Sweetheart รักละมุนอุ่นหัวใจ
เมื่อความรักเป็นเรื่องไม่เข้าใครออกใคร เมื่อเจอแล้วต้องจับไว้ให้แน่น เช่นเดียวกับ 'อัษฎางค์' ที่ไม่ปล่อยให้ 'รดา' ต้องหลุดมือไป ทว่าคนที่ผิดหวังกับความรักอย่าง 'รดา' จะมั่นใจหนุ่มเจ้าสำราญอย่างเขาได้อย่างไร ความรักครั้งนี้เหมือนจะเป็นเรื่องของคนสองคน แต่ยังมี 'มิรันตี' ถูกดึงมาร่วมเกมรักอย่างเลิี่ยงไม่ได้ เรื่องราวชักจะอลหม่านแล้วสิ
Tags: Sweetheart รดา
ตอน: บทที่ 9 รักหวานหอม (อี๋)
บทที่ 9
รักหวานหอม (อี๋)
สมาร์ทเหลือบมองดูกระจกเป็นระยะ ชายหนุ่มพึงพอใจที่เห็นรถคันงามขับตามมาห่างๆ ในขณะที่รดาค้นหาซีดีเพลงรักหวานหอมของฟินในกล่องใส่ซีดี
“วันนี้ตัวไม่ไปทำงานหรือ”
“ถ้าไปแล้วจะมานั่งให้เธอถามหรือไง”
“นี่ เราถามดีๆ นะอย่ามากวน” รดาแยกเขี้ยวขู่ฟ่อ
“เออๆ กวนนิดกวนหน่อยทำจริงจังไปได้ เดี๋ยวตีนกาก็ขึ้นหรอก แก่เร็วไม่รู้ด้วยนะ เออ เราลืมไปว่าเธอน่ะเป็นยัยแก่ขี้บ่น”
“เอ๊ะ นายสมาร์ทกวนเราอีกแล้ว นี่ถ้าตัวไม่ขับรถอยู่ล่ะก็ รับรองเราเตะก้นตัวแน่ๆ “
“ขอโทษครับผม อ่ะๆ ไม่กวนก็ไม่กวน”
“นี่ไง เจอแล้ว” รดาชูซีดีในตลับสีหวานให้สมาร์ทดู
“ลองเอาไปฟังไหมล่ะ”
“มันไม่สะดวกอ่ะ ตัวไม่ได้ดาวน์โหลดมาหรือ”
“มีสิ แต่อยู่ที่ห้องนะ”
“อืม งั้นขอเก็บไว้ในอีสุนทรีก็แล้วกันนะ” เธอหมายถึงไอพอดสีแดงคู่กาย พูดแล้วก็ค้นหาสายยูเอสบีในกระเป๋า คิ้วบางขมวดเมื่อหามันไม่เจอ
“สงสัยไม่ได้เอาสายใยรักมา” รดาพึมพำอย่างเสียดายทำให้คนที่ขับรถอยู่กระตุกยิ้มอย่างพึงพอใจ
“งั้นเดี๋ยวไปยืมของไอ้สุนทรก็ได้” สมาร์ทพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลไอพอดสีเขียวของเขาที่ถอยพร้อมกับของเธอ
“อ่า งั้นไม่เกรงใจแล้วนะ”
ชายหนุ่มพยักหน้าหงึกๆ ตอบรับ
“เราว่าไอ้สุนทรคงคิดถึงอีสุนทรีเนาะ” รดาหัวเราะคิกกับคำพูดติดตลกของสมาร์ท
ตอนที่เป็นแฟนกันเธอจะตั้งชื่อให้กับของใช้ทั้งของเขาและของเธอให้คล้องจองกันมันก็ดูน่ารักอยู่หรอก แต่พอเลิกกันแล้วมันฟังดูจั๊กจี้ยังไงไม่รู้
“แล้วพี่พุงโลกับน้องก้นป่องล่ะ” รดาถามถึงปลาทองที่เธอซื้อให้เขาในวันวาเลนไทน์
“เล่นน้ำสบายดีที่บ้านน่ะสิ”
สมาร์ทโกหกรดาเพราะวันที่เธอปฏิเสธเขาอย่างไม่มีเยื่อใย สมาร์ทเมามายไม่เป็นผู้เป็นคนหลายวันจนพี่พุงโลเซย์บายน้องก้นป่อง จากนั้นไม่นานวิญญาณก็ออกจากร่างน้องก้นป่อง ทั้งคู่หงายท้องลอยเท้งเต้งในโถแก้วใบสวย
เมื่อถึงที่หมายสมาร์ทยังรักษาภาพพจน์ของสุภาพบุรุษ เขาเปิดประตูรถให้เธออย่างสุภาพแถมยังสะพายกระเป๋าให้เธออีกต่างหาก
“มาส่งแล้วก็กลับไปสิ ไอ้บ้าเอ๊ย” อัษฎางค์พยายามข่มอารมณ์ปุดๆ ที่พุ่งเดือดในใจ
โชคไม่เข้าข้างเขานักเมื่อที่จอดรถที่หมายตาไว้ถูกตัดหน้าไปเส้นยาแดงผ่าแปดทำให้เขาต้องเหยียบเบรกตัวโก่งแล้วตามด้วยเสียงบีบแตรดังลั่น
“ไอ้บ้าเอ๊ย” อัษฎางค์สบถอย่างหัวเสีย
ถ้ารดาจะไปทานข้าวกับแฟนเก่าเขาก็ไม่ว่าอะไร แค่คนรู้จักกันสองคนมาพบปะสังสรรค์ นัดทานข้าวกันแล้วแยกย้ายกันไปก็คงดี เขาพอจะเข้าใจ แต่นี่มันล้ำเส้นเกินไปแล้ว!
อัษฎางค์ก้าวดุ่มๆ ตามคนทั้งคู่ไป หากแต่ช้ากว่ารดาที่สมาร์ทที่ขึ้นลิฟท์ไปแล้ว ชายหนุ่มหัวเสียไปสอบถามห้องจากพนักงานหน้าเคาท์เตอร์ แต่แล้วอัษฎางค์ต้องหัวเสียอีกเท่าตัวเมื่อเคาะห้องแล้วไร้วี่แววของคนทั้งคู่ หัวสมองของเขาประมวลผลว่าถ้ารดาไม่อยู่ที่ห้องตัวเอง ต้องอยู่ที่ห้องของสมาร์ท
พนักงานสาวยิ้มน้อยๆ เพราะหลังจากที่เจ้านายของตัวหนีบผู้ชายขึ้นห้องไปคนหนึ่งแล้ว ก็มีอีกหนึ่งหนุ่มมาตามมา เสียดายที่คลาดกัน ไม่อย่างนั้นเธอคงได้เจอเรื่องมันส์ ทว่าเรื่องนี้คงเป็นเรื่องที่คุยกันสนุกปากอีกหลายวัน
“ห้อง999ค่ะ”
“999 เปิด-เจอ-ตาย”
รดายังทำตัวเป็นเพื่อนที่ดี หารู้ไม่ว่าแฟนขี้หวงของเธอเดือดเนื้อร้อนใจที่เห็นเธอหัวร่อต่อซิกเข้ากับโรงแรมกับผู้ชาย ที่สำคัญผู้ชายคนนั้นยังได้ชื่อว่าเป็นแฟนเก่าเสียด้วย
‘เพราะว่าเธอรักเขา ถ่านไฟเก่ายังร้อน รอวันรื้อฟื้น แล้วคนมาทีหลัง ต้องทนต้องฝืน อย่างฉันคนนี้ เธอต้องบอกวิธีให้ทำใจ’
เพลงสุดฮิตของป๋าเบิร์ด ซุปเปอร์สตาร์เมืองไทยดังจากโทรศัพท์มือถือของผู้ชายหุ่นอาเสี่ย อ้วน เตี้ย ลงพุง เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมามองว่าใครโทรมา แล้วจึงรับ
“ฮาโหล อั๊วใกล้ถึงเลี้ยว รอแป๊บนึง” อาเสี่ยวางโทรศัพท์เป็นเวลาเดียวที่ลิฟต์เปิด เขาหันมายิ้มให้อัษฎางค์ตามมารยาท
“ไอ้บ้าเอ๊ย” อัษฎางค์ด่าตามหลัง
ทำไมมันต้องใช้เพลงนี้ด้วยวะ ตอนนี้ป๋าเบิร์ดออกอัลบั้มใหม่จะเปลี่ยนเป็น ‘Too Much So Much Very Much’ หรือ ‘อย่าทำอย่างนี้ไม่ว่ากับใคร’ ก็ได้นี่!
ถัดไปอีกสามชั้น ด้วยอารมณ์โกรธกรุ่นๆ อยู่ อัษฎางค์จึงเตะถังขยะที่มุมตึกจนกลิ้งเค้เก้
“ฮึ่ม เพราะแกคนเดียว”
ฝ่ายสมาร์ทเองก็นับเวลาถอยหลัง เมื่อสักครู่เขาเห็นอัษฎางค์แวบๆ ถ้าอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาแผนของเขาก็นับว่าประสบความสำเร็จ
“นี่ยังเก็บสมบัติบ้าไว้อีกหรอ” เขาถามถึงสิ่งของในกระเป๋าหนังแคนวาสประจำกาย
“อือ สมบัติบ้าๆ ยังเต็มกระเป๋าเลย นี่เพิ่งจัดนะ เอาของออกไปตั้งหลายอย่างแล้วด้วย”
“แล้วเอาอะไรออกไปแล้วบ้าง” สมาร์ทถามอย่างสงสัย เมื่อเขาลองกระเป๋าสีขาวประดับพู่อันใหญ่ก็พบว่ามันยังหนักเกินมาตรฐานอยู่ดี
“ก็ Chupa Chups ป๊อกกี้ น้ำแอปเปิ้ลขาวสองกล่องแล้วก็นมตราหมีอีกหนึ่งกระป๋อง”
“โหยแม่คุณแม่คุณมีแต่ของกินนะ”
รดาก้มหน้างุดด้วยความอาย นี่ขนาดเธองุบงิบคำตอบว่ายังบอกไปไม่หมดเลยกับชาเขียว และบัตเตอร์โรลอีก
“ก็กองทัพต้องเดินด้วยเท้าไง เราไม่ปล่อยให้ท้องว่างหรอก”
“ครับ กองทัพต้องเดินด้วยท้อง” สมาร์ทเห็นด้วยกับกับอดีตแฟนสาวที่นิ่งเป็นหลับขยับเป็นกิน และเขาเองก็ไม่เห็นประโยชน์กับการทะเลาะกับเธอ จึงตัดบทเออออห่อหมกไปกับหล่อน
“ตัวจะอยู่อีกกี่วันล่ะ”
“ก็คงสักห้าวัน” สมาร์ทตอบอย่างไม่สนใจนักขณะเปิดประตูห้อง
“เดี๋ยวใช้อีผลาญเงินไปก่อนนะ เราขออาบน้ำก่อน รู้สึกเหนียวตัว” สมาร์ทชี้ไปทางโน้ตบุ๊คที่เจ้าตัว Sleep ทิ้งไว้บนโต๊ะ
รดาถือโอกาสสำรวจห้องพักของสมาร์ทเพราะโรงแรมแห่งนี้เป็นโรงแรมสามดาวแห่งใหม่ที่เปิดตีตลาดโรงแรมห้าดาว ธุรกิจครอบครัวของเธอนั่นเอง
เป็นเวลาเดียวกับที่ลิฟท์เปิดออก อัษฎางค์เดินหาหมายเลขห้องอย่างร้อนรน
เพียงครู่เดียวหญิงสาวก็ถ่ายภาพทุกซอกทุกมุมของห้องพักไว้ได้จึงกลับมานั่งเล่นโน๊ตบุ๊ค ไม่ทันที่รดาจะให้อีสุนทรีได้เจอสายใยรักของไอ้สุนทร เสียงเคาะประตูทำให้มือบางชะงักค้าง มองประตูอย่างลังเลว่าจะเปิดดีหรือเปล่า
“สมาร์ทอาบน้ำหรือยัง ถ้ายังไม่ได้อาบไปเปิดประตูทีสิ”
“จะบ้าหรือไง ฉันโป๊อยู่ เธอนั่นแหละไปเปิด” สมาร์ทตะโกนแข่งกับเสียงฝักบัว รดาจึงต้องลุกไปเปิดประตูอย่างไม่มีทางเลี่ยง
“อ้าวพี่ธาม” หญิงสาวทำหน้าเหลอหลา...เขามาที่นี่ทำไม
“กลับกับพี่เดี๋ยวนี่” นอกจากเขาจะเป็นพวกมือไวใจเร็วแล้วยังเป็นคนปากว่ามือถึง มือคร้ามคว้าหมับที่แขนของหญิงสาว
“ปล๊อย นะไอ้พี่ธามบ้า รดายังไม่กลับ” เธอร้องอย่างตกใจ แล้วใช้มืออีกข้างคว้าขอบประตูได้ทัน
มือไวปานวอก!!?
