วังวนวารี [---ชุด ๕ ปรารถนา---]
คนหนึ่งอบอุ่นอ่อนโยน คนหนึ่งห่ามห้าว ใจร้อน แตกต่างกันราวกับน้ำพุร้อนเดือดพล่านและสายฝนฉ่ำเย็น หากสิ่งหนึ่งที่ทั้งสองเหมือนกัน คือเขาต่างมีใจให้เธอ แล้วเธอล่ะ จะมอบใจรักเพื่อใคร
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: บทที่ ๔ (จบตอน)

“ว่าน” เสียงเรียกนั้นไม่ดังเกินกว่าได้ยินกันสองคน แต่เจ้าของชื่อซึ่งกำลังเดินขึ้นบันไดไปยังห้องนอนก็ถึงกับสะดุ้งเฮือก
ชายหนุ่มเหลียวมองรอบตัวอย่างงงๆ นี่เขากลับมาถึงบ้านแล้วหรือ กลับมาได้อย่างไร จำได้ว่าตนอยู่ในลานจอดรถของโรงพยาบาลและชวนน้ำหนึ่งไปกินข้าว แล้วอยู่ดีๆทำไมมาโผล่ที่บ้านได้
ครู่หนึ่งนั่นละ กว่าเขาจะหาเสียงตัวเองพบ

“ครับแม่”

เขาเงยหน้ามองมารดาที่กำลังเดินสวนลงมา สตรีวัย ๔๙ ที่ดูงามพริ้งไปทั้งเนื้อทั้งตัว ทรวดทรงองค์เอวสมส่วนราวกับไม่เคยมีบุตรมาก่อน ผมทรงบ๊อบเทย้อมสีน้ำตาลอ่อนเจือแดงส่งผลให้ดวงหน้ารูปไข่ดูอ่อนเยาว์กว่าอายุจริง คืนนี้หล่อนอยู่ในเสื้อเกาะอกสีเงินระยับกระชับอกอิ่มเข้าหากัน ช่วงล่างเป็นกระโปรงซีทรูสีน้ำเงินเข้มยาวถึงข้อเท้า ทว่าซับในสีดำสั้นเหนือเข่าอวดเรียวขาขาวรำไรอยู่ภายใต้ผ้าบางเบาที่ปกคลุม

“ง่วงหรือไงเรา เดินเหม่อเชียว ขึ้นไปอาบน้ำนอนไป๊” วิไลวรรณโบกมือที่ถือกระเป๋าใบจิ๋วสีเงินยวงพร้อมกับออกปากไล่

“แม่จะไปไหนครับ แต่งตัวสวยเชียว” วาริเอ่ยไปตามความรู้สึก วิไลวรรณเป็นสาวใหญ่ที่ดูแลตัวเองได้ดีมาก ดูอ่อนเยาว์กว่าอายุจริง หากใครๆที่ไม่รู้จักพบเห็นเข้าคงคิดว่าเป็นพี่สาวของวาริ มีเพียงดวงตาแห้งผากฉายแววแกร่งกร้าวคู่นั้นที่บ่งบอกว่าหล่อนผ่านร้อนหนาวสุขทุกข์มาไม่น้อย

ทุกข์...ใช่ แม่คงทุกข์และต้องทนไม่ต่างจากเขา ทนเพื่อพ่อ เพื่อความสุขของพ่อ เพื่อความเพียบพร้อมและหน้าตาของพ่อ
เขากับแม่คงทนได้ไม่นานมาจนป่านนี้ หากไม่มีความรู้สึกหนึ่งกักเก็บอยู่ในหัวใจ ความรู้สึกที่เรียกว่าความรัก...เขารักพ่อ แม่ก็รักพ่อ ต่างกันตรงแม่ยอมอยู่เพื่อพ่อ แต่ก็กล้าออกไปแสวงหาความสุขนอกบ้านโดยไม่แคร์สังคมหรือใครหน้าไหน ความสุขที่พ่อให้แม่ไม่ได้

“ปาร์ตี วันเกิดริชาร์ดน่ะ”

ริชาร์ด เพื่อนชาย...หรือคู่ควงคนล่าสุดของแม่น่ะหรือ วาริรู้เพราะวิไลวรรณไม่เคยปิดบังพฤติกรรมต่างๆ มารดาเขาแสดงออกอย่างเปิดเผยตั้งแต่วาริเรียนจบมหาวิทยาลัย หล่อนก็ปลดปล่อยตนเองโดยการออกไปโลดแล่นบนหนทางที่ใจเรียกร้อง วาริเข้าใจและเห็นใจคนเป็นแม่ เนื่องจากเขารู้จักพ่อดี แม่อดทนเพื่อเขามานานแล้ว

