เพียงใจปรารถนา
อดีตอันแสนโหดร้ายในวัยเด็กทำให้ เวหา เติบโตมาเป็นผู้ชายแข็งกร้าวและเย็นชา ผู้หญิงคนไหนก็ไม่สามารถผ่านด่านหัวใจเขาไปได้ แต่ใช่ว่าเขาจะไร้ความรู้สึก เมื่อผู้หญิงที่เขาแอบรัก แต่ไม่สามารถครอบครอง ถูกคนรักของตนเองขอเลิกและไปแต่งงานกับ ปริญดา หญิงสาวผู้ซึ่งเพียงต้องการหนีปัญหา เธอจึงต้องตกเป็นจำเลยแห่งความโกรธแค้นของชายหนุ่ม ที่สำคัญ...เขาทำให้เธอตกหลุมรัก ยอมจำนน และทิ้งขว้างอย่างไม่ใยดีเพื่อแก้แค้นให้สมน้ำสมเนื้อที่เธอทำให้ผู้หญิงที่เขารักต้องเสียใจ!
แต่เมื่อความเข้าใจผิด การโกหกปิดบัง ได้ถูกเปิดเผย จะช่วยให้เธอและเขาเปลี่ยนความแค้น และความชิงชัง ให้เป็นความรักได้หรือไม่......ขอเพียงแค่ใจปรารถนา...รักของทั้งคู่คงไม่เกินความจริง
แต่เมื่อความเข้าใจผิด การโกหกปิดบัง ได้ถูกเปิดเผย จะช่วยให้เธอและเขาเปลี่ยนความแค้น และความชิงชัง ให้เป็นความรักได้หรือไม่......ขอเพียงแค่ใจปรารถนา...รักของทั้งคู่คงไม่เกินความจริง
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้
ตอน: ตอน 31-2
สวัสดีอีกครั้งค่ะนักอ่านเว็บเลิฟทุกท่าน ^^
มาส่งนิยายครึ่งหลังแบบงง ๆ ค่ะ ง่วงนอนมากแต่ก็จบบทลงจนได้ ถ้ามีข้อผิดพลาดเนื้อหาไม่เคลียร์บอกกล่าวกันได้นะคะ ตอนนี้มาแบบสดเลย ห้าๆๆ บทนี้มีโผล่พระเอกสำหรับเรื่องใหม่มาด้วยน้า อิอิ (เขียนปริมกับเวย์ยังไม่เสร็จก็จะเขียนเรื่องใหม่อีกแระ 5555)
ไปนอนแล้วค่ะ ฝากติดตามปริมกับเวย์ด้วยนะคะ แล้วเจอกันใหม่อาทิตย์หน้า ฝันดีค่ะ!
เพียงใจปรารถนา 31-2
“โอ้โห ร้านอาหารที่นี่ใหญ่โตเหมือนกันนะคะนี่” ปริญดากวาดสายตาไปทั่วร้านอาหารที่มีเพียงพนักงานกำลังเดินกันขวักไขว้จัดเตรียมโต๊ะและทำความสะอาดรอรับลูกค้าที่จะเปิดอีกครั้งในช่วงเย็น
“ว้าว เห็นวิวทั่วกรุงเทพเลย” เธอร้องบอกด้วยความตื่นเต้นจนเผลอปล่อยมือจากชายหนุ่ม เดินตรงไปยังโต๊ะอาหารที่อยู่ติดริมขอบกระจกใสมองเห็นวิวด้านนอกชัดเจน
เวหาเอามือล้วงกระเป๋า เดินตามหลังเธอพลางยิ้มดีใจที่เห็นเธอตื่นเต้นชอบร้านอาหารที่เขาเลือก “จริง ๆ ที่นี่มีร้านอาหารที่ดาดฟ้าด้วยนะ ผมชอบมาประจำ แต่ผมว่าข้างบนคนเยอะเสียงดัง ผมก็เลยเลือกที่นี่แทน เห็นวิวสวยได้เหมือนกัน และผมว่าครอบครัวคุณน่าจะชอบ”
เขาเดินไปโอบเอวเธอ พลางมองตามสายตาเธอที่กำลังตื่นเต้นกับวิวตรงหน้า “อีกอย่างข้างบนบางทีก็ลมแรง ผมเลยกลัวว่าคุณย่าคุณอาจจะไม่สบายเอาได้ เผื่อปุบปับฝนตกก็จะได้ไม่ต้องวิ่งหนีกันให้ยุ่งยาก เพราะฉะนั้นที่นี่แหล่ะผมว่าดีที่สุด”
ปริญดาเงยหน้ามองเขาจากทางด้านข้าง จมูกโด่งเป็นสันขยับเล็กน้อยเมื่อเขาถอนหายใจยาว รอยบุ๋มข้างแก้มเผยให้เห็นขณะที่เขายิ้มให้กับภาพความสวยงามของวิวตรงหน้า เปิดเผยความอ่อนโยนในตัวเขาผ่านใบหน้าซึ่งพักหลังนี้เธอเห็นมันบ่อยครั้งจนทำให้เธอหลงใหลคลั่งไคล้เขามากขึ้นกว่าเก่าเป็นเท่าตัว
ยิ่งเขาแสดงความห่วงใยเผื่อแผ่ครอบครัวเธอด้วยแล้วเธอยิ่งรักยิ่งหลงเขาจนถอนตัวไม่ขึ้น เธอรู้สึกดีใจและคิดว่าตัวเองเป็นผู้หญิงที่โชคดีที่สุดที่ได้พบกับผู้ชายอย่างเขา
“ขอบคุณมากนะคะ” เธอยิ้มหวานบอก
เวหาหันมายิ้มให้เธอแล้วกระชับเอวบางเข้ามาใกล้ “ขอบคุณอะไรกัน เรื่องแค่นี้เอง มันเป็นหน้าที่ของผมอยู่แล้ว อีกอย่างผมก็อยากให้ครอบครัวคุณประทับใจ...”
