วังวนวารี [---ชุด ๕ ปรารถนา---]
คนหนึ่งอบอุ่นอ่อนโยน คนหนึ่งห่ามห้าว ใจร้อน แตกต่างกันราวกับน้ำพุร้อนเดือดพล่านและสายฝนฉ่ำเย็น หากสิ่งหนึ่งที่ทั้งสองเหมือนกัน คือเขาต่างมีใจให้เธอ แล้วเธอล่ะ จะมอบใจรักเพื่อใคร
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: บทที่ ๕ (ครึ่งแรก)

แน่ละ ใครจะไปยอมได้ ตนเองโดนหักหลัง ผิดหวังเสียใจมามากจนเข้าใจความเจ็บปวดที่ได้รับดีว่ามันทุกข์ทรมานเพียงใด แล้วนี่ วาริกำลังถูกผู้หญิงที่เขาประกาศว่าจะแต่งงานด้วยทรยศหักหลัง เขาจะไม่เจ็บปวดหรือ
ใช่...ผู้หญิงที่กอดจูบกับชายหนุ่มผู้นั้นอย่างเปิดเผยคือเปมิกาคนรักของวาริ

ความโกรธและความเครียดทำให้หล่อนหมดอารมณ์จะ ‘ไปต่อ’ กับริชาร์ด วิไลวรรณโทร.เข้าไปบอกเขาว่าปวดหัว ขอตัวกลับก่อน

อีกไม่กี่ชั่วโมงก็เช้า วิไลวรรณนอนไม่หลับและไม่คิดจะพึ่งยานอนหลับเหมือนเคย หล่อนฆ่าเวลาด้วยการหิ้วขวดไวน์พร้อมแก้วก้านยาวไปนั่งดื่มริมสระ เท้าเปล่าเปลือยหย่อนลงกำซาบความเย็นของน้ำ กวัดไกวเบาๆก่อให้เกิดริ้วคลื่นล้อแสงไฟระยิบระยับ ดอกลีลาวดีสีขาวนวลหลายดอกร่วงจากต้นริมสระลอยล่องตามแรงกระเพื่อมของผิวน้ำ ละไอฝนที่ตกเมื่อตอนหัวค่ำยังชุ่มฉ่ำอยู่ในอากาศ เครื่องดื่มสีแดงสดสวยในมือช่วยให้อบอุ่นขึ้น

ได้ยินเสียงรถแล่นเข้ามาจอด จากนั้นไม่นานเสียงฝีเท้าหนักๆก็ดังใกล้เข้ามาจนกระทั่งหยุดยืนอยู่เบื้องหลัง

“เครียดอะไรอีกล่ะคุณ” คนถามดักเดาความรู้สึกของเธอได้จากการแสดงออก

วิไลวรรณยิ้มคล้ายหยัน ผินหน้ากลับไปมองสามี ร่างสูงซ่อนอยู่ในเสื้อเชิ้ตสีม่วงอ่อนจางเกือบขาว ชายเสื้อถูกดึงออกจากกางเกงสแล็กส์เนื้อดี แขนเสื้อพับลวกๆขึ้นไปถึงข้อศอก เสื้อสูทสีเข้มพาดอยู่บนท่อนแขนแกร่ง วรุตม์ยังดูดีแม้วัยจะล่วงเข้า ๕๐ ปีแล้ว เขาดูแลตัวเองดีพอๆกับหล่อน หน้าตาผิวพรรณจึงดูเยาว์กว่าอายุจริง

“สบายใจเถอะ ไม่ใช่เรื่องของคุณแน่ๆ”

“ก็ดี” เขาพูดพลางพาดเสื้อสูทกับพนักเก้าอี้ริมสระลงนั่งขัดสมาธิใกล้ๆ

“มีอะไรจะพูดกับฉัน อย่าบอกนะว่าจะดื่มเป็นเพื่อน” หล่อนยิ้มหยันอีกคำรบ รู้ว่าไม่มีช่วงเวลาเช่นนั้นแน่