วาริยังจดจำภาพเมื่อครั้งยังเยาว์ได้ ทุกคืน แม่นอนกอดเขาก่อนนอน เล่านิทานให้ฟังด้วยน้ำเสียงร่าเริง ทว่าดวงตากลับเอ่อคลอด้วยหยาดน้ำใส บางครั้งหยดน้ำเหล่านั้นก็กลิ้งลงมาบนแก้มนวลที่แนบอยู่กับแก้มนุ่มของเด็กน้อยในอ้อมกอด
‘คืนนี้พ่อไม่กลับบ้านหรือฮะแม่’ เขาเงยหน้าถาม มือเล็กๆลูบแก้มเปื้อนน้ำตาให้แม่ป้อยๆ ปากน้อยๆช่างจำนรรจาถามต่อ ‘แม่ร้องไห้ทำไมฮะ เจ็บตรงไหนหรือเปล่า’

‘พ่อติดงานจ้ะลูก’ วิไลวรรณเลือกตอบเพียงคำถามแรก พลางเช็ดน้ำตา

ครั้นเติบโต วาริจึงรู้ว่าพ่อไม่ได้ติดงาน แต่พ่อมีคนอื่น และตรงที่แม่เจ็บก็คือหัวใจ เพราะรู้และเข้าใจวาริจึงไม่เคยมองว่าความประพฤติของแม่เป็นเรื่องน่าอับอายเหมือนที่สังคมภายนอกประณาม แม่มีสิทธิ์ไขว่คว้าหาความสุขเหมือนที่พ่อมีสิทธิ์ วาริมั่นใจว่าวิไลวรรณรู้เท่าทันความคิดคนและสามารถดูแลตัวเองได้ดี

“เที่ยวให้สนุกนะครับแม่”

“จ้ะ พักผ่อนนะลูก” วิไลวรรณจุ๊บแก้มบุตรชายและตบเบาๆตรงตำแหน่งนั้นเช่นที่เคยทำตอนเขาเป็นเด็กเล็กๆ ต่างกันตรงวันนี้มารดาไม่ต้องก้มลงไปจูบแก้มเขาแล้ว แต่ต้องเขย่งจนสุดปลายเท้าและเขาต้องยื่นหน้าลงไปใกล้

ใครจะมองว่าวิไลวรรณประเปรียว ร้อนแรงอย่างไรวาริไม่รู้ สำหรับเขา หล่อนก็ยังเป็นแม่ที่น่ารักเหมือนเดิม

แยกกับมารดาตรงกลางบันไดแล้ว วาริตรงมายังห้องนอน เพียงเปิดประตูก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นหอมบางเบาที่อบอวลอยู่ในอากาศภายในห้อง ริมฝีปากหยักลึกยกยิ้มเมื่อแสงไฟสาดสว่าง และสายตาปะทะเข้ากับแจกันแก้วทรงสูงบนโต๊ะทำงานด้านขวามือกั้นไว้เป็นสัดส่วนแยกจากเตียงนอน ซึ่งอยู่ต่างระดับขึ้นไปประมาณครึ่งเมตร เชื่อมต่อด้วยบันไดสามขั้น ห้องนอนเขากว้างพอๆกับคอนโด ใหญ่กว่าบ้านคนยากจนหลายๆคนด้วยซ้ำ ตกแต่งไว้หรูหรามีสไตล์ เขายอมรับว่าใช้เงินและวัตถุสิ่งของเติมเต็มความรู้สึกในใจที่พร่องหาย

ทว่าทุกครั้งยามกลับมาเหนื่อยๆ สิ่งที่ทำให้เขาสดชื่นและสุขใจกลับไม่ใช่เฟอร์นิเจอร์อันแพงหรู แต่เป็นสิ่งเล็กน้อยอย่างกล้วยไม้สีขาวช่องามที่ระย้อยระย้าประดับแจกันบนโต๊ะ เขาชอบกล้วยไม้สีขาว แม่รู้ และแม่ก็หามาเปลี่ยนให้ตลอด ไม่เคยเห็นเลยว่ามันจะเหี่ยวเฉาร่วงโรยคาแจกัน

