พ่ายพรหมลิขิต
พลับพลึงทำงานด้านสถาปัตย์ประจำอยู่ที่เชียงใหม่วันหนึ่งเธอได้รับมอบหมายงานให้ออกแบบบ้านพักของธนดลโดยไม่นึกไม่ฝันว่าวันหนึ่งเธอกลับต้องมารับบทเจ้าสาวของเขาเนื่องจากญาติผู้น้องซึ่งเป็นลูกสาวของป้าหนีออกจากบ้านก่อนวันแต่งงานหนึ่งวัน ด้วยเสียงขอร้องแกมบังคับของป้าและลุงทำให้พลับพลึงไม่สามารถปฏิเสธได้ เพราะหากเธอปฏิเสธป้าก็อ้างว่าหล่อนกับสามีจะต้องถูกอีกฝ่ายฟ้องจนถึงขั้นล้มละลาย เพราะนอกจากธนดลจะเป็นเจ้าบ่าวแล้วยังเป็นเจ้าหนี้อีกด้วย พลับพลึงจำยอมตกเป็นเจ้าสาวสำรองจนกว่าปิติและพิลาวรรณจะนำเงินมาชดใช้หนี้สินได้หมด และนั่นคือจุดเริ่มต้นของความวุ่นวายของคนสองคน....
Tags: รักหวานซึ้ง

ตอน: พ่ายพรหมลิขิต ตอนที่ 12

12

ธนดลมองลงไปหน้าบ้านเขาย่นคิ้วเล็กน้อยเมื่อเห็นรถที่ยกให้ภรรยาใช้แล่นเข้ามาจอดในโรงรถเร็วกว่าเมื่อวาน เมื่อวานกลับซะดึกวันนี้กลับกลับแต่หัววัน เขาลุกจากโต๊ะทำงานซึ่งมีกองเอกสารกองเต็มโต๊ะเดินออกไปนอกชาน หัวคิ้วคนช่างสังเกตย่นเข้าหากันมากกว่าเดิมเมื่อเห็นใบหน้าอ่อนเยาว์บึ้งตึงงอง้ำยิ่งกว่าม้าหมากรุก เขามองตามจากนอกชานจนพลับพลึงเดินเข้าห้องไปถึงได้กลับไปที่โต๊ะทำงาน แต่ยังไม่ทันได้ลงมือทำงานต่อแม่บ้านก็เดินเข้ามาพร้อมกับโทรศัพท์บ้านไร้สาย

“คุณดลคะโทรศัพท์ค่ะ”
“ใคร”

“คุณนายค่ะ”

ธนดลถอนหายใจแรงก่อนรับโทรศัพท์จากแม่บ้านแล้วพยักหน้าให้ออกไป
“ครับแม่”
“ดลหรือลูก เป็นไงบ้าง”

ชายหนุ่มแค่นยิ้ม เป็นไงบ้างของแม่คงอยากรู้ว่าเขาได้เข้าหอกับภรรยาหรือยัง
“ก็ดีครับ ได้งาน นี่ผมก็ว่าจะเข้าไปดูสาขาที่เชียงใหม่เหมือนกัน”
“งั้นหรือ แล้ว...”

“ถ้าแม่หมายถึงภรรยาของผมละก็ ไม่ต้องห่วงไปหรอกครับ”
ยิ่งนึกถึงผมสั้นซอยของสถาปนิกสาวก็ยิ่งทำให้ขัดใจ เธอมีอะไรที่ไม่ใช่สเปคเขาหลายอย่าง
“ได้ยินแบบนี้แม่ก็ดีใจ แม่ยิ่งกลัวแม่นั่นจะยั่วลูก”

ธนดลไม่ได้ตอบโต้ เขายังนิ่งฟังต่อว่าแม่จะมีเรื่องอะไรจะคุยต่อ
“แม่ได้ยินพ่อบอกว่าที่เชียงใหม่ค่อนข้างมีปัญหา อีกอย่างช่วงนี้ลูกก็ลาพักผ่อนด้วย แม่เลยคิดว่าลูกน่าจะมีเลขาฯ ซักคน”
ธนดลรู้สึกถึงความไม่ชอบมาพากลในถ้อยคำนั้นแต่ก็เดาไม่ออกว่าแม่จะมาไม้ไหน