หัวใจเธอเบ่งบานสดชื่นราวกับดอกไม้ยามเช้า ตั้งแต่เขาและเธอปรับความเข้าใจกัน ทุกวันเธอมีแต่ความสุขสดใสแม้จะมีเรื่องเครียดให้ขบคิดก็ตาม
“อ้าว คุณเวหา มาถึงตั้งแต่เมื่อไรครับเนี่ย ทำไมไม่โทรหาผมก่อนล่ะครับ”
เสียงห้าวต่ำทักทายมาจากทางด้านหลัง เวหาหันไปมองในขณะที่มือก็ยังโอบเอวหญิงสาวเอาไว้อยู่ พอเห็นอัศวินเจ้าของโรงแรมกำลังเดินมาทางคนทั้งคู่ เขาก็ยิ้มกว้างเอ่ยทักทาย
“สวัสดีครับคุณอัศวิน ผมเพิ่งมาถึงเมื่อสักครู่นี้เอง เป็นยังไงบ้างครับ ไม่ได้เจอกันเสียนานเลย” เขายื่นมือไปจับทักทาย
อัศวินหัวเราะเบา ๆ “ผมก็เรื่อย ๆ สบายดีครับตามประสาคนโสด ว่าแต่....” เขาหันไปมองปริญดาที่ยืนยิ้มน้อย ๆ ให้เขาอยู่ข้างชายหนุ่ม พอเห็นมือของเวหาโอบเอวเธอไว้อย่างเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ เขาก็พอจะเดาได้ว่าเธอเป็นใคร
“นี่ใช่ไหมครับว่าที่ภรรยาที่คุณเวหาเคยบอกผมไว้” อัศวินยิ้มถาม
เวหาพยักหน้ารับ “ใช่ครับ นี่ปริมว่าที่ภรรยาผมเอง” เขาบอกก่อนจะหันไปแนะนำอัศวินให้ปริญดารู้จัก
“แล้วนี่ก็คุณอัศวินเป็นเจ้าของโรงแรมที่นี่ พอดีผมกับคุณอัศวินรู้จักกันเพราะที่บ้านผมกำลังจะซื้อที่ดินเพื่อขยายสวนกุหลาบจากคุณอัศวินเขาอยู่น่ะ”
ปริญดายกมือไหว้ทักทายกับอัศวิน “สวัสดีค่ะ ฉันชอบบรรยากาศที่นี่มากเลยค่ะ ตกแต่งได้สวยแล้วก็โมเดิร์นทันสมัยมาก”
“ขอบคุณมากครับ” เขายิ้มกว้างอย่างภูมิใจ
“ร้านอาหารในโรงแรมนี้ทั้งหมดคุณอัศวินเขาเป็นคนออกแบบเองเลยนะ ถ้ามีเวลาเดี๋ยวผมจะพาคุณขึ้นไปดูที่ดาดฟ้า ได้ไหมครับคุณอัศวิน” เวหาหันไปถาม
“ยินดีเลยครับ คุณเวหากับคุณปริมเดินชมได้ตามสบายเลย หรือถ้าอยากให้เด็กพาไปก็ได้นะครับ จะได้สะดวก”
ปริญดาและเวหาเอ่ยขอบคุณในความใจดีของอัศวิน จากนั้นเวหาก็เข้าเรื่องคุยอัศวินเรื่องการเตรียมอาหารและพื้นที่ที่เวหาลงทุนเหมาโต๊ะทั้งหมดเพื่อสามารถทำให้เป็นพื้นที่ส่วนตัวได้โดยไม่มีลูกค้าคนอื่นคอยรบกวน
ส่วนเธอเองก็คอยฟังไปเรื่อย พอเวหาถามอะไรมาเธอก็ตอบบ้างออกความเห็นบ้างขณะที่สายตาก็คอยทำงานสังเกตุรูปร่างหน้าตาของอัศวินไปด้วย
เธอมองปราดเดียวก็พอรู้ว่าเจ้าของโรงแรมคนนี้อายุน่าจะสักสามสิบต้น ๆ การแต่งตัวดูภูมิฐานในชุดสูทสีดำเข้ารูป ตัดกับรองเท้าหนังปลายแหลมสีน้ำตาลอ่อนขัดขึ้นเงาวับ พอเธอมองกลับขึ้นมายังที่ใบหน้าของเขา ก็ยิ่งดูสะดุดตา เครื่องหน้าดูรับกันดีตั้งแต่ดวงตาคมปราบที่ดูเป็นคนจริงจังเฉียบขาด ริมฝีปากบางกว่าผู้ชายทั่วไปแต่ก็ได้รูปสมกับจมูกโด่งเรียวสร้างภาพลักษณ์ให้เขาดูเป็นผู้ชายที่น่าเกรงขาม
แม้โครงสร้างร่างกายของเขาจะผอมกว่าเวหาอยู่มากแต่เธอก็พอจะเดาได้ว่ากล้ามเนื้อของเขาที่ตรึงแน่นอยู่ภายใต้เสื้อผ้านั้นคงจะไร้ไขมันและสมส่วนอยู่ไม่น้อย เธอคิดในใจว่าถ้ามีโอกาส เธอจะหาทางขอร้องให้เขามาเป็นนายแบบให้กับนิตยสารของเธอสักครั้ง
“ถ้าอย่างนั้นเชิญคุณปริมกับคุณเวหาตามสบายเลยนะครับ เดี๋ยวผมขอตัวไปทำงานก่อน ส่วนเรื่องวันอาทิตย์นี้ก่อนพวกคุณจะมาผมจะเข้ามาดูความเรียบร้อยให้อีกที” อัศวินยิ้มบอกเมื่อคุยกับเวหาเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก่อนจะหันไปพูดกับปริญดา
“ถ้าคุณปริมมีอะไรอยากจะเพิ่มเติมบอกผมได้เลยนะครับ ไม่ต้องเกรงใจ แล้วก็ขอแสดงความยินดีกับคุณปริมแล้วก็คุณเวหาอีกครั้งด้วยนะครับเรื่องแต่งงาน”
“ขอบคุณนะคะ แต่เท่านี้ฉันว่าทุกอย่างก็เพอร์เฟคแล้วล่ะค่ะ แต่ถ้าฉันมีอะไรให้คุณช่วยเพิ่มเติมจะฝากบอกเวย์มานะคะ”
“ได้เลยครับ งั้นผมไปก่อนนะครับคุณเวหา ผมฝากสวัสดีคุณพ่อคุณแม่คุณด้วย” จากนั้นก็ยื่นมือมาให้จับ
เวหาจับมือกับอัศวินแล้วยิ้มตอบ “ขอบคุณมากเลยครับคุณอัศวิน แล้วไว้เจอกันใหม่ครับ”
ทันทีอัศวินก็เดินออกจากห้องไป เวหาก็กระชากเสียงถามทันที
“สนใจคุณอัศวินเขาหรือไง มองตามตาละห้อยเชียวนะ”
“คะ?” ปริญดาหน้าเหวอ ไม่ได้ตั้งใจฟังว่าเขาพูดอะไรเพราะมัวแต่คิดถึงว่าจะทำอย่างไรให้อัศวินยอมมาเป็นแบบให้เธอ และนั่นยิ่งทำให้เวหาขุ่นเคืองที่เธอเอาแต่ใจลอยไม่สนใจเขา
“นี่คุณไม่ได้ฟังที่ผมพูดเลยใช่ไหม” น้ำเสียงชักหงุดหงิด
ปริญดาได้แต่อ้าปากจะพูดแต่ก็ไม่รู้จะพูดอะไร เพราะเธอไม่ได้ฟังอย่างที่เขาพูดจริง ๆ เลยต้องค่อย ๆ ย่นคอ ห่อไหล่ แล้วเอ่ยเสียงแผ่ว “ขอโทษค่ะ เมื่อกี๊นี้คุณว่าอะไรนะคะ”
เวหากัดฟันกรอด คราวนี้เขาโมโหเธอจริง ๆ เธอมีเขาที่เป็นว่าที่สามียืนอยู่ท่นโท่แต่สายตากลับหยดเยิ้มมองผู้ชายคนอื่นอย่างเปิดเผยไม่เกรงใจเขา ถึงเขาจะรู้ว่าไม่ใช่ความผิดของอัศวินที่มีหน้าตาหล่อเหลาแถมเกิดมาในชาติตระกูลที่ดีจนผู้หญิงพากันหมายปองมองด้วยความหลงใหล แต่ไม่คิดว่าปริญดาที่กำลังตั้งท้องลูกของเขาอยู่ก็เป็นไปกับเขาด้วย!
