ติดบ่วงหัวใจ
นายตำรวจหนุ่มมาดขรึม..ผู้ไม่เคยเห็นผู้หญิงสำคัญเกินกว่างานจับผู้ร้าย
กับพริตตี้สาวสวยนุ่งสั้น..ผู้พ่วงตำแหน่งเมียน้อยญาติผู้ใหญ่ของเขา
สำหรับกวินท์..
หล่อนตำ่ต้อยเกินกว่าเขาจะยอมรับมายืนเคียงข้าง
สำหรับบุศนีย์..
เขาวางตัวเองเอาไว้เสียสูงส่ง..มองหล่อนเหมือนดอกไม้ข้างถนนที่ไม่คิดจะเด็ดดม
แต่ใครจะรู้..ว่าผู้หญิงที่เขามองว่าต้อยตำ่คนนี้..เธอคือคนที่กำหัวใจของเขาเอาไว้แล้วทั้งดวง !
เป็นนิยายอีกเรื่องของโอชินค่ะ พระ-นาง ปะทะเชือดเฉือนสไตล์ตบจูบทั่วไป ดราม่านิดหน่อยตรงชีวิตนางเอก..มาตามลุ้นตามเชียร์การฟาดฟันหัวใจรักของคนสองคนกันค่ะ..
เรื่องนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากเหตุการณ์ที่ตำรวจหล่อๆอนาคตรุ่งทั้งหลายอย่างหมวดแคน แล้วก็อีกหลายท่านต้องมาตายลงเพราะการปฎิบัติหน้าที่..อยากให้เมืองไทยมีตำรวจดีๆเยอะๆบ้านเมืองเราจะได้สงบสุข
แต่เรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับงานของตำรวจนะคะ ไม่มีบทบู๊แอคชั่นของพระเอกเพราะบอกแล้วว่านี่มันนิยายแนวตบจูบค่ะ เราแค่จำลองภาพตำรวจหนุ่มตงฉินคนหนึ่งมาเป็นพระเอกของเราเท่านั้นเอง เรื่องนี้แม้จะมีรสขมอยู่บ้างแต่ก็จบแฮปปี้นะคะ ฝากให้อ่านอีกเรื่องค่ะ
กับพริตตี้สาวสวยนุ่งสั้น..ผู้พ่วงตำแหน่งเมียน้อยญาติผู้ใหญ่ของเขา
สำหรับกวินท์..
หล่อนตำ่ต้อยเกินกว่าเขาจะยอมรับมายืนเคียงข้าง
สำหรับบุศนีย์..
เขาวางตัวเองเอาไว้เสียสูงส่ง..มองหล่อนเหมือนดอกไม้ข้างถนนที่ไม่คิดจะเด็ดดม
แต่ใครจะรู้..ว่าผู้หญิงที่เขามองว่าต้อยตำ่คนนี้..เธอคือคนที่กำหัวใจของเขาเอาไว้แล้วทั้งดวง !
เป็นนิยายอีกเรื่องของโอชินค่ะ พระ-นาง ปะทะเชือดเฉือนสไตล์ตบจูบทั่วไป ดราม่านิดหน่อยตรงชีวิตนางเอก..มาตามลุ้นตามเชียร์การฟาดฟันหัวใจรักของคนสองคนกันค่ะ..
เรื่องนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากเหตุการณ์ที่ตำรวจหล่อๆอนาคตรุ่งทั้งหลายอย่างหมวดแคน แล้วก็อีกหลายท่านต้องมาตายลงเพราะการปฎิบัติหน้าที่..อยากให้เมืองไทยมีตำรวจดีๆเยอะๆบ้านเมืองเราจะได้สงบสุข
แต่เรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับงานของตำรวจนะคะ ไม่มีบทบู๊แอคชั่นของพระเอกเพราะบอกแล้วว่านี่มันนิยายแนวตบจูบค่ะ เราแค่จำลองภาพตำรวจหนุ่มตงฉินคนหนึ่งมาเป็นพระเอกของเราเท่านั้นเอง เรื่องนี้แม้จะมีรสขมอยู่บ้างแต่ก็จบแฮปปี้นะคะ ฝากให้อ่านอีกเรื่องค่ะ
Tags: ตำรวจหล่อ,พริตตี้ , ตบจูบ ,
ตอน: ตอนที่ 4.