“ผมก็มีเลขาฯ อยู่แล้วนี่ครับ”
เลขาฯ ของเขาคอยรายงานความเป็นไปอยู่ตลอดเวลาอยู่แล้ว
“อ้อ สายฝนนะหรือ แต่สายฝนอยู่กรุงเทพฯ จะใช้งานได้สะดวกได้ยังไง”

“ที่นี่ผมไม่ต้องมีเลขาฯ ก็ได้ครับ อีกอย่างผมมีคุณนพคอยช่วยงานอยู่แล้ว แม่ไม่ต้องห่วง ผมรู้นะว่าแม่คิดอะไรอยู่ แค่น้อยคนเดียวแม่ยังไม่ไว้ใจอีกหรือครับ”

ธนดลดักคออย่างรู้ทันมารดาว่ากำลังคิดทำอะไรอยู่ กะจะให้เลขาฯ มาประจำที่นี่เพื่อดูความเป็นไปของเขากับภรรยานะสิ
“ไม่ใช่แม่ไม่ไว้ใจเรานะตาดล แต่แม่ไม่ไว้ใจแม่นั่นต่างหาก”

“ยิ่งไม่ต้องห่วงเลยครับ คนนี้รับรองเธอไม่เข้าหาผมแน่นอน” ธนดลยิ้มเยาะ ภรรยาจำยอมอยากหย่ากับเขาใจจะขาด แต่ละวันหากเป็นไปได้หาโอกาสหลบหน้าหลบตาตลอด

“เอ่อ แม่ครับ ผมมีงานต้องทำ เอาไว้คุยกันใหม่นะครับ แม่ทำใจให้สบายเถอะ เสร็จงานผมหย่ากับเธอแน่นอน” ลูกชายยืนยันหนักแน่นเพื่อตัดบทก่อนที่ภรรยาจะเข้ามาได้ยิน

ข่าวในวงสังคมก็เหมือนไฟวูบหนึ่ง สว่างไสวเพียงชั่วครู่ก็มอดดับไร้ซึ่งคนสนใจ เพียงแค่รอเวลาซักหน่อยเท่านั้น ธนดลถอนหายใจ การแต่งงานของเขาก็เช่นกัน หนึ่งปีก็คงซา ไม่มีใครสนใจ ต่อให้มีการหย่าร้างก็คงเป็นขี้ปากสังคมน้อยกว่าการยกเลิกงานแต่งงาน ชายหนุ่มยืนครุ่นคิดถึงเรื่องงาน ยกโทรศัพท์ที่อยู่ในมือขึ้นถูปลายคาง

“อุ๊ย...ขอโทษค่ะ”
พลับพลึงอุทานเมื่อเดินทะเล่อทะล่าออกมารบกวนคนครุ่นคิดอะไรซักอย่างอยู่ ธนดลเอี้ยวตัวไปมอง
“ไม่เป็นไร วันนี้ทำไมกลับเร็ว”
“อ๋อ งานเสร็จเร็วค่ะ ฉันขอลงไปเดินเล่นข้างล่างก่อนนะ”

“ไปด้วยกันสิ ผมเองก็อยากพัก”
พลับพลึงเลิกคิ้ว

“หรือไม่ได้ มีเพื่อนเดินเล่นจะได้ไม่เหงา อีกอย่างเราควรจะทำความรู้จักกันให้มากกว่านี้”
“ไม่จำเป็นมั้งคะ ฉันว่าเราอย่ารู้จักกันลึกซึ้งจะดีกว่าเพราะยังไงเราสองคนก็ต้องหย่ากันอยู่แล้ว”
“แต่นั่นมันอีกตั้งหนึ่งปี ผมไม่อยากอยู่กับคุณด้วยความอึดอัดใจ เนินเขาด้านโน้นสวย”