“เลิกทำหน้าบึ้งเสียทีสิคะ ฉันอุตสาห์ขอโทษคุณแล้วนะ”
ปริญดาต้องทำน้ำเสียงอ้อนเข้าไว้ ตั้งแต่เธอคบกับเขาจริงจัง เธอก็รู้ว่านิสัยอีกอย่างหนึ่งของเขาที่เธอไม่เคยรู้คืออาการงอนแล้วพาลเงียบไม่พูดไม่จา ถ้าเขาเชื่อว่าตัวเองไม่ผิดและเธอไม่พยายามง้อหรือปล่อยให้เขางอนต่อไป เขาก็จะนิ่งเงียบถามคำตอบคำอยู่แบบนั้นจนกว่าเธอจะทำให้เขาถูกใจ
“เวย์คะ...” เธอลองเรียกเขาอีกครั้ง กระตุกมือเขาเบา ๆ แต่เวหากลับปล่อยมือเธอออก
“ช่างเถอะ ไม่มีอะไรหรอก เดี๋ยวผมไปส่งคุณที่บ้านเลยแล้วกัน ที่ว่าจะไปดูแหวนแต่งงานเย็นนี้เอาไว้วันหลังค่อยนัดกันอีกที” เวหาตัดบทพูดเสียงห้วน ทำเอาหญิงสาวหน้าเสีย คว้ามือใหญ่ที่ทำท่าจะเดินหนีไว้แทบไม่ทัน
“คุณทำแบบนี้อีกแล้วนะ ก็แค่ฉันไม่ได้ฟังคุณพูดทำไมต้องโกรธเป็นฟืนเป็นไฟขนาดนี้ด้วยล่ะคะ”
เวหาถอยหายใจอย่างหงุดหงิด “มันไม่ใช่เรื่องนั้น”
“แล้วเรื่องไหนล่ะคะที่ทำให้คุณโมโหฉัน” เธอรบเร้าถาม ถ้าเขาเลี่ยงประเด็นอีกเธอก็ถามซ้ำ ๆ อยู่แบบนี้แหล่ะ
“หึ นี่คุณไม่รู้ตัวหรือทำแอ๊บแบ๊วกันแน่” น้ำเสียงเริ่มดังเมื่อเขาเริ่มควบคุมอารมณ์ไม่อยู่
ปริญดาขมวดคิ้ว ไม่คิดว่าเขาจะโกรธเธอจนต้องพูดจาถากถางกันแบบนี้ “ทำไมฉันต้องแอ๊บแบ๊วทำเป็นไม่รู้เรื่องด้วยล่ะคะ ฉันไม่รู้ก็คือไม่รู้ ถ้าอย่างนั้นฉันจะเซ้าซี้ถามคุณทำไมกัน”
สายตาของเวหาเข้มคมกล้า ภายในใจยังคงกรุ่นโกรธเพราะความหึงหวง จนเผลอกระชากเสียงถาม “ก็ที่คุณมองตามคุณอัศวินตาไม่กระพริบนั่นไง ทำไม เขาหล่อเขารวยมากจนต้องมองตาค้างเลยหรือไง”
“ห๊ะ? ฉันเนี่ยนะคะ?” เธอถามเสียงสูง เอานิ้วจิ้มอกตัวเอง
ประกายนัยน์ตาเวหาวาวโรจน์เมื่อหญิงสาวไม่ยอมรับ เขาอ้าปากกำลังจะพูดแต่ปริญดารีบยกมือขึ้นห้ามไว้ก่อน
“เราไปคุยกันที่อื่นดีกว่าไหมคะเวย์” ปริญดาบอกพลางมองไปยังสายตาของพนักงานหลายคู่ที่จับจ้องมา พอเวหามองตามและเห็นทุกคนที่นั่นทำท่าแอบชำเลืองมอง เขาก็กราดสายตาดุดันจ้องเอาเรื่องจนทุกคนแทบกระเจิงกลับไปทำงานของตัวเองไม่ทัน
ปริญดาส่ายหน้าแล้วจูงมือเวหาเดินออกจากร้านอาหาร พาเขาไปยังมุมเสาข้างลิฟท์เพื่อกันสายตาจากคนอื่น
“ทีนี้คุณฟังฉันนะคะ” เธอเข้าเรื่องทันที หลังจากได้ฟังประโยคประชดประชันของเขาแล้วเธอก็รู้ว่าเขากำลังเข้าใจเธอผิดอยู่
“ทำไม ตอนนี้เข้าใจแล้วหรือไงว่าผมหมายถึงอะไร” เขายังคงพูดหาเรื่อง
หญิงสาวถอนหายใจ เธอเริ่มจับจุดอารมณ์เขาได้แล้วว่าตอนไหนควรจะพูดหรือทำอย่างไรให้เขาใจเย็นลง
“ค่ะ ฉันเข้าใจแล้ว” เธอตอบ พร้อมกับเดินเข้าไปใกล้ ยื่นมือสองข้างสวมกอดเอวเขาไว้หลวม ๆ
“ฉันเข้าใจแล้วว่าคุณน่ะขี้หึงขนาดไหน แค่ฉันมองเขาคุณก็คิดเตลิดหาว่าฉันชอบเขาซะอย่างนั้น” เธอกระตุกยิ้มเห็นเป็นเรื่องขำขัน
เวหาชักยั๊วะ “ใช่ผมหึง แล้วไง มันตลกมากนักเหรอคุณถึงได้ขำนัก”
ปริญดายิ้มสู้ สวมกอดเขาแน่นขึ้นเมื่อเห็นว่าเขาก้าวถอยห่าง “ไม่ใช่อย่างนั้นสักหน่อยค่ะ คุณน่ะกำลังเข้าใจฉันผิดอยู่นะ” เธอบอกพลางจับสาบเสื้อเชิ๊ตเขาเล่น ก่อนจะเงยหน้าสบตากับเขา