เขาแวะจูบกล้วยไม้ ก่อนตรงไปยังเตียงกว้างหนานุ่ม ทิ้งน้ำหนักตัวลงนอนแผ่หลาจนเตียงยวบหยุ่น ยกสองมือเสยผมเผยให้เห็นหน้าผากกว้าง จนป่านนี้ยังคิดไม่ตกว่าตนเองกลับมาถึงบ้านได้อย่างไร แล้วตกลงเขาได้ไปกินข้าวกับน้ำหนึ่งหรือเปล่า
ชายหนุ่มนอนหลับตานิ่งอยู่พักหนึ่งจึงดึงโทรศัพท์มือถือออกจากกระเป๋ากางเกง เปิดหน้าจอขึ้นมาพบภาพน้ำหนึ่งนั่งเหม่อ เขายิ้ม อยากโทร.ไปถามให้รู้เรื่องว่าช่วงเวลาที่ความจำหายไปในระยะสั้นๆนี้ เกิดอะไรขึ้นกับเขาบ้าง

ทว่าเมื่อเห็นตัวเลขบอกเวลาบนหน้าจอวาริก็เปลี่ยนใจ ดึกเกินไป ไม่ควรโทร.ไปรบกวนเพื่อนในเวลาดึกสงัดเช่นนี้ แล้วควรโทร.หาใครเล่า

แฟนไง...พร้อมกับคำตอบผุดขึ้นมาในหัว วาริก็ต่อสายถึงเปมิกาทันที รายนี้เป็นสาวกซีรีส์เกาหลี หลังเลิกงานก็สามารถดูซีรีส์โต้รุ่งและอาบน้ำแต่งตัวไปทำงานได้อย่างสบาย โทร.ไปดึกดื่นแค่ไหนก็ไม่พลาดการรับสาย มีช่วงหลังๆนี่แหละที่เจ้าตัวบ่นๆว่าเบื่อซีรีส์แล้ว โทร.ไปดึกๆบางทีก็ไม่รับ บ่นว่าเพลียจากงานจนเข้านอนหัวค่ำ ทว่าคนเพลียกลับมีนัยน์ตาเปล่งประกายเอิบอาบไปด้วยความสุข คงเพราะใกล้วันหมั้นเข้าไปทุกทีกระมัง รอเรือนหอเสร็จก็คงได้จัดพิธีมงคลสมรส

ชายหนุ่มนอนฟังเสียงเพลงรอสายอยู่นานก็ไม่มีวี่แววว่าอีกฝ่ายจะรับสาย สงสัยจะหลับแล้ว วาริวางสายและดีดตัวขึ้นนั่ง จากนั้นลุกไปหยิบผ้าขนหนูจากราวไม้ติดกับตู้เสื้อผ้าตรงมุมแต่งตัว ขณะเดินผ่านโต๊ะเครื่องแป้งเพื่อตรงไปยังห้องน้ำ หางตาเขาเห็นเงาตนเองจากกระจกแวบๆ เท้าทั้งคู่ชะงักกึก

นิ่งงันอยู่เป็นครู่ ก่อนจะก้าวถอยหลังกลับมาช้าๆ ครั้นสบตากับเงาสะท้อนในกระจกบานใหญ่ เจ้าของร่างสูงเพรียวก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก

เมื่อครู่นี้เขาคงตาฝาด มันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว คนที่ไหนเล่าจะไร้เงาหัวทั้งที่มันยังตั้งอยู่บนคอแบบนี้!!!




ปาร์ตีวันเกิดของริชาร์ดจัดขึ้นที่คอนโดของเขาเอง แขกที่มาร่วมงานเป็นเพื่อนสนิทๆประมาณสามสิบคนเห็นจะได้ ทุกคนดื่มกินและเต้นรำกันอย่างสนุกสนาน ยิ่งดึก บรรยากาศก็ยิ่งคึกคัก ทุกคนในงานรู้จักวิไลวรรณดี เธอจึงไม่รู้สึกเคอะเขินเก้อกระดากในการร่วมสนุกไปกับพวกเขา

“มานั่งจีบกันอยู่นี่เอง หมดแรงแล้วเหรอ มาเต้นคู่กันหน่อยเร็ว”