กวินท์พารถมาจอดที่ใต้อาคารสูงหกชั้นสภาพกลางเก่ากลางใหม่ซึ่งได้ถูกดัดแปลงเป็นอพาทร์เมนท์สำหรับเช่าอยู่อาศัย ด้านล่างสุดของตัวอาคารมีเพียงที่จอดรถโล่งๆและมินิมาร์ทเล็กๆแสนจะเงียบเหงาแทบไม่มีลูกค้าเดินเข้าออกเพื่อจับจ่ายซื้อของ ชายหนุ่มก้าวเท้าลงจากรถเดินเข้าสู่ตัวอาคาร อาจเป็นเพราะหน้าตาอันคมสัน บุคลิกผึ่งผายกับรูปร่างสูงใหญ่ และชุดฟอร์มนายตำรวจเต็มยศของเขานั่นก็ได้ที่ดึงดูดสายตาของผู้คนที่อยู่บริเวณนั้นให้หันมาจับจ้องอยู่ที่ชายหนุ่มเป็นตาเดียว
รปภประจำอาคารทำท่าชะเง้อชะแง้เมียงๆมองๆเขาอยู่ครู่หนึ่งแล้วก็หันเหไปสนใจมองเจ้าวินมอเตอร์ไซด์หนุ่มที่เพิ่งจะรับลูกค้ามาส่งที่บริเวณหน้าตึกราวกับไม่อยากจะข้องเกี่ยวใดๆกับคนในเครื่องแบบ ใช้เวลาไม่กี่นาทีกวินท์ก็ขึ้นมาถึงชั้นสี่ของอาคารแห่งนั้น ชายหนุ่มเดินไปเรื่อยๆในขณะที่สายตาก็กวาดมองหมายเลขห้องไปพร้อมๆกันจนกระทั่งมาหยุดยืนที่หน้าประตูห้องห้องหนึ่ง เขาเอื้อมมือไปเคาะประตูอย่างไม่ลังเล
ขณะที่ยืนคอยคนมาเปิดประตูอยู่นั้น กวินท์อดที่จะวาดภาพ “ แม่คนนั้น ” อยู่ในใจไม่ได้ จะสะสวยสักเท่าไหร่กันเชียว อย่างเก่งก็คงจะเหมือนๆแม่พวกนางแบบปฎิทินติดร้านเหล้านุ่งน้อยห่มน้อยเพื่ออวดของสงวนให้พวกผู้ชายมักมากทั้งหลายน้ำลายสอ จริตจะก้านเจ้าหล่อนคงจะแพรวพราวไม่ใช่เล่น ไม่เช่นนั้นคงไม่สามารถมัดใจน้าเขยผู้แสนสุขุมของเขาเอาไว้ได้
“มาหาใครคะ คุณตำรวจ?”
เสียงถามนั้นไม่ได้ดังมาจากภายในห้องแต่เกิดขึ้นเบื้องหลังของเขานี่เอง ชายหนุ่มหันขวับมามองเจ้าของเสียงเกือบจะทันที
“...”
กวินท์ยืนอึ้งอยู่ชั่วครู่ อีกฝ่ายก็ดูเหมือนจะตกอยู่ในอาการเดียวกัน ใช้เวลากว่าครู่คนร่างเล็กตรงหน้าจึงได้สติเอ่ยถาม
“คุณ...มาหาใครคะ?”
“ฉันมาหาผู้หญิงที่อยู่ห้องนี้”
กวินท์ตอบคำถามของหญิงสาวด้วยน้ำเสียงเรียบๆก่อนจะกวาดตามองคนตรงหน้าอย่างรู้สึกพิศวง
หล่อนอีกแล้วหรือนี่...
