...คาสบลังก้า...ดารัลฟาเดล...(จบแล้วค่ะ)
สืบเนื่องมาจากเรื่อง "อะรูซะตี...เจ้าสาวของผม"
เรื่องนี้จะเป็นเรื่องราวของลูกสาวสุดหวงของหมอดานีส
กับนาดา โดยเรื่องราวของคุณพ่อเมื่ิอครั้งก่อนนั้น
จะเป็นแนา "แต่งก่อนจีบ"
แต่สำหรับรุ่นลูกแล้ว จะเป็นแนว "จีบก่อนแต่ง"

ต้องมาคอยดูกันค่ะว่า จะจีบกันอย่างไร แล้วคุณหมอดานีส
ที่ต้องมารับบทบาทเป็นพ่อของลูกทั้งเจ็ดจะตกอยู่ในสภาพเช่นไร..
แล้วนาดาจะเป็นแม่แบบไหน...



เรื่องราวความรักที่เกิดขึ้นท่ามกลางบรรยากาศของเมือง
"คาสบลังก้า" หรือ "อัดดารัลบัยฎออ์"
ซึ่งแปลว่า..."บ้านสีขาว"
ดินแดนในฝันดั่งต้องมนต์เสน่หาแห่งโมร็อกโก...
กับดินแดนอันแสนอบอุ่นด้วยไอรักแห่งแดนอาทิตย์อุทัย...

พบกับเขาและเธอ...

...ดารัล...ฟาเดล...

หญิงสาวที่หัวใจเปี่ยมล้นไปด้วยความรักความอบอุ่น
จากครอบครัวอันแสนสุขและน่ารัก...
ชีวิตที่มีพร้อมทุกอย่าง ไม่เคยต้องการสิ่งใดอีกแล้ว
เพราะเธอพอใจทุกอย่างที่มีมาตลอด

จนเมื่อเจอกับเขา...ที่นั่น "คาสบลังก้า"
เขาทำให้เธอไม่อาจลบลืมมนต์เสน่หาของที่นั่นได้เลย
ไม่ว่าจะยามหลับหรือตื่น...

กับ

ชายหนุ่มที่เปี่ยมไปด้วยรูปเปลือกที่สวยงามสมบูรณ์
หากภายในใจนั้นยังคงโหยหาไออุ่นแห่งรักจากใครสักคน
มาเติมเต็มหัวใจกำพร้าของเขา...

แล้วเธอคือผู้ที่เขาค้นพบว่ามีทุกอย่างที่เขากำลังต้องการอยู่
ดังนั้น...ไม่ว่าจะต้องทำอย่างไร เขาก็จะปล่อยเธอ
ไปไม่ได้โดยเด็ดขาด!




Tags: หวานซึ้งโรแมนติก ดราม่า โมร็อกโก คาสบลังก้า ทะเลทรายซาฮาร่า ดารัล ฟาเดล โสภณพสุธ

ตอน: บทที่ 3 ไม่รู้ตัว


ไม่รู้ตัว


รุ่งเช้า ดารัลก็รีบตื่นขึ้นมาละหมาดแล้วลงไปช่วยมารดาทำอาหารเช้า
เพราะวันนี้เธอถูกคุณย่าสั่งห้ามไม่ให้ไปทำงาน…
ไอ้ครั้นจะให้นอนนานๆเธอก็ทำไม่ได้ เลยต้องลงมาทำโน่นทำนี่

แต่เม่ือก้าวขามายังห้องครัว ภาพเมื่อวานก็หวนกลับมาทันที
หญิงสาวชะงักขาแล้วหันไปมองรอบตัว…ทุกอย่างเงียบผิดปกติ
แม่ที่ควรจะอยู่ในห้องครัวก็ไม่ได้อยู่…

“ไปไหนกันหมดนะ…”หญิงสาวบ่นพึมพำ

“จ๊ะเอ๋พี่รัล…”ดารัลถึงกับสะดุ้งตกใจก่อนจะหันไปแยกเขี้ยวใส่น้องสาวคนเล็ก
ที่อยู่ๆก็กระโดดเข้าเกาะแขนเธออย่างกับลูกปาด

“เดี๋ยวนี้หัดเลียนแบบลูกปาดตั้งแต่เมื่อไหร่แล้วนะหะบีบี้…
ทำพี่ตกอกตกใจหมด…”

"คาเอรุน่ะเหรอ...ถ้าลูกปาดที่พี่รัลว่าคือกบเคโระก็น่ารักดีนะ..."น้องสาวเลิกคิ้วถาม
ก่อนจะยิ้มหน้าบานเฉ่ง ทำตาโตๆกระพริบปริบๆเลียนแบบกบเคโระใส่พี่สาว..

"ก็อยู่โซนจำพวกนั้นแหล่ะ ที่ญี่ปุ่นพี่ไม่เคยเห็น แต่ที่ฟาร์มสมุนไพรที่ไทยน่ะเพียบ
เดี๋ยวว่างๆจะพาไปทำความรู้จัก...จะได้ชวนเพื่อนใหม่มาเที่ยวที่นี่บ้าง"ดารัล
หยอกเย้าน้องสาวเล่น...

"กลัวจะโดนจับกินน่ะสิ..."หะบีบี้ทำหน้าสยองพองขนแทนลูกปาดของพี่สาว...

"เชื่อเถอะ...มันจะไม่โดนจับกินแน่ๆ...แต่ถ้าเป็นเธอล่ะไม่แน่
แม่กบเคโระ..."

"แหม...ให้น้องเป็นอะไรที่น่ารักแบบนี้ รับรองไม่มีเคือง..."

"ว่าแต่มาหาเรื่องพี่ทำไมเนี่ย..."

