{{{ จันทร์ผลาญใจ }}}
แสงจันทร์ดูนุ่มนวลละมุนตากว่าแสงอาทิตย์
แต่หากเผลอแม้เพียงนิด อาจผลาญใจได้ไม่ต่างจากฤทธิ์ดวงตะวัน



Tags: รักแรกแค้น, บุลินทร, คามิน, อุรัสยา, สวิช, นิษฐา, ภัคพล, กนกนัดดา, วีรปรียา, ลลิต, ปราบ, สารภี

ตอน: บทที่ 6 ผู้หญิงของคามิน [2]

‘ผมคุยไม่เกินหนึ่งนาที’ พูดจบปลายสายก็กดรับพอดี คามินจึงไม่เสียเวลา รีบคุยกับอ้อมดาวให้ชัดเจน ‘อ้อม คุณมีธุระอะไรหรือเปล่า’

อุรัสยาไม่ได้อยากอยู่ฟัง แต่ในเมื่อชายหนุ่มไม่ยอมให้เธอเป็นอิสระ จึงจำต้องยืนอยู่ตรงนั้นอย่างไม่มีทางเลือก

‘อ้อมครับ เราคงกลับไปเริ่มต้นใหม่ในฐานะคนรักไม่ได้แล้ว’ คามินเอ่ยอย่างใจเย็น แล้วเงียบฟังเสียงจากปลายสาย ‘ใช่ ผมกำลังจะมีคนรักใหม่ แล้วตอนนี้ผมก็อยู่ในช่วงเคลียร์ตัวเอง เพื่อทำให้เธอเชื่อมั่นในตัวผมมากที่สุด ไม่อยากให้มีเรื่องทำให้เธอไม่สบายใจ ส่วนเรื่องของเราจบไปแล้ว ต่างคนต่างเดินบนเส้นทางของตัวเองนะครับ’

แม้อุรัสยาจะไม่ได้ยินเสียงแม่สาวอ้อมดาว แต่ก็พอเดาได้ว่าปลายสายกำลังงอนง้อขอคืนดีกับคามิน หลังฟังการสนทนาที่ผ่านไปไม่นาน เธอก็เห็นข้อดีในตัวชายหนุ่มที่พูดคุยโดยไม่ใช้อารมณ์กับอดีตคนรัก ถึงเขาจะดูเจ้าชู้ แต่อย่างน้อยก็มีความเป็นสุภาพบุรุษอยู่บ้าง

‘เรายังเป็นเพื่อนกันได้เสมออ้อม ถ้าคุณต้องการ’ คามินบอกอย่างจริงใจ ‘ผมเชื่อว่าคุณจะเจอคนที่เหมาะกับคุณ’ ชายหนุ่มคุยต่ออีกสองสามประโยคแล้วจึงวางสาย

อุรัสยาเอ่ยขึ้นทันทีหลังรอจังหวะมาพักหนึ่ง ‘คุยจบแล้วก็ปล่อยฉันสักที’

‘ได้ครับ’ ชายหนุ่มยิ้มกว้างและสบนัยน์ตาเรียวยาว ‘ผมก็แค่อยากให้คุณรู้ว่าตอนนี้ผมไม่มีพันธะ’

‘ไม่เห็นจำเป็นเลยค่ะ เพราะฉันรู้แล้วก็ไม่เกิดอะไรขึ้นมา’ หญิงสาวแกล้งไม่เข้าใจจุดประสงค์ทั้งที่เขาแสดงออกอย่างชัดเจน

‘สำหรับคุณอาจไม่ได้เกิดอะไร แต่แค่คุณได้รู้ สำหรับผมก็ถือว่ามีอะไรเกิดขึ้นแล้ว’ คามินบอกด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล เป็นความรู้สึกที่มาจากใจอย่างแท้จริง

เขารู้ดีว่าเวลานี้กำแพงอคติของอุรัสยาสูงและแข็งแกร่งนัก แต่เขาจะค่อยๆทลายกำแพงนั้นลงให้ได้โดยใช้ความจริงใจทั้งหมดที่มี

‘ฉันขอไปทำงานก่อนนะ แล้วช่วยเงียบๆด้วย ฉันต้องการสมาธิ’ หญิงสาวกำชับ ก่อนจะเดินหนีเข้าไปในห้องตัดเย็บ รู้สึกสับสนในตัวเองอย่างยิ่ง ทั้งที่ใจต่อต้านเขาและตั้งปณิธานว่าจะไม่มีวันสนใจคนเจ้าชู้อย่างคามิน แต่พออยู่ใกล้ กลับมีบางอย่างทำให้หัวใจพานจะอ่อนคล้อยตามอย่างห้ามไม่อยู่