“เรื่องริชาร์ด” วรุตม์เข้าเรื่อง ตรงประเด็น “ล่วงเลยไปถึงไหนแล้ว ดูสนิทสนมกว่ารายอื่นๆนะ”

“ยังไม่ถึงไหนหรอกค่ะ ถามทำไม หึงเหรอ”

วิไลวรรณได้ยินเสียงบางอย่างในลำคอคนข้างกาย เป็นเสียงคล้ายหัวเราะหึๆ หล่อนหันไปสบตาและพบร่องรอยขบขัน
“ผมเหรอจะหึงคุณ เป็นห่วงมากกว่า หมอนี่มันไม่ธรรมดานะ อย่าไปหลงคารมมันนัก เดี๋ยวจะเสียใจทีหลัง”

“ใช่ค่ะ เขาไม่ธรรมดา เพราะเขาเป็นคนพิเศษสำหรับฉัน อย่ากลัวเลยค่ะ เรื่องเสียใจน่ะ ฉันเจอมาจนชาชินแล้ว ขอบคุณนะคะที่อุตส่าห์เป็นห่วง”

“ก็เตือนด้วยความหวังดีหรอก” หนุ่มใหญ่ลุกขึ้นยืน แสดงให้รู้ว่าหมดธุระแล้ว

“ขอบคุณอีกครั้งค่ะ แต่ไม่ต้องห่วง ฉันรู้จักเขาดี”

“คงไม่ทุกเรื่องมั้ง” วรุตม์ยิ้มอย่างเป็นต่อ และแววตาเขาเหมือนรู้อะไรดีๆที่เธอไม่เคยรู้

“ทุกเรื่องค่ะ ฉันมั่นใจ” หล่อนเชิดหน้า สบตาเขาไม่ลดละ

วรุตม์มองหล่อนและส่ายหน้าระอา ราวกับกำลังมองเด็กที่ทำตัวดื้อดึงเอาแต่ใจ ก่อนจะหันไปคว้าเสื้อสูทและเดินเข้าบ้าน

“คุณรุตม์คะ” หล่อนเรียกเขาไว้

ร่างสูงหยุดเท้า หันกลับมา

“ว่างๆไปตรวจสุขภาพบ้างนะคะ รู้ตัวหรือเปล่าว่าช่วงนี้คุณซูบไป”

ในท่ามกลางความขัดแย้ง ไม่ลงรอยของคนทั้งคู่ ยังคงมีพื้นที่เหลือไว้สำหรับความรักความห่วงใยเสมอ

“ไม่เป็นไรหรอก ช่วงนี้เครียดๆน่ะ กำลังจะผลิตเหล้าแบรนด์ใหม่ให้ว่านดูแล”

“กำลังจะผลิตแบรนด์ใหม่” ดวงตาคมเข้มของวิไลวรรณวาวจ้าด้วยความไม่พอใจ “ถามลูกหรือยังคะ ว่าอยากได้ไหม”

“ทำไมต้องถาม ผมทำทั้งหมดนี้ก็เพื่อลูก” เขาแย้งอย่างคนที่มั่นใจในทุกการกระทำของตนเอง

“ทำเพื่อลูก แล้วทำไมลูกไม่มีความสุขล่ะคะ”

“คุณรู้ได้ยังไง”

“เพราะฉันเป็นแม่ไงคะ แม่ที่สบตาเขามาตั้งแต่แรกเกิด จนวันนี้ ฉันรู้ว่าความสุขสดใสในดวงตาคู่นั้นมันเลือนหายไปหมดแล้ว ตั้งแต่ลูกมาทำงานกับคุณ” ที่เหลืออยู่คือแววตาซื่อๆ บางครั้งเฉยเมยดุจยอมรับชะตาชีวิตที่พ่อกำหนดอย่างไร้ข้อโต้แย้ง

“เอาเถอะ ถึงวันนี้เขาจะเหน็ดเหนื่อยไปบ้าง แต่วันข้างหน้าเขาจะต้องขอบคุณที่ผมสร้างรากฐานให้เขาอย่างมั่นคง” กล่าวจบ ร่างสูงก็หมุนตัวเดินกลับเข้าบ้าน