“ก็บีบี้เห็นพี่รัลยืนใจลอยเหมือนคอยใครอยู่ ก็เลยลองทดสอบดู
ปรากฎว่าใจลอยจริงๆ…”คนเป็นน้องยิ้มหยอกพี่สาวเล่นเห็นเป็นสนุก
โดยไม่รู้เลยว่าพี่สาวนั้นหน้าซีดแค่ไหน…

“พี่รัลโอเคมั้ยเนี่ย…”หะบีบี้เห็นสีหน้าพี่สาวไม่ค่อยจะดีนักก็เลย
ยกมือขึ้นอังหน้าผาก…

“ตัวรุมๆเหมือนจะเป็นไข้นะเนี่ย…ไปนอนพักเถอะ…
เรื่องการทำอาหารปล่อยให้เป็นหน้าที่พี่นีลกับพี่ฟ้าเถอะ…สองคนนั่นจะได้ลับฝีมือบ้าง…”
ดารัลยิ้มให้กับข้อเสนอแนะของน้องสาวคนเล็กสุด...

“ว่าแต่ทุกคนหายไปไหนกันหมดน่ะ…”

“หมายถึงใครคะ…”หะบีบี้เอียงคอถาม ทำตาแป๋ว...

“ก็…ทุกคนนั่นแหล่ะ…ป่านนี้แล้วไม่เห็นเจอ…หรือว่าพี่ตื่นไวไปหน่อย”

“อ๋อ…ถ้าเป็นพี่นีลกับพี่ฟ้า…เห็นอยู่ในห้องละหมาดกับพ่อ อ่านอัลกุรอ่านอยู่
น้าๆก็อยู่ด้วย…ส่วนแม่เห็นแว้บไปแว้บมาแถวๆนี้แหล่ะค่ะ…
อ้อ…ส่วนพวกผู้ชายยังไม่กลับค่ะ…เห็นโทรมาบอกว่าจะกลับมาตอนบ่ายๆโน่นแหน่ะ…

ส่วนคุณย่ากับคุณยายนั่งรถไปส่งพี่ฟาเดลที่สนามบินตั้งแต่ยังไม่เช้าตรู่…
โดยให้น้าชายขับรถให้”พอฟังน้องสาวมาถึงตอนท้ายประโยค
ดารัลก็ถึงกับขมวดคิ้วเป็นปม

“ไปสนามบิน ไปทำไม…”

“เห็นแม่บอกว่า เมื่อคืนน้าสาวของพี่ฟาเดลประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์
อาการสาหัสน่าดู พี่ฟาเดลก็เลยต้องรีบไปดูอาการน้าสาวที่ปากีสถานด่วนค่ะ…
พวกเราก็เลยกะจะมารวมตัวกันเพื่อละหมาดขอพรให้น้าสาวของพี่ฟาเดลปลอดภัย…
พ้นขีดอันตรายกัน…บีบี้กะจะไปปลุกพี่รัลแต่ไม่พบเลยลงมาตามหาดูข้างล่าง…”

ได้ฟังมาถึงตอนนี้ทำเอาดารัลใจหาย หญิงสาวจึงรีบขึ้นไปยัง
ห้องละหมาดพร้อมน้องสาว…เพราะก่อนหน้านี้เธอละหมาดซุบฮิ
ในห้องนอนส่วนตัวของตนเอง…


เมื่อละหมาดขอพรเสร็จ นาดีญา น้องสาวของเธอก็เดินมาหา
พร้อมกับยื่นซองจดหมายสีชมพูให้แล้วกำชับว่า

“คราวนี้พี่ต้องอ่านนะ…ห้ามขยำทิ้งเด็ดขาด ไม่งั้นโกรธกัน…”

“ของเขาเหรอนีล…”ดารัลถามน้องสาวในขณะที่มือก็เริ่มแกะซองจดหมายนั้น

“ใช่…พี่ฟาเดลเขาฝากนีลให้พี่ก่อนไปสนามบิน อุตส่าห์มาเคาะห้องน้อง…
แทนจะไปเคาะห้องพี่…นีลก็เลยถามว่าทำไมไม่ให้พี่รัลกับมือ
รู้มั้ยพี่ฟาเดลตอบมาว่าไง…”ดารัลส่ายหน้า

“เขาบอกว่าไม่อยากรบกวนเวลาพักผ่อนของพี่…เห็นพี่ไม่สบายอยู่”
นาดีญาพูดจบก็จ้องมองพี่สาวนิ่ง

“นีลว่า…พี่ฟาเดลเขาดูห่วงใยพี่จริงๆนะพี่รัล…ก่อนไปเขายังย้ำนีลแล้วย้ำนีลอีกว่า
ให้พี่อ่านจดหมายเขาให้ได้…”

ดารัลก้มหน้านึกถึงใบหน้าของคนที่มาทำให้หัวใจของเธอมีปัญหา
ทำให้เธอรู้สึกวุ่นวายใจมาตลอด…

“ขอบใจมากนะนีล…”ว่าแล้วก็เดินก้มหน้าเข้าห้องนอนของตัวเองไป…
ก่อนจะล้มตัวลงนอนอ่านจดหมายจากเขาที่เธอไม่เคยใส่ใจจะอ่านเลย
แม้แต่ฉบับเดียวที่เขาส่งมาให้…มันอาจจะดูเชยกับยุคสมัยนี้

แต่แปลกที่กระดาษที่เธอกำลังอ่านอยู่ดูจะมีอานุภาพดึงดูดใจเธอ
ให้อ่านมันมากกว่าข้อความอิเลคตรอนิคเป็นไหนๆ…


‘ถึงน้องรัล…


พี่ขอโทษที่เป็นต้นเหตุทำให้น้องรัลต้องนอนป่วยในหลายต่อหลายครั้ง
แต่พี่ไม่ได้ต้องการให้เป็นแบบนั้นเลย…

ตอนนี้น้าสาวของพี่กำลังต้องการกำลังใจและต้องการคนดูแลจัดการเรื่องต่างๆให้…
พี่เองอยากจะอยู่ดูให้แน่ใจว่าน้องรัลสบายดีแล้วจริงๆ แต่ก็ทำไม่ได้
พี่ขอโทษ…

พี่ขอให้น้องรัลหายไวๆ อย่าหักโหมกับงานมากนัก
พักผ่อนให้เยอะๆนะครับ…พี่เป็นห่วง…ห่วงใยเหลือเกิน…

ปล.พี่ไม่แน่ใจว่าจะอยู่ที่ปากีสถานอีกกี่วันกี่เดือน…
เสร็จธุระทางโน้นเมื่อไหร่ พี่จะรีบกลับมาหานะครับคนดี…