นี่เพิ่งเจอกันครั้งที่สี่เองนะ เธอกำลังจะหลงกลเขาใช่ไหม ไม่ได้นะอุรัสยา ต้องใจแข็งเข้าไว้ ข้างหน้าที่เธอก้าวเข้าไปหาคือเหวลึก อยากตกลงไปหรือไง การคบผู้ชายเจ้าชู้ ไม่มีวันที่ชีวิตคู่จะราบรื่นแน่ ตัวอย่างก็มีให้เห็นมานักต่อนัก ทั้งจากเพื่อนๆพี่ๆที่รู้จัก ข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์และโทรทัศน์ ไหนจะเรื่องที่เล่าผ่านกระทู้ในอินเทอร์เน็ต พวกเขาเหล่านั้นล้วนถูกพิษความเจ้าชู้ของคนรักเล่นงานจนเจ็บปางตาย ขนาดแต่งงานมีลูกด้วยกันแล้วยังมิวายมีปัญหานอกใจเลย ในเมื่อเธอรู้แล้วว่าอนาคตจะเป็นเช่นไรหากมีคู่ครองที่ไม่รักเดียวใจเดียว ทำไมจะต้องเลือกทางที่ทำให้หัวใจตรอมตรมด้วยล่ะ

‘ว่ากันว่าผู้ชายชอบเอาชนะผู้หญิงที่ทำท่าไม่ชอบตัวเอง แต่ถ้าคนคนนั้นไม่มีค่ากับเขามากจริงๆ เขาก็จะไม่อดทนนานหรอก’

คำพูดของรุจีลอยเข้ามาในหูอีกครั้ง เธอเชื่อว่าคามินจะกระตือรือร้นแค่ช่วงนี้เท่านั้นละ ถ้าเธอใจแข็งต่อไป เชื่อสิว่าเขาต้องหายไปแน่นอน

อุรัสยาปัดเรื่องคามินออกไปจากสมอง และคิดว่าควรรีบทำงานต่อ ดีกว่าเสียเวลาคิดเรื่องเขานานกว่านี้ หญิงสาวนั่งลงหน้าโต๊ะออกแบบเพื่อแก้ไขแบบชุด แต่ด้วยความที่มีคนแปลกหน้าอยู่ในร้าน ทำให้ไม่มีสมาธิเท่าที่ควร งานที่ควรจะคืบหน้าก็ไม่เป็นไปตามต้องการ

เธอหลับตาลงและสูดหายใจเข้าออกช้าๆ สม่ำเสมอเพื่อรวบรวมสมาธิ แต่สติก็แตกกระเจิงเมื่อเสียงเคาะประตูห้องดังขึ้น

‘คุณเอิง’ เสียงของคามินนั่นเอง

อุรัสยาลุกไปเปิดประตูและมองหน้าเขาแทนการถามว่า มีอะไร?

‘คุณเอิง ผมหนาว’ ชายหนุ่มยกมือขึ้นกอดตัวเอง

เธอขมวดคิ้วเรียวเข้าหากัน ได้ยินประโยคของเขาแล้วก็อดไม่ได้ที่จะนึกถึงซีรี่ส์เกาหลีซึ่งมีประโยคฮิตในเรื่องว่า…พี่ชาย ฉันหนาว

‘แล้วมาบอกฉันทำไมคะ’ อุรัสยาถามเสียงเรียบ

‘พอจะมีอะไรอุ่นๆให้ผมหายหนาวไหมครับ’ น้ำเสียงสุภาพนั้นออดอ้อนอยู่ในที ถ้าเป็นไปได้ เขาอยากได้อ้อมกอด แต่ก็รู้ว่าเธอคงไม่มอบให้ง่ายๆ

‘มีค่ะ ถ้าหนาวก็ไปชงกาแฟในครัวเองแล้วกัน เสร็จแล้วก็ไปนั่งอยู่ข้างนอกเงียบๆเลยนะ ฉันจะทำงาน’ เธอคว้าลูกบิดเพื่อจะปิดประตู แต่เขาก็เอามือขวางไว้

‘กำลังจะขอเข้ามาคุยด้วยในนี้พอดี นั่งอยู่ข้างนอกคนเดียวมันเหงา’

‘นี่คุณ อยู่คนเดียวไม่ถึงชั่วโมง แค่นี้ก็เหงาแล้วเหรอ ท่าทางจะมีผู้หญิงรายล้อมตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงสินะ’ อุรัสยาได้ทีค่อนแคะ