ธนดลชวนแล้วเดินผ่านหน้าพลับพลึงไปทำให้หญิงสาวต้องออกตัวเดินตาม

บรรยากาศท่ามกลางแสงแดดของบ่ายแก่ๆ มีลมหนาวพัดเอื่อยๆ พอกลบเกลื่อนความร้อนของแสงแดดยามนี้ได้มาก ไม่นานเมฆก้อนใหญ่ก็เคลื่อนตัวเข้ามาปิดบังแสงแดดยามบ่ายเสียมิดพลอยทำให้ลมหนาวทำงานได้เต็มที่ พลับพลึงที่สวมเพียงเสื้อคลุมตัวบาง เธอเปลี่ยนเสื้อคลุมตัวใหม่เมื่อออกจากห้องพักนี่เอง ถึงตอนนี้ทำให้นึกถึงเสื้อคุลมตัวหนาที่ใส่ขึ้นดอยไปเมื่อเช้าแต่ก็ยังพอทนไหวโดยยกมือสองข้างขึ้นกอดตัวเอง

“เมื่อคืนผมได้ยินคุณคุยโทรศัพท์” ธนดลเปิดประเด็น
พลับพลึงเงยหน้าขึ้นมองเสี้ยวหน้าชายหนุ่มซึ่งเดินข้างๆ เพื่อตำหนิ เพราะเป็นเรื่องที่เสียมารยาทมากที่ทำอย่างนั้น แต่เขาก็แก้ตัว
“ผมไม่ได้ตั้งใจจะแอบฟังแค่ผ่านไปได้ยินเข้า”

“ฉันก็ไม่ได้ว่าอะไรนี่คะ”
“ผมรอให้คุณถามแต่คุณก็เงียบเหมือนไม่ใส่ใจ”

ใช่ว่าพลับพลึงไม่ใส่ใจอย่างที่เขาว่าแต่เพราะไม่รู้จะเริ่มต้นคำถามอย่างไรมากกว่า
“ถ้าฉันถามคุณจะมีคำตอบให้ฉันหรือเปล่าละ”
“ผมบอกได้แค่ว่า ทุกอย่างจะเรียบร้อยเร็วๆ นี้”

ถ้าเรื่องที่ตกลงกับกิตติจะเรียบร้อยเช่นกัน
“ถ้าคุณรับปากอย่างนี้ฉันก็เบาใจฉันจะได้ตอบป้าได้ อ้อ คุณดล ฉันมีเรื่องอยากจะถามอีกเรื่อง”
“เรื่องอะไร”

แล้วธนดลก็เดินไปนั่งที่ก้อนหินก้อนใหญ่ซึ่งตั้งตระหง่านอยู่ใกล้ๆ ลำธาร เขาเงยหน้าขึ้นมองหญิงสาวที่หยุดเดินห่างจากตัวเขาพอสมควร
“เรื่องพิมพ์”
ความผ่อนคลายที่กำลังเกิดขึ้นกับธนดลมลายหายไปโดยพลันเมื่อได้ยินชื่อของหญิงสาวเจ้าปัญหา เขาเมินหน้าหนีอย่างระอาเพราะไม่นึกว่าชื่อนี้จะยังมีผลอะไร
“พิมพ์พรรณทำไม”

“ฉันอยากรู้ว่าคุณยังอยากจะแต่งงานกับพิมพ์อยู่อีกหรือเปล่า”
“ถามทำไม”
“ฉันก็แค่อยากรู้”

“งั้นผมก็จะตอบตามจริง ไม่”
“แล้วคุณต้องการแต่งงานกับพิมพ์ทำไม” พลับพลึงรู้สึกโกรธธนดลขึ้นมา

“ทำไมผมต้องบอกคุณ” เขายังทำหน้าเรียบไม่เดือดร้อน ธนดลลุกจากก้อนหินแล้วเดินเข้าไปหาเจ้าของคำถามมากมาย “ไหนคุณบอกว่าเราไม่ควรรู้จักกันมากนักไงล่ะ เพราะฉะนั้นเรื่องนี้ก็ถือได้ว่าเป็นเรื่องส่วนตัว”
“ฉันก็ไม่ได้อยากรู้ซักเท่าไหร่หรอก ที่ฉันถามก็เผื่อว่าวันหนึ่งพิมพ์กลับมาแล้วคุณจะทำยังไงกับน้องสาวฉันเท่านั้น”