ปล.อีกที...อยู่ห่างไกลกันอย่างนี้ พยายามอย่าเป็นลม
ให้ชายใดอุ้มนะครับ…พี่หวง…
…ฟาเดล…’


ประโยคสุดท้ายทำเอาดารัลถึงกับหน้าแดง รู้สึกร้อนผ่าวไปทั่วทั้งใบหน้า
ไม่เคยรู้ตัวเลยว่า จากคนที่เหมือนเป็นคนอื่นไกล คนที่เธอไม่เคยใส่ใจ
จะทำให้เธอรู้สึกอ่อนไหว วุ่นวายจิตใจได้มากมายขนาดนี้…

ตั้งแต่ได้พบกันมันมีบางอย่างค่อยๆซึมเข้าไปในหัวใจโดยที่เธอไม่รู้ตัว…
จนตอนนี้เธอก็ยังไม่แน่ใจว่าความรู้สึกเหล่านั้นมันคืออะไร…

ยิ่งตอนที่เขาไม่อยู่อย่างนี้ ยิ่งทำให้พบว่า เธอรู้สึกคิดถึงเขา…

เป็นไปได้อย่างไรที่อยู่ๆเธอก็คิดถึงใครก็ไม่รู้ที่เธอไม่เคยใส่ใจมาก่อน
นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับเธอกันแน่…







ผ่านไป 3 เดือน เธอก็ได้ข่าวว่าน้าสาวของเขาได้เสียชีวิตลงแล้ว
หลังจากนอนเป็นเจ้าหญิงนิทรามาร่วม 3 เดือน
ซึ่งเป็น 3 เดือนที่เธอไม่ได้พบหน้าเขา ไม่ได้ยินเสียงของเขาเลย…
ได้รับฟังข่าวจากเขาผ่านทางคุณย่าของเธอเพียงเท่านั้น

เขาคงจะวุ่นวายอยู่กับการสะสางเรื่องราวทางโน้น…




แล้ว 2 สัปดาห์ถัดมา เขาก็เดินทางกลับมาพร้อมกับหญิงสาวหน้าตาสวยใสไร้ที่ติ
รูปร่างสมส่วนราวกับนางแบบ หญิงสาวที่มีผมสีบลอนเป็นลอน ยาวถึงกลางหลัง
เสื้อผ้าหน้าผมนั้นดูมีรสนิยม เป็นสาวมั่นทันสมัย…
เรียวขาที่โผล่พ้นออกมาจากกระโปรงนั้นดูเรียวสวยนวลเนียนน่ามอง
ขนาดผู้หญิงอย่างเธอยังมองเพลิน
จึงไม่ต้องพูดถึงเลยว่าผู้ชายจะหวั่นไหวสักแค่ไหน…
เพราะตั้งแต่หัวจรดปลายเท้านั้นดูจะไม่มีสิ่งใด
ที่จะไม่ทำให้สะดุดตาแก่คนที่พบเจอ…ซึ่งต่างกับเธออย่างสิ้นเชิง…
โดยเฉพาะวัยด้วยแล้ว ดูหญิงสาวผู้นี้จะแค่สิบแปดด้วยซ้ำ

“นี่ฟาฮาน่า ลูกสาวคนเดียวของคุณน้าฟารีดาครับ…”ฟาเดลแนะนำ
ลูกพี่ลูกน้องให้ทุกคนในบ้านโสภณพสุธรู้จัก

“อัสสลามุอะลัยกุมค่ะ…”หญิงสาวหน้าตาสะสวยกล่าวทักทายอย่างมีจริตจะก้าน
รอยยิ้มสวยถูกแจกจ่ายไปยังสามหนุ่มในบ้านอย่างทั่วถึง
โดยที่มือยังคงเกาะเกี่ยวอยู่กับลำแขนของฟาเดลไม่ยอมปล่อย

“วะอะลัยกุมมุสลาม…”ทุกคนกล่าวรับอย่างพร้อมเพรียงกัน

“ยังไงก็ให้น้องพักด้วยกันที่นี่แหล่ะฟาเดล…ย่าไม่อยากให้ต้อง
ไปเปิดห้องพักที่โรงแรมเลย ถึงจะเป็นโรงแรมในเครือของย่าก็เถอะ”
อะมานีบอกเป็นเชิงสั่งอยู่กรายๆ…

“ครับคุณย่า…ขอบคุณครับ…”ฟาเดลพยักหน้ารับ

“คงต้องรบกวนทุกคนด้วยนะครับ…พอดีฟาฮาน่าไม่มีใคร
ผมก็เลยต้องเอามาอยู่ด้วย…อีกสักพักคุณย่าก็จะมารับตัวไปอยู่ด้วยที่โมร็อกโกครับ…”
ฟาเดลอธิบายด้วยสีหน้าเกรงอกเกรงใจโดยเฉพาะกับดานีส
แม้จะไม่ได้อาวุโสสุดอย่างท่านหญิงอะมานี
แต่ก็ถือได้ว่าเป็นประมุขผู้ปกครองบ้านหลังนี้…

ก่อนจะช่วยยกกระเป๋าลูกผู้น้องขึ้นไปยังห้องรับแขกซึ่งถูกจัดให้อยู่ติดกับห้องของดารัล…

“เป็นผู้หญิงเหมือนกัน อยู่ฟากเดียวกันจะเหมาะกว่า…”
อะมานีบอกเหตุผล

“ไปช่วยน้องเขาจัดข้าวของด้วยสิน้องรัล…”อะมานีออกปากให้หลานสาวคนโต
เป็นฝ่ายขึ้นไปดูแลต้อนรับให้ความสะดวกแก่แขกที่มาเพิ่ม…

“ค่ะคุณย่า…”ดารัลรับคำโดยไม่เกี่ยงงอน ก่อนจะเดินตามทั้งสองไป

สองหนุ่มดารุสกับนาบีลจึงอาสาช่วยยกกระเป๋าที่เหลือขึ้นตามไปด้วย

“เฮ้อ…อยากจะเป็นลม…”อะมานีกุมขมับขณะทรุดตัวลงนั่งบนโซฟา
มารดาของนาดาจึงนั่งลงข้างๆแล้วลูบหลังมือนั้นด้วยแววตาเห็นใจ