วิไลวรรณถอนหายใจหนักๆด้วยความกังวล เป็นห่วงวาริ ไหนจะเรื่องงาน ไหนจะเรื่องคนรัก ทำไมต้องมาสุมรุมกันตอนนี้ก็ไม่รู้ สาวใหญ่เทไวน์ในแก้วลงคอรวดเดียวหมดเพื่อดับความกลัดกลุ้ม

เกือบเช้ากว่าวิไลวรรณจะเดินซวนเซกลับขึ้นห้องนอน...ห้องนอนที่แยกต่างหากจากสามีมาเกือบยี่สิบปีแล้ว หล่อนยิ้มหยันยามมองเตียงกว้างอันว่างเปล่า ก่อนทุ่มตัวลงบนมันและหลับลงอย่างง่ายดาย




วันหยุดสุดสัปดาห์เช่นนี้ ทุกคนในบ้านมักตื่นสายเนื่องจากเหน็ดเหนื่อยกับการทำงานมาตลอดห้าวัน วิไลวรรณลุกจากเตียงตอนสิบโมง ความเครียดและกังวลยังคงกอดกุมจิตใจหล่อนไว้แนบแน่น เรื่องของลูกทำให้หล่อนทุกข์ร้อนยิ่งกว่าเรื่องตัวเองหลายเท่า

หลังจากอาบน้ำจนรู้สึกสดชื่น แม็กซี่เดรสสีเหลืองดอกบวบส่งให้หล่อนดูสดใส เครื่องสำอางยี่ห้อดีกลบทับริ้วรอยตามวัยให้เนียนเรียบราวกับสาวรุ่น หล่อนลงมานั่งจิบกาแฟและอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ริมสระน้ำ วันนี้ฟ้าหลัวแดดอ่อน เมฆฝนสีเทาหม่นลอยเรี่ยอยู่บนผืนฟ้า อากาศเย็นสบายแบบที่หล่อนชอบ กว่ากาแฟจะหมดแก้ว เวลาก็ผ่านไปร่วมชั่วโมง หล่อนพับหนังสือพิมพ์วางบนโต๊ะ ลุกจากที่นั่ง ตั้งใจจะออกไปดูร้านเสียหน่อย

วิไลวรรณเปิดร้านขายเสื้อผ้าอยู่บนห้างสรรพสินค้าชั้นนำถึงสองแห่ง แม้หล่อนจะออกท่องราตรีแทบทุกคืน ทำตัวเยี่ยงหญิงรักสนุกไร้สาระ แต่หล่อนเข้าไปดูแลร้านแทบทุกวัน ยกเว้นวันที่มีเหตุจำเป็นจริงๆไม่สามารถปลีกเวลาไปได้ หล่อนตรวจสอบทุกเรื่องอย่างถี่ถ้วน ไม่ว่าจะเป็นสต็อกสินค้าหรือว่าเรื่องเงิน ในเวลางาน หล่อนดูเอาจริงเอาจังและเคร่งขรึมราวคนละคนกับวิไลวรรณที่สนุกสนานอยู่ในสถานบันเทิงยามค่ำคืน

เมื่อเข้ามาในบ้านเพื่อขึ้นไปหยิบกระเป๋าบนห้อง ก็พบวารินั่งอยู่ที่โต๊ะอาหารเพียงลำพัง มือกระฉอกพริกไทยลงในถ้วยข้าวต้มก็จริง แต่ดวงตาจับนิ่งอยู่บนพื้นโต๊ะ คิ้วเข้มหนาขมวดเข้าหากันอย่างใช้ความคิด...คิดเรื่องอะไรกันนะ เรื่องเปมิกาหรือว่าเรื่องงาน
ความเป็นห่วงชักจูงให้วิไลวรรณเดินเข้าไปหาบุตรชาย โอบไหล่เขาไว้พร้อมกับทัก