“ก็ไม่เห็นต้องทำอะไร ในเมื่อเรื่องของผมกับพิมพ์พรรณมันจบไปแล้ว คำตอบเท่านี้คุณคงจะพอใจแล้วนะ”
“คุณคิดแบบนั้นจริงๆ หรือ”

ธนดลพยักหน้า การแต่งงานระหว่างเขากับพิมพ์พรรณก็ไม่ต่างอะไรกับที่เขาแต่งงานกัพลับพลึง นั่นเพราะเรื่องของ ‘ธุรกิจ’
“พอใจมากเลยล่ะค่ะ”

พลับพลึงโล่งใจ เมื่อรู้อย่างนี้เธอจะได้หาทางพาพิมพ์พรรณกลับมาให้เร็วที่สุด
“ขอบคุณนะคะที่ไม่โกรธพิมพ์”

“ไม่ต้องขอบคุณผมหรอกผมไม่ได้ทำอะไรมาก”
พลับพลึงยิ้ม มองสบตาเขาอย่างลืมตัว ดวงตาคู่คมเองก็มองเธอแปลกไป ชื่นชม เย้ยเยาะ ในบางวูบก็เหมือนจะอ่อนโยน หรือบางวูบก็ปนเศร้าเหมือนคนมีความในใจ ผู้ชายคนนี้ช่างมีหลายมุมเสียจริง
“อากาศเริ่มเย็นแล้ว ฉันว่าฉันขึ้นบ้านก่อนดีกว่า”

โดยไม่รอให้อีกฝ่ายตอบตกลงพลับพลึงก็เดินนำหน้าขึ้นบ้านโดยไม่สนใจว่าธนดลจะตามขึ้นมาด้วยหรือไม่ และธนดลก็เลือกที่จะอยู่ตรงนั้นต่อ เพียงแค่พลับพลึงก้าวเข้าไปในห้องนอนเสียงโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่หัวเตียงก็ดังขึ้นพอดี พลับพลึงเดินไปหยิบและรับสาย
“ค่ะ คุณต้น”

“พลับ คุณคาร์เวลคอมเม้นต์กลับมาแล้วนะ ว่าให้ยึดตามแบบเดิมไม่ต้องแก้ไขอะไรแล้ว เขาพอใจมาก แปลกนะ ก่อนหน้านี้ยังตินั่นตินี่อยู่เลย ฟังอยู่หรือเปล่าพลับ” ตระการเรียกเมื่อปลายสายเงียบไป
“ค่ะ ฟังอยู่ค่ะ”

“คงคาดไม่ถึงละสิ พี่ดีใจนะ งานจะได้เดินหน้าได้ซะที เฮ้อ...” ตระการแสดงความโล่งอก “แล้วพลับจะไปรับแบบเองหรือว่าจะให้คนงานไปรับล่ะ” ตระการเอ่ยถามเมื่อรู้จากลูกน้องสาวว่าได้ทิ้งแบบไว้ให้ลูกค้าที่บ้าน
“พลับว่าพลับไปรับเองดีกว่า”

“อืม ก็ดีนะ จะได้ทำความคุ้นเคยและขอบคุณคุณคาร์เวลด้วย”
แน่นอนเธอจะต้องทำความรู้จักกับลูกค้าคนนี้แน่นอน หลังจากวางสายจากตระการพลับพลึงก็ออกจากห้องเธอมองไปยังมุมทำงานของธนดลแล้วเบือนหน้าหนีอย่างไม่อยากสนใจ แต่แล้วก็ต้องหันกลับไปให้ความสนใจเมื่อมีบุคคลหนึ่งก้าวเข้าไปหาเขา