เพื่อนคนหนึ่งตรงมาฉุดข้อมือสาวใหญ่และชายหนุ่มที่นั่งอยู่บนโซฟาตัวเดียวกัน แม้จะเพิ่งนั่งพักได้ไม่นาน แต่แอลกอฮอล์ซึ่งไหลเวียนอยู่ในกายทำให้เลือดฉีดพล่านและพร้อมจะสนุก วิไลวรณวางแก้วไวน์และลุกตามแรงฉุดไปอย่างว่าง่ายพอกับคนข้างๆ
พลันที่เสียงดนตรีเร้าใจเริ่มต้นขึ้น คู่หนุ่มสาวกลางวงล้อมของเพื่อนๆก็เริ่มร่ายลีลาโยกย้ายเข้ากับจังหวะ โดยเฉพาะฝ่ายหญิง หล่อนกระฉับกระเฉงเริงร่าราวกับไม่ใช่สาวใหญ่วัย ๔๙ ที่มีลูกชายโตเป็นหนุ่มวัยเบญจเพสอย่างนั้นละ ยามขยับกาย เสื้อเกาะอกสีเงินสะท้อนแสงไฟวิบวับ กระโปรงยาวสะบัดไหวราวกับมีชีวิต ที่คลอเคลียอยู่ไม่ห่างคือหนุ่มลูกครึ่งไหล่กว้างร่างสูง ผมสีน้ำตาลอมทองขับให้ใบหน้ายิ่งขาวกระจ่าง ริมฝีปากแดงสดบางเฉียบราวกับผู้หญิง ท่วงท่าในการเต้นของทั้งคู่แข็งแรง รับและส่งกันอย่างมีจังหวะน่ามอง เพื่อนรอบวงต่างอดไม่ได้ต้องขยับตามจังหวะไปด้วย บ้างเป่าปากกรี๊ดกร๊าด บ้างชูมือตบอยู่เหนือศีรษะ และอีกหลายคนชูมือที่กำขวดเหล้าพลางส่ายสะบัดศีรษะไปมาอย่างเมามัน

ครั้นเริ่มเข้าสู่ท่อนร้อง ริมฝีปากเคลือบลิปสติกแวววาวของสาวใหญ่ก็ขยับตาม สำเนียงการออกเสียงชัดเจนไม่ต่างจากเจ้าของภาษา ด้วยความเข้าใจในเนื้อหาของเพลง I will survive ของ Gloria Gaynor ซึ่งตรงกับชีวิตจริงของหล่อนเหลือเกิน จึงทำให้ใส่อารมณ์ได้เต็มที่

At first I was afraid, I was petrified
ตอนแรกฉันก็กลัวและเสียวสยองนะ

Kept thinkin’ I could never live without you by my side
คอยคิดวนเวียนไปมา คิดว่าต้องตายแน่ๆถ้าไม่มีเธอข้างกาย

But then I spent so many nights thinkin how you did me wrong
แต่เมื่อวันคืนผ่านไป ก็คิดได้ว่าที่ผ่านมาเธอทำไม่ดีกับฉันอย่างไรบ้าง

And I grew strong and I learned how to get along
ฉันก็รู้สึกแกร่งและเข้มแข็งขึ้น ได้เรียนรู้ว่าจะใช้ชีวิตอยู่ต่อไปอย่างไร

And so you’re back from outer space
และแล้วเธอก็กลับมาหาฉัน มาจากโลกไหนก็ไม่รู้

I just walked in to find you here with that sad look upon your face
พอฉันเดินเข้ามา ก็ต้องมาเจอหน้าเศร้าๆของเธอ

I should have changed that stupid lock, I should have made you leave your key
ฉันน่าจะเปลี่ยนกลอนประตูเฮงซวยนี่เสียให้รู้แล้วรู้รอด น่าจะทวงกุญแจคืนมาจากเธอ

If I had known for just one second you’d back to bother me
ถ้ารู้ว่าเธอจะกลับมากวนใจฉันแบบนี้

Go on now, go walk out the door
ออกไปเดี๋ยวนี้เลย ออกประตูนั่นไปเลย

Just turn around now cause you’re not welcome anymore
ไสหัวไปตอนนี้เลย เพราะที่นี่ไม่ต้องการเธออีกแล้ว

Weren’t you the one who tried to hurt me with goodbye
ก็เธอไม่ใช่เหรอที่พยายามทำให้ฉันเจ็บปวดด้วยการตีจาก

Did you think I’d crumble, did you think I’d lay down and die
เธอคิดเหรอว่าจะทำให้ฉันแตกเป็นเสี่ยงๆได้ คิดเหรอว่าฉันต้องแดดิ้นสิ้นใจตายไปตรงนี้

Oh, no, not I,I will survive
โอ้ ไม่ใช่ฉันแน่ๆ เพราะฉันจะอยู่ต่อและไม่ตายหรอก

For as long as I know how to love I know I’ll stay alive
ตราบเท่าที่ฉันรู้จักรักเป็น ฉันจะต้องอยู่ มีชีวิตอยู่ต่อไป

I’ve got all my life to live and I’ve got all my love to give
ฉันมีชีวิตทั้งชีวิตต้องดูแลต่อไป ฉันมีความรักเต็มหัวใจพร้อมมอบให้คนอื่น

And I’ll survive, I will survive, hey, hey
และฉันไม่ตายหรอก ฉันจะต้องอยู่ได้ เฮ เฮ