“เรื่องคุณอัศวิน ฉันมองเขาก็จริง แต่ฉันแค่มองเขาในฐานะบก.นิตยสารก็แค่นั้น ฉันเห็นบุคคลิกเขาดูดี ดูเป็นนักธุรกิจหนุ่มไฟแรงที่เป็นเจ้าของโรงแรมใหญ่โต ฉันเลยคิดว่าถ้าได้เขามาลงปกนิตยสารฉันได้ก็คงดีไม่น้อย แค่นั้นเองจริงๆ นะคะ” เธออธิบายยืดยาวเพื่อให้เขาเข้าใจม้วนเดียวจบ
เวหาไม่ตอบ ได้แต่มองจ้องนัยน์ตาเธอนิ่งราวกับต้องการค้นหาความจริงจากแววตาเธอ ก่อนจะถามย้ำเพื่อความแน่ใจ “แค่นั้นจริง ๆ เหรอ”
ปริญดาเห็นท่าทางเขายังลังเลเธอจึงสวมกอดพลางซบอกกว้างของเขา “จริงสิคะ ฉันกำลังจะแต่งงานกับคุณ มีลูกกับคุณ แล้วฉันจะมองคนอื่นไปทำไมกัน นี่แสดงว่าคุณไม่ไว้ใจฉันเลยใช่ไหม” น้ำเสียงติดน้อยใจ
“ที่ผ่านมาฉันก็แสดงให้คุณเห็นมาโดยตลอดว่ารักคุณมากแค่ไหน แต่นี่...แค่คำพูดของฉันคุณก็ยังไม่เชื่อเลย...” เธอบอกเสียงเครือ ความจริง...เธอต้องการแค่พูดเพื่อให้เขาเข้าใจเธอ แต่ยิ่งพูดก็ยิ่งนึกน้อยใจจนอดตัดพ้อไม่ได้
พอได้ยินน้ำเสียงเศร้าสร้อยราวกับจะร้องไห้ของปริญดาแล้วเขาก็ต้องถอนใจหนัก ๆ สบถกับตัวเองเบา ๆ พลางเคลื่อนมือตนเองไปบนแผ่นหลังเธอ กอดกระชับแล้วพูดขึ้น
“ปริม...ไม่ใช่ว่าผมไม่เชื่อใจคุณ...แต่...” เสียงขาดหายเพราะไม่รู้จะคิดหาคำพูดอะไรมาแก้ตัว
ปริญดารู้สึกถึงเนื้อตัวของเขาที่เครียดเขม็งขึ้น ได้ยินเสียงหัวใจเขาเต้นตึกตักแนบใบหู “คุณไม่ต้องอธิบายอะไรหรอกค่ะ ฉันเข้าใจ...เพราะถ้าคุณไว้ใจฉัน ป่านนี้คุณก็คงให้คำว่ารักกับฉันแทนคำว่าความรู้สึก ๆ ดีไปตั้งนานแล้ว...”
เวหาเชยคางเธอด้วยมือข้างหนึ่ง เห็นน้ำใส ๆ เอ่อคลอหน่วยตาก็ใจหาย ก่นด่าตัวเองในใจที่ทำให้เธอน้ำตาซึมครั้งแล้วครั้งเล่าเพราะคำพูดและการกระทำที่ไม่ชัดเจนของตัวเอง
“ผมขอโทษที่ทำให้คุณเสียใจ...” เวหากระซิบบอก กดริมฝีปากลงบนหน้าผากมนของเธอแผ่วเบา แล้วเอ่ยขึ้นอีกครั้ง
“และผมขอโทษที่ผมบอกคุณช้าไป...” หางเสียงอ้อยอิง สบตาเธอนิ่ง
คิ้วสวยขมวดมุน งุนงงกับคำพูดของเขา “บอกอะไรเหรอคะ”
เขายกมือสั่นสะท้านแตะเบา ๆ ที่ใบหน้าเธอ คลี่ยิ้มอ่อนโยน ดวงตาสีดำสนิทแต่กลับมีประกายเจิดจ้าชวนฝันที่สบมองกับเธอทำเอาหัวใจดวงน้อยเต้นลิดโลด ลุ้นอยู่ในใจว่าสิ่งที่เขาต้องการจะบอกคืออะไร
“ผมรู้ว่าที่ผ่านมาความรู้สึกของผมที่มีต่อคุณมันไม่ชัดเจนพอ....นั่นก็เป็นเพราะผมยังไม่แน่ใจตัวเอง...”
เธออยากจะคิดเข้าข้างตัวเองเหลือเกินว่าสิ่งที่เขาต้องการจะบอกคือสิ่งเดียวกับที่เธอกำลังคิดอยู่ในใจ เป็นสิ่งที่เธอเฝ้ารอมานานแสนนาน จนบ้างครั้งก็คิดปลงไปว่าขอเพียงให้ได้แค่อยู่ใกล้เขาตลอดไป ไม่ว่าเขาจะรู้สึกเช่นไร....เธอก็ยอมรับมันได้ แต่ตอนนี้....
“แต่ตอนนี้ผมรู้ใจตัวเองแล้ว...” เสียงทุ้มนุ่มที่เอ่ยขึ้นทำลายความคิดของหญิงสาว สัมผัสนุ่มนวลของปลายนิ้วที่แก้มเธอสร้างความอุ่นซ่านแผ่กระจายเข้าสู่ร่างกายเธอ
ปริญดาหลับตาพริ้มขณะรับรู้ถึงสัมผัสอ่อนโยนผ่านนิ้วมือเขา ก่อนจะได้ยินเขาก้มลงกระซิบข้างใบหูเธอต่อจากนั้นว่า
“ผมรักคุณ...ปริม...รักและจะดูแลคุณตลอดไป...”