‘เมื่อก่อนใช่ แต่ช่วงนี้ผมไม่มีใครแล้วจริงๆ แล้วที่ผมเหงาก็เพราะคุณปล่อยให้อยู่คนเดียว’ ดวงตาคมมองมาอย่างวอนขอความเห็นใจ

‘เมื่อกี้บอกว่าหนาวไม่ใช่เหรอ รีบไปชงกาแฟสิคะ’ หญิงสาวตัดบท เพราะเห็นสายตาเช่นนั้นแล้วหายใจไม่ทั่วท้องเอาเสียเลย

‘ครับ คุณจะเอาสักแก้วไหม ผมชงเผื่อ’ คามินอาสาด้วยใจบริสุทธิ์

อุรัสยาสั่นศีรษะเบาๆ ‘ไม่เป็นไรค่ะ ขอบคุณมาก’

‘โอเคครับ’ เมื่อได้รับคำตอบแล้ว เขาจึงไม่เซ้าซี้ และหันหลังเดินไปยังครัวเล็กๆของร้านซึ่งอยู่ติดกับห้องน้ำ

ไม่นานหญิงสาวก็ได้กลิ่นกาแฟหอมกรุ่นลอดผ่านช่องว่างใต้ประตูเข้ามา ก่อนจะจางหายไป เพราะคามินไม่ได้มาเคาะประตูรบกวน แต่คงเดินเลยไปนั่งดื่มยังหน้าร้าน

‘พูดรู้เรื่องแบบนี้ค่อยยังชั่ว’ อุรัสยายิ้มสบายใจ

เธอพยายามรวบรวมสมาธิอีกครั้งเพื่อจะแก้ไขแบบเสื้อผ้า แต่ก็ไม่เป็นผล เพราะตราบใดที่คามินอยู่ในร้าน จิตใจก็ไม่สงบอยู่ดี สุดท้ายจึงเปลี่ยนไปตรวจเช็กลิ้นชักเก็บของตกแต่งเสื้อผ้าแทน เพราะไม่ต้องใช้สมาธิมาก ส่วนแบบเสื้อผ้าที่ต้องแก้ไขนั้น เธอจะเอากลับไปทำต่อที่บ้าน

กว่าฝนจะราเม็ดก็เป็นเวลาเกือบสามทุ่มครึ่ง และด้วยความที่เธออยู่ในห้องจึงไม่รู้จนคามินมาเคาะประตูบอกนั่นละ

‘ฝนหยุดนานหรือยัง’

‘เมื่อกี้นี่เองครับ’

อุรัสยาพยักหน้ารับรู้ ก่อนจะเก็บของเตรียมตัวกลับบ้าน หลังตรวจเช็กปลั๊กไฟและทุกอย่างในร้านเรียบร้อย เจ้าของร้านสาวก็สะพายกระเป๋าและถือถุงผ้าใส่อุปกรณ์ทำงานออกมาหน้าร้าน คามินที่รออยู่ลุกขึ้นจากเก้าอี้พลาสติกและรีบเดินเข้าไปรับอาสาถือถุงผ้าให้ซึ่งเธอก็ยอมให้เขาช่วยแต่โดยดี เมื่อหญิงสาวปิดไฟหน้าร้านครบทุกดวงจึงออกจากร้านพร้อมกัน

‘ขอบคุณมากนะครับที่ให้ผมหลบฝน’ ชายหนุ่มบอกอย่างซาบซึ้ง ความชุ่มฉ่ำในหัวใจยามนี้ไม่รู้ว่าเป็นเพราะไอเย็นของอากาศหลังฝนตกที่พัดมากระทบกายหรือเพราะน้ำใจของคนตรงหน้ากันแน่

‘ไม่เป็นไรค่ะ’ น้ำเสียงของเธอเรียบเรื่อย ‘ขอตัวกลับบ้านนะคะ’ เธอยื่นไปรับของที่ฝากเขาถือ

‘เดี๋ยวผมไปส่งที่รถ’

‘รถฉันจอดอยู่แค่นี้’ อุรัสยาหันไปมองรถซีดานสีขาวที่อยู่ห่างจากจุดที่เธอและเขายืนอยู่ไม่ถึงห้าก้าว

‘ก็ได้ครับ แล้วเจอกันใหม่’ รอยยิ้มสดใสระบายอยู่บนใบหน้าคม ขณะยื่นถุงผ้าคืนให้

อุรัสยาเหลือบหางตามองคนพูดเล็กน้อย ‘จะมีครั้งต่อไปอีกเหรอ’

