เสน่หาภรรยาครึ่งปี
เสน่หาภรรยาครึ่งปี โดย กันต์ระพี
เดิมชื่อกรงรักวิมานร้อน
เธอ..ถูกหลอกขายให้ชายแปลกหน้า
เขา...ต้องการแค่ภรรยาครึ่งปี
เพียงความสัมพันธ์ชั่วข้ามคืน
เขาก็ต้องการหล่อนทั้งตัวและหัวใจ แต่จะทำฉันใด...
เปิดให้ทดลองอ่านบางส่วนเท่านั้น วางจำหน่ายในรูปแบบ e-book
เดิมชื่อกรงรักวิมานร้อน
เธอ..ถูกหลอกขายให้ชายแปลกหน้า
เขา...ต้องการแค่ภรรยาครึ่งปี
เพียงความสัมพันธ์ชั่วข้ามคืน
เขาก็ต้องการหล่อนทั้งตัวและหัวใจ แต่จะทำฉันใด...
เปิดให้ทดลองอ่านบางส่วนเท่านั้น วางจำหน่ายในรูปแบบ e-book
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้
ตอน: ตัวอย่างเนื้อเรื่อง
“เดี๋ยว...แล้วถ้าฉันยอมแต่งงานกับคุณล่ะ คุณจะปล่อยฉันกลับเมืองไทยไหม”
“แน่นอนเบบี๋ เราจะอยู่ด้วยกันแค่ครึ่งปีเท่านั้น”
ดีแลนด์ไม่ได้หันกลับมามองเสียด้วยซ้ำ พูดจบ...เขาก็ก้าวออกจากห้องไป ปล่อยให้พิมพ์ลดาส่งสายตามองตามแผ่นหลังกว้าง ระบายลมหายใจออกมาช้าๆ คิดไม่ตกด้วยจนหนทาง
นี่หล่อนจะต้องแต่งงานกับผู้ชายคนนี้ เพราะไม่มีทางเลือกสินะ
หญิงสาวครุ่นคิด อดสงสัยไม่ได้ว่าเขามีเหตุผลอะไร ถึงยอมเสียเงินมากมายขนาดนั้น เพียงเพื่อจะแต่งงานอยู่กินกับหล่อนแค่ครึ่งปี
รักแรกพบอย่างนั้นเหรอ?
เป็นไปไม่ได้! เรื่องเพ้อฝันบ้าบอพรรค์นั้นมันมีจริงเสียที่ไหน
“คุณผู้หญิงคะ ดิฉันเข้าไปได้ไหมคะ” เสียงที่ร้องเรียกอยู่หน้าประตู ทำให้หญิงสาวหลุดจากห้วงแห่งความคิด ขยับตัวลุกขึ้นเดินออกไปเปิดประตูให้ผู้ที่รอคอยอยู่หน้าห้องก้าวเข้ามาด้านใน
“ดิฉันชื่อเอ็มม่า เป็นแม่บ้านประจำคฤหาสน์ดีแลนด์ค่ะ เห็นคุณผู้ชายบอกว่าคุณผู้หญิงยังไม่ได้รับประทานอาหารเช้า ดิฉันกลัวว่าคุณจะหิวก็เลยเอาซุปมาให้คะ” หญิงวัยกลางคนรูปร่างอวบอ้วนท่าทางใจดีเผยอยิ้มกว้าง ก่อนจะเดินถือถาดซุปมาวางบนโต๊ะหน้าโซฟาตัวยาวที่ตั้งอยู่มุมหนึ่งของห้อง
“ถ้ามีอะไรก็เรียกใช้ดิฉันได้นะคะ ไม่ต้องเกรงใจ” แม่บ้านประจำคฤหาสน์คลี่ยิ้มให้หญิงสาวอีกครั้งก่อนจะหมุนตัวกลับตั้งท่าจะเดินออก
“เอ่อ...เดี๋ยวค่ะ ไม่ทราบว่าเจ้านายของคุณเป็นคนยังไงเหรอ”
“คุณผู้ชายเป็นคนใจดีมีน้ำใจมากค่ะ รักครอบครัว มีเหตุผล ใครได้อยู่ใกล้ก็รักท่านด้วยกันทั้งนั้น”
“แล้ว...แล้วเขาเคยพา...”