<><><><><><><><><><><><><><><><><><><><><><>
K. Nandii มาแล้วค่ะ มาแบบหัวฟูเลยทีเดียว อิอิ
K. likelove บทหน้าได้เจอแล้วค่ะ :)
K. lamyong พยายามจะหวานเยอะ ๆ ก่อนพายุคลื่นใหม่จะมา คริ คริ
K. pkka นั่นน่ะสิคะ กลัวว่าจะเป็นอย่างนั้น หุหุ
ขอบคุณทุกคอมเม้นท์และจิ้มชอบรวมถึงนักอ่านทุกท่านที่ติดตามผลงานนะคะ ขอบคุณมากค่ะ!
มาส่งนิยายครึ่งหลังแบบงง ๆ ค่ะ ง่วงนอนมากแต่ก็จบบทลงจนได้ ถ้ามีข้อผิดพลาดเนื้อหาไม่เคลียร์บอกกล่าวกันได้นะคะ ตอนนี้มาแบบสดเลย ห้าๆๆ บทนี้มีโผล่พระเอกสำหรับเรื่องใหม่มาด้วยน้า อิอิ (เขียนปริมกับเวย์ยังไม่เสร็จก็จะเขียนเรื่องใหม่อีกแระ 5555)
ไปนอนแล้วค่ะ ฝากติดตามปริมกับเวย์ด้วยนะคะ แล้วเจอกันใหม่อาทิตย์หน้า ฝันดีค่ะ!
เพียงใจปรารถนา 31-2
“โอ้โห ร้านอาหารที่นี่ใหญ่โตเหมือนกันนะคะนี่” ปริญดากวาดสายตาไปทั่วร้านอาหารที่มีเพียงพนักงานกำลังเดินกันขวักไขว้จัดเตรียมโต๊ะและทำความสะอาดรอรับลูกค้าที่จะเปิดอีกครั้งในช่วงเย็น
“ว้าว เห็นวิวทั่วกรุงเทพเลย” เธอร้องบอกด้วยความตื่นเต้นจนเผลอปล่อยมือจากชายหนุ่ม เดินตรงไปยังโต๊ะอาหารที่อยู่ติดริมขอบกระจกใสมองเห็นวิวด้านนอกชัดเจน
เวหาเอามือล้วงกระเป๋า เดินตามหลังเธอพลางยิ้มดีใจที่เห็นเธอตื่นเต้นชอบร้านอาหารที่เขาเลือก “จริง ๆ ที่นี่มีร้านอาหารที่ดาดฟ้าด้วยนะ ผมชอบมาประจำ แต่ผมว่าข้างบนคนเยอะเสียงดัง ผมก็เลยเลือกที่นี่แทน เห็นวิวสวยได้เหมือนกัน และผมว่าครอบครัวคุณน่าจะชอบ”
เขาเดินไปโอบเอวเธอ พลางมองตามสายตาเธอที่กำลังตื่นเต้นกับวิวตรงหน้า “อีกอย่างข้างบนบางทีก็ลมแรง ผมเลยกลัวว่าคุณย่าคุณอาจจะไม่สบายเอาได้ เผื่อปุบปับฝนตกก็จะได้ไม่ต้องวิ่งหนีกันให้ยุ่งยาก เพราะฉะนั้นที่นี่แหล่ะผมว่าดีที่สุด”
ปริญดาเงยหน้ามองเขาจากทางด้านข้าง จมูกโด่งเป็นสันขยับเล็กน้อยเมื่อเขาถอนหายใจยาว รอยบุ๋มข้างแก้มเผยให้เห็นขณะที่เขายิ้มให้กับภาพความสวยงามของวิวตรงหน้า เปิดเผยความอ่อนโยนในตัวเขาผ่านใบหน้าซึ่งพักหลังนี้เธอเห็นมันบ่อยครั้งจนทำให้เธอหลงใหลคลั่งไคล้เขามากขึ้นกว่าเก่าเป็นเท่าตัว
ยิ่งเขาแสดงความห่วงใยเผื่อแผ่ครอบครัวเธอด้วยแล้วเธอยิ่งรักยิ่งหลงเขาจนถอนตัวไม่ขึ้น เธอรู้สึกดีใจและคิดว่าตัวเองเป็นผู้หญิงที่โชคดีที่สุดที่ได้พบกับผู้ชายอย่างเขา
“ขอบคุณมากนะคะ” เธอยิ้มหวานบอก
เวหาหันมายิ้มให้เธอแล้วกระชับเอวบางเข้ามาใกล้ “ขอบคุณอะไรกัน เรื่องแค่นี้เอง มันเป็นหน้าที่ของผมอยู่แล้ว อีกอย่างผมก็อยากให้ครอบครัวคุณประทับใจ...”
หัวใจเธอเบ่งบานสดชื่นราวกับดอกไม้ยามเช้า ตั้งแต่เขาและเธอปรับความเข้าใจกัน ทุกวันเธอมีแต่ความสุขสดใสแม้จะมีเรื่องเครียดให้ขบคิดก็ตาม
“อ้าว คุณเวหา มาถึงตั้งแต่เมื่อไรครับเนี่ย ทำไมไม่โทรหาผมก่อนล่ะครับ”
เสียงห้าวต่ำทักทายมาจากทางด้านหลัง เวหาหันไปมองในขณะที่มือก็ยังโอบเอวหญิงสาวเอาไว้อยู่ พอเห็นอัศวินเจ้าของโรงแรมกำลังเดินมาทางคนทั้งคู่ เขาก็ยิ้มกว้างเอ่ยทักทาย
“สวัสดีครับคุณอัศวิน ผมเพิ่งมาถึงเมื่อสักครู่นี้เอง เป็นยังไงบ้างครับ ไม่ได้เจอกันเสียนานเลย” เขายื่นมือไปจับทักทาย
อัศวินหัวเราะเบา ๆ “ผมก็เรื่อย ๆ สบายดีครับตามประสาคนโสด ว่าแต่....” เขาหันไปมองปริญดาที่ยืนยิ้มน้อย ๆ ให้เขาอยู่ข้างชายหนุ่ม พอเห็นมือของเวหาโอบเอวเธอไว้อย่างเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ เขาก็พอจะเดาได้ว่าเธอเป็นใคร
“นี่ใช่ไหมครับว่าที่ภรรยาที่คุณเวหาเคยบอกผมไว้” อัศวินยิ้มถาม
เวหาพยักหน้ารับ “ใช่ครับ นี่ปริมว่าที่ภรรยาผมเอง” เขาบอกก่อนจะหันไปแนะนำอัศวินให้ปริญดารู้จัก