‘แน่นอนครับ จนกว่าคุณจะยอมเปิดใจ’ ดวงตาสีเข้มฉายแววมั่นคง

หญิงสาวรับถุงใส่อุปกรณ์ทำงานกลับมา ‘บางทีคุณอาจแค่อยากเอาชนะฉัน ถ้าเป็นอย่างนั้น อย่าทำเลยค่ะ เพราะเสียเวลากันทั้งสองฝ่าย’ หญิงสาวตัดสินใจบอกตามตรง แล้วที่เธอพยายามวิ่งหนีก็ไม่ใช่เพื่อให้เขาตามมาเอาชนะด้วย แต่เพราะไม่อยากคบหาผู้ชายเจ้าชู้จริงๆ

‘ผมไม่เคยคิดว่าถ้าเอาชนะคุณได้แล้วผมจะสะใจ แต่เพราะความประทับใจตอนพบกันครั้งแรก ทำให้ผมอยากรู้จักคุณให้ลึกซึ้งกว่านี้ และอยากให้คุณรู้จักตัวตนของผมเหมือนกัน’ เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงสบายๆ ‘ผมไม่ได้บังคับให้คุณชอบผม แต่ขอแค่ให้โอกาส ก่อนที่คุณจะตัดสินใจ ถึงสุดท้ายผมจะไม่สมหวัง ผมก็คงไม่เสียใจ…ถ้าได้รับโอกาสแล้ว’

‘คุณประทับใจอะไรฉัน?’ จู่ๆอุรัสยาก็อยากรู้ขึ้นมา

‘แน่นอน ความสวยของคุณ’ คามินตอบอย่างตรงไปตรงมา

‘ผู้หญิงสวยหาไม่ยากหรอกค่ะ’

‘ผมไม่ได้มองหาแค่ความสวย แต่มองหาคนที่จะมาเป็นแม่ที่ดีของลูก’ คำพูดที่ตรงและชัดเจนทำให้หัวใจคนฟังสั่นไหวผิดจังหวะได้อีกครา

อุรัสยาไม่เข้าใจตัวเองว่าทำไมต้องหวั่นไหวไปกับน้ำเสียงและสายตาของเขา แม้พยายามฝืนสุดความสามารถ แต่ก็ห้ามไม่อยู่ อาจเป็นเพราะมันดูมั่นคงและจริงใจเหลือเกิน แต่เธอก็ไม่อยากเชื่อว่าจะเป็นความรู้สึกที่แท้จริงจากใจเขา เพราะคามินอาจใช้คารมล่อหลอกผู้หญิงมามากมายจนเชี่ยวชาญถึงขั้นจับผิดไม่ได้ ‘ฉันชักจะเสียเวลามากไปแล้ว ขอตัวละค่ะ’ เธอจบบทสนทนาและเดินไปขึ้นรถทันที

คามินเองก็ไม่รั้งหญิงสาวไว้อีก เพราะวันนี้พอใจแล้วที่ได้แสดงความจริงใจให้เธอเห็น เขาเดินไปขึ้นคร่อมดูคาติสีแดงดำและสตาร์ท แต่ยังไม่บิดออกจากหน้าร้าน เพราะจะรอให้อุรัสยาออกไปก่อน

เธอขึ้นรถไปพักหนึ่งแล้ว ทว่ายังไม่ยอมติดเครื่องเสียที เห็นดังนั้นเขาก็เริ่มแน่ใจว่าต้องมีปัญหาแน่ จึงลงจากรถมอเตอร์ไซค์และเดินไปหาหญิงสาวข้างกระจกฝั่งคนขับ

‘รถเป็นอะไรครับ’ คามินเคาะกระจกเบาๆเมื่ออีกฝ่ายไม่ยอมเปิด

อุรัสยากดกระจกรถลง ‘รถสตาร์ทไม่ติดค่ะ คุณพอจะช่วยดูได้ไหม’

ชายหนุ่มพยักหน้า ‘เปิดกระโปรงหน่อยครับ’

‘ค่ะ’ หญิงสาวพูดพร้อมเอื้อมมือไปกดปุ่มเปิดกระโปรงรถให้เขาดูห้องเครื่องให้ ก่อนจะลงไปยืนดูด้วย

มือหนาเอื้อมไปจับนู่นเคาะนั่นขยับนี่อย่างคล่องแคล่ว อุรัสยายืนดูอย่างจดจ่อแต่ก็ได้แค่ดู เพราะไม่รู้อยู่ดีว่าเครื่องยนต์ส่วนไหนเป็นส่วนไหน ปกติหากรถเป็นอะไรก็พึ่งพาอู่ซ่อมรถตลอด แต่ครั้งนี้คนที่อยู่ใกล้ที่สุดและน่าจะพอช่วยเหลือได้คือคามิน เธอจึงจำเป็นต้องขอร้องเขาอย่างไม่มีทางเลือก เพราะหากรอช่างก็คงต้องใช้เวลาอีกสักพัก