“ผมเตือนแล้วก็ไม่ฟัง…เล่นอยากเป็นแม่สื่อแม่ชัก…
เป็นไงล่ะครับ…ปวดหัวเลยล่ะสิ…”ดานีสไม่วายหาเรื่องหยอกมารดา

“ใครจะรู้ว่าจะมีอะไรแบบนี้เกิดขึ้นล่ะ…”อะมานีตวัดสายตาไปยังลูกชายที่ยั่วเธอไม่เลิก…

“งั้นแม่ก็แก้เอาเองแล้วกันนะครับ…ผมน่ะเห็นชอบให้น้องรัลเรียนต่อ
ว่าจะส่งไปเรียนต่อที่มาดีนะห์ ไปอยู่กับจาลัลซะที่โน่นเลย”

ดานีสเอ่ยถึงลูกชายคนเล็กที่ตอนนี้กำลังเรียนต่ออยู่ที่ประเทศซาอุดิอารเบีย
โดยมีญาติๆของเขาที่อยู่ทางฝั่งโน้นคอยให้การดูแล
ส่วนลูกชายคนโตก็กำลังจะแต่งงานเดือนหน้า…

“เจ้าก็เห็นชอบอยากให้ลูกนอนอยู่บนคานทองนั่นแหล่ะ…”
อะมานีตำหนิลูกชายด้วยสีหน้าหนักใจ…

“ผมก็ไม่เห็นว่าบนนั้นมันจะไม่ปลอดภัยตรงไหน…อีกอย่าง…
ไม่ใช่เฉพาะแม่เท่านั้นที่ทำได้ หากผมปรารถนาอยากให้ลูกแต่งงาน
ผมก็สามารถจะหาคู่แข่งมาแข่งกับคนหล่อของแม่ได้ไม่ยากอะไร…”
อะมานีถึงกับเบิกตาจ้องตาลูกชายเขียวปั๊ด

“ลูกศิษย์ลูกหาของผมท้ังหล่อ เก่ง และดีๆเยอะครับแม่…
ต้องมีสักคนสิน่าที่ทำให้น้องรัลมีความสุขได้…”

ดานีสซึ่งเป็นอาจารย์หมอที่มีลูกศิษย์มากมายกล่าวกับมารดาด้วยแววตาหมายมั่น

“ลูกสาวผมไม่ใช่สิ่งของนะครับที่จะยกให้ใครง่ายๆ…
น้องรัลมีสิทธิ์เลือก แล้วลูกควรจะมีโอกาสได้เลือกด้วย…
เราไม่ควรจำกัดตัวเลือกให้น้องรัล…”นาดามองสามีแล้วได้แต่อมยิ้ม

...นี่แหล่ะ…พ่อหวงและห่วงลูกสาวของแท้…

ถึงเธอจะเทหน้าตักเชียร์ฟาเดลก็จริง แต่ก็อดเห็นด้วยกับความคิดของสามีไม่ได้อยู่ดี

…ลูกสาวของเธอควรจะมีตัวเลือกให้ได้เลือกบ้าง...


“งั้นเดี๋ยวบีบี้ขอขึ้นไปดูแลแขกด้วยดีกว่า…กลัวพี่รัลจะรับมือคนเดียวไม่ไหว…”
หะบีบี้หันไปยิ้มให้ผู้เป็นบิดา เป็นอันว่าเข้าใจกัน

“ตามสบายเลยลูก และห้ามทำให้แขกระคายเคืองใจนะ…”นาดากำชับ
เพราะรู้ว่าลูกสาวคนเล็กนั้นเฮี้ยวแค่ไหน…

“ไม่แน่นอนค่ะแม่…บีบี้ไม่ทำให้แขกแตกตื่นแน่ๆ…”อะมานียิ้มขึ้นมาได้
เมื่อเห็นแววตาของหลานสาวคนเล็กสุด

นาดีญากับดารีญ่าหันมายิ้มให้กันทันทีเมื่อเห็นตัวป่วนเดินขึ้นบันไดไปชั้นบน





“อยากได้อะไรเพิ่มเติมก็บอกได้นะคะ พี่อยู่ห้องติดกันนี่เอง…”
ดารัลขันอาสาพร้อมกับแนะนำห้องใหม่ให้แขกผู้มาเยือนไปด้วย
ว่ามีอะไรอยู่ตรงไหนบ้าง...

“ไม่เป็นไรค่ะ…ไม่รบกวนดีกว่า…ฮาน่ามีพี่ฟาเดลอยู่ทั้งคน
ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงอยู่แล้ว พี่ดารัลสบายใจได้ค่ะ…”
ฟาฮาน่าหันไปทางฟาเดลแล้วเกาะแขนเขาเอาไว้แน่นราวกับจะจับจองเอาไว้
ไม่ให้ใครมาแตะต้องได้…

ชายหนุ่มพยายามจะปัดป้องเพราะเกรงว่าไม่เหมาะสมที่ลูกพี่ลูกน้องกับเขา
ซึ่งไม่ใช่น้องสาวแท้ๆจะทำแบบนี้กับเขา ยิ่งต่อหน้าต่อตาคนอื่น ยิ่งไม่บังควร…

“งั้นพี่ขอตัวก่อนดีกว่านะ…อยากจะอาบน้ำน่ะ…”ฟาเดลเอ่ยขอตัว
สายตาก็จับไปที่ใบหน้าของดารัลที่ดูจะมึนตึงกับเขาตั้งแต่เจอกันแล้ว

“บีบี้มาแล้วค่ะ…”เสียงใสดังขัดขึ้น ทำให้ดารัลหันไปทางประตูห้อง
ก็เห็นน้องสาวยืนเกาะขอบประตู ทำตาแป๋วแหววอยู่ก็อดยิ้มขำออกมาไม่ได้

“สวัสดีค่ะ…พี่…เอ่อ…”

“ฟา…ฮา…น่า…ค่ะ…”แขกผู้มาใหม่ย้ำชื่อตัวเอง…ให้อีกฝ่ายที่รอจะเรียกชื่อของตนอยู่

“เรียกพี่ได้ใช่มั้ยคะ…เพราะว่าบีบี้เพิ่งจะอายุ 16 เอง…”