“ผู้หญิงน่ะเหรอคะ” เอ็มม่าชิงพูดขึ้นเหมือนรู้ใจนายสาว และเมื่อเห็นใบหน้าแดงซ่านนั้นพยักน้อยๆ ก็เข้าใจไปว่าคนตรงหน้ากำลังระแวงเจ้านายหนุ่ม จึงรีบเอ่ยแก้ต่างให้ทันที
“สบายใจได้ค่ะ คุณผู้ชายไม่เคยพาผู้หญิงคนไหนมาที่นี่หรอกค่ะ ถึงท่านจะดูเหมือนหนุ่มเจ้าสำราญ แต่ความจริงแล้วท่านระวังตัวในเรื่องนี้มาก”
“อย่างงั้นเหรอ...”
“ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ดิฉันขอตัวไปทำงานก่อนนะคะ” เอ็มม่าคลี่ยิ้มแล้วก้าวออกจากห้องไป
พิมพ์ลดานั่งครุ่นคิดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่ครู่หนึ่ง ก็ลุกขึ้นก้าวออกมายืนรับลมเย็นบนระเบียงกว้าง สูดอากาศบริสุทธิ์เข้าปอด ขณะทอดสายตามองหาดทรายขาวสะอาดตาและผืนน้ำสีเขียวครามที่กว้างใหญ่ พลางถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง
ถึงแม้ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นจะไม่ได้เกิดจากความตั้งใจของหล่อน หากแต่เป็นเพราะถูกคนรักลวงหลอก แต่จะให้ทำเช่นไร ในเมื่อไม่สามารถแก้ไขหรือเรียกร้องสิ่งที่สูญเสียไปกลับคืนมาได้ จึงได้แต่คิดไปว่าคงจะเป็นชะตาฟ้าลิขิตให้ต้องเผชิญกับสิ่งที่เป็นอยู่
แม้จะเจ็บปวดลึกๆ ภายในใจที่ชายคนรักทรยศหักหลัง แต่หล่อนก็แกร่งพอที่จะเชิดหน้ายอมรับและยินดีที่จะเผชิญกับมัน แม้ไม่รู้ว่าอนาคตข้างหน้าจะเป็นเช่นไร แต่หล่อนจะไม่มีวันเสียน้ำตาให้กับผู้ชายชั่วๆ ที่ไม่เห็นคุณค่าในความรักที่มอบให้อีก
สองเท้าเปลือยเปล่าขยับจากระเบียงกว้างก้าวลงมาตามขั้นบันไดหิน สัมผัสผืนทรายละเอียดก่อนจะเดินเลียบไปตามชายหาด ทอดสายตามองหมู่นกผกผินเหนือพื้นน้ำอยู่ครู่หนึ่ง ก็ทรุดตัวลงนั่งหลับตาพริ้มสูดกลิ่นอายทะเลเข้าปอด ไม่แปลกใจเลยสักนิดว่าทำไมดีแลนด์ถึงตัดสินใจซื้อเกาะนี้ เพราะแค่ได้เห็นก็หลงใหลและนึกรักที่นี่ขึ้นมาในทันที
พิมพ์ลดาปล่อยใจล่องลอยไปกับสายลมเย็นที่พัดพากลิ่นไอทะเลมาเป็นระลอก เส้นผมยาวสลวยพลิ้วสยาย ขณะนั่งฟังเสียงคลื่นกระทบฝั่งลูกแล้วลูกเล่า ราวกับต้องการให้มันชำระล้างความเจ็บปวดที่อยู่ในใจลึกๆ ลืมตาขึ้นอีกครั้งก็เห็นบางสิ่งบางอย่างดำผุดดำว่ายอยู่ในระยะสายตา เพ่งมองอยู่ครู่หนึ่งก็ขยับตัวลุกขึ้น เมื่อเห็นว่าร่างสมบุรุษในกางเกงว่ายน้ำตัวสั้นแนบลำตัวเดินขึ้นมาจากท้องทะเลกว้าง