ถ้าคามินทำให้รถสตาร์ทติดได้ก็ถือว่าโชคดีไป แต่ถ้าไม่ เธอก็คงต้องหอบงานกลับเข้าไปทำในร้านต่อเพื่อรอช่างมาดูรถ ซึ่งแน่นอนว่าเธอยอมเสี่ยงให้คามินช่วยดูก่อนดีกว่าเพื่อประหยัดเวลา

‘ลองสตาร์ทอีกทีได้ไหมครับ’ ชายหนุ่มหันมาบอก

‘ค่ะ’ อุรัสยาเดินไปขึ้นนั่งฝั่งคนขับ ภาวนาอย่างยิ่งยวดขอให้สตาร์ทรถสำเร็จ เธอจะได้กลับบ้านเสียที

และดวงตาเรียวยาวก็เป็นประกายยินดีเมื่อบิดกุญแจไปทางขวาแล้วเสียงเครื่องยนต์กระหึ่มขึ้น ในที่สุดเธอก็สตาร์ทรถติด!

อุรัสยาลงจากรถเพื่อจะไปขอบคุณคามินที่ช่วยเหลือ เป็นจังหวะเดียวกับที่ฝ่ายนั้นเดินมาหาเธอที่ข้างประตู

‘น่าจะเป็นเพราะขั้วแบตหลวมครับ เมื่อกี้ผมขยับให้แล้ว แต่ยังไงคุณก็ต้องเอารถไปเช็กให้ละเอียดอีกทีนะครับ เพราะถ้ารถเกิดดับในที่เปลี่ยวแล้วสตาร์ทไม่ติดจะเป็นอันตรายได้’ ชายหนุ่มกำชับด้วยความห่วงใย หากเธอเป็นอะไรไป เขาคงเจ็บปวดเสียใจไม่น้อย

‘ขอบคุณมากๆนะคะ’ อุรัสยายอมรับว่านี่เป็นครั้งแรกที่เธอเอ่ยจากใจ ไม่ได้มีเลศนัยจิกกัดในคำพูดเหมือนกับหลายครั้งที่ผ่านมา

‘ยินดีครับ แต่ว่าเพื่อความปลอดภัย วันนี้ผมจะขี่รถตามไปส่งคุณที่บ้าน ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นระหว่างทางจะได้ช่วย หรือทางที่ดีกว่านี้ก็คือ…ไปกับผม’ คามินเสนอทางเลือกและอาสาเป็นผู้อารักขาด้วยความเต็มใจยิ่ง

‘อ้าว แล้วรถฉันล่ะ’

‘ทิ้งไว้ที่นี่ พรุ่งนี้เรียกช่างมาเช็กก่อนว่าไม่มีปัญหาแล้วจริงๆ คุณค่อยกลับมาใช้รถ ตกลงไปกับผมก่อนนะ’ ชายหนุ่มเลิกคิ้วขึ้นรอฟังคำตอบ

‘ให้ซ้อนท้ายคุณนี่นะ ไม่เอาด้วยหรอก’ อุรัสยาปฏิเสธโดยไม่ยอมเสียเวลาไตร่ตรอง

‘งั้นก็ให้ผมขี่รถตามไปส่ง’ คามินสรุป

‘ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากเปล่าๆ แล้วถ้ารถเกิดดับกลางทางจริงๆ ฉันก็หาวิธีช่วยเหลือตัวเองได้ ไม่ต้องห่วง’ เธอไม่อยากรบกวนเขาขนาดนั้น

‘ถ้าคุณต้องการอย่างนั้นก็ได้ครับ แต่คุณอาจจะต้องให้เบอร์โทร.ผมไว้ ผมจะได้โทร.เช็กว่าคุณถึงบ้านหรือยัง’ ชายหนุ่มยื่นข้อแม้ที่คิดว่าหญิงสาวคงไม่ยอมทำตามแน่ๆ แล้วก็เป็นดังคาด

อุรัสยาถอนหายใจอย่างยอมแพ้ ‘โอเค คุณจะขับรถตามไปส่งก็ได้’ เรื่องอะไรจะยอมให้เบอร์โทร.ง่ายๆล่ะ อยากไปส่งนักก็ตามใจ เพราะเอาเข้าจริงเธอก็ไม่ได้เดือดร้อน แค่ขับรถไปตามปกติ ไม่ต้องสนใจเขาก็พอ ขอแค่อย่ามาทวงบุญคุณทีหลังแล้วกัน เพราะเขาเสนอตัวเองโดยที่เธอไม่ได้เรียกร้องเลยสักนิด