พลับพลึงนั่งเคาะโต๊ะทำงานซึ่งเธอจัดแจงมุมหนึ่งใกล้ๆ ระเบียงให้เป็นมุมส่วนตัว เพื่อจะได้ไม่ต้องรบกวนเวลานอนของธนดลซึ่งเขาไม่ชอบเปิดไฟนอน บวกกับเธอเป็นคนนอนดึกจึงอยากมีมุมซักมุมเป็นมุมส่วนตัว เธอนั่งนึกถึงสิ่งที่ได้ยินเมื่อครู่ก็ทำให้รู้สึกกลัวแทนชายหนุ่ม ไม่นึกว่าคนอย่างธนดลจะมีมุมที่ต้องระแวดระวังแบบนี้ด้วย
“น้อยจ๊ะ” พลับพลึงเรียกแม่บ้านไว้เมื่อแม่บ้านเดินผ่านมา

“คะ” แม่บ้านตอบรับแล้วเดินเข้ามาหา
“ฉันถามอะไรหน่อยสิ เอ่อ...น้อยรู้จักผู้ชายคนนั้นหรือเปล่า”
“ผู้ชาย...” น้อยนึกคิดแล้วย้อนถาม “ผู้ชายคนไหนคะ”

“ก็คนที่มาหาคุณดลไง”
“ไม่รู้จักหรอกค่ะ เวลาคุยเรื่องงานคุณดลไม่ชอบให้ใครแอบฟัง”

พลับพลึงหน้าเสียเพราะน้ำเสียงและสีหน้าของแม่บ้านนั้นต่อว่าเธอกรายๆ ว่า 'ไม่ควรยุ่งเรื่องคนอื่น' อยู่ดีไม่ว่าดีหาเรื่องใส่ตัวแท้ๆ พลับพลึงเอ๊ย...
“งั้นหรือ ขอบใจนะ”

พลับพลึงฝืนยิ้มแล้วพยักหน้าให้สาวใช้ไปได้ ส่วนตัวเองก็นั่งหน้าร้อนผ่าวๆ อยู่ตรงนั้นอย่างเซ็งๆ อยู่ดีไม่ว่าดีก็หาเรื่องให้ตัวเองถูกแขวะ

น้อยเดินยิ้มสะใจที่ทำให้เจ้านายสาวรู้สึกอายจนหน้าเสียได้ น้อยหันกลับไปเบ้ปากเมื่อเดินออกมาห่างพอสมควร ยอมรับว่าไม่ชอบหญิงสาวคนนี้เลยเพราะดูอย่างไรก็ไม่เหมาะสมกับเจ้านายหนุ่ม หากจะพูดให้ถูกหล่อนได้มอบความภักดีให้หญิงสาวคนหนึ่งไปแล้ว และมีความหวังว่าหญิงสาวผู้นั้นจะได้มาเป็นภรรยาของเจ้านายเพราะทั้งอ่อนหวาน มีน้ำใจ ใจดีมาก มาเมื่อใดจะต้องมีของฝากมาฝากเสมอๆ แต่เพียงไม่นานเจ้านายหนุ่มก็เปลี่ยนใจไปคว้าใครก็ไม่รู้ท่าทางกระโดกกระเดกแถมยังชอบสอดรู้สอดเห็นเรื่องของชาวบ้านมาเป็นภรรยา หล่อนจึงไม่อาจจะยอมรับหญิงสาวผมสั้นมาเป็นเจ้านายได้

ว่าแต่คุณรวิดาคนสวยหายไปไหนนะ





**********
^_____^



แก้วมุกดา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 29 ก.ค. 2557, 08:54:34 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 29 ก.ค. 2557, 08:54:34 น.

จำนวนการเข้าชม : 1515





<< พ่ายพรหมลิขิต ตอนที่ 11   พ่ายพรหมลิขิต ตอนที่ 13 >>
แว่นใส 29 ก.ค. 2557, 12:10:35 น.
ยุ่งนะ


phakarat 29 ก.ค. 2557, 15:04:19 น.
เห้อออเมื่อไหร่รักกันอ่ะ


ใบบัวน่ารัก 29 ก.ค. 2557, 21:42:33 น.
เห็นแก่ของฝากนิ
ไปเปิดตาดูโลกภายนอกบ้าง น้อย


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account