หะบีบี้ขออนุญาตขณะค่อยๆย่างเข้ามาในห้องก่อนจะยกมือทั้งสอง
ขึ้นสัมผัสกับหญิงสาวที่มาอยู่ใหม่เป็นการทักทาย
ซึ่งฝั่งโน้นก็ยื่นมือมารับสัมผัสโดยไม่เกี่ยงงอน

“บีบี้หรือหะบีบี้ สุดที่รักของคนบ้านนี้ค่ะ…”
เด็กสาวแนะนำตัวเองอย่างเป็นกันเองกับอีกฝ่าย ทำให้บรรยากาศอึดอัดเมื่อครู่
มลายหายไปทันที

“ให้บีบี้ช่วยอะไรก็บอกนะคะ เพราะเราก็น่าจะอายุไล่เลี่ยกัน
มีอะไรก็น่าจะเข้าอกเข้าใจกันมากกว่าพ่ีรัล เพราะพี่รัลนั้น
เขาจัดอยู่ในอีกเจเนอเรชั่นก่อนหน้าเราไปแล้ว…
คงไม่เข้าใจเราสักเท่าไหร่ว่ามั้ยคะ…”หะบีบี้ยังคงถือโอกาสจ้อต่อ

“ที่ญี่ปุ่นมีที่เที่ยวเยอะค่ะ…ให้บีบี้พาเที่ยวก็ได้ อยากไปไหนขอให้บอก
ส่วนพี่ฟาเดลก็ให้ทำงานไป เราวัยรุ่นก็ไปเที่ยวสนุกกันเนอะ…
พูดไทยได้แบบพี่ฟาฮาน่าอย่างนี้ บีบี้ค่อยหายใจโล่งหน่อย
เพราะภาษาอังกฤษของบีบี้ค่อนข้างเพี้ยนๆค่ะ…ฝร่ังฟังยังงงเลย…
ว่าแต่ทำไมพูดไทยได้ล่ะคะ…ลูกครึ่งไทยด้วยรึเปล่า…”ดารัลอมยิ้ม
ให้กับท่าทางจ้อไม่หยุดของน้องสาว ทำเอาแขกถึงกับนิ่งอึ้งไปไม่ถูกกันเลยทีเดียว

“ค่ะ…พ่อพี่เป็นคนไทย…”ฟาฮาน่าตอบแบบสั้นๆ

“ชุดพี่ฟาฮาน่าสวยจัง…หน้าตาพี่ก็ส้วยสวย…นี่ถ้าบอกว่าเป็นดารา
หรือนางแบบอะไรแบบนี้…บีบี้ก็เชื่อนะคะ…”หะบีบี้เริ่มเอ่ยปากชม

“ค่ะ…พี่เป็นดาราและนางแบบของปากีฯ…”คนฟังถึงกับตาโต
ไม่คิดว่าเธอจะเดาถูก นี่ขนาดว่าพูดๆไปอย่างนั้นนะเนี่ย ดันเข้าใจถูกซะงั้น…

“แต่คุณย่าท่านเคร่งมากเลยค่ะ…บีบี้ก็อยากใส่อย่างพี่ฟาฮาน่านะคะ
อยากโชว์หุ่นสวยๆบ้าง…เว้านิดเว้าหน่อยแบบนี้ดูดีออก
แต่คุณย่ากับพ่อคงเอาตายแน่…รับรองว่าพ่อต้องเข้ามารื้อตู้เสื้อผ้าของบีบี้
แล้วเอาชุดไปเผาแน่นอน…บีบี้เสียดายของ เลยไม่ซื้อมาใส่
เพราะคงใส่ได้แค่ครั้งเดียว…น่ะค่ะ…”เด็กสาวยังคงจ้อต่อไป
ทำเอาคนเป็นแขกถึงกับกลืนน้ำลายลงคอที่รู้สึกได้ว่าโดนเด็กสาว
ที่อายุน้อยกว่าวิพากวิจารณ์การแต่งตัวของเธอว่าขัดกับหลักการ
ทางศาสนาเป็นนัยๆได้อย่างแยบยล…สร้างสีหน้ากระดากอายขึ้นมา

เมื่อหันไปทางฟาเดลที่ยืนนิ่งเหมือนหุ่น แต่จะให้เธอยอมรับ
ว่าตัวเองทำตัวผิดหลักศาสนาที่แต่งตัวแบบนี้น่ะเหรอ อย่าหวัง

“ไม่เห็นจะเป็นไร สมัยนี้ใครๆเขาก็แต่งตัวกันแบบนี้ทั้งนั้นแหล่ะค่ะ
โลกเราน่ะมันหมุนไปถึงไหนต่อถึงไหนแล้ว…
แบบที่ศาสนาเราสั่งน่ะ มันเชยและล้าหลังจะตาย หมดยุคไปตั้งนานแล้ว…
ให้ปิดโน่นปิดนี่ อึดอัดจะตาย ร้อนก็ร้อน…

ที่สำคัญ…ศรัทธามันอยู่ที่ใจค่ะ…ถึงพี่จะแต่งตัวแบบนี้ แต่พี่ก็เชื่อ
และศรัทธาในพระเจ้านะคะ…”ฟาฮาน่าให้เหตุผลด้วยสีหน้าท่าทางไม่ยี่หระ…
ก็เธอเป็นของเธอแบบนี้มาตั้งแต่ไหนๆนี่ อยู่ที่โน่นก็ไม่เห็นจะมีใครว่า

“ถ้าน้องบีบี้อยากจะลองแต่งแบบนี้ดูบ้าง ก็มาที่ห้องพี่สิคะ…พี่มีชุดสวยๆ
เยอะแยะเลย…แล้วจะติดใจ…เดินไปไหนมีแต่คนเหลียวหลังมอง

ยิ่งสวยๆและน่ารักอย่างน้องบีบี้แล้ว รับรองว่าหนุ่มๆต้องเหลียวมอง
แล้วมองอีกแน่ๆค่ะ…”หญิงสาวผู้มาใหม่ไม่วายยุยงให้อีกฝ่าย
หันมาอยู่ร่วมพรรคเดียวกันกับเธอ…