“เล่นน้ำด้วยกันไหม”
พิมพ์ลดาหลุบสายตาลงต่ำ ก้มหน้างุดไม่กล้ามองคนตรงหน้า สั่นหน้าน้อยๆ แล้วรีบหมุนตัวกลับ รู้สึกร้อนผ่าวไปทั้งหน้า เมื่อเห็นร่างกึ่งเปลือยของชายหนุ่ม ขยับตัวจะกลับห้องพัก แต่อีกฝ่ายก็รั้งมือเรียวไว้ก่อนจะดึงเข้ามาประชิดแล้วโน้มหน้าลงกระซิบถามข้างหู
“จะไปไหน อายเหรอ”
“เปล่า แต่จะกลับห้องแล้ว” พิมพ์ลดาหน้าแดง พยายามบังคับเสียงไม่ให้สั่น ดันตัวออกห่างจากชายหนุ่ม โดยเว้นระยะห่างแต่พอสมควร ทำให้อีกฝ่ายที่ยืนหรี่ตามอง เอื้อมมือมาเชยคางมนพลางเอ่ยกระเซ้าออกไป
“ไม่จริงมั้ง หน้าคุณมันฟ้องว่าอายมาก”
“ก็บอกว่าไม่ได้อายยังไงเล่า” หญิงสาวปัดมือหนาออก กระชากเสียงตอบคนรู้ทัน ทำท่าจะเดินกลับห้อง แต่ก็ต้องชะงักเมื่อถูกท้าทาย
“ถ้าอย่างงั้นก็พิสูจน์สิ”
พิมพ์ลดาหันหน้ากลับมามองชายหนุ่มก่อนจะปรายตามองท้องน้ำกว้างใหญ่ ชั่งใจอยู่ครู่หนึ่ง แต่เมื่อเห็นคนตรงหน้ายิ้มเยาะ ก็ตัดสินใจก้าวไปที่ริมหาด แต่ทว่าสองเท้าเปลือยเปล่ายังไม่ทันจะสัมผัสน้ำเสียด้วยซ้ำ ร่างทั้งร่างก็ลอยละลิ่ว เมื่อคนที่ก้าวตามหลังนั้นจับหล่อนยกขึ้นบ่า
“ทำอะไรน่ะ! ปล่อยฉันนะ! ปล่อยฉันลงเดี๋ยวนี้!”
ดีแลนด์ไม่สนใจเสียด้วยซ้ำว่าคนในอ้อมแขนจะเอะอะโวยวายหรือทุบตีเขาเป็นพัลวัน ก้าวลงน้ำได้ก็เดินลิ่วๆ พาออกห่างจากชายฝั่งมาถึงระดับน้ำที่หล่อนยืนไม่ถึงจึงปล่อยลง
“อีตาบ้า! ปล่อยฉันลงทำไมเนี่ย คิดจะแกล้งกันใช่ไหม”
พิมพ์ลดาโวยเสียงลั่น จากผลักไสเวลานี้กลับโอบกอดกายแกร่งแน่ หล่อนว่ายน้ำไม่แข็งนัก จึงเกรงว่าคลื่นลมแรงที่เข้ามาปะทะตัวจะพัดพาให้จมหายไปในทะเลกว้าง ทำให้คนที่พาลงมาถึงกับยิ้มกริ่ม ฉวยโอกาสนั้นกอดตอบ ก่อนจะโน้มหน้าลงหากำไรจากคนที่อยู่ในอ้อมแขน
“แกล้งที่ไหนกัน จะพามาเล่นน้ำต่างหาก แต่ถ้ากลัวจะกอดผมแน่นๆ ก็ได้นะ ผมเต็มใจ”