“ไม่รู้ล่ะ ยังไงก็ต้องกลับ” อัษฎางค์ยังยืนยันคำเดิม
“ใครมาหรือ” สมาร์ทที่เพิ่งออกจากห้องน้ำด้วยสภาพที่ไม่เรียบร้อยมากนักมองรดาที่ยื้อยึดกับอัษฎางค์หน้าประตูห้อง เมื่อเห็นว่าเป็นใครจึงเชื้อเชิญให้เข้ามาในห้อง “อ้าว คุณอัษฎางค์นั่นเอง เชิญเข้ามาข้างในก่อนครับ”
สมาร์ททำหน้าที่เจ้าบ้านเต็มที่ พร้อมกับเสิร์ฟน้ำ เสิร์ฟท่าให้เรียบร้อย
“เรามีบลูเบอร์รี่ชีสเค้กนะ ตัวจะกินไหม”
เมื่อได้ยินชื่อขนมหวานสุดโปรด รดาเกือบจะถลาไปยังตู้เย็นที่สมาร์ทเปิดทิ้งไว้ หากแต่มือแข็งปานคีมเหล็กของอัษฎางค์คว้าไว้ทัน หญิงสาวจึงเอ่ยรับ
“พี่ให้เวลาสิบนาที” จู่ๆ คนที่นั่งเป็นม้าหมากรุกก็เอ่ยขึ้นทำให้หญิงสาวหันขวับมามอง
“โหย บ้าหรือเปล่า...เอ่อ ก็ได้”
แรกทีเดียวเธอจะว่าอะไรเขาสักหน่อย โทษฐานไม่รู้กาลเทศะว่าเธอชอบที่จะละเลียดขนมเค้กมากกว่าสวาปามมันโดยไม่รู้รสชาติ หากแต่สายตาเด็ดขาดเหมือนวันที่ไปรับเธอที่บ้านไม่มีผิด
บลูเบอร์รี่ชีสเค้กสองชิ้นถูกจัดการหมดไปในเวลาไม่นาน
“อร่อยไหมคะ”
“ก็ดี” ชายหนุ่มยังคงบอกเสียงห้วนทำเอาคนถามหน้าเจื่อน
“เราจัดการมันใส่ในอีสุนทรีแล้วนะ” สมาร์ทบอกหลังจากที่โหลดไฟล์เพลงใส่ในไอพอดของเธอ
อัษฎางค์ขมวดคิ้วกับคำพูดที่เป็นโค้ดลับของทั้งคู่ ชายหนุ่มไม่รู้หรอกว่า ‘อีสุนทรี’ คืออะไรจนกระทั่งรดาสะบัดตัวปลิว (ทั้งที่หุ่นไม่ค่อยอำนวยให้ปลิวได้สักเท่าไร) ไปเอาไอพอดมาเก็บไว้ในกระเป๋า
“ไม่ต้องล้างหรอก เดี๋ยวเราจัดการเอง” สมาร์ทบอกรดาที่จะเก็บจานกับช้อนไปล้าง
“เสร็จธุระแล้วใช่ไหม”
“ค่ะ งั้นเรากลับก่อนนะ ขอบคุณสำหรับเพลงแล้วก็ดูแลพี่พุงโลกับน้องก้นป่องดีๆ ล่ะ” รดาไม่ลืมกำชับสมาร์ทให้ดูแลลูกรักทั้งสอง
“อือๆ ไว้เจอกัน”
ไม่ให้เจอแล้วโว๊ย ...อัษฎางค์คิดในใจ (ดังๆ) นี่ตั้งแต่เรวัตกลับมาเขาก็อดใกล้ชิดกับยอดยาหยีของเขาแล้ว แต่นี่มีแฟนเก่าเข้ามาอีก ยิ่งยากไปใหญ่
////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////
ในที่สุดรดาก็เดินตามอัษฎางค์กลับห้องอย่างหงอยๆ เขาไม่พูดกับหล่อน (อีกแล้ว)
งอนอะไรอีกล่ะเนี่ย เวรกรรม นี่ฉันต้องง้ออีกแล้วหรอ เฮ้อ เซ็งๆๆๆๆ ฉันไม่ผิดสักหน่อย เรื่องไรฉันต้องง้อด้วย
รดาโชว์เหนือชั้นกว่า เดินไปชนไหล่เขาแล้วไขกุญแจห้อง อัษฎางค์เซไปนิดเพราะไม่ได้ตั้งตัว
“หมั่นไส้ ชิ”
“กระทบไหล่ดารารึไง” อัษฎางค์ถามอย่างอารมณ์ดี
“เปล๊า มันบังเอิญ” รดายังลอยหน้าลอยตาตอบ ขณะที่ปรับอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศให้ลดลง “ร้อนเนาะ พี่ธามร้อนป่ะ”
“ก็สบายๆ ไม่ร้อนไม่หนาว”
ก็ท่าทางเขาดูสบายจริงๆ นั่นแหละ กระดุมทุกเม็ดยังอยู่ในสถาพเดิม หากปกติที่เขาเป็นคนขี้ร้อนจะปลดกระดุมสองเม็ดแรกออกโชว์แผงอกเซ็กซี่ ทรมานใจหญิงจิตป่วนอย่างเธอ
“งั้น รดาจะอาบน้ำพี่ธามรออยู่ตรงนี้ อย่าย้ายก้นไปไหนล่ะ” รดาสั่งทิ้งท้ายเพราะรู้สึกว่าร้อนกว่าปกติ
อัษฎางค์คลี่ยิ้มอย่างอ่อนโยนตามหลังรดา...หมายความว่าเธอไว้ใจเขาว่าเขาเป็นสุภาพบุรุษพอหรือเปล่านะ เขาไม่ใช่คนดีมากนัก หากแต่ขอเป็นสักครั้งจะเป็นไรไป ที่สำคัญเขาไม่อยากทำลายความไว้วางใจของเธอ
ร่างอวบหยิบเสื้อคลุมอาบน้ำในตู้ ขาแข้งแทบหมดแรง รดาวิ่งไปเปิดตู้เย็นคว้าน้ำเย็นมาเปิดแล้วดื่มโดยไม่ใส่แก้ว ชายหนุ่มมองอย่างแปลกใจ เพราะปกติเธอไม่ได้เป็นคนมักง่ายอย่างนี้
“รดาเป็นอะไรหรือเปล่า” เขาถามเมื่อเห็นหน้าขาวๆ ของเธอแดงระเรื่อแถมเหงื่อเม็ดเป้งที่หน้าผาก
“อ๋อ ไม่เป็นไรหรอก ร้อนจังเลยนะคะ”
พูดไม่ทันจบประโยครดาก็วิ่งเข้าไปในห้องน้ำหญิงสาวเปิดฝักบัวให้สายน้ำชำระความร้อนให้จางไป
“รดาเป็นอะไร” อัษฎางค์เห็นอาการแปลกๆ ของหญิงสาวจึงอดเป็นห่วงไม่ได้
ชายหนุ่มเขย่าตัวเธอที่ทำตาลอยๆ มองเขาอย่างหวานเชื่อม มือบางสะเปะสะปะมากอดเขาไว้ สายน้ำกับร่างเย้ายวนใจที่เบียดอยู่นี้กระตุ้นอารมณ์อารมณ์ชายหนุ่ม
“ไม่รู้ รดาแค่ร้อนๆ แล้วก็อยากกอด...อยากจูบพี่ธาม” ไม่ว่าเปล่าริมฝีปากอวบอิ่มของรดาบดเคล้ากับริมฝีปากบางของอัษฎางค์ทันที
ในนาทีนี้เขารู้แล้วว่ารดาเป็นอะไร
////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////
“มิไม่เชื่อเด็ดขาด หัวเด็ดตีนขาดยังไงมิก็ไม่เชื่อ” มิรันตียังคงยืนยันคำเดิมว่าเธอไม่มีทางเชื่อว่าอัษฎางค์จะใช้ยาประเภทนั้นกับรดา
ก็ส่วนใหญ่จะสมยอมด้วยกันทั้งนั้น
“แต่ผมว่าเราควรไปดูให้เห็นกับตา” เรวัตไม่อาจอยู่นิ่งได้หลังจากที่เขาโทรหาทั้งอัษฎางค์ และรดาที่ต่างก็ไม่รับโทรศัพท์กันทั้งคู่
“งั้นมิไปด้วยนะคะ”
“ไม่ได้ คุณนอนลงไปเลยไม่อย่างนั้นอย่าหาว่าผมใจร้ายไม่ได้นะ” เรวัตกดมิรันตีให้นอนบนเตียงเมื่อหญิงสาวทำท่าจะลุกขึ้น
“งั้นนายก็ไปดูสองคนนั้นก็ได้”
“ก็ไม่ได้อีกนั่นแหละ ถ้าผมไปแล้วใครจะอยู่กับคุณ ที่สำคัญคุณเองไม่ใช่หรือที่กลัวผีอย่างกับอะไรดี” ชายหนุ่มยกจุดอ่อนของคนที่คลุมผ้าคลุมถึงคอทำให้มิรันตีพยักหน้าหงึกๆ
“รอไว้พรุ่งนี้ตอนคุณออกจากโรงพยาบาลก็แล้วกัน ไว้เราค่อยไปดูกัน ถ้าเกิดว่ามันเป็นเรื่องจริงผมไปตอนนี้ก็ช่วยอะไรรดาไม่ได้” เรวัตซบใบหน้ากับฝ่ามือ เขาถอนหายใจเมื่อคิดถึงภาพที่อัษฎางค์ถาโถมใส่ร่างรดาราวกับสัตว์ป่า
“แต่มิว่าพี่ธามไม่ใช่คนอย่างนั้นนะ” มิรันตียังคงยืนยันความบริสุทธิ์ให้ผู้เป็นพี่ชาย
“งั้นผมจะวัดใจนายนั่น ถ้าเกิดว่าเป็นอย่างนายสมาร์ทว่าล่ะก็...ผมเชือดพี่ธามของคุณแน่”
“นายต้องสัญญาก่อนว่าถ้าไม่มีอะไรเกิดขึ้น นายจะไม่ขัดขวางพี่ธามกับรดา”
ชายหนุ่มพยักหน้าแทนคำตอบ
ก็ได้วะ ดูท่าแล้วหน่วยก้านมันดีไม่เบา ที่สำคัญ น้องสาวเขาทำเอาเสือสิงห์กระทิงแรดเผ่นแนบ กลับขอร้องไม่ให้เขาขัดขวางความรัก
“งั้นคุณได้น้องเขยชื่ออัษฎางค์แน่นอน”
นี่เขาคิดถูกไหมหนอที่เอาน้องสาวเขามาเดิมพันในเกมส์นี้ ถ้าไม่เกิดเรื่องราวเลวร้ายขึ้นล่ะก็เขาจะยอมลงให้ศัตรูตัวฉกาจสมัยไพ่ Dragon Ball
////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////
เสียงเปิดกระป๋องเบียร์ดังขึ้นแทนเสียงปรบมือให้กับแผนการที่ลุล่วงไปเกือบสมบูรณ์แล้วตามด้วยเสียงหัวเราะในลำคอ สมาร์ทมองทิวทัศน์ยามค่ำคืนของเชียงใหม่ผ่านกระจก รสชาติของความสำเร็จย่อมหอมหวานเสมอ
เป็นไปตามแผน!!