และระหว่างที่สองสาวกำลังเสวนาออกรสกันอยู่นั้นเอง
ฟาเดลที่ยืนเอาหลังพิงฝาผนังห้องอยู่
ก็ถือโอกาสชำเลืองมองดวงหน้าที่เขาฝันหามาตลอด 3 เดือนที่ผ่านมา
ไม่ให้เจ้าตัวจับได้ไปด้วย ก่อนจะยิ้มที่มุมปาก
เมื่อเห็นเธอมองน้องสาวของตัวเองจ้อไม่หยุดขณะอมยิ้มจนเห็นแก้มบุ๋ม

ช่างเป็นภาพที่จับจิตจับใจเขาจนไม่อาจถอนสายตาจะถอนใจไปจากเธอได้…

“มีดีก็ต้องโชว์ จะเก็บไว้ดูคนเดียวทำไมล่ะคะ…นารีมีรูปเป็นทรัพย์
น้องบีบี้เคยได้ยินมั้ยคะ…ดังนั้นเราต้องทำให้มันเกิดเป็นทรัพย์

อย่างพี่นี้เดินแบบครั้งหนึ่งได้เงินเลี้ยงตัวเองตั้งเป็นเดือนๆ…
ไม่ต้องพึ่งพาหรือเบมือขอพ่อแม่ด้วย…ตอนกลับไปอยู่เมืองไทยกับพ่อ
พี่ก็โดนแมวมองทาบทามให้ไปเป็นนางแบบลงปกนิตยสารด้วย
ตอนนั้นพี่เพิ่งจะอายุ14 เองค่ะ…พี่ก็เลยยึดอาชีพนี้เป็นงานอดิเรกระหว่างเรียนต่อที่ไทย…
แล้วกลับไปดังที่ปากีฯเมื่อปีที่แล้ว…
พี่ว่ามันน่าภูมิใจออกที่เราสามารถหาเงินเลี้ยงดูตัวเองได้ตั้งแต่อายุยังน้อยๆ…
ไม่ต้องเป็นภาระใครด้วย…”หะบีบี้ได้ฟังดังนั้นก็ยิ้มแหย

“ถ้าให้บีบี้ไปเดินแบบเหมือนพี่ฟาฮาน่า บีบี้คงโดนพ่อเตะโด่งออกไปนอนชายคาบ้านแน่ค่ะ
ทั้งคุณย่าและคุณยาย ไหนจะแม่และพี่ชายอีก…บีบี้ต้องโดนแบนด์จากพี่ๆน้องๆแหงๆ

บีบี้ว่าอยู่ขอตังค์พ่อต่อไปดีกว่า…สบายดี…มีของให้กินฟรีทุกมื้อ
ไปจนกว่าจะทำงานช่วยเหลือบริษัทเหมือนพี่รัลดีกว่าค่ะ…ไม่อยากเสี่ยง
กลัวโดนแบนด์ เดี๋ยวใครๆในบ้านจะไม่รัก หันไปรักพี่รัลคนเดียวกันหมด...”
เด็กสาวทำท่าคิดแล้วใช้นิ้วเคาะหัวตัวเองก่อนจะกล่าวต่อไปว่า

“บีบี้ว่าจะเรียนต่อการโรงแรม จะได้ช่วยคุณย่าดูแลโรงแรมของเราค่ะ
ยังไม่มีพี่ๆคนไหนเรียนด้านนี้เลย…คราวนี้บีบี้ก็จะได้ช่วยคุณย่าตกแต่งโรงแรมให้สวย
และหรูหราน่าเข้าพักไปเลย…ตอนที่ไปเที่ยวที่คาสบลังก้าที่นั่นสวยมากๆค่ะ…
พี่ฟาเดลก็เก่งเรื่องนี้…บีบี้จะได้เรียนรู้จากพี่ฟาเดลไปด้วย…”

เด็กสาวหันไปทางว่าที่พี่เขย ที่ไม่ว่าอย่างไรเธอก็ไม่มีทาง
ให้ใครมาแย่งไปได้หรอก…พี่รัลของเธอกับพี่ฟาเดลจะต้องได้ลงเอยกัน
ใครหมดหวังก็หมดไป…แต่หะบีบี้คนนี้ไม่มีวันยอมหมดหวังแน่…

แล้วก้างชิ้นโตตรงหน้านี้ เธอจะขอดูแลให้เป็นอย่างดีโดยไม่ให้ทิ่มตำใครเอง...

“ด้วยความเต็มใจครับ…”ฟาเดลโค้งคำนับอย่างสวยงามราวกับว่า
ตัวเองเป็นข้าบาทให้เจ้าหญิงผู้สูงศักดิ์…ทำเอาดารัลมองภาพนั้น
แล้วได้แต่ยิ้มขำ…ที่ขำไม่ใช่เพราะอะไรเลย…เธอรู้ดีว่าน้องสาวนั้น
เข้ามาในห้องนี้เพื่อจุดประสงค์ใด และดูเหมือนผู้ชายหนึ่งเดียวในห้อง
จะรู้เท่าทันความคิดนั้นของน้องสาวของเธอแล้ว…

คงจะมีแต่แขกผู้มาใหม่ที่คงจะยังไม่รู้ ว่าน้องสาวคนเล็กของเธอนั้น
แสบและป่วนแค่ไหน…เพราะคนนี้น่ะหลานคุณย่า…

“เอาไว้บีบี้จะพาพี่ฟาฮาน่าไปเที่ยวโรงแรมของเรานะคะ…
บีบี้อยากอวดและอยากโชว์มากๆค่ะ…เพราะเป็นผลงานของคุณย่าคนเก่งของบีบี้ล้วนๆเลย…
พี่ฟาฮาน่าต้องไปให้ได้นะคะ…ไม่ใช่แค่สวยเท่านั้นนะคะ
เพราะที่นั่นอาหารอร่อยมาก เรามีเชฟที่มีฝีมือระดับพระกาฬเชียวละ..."
เด็กสาวยกกำปั้นชูมือ พยายามเชื้อเชิญแขกคนใหม่ด้วยสีหน้าท่าทางจริงจัง…