“แล้วนี่ก็คุณอัศวินเป็นเจ้าของโรงแรมที่นี่ พอดีผมกับคุณอัศวินรู้จักกันเพราะที่บ้านผมกำลังจะซื้อที่ดินเพื่อขยายสวนกุหลาบจากคุณอัศวินเขาอยู่น่ะ”
ปริญดายกมือไหว้ทักทายกับอัศวิน “สวัสดีค่ะ ฉันชอบบรรยากาศที่นี่มากเลยค่ะ ตกแต่งได้สวยแล้วก็โมเดิร์นทันสมัยมาก”
“ขอบคุณมากครับ” เขายิ้มกว้างอย่างภูมิใจ
“ร้านอาหารในโรงแรมนี้ทั้งหมดคุณอัศวินเขาเป็นคนออกแบบเองเลยนะ ถ้ามีเวลาเดี๋ยวผมจะพาคุณขึ้นไปดูที่ดาดฟ้า ได้ไหมครับคุณอัศวิน” เวหาหันไปถาม
“ยินดีเลยครับ คุณเวหากับคุณปริมเดินชมได้ตามสบายเลย หรือถ้าอยากให้เด็กพาไปก็ได้นะครับ จะได้สะดวก”
ปริญดาและเวหาเอ่ยขอบคุณในความใจดีของอัศวิน จากนั้นเวหาก็เข้าเรื่องคุยอัศวินเรื่องการเตรียมอาหารและพื้นที่ที่เวหาลงทุนเหมาโต๊ะทั้งหมดเพื่อสามารถทำให้เป็นพื้นที่ส่วนตัวได้โดยไม่มีลูกค้าคนอื่นคอยรบกวน
ส่วนเธอเองก็คอยฟังไปเรื่อย พอเวหาถามอะไรมาเธอก็ตอบบ้างออกความเห็นบ้างขณะที่สายตาก็คอยทำงานสังเกตุรูปร่างหน้าตาของอัศวินไปด้วย
เธอมองปราดเดียวก็พอรู้ว่าเจ้าของโรงแรมคนนี้อายุน่าจะสักสามสิบต้น ๆ การแต่งตัวดูภูมิฐานในชุดสูทสีดำเข้ารูป ตัดกับรองเท้าหนังปลายแหลมสีน้ำตาลอ่อนขัดขึ้นเงาวับ พอเธอมองกลับขึ้นมายังที่ใบหน้าของเขา ก็ยิ่งดูสะดุดตา เครื่องหน้าดูรับกันดีตั้งแต่ดวงตาคมปราบที่ดูเป็นคนจริงจังเฉียบขาด ริมฝีปากบางกว่าผู้ชายทั่วไปแต่ก็ได้รูปสมกับจมูกโด่งเรียวสร้างภาพลักษณ์ให้เขาดูเป็นผู้ชายที่น่าเกรงขาม
แม้โครงสร้างร่างกายของเขาจะผอมกว่าเวหาอยู่มากแต่เธอก็พอจะเดาได้ว่ากล้ามเนื้อของเขาที่ตรึงแน่นอยู่ภายใต้เสื้อผ้านั้นคงจะไร้ไขมันและสมส่วนอยู่ไม่น้อย เธอคิดในใจว่าถ้ามีโอกาส เธอจะหาทางขอร้องให้เขามาเป็นนายแบบให้กับนิตยสารของเธอสักครั้ง
“ถ้าอย่างนั้นเชิญคุณปริมกับคุณเวหาตามสบายเลยนะครับ เดี๋ยวผมขอตัวไปทำงานก่อน ส่วนเรื่องวันอาทิตย์นี้ก่อนพวกคุณจะมาผมจะเข้ามาดูความเรียบร้อยให้อีกที” อัศวินยิ้มบอกเมื่อคุยกับเวหาเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก่อนจะหันไปพูดกับปริญดา
“ถ้าคุณปริมมีอะไรอยากจะเพิ่มเติมบอกผมได้เลยนะครับ ไม่ต้องเกรงใจ แล้วก็ขอแสดงความยินดีกับคุณปริมแล้วก็คุณเวหาอีกครั้งด้วยนะครับเรื่องแต่งงาน”
“ขอบคุณนะคะ แต่เท่านี้ฉันว่าทุกอย่างก็เพอร์เฟคแล้วล่ะค่ะ แต่ถ้าฉันมีอะไรให้คุณช่วยเพิ่มเติมจะฝากบอกเวย์มานะคะ”
“ได้เลยครับ งั้นผมไปก่อนนะครับคุณเวหา ผมฝากสวัสดีคุณพ่อคุณแม่คุณด้วย” จากนั้นก็ยื่นมือมาให้จับ
เวหาจับมือกับอัศวินแล้วยิ้มตอบ “ขอบคุณมากเลยครับคุณอัศวิน แล้วไว้เจอกันใหม่ครับ”
ทันทีอัศวินก็เดินออกจากห้องไป เวหาก็กระชากเสียงถามทันที
“สนใจคุณอัศวินเขาหรือไง มองตามตาละห้อยเชียวนะ”
“คะ?” ปริญดาหน้าเหวอ ไม่ได้ตั้งใจฟังว่าเขาพูดอะไรเพราะมัวแต่คิดถึงว่าจะทำอย่างไรให้อัศวินยอมมาเป็นแบบให้เธอ และนั่นยิ่งทำให้เวหาขุ่นเคืองที่เธอเอาแต่ใจลอยไม่สนใจเขา
“นี่คุณไม่ได้ฟังที่ผมพูดเลยใช่ไหม” น้ำเสียงชักหงุดหงิด
ปริญดาได้แต่อ้าปากจะพูดแต่ก็ไม่รู้จะพูดอะไร เพราะเธอไม่ได้ฟังอย่างที่เขาพูดจริง ๆ เลยต้องค่อย ๆ ย่นคอ ห่อไหล่ แล้วเอ่ยเสียงแผ่ว “ขอโทษค่ะ เมื่อกี๊นี้คุณว่าอะไรนะคะ”
เวหากัดฟันกรอด คราวนี้เขาโมโหเธอจริง ๆ เธอมีเขาที่เป็นว่าที่สามียืนอยู่ท่นโท่แต่สายตากลับหยดเยิ้มมองผู้ชายคนอื่นอย่างเปิดเผยไม่เกรงใจเขา ถึงเขาจะรู้ว่าไม่ใช่ความผิดของอัศวินที่มีหน้าตาหล่อเหลาแถมเกิดมาในชาติตระกูลที่ดีจนผู้หญิงพากันหมายปองมองด้วยความหลงใหล แต่ไม่คิดว่าปริญดาที่กำลังตั้งท้องลูกของเขาอยู่ก็เป็นไปกับเขาด้วย!