หลังจากที่โทรศัพท์หาเรวัต ใส่สีตีไข่ว่าหลังจากที่รดาดื่มเครื่องดื่มที่อัษฎางค์เอาให้ไม่นานก็เห็นเธอบ่นว่าร้อนแล้วอัษฎางค์ก็พาเธอกลับห้องไป แค่นี้พี่ชายของรดาก็แทบเต้น รอฟังผลว่าเรวัตจะเอาฝ่ายนั้นจะเลือดตกยางออกหรือเปล่า โทษฐานข่มเหงน้องสาวสุดที่รักของตน
สมาร์ทเจ็บใจนักที่ทันทีที่เรวัตกลับถึงประเทศไทยก็โทรศัพท์มาถามไถ่ตนราวกับคาดคั้นให้เขายืนยันว่าเลิกกับรดา และจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับเธอ
ในเมื่อรดากำลังจะเป็นของคนอื่น เขาจะไม่ยอมเป็นคนแพ้ ถ้าเขาไม่ได้ ใครหน้าไหนก็ไม่ได้เหมือนกัน แน่ล่ะว่าผ่านคืนนี้ไปรดาจะไม่ใช่สาวบริสุทธิ์ หากแต่พรุ่งนี้เขาจะเป็นแฟนเก่าที่แสนดีที่คอยให้กำลังใจ อยู่เคียงข้างเธอ ไม่ให้ไปสนใจผู้ชายพันธุ์นั้น แม้ว่าเธอจะเคยเป็นของคนอื่นมาก่อน หากอนาคตเธอต้องเป็นของเขาเท่านั้น
เขายอมให้คนอื่นตราหน้าว่า ‘กินของเหลือเดน’ แต่เพื่อแลกกับการที่จะเก็บเธอไว้ให้เป็นของเขาคนเดียว เขายอม!
“มึงทำจริงเหรอวะ” ฟินถามสมาร์ทที่โยนกระป๋องเบียร์ลงในถังขยะ
“อือ ต้องขอบใจยาของแกจริงๆ “
“มึงมันโง่ที่เหลือไข่แดงไว้ให้ไอ้นั่นเจาะ” สำหรับเขาผู้หญิงก็เปรียบเหมือนสินค้าที่ต้องลองใช้ก่อน แล้วเขาก็ชอบที่จะเป็นคนแกะกล่องพิสูจน์ด้วยล่ะสิ
“กูมันโง่ กูมันโง่...โง่” จู่ๆ คนที่เมาได้ที่หัวเราะอยู่ก็ร้องไห้ออกมาอย่างไม่อาย
“มึงนี่ท่าจะบ้า” นักร้องหนุ่มส่ายหัวกับการกระทำของเพื่อน เขาเดินไปหยิบเบียร์ในตู้เย็นแล้วโยนให้สมาร์ทที่ยังคงนั่งบนเก้าอี้แล้วใช้เท้าพาดโต๊ะ
‘ยาปลุกเซ็กส์’ เป็นตัวช่วยที่ดีหากหน้าตา และคารมคมคายของเขาใช้กับผู้หญิงที่มีมาให้เลือกไม่หวาดไม่ไหว และแม้แต่กับผู้หญิงที่เขาสนใจจะนอนด้วย เพราะเมื่อพูดดีๆ ไม่รู้เรื่อง น้อยครั้งนักที่เขาต้องใช้ตัวช่วยที่ดี ที่สำคัญเขาคงทนไม่ได้ที่จะยอมให้ ‘ผู้หญิง’ ที่หมายตาไว้หลุดมือไปง่ายๆ หรอก
ฟินมองคนที่ลงไปนอนคร่ำครวญบนพื้นห้องด้วยสายตาที่สมเพช ริมฝีปากกระตุกคล้ายยิ้มเยาะ...ฝีมือมันคนละชั้นกัน
////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////
อัษฎางค์ได้หายใจสะดวกหลังจากจัดการเรื่องวุ่นๆ เสร็จเกือบเช้า หลังจากแม่ตัวดีโดนฤทธิ์ยาเข้าไป เขาต้องฝืนกับความต้องการของตัวเอง เขาไม่ใช่พระอิฐพระปูนสักหน่อยที่จะได้ไม่รู้สึกรู้สาอะไร รดาเองก็ไม่ให้ความร่วมมือสักเท่าไหร่ เมื่อเขาขืนตัวออกเธอก็จัดการดึงทึ้งเสื้อผ้าตัวเอง เขาต้องลากเธอออกจากห้องน้ำในสภาพที่เปียกมะลอกมะแลกด้วยกันทั้งคู่ กดเธอไว้กับเตียง
‘รดาต้องทนให้ได้นะ’
‘พี่ธามช่วยรดาด้วย รดาทนไม่ได้แล้ว’
‘อดทนหน่อยนะคนดี อีกนิดเดียวเท่านั้น’ ชายหนุ่มกอดเธอไว้แนบอก
‘ไม่รักรดาแล้วใช่ไหม รดาต้องการพี่ธามนะ’
กว่ารดาจะสงบลงได้ก็เรียกเหงื่ออัษฎางค์ได้พอสมควร อัษฎางค์จัดการเปลี่ยนชุดให้เธอเกรงว่าจะไม่สบายที่ต้องนอนไปทั้งๆ ที่ตัวเปียก นั่นคืออีกเหตุผลหนึ่งที่เขาต้องเปิดห้องข้างๆ กันนั้น เพราะการที่ทั้งเขาและเธออยู่บนเตียงทั้งที่ตัวเปียกทำให้ทั้งคู่ไม่อาจนอนบนฟูกเปียกๆ ได้
อัษฎางค์จัดการให้รดาสงบได้เกือบรุ่งสาง จากนั้นชายหนุ่มก็ออกจากโรงแรมไปจัดการตัวต้นเหตุที่บังอาจประสงค์ร้ายผู้หญิงของเขา กว่าอัษฎางค์กลับมาก็สายแล้ว
“พี่รักรดานะคะ”
ชายหนุ่มบอกแล้วจุมพิตหน้าผากเธอเบาๆ ปัดผมหน้ามาที่ยาวจนเกือบทิ่มตาแล้ว นี่ถ้าเป็นเมื่อก่อน เขาคงจัดการเธอจากยาตัวร้ายนั่นด้วยวิธีที่เขาถนัด แต่นี่กับเธอ เขาไม่อยากทำลายเธอด้วยวิธีนี้
////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////
‘ลืมอะไรทิ้งไว้วะ’ สมาร์ทนึกว่าฟินจะลืมของทิ้งไว้แล้วกลับมาเอา เขาเดินโซเซไปเปิดประตูหลังจากที่ดื่มหนักจนถึงเช้า
หากเมื่อเห็นผู้มาเยือนทำให้เขาตื่นเต็มตา อัษฎางค์ทำหน้าถมึงทึงมองเขาอย่างแค้นๆ ไม่ทันได้พูดอะไร หมัดหนักก็ประเคนเข้าที่ใบหน้าอย่างจัง สมาร์ทเองที่เมาจนไม่มีแรงต่อสู้ เขาทำไม่ได้แม้แต่จะปัดป้องหมัดนั้น เมื่อระบายความแค้นกับหน้าหล่อๆ จนหายแค้นเป็นผลให้หน้าของสมาร์ทบวมปูดอย่างเห็นได้ชัด
‘มึงวางยารดาเมื่อไหร่’ อัษฎางค์จึงถามเสียงเย็น
‘ยา...ยาอะไร ไม่รู้เรื่อง’ สมาร์ทหลบสายตาขณะที่ตอบ
‘มึงไม่ตอบใช่ไหม’ สิ้นคำพูดตามมาอัษฎางค์ชกเปรี้ยงเข้าที่คางสมาร์ทสองทีซ้อน ทั้งมือทั้งเท้าประเคนจนเจ้าของห้องล้มกองกับพื้น ชายหนุ่มคร่อมร่างสมาร์ท เงื้อหมัดจะซ้ำให้อีก แต่อีกฝ่ายทนไม่ไหว
‘ก็บอกแล้วไงว่าไม่รู้’
อัษฎางค์กระชากคอเสื้อ พร้อมกับหยิบวัตถุสีดำที่เหน็บไว้ที่เอว ลำกล้องปืนสีดำปลาบที่อัษฎางค์ใช้เป็นตัวช่วยชั้นดี
‘งั้นถามลูกปืนดูดีไหม’ อัษฎางค์กดปลายกระบอกปืนกับขมับของสมาร์ท
แค่เห็นปืนสมาร์ทก็ตาลีตาเหลือก กลืนน้ำลายเหนียวๆ อย่างฝืดคอ...เขาไม่น่าลูบคมอัษฎางค์เลย
‘บอกแล้วๆ อย่าทำอะไรผมเลย’ สมาร์ทแทบจะเป็นลมเมื่อเห็นมัจจุราชปลิดชีพตน
‘ถ้ามึงโกหก รับรองมึงตาย’
‘ก็ตอนที่คุณมานั่นแหละ’ คำตอบของสมาร์ททำให้อัษฎางค์ขมวดคิ้ว
‘ขนมเค้ก’ อัษฎางค์ถามอย่างแปลกใจ แต่จะเป็นไปได้อย่างไรในเมื่อเขาก็รับประทานกับรดาคนละชิ้นนี่นา ‘น้ำเปล่า!!’