หนุ่มสาวจบเพลงด้วยท่วงท่าสวยงาม และเลี่ยงออกมานอกวง ปล่อยให้เพื่อนๆปล่อยลีลาในเพลงต่อๆไป หล่อนทิ้งตัวลงบนโซฟามุมห้อง เหงื่อผุดพราวบนใบหน้างาม ดูเหน็ดเหนื่อยทว่าเต็มไปด้วยความเริงร่า คล้ายได้ปลดปล่อยตัวตนและความเคร่งเครียดซึ่งสะสมอยู่ในใจออกไปจนหมดสิ้น หล่อนยิ้มกว้างให้ชายหนุ่มคู่เต้นที่ตามติดมาประชิดตัว และโอบเอวเธอไว้อย่างสนิทสนม

“เก่งมากวีวี่”

แม้หน้าจะดูเป็นฝรั่ง แต่สำเนียงพูดไทยชัดเจน คนอื่นจะเรียกวิไลวรรณว่าวี แต่เขา...ริชาร์ด เรียกเธอว่าวีวี่อย่างน่ารัก แม้เพื่อนบางคนจะค่อนแคะว่าชื่อเหมือนสุนัข แต่หล่อนกลับชอบและรู้สึกว่าอายุตนเองลดลงมาเทียบเท่ากับเขา

“ไม่เสียแรงที่ผมเทรนด์มาอย่างดี”

ใช่ เขาเป็นคนเทรนด์ให้เธอ ริชาร์ดเป็นครูสอนเต้นอยู่ที่สถาบันแห่งหนึ่งซึ่งวิไลวรรณใช้เวลาว่างในช่วงกลางวันไปเรียนเพื่อลดความเบื่อหน่ายในชีวิตคู่ ทำให้ได้รู้จัก ใกล้ชิด และสนิทสนมกับครูสอนเต้นวัยสามสิบปีคนนี้ในที่สุด

หล่อนเพิ่งรู้จักกับริชาร์ดได้ไม่นาน แต่ความสนิทสนมเลื่อนขั้นขึ้นมาอย่างรวดเร็ว จนวิไลวรรณยอมสลัดคู่ควงคนอื่นๆทิ้งเพื่อคบหากับเขา อย่าเอ่ยถึงความรู้สึกผิดเรื่องการมีสามีแล้วยังมาคบคนอื่นซ้อนเลย ความรู้สึกเช่นนั้นมันหายสูญไปนานนักแล้ว ตั้งแต่รู้ความจริงหลังแต่งงานเพียงไม่นานว่าวรุตม์มีคนอื่น ไม่ใช่คนเดียว เขาเปลี่ยนไปเรื่อยๆตามแต่ตนเองจะพอใจ ถูกใจคนไหนก็คบนานหน่อย เบื่อก็เลิก ไร้พันธะผูกพัน

ผิดตรงไหนถ้าหล่อนจะทำบ้าง ในเมื่อวรุตม์ห่วงหน้าตาชื่อเสียงทางสังคมจนไม่ยอมหย่าขาดปล่อยหล่อนให้เป็นอิสระ หล่อนก็จะไขว่คว้าหาความสุขด้วยตนเอง

สาวใหญ่คิดขณะคีบแก้วไวน์ขึ้นมาจรดริมฝีปาก

“ถ้าฉันไม่รู้จักเธอดี เห็นเธอเต้นสะบัดแบบนี้ ฉันคงคิดว่าเธอเป็นพวกเก้งกวาง”

ริชาร์ดยิ้มกว้างอย่างเข้าใจความหมายของ ‘เก้งกวาง’ ดี

“ไม่แน่นะ ที่คุณรู้ อาจไม่ใช่เรื่องจริงก็ได้” เขายักไหล่ยิ้มยั่วอย่างน่ารัก ก่อนริบแก้วจากมือหล่อนไปอย่างละมุนละม่อม

“พอได้แล้ววีวี่ คุณดื่มมากแล้วนะคืนนี้”

“เธอก็รู้ว่าฉันไม่เมา”

“ไม่เมาอะไรแก้มแดงแบบนี้” พร้อมกับพูด นิ้วเรียวของชายหนุ่มก็ไล้ผิวแก้มหล่อนเบาๆ

วิไลวรรณหัวเราะ “เธอไร้เดียงสาจนดูไม่รู้หรือริชาร์ดว่าฉันปัดบลัชออน”

“คุณนี่...” ริชาร์ดส่ายหน้าซึ่งระบายรอยยิ้มอ่อนบาง “ไม่โรแมนติกเลยนะวีวี่”