“เลิกทำหน้าบึ้งเสียทีสิคะ ฉันอุตสาห์ขอโทษคุณแล้วนะ”
ปริญดาต้องทำน้ำเสียงอ้อนเข้าไว้ ตั้งแต่เธอคบกับเขาจริงจัง เธอก็รู้ว่านิสัยอีกอย่างหนึ่งของเขาที่เธอไม่เคยรู้คืออาการงอนแล้วพาลเงียบไม่พูดไม่จา ถ้าเขาเชื่อว่าตัวเองไม่ผิดและเธอไม่พยายามง้อหรือปล่อยให้เขางอนต่อไป เขาก็จะนิ่งเงียบถามคำตอบคำอยู่แบบนั้นจนกว่าเธอจะทำให้เขาถูกใจ
“เวย์คะ...” เธอลองเรียกเขาอีกครั้ง กระตุกมือเขาเบา ๆ แต่เวหากลับปล่อยมือเธอออก
“ช่างเถอะ ไม่มีอะไรหรอก เดี๋ยวผมไปส่งคุณที่บ้านเลยแล้วกัน ที่ว่าจะไปดูแหวนแต่งงานเย็นนี้เอาไว้วันหลังค่อยนัดกันอีกที” เวหาตัดบทพูดเสียงห้วน ทำเอาหญิงสาวหน้าเสีย คว้ามือใหญ่ที่ทำท่าจะเดินหนีไว้แทบไม่ทัน
“คุณทำแบบนี้อีกแล้วนะ ก็แค่ฉันไม่ได้ฟังคุณพูดทำไมต้องโกรธเป็นฟืนเป็นไฟขนาดนี้ด้วยล่ะคะ”
เวหาถอยหายใจอย่างหงุดหงิด “มันไม่ใช่เรื่องนั้น”
“แล้วเรื่องไหนล่ะคะที่ทำให้คุณโมโหฉัน” เธอรบเร้าถาม ถ้าเขาเลี่ยงประเด็นอีกเธอก็ถามซ้ำ ๆ อยู่แบบนี้แหล่ะ
“หึ นี่คุณไม่รู้ตัวหรือทำแอ๊บแบ๊วกันแน่” น้ำเสียงเริ่มดังเมื่อเขาเริ่มควบคุมอารมณ์ไม่อยู่
ปริญดาขมวดคิ้ว ไม่คิดว่าเขาจะโกรธเธอจนต้องพูดจาถากถางกันแบบนี้ “ทำไมฉันต้องแอ๊บแบ๊วทำเป็นไม่รู้เรื่องด้วยล่ะคะ ฉันไม่รู้ก็คือไม่รู้ ถ้าอย่างนั้นฉันจะเซ้าซี้ถามคุณทำไมกัน”
สายตาของเวหาเข้มคมกล้า ภายในใจยังคงกรุ่นโกรธเพราะความหึงหวง จนเผลอกระชากเสียงถาม “ก็ที่คุณมองตามคุณอัศวินตาไม่กระพริบนั่นไง ทำไม เขาหล่อเขารวยมากจนต้องมองตาค้างเลยหรือไง”
“ห๊ะ? ฉันเนี่ยนะคะ?” เธอถามเสียงสูง เอานิ้วจิ้มอกตัวเอง
ประกายนัยน์ตาเวหาวาวโรจน์เมื่อหญิงสาวไม่ยอมรับ เขาอ้าปากกำลังจะพูดแต่ปริญดารีบยกมือขึ้นห้ามไว้ก่อน
“เราไปคุยกันที่อื่นดีกว่าไหมคะเวย์” ปริญดาบอกพลางมองไปยังสายตาของพนักงานหลายคู่ที่จับจ้องมา พอเวหามองตามและเห็นทุกคนที่นั่นทำท่าแอบชำเลืองมอง เขาก็กราดสายตาดุดันจ้องเอาเรื่องจนทุกคนแทบกระเจิงกลับไปทำงานของตัวเองไม่ทัน
ปริญดาส่ายหน้าแล้วจูงมือเวหาเดินออกจากร้านอาหาร พาเขาไปยังมุมเสาข้างลิฟท์เพื่อกันสายตาจากคนอื่น
“ทีนี้คุณฟังฉันนะคะ” เธอเข้าเรื่องทันที หลังจากได้ฟังประโยคประชดประชันของเขาแล้วเธอก็รู้ว่าเขากำลังเข้าใจเธอผิดอยู่
“ทำไม ตอนนี้เข้าใจแล้วหรือไงว่าผมหมายถึงอะไร” เขายังคงพูดหาเรื่อง
หญิงสาวถอนหายใจ เธอเริ่มจับจุดอารมณ์เขาได้แล้วว่าตอนไหนควรจะพูดหรือทำอย่างไรให้เขาใจเย็นลง
“ค่ะ ฉันเข้าใจแล้ว” เธอตอบ พร้อมกับเดินเข้าไปใกล้ ยื่นมือสองข้างสวมกอดเอวเขาไว้หลวม ๆ
“ฉันเข้าใจแล้วว่าคุณน่ะขี้หึงขนาดไหน แค่ฉันมองเขาคุณก็คิดเตลิดหาว่าฉันชอบเขาซะอย่างนั้น” เธอกระตุกยิ้มเห็นเป็นเรื่องขำขัน
เวหาชักยั๊วะ “ใช่ผมหึง แล้วไง มันตลกมากนักเหรอคุณถึงได้ขำนัก”
ปริญดายิ้มสู้ สวมกอดเขาแน่นขึ้นเมื่อเห็นว่าเขาก้าวถอยห่าง “ไม่ใช่อย่างนั้นสักหน่อยค่ะ คุณน่ะกำลังเข้าใจฉันผิดอยู่นะ” เธอบอกพลางจับสาบเสื้อเชิ๊ตเขาเล่น ก่อนจะเงยหน้าสบตากับเขา
“เรื่องคุณอัศวิน ฉันมองเขาก็จริง แต่ฉันแค่มองเขาในฐานะบก.นิตยสารก็แค่นั้น ฉันเห็นบุคคลิกเขาดูดี ดูเป็นนักธุรกิจหนุ่มไฟแรงที่เป็นเจ้าของโรงแรมใหญ่โต ฉันเลยคิดว่าถ้าได้เขามาลงปกนิตยสารฉันได้ก็คงดีไม่น้อย แค่นั้นเองจริงๆ นะคะ” เธออธิบายยืดยาวเพื่อให้เขาเข้าใจม้วนเดียวจบ
เวหาไม่ตอบ ได้แต่มองจ้องนัยน์ตาเธอนิ่งราวกับต้องการค้นหาความจริงจากแววตาเธอ ก่อนจะถามย้ำเพื่อความแน่ใจ “แค่นั้นจริง ๆ เหรอ”
ปริญดาเห็นท่าทางเขายังลังเลเธอจึงสวมกอดพลางซบอกกว้างของเขา “จริงสิคะ ฉันกำลังจะแต่งงานกับคุณ มีลูกกับคุณ แล้วฉันจะมองคนอื่นไปทำไมกัน นี่แสดงว่าคุณไม่ไว้ใจฉันเลยใช่ไหม” น้ำเสียงติดน้อยใจ
“ที่ผ่านมาฉันก็แสดงให้คุณเห็นมาโดยตลอดว่ารักคุณมากแค่ไหน แต่นี่...แค่คำพูดของฉันคุณก็ยังไม่เชื่อเลย...” เธอบอกเสียงเครือ ความจริง...เธอต้องการแค่พูดเพื่อให้เขาเข้าใจเธอ แต่ยิ่งพูดก็ยิ่งนึกน้อยใจจนอดตัดพ้อไม่ได้
พอได้ยินน้ำเสียงเศร้าสร้อยราวกับจะร้องไห้ของปริญดาแล้วเขาก็ต้องถอนใจหนัก ๆ สบถกับตัวเองเบา ๆ พลางเคลื่อนมือตนเองไปบนแผ่นหลังเธอ กอดกระชับแล้วพูดขึ้น
“ปริม...ไม่ใช่ว่าผมไม่เชื่อใจคุณ...แต่...” เสียงขาดหายเพราะไม่รู้จะคิดหาคำพูดอะไรมาแก้ตัว
ปริญดารู้สึกถึงเนื้อตัวของเขาที่เครียดเขม็งขึ้น ได้ยินเสียงหัวใจเขาเต้นตึกตักแนบใบหู “คุณไม่ต้องอธิบายอะไรหรอกค่ะ ฉันเข้าใจ...เพราะถ้าคุณไว้ใจฉัน ป่านนี้คุณก็คงให้คำว่ารักกับฉันแทนคำว่าความรู้สึก ๆ ดีไปตั้งนานแล้ว...”