รดาง้ออัษฎางค์ด้วยเบียร์เย็นๆ ที่เต็มแน่นเอี๊ยดในตู้เย็น แน่ล่ะว่าอารมณ์กรุ่นๆ ถ้าได้เบียร์มาดับมันสักกระป๋องเป็นความคิดที่ดีเชียวล่ะ
‘ไอ้ระยำ’ เขากะจะซัดหน้าขาวๆ อีกที หากแต่ยั้งใจไว้ได้ทัน
กลัวมันตายซะก่อน!!
‘ถ้ามึงยุ่งกับรดาอีกล่ะก็ คราวนี้มึงไม่ตายดีแน่’
อัษฎางค์ประกาศกร้าวก่อนผลักสมาร์ทลงไปกองกับพื้นแล้วฝาก Free kick เข้าที่หน้าแข้งของมันอีกป้าบแล้วจากมา ไม่สนใจเสียงร้องโอดโอยราวกับถูกเชือดของอีกฝ่าย
ทางด้านรดาเพิ่งจะรู้สึกตัว หญิงสาวไม่คุ้นตานักกับห้องนี้นัก แต่ก็รู้ว่ามันเป็นห้องหนึ่งในโรงแรมของเธอนั่นเอง มือบางนวดที่ขมับเบาๆ พลางนึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืนก่อน
รดาจำได้ว่าเธอกลับจากห้องของสมาร์ทแล้วกลับห้องของตัวเองพร้อมกับอัษฎางค์ จากนั้นเธอร้อนจนทนไม่ได้ แถมยังถอดเสื้อผ้าปลำ้จูบอัษฎางค์อีกด้วย คิดถึงตรงนี้รดาก็หน้าแดง...แล้วหลังจากนั้นล่ะ?
เมื่อถลันลุกขึ้นนั่งผ้าห่มที่คลุมร่างเปลือยนั้นก็เลื่อนลงไปบนหน้าตัก ขณะเดียวกันอัษฎางค์เพิ่งออกห้องน้ำมา
“กรี๊ด” รดารีบเอามือปิดหน้าอกหน้าใจของตัวเอง
“โชว์แต่เช้าเลยนะ ผมไม่ถือหรอก” อัษฎางค์ว่าอย่างอารมณ์ดีแล้วเปลี่ยนเสื้อผ้าต่อหน้าเธอทำเอารดาหน้าม้านยกผ้าห่มมาคลุมโปงพร้อมกับหลับตาปี๋
“อ้าว พี่อุตส่าห์ให้รดามองบ้าง ไม่ดูหรอ จะได้หายกัน” คำพูดกลั้วหัวเราะของเขาทำให้หญิงสาวยิ่งอายไปใหญ่
สองครั้งแล้วนะ...สองครั้งแล้ว ที่เขาเห็นหน้าอกของเธอ
“ออกมาได้แล้ว พี่ไม่โป๊แล้ว” อัษฎางค์ดึงผ้าห่มออกกลัวว่ารดาจะหายใจไม่ออกน่ะสิ
“อ๊าย ไอ้พี่ธามบ้า อย่าดึ้ง อย่าดึงเซ่” หญิงสาวหวีดร้องเต็มเสียง
รดาลุกขึ้นนั่งพร้อมกับกอดผ้าห่มไว้แน่น มองคนที่นั่งยิ้มแป้นแล่นอย่างหงุดหงิด งั้นนี่ก็ต้องเป็นห้องของเขาน่ะสิ
“พี่ธามทำอะไรรดารึเปล่า” คำถามของเธอทำเอาคนถูกถามถอนหายใจเฮือกใหญ่
“เปล่า...ก็แค่”
“แค่แตะนิดแตะหน่อย” รดาพูดอย่างรู้ทัน
เธอรู้อยู่หรอกว่าเวอร์จิ้นของเธอยังอยู่ แต่เธอไม่เชื่อว่าผู้ชายอย่างเขาจะนอนกอดเธอเฉยๆ ถึงรู้จักกันไม่นาน เธอก็รู้แกว
“อ่ะแน่นอน” อัษฎางค์ยอมรับอย่างไม่สะทกสะท้าน แถมยังยักคิ้วให้เธออีก
หญิงสาวทำท่าจะลุกจากเตียง หากอัษฎางค์กดเธอไว้ไม่ให้ลุก
“นอนพักก่อนเถอะ ไว้สายๆ ก่อนค่อยกลับห้อง”
“อือ แล้วสมาร์ท” เธอถามอย่งนึกขึ้นได้
“มันนั่นแหละตัวดี ไม่รู้สิท่าว่ามัน...บลา...บลา” ชายหนุ่มจัดการเล่าเรื่องทั้งหมดให้เธอฟัง
“หน็อย ไอ้เพื่อนเวร” รดาพูดอย่างโกรธๆ ทำท่าฮึดฮัดจนเขาหัวเราะ
“อย่ามาหัวเราะเยาะรดานะ”
“อ่ะๆ ไม่หัวเราะก็ได้ คนป่วยต้องนอนพักผ่อนเยอะๆ นะคะ นอนซะนะ” อัษฎางค์ห่มผ้าห่มให้เธออย่างเบามือ
มือบางกระตุกชายเสื้อเขาไว้ “แล้วพี่ธามจะไปไหน”
“พี่ก็จะนั่งเฝ้าเจ้าหญิงของพี่ไง”
อัษฎางค์นั่งยองๆ เพื่อจะให้ใบหน้าอยู่ในระดับเดียวกับคู่สนทนา รดาพยักหน้าเชิงรับรู้ก่อนจะจุ๊บแก้มเขาฟอดใหญ่
“รักพี่ธามจังเลย” หญิงสาวไม่รอดูผลงานของตน รีบล้มตัวนอนพร้อมกับผลินหลังให้อีกต่างหาก
ถ้ารดาหันมาจะเห็นใบหูแดงๆ ของชายหนุ่ม ก็ปกติเขาจะเป็นฝ่ายรุก ไม่ใช่เธอที่เริ่มก่อน พอเจอไม้นี้ทำเอาคนที่โดนขโมยหอมแก้มทำหน้าไม่ถูก
////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////
เมื่อแพทย์อนุญาตให้มิรันกลับไปพักฟื้นที่บ้านได้ เรวัตขับรถพาเธอกลับโรงแรมด้วยอาการร้อนรน เมื่อคืนชายหนุ่มแทบไม่ได้นอนเพราะมัวแต่คิดเรื่องของน้องสาวกับนายตัวร้าย
“อย่าทำหน้าแบบนั้นได้ไหมคะ” มิรันตีเห็นเขานั่งหน้านิ่วคิ้วขมวดตลอดทาง
“ก็ตอนนี้จะให้ผมทำหน้าอะไรได้ดีกว่านี้ล่ะ ผมไม่รู้ว่าจะกลับไปเจอข่าวดีหรือข่าวร้ายนี่”
“เอาน่า ยังไงเราก็หนีความจริงไม่พ้นหรอก” มิรันตีลองหยั่งเชิง “ถ้าเกิดว่าพี่ธามทำอย่างนั้นจริงๆ ล่ะคะ”
“รับรองได้ว่ามันไม่เหลือแน่”
คำพูดของเรวัตทำให้มิรันตีขนลุกซู่...ดุยิ่งกว่าไอ้ด่างหน้าปากซอย!