แม้ตำหนิเช่นนั้น ทว่ายามดวงตาสีฟ้าใสทอดมองมาแสดงความชื่นชมเปิดเผย ดวงตาคู่สวยนี้ทำให้วิไลวรรณรู้สึกวูบวาบในช่องท้อง ยิ่งเมื่อเขาเลื่อนสายตามาหยุดนิ่งอยู่ที่ริมฝีปากด้วยแล้ว แววชื่นชมในดวงตาถูกแทนที่ด้วยความปรารถนาร้อนแรง คล้ายโหยหิวและอยากโจนจ้วงลงมาดื่มด่ำให้หนำใจ

ร่างสูงขยับเข้ามาใกล้ เชยคางหล่อนขึ้น

“รู้ไหม ไม่มีของขวัญวันเกิดชิ้นไหนพิเศษสำหรับผมมากไปกว่าคุณ”

ผ่านโลกมามากจนรู้ว่าคนพูดต้องการอะไร คนภายนอกคงไม่รู้ว่าทำไมวิไลวรรณจึงเปลี่ยนคู่ควงบ่อยยิ่งกว่าเปลี่ยนทรงผม และหล่อนก็ไม่เคยออกไปชี้แจงให้ใครฟังว่าเพราะหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ที่เข้ามาเหล่านั้น หวังจะ ‘ฟันฟรี’ แต่เมื่อไม่สำเร็จก็ล่าถอยไปเอง เธอต้องการเพื่อนกินเพื่อนเที่ยวสนุกๆ ทำไปเพื่อให้วรุตม์เห็นว่าตนไม่แคร์ เขาทำได้ หล่อนก็ทำได้ แต่ไม่เคยปล่อยให้ยืดเยื้อจนไปจบลงบนเตียงนอนอย่างที่อีกฝ่ายคิดหวัง

หล่อนสวย รวย และเลือกได้ ทำไมจะต้องไปพลีกายมั่วซั่วให้ตัวเองต่ำต้อยไร้ค่าด้วยเล่า

ผิดกับคราวนี้ คำพูด สายตา และสัมผัสแผ่วเบาจากปลายนิ้วริชาร์ดทำให้เลือดในกายฉีดพล่าน นอกเหนือจากความต้องการทางกาย ดวงตาของเขายังบ่งบอกชัดว่ามีความรักอยู่ในใจด้วย ไม่ว่ามันจะเป็นเรื่องจริงหรือคิดไปเอง วิไลวรรณก็อยากกระโดดลงไปในบ่อปรารถนาที่เขาขุดล่อและพร้อมจะให้เขาจับจูงมือไปแหวกว่ายในวังวนวารีแห่งรักด้วยกัน

นัยน์ตาหวานสานสบลึกซึ้ง วิไลวรณนิ่งงันดั่งต้องมนตร์ ริมฝีปากแดงสดบางเฉียบขยับเข้ามาใกล้ทีละน้อย จนเกือบประทับเข้ากับริมฝีปากแวววาวอยู่แล้ว อีกเพียงนิดเดียว หล่อนหลุดจากภวังค์ ใช้มือยันปลายคางอันสากระคายด้วยไรเคราเขียวๆพลางเบี่ยงหน้าหลบ

“เดี๋ยวค่ะริชาร์ด ขอฉันเข้าห้องน้ำแป๊บนึงก่อน”

ไม่รอให้อีกฝ่ายอนุญาต วิไลวรรณผุดลุกขึ้น เดินฝ่ากลุ่มเพื่อนที่ยังคงสนุกสนานกันสุดเหวี่ยงไปยังห้องน้ำซึ่งอยู่อีกฟากหนึ่ง อกใจไหวระทึกไม่ต่างจากวันเข้าหอกับวรุตม์ครั้งแรก

คิดมาถึงตรงนี้ สาวใหญ่พยายามสลัดภาพคืนนั้นออกไปจากห้วงความคิด แม้จะตราตรึงใจเพียงใดก็ตาม แต่คิดถึงไปก็ไร้ประโยชน์ สำหรับวรุตม์ เธอคงเป็นแค่ผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งเหมาะสมกับเขาด้วยประการทั้งปวง พ่อแม่เป็นเพื่อสนิทกัน จึงจับลูกสาวลูกชายมาแต่งงานกัน และเขาคงยอมแต่งงานเพราะขัดพ่อแม่ไม่ได้ แต่สำหรับหล่อน...ยอมแต่งด้วยเพราะแอบรักเขามานาน ถ้ารู้ว่าสุดท้ายเรื่องราวลงเอยแบบนี้ เธอคงไม่ยอมแต่ง ไม่ว่าจะรักเขาแค่ไหนก็ตาม