‘ครับ งั้นไปกันเลย’ คามินยิ้มสดใส ก่อนเดินกลับมายังดูคาติคู่ใจด้วยดวงตาพราวประกาย หญิงสาวคงไม่รู้ว่าเขารู้ทั้งที่อยู่บ้านและเบอร์โทร.ของเธอตั้งนานแล้ว เพียงแต่ยังไม่เคยไปหาที่บ้านหรือโทร.คุยสักที

อุรัสยาถอยรถซีดานสีขาวออกจากหน้าร้านเสื้อผ้าไปยังถนนสายเล็ก หันหัวรถไปยังปากซอยเพื่อมุ่งสู่ถนนเส้นใหญ่ เมื่อคามินสวมหมวกกันน็อคและพยักหน้าว่าพร้อม เธอจึงเหยียบคันเร่งออกตัวโดยมีชายหนุ่มขี่ดูคาติตามมาห่างๆ

ทั้งที่ตอนแรกบอกว่าไม่เป็นไร แต่พอมีคามินตามหลังมากลับทำให้อุ่นใจอย่างประหลาด เพราะเธอเองก็ไม่มั่นใจว่ารถจะไปถึงบ้านตลอดรอดฝั่งโดยไม่ดับกลางทางหรือเปล่า

การจราจรหลังฝนตกในย่านกลางเมืองอย่างเอกมัยติดขัดโดยไม่ต้องคาดเดา แม้เวลาล่วงเลยมาจนเกือบสี่ทุ่ม รถราก็ไม่มีทีท่าว่าจะเบาบางลง แต่อุรัสยาก็ชินเสียแล้วและต้องยอมรับสภาพ เพราะอารมณ์เสียไป รถก็ไม่หายติด แถมยังจะทำให้ตัวเองเสียสุขภาพจิตเปล่าๆ ดังนั้นเธอจึงมักมีกิจกรรมทำระหว่างรอรถเคลื่อนตัวหลายอย่างไม่ว่าจะเป็นเล่นเกมผ่อนคลายในโทรศัพท์ ถ่ายภาพตัวเองแล้วอัพขึ้นอินสตาแกรม อัพเดทข่าวในเฟซบุ๊ก อ่านหนังสือ และอื่นๆซึ่งช่วยฆ่าเวลาได้เป็นอย่างดี

เวลาที่รถจอดแช่แบบนี้มักมีมอเตอร์ไซค์ซอกแซกมาตามช่องว่างระหว่างรถขึ้นไปด้านหน้าสุด เพื่อจะได้ออกตัวก่อนเมื่อสัญญาณไฟแดงเปลี่ยนเป็นเขียว และช่วงนี้ละที่มอเตอร์ไซค์พวกนั้นอาจชนกระจกมองข้างรถเธอเสียหายได้

ดังนั้นระหว่างทำกิจกรรมฆ่าเวลา จึงต้องคอยระแวดระวังไปด้วย หากดูแล้วมอเตอร์ไซค์ท่าทางจะแทรกผ่านช่องแคบๆไม่ได้ก็ต้องพับกระจกมองข้างเก็บเข้ามาเพื่อความปลอดภัย เนื่องจากเคยมีประสบการณ์โดนสอยกระจกแตกมาแล้วสามครั้ง

ดวงตาเรียวยาวใต้แพขนตางอนหนาเป็นประกายพริบพราวอย่างนึกบางอย่างขึ้นได้ เหตุผลที่คามินเลือกขี่มอเตอร์ไซค์ในวันทำงาน น่าจะเป็นเพราะเดินทางได้รวดเร็วกว่ารถยนต์ที่มักจะติดขัดเป็นระยะแน่ๆ ครั้งที่เธอเจอเขาในวัดนั้นเป็นวันเสาร์ เขาจึงสลับไปใช้รถยนต์แทน เพราะรถราไม่คับคั่งเท่า ส่วนวันที่เจอกันในห้างเป็นวันหยุดเช่นกัน แต่เธอก็ไม่แน่ใจว่าเขามายังไง

เอ๊ะ แล้วนี่จะมาคิดหาเหตุผลในการใช้รถของคามินไปทำไมกันนะ เขาจะขับจะขี่อะไรก็ไม่ได้เกี่ยวกับเธอสักหน่อย อุรัสยาสลัดศีรษะเบาๆเพื่อขับไล่เรื่องของชายหนุ่มออกจากสมอง