ใบหน้ายียวนกับคำพูดกวนๆ ของคนตรงหน้า ทำให้หญิงสาวต้องตวัดสายตาค้อน นึกบริภาษคนเจ้าเล่ห์ในใจ อยากจะผลักไสออกไปให้ไกลห่าง แต่ใจก็กลัวเกินกว่าที่จะทำอย่างนั้น จึงจำต้องปล่อยให้เขากระทำตามแต่ใจปรารถนา ซึ่งดูเหมือนว่าน่านน้ำสีครามจะเป็นใจกับเจ้าของอยู่ไม่น้อย
ระลอกคลื่นที่ซัดสาดมาแต่ละครั้ง นอกจากจะไม่มีทีท่าว่าจะหยุดยั้งยังทวีความรุนแรงขึ้น ยิ่งคลื่นแรงมากเท่าไหร่ กายสาวก็ยิ่งเบียดชิด เร้าอารมณ์ฝ่ายตรงข้ามให้โหมกระพือขึ้นตามลำดับ ฝ่ามือร้อนๆ ที่ไล้ไปทั่วร่างบางเริ่มซุกซนแทรกซอนผ่านเนื้อผ้าเข้าไปสัมผัสผิวเนื้อเนียนละเอียด หยอกเย้าเคล้าคลึงก่อนจะปัดผ่านอย่างมีชั้นเชิง จนหญิงสาวต้องหลุดเสียงครางออกมาอย่างไม่รู้ตัว
“แต่งงานกับผมนะเบบี๋ แล้วผมจะทำให้คุณมีความสุขมากกว่าผู้หญิงทุกคนบนโลกนี้”
น้ำเสียงทุ้มนุ่ม กระซิบเสียงพร่าชิดใบหู พลางลากไล้ฝ่ามือหนาจากเรียวขาหายเข้าไปในร่มผ้า สอนคนในอ้อมแขนให้รู้จักกับสัมผัสเสน่หา จนร่างบางหอบหายใจจนอกสะท้อน สั่นเทิ้มไปทั้งตัว หัวสมองมีแต่ความว่างเปล่า หลับตาพริ้มตอบรับเขาราวกับอยู่ในห้วงฝัน ก่อนจะครางลึกออกมาอย่างสุขล้ำไปกับบทเรียนรักเร่าร้อนบทใหม่ที่ชายหนุ่มมอบให้...
เสียงโมบายกังวานก้องกับเสียงคลื่นซัดสาดที่นอกหน้าต่าง ปลุกให้พิมพ์ลดาลืมตาตื่นขึ้นในเช้าวันใหม่ ขยับตัวลุกขึ้นนั่งได้ก็ชำเลืองมองไปด้านข้าง นึกแปลกใจอยู่ไม่น้อยที่พบแต่ความว่างเปล่า แต่เมื่อไล้มือไปบนผ้าปูที่นอนข้างตัวแล้วสัมผัสได้ถึงความเย็นของผืนผ้า ก็รับรู้ได้ทันทีว่าเมื่อค่ำคืนที่ผ่านมาดีแลนด์ไม่ได้กลับมานอนที่ห้อง
เขาไปไหน?
ทำอะไร? ทำไมถึงไม่กลับมานอนที่ห้อง...
“สบายใจได้ค่ะ คุณผู้ชายไม่เคยพาผู้หญิงคนไหนมาที่นี่หรอกค่ะ ถึงท่านจะดูเหมือนหนุ่มเจ้าสำราญ แต่ความจริงแล้วระวังตัวในเรื่องนี้มากนะคะ”
พิมพ์ลดานึกถึงคำพูดของแม่บ้านประจำคฤหาสน์ ที่เคยบอกเล่าถึงอุปนิสัยชายหนุ่มให้ฟัง ทำให้หล่อนอดที่จะนึกค่อนในใจขึ้นมาไม่ได้
เชอะ! ไม่เคยพาผู้หญิงคนไหนมาที่นี่ งั้นที่หายไปนี่ ก็คงจะออกไปหากันล่ะสิท่า
คนหื่นกามแบบนั้น มองยังไงก็เพลย์บอยตัวพ่อชัดๆ!