เอาเถอะ เรื่องมันผ่านมาตั้งนานแล้ว อย่างน้อยเขาก็มอบลูกชายที่น่ารักอย่างวาริให้เธอได้ชื่นอกชื่นใจ และวันคืนเลวร้ายไม่เงียบเหงาจนเกินไปนัก

ภาพความทรงจำต่างๆเลือนหายเมื่อร่างสมส่วนเข้ามาหยุดยืนอยู่หน้ากระจกภายในห้องน้ำกว้างขวาง...ซีดไป หล่อนบอกตนเองหลังจากใช้เวลาพิจารณาเงาสะท้อนอยู่ครู่หนึ่ง อายุมากแล้ว เครื่องสำอางจางหน่อยริ้วรอยก็เริ่มผุดโผล่มาอวดสายตา แม้ไม่เยอะแยะจนน่าเกลียดเนื่องจากดูแลตัวเองอย่างดีมาโดยตลอด แต่ก็ลดทอนความมั่นใจของหล่อนไปมาก

หากหล่อนเป็นของขวัญชิ้นพิเศษสำหรับริชาร์ดแล้วละก็ หล่อนก็อยากสวยเป็นพิเศษด้วย แต่กระเป๋าเครื่องสำอางอยู่ในรถ ยอมเสียเวลาสักนิดเพื่อความสวยอันน่าประทับใจ คิดอย่างไรก็คุ้ม

สาวใหญ่หลบเพื่อนฝูงออกมายังลานจอดรถ คอนโดแห่งนี้หรูหราและเชื่อมั่นได้ในระบบความปลอดภัย หล่อนกดรีโมตปลดล็อกและเข้าไปนั่งหลังพวงมาลัย เอี้ยวตัวไปหยิบกระเป๋าเครื่องสำอางบนเบาะหลัง กำลังจะเปิดไฟในรถเพื่อแต่งเติมหน้าตา สายตาก็จับภาพชายหญิงคู่หนึ่งที่เดินคลอเคลียกันออกจากประตูกระจกแบบบานเลื่อน ท่าทางอิ่มเอมเปรมปรีดิ์แบบนี้ดูออกว่าเพิ่งผ่านศึกรักมาไม่นาน ผมเผ้าฝ่ายหญิงยังกระเซิงน้อยๆเหมือนเพิ่งลุกจากเตียง แต่ไม่น่าเกลียด ตรงกันข้าม กลับดูเซ็กซี่อีกด้วย

วิไลวรรณยอมนั่งเงียบอยู่ในรถมืดๆ เพราะกลัวผู้มาใหม่ขัดเขิน แต่ครั้นคนคู่นั้นเดินเข้ามาใกล้จนเห็นหน้าชัด วิไลวรรณก็กำมือแน่น สัมผัสได้ถึงความโกรธซึ่งแล่นเป็นริ้วระลอกอยู่ในใจ

ทั้งคู่เดินเลยรถหล่อนไปโดยไร้ความสนใจ วิไลวรรณมองตามในกระจกข้าง พบทั้งคู่หยุดยืนข้างรถคันหนึ่งซึ่งวิไลวรรณเพิ่งเห็นและจำได้แม่นว่าเป็นรถใคร จากนั้นหนุ่มสาวก็เริ่มกอดจูบกันนัวเนีย ซุกไซ้กันอย่างมั่นใจว่าจะไม่มีผู้ใดพบเห็น หรืออีกทีก็เป็นความตื่นเต้นท้าทายที่ได้พลอดรักกันในที่สาธารณะ ครู่ใหญ่กว่าฝ่ายชายจะผละออกอย่างอาลัยอาวรณ์และส่งฝ่ายหญิงขึ้นรถ
รอจนหญิงสาวเคลื่อนรถออกไปแล้วนั่นละ เขาจึงเดินผิวปากหวือกลับเข้าข้างใน ท่าทางสบายอารมณ์ ทิ้งให้วิไลวรรณนั่งโกรธจนตัวสั่นอยู่ในรถเพียงลำพัง

“แก...”