แต่พอนึกถึงไม่ทันไร คามินก็ขับดูคาติสีแดงดำขึ้นมาจอดข้างๆรถเธอพอดี เขาโบกมือให้ ทว่าใบหน้าคมถูกบดบังด้วยหมวกกันน็อคใบหนาทำให้ไม่เห็นว่าเจ้าตัวยิ้มหรือมีสีหน้าอย่างไร

อุรัสยาไม่ได้โบกมือตอบ แต่ถอนหายใจเบาๆกับตัวเอง

เพื่อเอาชนะเธอ เขายอมลงทุนมากขนาดนี้เลยหรือ ถ้าเธอเป็นผู้ชาย คงไม่ไปส่งใครถึงบ้านหากอีกฝ่ายไม่มีความสำคัญกับหัวใจ แต่ก็ไม่รู้ว่าการที่ผู้ชายแบบคามินทำเช่นนี้ด้วยเหตุผลเดียวกันหรือเปล่า เธอเดาไม่ออกเลยจริงๆ

แล้วคำพูดที่เขาบอกเธอในวันนี้ก็ลอยเข้ามาในหูอีกครั้ง ทุกถ้อยคำล้วนแสดงถึงความจริงใจและห่วงใย

เขาอยากจะหยุดที่เธองั้นหรือ เธอจะแน่ใจได้อย่างไรล่ะว่าในน้ำใสๆจากใจจริงของเขาไม่มียาพิษเจืออยู่ หากเผลอดื่มเข้าไปอาจกระอักตายด้วยฤทธิ์ร้ายที่แฝงเร้นอยู่ก็ได้ เพราะฉะนั้นระแวดระวังไว้ก่อนก็ไม่เสียหลาย ถ้าเขารักเธออย่างแท้จริงก็ไม่น่าจะถอดใจถอยทัพกลับไปง่ายๆ

เมื่อสัญญาณไฟจราจรเปลี่ยนเป็นสีเขียว อุรัสยาก็ปรับกระจกมองข้างคืนตำแหน่งเดิมโดยไว รถแต่ละคันต่างพุ่งทะยานไปข้างหน้า เพราะกลัวจะติดไฟแดงอีกครั้ง ระหว่างนี้จะมีเสียงบีบแตรดังแปร๊นๆขึ้นหลายครั้ง เนื่องจากหากรถคันใดออกตัวช้า ทำท่าเงอะๆงะๆก็จะถูกคันหลังบีบเร่งอย่างหัวเสีย

อุรัสยาเหยียบคันเร่งโดยไม่สนใจว่าคามินจะตามทันหรือไม่ เพราะไม่อยากโดนบีบแตรไล่ เมื่อข้ามสี่แยกมาได้ค่อยลดความเร็วลงและเข้าเลนซ้ายเพื่อให้รถที่ขับเร็วแซงไปก่อน มือบางจับพวงมาลัยมั่นคง ขณะที่ตาเหลือบมองกระจกมองหลังแล้วก็อ้าปากค้างด้วยความทึ่งเล็กๆ

เขายังขับรถตามมาไม่ใกล้ แต่ก็ไม่ห่าง เรียกว่ายังอยู่ในระยะการมองเห็นของกันและกัน

ท่าทางนายนั่นจะเป็นนักบิดมหาหาฬ เพราะถ้าเป็นมือสมัครเล่น คงคลาดกันไปนานแล้ว เห็นแบบนี้แล้วอุรัสยาก็แน่ใจว่าเขาขี่มอเตอร์ไซค์เป็นปกติอยู่แล้ว ไม่ได้ขี่มาโชว์เพื่อให้เธอประทับใจในความสมถะแต่อย่างใด

ในที่สุดคามินก็ตามมาส่งเธอจนถึงหน้าบ้านย่านเพลินจิตจริงๆ เมื่อจอดดูคาติสีแดงดำแล้ว เขาก็ถอดหมวกกันน็อคออกพร้อมกับยิ้มและขยิบตาให้

อุรัสยาไม่อยากจะชักสีหน้ากลับ เพราะเขาอุตส่าห์มาส่งขนาดนี้ แต่ด้วยความหมั่นไส้จึงไม่ยิ้มตอบ เพียงทำหน้าเรียบเฉยและขับรถเข้าไปในบ้านเมื่อประตูอัลลอยสูงใหญ่เลื่อนเปิด

ขณะที่รถเคลื่อนตัวสู่คฤหาสน์กังวารธนะเสรีหลังใหญ่เบื้องหน้านั้นเอง หญิงสาวก็ตัดสินใจบางอย่างได้



บุลินทร
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 28 ก.ค. 2557, 15:53:46 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 28 ก.ค. 2557, 15:53:46 น.