“พริกไทยจะล้นถ้วยแล้วนะว่าน”

ชายหนุ่มสะดุ้งนิดหนึ่ง ก่อนเงยหน้ายิ้มเก้อๆจนเห็นลักยิ้มน่ารักสองข้างแก้ม มือวางขวดพริกไทยลง

คนเป็นแม่ทรุดนั่งลงบนเก้าอี้ตัวใกล้ ถามด้วยความเป็นห่วง

“มัวคิดอะไรอยู่ถึงเหม่อแบบนี้ เล่าให้แม่ฟังได้ไหม”

วาริสูดลมหายใจเข้าก่อนจะพ่นมันออกมาหนักๆ “พ่อจะผลิตเหล้าแบรนด์ใหม่ให้ผมดูแล เห็นว่าจะผลิตออกมาเพื่อขายตลาดล่าง”
ตลาดล่างที่หมายถึงคนหาเช้ากินค่ำ คนยากคนจน ซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศ

‘อมฤตรสชาติดีแต่ราคาสูง เข้าไม่ถึงตลาดล่าง พ่อว่าจะผลิตเมรัยออกมาตีตลาด ถูกกว่า ดีกว่า พ่อว่าต้องขายดีแน่ ว่านต้องทำงานหนักหน่อยนะช่วงนี้ เตรียมทำโฆษณาได้เลย’

คำพูดของวรุตม์ยังก้องอยู่ในหัว จะอมฤตหรือเมรัยมันก็คือเหล้า เครื่องดื่มอันมีแอลกอฮอล์เป็นส่วนผสมหลัก ดื่มแล้วมึนเมาลดทอนสติสัมปชัญญะของผู้ดื่มได้ทั้งนั้น จ่ายแพงหรือจ่ายถูกก็เมาเหมือนกัน แต่ถ้าแพงแล้วจำกัดผู้ดื่มอยู่ในวงแคบ วาริก็ยังทำงานได้อย่างสบายใจกว่า หากเมรัยถูกส่งออกมาจากโรงงาน วาริเชื่อว่าด้วยแผนการโฆษณาประชาสัมพันธ์ของเขา และคำว่าถูกกว่า ดีกว่าของพ่อ จะส่งผลให้เมรัยกระจายไปทั่วทุกหย่อมหญ้าสารทิศ มอมเมาคนให้ขาดสติอีกหลายแสนหรือหลายล้านคน

แค่คิด วาริก็รู้สึกกระอักกระอ่วนใจแล้ว เขาจะทำร้ายคนด้วยกันแบบนี้หรือ

‘เราไม่ทำคนอื่นมันก็ทำ’

ก็จริงอย่างที่พ่อเคยพูด แต่ทำไมต้องเป็นเราด้วยล่ะ อาชีพอื่นมีอีกเยอะแยะให้เลือกทำ อาชีพที่จะไม่ทำร้ายใคร

“คนเราน่ะนะ ถ้าได้รับการตามใจมากก็ยิ่งกลายเป็นคนเอาแต่ใจ ไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ ไม่เว้นแม้แต่พ่อเรา ว่านทำตามที่พ่อคิดที่พ่อสั่งจนเขาเคยตัว ตัดสินใจอะไรก็ไม่เคยถามหรอกว่าสิ่งที่เขาให้นั้นคนรับต้องการหรือเปล่า ถ้าว่านไม่อยากทำ ถอนตัวออกมาหางานอื่นทำก็ได้ แม่รู้ว่าว่านมีความสามารถ อย่ามัวแต่ก้มหน้าทำตามความฝันของพ่อจนลืมความฝันของตัวเองสิ” วิไลวรรณบอกเสียงจริงจัง

ดวงตาคู่สวยที่วาริมองสบบ่งชัดถึงความรักความห่วงใยและเห็นอกเห็นใจกัน

“แต่พ่อไม่มีใคร ชีวิตพ่อมีแค่เราสองคนนะครับแม่”