*************************************
เสน่หาภรรยาครึ่งปี By กันต์ระพี วางจำหน่ายนรูปแบบ e-book แล้วนะคะ
อ่านงานเขียนเรื่องนี้ก่อนใครได้ที่...
http://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NjoiNTE5MzI4IjtzOjc6ImJvb2tfaWQiO3M6NToiMTQ3MTQiO30
“แน่นอนเบบี๋ เราจะอยู่ด้วยกันแค่ครึ่งปีเท่านั้น”
ดีแลนด์ไม่ได้หันกลับมามองเสียด้วยซ้ำ พูดจบ...เขาก็ก้าวออกจากห้องไป ปล่อยให้พิมพ์ลดาส่งสายตามองตามแผ่นหลังกว้าง ระบายลมหายใจออกมาช้าๆ คิดไม่ตกด้วยจนหนทาง
นี่หล่อนจะต้องแต่งงานกับผู้ชายคนนี้ เพราะไม่มีทางเลือกสินะ
หญิงสาวครุ่นคิด อดสงสัยไม่ได้ว่าเขามีเหตุผลอะไร ถึงยอมเสียเงินมากมายขนาดนั้น เพียงเพื่อจะแต่งงานอยู่กินกับหล่อนแค่ครึ่งปี
รักแรกพบอย่างนั้นเหรอ?
เป็นไปไม่ได้! เรื่องเพ้อฝันบ้าบอพรรค์นั้นมันมีจริงเสียที่ไหน
“คุณผู้หญิงคะ ดิฉันเข้าไปได้ไหมคะ” เสียงที่ร้องเรียกอยู่หน้าประตู ทำให้หญิงสาวหลุดจากห้วงแห่งความคิด ขยับตัวลุกขึ้นเดินออกไปเปิดประตูให้ผู้ที่รอคอยอยู่หน้าห้องก้าวเข้ามาด้านใน
“ดิฉันชื่อเอ็มม่า เป็นแม่บ้านประจำคฤหาสน์ดีแลนด์ค่ะ เห็นคุณผู้ชายบอกว่าคุณผู้หญิงยังไม่ได้รับประทานอาหารเช้า ดิฉันกลัวว่าคุณจะหิวก็เลยเอาซุปมาให้คะ” หญิงวัยกลางคนรูปร่างอวบอ้วนท่าทางใจดีเผยอยิ้มกว้าง ก่อนจะเดินถือถาดซุปมาวางบนโต๊ะหน้าโซฟาตัวยาวที่ตั้งอยู่มุมหนึ่งของห้อง
“ถ้ามีอะไรก็เรียกใช้ดิฉันได้นะคะ ไม่ต้องเกรงใจ” แม่บ้านประจำคฤหาสน์คลี่ยิ้มให้หญิงสาวอีกครั้งก่อนจะหมุนตัวกลับตั้งท่าจะเดินออก
“เอ่อ...เดี๋ยวค่ะ ไม่ทราบว่าเจ้านายของคุณเป็นคนยังไงเหรอ”
“คุณผู้ชายเป็นคนใจดีมีน้ำใจมากค่ะ รักครอบครัว มีเหตุผล ใครได้อยู่ใกล้ก็รักท่านด้วยกันทั้งนั้น”
“แล้ว...แล้วเขาเคยพา...”
“ผู้หญิงน่ะเหรอคะ” เอ็มม่าชิงพูดขึ้นเหมือนรู้ใจนายสาว และเมื่อเห็นใบหน้าแดงซ่านนั้นพยักน้อยๆ ก็เข้าใจไปว่าคนตรงหน้ากำลังระแวงเจ้านายหนุ่ม จึงรีบเอ่ยแก้ต่างให้ทันที
“สบายใจได้ค่ะ คุณผู้ชายไม่เคยพาผู้หญิงคนไหนมาที่นี่หรอกค่ะ ถึงท่านจะดูเหมือนหนุ่มเจ้าสำราญ แต่ความจริงแล้วท่านระวังตัวในเรื่องนี้มาก”
“อย่างงั้นเหรอ...”
“ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ดิฉันขอตัวไปทำงานก่อนนะคะ” เอ็มม่าคลี่ยิ้มแล้วก้าวออกจากห้องไป
พิมพ์ลดานั่งครุ่นคิดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่ครู่หนึ่ง ก็ลุกขึ้นก้าวออกมายืนรับลมเย็นบนระเบียงกว้าง สูดอากาศบริสุทธิ์เข้าปอด ขณะทอดสายตามองหาดทรายขาวสะอาดตาและผืนน้ำสีเขียวครามที่กว้างใหญ่ พลางถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง
ถึงแม้ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นจะไม่ได้เกิดจากความตั้งใจของหล่อน หากแต่เป็นเพราะถูกคนรักลวงหลอก แต่จะให้ทำเช่นไร ในเมื่อไม่สามารถแก้ไขหรือเรียกร้องสิ่งที่สูญเสียไปกลับคืนมาได้ จึงได้แต่คิดไปว่าคงจะเป็นชะตาฟ้าลิขิตให้ต้องเผชิญกับสิ่งที่เป็นอยู่
แม้จะเจ็บปวดลึกๆ ภายในใจที่ชายคนรักทรยศหักหลัง แต่หล่อนก็แกร่งพอที่จะเชิดหน้ายอมรับและยินดีที่จะเผชิญกับมัน แม้ไม่รู้ว่าอนาคตข้างหน้าจะเป็นเช่นไร แต่หล่อนจะไม่มีวันเสียน้ำตาให้กับผู้ชายชั่วๆ ที่ไม่เห็นคุณค่าในความรักที่มอบให้อีก
สองเท้าเปลือยเปล่าขยับจากระเบียงกว้างก้าวลงมาตามขั้นบันไดหิน สัมผัสผืนทรายละเอียดก่อนจะเดินเลียบไปตามชายหาด ทอดสายตามองหมู่นกผกผินเหนือพื้นน้ำอยู่ครู่หนึ่ง ก็ทรุดตัวลงนั่งหลับตาพริ้มสูดกลิ่นอายทะเลเข้าปอด ไม่แปลกใจเลยสักนิดว่าทำไมดีแลนด์ถึงตัดสินใจซื้อเกาะนี้ เพราะแค่ได้เห็นก็หลงใหลและนึกรักที่นี่ขึ้นมาในทันที
พิมพ์ลดาปล่อยใจล่องลอยไปกับสายลมเย็นที่พัดพากลิ่นไอทะเลมาเป็นระลอก เส้นผมยาวสลวยพลิ้วสยาย ขณะนั่งฟังเสียงคลื่นกระทบฝั่งลูกแล้วลูกเล่า ราวกับต้องการให้มันชำระล้างความเจ็บปวดที่อยู่ในใจลึกๆ ลืมตาขึ้นอีกครั้งก็เห็นบางสิ่งบางอย่างดำผุดดำว่ายอยู่ในระยะสายตา เพ่งมองอยู่ครู่หนึ่งก็ขยับตัวลุกขึ้น เมื่อเห็นว่าร่างสมบุรุษในกางเกงว่ายน้ำตัวสั้นแนบลำตัวเดินขึ้นมาจากท้องทะเลกว้าง
“เล่นน้ำด้วยกันไหม”
พิมพ์ลดาหลุบสายตาลงต่ำ ก้มหน้างุดไม่กล้ามองคนตรงหน้า สั่นหน้าน้อยๆ แล้วรีบหมุนตัวกลับ รู้สึกร้อนผ่าวไปทั้งหน้า เมื่อเห็นร่างกึ่งเปลือยของชายหนุ่ม ขยับตัวจะกลับห้องพัก แต่อีกฝ่ายก็รั้งมือเรียวไว้ก่อนจะดึงเข้ามาประชิดแล้วโน้มหน้าลงกระซิบถามข้างหู