ผู้หญิงตัวเล็ก หน้าสวย คนเดียวกับคนที่ติดอยู่ในลิฟต์กับเขาเมื่อวันก่อน คนเดียวกับคนที่กวินท์ช่วยหล่อนเอาไว้ให้รอดพ้นจากการถูกฝูงชนเหยียบในผับดัง คนที่ใส่ชุดราตรีสีกุหลาบโชว์ต้นขาขาวๆเนียนๆให้หนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่มองตามจนเหลียวหลัง วันนี้เจ้าหล่อนเปลี่ยนลุคส์ตัวเองเสียจนกวินท์อดรู้สึกทึ่งอยู่ในใจไม่ได้
คืนก่อนเจ้าหล่อนดูสวยเก๋เริ่ดหรูในชุดราตรีแสนสั้นทั้งหวานทั้งเปรี้ยวจนเข็ดฟัน แต่วันนี้หล่อนดูเหมือนเด็กสาวปอนๆคนหนึ่งที่สามารถพบเห็นได้ทั่วไป ร่างเล็กๆอยู่ในชุดเสื้อยืดสีขาวสกรีนลายมิคกี้เม้าท์กำลังจะจุ๊บปากกับมินนี่เม้าท์ กางเกงยีนส์ทรงเดฟเอวสูงสีฟ้าน้ำทะเลเน้นเอวเล็กให้ดูกิ่วบางมากยิ่งขึ้น ดวงหน้าหวานละมุนวันนี้เกลี้ยงเกลาปราศจากเครื่องสำอาง ผมยาวสลวยถูกรวบเก็บเป็นหางม้าสูงทำให้ดวงหน้าสวยแลดูอ่อนเยาว์ราวกับเด็กสาวที่เพิ่งจะผ่านพ้นรั้วมัธยมปลายมาเมื่อวันวาน
“เธอรู้จักผู้หญิงที่อยู่ห้องนี้มั้ย ผู้หญิงที่ชื่อบุศนีย์?”
คิ้วโก่งเรียวยาวเลิกขึ้นน้อยๆ ในขณะที่ดวงตาโตดำขลับวับแวมเป็นประกายมองกวินท์อย่างตั้งคำถาม
“เอ่อ...ไม่ทราบว่าคุณมีธุระอะไร?”
ริมฝีปากของกวินท์กระตุกนิดหนึ่งเหมือนจะยิ้มหากแต่เขาก็ไม่ได้ยิ้ม
“เอ เมื่อกี้ฉันว่าฉันพูดชัดแล้วนะ ฉันมาพบผู้หญิงที่ชื่อบุศนีย์ เพราะฉะนั้นถ้าฉันจะมีธุระอะไร ฉันก็จะพูดกับเจ้าตัวเขาเองตอบฉันมาแค่ว่าเธอรู้จักเขาหรือเปล่าก็พอ”
บุศนีย์เม้มริมฝีปากบางมองผู้ชายตรงหน้าอย่างเต็มตาอีกครั้ง ชุดฟอร์มนายตำรวจเต็มยศทำให้คนร่างใหญ่ดูน่าเกรงขามกว่าเดิมมากมายหลายเท่า
เขาเป็นตำรวจ...มิน่า !
คืนที่มีคนยิงกันในผับเขาถึงไม่แสดงอาการตื่นตระหนกหรือหวาดกลัวแต่อย่างใด วันนี้เขามาหาหล่อนถึงหอพักโดยไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคนที่เขากำลังยืนเผชิญหน้าอยู่นี้คือคนที่เขาต้องการจะพบ
“ฉันเองค่ะ ฉันชื่อบุศนีย์”
“อะไรนะ...?”
กวินท์ถามคล้ายคนละเมอ ดวงตาคู่คมกวาดมองหญิงสาวตรงหน้านับตั้งแต่ศีรษะไล่ต่ำลงไปจรดปลายเท้า ก่อนจะตวัดสายตาขึ้นมาสำรวจใบหน้าของอีกฝ่ายอย่างพินิจพิจารณาอีกครั้ง ผิดคาด! ใช่! กวินท์รู้สึกเช่นนั้น คนที่เป็นเมียน้อย เมียเก็บของน้าชัด หน้าตาเป็นเช่นนี้เองหรือ
“เธอหรือชื่อบุศนีย์?”