“สองคนที่ไหน ตั้งแต่แต่งงานกันมาแม่เห็นมีเป็นสิบ” คนพูดเหยียดยิ้มขมขื่น

“มีเป็นสิบ แต่มีใครรักและจริงใจกับพ่อเท่าเราสองคนหรือเปล่า ถ้าผมไปทำงานอื่น พ่อคงโกรธจนไล่ตะเพิดแน่ แม่จะอยู่ยังไง”

“แม่ก็ไปกับว่านด้วย”

“ไม่จริงหรอกครับ ถ้าแม่อยากไป แม่ไปนานแล้ว ผมไม่รู้ว่าแม่รักพ่อมากแค่ไหน แต่ผมรู้ว่าแม่สงสารพ่อมากถึงทิ้งกันไม่ลง”

วิไลวรรณถอนหายใจ นิ่งไปนิด ก่อนเอ่ย “ก็ไม่แน่นะ รายล่าสุดนี่พ่อเราก็คบกันมานานหลายปีแล้วนี่ อาจจะลงเอยกันก็ได้”

“ไม่ได้หรอกครับแม่ ต่างคนต่างมีชื่อเสียง ต่างคนต่างแต่งงานมีครอบครัวแล้ว และต่างคนต่างก็แคร์สังคม คงไม่กล้าอยู่ด้วยกันอย่างเปิดเผยแน่ ต่อให้หย่าขาดจากคู่ของตัวเองก็ไม่กล้า ต้องลักลอบกันไปแบบนี้ทั้งชีวิตละ” วาริเอ่ย น้ำเสียงราบเรียบไม่บ่งบอกอารมณ์ แต่ความหมายของมันชัดเจนและคงตรงใจวิไลวรรณด้วย หล่อนถึงพยักหน้าช้าๆ

“ว่าแต่ว่านเองเถอะ วันหยุดแบบนี้ไม่ไปหาเป๊กกี้บ้างเหรอ แฟนกันน่ะ ห่างกันมากไม่ดีนะ”

วิไลวรรณเปลี่ยนเรื่องก่อนเรื่องราวของวรุตม์จะบาดความรู้สึกให้เจ็บปวดมากไปกว่านี้ ตอนแรกตั้งใจว่าจะบอกความจริงให้วาริตาสว่าง แต่มีอันต้องพับความคิดนั้นเก็บไปก่อน หล่อนไม่อยากเห็นบุตรชายเครียดหลายเรื่องพร้อมกัน อีกอย่าง ความสัมพันธ์ระหว่างคนรักนั้น หากซบเซาก็สามารถฟื้นฟูให้งดงามได้ใหม่ ทว่าต้องใช้เวลาและความใกล้ชิดให้มากขึ้นกว่าเดิม หล่อนเชื่อเช่นนั้น

“โทร.ไปหาแล้วครับ จะนัดทานข้าวเที่ยงแล้วไปหาที่เดินเล่นต่อ แต่เป๊กกี้บอกว่าไม่ค่อยสบาย ปวดหัว เสียงฟังดูแย่ๆ สงสัยจะอาการหนัก”

คนฟังคันปากยุบยิบ อาการหนักแน่ละ เห็นท่าทีกอดจูบกับไอ้หนุ่มหุ่นล่ำอย่างอาลัยอาวรณ์โหยหานั่นแล้ว ไม่รู้ก่อนหน้านั้นกรำศึกกันมากี่ยก

“ผมว่าเย็นๆจะแวะไปเยี่ยม”

“ดีจ้ะ ควรใช้เวลาร่วมกันบ้าง ถ้าว่านมัวแต่ทำงาน เป๊กกี้อาจจะเหงาได้”

“ไม่หรอกครับ เป๊กกี้เขาก็ทำงานเหมือนกัน คงไม่มีเวลาเหงา”

“แหม รู้ดีนักนะ” วิไลวรรณค้อนวาริวงใหญ่ “ระวังเถอะ จะไม่ได้แต่งงาน โดนแมวงาบไปกินเสียก่อน”