“จะไปไหน อายเหรอ”
“เปล่า แต่จะกลับห้องแล้ว” พิมพ์ลดาหน้าแดง พยายามบังคับเสียงไม่ให้สั่น ดันตัวออกห่างจากชายหนุ่ม โดยเว้นระยะห่างแต่พอสมควร ทำให้อีกฝ่ายที่ยืนหรี่ตามอง เอื้อมมือมาเชยคางมนพลางเอ่ยกระเซ้าออกไป
“ไม่จริงมั้ง หน้าคุณมันฟ้องว่าอายมาก”
“ก็บอกว่าไม่ได้อายยังไงเล่า” หญิงสาวปัดมือหนาออก กระชากเสียงตอบคนรู้ทัน ทำท่าจะเดินกลับห้อง แต่ก็ต้องชะงักเมื่อถูกท้าทาย
“ถ้าอย่างงั้นก็พิสูจน์สิ”
พิมพ์ลดาหันหน้ากลับมามองชายหนุ่มก่อนจะปรายตามองท้องน้ำกว้างใหญ่ ชั่งใจอยู่ครู่หนึ่ง แต่เมื่อเห็นคนตรงหน้ายิ้มเยาะ ก็ตัดสินใจก้าวไปที่ริมหาด แต่ทว่าสองเท้าเปลือยเปล่ายังไม่ทันจะสัมผัสน้ำเสียด้วยซ้ำ ร่างทั้งร่างก็ลอยละลิ่ว เมื่อคนที่ก้าวตามหลังนั้นจับหล่อนยกขึ้นบ่า
“ทำอะไรน่ะ! ปล่อยฉันนะ! ปล่อยฉันลงเดี๋ยวนี้!”
ดีแลนด์ไม่สนใจเสียด้วยซ้ำว่าคนในอ้อมแขนจะเอะอะโวยวายหรือทุบตีเขาเป็นพัลวัน ก้าวลงน้ำได้ก็เดินลิ่วๆ พาออกห่างจากชายฝั่งมาถึงระดับน้ำที่หล่อนยืนไม่ถึงจึงปล่อยลง
“อีตาบ้า! ปล่อยฉันลงทำไมเนี่ย คิดจะแกล้งกันใช่ไหม”
พิมพ์ลดาโวยเสียงลั่น จากผลักไสเวลานี้กลับโอบกอดกายแกร่งแน่ หล่อนว่ายน้ำไม่แข็งนัก จึงเกรงว่าคลื่นลมแรงที่เข้ามาปะทะตัวจะพัดพาให้จมหายไปในทะเลกว้าง ทำให้คนที่พาลงมาถึงกับยิ้มกริ่ม ฉวยโอกาสนั้นกอดตอบ ก่อนจะโน้มหน้าลงหากำไรจากคนที่อยู่ในอ้อมแขน
“แกล้งที่ไหนกัน จะพามาเล่นน้ำต่างหาก แต่ถ้ากลัวจะกอดผมแน่นๆ ก็ได้นะ ผมเต็มใจ”
ใบหน้ายียวนกับคำพูดกวนๆ ของคนตรงหน้า ทำให้หญิงสาวต้องตวัดสายตาค้อน นึกบริภาษคนเจ้าเล่ห์ในใจ อยากจะผลักไสออกไปให้ไกลห่าง แต่ใจก็กลัวเกินกว่าที่จะทำอย่างนั้น จึงจำต้องปล่อยให้เขากระทำตามแต่ใจปรารถนา ซึ่งดูเหมือนว่าน่านน้ำสีครามจะเป็นใจกับเจ้าของอยู่ไม่น้อย
ระลอกคลื่นที่ซัดสาดมาแต่ละครั้ง นอกจากจะไม่มีทีท่าว่าจะหยุดยั้งยังทวีความรุนแรงขึ้น ยิ่งคลื่นแรงมากเท่าไหร่ กายสาวก็ยิ่งเบียดชิด เร้าอารมณ์ฝ่ายตรงข้ามให้โหมกระพือขึ้นตามลำดับ ฝ่ามือร้อนๆ ที่ไล้ไปทั่วร่างบางเริ่มซุกซนแทรกซอนผ่านเนื้อผ้าเข้าไปสัมผัสผิวเนื้อเนียนละเอียด หยอกเย้าเคล้าคลึงก่อนจะปัดผ่านอย่างมีชั้นเชิง จนหญิงสาวต้องหลุดเสียงครางออกมาอย่างไม่รู้ตัว