“ถามทำไม ไหนว่าเชื่อใจมันนักมันหนาไง”
“ก็มิอยากรู้ไงคะว่าคุณจะจัดการยังไงกับคนที่รังแกน้องสาวคุณ” ก็เธออยากรู้ว่าผู้ชายใจดีอย่างเขาจะจัดการอย่างไรกับผู้ชายพันธุ์นั้นที่ใช้ยาเลวๆ กับผู้หญิง
เพียงไม่นานเรวัตกับมิรันตีก็เดินทางมาถึงโรงแรม
เสียงเคาะประตูดังหลายครั้งติดกัน ทำเอาอัษฎางค์หัวเสียเพราะรดาเพิ่งจะหลับไป มือหนาที่จับลูกบิดชะงักเมื่อเห็นเรวัต
“เข้ามาก่อนสิ” เรวัตเข้ามาตามคำเชิญ จะเรียกว่าตามคำเชิญก็ไม่ถูกนักเพราะเป็นเรวัตเองที่อยากรู้เหตุการณ์ทั้งหมด ยิ่งเห็นน้องสาวตนที่นอนหลับอุตุบนเตียงยิ่งกระตุ้นอารมณ์เขา
“ใจเย็นก่อนค่ะ” มิรันตีกระตุกมือเขา
“ฉันมีเรื่องจะคุยกับแก” เรวัตพยายามข่มอารมณ์
“อืม ฉันก็มีเรื่องจะคุยกับแก ฉันว่าเราไปคุยกันห้องข้างๆ ดีกว่า” อัษฎางค์ไม่รอให้เขาตอบรับหรือปฎิเสธ เดินนำไปที่ห้องของรดา
มิรันตีจะเดินตาม แต่เรวัตห้ามไว้ อ้างว่าเป็นเรื่องที่เขาต้องคุยกับอัษฎางค์
“นายมีอะไรจะคุยกับฉัน เรวัต”
“ฉันอยากรู้เรื่องเมื่อคืนนี้” พี่ชายของรดาร้อนจนแทบทนไม่ไหว หากอัษฎษงค์เอามือล้วงกระเป๋าแล้วยักไหล่
“ก็ไม่มีอะไรมาก น้องสาวนายโดนวางยา”
นั่นไง ผิดจากสมาร์ทว่าไว้ที่ไหน
“ไอ้เลว” เรวัตสบถแล้วเงื้อหมัดหมายจะชกอัษฎางค์ หากอัษฎางค์รับหมัดลุ่นๆ ไว้ได้
“นายนี่อารมณ์ร้อนไม่เปลี่ยนเลยนะ ฟังให้จบก่อนสิ” นี่ล่ะคือสิ่งที่อัษฎางค์ถนัด ตีรวนชวนทะเลาะ แล้วก็ยั่วโมโหคนอื่น
////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////
ครั้งนี้ไม่ได้ตอบคอมเม้นท์นะคะ เพราะกำลังจะกลับบ้านไปเลือกตั้งค่ะ :)
อย่านอนหลับทับสิทธิ์กันนะคะ
รักหวานหอม (อี๋)
สมาร์ทเหลือบมองดูกระจกเป็นระยะ ชายหนุ่มพึงพอใจที่เห็นรถคันงามขับตามมาห่างๆ ในขณะที่รดาค้นหาซีดีเพลงรักหวานหอมของฟินในกล่องใส่ซีดี
“วันนี้ตัวไม่ไปทำงานหรือ”
“ถ้าไปแล้วจะมานั่งให้เธอถามหรือไง”
“นี่ เราถามดีๆ นะอย่ามากวน” รดาแยกเขี้ยวขู่ฟ่อ
“เออๆ กวนนิดกวนหน่อยทำจริงจังไปได้ เดี๋ยวตีนกาก็ขึ้นหรอก แก่เร็วไม่รู้ด้วยนะ เออ เราลืมไปว่าเธอน่ะเป็นยัยแก่ขี้บ่น”
“เอ๊ะ นายสมาร์ทกวนเราอีกแล้ว นี่ถ้าตัวไม่ขับรถอยู่ล่ะก็ รับรองเราเตะก้นตัวแน่ๆ “
“ขอโทษครับผม อ่ะๆ ไม่กวนก็ไม่กวน”
“นี่ไง เจอแล้ว” รดาชูซีดีในตลับสีหวานให้สมาร์ทดู
“ลองเอาไปฟังไหมล่ะ”
“มันไม่สะดวกอ่ะ ตัวไม่ได้ดาวน์โหลดมาหรือ”
“มีสิ แต่อยู่ที่ห้องนะ”
“อืม งั้นขอเก็บไว้ในอีสุนทรีก็แล้วกันนะ” เธอหมายถึงไอพอดสีแดงคู่กาย พูดแล้วก็ค้นหาสายยูเอสบีในกระเป๋า คิ้วบางขมวดเมื่อหามันไม่เจอ
“สงสัยไม่ได้เอาสายใยรักมา” รดาพึมพำอย่างเสียดายทำให้คนที่ขับรถอยู่กระตุกยิ้มอย่างพึงพอใจ
“งั้นเดี๋ยวไปยืมของไอ้สุนทรก็ได้” สมาร์ทพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลไอพอดสีเขียวของเขาที่ถอยพร้อมกับของเธอ
“อ่า งั้นไม่เกรงใจแล้วนะ”
ชายหนุ่มพยักหน้าหงึกๆ ตอบรับ
“เราว่าไอ้สุนทรคงคิดถึงอีสุนทรีเนาะ” รดาหัวเราะคิกกับคำพูดติดตลกของสมาร์ท
ตอนที่เป็นแฟนกันเธอจะตั้งชื่อให้กับของใช้ทั้งของเขาและของเธอให้คล้องจองกันมันก็ดูน่ารักอยู่หรอก แต่พอเลิกกันแล้วมันฟังดูจั๊กจี้ยังไงไม่รู้
“แล้วพี่พุงโลกับน้องก้นป่องล่ะ” รดาถามถึงปลาทองที่เธอซื้อให้เขาในวันวาเลนไทน์
“เล่นน้ำสบายดีที่บ้านน่ะสิ”
สมาร์ทโกหกรดาเพราะวันที่เธอปฏิเสธเขาอย่างไม่มีเยื่อใย สมาร์ทเมามายไม่เป็นผู้เป็นคนหลายวันจนพี่พุงโลเซย์บายน้องก้นป่อง จากนั้นไม่นานวิญญาณก็ออกจากร่างน้องก้นป่อง ทั้งคู่หงายท้องลอยเท้งเต้งในโถแก้วใบสวย
เมื่อถึงที่หมายสมาร์ทยังรักษาภาพพจน์ของสุภาพบุรุษ เขาเปิดประตูรถให้เธออย่างสุภาพแถมยังสะพายกระเป๋าให้เธออีกต่างหาก
“มาส่งแล้วก็กลับไปสิ ไอ้บ้าเอ๊ย” อัษฎางค์พยายามข่มอารมณ์ปุดๆ ที่พุ่งเดือดในใจ
โชคไม่เข้าข้างเขานักเมื่อที่จอดรถที่หมายตาไว้ถูกตัดหน้าไปเส้นยาแดงผ่าแปดทำให้เขาต้องเหยียบเบรกตัวโก่งแล้วตามด้วยเสียงบีบแตรดังลั่น
“ไอ้บ้าเอ๊ย” อัษฎางค์สบถอย่างหัวเสีย
ถ้ารดาจะไปทานข้าวกับแฟนเก่าเขาก็ไม่ว่าอะไร แค่คนรู้จักกันสองคนมาพบปะสังสรรค์ นัดทานข้าวกันแล้วแยกย้ายกันไปก็คงดี เขาพอจะเข้าใจ แต่นี่มันล้ำเส้นเกินไปแล้ว!
อัษฎางค์ก้าวดุ่มๆ ตามคนทั้งคู่ไป หากแต่ช้ากว่ารดาที่สมาร์ทที่ขึ้นลิฟท์ไปแล้ว ชายหนุ่มหัวเสียไปสอบถามห้องจากพนักงานหน้าเคาท์เตอร์ แต่แล้วอัษฎางค์ต้องหัวเสียอีกเท่าตัวเมื่อเคาะห้องแล้วไร้วี่แววของคนทั้งคู่ หัวสมองของเขาประมวลผลว่าถ้ารดาไม่อยู่ที่ห้องตัวเอง ต้องอยู่ที่ห้องของสมาร์ท
พนักงานสาวยิ้มน้อยๆ เพราะหลังจากที่เจ้านายของตัวหนีบผู้ชายขึ้นห้องไปคนหนึ่งแล้ว ก็มีอีกหนึ่งหนุ่มมาตามมา เสียดายที่คลาดกัน ไม่อย่างนั้นเธอคงได้เจอเรื่องมันส์ ทว่าเรื่องนี้คงเป็นเรื่องที่คุยกันสนุกปากอีกหลายวัน
“ห้อง999ค่ะ”
“999 เปิด-เจอ-ตาย”
รดายังทำตัวเป็นเพื่อนที่ดี หารู้ไม่ว่าแฟนขี้หวงของเธอเดือดเนื้อร้อนใจที่เห็นเธอหัวร่อต่อซิกเข้ากับโรงแรมกับผู้ชาย ที่สำคัญผู้ชายคนนั้นยังได้ชื่อว่าเป็นแฟนเก่าเสียด้วย
‘เพราะว่าเธอรักเขา ถ่านไฟเก่ายังร้อน รอวันรื้อฟื้น แล้วคนมาทีหลัง ต้องทนต้องฝืน อย่างฉันคนนี้ เธอต้องบอกวิธีให้ทำใจ’
เพลงสุดฮิตของป๋าเบิร์ด ซุปเปอร์สตาร์เมืองไทยดังจากโทรศัพท์มือถือของผู้ชายหุ่นอาเสี่ย อ้วน เตี้ย ลงพุง เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมามองว่าใครโทรมา แล้วจึงรับ
“ฮาโหล อั๊วใกล้ถึงเลี้ยว รอแป๊บนึง” อาเสี่ยวางโทรศัพท์เป็นเวลาเดียวที่ลิฟต์เปิด เขาหันมายิ้มให้อัษฎางค์ตามมารยาท
“ไอ้บ้าเอ๊ย” อัษฎางค์ด่าตามหลัง
ทำไมมันต้องใช้เพลงนี้ด้วยวะ ตอนนี้ป๋าเบิร์ดออกอัลบั้มใหม่จะเปลี่ยนเป็น ‘Too Much So Much Very Much’ หรือ ‘อย่าทำอย่างนี้ไม่ว่ากับใคร’ ก็ได้นี่!
ถัดไปอีกสามชั้น ด้วยอารมณ์โกรธกรุ่นๆ อยู่ อัษฎางค์จึงเตะถังขยะที่มุมตึกจนกลิ้งเค้เก้
“ฮึ่ม เพราะแกคนเดียว”
ฝ่ายสมาร์ทเองก็นับเวลาถอยหลัง เมื่อสักครู่เขาเห็นอัษฎางค์แวบๆ ถ้าอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาแผนของเขาก็นับว่าประสบความสำเร็จ
“นี่ยังเก็บสมบัติบ้าไว้อีกหรอ” เขาถามถึงสิ่งของในกระเป๋าหนังแคนวาสประจำกาย
“อือ สมบัติบ้าๆ ยังเต็มกระเป๋าเลย นี่เพิ่งจัดนะ เอาของออกไปตั้งหลายอย่างแล้วด้วย”
“แล้วเอาอะไรออกไปแล้วบ้าง” สมาร์ทถามอย่างสงสัย เมื่อเขาลองกระเป๋าสีขาวประดับพู่อันใหญ่ก็พบว่ามันยังหนักเกินมาตรฐานอยู่ดี
“ก็ Chupa Chups ป๊อกกี้ น้ำแอปเปิ้ลขาวสองกล่องแล้วก็นมตราหมีอีกหนึ่งกระป๋อง”
“โหยแม่คุณแม่คุณมีแต่ของกินนะ”
รดาก้มหน้างุดด้วยความอาย นี่ขนาดเธองุบงิบคำตอบว่ายังบอกไปไม่หมดเลยกับชาเขียว และบัตเตอร์โรลอีก
“ก็กองทัพต้องเดินด้วยเท้าไง เราไม่ปล่อยให้ท้องว่างหรอก”
“ครับ กองทัพต้องเดินด้วยท้อง” สมาร์ทเห็นด้วยกับกับอดีตแฟนสาวที่นิ่งเป็นหลับขยับเป็นกิน และเขาเองก็ไม่เห็นประโยชน์กับการทะเลาะกับเธอ จึงตัดบทเออออห่อหมกไปกับหล่อน
“ตัวจะอยู่อีกกี่วันล่ะ”
“ก็คงสักห้าวัน” สมาร์ทตอบอย่างไม่สนใจนักขณะเปิดประตูห้อง
“เดี๋ยวใช้อีผลาญเงินไปก่อนนะ เราขออาบน้ำก่อน รู้สึกเหนียวตัว” สมาร์ทชี้ไปทางโน้ตบุ๊คที่เจ้าตัว Sleep ทิ้งไว้บนโต๊ะ
รดาถือโอกาสสำรวจห้องพักของสมาร์ทเพราะโรงแรมแห่งนี้เป็นโรงแรมสามดาวแห่งใหม่ที่เปิดตีตลาดโรงแรมห้าดาว ธุรกิจครอบครัวของเธอนั่นเอง
เป็นเวลาเดียวกับที่ลิฟท์เปิดออก อัษฎางค์เดินหาหมายเลขห้องอย่างร้อนรน
เพียงครู่เดียวหญิงสาวก็ถ่ายภาพทุกซอกทุกมุมของห้องพักไว้ได้จึงกลับมานั่งเล่นโน๊ตบุ๊ค ไม่ทันที่รดาจะให้อีสุนทรีได้เจอสายใยรักของไอ้สุนทร เสียงเคาะประตูทำให้มือบางชะงักค้าง มองประตูอย่างลังเลว่าจะเปิดดีหรือเปล่า
“สมาร์ทอาบน้ำหรือยัง ถ้ายังไม่ได้อาบไปเปิดประตูทีสิ”
“จะบ้าหรือไง ฉันโป๊อยู่ เธอนั่นแหละไปเปิด” สมาร์ทตะโกนแข่งกับเสียงฝักบัว รดาจึงต้องลุกไปเปิดประตูอย่างไม่มีทางเลี่ยง
“อ้าวพี่ธาม” หญิงสาวทำหน้าเหลอหลา...เขามาที่นี่ทำไม
“กลับกับพี่เดี๋ยวนี่” นอกจากเขาจะเป็นพวกมือไวใจเร็วแล้วยังเป็นคนปากว่ามือถึง มือคร้ามคว้าหมับที่แขนของหญิงสาว
“ปล๊อย นะไอ้พี่ธามบ้า รดายังไม่กลับ” เธอร้องอย่างตกใจ แล้วใช้มืออีกข้างคว้าขอบประตูได้ทัน
มือไวปานวอก!!?