“เป๊กกี้เขาเป็นคนนะแม่ ไม่ใช่ปลาย่าง” ชายหนุ่มเอ่ยกลั้วหัวเราะ

“จะคนหรือปลาย่างก็เฝ้าไว้ให้ดีๆแล้วกัน แม่ไปก่อนละ จะรีบเข้าไปดูร้าน” สาวใหญ่เอ่ยพลางตบแขนวาริเบาๆ “อย่ามัวทุ่มเทกับงานจนลืมสนใจคน เพราะคนเรามีหัวใจมีความรู้สึก มีความต้องการอยากได้ความรักความเอาใจใส่ ถ้าไม่ได้จากเราเขาอาจโบยบินไปหาที่อื่น”

กล่าวจบก็ผละจากไป หล่อนหวังว่าความสัมพันธ์ของวาริกับเปมิกาจะเข้ารูปเข้ารอยและตั้งอยู่บนความซื่อสัตย์ ถูกต้อง ดีงาม หล่อนไม่รู้เลยว่าสิ่งที่ตนหวังนั้นเหมือนลูกโป่งที่หลุดลอยไปติดลมบนกลางฟ้ากว้าง ไม่มีทางยึดยื้อคืนมาได้ง่ายๆอีกแล้ว

******************************************
ทักทายท้ายเรื่อง

พี่แตงกวาขา เจ๊อยากเต้นประชันกับนางหรือริชาร์ดบ้างหรือเปล่าคะ

เกดซ่า ดูเหมือนตอนที่ผ่านมา วิไลวรรณจะเป็นขวัญใจนักอ่านไปแล้วนะ

น้องยิ้มจัง ตามคำโบราณเขาว่าอยู่คนเดียวหัวหาย วาริต้องหาคู่แล้วละ

น้องหมีบุลินทร เป็นพวกชอบเสพฉากปล้ำหราาาาา

น้องเหมือนฝันรินทร แฟนคลับวีวี่อีกคนสินะ เกดว่างอนดีกว่า เอ๊ะ อ้อ ตอนที่ผ่านมาไม่มีบทรึ รอหน่อยเดี๋ยวเจ๊จัดให้

น้องหนอนน้อยดังปัณณ์ คนนี้คอมเม้นท์ยาวกว่าคนอื่นเสมอ แต่เจ๊ก็รออ่านคอมเม้นท์ทุกวัน อยากรู้ว่าวันนี้หนอนน้อยจะมีลูกเล่นแพรวพราวในคำพูดอย่างไร จะหมั่นไส้วาริบ้างอะไรบ้างก็เอาเต็มที่เลยหนอนน้อย เขาอยู่กับเราอีกไม่นาน อุ๊บส์ บอกว่าจะไม่สปอยล์ไง
ป.ล. ถึงเจ๊ไม่สปอยล์ น้องก็เดามาเป็นฉากๆ เฉียดไปเฉียดมาให้คนเขียนเสียวสันหลังเล่น เรื่องต่อไปต้องวางกับดักล่อลวงให้รัดกุมแนบเนียนชนิดหนอนน้อยไหลตามแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว

คุณนักอ่านเหนียวหนึบ อยากรู้ต้องติดตาม ตามติดว่านายวาริจะชอบใคร รักใคร ตามมา ตามมา

คุณ MooNa Narak เฉลยแล้วจ้า ใครเป็นใคร



ภาวิน
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 15 ก.ย. 2557, 02:27:32 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 15 ก.ย. 2557, 02:27:32 น.

จำนวนการเข้าชม : 1273





<< บทที่ ๔ (จบตอน)   บทที่ ๕ (จบตอน) >>
yimyum 15 ก.ย. 2557, 06:56:42 น.
ถูกแล้ว อยู่กันไม่ยืดหรอก วาริ ต้องคู่ กับ น้ำหนึ่งสิ ถึงจะถูก 5555


ใบบัวน่ารัก 15 ก.ย. 2557, 07:41:32 น.
ทำไมคนรวยชอบมีลูกแค่คนเดียว
ไม่มีแรงหรือ กว่าจะรวยก็แก่แล้ว
ตั้งความหวังไว้มากลูกคนเดียว