“หะบีบี้…”เสียงนั้นดังขัดขึ้น เรียกให้เจ้าของชื่อหันไปทางพี่สาวเจ้าของเสียง

“อย่าไปรบกวนเวลาพักผ่อนของแขกสิ…เดี๋ยวมีอะไรเราค่อยชวนคุยกันอีกก็ได้…
พี่เขายังอยู่กับเราอีกหลายวันนะ…”ดารัลปรามน้องสาว
ที่ดูจะพาอีกคนชวนคุยเสียนาน

“ต้องขอโทษแทนน้องด้วยนะคะ…รายนี้เขาคุยเก่ง…คุยจนลิงหลับ…”
ดารัลสัพยอกน้องสาวเล่นด้วยแววตาเอ็นดูก่อนจะจับมือน้องสาวมากุมไว้

“ไม่เป็นไรค่ะ…”แขกผู้มาใหม่ส่่ายหน้าก่อนจะยิ้มกว้างแล้วหันไปทางฟาเดล…

“พี่ฟาเดลไปพักผ่อนเถอะค่ะ เหนื่อยกับหลายๆเรื่องมานาน…”
แววตาของหญิงสาวดูห่วงใยลึกซึ้ง…ทำเอาดารัลถึงกับเจ็บแปล๊บๆในหัวใจขึ้นมา
เมื่อเห็นเขาหันไปยิ้มให้กับหญิงสาวผู้นั้น…

“เธอเองก็พักผ่อนซะ…เหนื่อยเหมือนกันไม่ใช่เหรอ…
เดี๋ยวพี่ก็จะกลับห้องแล้วเหมือนกัน…”น้ำเสียงและแววตาที่แฝงไปด้วยความห่วงใยของเขา
ที่มีต่อหญิงสาวผู้นั้นยิ่งทำให้ดารัลแอบรู้สึกหวั่นไหว
หวั่นวิตกจนมือไม้สั่น อยากจะรีบๆไปให้ไกลจากตรงนี้
จึงกระตุกข้อมือน้องสาวแล้วกระซิบว่า

“ไปกันดีกว่าบีบี้…”

“งั้นบีบี้ไปก่อนนะคะพี่ฟาฮาน่า เดี๋ยวได้เวลาทานข้าวแล้วบีบี้จะมา
เคาะประตูเรียกนะคะ…”หะบีบี้หันไปยิ้มให้แขกก่อนจะโบกมือ

“ขอบคุณค่ะ…”แขกผู้มาใหม่ยิ้มให้เด็กสาว…


ทั้งสามเลยพากันออกมาจากห้องของหญิงสาวผู้มาใหม่…
โดยที่ดารัลจูงมือน้องสาวเดินออกมาก่อน ตามติดด้วยฟาเดล

เมื่อประตูห้องปิดลง ฟาเดลจึงเอ่ยเรียกหญิงสาวที่เขาอยู่ในห้วงคำนึงของเขามาตลอด

“น้องรัลครับ…”ดารัลหันไปทางด้านหลังในขณะที่มือ
ก็ยังคงกุมข้อมือของน้องสาวเอาไว้แน่นเช่นเดิม ยิ่งเมื่อตาประสานกันหญิงสาวก็รู้สึก
หน้าร้อนผ่าวรีบหลุบตาต่ำทันที…

“นี่ครับ…ของฝาก…”ชายหนุ่มล้วงเข้าไปในกระเป๋าเสื้อคลุมตัวโต
แล้วยื่นกล่องกำมะหยี่ให้หญิงสาวตรงหน้า ดารัลลังเลอยู่พักนึง
ว่าจะรับหรือไม่รับดี

“รับไปเถอะครับ…พี่ตั้งใจเอามาฝาก…อุตส่าห์สั่งทำเป็นพิเศษเลยนะ…”
ยิ่งเขาพูดแบบนั้นก็ยิ่งทำให้หญิงสาวใจสั่นด้วยลุ้นอยู่ว่า
อะไรกันที่อยู่ในกล่องกำมะหยี่เล็กๆนั่น ยิ่งน้องสาวกระตุกข้อมือ
ยิ่งทำให้ดารัลหนักใจ ก่อนจะตัดสินใจรับมาถือไว้

“ขอบคุณค่ะ…”เสียงขอบคุณนั้นแม้จะเบาแค่ไหน แต่คนได้รับมัน
ก็ได้ยินก้องหูก่อนจะเดินกลับห้องไปด้วยรอยยิ้มที่ระบายไปทั่วใบหน้า





“ไหน…ให้บีบี้ดูหน่อยได้มั้ยพี่รัล ว่ามันคืออะไร…”หะบีบี้เข้าไปนั่งข้างๆพี่สาว
บนเตียงนุ่มในห้องนอนของดารัล

“ไม่ให้ดูหรอก…”ดารัลแกล้งน้องสาวโดยพยายามซ่อนของฝากเอาไว้

“หน่า…บีบี้อยากรู้…ลุ้นตั้งแต่อยู่หน้าประตูห้องโน้นแล้ว…”
คนเป็นน้องยอมรับอย่างตรงไปตรงมาว่าอยากรู้อยากเห็นแค่ไหน

“ก็ได้ๆ…”ว่าแล้ว ดารัลก็เปิดกล่องออกดู ก่อนจะตาโตไม่กะพริบ
กับสิ่งที่นอนอยู่ในกล่องนั้น…

“โอ้โห…สวยจังเลยพี่รัล…ขอบีบี้ดูใกล้ๆได้มั้ยอ่ะ…”ผู้เป็นน้องอ้อนพี่สาวเสียงหวาน
ก่อนจะหยิบเข็มกลัดรูปดอกกล้วยไม้สีเงิน มีประกายเพชรระยิบระยับ สวยงามจับตา…

มือน้อยๆเลยลองนำมันไปกลัดไว้ที่ผ้าคลุมศีรษะของพี่สาวดู ก่อนจะเอ่ยชมไม่ขาดปาก

“เข้ากับพี่รัลมากเลยค่ะ…พี่ฟาเดลนี่ตาแหลมจริงๆ…”คนถูกชม
อดยิ้มและยอมรับไม่ได้ว่า มันเข้ากับผ้าคลุมของเธอจริงๆ…
แล้วก็สวยถูกใจเธอเป็นที่สุด