“ไม่รู้ล่ะ ยังไงก็ต้องกลับ” อัษฎางค์ยังยืนยันคำเดิม
“ใครมาหรือ” สมาร์ทที่เพิ่งออกจากห้องน้ำด้วยสภาพที่ไม่เรียบร้อยมากนักมองรดาที่ยื้อยึดกับอัษฎางค์หน้าประตูห้อง เมื่อเห็นว่าเป็นใครจึงเชื้อเชิญให้เข้ามาในห้อง “อ้าว คุณอัษฎางค์นั่นเอง เชิญเข้ามาข้างในก่อนครับ”
สมาร์ททำหน้าที่เจ้าบ้านเต็มที่ พร้อมกับเสิร์ฟน้ำ เสิร์ฟท่าให้เรียบร้อย
“เรามีบลูเบอร์รี่ชีสเค้กนะ ตัวจะกินไหม”
เมื่อได้ยินชื่อขนมหวานสุดโปรด รดาเกือบจะถลาไปยังตู้เย็นที่สมาร์ทเปิดทิ้งไว้ หากแต่มือแข็งปานคีมเหล็กของอัษฎางค์คว้าไว้ทัน หญิงสาวจึงเอ่ยรับ
“พี่ให้เวลาสิบนาที” จู่ๆ คนที่นั่งเป็นม้าหมากรุกก็เอ่ยขึ้นทำให้หญิงสาวหันขวับมามอง
“โหย บ้าหรือเปล่า...เอ่อ ก็ได้”
แรกทีเดียวเธอจะว่าอะไรเขาสักหน่อย โทษฐานไม่รู้กาลเทศะว่าเธอชอบที่จะละเลียดขนมเค้กมากกว่าสวาปามมันโดยไม่รู้รสชาติ หากแต่สายตาเด็ดขาดเหมือนวันที่ไปรับเธอที่บ้านไม่มีผิด
บลูเบอร์รี่ชีสเค้กสองชิ้นถูกจัดการหมดไปในเวลาไม่นาน
“อร่อยไหมคะ”
“ก็ดี” ชายหนุ่มยังคงบอกเสียงห้วนทำเอาคนถามหน้าเจื่อน
“เราจัดการมันใส่ในอีสุนทรีแล้วนะ” สมาร์ทบอกหลังจากที่โหลดไฟล์เพลงใส่ในไอพอดของเธอ
อัษฎางค์ขมวดคิ้วกับคำพูดที่เป็นโค้ดลับของทั้งคู่ ชายหนุ่มไม่รู้หรอกว่า ‘อีสุนทรี’ คืออะไรจนกระทั่งรดาสะบัดตัวปลิว (ทั้งที่หุ่นไม่ค่อยอำนวยให้ปลิวได้สักเท่าไร) ไปเอาไอพอดมาเก็บไว้ในกระเป๋า
“ไม่ต้องล้างหรอก เดี๋ยวเราจัดการเอง” สมาร์ทบอกรดาที่จะเก็บจานกับช้อนไปล้าง
“เสร็จธุระแล้วใช่ไหม”
“ค่ะ งั้นเรากลับก่อนนะ ขอบคุณสำหรับเพลงแล้วก็ดูแลพี่พุงโลกับน้องก้นป่องดีๆ ล่ะ” รดาไม่ลืมกำชับสมาร์ทให้ดูแลลูกรักทั้งสอง
“อือๆ ไว้เจอกัน”
ไม่ให้เจอแล้วโว๊ย ...อัษฎางค์คิดในใจ (ดังๆ) นี่ตั้งแต่เรวัตกลับมาเขาก็อดใกล้ชิดกับยอดยาหยีของเขาแล้ว แต่นี่มีแฟนเก่าเข้ามาอีก ยิ่งยากไปใหญ่
////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////
ในที่สุดรดาก็เดินตามอัษฎางค์กลับห้องอย่างหงอยๆ เขาไม่พูดกับหล่อน (อีกแล้ว)
งอนอะไรอีกล่ะเนี่ย เวรกรรม นี่ฉันต้องง้ออีกแล้วหรอ เฮ้อ เซ็งๆๆๆๆ ฉันไม่ผิดสักหน่อย เรื่องไรฉันต้องง้อด้วย
รดาโชว์เหนือชั้นกว่า เดินไปชนไหล่เขาแล้วไขกุญแจห้อง อัษฎางค์เซไปนิดเพราะไม่ได้ตั้งตัว
“หมั่นไส้ ชิ”
“กระทบไหล่ดารารึไง” อัษฎางค์ถามอย่างอารมณ์ดี
“เปล๊า มันบังเอิญ” รดายังลอยหน้าลอยตาตอบ ขณะที่ปรับอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศให้ลดลง “ร้อนเนาะ พี่ธามร้อนป่ะ”
“ก็สบายๆ ไม่ร้อนไม่หนาว”
ก็ท่าทางเขาดูสบายจริงๆ นั่นแหละ กระดุมทุกเม็ดยังอยู่ในสถาพเดิม หากปกติที่เขาเป็นคนขี้ร้อนจะปลดกระดุมสองเม็ดแรกออกโชว์แผงอกเซ็กซี่ ทรมานใจหญิงจิตป่วนอย่างเธอ
“งั้น รดาจะอาบน้ำพี่ธามรออยู่ตรงนี้ อย่าย้ายก้นไปไหนล่ะ” รดาสั่งทิ้งท้ายเพราะรู้สึกว่าร้อนกว่าปกติ
อัษฎางค์คลี่ยิ้มอย่างอ่อนโยนตามหลังรดา...หมายความว่าเธอไว้ใจเขาว่าเขาเป็นสุภาพบุรุษพอหรือเปล่านะ เขาไม่ใช่คนดีมากนัก หากแต่ขอเป็นสักครั้งจะเป็นไรไป ที่สำคัญเขาไม่อยากทำลายความไว้วางใจของเธอ
ร่างอวบหยิบเสื้อคลุมอาบน้ำในตู้ ขาแข้งแทบหมดแรง รดาวิ่งไปเปิดตู้เย็นคว้าน้ำเย็นมาเปิดแล้วดื่มโดยไม่ใส่แก้ว ชายหนุ่มมองอย่างแปลกใจ เพราะปกติเธอไม่ได้เป็นคนมักง่ายอย่างนี้
“รดาเป็นอะไรหรือเปล่า” เขาถามเมื่อเห็นหน้าขาวๆ ของเธอแดงระเรื่อแถมเหงื่อเม็ดเป้งที่หน้าผาก
“อ๋อ ไม่เป็นไรหรอก ร้อนจังเลยนะคะ”
พูดไม่ทันจบประโยครดาก็วิ่งเข้าไปในห้องน้ำหญิงสาวเปิดฝักบัวให้สายน้ำชำระความร้อนให้จางไป
“รดาเป็นอะไร” อัษฎางค์เห็นอาการแปลกๆ ของหญิงสาวจึงอดเป็นห่วงไม่ได้
ชายหนุ่มเขย่าตัวเธอที่ทำตาลอยๆ มองเขาอย่างหวานเชื่อม มือบางสะเปะสะปะมากอดเขาไว้ สายน้ำกับร่างเย้ายวนใจที่เบียดอยู่นี้กระตุ้นอารมณ์อารมณ์ชายหนุ่ม
“ไม่รู้ รดาแค่ร้อนๆ แล้วก็อยากกอด...อยากจูบพี่ธาม” ไม่ว่าเปล่าริมฝีปากอวบอิ่มของรดาบดเคล้ากับริมฝีปากบางของอัษฎางค์ทันที
ในนาทีนี้เขารู้แล้วว่ารดาเป็นอะไร
////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////
“มิไม่เชื่อเด็ดขาด หัวเด็ดตีนขาดยังไงมิก็ไม่เชื่อ” มิรันตียังคงยืนยันคำเดิมว่าเธอไม่มีทางเชื่อว่าอัษฎางค์จะใช้ยาประเภทนั้นกับรดา
ก็ส่วนใหญ่จะสมยอมด้วยกันทั้งนั้น
“แต่ผมว่าเราควรไปดูให้เห็นกับตา” เรวัตไม่อาจอยู่นิ่งได้หลังจากที่เขาโทรหาทั้งอัษฎางค์ และรดาที่ต่างก็ไม่รับโทรศัพท์กันทั้งคู่
“งั้นมิไปด้วยนะคะ”
“ไม่ได้ คุณนอนลงไปเลยไม่อย่างนั้นอย่าหาว่าผมใจร้ายไม่ได้นะ” เรวัตกดมิรันตีให้นอนบนเตียงเมื่อหญิงสาวทำท่าจะลุกขึ้น
“งั้นนายก็ไปดูสองคนนั้นก็ได้”
“ก็ไม่ได้อีกนั่นแหละ ถ้าผมไปแล้วใครจะอยู่กับคุณ ที่สำคัญคุณเองไม่ใช่หรือที่กลัวผีอย่างกับอะไรดี” ชายหนุ่มยกจุดอ่อนของคนที่คลุมผ้าคลุมถึงคอทำให้มิรันตีพยักหน้าหงึกๆ
“รอไว้พรุ่งนี้ตอนคุณออกจากโรงพยาบาลก็แล้วกัน ไว้เราค่อยไปดูกัน ถ้าเกิดว่ามันเป็นเรื่องจริงผมไปตอนนี้ก็ช่วยอะไรรดาไม่ได้” เรวัตซบใบหน้ากับฝ่ามือ เขาถอนหายใจเมื่อคิดถึงภาพที่อัษฎางค์ถาโถมใส่ร่างรดาราวกับสัตว์ป่า
“แต่มิว่าพี่ธามไม่ใช่คนอย่างนั้นนะ” มิรันตียังคงยืนยันความบริสุทธิ์ให้ผู้เป็นพี่ชาย
“งั้นผมจะวัดใจนายนั่น ถ้าเกิดว่าเป็นอย่างนายสมาร์ทว่าล่ะก็...ผมเชือดพี่ธามของคุณแน่”
“นายต้องสัญญาก่อนว่าถ้าไม่มีอะไรเกิดขึ้น นายจะไม่ขัดขวางพี่ธามกับรดา”
ชายหนุ่มพยักหน้าแทนคำตอบ
ก็ได้วะ ดูท่าแล้วหน่วยก้านมันดีไม่เบา ที่สำคัญ น้องสาวเขาทำเอาเสือสิงห์กระทิงแรดเผ่นแนบ กลับขอร้องไม่ให้เขาขัดขวางความรัก
“งั้นคุณได้น้องเขยชื่ออัษฎางค์แน่นอน”
นี่เขาคิดถูกไหมหนอที่เอาน้องสาวเขามาเดิมพันในเกมส์นี้ ถ้าไม่เกิดเรื่องราวเลวร้ายขึ้นล่ะก็เขาจะยอมลงให้ศัตรูตัวฉกาจสมัยไพ่ Dragon Ball
////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////
เสียงเปิดกระป๋องเบียร์ดังขึ้นแทนเสียงปรบมือให้กับแผนการที่ลุล่วงไปเกือบสมบูรณ์แล้วตามด้วยเสียงหัวเราะในลำคอ สมาร์ทมองทิวทัศน์ยามค่ำคืนของเชียงใหม่ผ่านกระจก รสชาติของความสำเร็จย่อมหอมหวานเสมอ
เป็นไปตามแผน!!