กวินท์ถามเสียงขรึม
“ค่ะ ไม่ผิดตัวแน่”
เมื่อหญิงสาวแสดงตนอย่างชัดเจน กวินท์ก็ดูเหมือนจะหมดข้อกังขา
“งั้นก็ ขอคุยด้วยสักเดี๋ยวสิ”
“มีอะไร คุยกันตรงนี้ก็ได้ค่ะ”
“หน้าประตูเนี้ยนะ?”
กวินท์ถามออกไปอย่างหัวเสียและเขาก็รู้สึกเช่นนั้นจริงๆ บุศนีย์ทำหน้าอึดอัดปรายตามองประตูห้องของตนเองแล้วตัดสินใจบอกเขาตรงๆ
“คือฉันไม่เคยให้คนแปลกหน้าเข้าไปคุยในห้องฉันหรอกนะคะ บอกตรงๆว่าคนสมัยนี้ไว้ใจไม่ค่อยได้”
“คิดว่าฉันเป็นโจรในเครื่องแบบหรือยังไง?”
“ฉันไม่ได้หมายความอย่างนั้นนะคะ คือ...” บุศนีย์พยายามจะอธิบายแต่พอเห็นสายตาเกรี้ยวกราดของคนตรงหน้าหล่อนกลับพูดอะไรไม่ออก
“งั้นที่ตึกนี้ มีที่ไหนพอจะให้คนเขาพูดธุระส่วนตัวกันได้บ้าง?” เขาถามออกมาในที่สุด หลังจากที่ยืนตีหน้ายักษ์ใส่หล่อนอยู่ตั้งนานสองนาน
“มีร้านอาหารเล็กๆอยู่ที่ชั้นล่างของตึกค่ะ ที่นั่น คงพอจะให้คุณพูดธุระได้”
“งั้นก็นำไปสิ!”
เขาสั่งเสียงเข้ม ราวกับชีวิตนี้เกิดมาเพื่อสั่ง สั่งและสั่งเท่านั้น!
++++++++++++++++++++++++++++
รปภประจำอาคารทำท่าชะเง้อชะแง้เมียงๆมองๆเขาอยู่ครู่หนึ่งแล้วก็หันเหไปสนใจมองเจ้าวินมอเตอร์ไซด์หนุ่มที่เพิ่งจะรับลูกค้ามาส่งที่บริเวณหน้าตึกราวกับไม่อยากจะข้องเกี่ยวใดๆกับคนในเครื่องแบบ ใช้เวลาไม่กี่นาทีกวินท์ก็ขึ้นมาถึงชั้นสี่ของอาคารแห่งนั้น ชายหนุ่มเดินไปเรื่อยๆในขณะที่สายตาก็กวาดมองหมายเลขห้องไปพร้อมๆกันจนกระทั่งมาหยุดยืนที่หน้าประตูห้องห้องหนึ่ง เขาเอื้อมมือไปเคาะประตูอย่างไม่ลังเล
ขณะที่ยืนคอยคนมาเปิดประตูอยู่นั้น กวินท์อดที่จะวาดภาพ “ แม่คนนั้น ” อยู่ในใจไม่ได้ จะสะสวยสักเท่าไหร่กันเชียว อย่างเก่งก็คงจะเหมือนๆแม่พวกนางแบบปฎิทินติดร้านเหล้านุ่งน้อยห่มน้อยเพื่ออวดของสงวนให้พวกผู้ชายมักมากทั้งหลายน้ำลายสอ จริตจะก้านเจ้าหล่อนคงจะแพรวพราวไม่ใช่เล่น ไม่เช่นนั้นคงไม่สามารถมัดใจน้าเขยผู้แสนสุขุมของเขาเอาไว้ได้
“มาหาใครคะ คุณตำรวจ?”
เสียงถามนั้นไม่ได้ดังมาจากภายในห้องแต่เกิดขึ้นเบื้องหลังของเขานี่เอง ชายหนุ่มหันขวับมามองเจ้าของเสียงเกือบจะทันที
“...”
