าปื๊ดคาดโทษด้วยความหงุดหงิด

“เออ.. จำไว้เลยปื๊ด ฝากไว้ก่อน”

ทันทีที่ชานนท์หันกลับมาจากหน้าห้องอย่างตัดใจที่รู้ว่าต้องกลับไปที่บ้านต้นไม้เพียงลำพัง ชายหนุ่มถึงกับถอนหายใจออกมาอย่างเซ็งๆ นับเป็นครั้งแรกหลังจากหลายวันมานี้ที่มีเอริน ภรรยาสาวน้อยให้นอนกอดอยู่ข้างกายจนร่างกายและหัวใจของเขาเกิดความเคยชินขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก

แล้วชานนท์ก็ต้องหยุดชะงักฝีเท้าทันทีที่กำลังจะเดินก้าวพ้นซุ้มประตูของสวนไม้หอมของเอรินออกมายังทางเดินใหญ่ขึ้นไปทางบ้านต้นไม้ เมื่อพบใครบางคนยืนทำหน้าถมึงทึงอยู่ตรงหน้าพร้อมคำถามที่ส่งมาให้อย่างไม่เป็นมิตรเท่าใดนัก

“คุณเป็นใคร...ที่นี่ไม่ใช่ที่ๆแขกจะมายุ่มย่าม”

เสียงห้วนของชายหนุ่มแปลกหน้า ทำเอาชานนท์ชักสีหน้าเขม้นมองอย่างไม่ค่อยสบอารมณ์นัก ยังไม่ทันจะเอ่ยตอบโต้ กรณ์ก็ก้าวเร็วเข้ามาประชิดเขาอย่างจู่โจมด้วยสายตาที่ไม่เป็นมิตร ชานนท์มองสบดวงตาคมกล้าที่ดูจะไม่ประสงค์ดีนักอย่างงุนงงแต่ก็ไม่ได้ให้คำตอบที่พอใจทำเอากรณ์อดไม่ไหวต้องถามซ้ำ

“ผมถามว่าคุณมาที่นี่ทำไม”

กรณ์ก้าวมายืนขวางทางไว้ไม่ยอมให้ชานนท์ที่ไม่ยอมตอบคำถามเขาแต่กลับเดินเบี่ยงตัวหลบไปจะให้พ้นกรณ์ที่ยืนขวางอยู่ จนได้รับคำถามย้ำด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดจากกรณ์อีกครั้ง คราวนี้ชานนท์ถึงกับหยุดกึกหันมาจ้องกรณ์อย่างไม่สบอารมณ์เช่นกัน

ยังไม่ทันที่จะได้ตอบอะไรเพราะไม่อยากต่อความยาวสาวความยืด เจ้าปื๊ดที่เดินแกมวิ่งมาจนทันชายหนุ่มหมายจะถามเอาความจริงก็ถึงกับอึ้งทันทีที่ได้ยินกรณ์เอ็ดเสียงดังรีบหลบซุ่มดูอยู่หลังพุ่มไม้แทบไม่ทัน

“นี่..คุณ ผมถามดีๆทำไมไม่ตอบ”

หนุ่มอ่อนวัยกว่ากระชากแขนชานนท์ที่กำลังเดินหนีเขาอย่างไม่สนใจ ทำเอาชานนท์หันขวับมาสะบัดแขนที่ถูกดึงเอาไว้อย่างแรง กรณ์ไม่ทันตั้งตัวแทบจะเสียหลักตั้งท่าจะเข้าไปเอาเรื่องอีกครา

“แบบนี้เรียกว่าถามดีๆแล้วเหรอ..ทำไมผมจะต้องตอบ ในเมื่อมันไม่ใช่เรื่องของคุณ”

ชานนท์แสยะยิ้มอย่างกวนประสาท ทำเอากรณ์ยิ่งหงุดหงิดหนักที่ไม่ได้รับคำตอบที่พอใจว่าทำไมชานนท์ถึงออกมาจากสวนไม้หอมอาณาเขตของเอริน ทันใดนั้นเจ้าปื๊ดก็วิ่งผลุนผลันกระหืดกระหอบเข้ามาห้ามทัพทันทีที่แอบมองอยู่นานแล้วเห็นท่าว่าจะไม่ดี

“เอ่อ..คุณคนนี้เป็นแขกที่เพิ่งเข้ามาพักไม่นาน ไม่ค่อยรู้ทางเลยหลงเข้ามาสวนไม้หอมของคุณหนู ผมเลยมาตามนี่แหละครับคุณกรณ์”