“แหม…แก้มแดงเชียวนะ…น่าอิจฉาจริงๆพี่สาวเรา…”ดารัลหันไปแบะปากใส่น้องแก้เก้อ
ก่อนจะโยกหัวนั้นด้วยความเอ็นดูแล้วถือโอกาสขอบคุณน้องสาวไปด้วย

“ขอบใจนะที่เข้าไปช่วยกู้สถานการณ์ให้น่ะ…”

“งานแบบนี้บีบี้ถนัดอยู่แล้ว…แต่ดูๆไปแล้วพี่ฟาฮาน่าก็ไม่น่าจะมีอะไรนะคะ…
หรือพี่รัลว่าไง…”ดารัลส่ายหน้า

“ไม่รู้สิ…แต่เราจะดูคนหรือตัดสินคนแค่ภายนอกอย่างเดียวไม่ได้หรอกนะ...
บางทีสิ่งที่เราเห็นอาจจะไม่ใช่เนื้อแท้ของเขาเลยก็ได้นะ...
ต้องเปิดใจ ดูเขาไปนานๆ...อะไรที่เราทำดีต่อกันได้ ก็ทำดีต่อกันนะจ๊ะ...
เขาเป็นแขกของเรา เราควรต้องต้อนรับและดูแลเขาให้ดีที่สุด…
ที่สำคัญ...ต้องจริงใจกับเขาด้วย...เข้าใจพี่นะ…”

“จ้า…พี่สาวคนเก่งและแสนดี…”หะบีบี้ลากเสียงยาวล้อเลียนพี่สาว

“ไปบอกพี่นีลกับพี่ฟ้าดีกว่าว่าพี่รัลได้เข็มกลัดเป็นของฝากจากพี่ฟาเดล…ฮ่าๆๆๆ”

หะบีบี้ลุกพรวดก่อนจะหัวเราะร่าด้วยสีหน้าระรื่น ทำให้ดารัลถึงกับอ้าปากเหวอ
จะห้ามก็ห้ามไม่ทันแล้ว เพราะยัยกบเคโระเล่นกระโดดไกลได้อย่างกับลูกปาด
ผ่านหน้าเธอไปโน่นแล้ว...





...โปรดติดตามตอนต่อไป....


เริ่มติดคอ เพราะฟาเดลพกก้างติดตัวมาด้วย...อิอิ


นักอ่านที่ติดตามผลงานเรื่องอื่นของเต่าโย อย่าเพิ่งงอนๆ
หมอรังยังไม่เวิร์ค เขียนไปแล้วก็ลบอีก คนเขียนยังไม่พอใจ
เอาไว้ขัดเกลาภาษาได้เรียบร้อยแล้วจะเอาหมอหน้าดีที่ชื่อ รัง
มาฝากกันค่ะ

ระหว่างนี้ก็อ่านเรื่องนี้ไปพลางๆนะจ๊ะ...เฮะๆ



...คุยกับนักอ่านจากบทที่แล้วนิดนึง...

1.คุณตุ๊งแช่...ผู้หญิง...ปากกับใจไม่ตรงกันว่างั้นค่ะ...อิอิ
ขอบคุณนะคะที่มาส่งเสียงว่าติดตามเรื่องนี้ด้วยให้โยได้ยิน...จุ๊บๆนะ

2.คุณคิมหันตุ์...คาดว่าน่าจะมีเป็นลมอีกนะคะ...
แต่จะเป็นลมเพราะอะไร...มาดูกันค่ะ...ฮ่าๆๆๆๆ
ขอบคุณมากๆค่ะสำหรับกำลังใจดีๆที่มีมาอย่างต่อเนื่องเลย...

3.คุณแว่นใส...ต้องทำใจจริงๆค่ะ...คนสวยคนหล่อๆ
มักมีเพศตรงข้ามเข้ามาห้อมล้อม...จะว่าหน้าตาเป็นทรัพย์
ก็ไม่ใช่ซะทั้งหมด เพราะบางทีมันก็นำภัยมาสู่เราด้วย...เนอะๆ
ขอบคุณนะคะสำหรับกำลังใจที่เข้ามามอบให้กันอีก...



สุดท้ายไม่ท้ายสุด...

ขอบคุณนักอ่านทุกๆท่านด้วยนะคะที่เข้ามาติดตามและเป็นกำลังใจให้
ตอนนี้อยากได้กำลังใจมากๆ...ใครว่างช่วยเข้ามาเติมให้กันบ้างนะคะ



...รักษาสุขภาพนะคะ...






yoraya
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 6 ก.ย. 2557, 11:03:15 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 6 ก.ย. 2557, 11:03:15 น.

จำนวนการเข้าชม : 3302





<< บทที่ 2 ที่เห็นว่าสงบไม่ได้แปลว่ายอมสยบนะ   บทที่ 4 แขก >>
ตุ๊งแช่ 6 ก.ย. 2557, 11:30:39 น.
เริ่มหลงรัก หนูบีบี้ แล้วสิ กระโดดได้ไกลไหม กบตัวนี้ แอบสงสัย ในเมื่อเป็น ลูกพี่ลูกน้องกัน ไม่น่าจะเป็นก้างได้นะ ป่วนๆได้สิทธิแค่นั้นรึป่าวค่ะ

ชมซะเขินเลย


คิมหันตุ์ 6 ก.ย. 2557, 12:57:32 น.
ลูกปาด น่ารักอ่ะ ช่วงนี้เริ่มอมยิ้มให้กันแล้วสินะฮ่าาาาาาาาาาา


แว่นใส 6 ก.ย. 2557, 22:13:19 น.
นาารักจัง


Chii 7 ก.ย. 2557, 01:01:02 น.
บีบี้~
เธออยากให้เราช่วยอะไรมั้ยยยย เราหมั่นหน้ายัยซาฮาร่า

ฮะ เรียกผิดเหรอ โอ๊ยยย ปิดตั้งกะชื่อพระเอกนู่นนน

55 โทษทีนะคะ คอมเม้นท์นู้นจำผิดจริงแหละค่ะ :P


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account