กวินท์ยืนอึ้งอยู่ชั่วครู่ อีกฝ่ายก็ดูเหมือนจะตกอยู่ในอาการเดียวกัน ใช้เวลากว่าครู่คนร่างเล็กตรงหน้าจึงได้สติเอ่ยถาม
“คุณ...มาหาใครคะ?”
“ฉันมาหาผู้หญิงที่อยู่ห้องนี้”
กวินท์ตอบคำถามของหญิงสาวด้วยน้ำเสียงเรียบๆก่อนจะกวาดตามองคนตรงหน้าอย่างรู้สึกพิศวง
หล่อนอีกแล้วหรือนี่...
ผู้หญิงตัวเล็ก หน้าสวย คนเดียวกับคนที่ติดอยู่ในลิฟต์กับเขาเมื่อวันก่อน คนเดียวกับคนที่กวินท์ช่วยหล่อนเอาไว้ให้รอดพ้นจากการถูกฝูงชนเหยียบในผับดัง คนที่ใส่ชุดราตรีสีกุหลาบโชว์ต้นขาขาวๆเนียนๆให้หนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่มองตามจนเหลียวหลัง วันนี้เจ้าหล่อนเปลี่ยนลุคส์ตัวเองเสียจนกวินท์อดรู้สึกทึ่งอยู่ในใจไม่ได้
คืนก่อนเจ้าหล่อนดูสวยเก๋เริ่ดหรูในชุดราตรีแสนสั้นทั้งหวานทั้งเปรี้ยวจนเข็ดฟัน แต่วันนี้หล่อนดูเหมือนเด็กสาวปอนๆคนหนึ่งที่สามารถพบเห็นได้ทั่วไป ร่างเล็กๆอยู่ในชุดเสื้อยืดสีขาวสกรีนลายมิคกี้เม้าท์กำลังจะจุ๊บปากกับมินนี่เม้าท์ กางเกงยีนส์ทรงเดฟเอวสูงสีฟ้าน้ำทะเลเน้นเอวเล็กให้ดูกิ่วบางมากยิ่งขึ้น ดวงหน้าหวานละมุนวันนี้เกลี้ยงเกลาปราศจากเครื่องสำอาง ผมยาวสลวยถูกรวบเก็บเป็นหางม้าสูงทำให้ดวงหน้าสวยแลดูอ่อนเยาว์ราวกับเด็กสาวที่เพิ่งจะผ่านพ้นรั้วมัธยมปลายมาเมื่อวันวาน
“เธอรู้จักผู้หญิงที่อยู่ห้องนี้มั้ย ผู้หญิงที่ชื่อบุศนีย์?”
คิ้วโก่งเรียวยาวเลิกขึ้นน้อยๆ ในขณะที่ดวงตาโตดำขลับวับแวมเป็นประกายมองกวินท์อย่างตั้งคำถาม
“เอ่อ...ไม่ทราบว่าคุณมีธุระอะไร?”
ริมฝีปากของกวินท์กระตุกนิดหนึ่งเหมือนจะยิ้มหากแต่เขาก็ไม่ได้ยิ้ม
“เอ เมื่อกี้ฉันว่าฉันพูดชัดแล้วนะ ฉันมาพบผู้หญิงที่ชื่อบุศนีย์ เพราะฉะนั้นถ้าฉันจะมีธุระอะไร ฉันก็จะพูดกับเจ้าตัวเขาเองตอบฉันมาแค่ว่าเธอรู้จักเขาหรือเปล่าก็พอ”
บุศนีย์เม้มริมฝีปากบางมองผู้ชายตรงหน้าอย่างเต็มตาอีกครั้ง ชุดฟอร์มนายตำรวจเต็มยศทำให้คนร่างใหญ่ดูน่าเกรงขามกว่าเดิมมากมายหลายเท่า
เขาเป็นตำรวจ...มิน่า !