พันธุ์แตงกวา 15 ก.ย. 2557, 09:07:11 น.
เจ้ก็อยากเต้นกับวิไลวรรณและริชาร์ดตัวเป็นๆเหมือนกันนะ

โคดซึ้งเลยตอนวิไลบอกว่าเป็นแม่ แม่ที่สบตาลูกมาคั้งแต่เกิด ทำไมจะไม่รู้ว่าลูกมีความสุขหรือเปล่า มัน real อ่ะ ใช่เลย


ketza 15 ก.ย. 2557, 09:19:04 น.
มาแว้วว
เริ่มสงสารวาริ แง้ๆๆๆ
.
.
.
.
.รอซาตาน 55555++


ริญจน์ธร 15 ก.ย. 2557, 10:24:27 น.
^
^วาริน่าสงสาร แต่เกดซ่าติดใจซาตานแล้วเหรอ ซาตานแซบมากนะ(ขอบอก) 555
ป.ล. รอทั้งคู่ เลือกไม่ถูก เอาใครดี 555


อสิตา 15 ก.ย. 2557, 13:04:35 น.
ลงถี่ดี ไอ้เก้าซอยตามไม่ทันแล้ว ยิกๆๆๆ


นักอ่านเหนียวหนึบ 15 ก.ย. 2557, 13:10:59 น.
อร๊ายยย ตามติดชีวิตวาริเลยฮ้าาา
อะไรนะ วาริจะโดนตัดออก ม่ายยยยย ผู้ชายดีๆ อยู่ไม่ได้แม้ในนิยายเลยเหรอ กระซิกๆ อยากให้วาริได้ไปต่อ แต่ก็อยากเจอพ่อซาตานรูปหล่อ เสน่ห์แรงด้วยอ๊ะ 565


ดังปัณณ์ 15 ก.ย. 2557, 19:16:44 น.
ไม่ต้องมาหลอกเลย ไหนว่าจะไม่สปอยล์ไงเล้าา ขุ่นพี่ขา!

ชริๆๆ ชอบหลอก ชอบยั่ว ชอบให้หนอนใจแตก อั้ย!! ไม่ใช่แระ 555+ แต่ชอบบุคลิกตัวพ่อแม่วานี่มากเลยอ่ะขุ่นพี่ มันจริงอ่ะปัญหาครอบครัวแบบนี้มีให้รึ่ม แต่ยังไงก้อยู่กันมานาน ต้องมีเยื่อใยกันมั่ง เห้อ...รู้สึกสงสารตัวละคร โดนขุ่นพี่แกล้งงงงงงงงงงงงงงงง 555+

จิรอดูว่าเปมิกาจะได้รับอะไรตอบแทน โธ่ ตอนนี้ต้มมาม่ารอวานี่ นางต้องเสียใจมากที่โดนสวมเขา และแม่วานี่ต้องเป็นอะไรแน่ๆๆๆๆ ชัวร์ คอนเฟิร์มมมมมมมมมม

ปล.ว่าแล้วก้ออออออ ตั้งเตารอตอนพรุ่งนี้อย่างใจจดจ่อ


บุลินทร 15 ก.ย. 2557, 19:22:45 น.
วาริโดนสวมเขาหรือนี่ แต่ไม่เป็นไร มีน้ำหนึ่งรอปลอบใจอยู่


goldensun 15 ก.ย. 2557, 19:39:25 น.
แม่ว่านยังให้โอกาสเป๊กกี้อีกหรือคะนี่ นัวเนียซะขนาดนั้น ว่านก็ไม่รู้อะไรเลยนะ ขืนรอวาริหายเครียด คงไม่ได้เล่า
แม่กับพ่อวารินี่ ไม่รักแต่ผูกพันจริงๆ


Sukhumvit66 16 ก.ย. 2557, 00:20:21 น.
มาลงชื่อคร่า.....^^


Barby 16 ก.ย. 2557, 14:23:56 น.
*_*


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account