หลังจากที่โทรศัพท์หาเรวัต ใส่สีตีไข่ว่าหลังจากที่รดาดื่มเครื่องดื่มที่อัษฎางค์เอาให้ไม่นานก็เห็นเธอบ่นว่าร้อนแล้วอัษฎางค์ก็พาเธอกลับห้องไป แค่นี้พี่ชายของรดาก็แทบเต้น รอฟังผลว่าเรวัตจะเอาฝ่ายนั้นจะเลือดตกยางออกหรือเปล่า โทษฐานข่มเหงน้องสาวสุดที่รักของตน
สมาร์ทเจ็บใจนักที่ทันทีที่เรวัตกลับถึงประเทศไทยก็โทรศัพท์มาถามไถ่ตนราวกับคาดคั้นให้เขายืนยันว่าเลิกกับรดา และจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับเธอ
ในเมื่อรดากำลังจะเป็นของคนอื่น เขาจะไม่ยอมเป็นคนแพ้ ถ้าเขาไม่ได้ ใครหน้าไหนก็ไม่ได้เหมือนกัน แน่ล่ะว่าผ่านคืนนี้ไปรดาจะไม่ใช่สาวบริสุทธิ์ หากแต่พรุ่งนี้เขาจะเป็นแฟนเก่าที่แสนดีที่คอยให้กำลังใจ อยู่เคียงข้างเธอ ไม่ให้ไปสนใจผู้ชายพันธุ์นั้น แม้ว่าเธอจะเคยเป็นของคนอื่นมาก่อน หากอนาคตเธอต้องเป็นของเขาเท่านั้น
เขายอมให้คนอื่นตราหน้าว่า ‘กินของเหลือเดน’ แต่เพื่อแลกกับการที่จะเก็บเธอไว้ให้เป็นของเขาคนเดียว เขายอม!
“มึงทำจริงเหรอวะ” ฟินถามสมาร์ทที่โยนกระป๋องเบียร์ลงในถังขยะ
“อือ ต้องขอบใจยาของแกจริงๆ “
“มึงมันโง่ที่เหลือไข่แดงไว้ให้ไอ้นั่นเจาะ” สำหรับเขาผู้หญิงก็เปรียบเหมือนสินค้าที่ต้องลองใช้ก่อน แล้วเขาก็ชอบที่จะเป็นคนแกะกล่องพิสูจน์ด้วยล่ะสิ
“กูมันโง่ กูมันโง่...โง่” จู่ๆ คนที่เมาได้ที่หัวเราะอยู่ก็ร้องไห้ออกมาอย่างไม่อาย
“มึงนี่ท่าจะบ้า” นักร้องหนุ่มส่ายหัวกับการกระทำของเพื่อน เขาเดินไปหยิบเบียร์ในตู้เย็นแล้วโยนให้สมาร์ทที่ยังคงนั่งบนเก้าอี้แล้วใช้เท้าพาดโต๊ะ
‘ยาปลุกเซ็กส์’ เป็นตัวช่วยที่ดีหากหน้าตา และคารมคมคายของเขาใช้กับผู้หญิงที่มีมาให้เลือกไม่หวาดไม่ไหว และแม้แต่กับผู้หญิงที่เขาสนใจจะนอนด้วย เพราะเมื่อพูดดีๆ ไม่รู้เรื่อง น้อยครั้งนักที่เขาต้องใช้ตัวช่วยที่ดี ที่สำคัญเขาคงทนไม่ได้ที่จะยอมให้ ‘ผู้หญิง’ ที่หมายตาไว้หลุดมือไปง่ายๆ หรอก
ฟินมองคนที่ลงไปนอนคร่ำครวญบนพื้นห้องด้วยสายตาที่สมเพช ริมฝีปากกระตุกคล้ายยิ้มเยาะ...ฝีมือมันคนละชั้นกัน
////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////
อัษฎางค์ได้หายใจสะดวกหลังจากจัดการเรื่องวุ่นๆ เสร็จเกือบเช้า หลังจากแม่ตัวดีโดนฤทธิ์ยาเข้าไป เขาต้องฝืนกับความต้องการของตัวเอง เขาไม่ใช่พระอิฐพระปูนสักหน่อยที่จะได้ไม่รู้สึกรู้สาอะไร รดาเองก็ไม่ให้ความร่วมมือสักเท่าไหร่ เมื่อเขาขืนตัวออกเธอก็จัดการดึงทึ้งเสื้อผ้าตัวเอง เขาต้องลากเธอออกจากห้องน้ำในสภาพที่เปียกมะลอกมะแลกด้วยกันทั้งคู่ กดเธอไว้กับเตียง
‘รดาต้องทนให้ได้นะ’
‘พี่ธามช่วยรดาด้วย รดาทนไม่ได้แล้ว’
‘อดทนหน่อยนะคนดี อีกนิดเดียวเท่านั้น’ ชายหนุ่มกอดเธอไว้แนบอก
‘ไม่รักรดาแล้วใช่ไหม รดาต้องการพี่ธามนะ’
กว่ารดาจะสงบลงได้ก็เรียกเหงื่ออัษฎางค์ได้พอสมควร อัษฎางค์จัดการเปลี่ยนชุดให้เธอเกรงว่าจะไม่สบายที่ต้องนอนไปทั้งๆ ที่ตัวเปียก นั่นคืออีกเหตุผลหนึ่งที่เขาต้องเปิดห้องข้างๆ กันนั้น เพราะการที่ทั้งเขาและเธออยู่บนเตียงทั้งที่ตัวเปียกทำให้ทั้งคู่ไม่อาจนอนบนฟูกเปียกๆ ได้
อัษฎางค์จัดการให้รดาสงบได้เกือบรุ่งสาง จากนั้นชายหนุ่มก็ออกจากโรงแรมไปจัดการตัวต้นเหตุที่บังอาจประสงค์ร้ายผู้หญิงของเขา กว่าอัษฎางค์กลับมาก็สายแล้ว
“พี่รักรดานะคะ”
ชายหนุ่มบอกแล้วจุมพิตหน้าผากเธอเบาๆ ปัดผมหน้ามาที่ยาวจนเกือบทิ่มตาแล้ว นี่ถ้าเป็นเมื่อก่อน เขาคงจัดการเธอจากยาตัวร้ายนั่นด้วยวิธีที่เขาถนัด แต่นี่กับเธอ เขาไม่อยากทำลายเธอด้วยวิธีนี้
////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////
‘ลืมอะไรทิ้งไว้วะ’ สมาร์ทนึกว่าฟินจะลืมของทิ้งไว้แล้วกลับมาเอา เขาเดินโซเซไปเปิดประตูหลังจากที่ดื่มหนักจนถึงเช้า
หากเมื่อเห็นผู้มาเยือนทำให้เขาตื่นเต็มตา อัษฎางค์ทำหน้าถมึงทึงมองเขาอย่างแค้นๆ ไม่ทันได้พูดอะไร หมัดหนักก็ประเคนเข้าที่ใบหน้าอย่างจัง สมาร์ทเองที่เมาจนไม่มีแรงต่อสู้ เขาทำไม่ได้แม้แต่จะปัดป้องหมัดนั้น เมื่อระบายความแค้นกับหน้าหล่อๆ จนหายแค้นเป็นผลให้หน้าของสมาร์ทบวมปูดอย่างเห็นได้ชัด
‘มึงวางยารดาเมื่อไหร่’ อัษฎางค์จึงถามเสียงเย็น
‘ยา...ยาอะไร ไม่รู้เรื่อง’ สมาร์ทหลบสายตาขณะที่ตอบ
‘มึงไม่ตอบใช่ไหม’ สิ้นคำพูดตามมาอัษฎางค์ชกเปรี้ยงเข้าที่คางสมาร์ทสองทีซ้อน ทั้งมือทั้งเท้าประเคนจนเจ้าของห้องล้มกองกับพื้น ชายหนุ่มคร่อมร่างสมาร์ท เงื้อหมัดจะซ้ำให้อีก แต่อีกฝ่ายทนไม่ไหว
‘ก็บอกแล้วไงว่าไม่รู้’
อัษฎางค์กระชากคอเสื้อ พร้อมกับหยิบวัตถุสีดำที่เหน็บไว้ที่เอว ลำกล้องปืนสีดำปลาบที่อัษฎางค์ใช้เป็นตัวช่วยชั้นดี
‘งั้นถามลูกปืนดูดีไหม’ อัษฎางค์กดปลายกระบอกปืนกับขมับของสมาร์ท
แค่เห็นปืนสมาร์ทก็ตาลีตาเหลือก กลืนน้ำลายเหนียวๆ อย่างฝืดคอ...เขาไม่น่าลูบคมอัษฎางค์เลย
‘บอกแล้วๆ อย่าทำอะไรผมเลย’ สมาร์ทแทบจะเป็นลมเมื่อเห็นมัจจุราชปลิดชีพตน
‘ถ้ามึงโกหก รับรองมึงตาย’
‘ก็ตอนที่คุณมานั่นแหละ’ คำตอบของสมาร์ททำให้อัษฎางค์ขมวดคิ้ว
‘ขนมเค้ก’ อัษฎางค์ถามอย่างแปลกใจ แต่จะเป็นไปได้อย่างไรในเมื่อเขาก็รับประทานกับรดาคนละชิ้นนี่นา ‘น้ำเปล่า!!’
รดาง้ออัษฎางค์ด้วยเบียร์เย็นๆ ที่เต็มแน่นเอี๊ยดในตู้เย็น แน่ล่ะว่าอารมณ์กรุ่นๆ ถ้าได้เบียร์มาดับมันสักกระป๋องเป็นความคิดที่ดีเชียวล่ะ
‘ไอ้ระยำ’ เขากะจะซัดหน้าขาวๆ อีกที หากแต่ยั้งใจไว้ได้ทัน
กลัวมันตายซะก่อน!!