คืนที่มีคนยิงกันในผับเขาถึงไม่แสดงอาการตื่นตระหนกหรือหวาดกลัวแต่อย่างใด วันนี้เขามาหาหล่อนถึงหอพักโดยไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคนที่เขากำลังยืนเผชิญหน้าอยู่นี้คือคนที่เขาต้องการจะพบ
“ฉันเองค่ะ ฉันชื่อบุศนีย์”
“อะไรนะ...?”
กวินท์ถามคล้ายคนละเมอ ดวงตาคู่คมกวาดมองหญิงสาวตรงหน้านับตั้งแต่ศีรษะไล่ต่ำลงไปจรดปลายเท้า ก่อนจะตวัดสายตาขึ้นมาสำรวจใบหน้าของอีกฝ่ายอย่างพินิจพิจารณาอีกครั้ง ผิดคาด! ใช่! กวินท์รู้สึกเช่นนั้น คนที่เป็นเมียน้อย เมียเก็บของน้าชัด หน้าตาเป็นเช่นนี้เองหรือ
“เธอหรือชื่อบุศนีย์?”
กวินท์ถามเสียงขรึม
“ค่ะ ไม่ผิดตัวแน่”
เมื่อหญิงสาวแสดงตนอย่างชัดเจน กวินท์ก็ดูเหมือนจะหมดข้อกังขา
“งั้นก็ ขอคุยด้วยสักเดี๋ยวสิ”
“มีอะไร คุยกันตรงนี้ก็ได้ค่ะ”
“หน้าประตูเนี้ยนะ?”
กวินท์ถามออกไปอย่างหัวเสียและเขาก็รู้สึกเช่นนั้นจริงๆ บุศนีย์ทำหน้าอึดอัดปรายตามองประตูห้องของตนเองแล้วตัดสินใจบอกเขาตรงๆ
“คือฉันไม่เคยให้คนแปลกหน้าเข้าไปคุยในห้องฉันหรอกนะคะ บอกตรงๆว่าคนสมัยนี้ไว้ใจไม่ค่อยได้”
“คิดว่าฉันเป็นโจรในเครื่องแบบหรือยังไง?”
“ฉันไม่ได้หมายความอย่างนั้นนะคะ คือ...” บุศนีย์พยายามจะอธิบายแต่พอเห็นสายตาเกรี้ยวกราดของคนตรงหน้าหล่อนกลับพูดอะไรไม่ออก
“งั้นที่ตึกนี้ มีที่ไหนพอจะให้คนเขาพูดธุระส่วนตัวกันได้บ้าง?” เขาถามออกมาในที่สุด หลังจากที่ยืนตีหน้ายักษ์ใส่หล่อนอยู่ตั้งนานสองนาน
“มีร้านอาหารเล็กๆอยู่ที่ชั้นล่างของตึกค่ะ ที่นั่น คงพอจะให้คุณพูดธุระได้”
“งั้นก็นำไปสิ!”
เขาสั่งเสียงเข้ม ราวกับชีวิตนี้เกิดมาเพื่อสั่ง สั่งและสั่งเท่านั้น!
++++++++++++++++++++++++++++
โอชิน
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 7 ก.ย. 2557, 01:29:07 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 7 พ.ย. 2560, 10:23:07 น.
จำนวนการเข้าชม : 2056
<< ตอนที่ 3. | ตอนที่ 5. >> |
konhin 5 พ.ย. 2557, 23:50:50 น.
โห แทนที่จะได้แอบชอบเงียบๆ โดนความจริง(?)เบรคซะหงายเลย
โห แทนที่จะได้แอบชอบเงียบๆ โดนความจริง(?)เบรคซะหงายเลย
LOLIN 22 พ.ย. 2557, 12:25:12 น.
พระเอกอายุเท่าไรค่ะ
พระเอกอายุเท่าไรค่ะ
โอชิน 23 พ.ย. 2557, 01:32:35 น.
32 ขวบค่ะ ส่วนนางเอกของเรา 22-23 โดยประมานเพราะเพิ่งเรียนจบป.ตรีมาค่ะ
32 ขวบค่ะ ส่วนนางเอกของเรา 22-23 โดยประมานเพราะเพิ่งเรียนจบป.ตรีมาค่ะ