เจ้าปื๊ดสีหน้าไม่สู้ดีอ้อมแอ้มตอบแทนชานนท์ที่หันขวับมามองหน้ากรณ์ทันทีที่รู้ว่าชายหนุ่มตรงหน้าคือใครพร้อมทั้งมองกรณ์อย่างสงสัยใคร่รู้ “ใครวะ..ปื๊ด”

จู่ๆกรณ์ก็ทะลุกลางปล้องถามขึ้นมา ทั้งที่สายตายังจับจ้องอยู่ที่ชานนท์อย่างไม่ไว้ใจ ทำเอาเจ้าปื๊ดกระอักกระอ่วนจะตอบคำแต่แล้วเสียงใครบางคนก็ดังแทรกขึ้นมาตอบแทนเขาด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น จนทั้งกรณ์ ชานนท์และเจ้าปื๊ดหันขวับไปตามเสียงนั้น
ขณะเดียวกันเอรินก็เดินไปเดินมาอย่างคิดหนักอยู่เพียงลำพังในห้องนอน สีหน้ากระวนกระวายคอยชะเง้อมองไปทางประตูฝั่งที่เชื่อมกับบ้านใหญ่และประตูฝั่งสวนไม้หอมอย่างตัดสินใจ

“พ่อกับแม่คงยังไม่มามั้ง เงียบเชียว ป่านนี้คุณลุงจะเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้ คงหิวแย่แล้วไปดูหน่อยดีมั๊ยนะ หรือไม่ไป หรือไป โอ๊ย!! เอรินเอ๊ย คิดสิคิด..”

ในที่สุดด้วยความเป็นห่วงที่มีมากกว่า เอรินคิดหนักอย่างตัดสินใจได้ หญิงสาวรีบเปิดประตูตู้เย็นเครื่องกระทัดรัด หยิบส้มสามสี่ลูก พร้อมน้ำผลไม้กระป๋องเย็นฉ่ำและแครกเกอร์ห่อเล็กในกระเป๋าสะพายใส่ลงในกระเป๋าผ้าสะพายใบย่อมอย่างเตรียมพร้อมก่อนจะล็อคประตูฝั่งบ้านใหญ่แล้วปิดไฟห้องจนมืดสนิท

“ขอโทษนะ..พ่อจ๋า..แม่จ๋า..หนูขอไปดูเค้าแป๊บเดียวนะ”

เอรินหันไปมองประตูห้องฝั่งบ้านใหญ่ชั่วครู่ก่อนจะค่อยๆย่องออกไปจากห้องทางประตูสวนไม้หอมอย่างเงียบกริบ


ท่ามกลางการเผชิญหน้ากันของชานนท์และกรณ์ เจ้าปื๊ดได้แต่มองอย่างหวั่นใจ ไม่รู้จะอธิบายอย่างไรให้เข้าใจกันทั้งสองฝ่าย ถ้าไม่บังเอิญที่ใครบางคนจะเข้ามาขัดจังหวะการสนทนาอย่างถึงพริกถึงขิงของกรณ์และชานนท์เข้าเสียก่อน

“อเล็กซ์!!.. คุณอยู่ที่นี่จริงๆด้วย”

ราเชลก้าวโขยกเขยกเข้ามาอย่างรวดเร็วทันทีที่เห็นชานนท์ หญิงสาวก็ถึงกับแสดงอาการดีใจอย่างปิดไม่มิด ทำเอาชานนท์ที่หันไปตามเสียงเรียกถึงกับตกใจที่ได้พบหล่อนที่นี่

“ระ..ราเชล คุณมาได้ยังไง” น้ำเสียงตื่นตกใจและสีหน้าตื่นตะลึงของชานนท์ ทำเอากรณ์ได้แต่มองสองหนุ่มสาวอย่างงุนงง

‘เฮ๊อะ..ไอ้หมอนี่เองเหรอ..นายอเล็กซ์’ กรณ์มองชานนท์อย่างพินิจพิเคราะห์ นึกดีใจอยู่ลึกๆที่เขาคือเป้าหมายของผู้หญิงเอาแต่ใจที่ไม่น่าจะมายุ่มย่ามกับเอรินอย่างที่ตนเข้าใจ

“ฉันมาเมืองไทยตั้งหลายวันแล้วล่ะ แต่เกิดอุบัติเหตุเข้าเสียก่อน เพราะนายคนเนี้ย” ราเชลเหลือบตามองกรณ์อย่างหมั่นไส้ ทำเอาชานนท์มองตามสายตาหล่อนไปแล้วก็เจอสายตากรณ์ที่ดูลิงโลดต่างจากเมื่อสักครู่ที่เจอกันโดยสิ้นเชิง