‘ถ้ามึงยุ่งกับรดาอีกล่ะก็ คราวนี้มึงไม่ตายดีแน่’
อัษฎางค์ประกาศกร้าวก่อนผลักสมาร์ทลงไปกองกับพื้นแล้วฝาก Free kick เข้าที่หน้าแข้งของมันอีกป้าบแล้วจากมา ไม่สนใจเสียงร้องโอดโอยราวกับถูกเชือดของอีกฝ่าย
ทางด้านรดาเพิ่งจะรู้สึกตัว หญิงสาวไม่คุ้นตานักกับห้องนี้นัก แต่ก็รู้ว่ามันเป็นห้องหนึ่งในโรงแรมของเธอนั่นเอง มือบางนวดที่ขมับเบาๆ พลางนึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืนก่อน
รดาจำได้ว่าเธอกลับจากห้องของสมาร์ทแล้วกลับห้องของตัวเองพร้อมกับอัษฎางค์ จากนั้นเธอร้อนจนทนไม่ได้ แถมยังถอดเสื้อผ้าปลำ้จูบอัษฎางค์อีกด้วย คิดถึงตรงนี้รดาก็หน้าแดง...แล้วหลังจากนั้นล่ะ?
เมื่อถลันลุกขึ้นนั่งผ้าห่มที่คลุมร่างเปลือยนั้นก็เลื่อนลงไปบนหน้าตัก ขณะเดียวกันอัษฎางค์เพิ่งออกห้องน้ำมา
“กรี๊ด” รดารีบเอามือปิดหน้าอกหน้าใจของตัวเอง
“โชว์แต่เช้าเลยนะ ผมไม่ถือหรอก” อัษฎางค์ว่าอย่างอารมณ์ดีแล้วเปลี่ยนเสื้อผ้าต่อหน้าเธอทำเอารดาหน้าม้านยกผ้าห่มมาคลุมโปงพร้อมกับหลับตาปี๋
“อ้าว พี่อุตส่าห์ให้รดามองบ้าง ไม่ดูหรอ จะได้หายกัน” คำพูดกลั้วหัวเราะของเขาทำให้หญิงสาวยิ่งอายไปใหญ่
สองครั้งแล้วนะ...สองครั้งแล้ว ที่เขาเห็นหน้าอกของเธอ
“ออกมาได้แล้ว พี่ไม่โป๊แล้ว” อัษฎางค์ดึงผ้าห่มออกกลัวว่ารดาจะหายใจไม่ออกน่ะสิ
“อ๊าย ไอ้พี่ธามบ้า อย่าดึ้ง อย่าดึงเซ่” หญิงสาวหวีดร้องเต็มเสียง
รดาลุกขึ้นนั่งพร้อมกับกอดผ้าห่มไว้แน่น มองคนที่นั่งยิ้มแป้นแล่นอย่างหงุดหงิด งั้นนี่ก็ต้องเป็นห้องของเขาน่ะสิ
“พี่ธามทำอะไรรดารึเปล่า” คำถามของเธอทำเอาคนถูกถามถอนหายใจเฮือกใหญ่
“เปล่า...ก็แค่”
“แค่แตะนิดแตะหน่อย” รดาพูดอย่างรู้ทัน
เธอรู้อยู่หรอกว่าเวอร์จิ้นของเธอยังอยู่ แต่เธอไม่เชื่อว่าผู้ชายอย่างเขาจะนอนกอดเธอเฉยๆ ถึงรู้จักกันไม่นาน เธอก็รู้แกว
“อ่ะแน่นอน” อัษฎางค์ยอมรับอย่างไม่สะทกสะท้าน แถมยังยักคิ้วให้เธออีก
หญิงสาวทำท่าจะลุกจากเตียง หากอัษฎางค์กดเธอไว้ไม่ให้ลุก
“นอนพักก่อนเถอะ ไว้สายๆ ก่อนค่อยกลับห้อง”
“อือ แล้วสมาร์ท” เธอถามอย่งนึกขึ้นได้
“มันนั่นแหละตัวดี ไม่รู้สิท่าว่ามัน...บลา...บลา” ชายหนุ่มจัดการเล่าเรื่องทั้งหมดให้เธอฟัง
“หน็อย ไอ้เพื่อนเวร” รดาพูดอย่างโกรธๆ ทำท่าฮึดฮัดจนเขาหัวเราะ
“อย่ามาหัวเราะเยาะรดานะ”
“อ่ะๆ ไม่หัวเราะก็ได้ คนป่วยต้องนอนพักผ่อนเยอะๆ นะคะ นอนซะนะ” อัษฎางค์ห่มผ้าห่มให้เธออย่างเบามือ
มือบางกระตุกชายเสื้อเขาไว้ “แล้วพี่ธามจะไปไหน”
“พี่ก็จะนั่งเฝ้าเจ้าหญิงของพี่ไง”
อัษฎางค์นั่งยองๆ เพื่อจะให้ใบหน้าอยู่ในระดับเดียวกับคู่สนทนา รดาพยักหน้าเชิงรับรู้ก่อนจะจุ๊บแก้มเขาฟอดใหญ่
“รักพี่ธามจังเลย” หญิงสาวไม่รอดูผลงานของตน รีบล้มตัวนอนพร้อมกับผลินหลังให้อีกต่างหาก
ถ้ารดาหันมาจะเห็นใบหูแดงๆ ของชายหนุ่ม ก็ปกติเขาจะเป็นฝ่ายรุก ไม่ใช่เธอที่เริ่มก่อน พอเจอไม้นี้ทำเอาคนที่โดนขโมยหอมแก้มทำหน้าไม่ถูก
////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////
เมื่อแพทย์อนุญาตให้มิรันกลับไปพักฟื้นที่บ้านได้ เรวัตขับรถพาเธอกลับโรงแรมด้วยอาการร้อนรน เมื่อคืนชายหนุ่มแทบไม่ได้นอนเพราะมัวแต่คิดเรื่องของน้องสาวกับนายตัวร้าย
“อย่าทำหน้าแบบนั้นได้ไหมคะ” มิรันตีเห็นเขานั่งหน้านิ่วคิ้วขมวดตลอดทาง
“ก็ตอนนี้จะให้ผมทำหน้าอะไรได้ดีกว่านี้ล่ะ ผมไม่รู้ว่าจะกลับไปเจอข่าวดีหรือข่าวร้ายนี่”
“เอาน่า ยังไงเราก็หนีความจริงไม่พ้นหรอก” มิรันตีลองหยั่งเชิง “ถ้าเกิดว่าพี่ธามทำอย่างนั้นจริงๆ ล่ะคะ”
“รับรองได้ว่ามันไม่เหลือแน่”
คำพูดของเรวัตทำให้มิรันตีขนลุกซู่...ดุยิ่งกว่าไอ้ด่างหน้าปากซอย!
“ถามทำไม ไหนว่าเชื่อใจมันนักมันหนาไง”
“ก็มิอยากรู้ไงคะว่าคุณจะจัดการยังไงกับคนที่รังแกน้องสาวคุณ” ก็เธออยากรู้ว่าผู้ชายใจดีอย่างเขาจะจัดการอย่างไรกับผู้ชายพันธุ์นั้นที่ใช้ยาเลวๆ กับผู้หญิง
เพียงไม่นานเรวัตกับมิรันตีก็เดินทางมาถึงโรงแรม
เสียงเคาะประตูดังหลายครั้งติดกัน ทำเอาอัษฎางค์หัวเสียเพราะรดาเพิ่งจะหลับไป มือหนาที่จับลูกบิดชะงักเมื่อเห็นเรวัต
“เข้ามาก่อนสิ” เรวัตเข้ามาตามคำเชิญ จะเรียกว่าตามคำเชิญก็ไม่ถูกนักเพราะเป็นเรวัตเองที่อยากรู้เหตุการณ์ทั้งหมด ยิ่งเห็นน้องสาวตนที่นอนหลับอุตุบนเตียงยิ่งกระตุ้นอารมณ์เขา
“ใจเย็นก่อนค่ะ” มิรันตีกระตุกมือเขา
“ฉันมีเรื่องจะคุยกับแก” เรวัตพยายามข่มอารมณ์
“อืม ฉันก็มีเรื่องจะคุยกับแก ฉันว่าเราไปคุยกันห้องข้างๆ ดีกว่า” อัษฎางค์ไม่รอให้เขาตอบรับหรือปฎิเสธ เดินนำไปที่ห้องของรดา
มิรันตีจะเดินตาม แต่เรวัตห้ามไว้ อ้างว่าเป็นเรื่องที่เขาต้องคุยกับอัษฎางค์
“นายมีอะไรจะคุยกับฉัน เรวัต”
“ฉันอยากรู้เรื่องเมื่อคืนนี้” พี่ชายของรดาร้อนจนแทบทนไม่ไหว หากอัษฎษงค์เอามือล้วงกระเป๋าแล้วยักไหล่
“ก็ไม่มีอะไรมาก น้องสาวนายโดนวางยา”
นั่นไง ผิดจากสมาร์ทว่าไว้ที่ไหน
“ไอ้เลว” เรวัตสบถแล้วเงื้อหมัดหมายจะชกอัษฎางค์ หากอัษฎางค์รับหมัดลุ่นๆ ไว้ได้
“นายนี่อารมณ์ร้อนไม่เปลี่ยนเลยนะ ฟังให้จบก่อนสิ” นี่ล่ะคือสิ่งที่อัษฎางค์ถนัด ตีรวนชวนทะเลาะ แล้วก็ยั่วโมโหคนอื่น
////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////
ครั้งนี้ไม่ได้ตอบคอมเม้นท์นะคะ เพราะกำลังจะกลับบ้านไปเลือกตั้งค่ะ :)
อย่านอนหลับทับสิทธิ์กันนะคะ
เรียงอักษร
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 1 ก.ค. 2554, 17:29:44 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 7 ก.ค. 2554, 00:35:14 น.
จำนวนการเข้าชม : 2291
<< บทที่ 8 กลิ่นโรงพยาบาล | บทที่ 10 The Mommies Return >> |
saralun 1 ก.ค. 2554, 17:44:33 น.
เดินทางปลอดภัยนะคะ
เดินทางปลอดภัยนะคะ
ปูสีน้ำเงิน 1 ก.ค. 2554, 21:50:37 น.
ถ้านายเรวัตรู้เรื่องแล้วจะตามไปซ้ำไหม๊อ่ะ
ถ้านายเรวัตรู้เรื่องแล้วจะตามไปซ้ำไหม๊อ่ะ
lovemuay 2 ก.ค. 2554, 09:25:48 น.
นายสมาร์ทนิ น่าโดนอัดจริงๆ
นายสมาร์ทนิ น่าโดนอัดจริงๆ
angle101 5 ก.ค. 2554, 07:36:59 น.
ดีนะรับไว้ทัน คุงพี่ใจร้อนนนนจัง ^^
ดีนะรับไว้ทัน คุงพี่ใจร้อนนนนจัง ^^