เวหาเชยคางเธอด้วยมือข้างหนึ่ง เห็นน้ำใส ๆ เอ่อคลอหน่วยตาก็ใจหาย ก่นด่าตัวเองในใจที่ทำให้เธอน้ำตาซึมครั้งแล้วครั้งเล่าเพราะคำพูดและการกระทำที่ไม่ชัดเจนของตัวเอง
“ผมขอโทษที่ทำให้คุณเสียใจ...” เวหากระซิบบอก กดริมฝีปากลงบนหน้าผากมนของเธอแผ่วเบา แล้วเอ่ยขึ้นอีกครั้ง
“และผมขอโทษที่ผมบอกคุณช้าไป...” หางเสียงอ้อยอิง สบตาเธอนิ่ง
คิ้วสวยขมวดมุน งุนงงกับคำพูดของเขา “บอกอะไรเหรอคะ”
เขายกมือสั่นสะท้านแตะเบา ๆ ที่ใบหน้าเธอ คลี่ยิ้มอ่อนโยน ดวงตาสีดำสนิทแต่กลับมีประกายเจิดจ้าชวนฝันที่สบมองกับเธอทำเอาหัวใจดวงน้อยเต้นลิดโลด ลุ้นอยู่ในใจว่าสิ่งที่เขาต้องการจะบอกคืออะไร
“ผมรู้ว่าที่ผ่านมาความรู้สึกของผมที่มีต่อคุณมันไม่ชัดเจนพอ....นั่นก็เป็นเพราะผมยังไม่แน่ใจตัวเอง...”
เธออยากจะคิดเข้าข้างตัวเองเหลือเกินว่าสิ่งที่เขาต้องการจะบอกคือสิ่งเดียวกับที่เธอกำลังคิดอยู่ในใจ เป็นสิ่งที่เธอเฝ้ารอมานานแสนนาน จนบ้างครั้งก็คิดปลงไปว่าขอเพียงให้ได้แค่อยู่ใกล้เขาตลอดไป ไม่ว่าเขาจะรู้สึกเช่นไร....เธอก็ยอมรับมันได้ แต่ตอนนี้....
“แต่ตอนนี้ผมรู้ใจตัวเองแล้ว...” เสียงทุ้มนุ่มที่เอ่ยขึ้นทำลายความคิดของหญิงสาว สัมผัสนุ่มนวลของปลายนิ้วที่แก้มเธอสร้างความอุ่นซ่านแผ่กระจายเข้าสู่ร่างกายเธอ
ปริญดาหลับตาพริ้มขณะรับรู้ถึงสัมผัสอ่อนโยนผ่านนิ้วมือเขา ก่อนจะได้ยินเขาก้มลงกระซิบข้างใบหูเธอต่อจากนั้นว่า
“ผมรักคุณ...ปริม...รักและจะดูแลคุณตลอดไป...”
<><><><><><><><><><><><><><><><><><><><><><>
K. Nandii มาแล้วค่ะ มาแบบหัวฟูเลยทีเดียว อิอิ
K. likelove บทหน้าได้เจอแล้วค่ะ :)
K. lamyong พยายามจะหวานเยอะ ๆ ก่อนพายุคลื่นใหม่จะมา คริ คริ
K. pkka นั่นน่ะสิคะ กลัวว่าจะเป็นอย่างนั้น หุหุ
ขอบคุณทุกคอมเม้นท์และจิ้มชอบรวมถึงนักอ่านทุกท่านที่ติดตามผลงานนะคะ ขอบคุณมากค่ะ!
เปลวหอม
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 16 ก.ย. 2557, 00:29:17 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 16 ก.ย. 2557, 00:29:17 น.
จำนวนการเข้าชม : 1994
<< ตอน 31-1 | ตอนที่ 32 >> |
Nandii 16 ก.ย. 2557, 07:30:03 น.
เวย์บอกรักแล้วอย่างนี้ต่อให้คุณย่าพูดยังไงเวย์ก็จะไม่ยอมใช่ไหม คุคิ
เวย์บอกรักแล้วอย่างนี้ต่อให้คุณย่าพูดยังไงเวย์ก็จะไม่ยอมใช่ไหม คุคิ
lamyong 16 ก.ย. 2557, 15:10:51 น.
สังหรณ์ใจ (อีกแล้ว) ว่าเรื่องร้าย ๆ จะตามมาหลังจากนี้
สังหรณ์ใจ (อีกแล้ว) ว่าเรื่องร้าย ๆ จะตามมาหลังจากนี้
Zephyr 27 ก.ย. 2557, 18:57:51 น.
หึงเอาโล่ห์ใช่มั้ยค้าาาา
หึงเอาโล่ห์ใช่มั้ยค้าาาา