“แต่งงานกับผมนะเบบี๋ แล้วผมจะทำให้คุณมีความสุขมากกว่าผู้หญิงทุกคนบนโลกนี้”
น้ำเสียงทุ้มนุ่ม กระซิบเสียงพร่าชิดใบหู พลางลากไล้ฝ่ามือหนาจากเรียวขาหายเข้าไปในร่มผ้า สอนคนในอ้อมแขนให้รู้จักกับสัมผัสเสน่หา จนร่างบางหอบหายใจจนอกสะท้อน สั่นเทิ้มไปทั้งตัว หัวสมองมีแต่ความว่างเปล่า หลับตาพริ้มตอบรับเขาราวกับอยู่ในห้วงฝัน ก่อนจะครางลึกออกมาอย่างสุขล้ำไปกับบทเรียนรักเร่าร้อนบทใหม่ที่ชายหนุ่มมอบให้...
เสียงโมบายกังวานก้องกับเสียงคลื่นซัดสาดที่นอกหน้าต่าง ปลุกให้พิมพ์ลดาลืมตาตื่นขึ้นในเช้าวันใหม่ ขยับตัวลุกขึ้นนั่งได้ก็ชำเลืองมองไปด้านข้าง นึกแปลกใจอยู่ไม่น้อยที่พบแต่ความว่างเปล่า แต่เมื่อไล้มือไปบนผ้าปูที่นอนข้างตัวแล้วสัมผัสได้ถึงความเย็นของผืนผ้า ก็รับรู้ได้ทันทีว่าเมื่อค่ำคืนที่ผ่านมาดีแลนด์ไม่ได้กลับมานอนที่ห้อง
เขาไปไหน?
ทำอะไร? ทำไมถึงไม่กลับมานอนที่ห้อง...
“สบายใจได้ค่ะ คุณผู้ชายไม่เคยพาผู้หญิงคนไหนมาที่นี่หรอกค่ะ ถึงท่านจะดูเหมือนหนุ่มเจ้าสำราญ แต่ความจริงแล้วระวังตัวในเรื่องนี้มากนะคะ”
พิมพ์ลดานึกถึงคำพูดของแม่บ้านประจำคฤหาสน์ ที่เคยบอกเล่าถึงอุปนิสัยชายหนุ่มให้ฟัง ทำให้หล่อนอดที่จะนึกค่อนในใจขึ้นมาไม่ได้
เชอะ! ไม่เคยพาผู้หญิงคนไหนมาที่นี่ งั้นที่หายไปนี่ ก็คงจะออกไปหากันล่ะสิท่า
คนหื่นกามแบบนั้น มองยังไงก็เพลย์บอยตัวพ่อชัดๆ!
*************************************
เสน่หาภรรยาครึ่งปี By กันต์ระพี วางจำหน่ายนรูปแบบ e-book แล้วนะคะ
อ่านงานเขียนเรื่องนี้ก่อนใครได้ที่...
http://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NjoiNTE5MzI4IjtzOjc6ImJvb2tfaWQiO3M6NToiMTQ3MTQiO30

เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 16 ก.ค. 2557, 10:31:09 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 26 ก.ค. 2557, 10:35:50 น.
จำนวนการเข้าชม : 1821
<< ตัวอย่างเนื้อเรื่อง | ตัวอย่างเนื้อเรื่อง >> |

นักอ่านเหนียวหนึบ 16 ก.ค. 2557, 12:22:53 น.
แหนะๆๆๆ หึงเค้าละเซะ!!!
แหนะๆๆๆ หึงเค้าละเซะ!!!