หล่อนพึมพำลอดไรฟัน คิดไม่ออกว่าจะจัดการกับเรื่องนี้อย่างไรดี แต่ที่แน่ๆ ไม่มีทางปล่อยผ่านไปเฉยๆเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
วิไลวรรณเม้มริมฝีปากแน่นขณะใช้ความคิด แน่นอน เรื่องแบบนี้หล่อนยอมไม่ได้

***************************************************

ทักทายท้ายเรื่อง

คุณ Sweet butter ก็น่ารักไม่แพ้วาริค่ะ ขอบคุณสำหรับคอมเม้นท์นะคะ

พี่แตงกวา วาริจะคิดอะไรหนูไม่บอก แต่พี่แตงกวาคิดอะไรกับวาริรึเปล่า อุ อิ

คุณใบบัวน่ารัก คิดแล้วจะบ้าแทน แต่มีคนเห็นอะไรแบบน้ำหนึ่งนี่จริงๆนะคะ แรกๆเขาก็จิตตก แต่นานๆไปถ้าทำใจได้ก็จะชินเอง บรึ๋ยส์

คุณรินทร ข้างๆก็มีหนุ่มล่ำให้กอดก่ายแล้วมิใช่เหรอออออ

เกดซ่าาาาา ทามมายเพิ่งมาบอกเอาตอนเจ๊เขียนจบแล้ววววว ทามมายยยเจ๊คิดม่ายออก

น้องหนอนนน้อยดังปัณณ์ เจ๊ปิดปากเงียบ ไม่หลุดสิ่งใดทั้งนั้น จะไม่สปอยล์ จะไม่สปอยล์ เจ๊ท่องจำขึ้นใจ

คุณนักอ่านเหนียวหนึบ นั่นสิคะ ถ้าสะกดแล้วตาไม่พร่า ก็น่าสะกดนะ ไหนๆแล้วก็ควรจะได้เห็นกันชัดๆไม่ใช่มัวๆ ๕๕๕

คุณน้องหมีบุลินทร นิยายเจ๊ขายฉากปล้ำ ดิบ เถื่อน มุ้งม้ง มุ้งมิ้งไม่มี็

น้องยิ้มจัง น้ำหนึ่งเอาตัวรอดไงต้องติดตามจร้าาาา

แล้วพรุ่งนี้มาสนุกกันต่อนะคะ





ภาวิน
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 14 ก.ย. 2557, 03:44:35 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 14 ก.ย. 2557, 03:44:35 น.

จำนวนการเข้าชม : 1382





<< บทที่ ๔ (ครึ่งแรก)   บทที่ ๕ (ครึ่งแรก) >>
พันธุ์แตงกวา 14 ก.ย. 2557, 07:29:09 น.
5555555 แหม มันก็ต้องมีกันบ้าง พ่อดอกกล้วยไม้ขาว อบอุ่น อ่อนโยนแบบนั้น ใครมันจะทนไหว ชิมิ
วิไลวรรณแซ่บเวอร์ เจ้ชอบนาง


ketza 14 ก.ย. 2557, 09:19:45 น.
คุณลูกวาริ กะ คุณแม่วีวี่ แหม่ๆ คุณแม่แซ่บเวอร์จิงๆ 55555


yimyum 14 ก.ย. 2557, 11:18:15 น.
อ้าววาริหัวหาย ดวงซวยปะเนี่ย


บุลินทร 14 ก.ย. 2557, 12:09:29 น.
จริงเหรอ เดี๋ยวได้มาจะเปิดหาฉากปล้ำก่อนเลยว่าจริงมั้ย ฮ่าๆๆๆ ปรากฏมีฉากเดียว


ริญจน์ธร 14 ก.ย. 2557, 13:04:18 น.
แม่ของวาริแซบมากกกกกก


ดังปัณณ์ 14 ก.ย. 2557, 13:12:56 น.
เขียนไว้ข้างเตียง เจ้ไม่สปอยล์!

555+ แต่หนุ่มสาวอ่ะยู้วววววววว นั่นเปมิกากะหนุ่มอีกหนุ่มอ่ะดิ๊ วานี่ของหนอนนนนนนน โดนสวมเขากรี๊ดดดดดดดดดด แล้วขุ่นแม่จิทำอัลไลลลลลลลลลลลล มันต้องเป็นเรื่องที่วานี่ต้องร่องแร่งเข้าโรงบาลแหง ฟันธง คอนเฟิร์ม นังเปมี่นอกใจวานี่คุง!!

ปล.ไม่รักเค้าแล้วเอารูปเค้าขึ้นหน้าจอทำไม ถ้าหล่อนไม่รู้สึกตัวว่ารักใคร วานี่! นางจิน่าหมั่นไส้มากกว่าน่าสงสาร 555+


นักอ่านเหนียวหนึบ 14 ก.ย. 2557, 19:11:45 น.
หรือเพราะขุ่นแม่ วาริเลยเงาหัวม่ายมี ว๊ายๆๆๆๆ ตกลงนายจะชอบใคร


Barby 16 ก.ย. 2557, 14:15:49 น.
ใครอะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account