“แต่ผมก็พาคุณมาแล้วไง..จะพูดทำไมให้มากความ ยินดีที่รู้จักก็แล้วกันนะคุณ..อเล็กซ์”

“นี่นาย..เป็นเด็กเป็นเล็กพูดจากับผู้ใหญ่ให้ดีๆหน่อย แล้วดูทำหน้าทำตา กวนประสาท”

ราเชลสวนทันควันอย่างไม่พอใจจำเลยหนุ่มที่ทำสีหน้ากวนใส่ ทำเอากรณ์ได้แต่หมั่นไส้ กำลังนึกหาคำจะตอบโต้แต่ก็ต้องนิ่งฟังอย่างสนใจเมื่อชานนท์ขัดเสียงขุ่น

“พวกคุณหยุดเลย..ทั้งคู่นั่นแหละ เอ่อ...ราเชล คือ...ผม” สีหน้ายุ่งยากใจของชานนท์ ทำเอาราเชลหัวใจกระตุกวูบ หญิงสาวรีบเปลี่ยนเรื่องทันทีอย่างไม่สบายใจที่เห็นสีหน้าของเขา

“ดีใจจริงๆที่ฉันเดาไม่ผิดว่าคุณอยู่ที่นี่...ที่รัก ฉันคิดถึงคุณมากเลยนะคะ ขอฉันพักที่นี่กับคุณด้วยคนนะ”

ราเชลฉอเลาะด้วยความคิดถึงชายหนุ่มตรงหน้าพร้อมทั้งโผเข้าสวมกอดรอบเอวชานนท์แน่น ชายหนุ่มไม่ทันตั้งตัวได้แต่ยืนนิ่งเป็นหินให้หญิงสาวกอดตามใจชอบแต่ยังไม่วายถามไถ่เอาความจริงจากหล่อน

“ราเชล...ผมว่าเราคุยกันรู้เรื่องแล้วนะ..ทำไมถึง..”

ชานนท์พยายามแกะมือหญิงสาวออกทันทีที่เห็นสายตาจ้องจับผิดของสองหนุ่มที่มองอยู่อย่างอึ้ง“ไม่เอาค่ะ.. อย่าเพิ่งพูดถึงเลยนะ ฉันเหนื่อย ขอฉันอยู่อย่างนี้สักพักนะ”

ท่ามกลางสายตางุนงงของสองหนุ่มอย่างกรณ์กับปื๊ด ที่มองหนุ่มสาวกอดกันอยู่ตรงหน้า ชานนท์ไม่รู้จะทำอย่างไรได้แต่ปล่อยให้ราเชลกอดเอวเขาแน่น โดยที่เขาได้แต่ตบหลังหล่อนเบาๆอย่างปลอบใจ

การกระทำที่อ่อนโยนของชานนท์ที่มีต่อราเชลทำเอาเอรินที่ตามมาจนทันถึงกับนิ่งไปอย่างตะลึงงันอยู่ตรงทางเดินเล็กของสวนไม้หอมโดยที่ไม่มีใครทันได้สังเกตเห็น

เพราะรู้มาตลอดว่าชานนท์และราเชลมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งต่อกันมาก่อนที่จะมาเจอ รู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจมาตลอดที่ไม่เคยอยู่ในสายตาของเขามาตั้งแต่ต้น และไม่สามารถเทียบชั้นอะไรกับสาวสวยสมบูรณ์แบบอย่างราเชลได้ หญิงสาวถึงกับมือไม้เย็นเฉียบปล่อยกระเป๋าสะพายใบย่อมที่บรรจุเสบียงจะเอาไปให้ชานนท์ตกลงบนพื้นกระจายเต็มไปทั่วบริเวณพื้นหญ้า

‘คุณราเชล..คุณมาได้ยังไงกันแล้วฉันล่ะ..คุณลุง..ฉันจะทำยังไง’


+++++++++================================================================

ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านค่า

คุณแรม รติ ตอนที่แล้วไม่ทันได้ตอบเมนท์ค่ะ ขอบคุณมากๆค่ะ ^___^



lovereason
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 7 ก.ค. 2557, 14:43:15 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 7 ก.ค. 2557, 15:17:57 น.

จำนวนการเข้าชม : 1368





<< ตอนที่ 17 ระหว่างรัก..และ..   ตอนที่ 19 ก้าวผ่านอุปสรรครัก >>
แรมรติ 8 ก.ค. 2557, 05:54:48 น.
ความรักบังตา .. เสน่หาบังใจ



เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account