จำนวนการเข้าชม : 1499





<< บทที่ 6 ผู้หญิงของคามิน [1]   บทที่ 7 บทเพลงแทนความรู้สึก >>
บุลินทร 28 ก.ค. 2557, 16:01:40 น.
คุณ ดังปัณณ์
จ๊าก มาแบบโหยหวนมากจริงๆ ฮ่าๆๆๆๆๆ แสดงว่าคนอ่านเริ่มให้คะแนนคามี่แล้วนะเนี่ย งั้นให้ภัคจี้หลบไปอีกนิดก่อน ปล่อยให้คามี่ทำคะแนนต่อปายยย โหมดดราม่าจะสงสารใครดีต้องรอลุ้นกันนน

คุณ พันธุ์แตงกวา
ทำไมฉากนี้ดูเรทติ้งดีจัง ฮ่าๆๆ

น้อง ยิ้มยิ้ม
อะไรจะคุยเร็วขนาดน้านน้องยิ้มยิ้ม สามสิบวินี่นะ หนึ่งนาทีว่าเร็วแล้ว

คุณ Liez
ตอนที่แล้วคามินได้คะแนนเยอะเลยนะนี่ ฮ่าๆๆ

คุณ lovemuay
อุตส่าห์เคลียร์แล้ว เอิงจะเห็นความดีมั้ยต้องรอดูกันครับ

คุณ Zephyr
คะแนนมินนี่นำภัคแล้วใช่มั้ย หรือยังตามอยู่เนี่ย ฮ่าๆๆ ขับรถมาขนาดน้านก็ต้องเปียกทั้งตัวดิ อะไรนะ มีการจะให้ถอดกางเกงอีก เอาไว้เปียกคราวหน้าแล้วกัน อัคนิขี่หลังเท่านั้น เท่กว่าดูคาติตามินอีกนะเนี่ย

คุณ nittsmall
ฮ่าๆๆๆ พระเอกทั้งอ่อยทั้งเคลียร์ขนาดนี้แล้ว เอิงจะใจแข็งได้ถึงเมื่อไหร่มารอดูกันครับ


yimyum 28 ก.ค. 2557, 16:26:55 น.
ตัดสินใจไรได้อะ


yimyum 28 ก.ค. 2557, 16:28:27 น.
อ้าว ถ้าเพื่อนสนิทโทร.มา ย้ำนะคะว่าโทร.มา รับรอง ไม่ต่ำกว่า30นาที แต่ถ้าตัวเองโทรไปหาใครก็ได้นี่ รับรองไม่เกิน1นาที นานสุด40วินะคะ ^^


พันธุ์แตงกวา 28 ก.ค. 2557, 18:26:36 น.
ยังไงต่อล่ะนี่ อุรัสยาจะทำอะไรต่อ
แหม เข้าใจหาที่หลบฝนนะคามิน^^


ดังปัณณ์ 28 ก.ค. 2557, 18:31:58 น.
คามี่ มาแบบนี้หนูเอิงจะทนได้ซักกี่น้ำ ภัคจี้ คามี่นำลิ่วไปแล้ววววววววววววววว มากู้คะแนนเร้วววววววววววววววว จิทุ่มคะแนนให้คามี่สุดติ่งแล้วน้าาาาาาาาาาา


lovemuay 28 ก.ค. 2557, 21:24:56 น.
รอบนี้คามินทำคะแนนดีนะเนี่ย เชิญเข้าบ้านเลย คริคริ


Zephyr 29 ก.ค. 2557, 13:44:18 น.
ตัดสินใจอะรายยยยยยยยยยยยยยยยย มี่มาตัดยังงี้ได้ไง
เฟอร์ไม่ยอมนะ ไม่ยอมๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
มินนี่น่ารักจังเลยอ่าตอนนี้ ลืมภัคไว้ก่อน เอาเก็บใส่โหลชั่วคราว
มินนี่ทำคะแนนอีกๆๆๆๆๆ เฟอร์ชอบนะ ผู้ชายเจ้าชู้ ฮ่าๆๆๆ
แต่ มันต้องเป็นพระเอกนิยายเท่านั้นนะ ชีวิตจริงเหรอ ไม่เอาอ่ะ
ไม่อยากเอาผ้ารองซับน้ำตาบ่อยๆ ถึงมันจะรู้สึกดีก็เหอะ


nittsmall 1 ส.ค. 2557, 14:29:27 น.
แหม หนูเอิงให้นายหนึ่งขับตามไปส่งน่ากลัวกว่าให้เบอร์โทรอีกนะ เพราะฮีรู้จักบ้านเลยแน่ะ คราวนี้สลัดไม่หลุด เหอๆๆๆๆๆ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account