จุดหมายปลายทางของหัวใจ
บางคนไขว่คว้าหาความรักมาทั้งชีวิต ก็ไม่เคยมีโอกาสพบเจอ
บางคนพยายามวิ่งหนีแทบตาย แต่ก็ไม่เคยหลุดพ้น
บางคนเรียกสิ่งนี้ว่าโชคชะตา พรหมลิขิต พันธนาการ แล้วแต่คำจำกัดความที่แตกต่างกันออกไป
เธอไม่รู้ว่าควรจะเรียกเรื่องราวระหว่างเธอกับเขาที่เกิดขึ้นว่าอะไรดี

Tags: ดวงอาทิตย์ , โรแมนติก , รัก , ทราย , ซึ้ง

ตอน: 3 ผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง กับผู้ชายที่พรั่งพร้อม




เธอและกลุ่มเพื่อนเดินเข้ามาภายในห้องสมุด เพื่อค้นหาหนังสือเอาไปทำรายงาน หลังจากเปิดเทอมมาได้เดือนกว่า ก็เริ่มมีรายงานหลายวิชาที่ต้องรีบทำส่งให้เสร็จตามกำหนดเวลา

“เดี๋ยวทรายขึ้นไปหาชั้น 2 นะ แจนกับนิวหาที่ชั้นนี้ละกัน”

เธอบอกกับเพื่อน และหยิบสมุดที่จดรายชื่อหนังสือออกมา

“จ้ะ แล้วลงมาเจอกันข้างล่างนะ”

“อ้าว ถ้าไม่ให้ทรายลงมาเจอข้างล่าง แล้วจะให้เหาะออกไปเหรอไง”

เธอเอ่ยแซวแจน ก่อนจะรีบเดินหนีไปอย่างรวดเร็ว โดยปล่อยให้แจนยืนขบเขี้ยวเคี้ยวฟันที่โดนเธอแกล้ง


“เป็นไงบ้าง สบายดีมั๊ย ?”

คิณเดินเข้ามาทักและยิ้มน้อยๆ

“สบายดี แล้ววินล่ะ”

เธอเอ่ยตอบด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง

“สบายดีเหมือนกัน”

เธอพยายามยืดตัวขึ้นเอื้อมหยิบหนังสือเล่มที่ต้องการ และคิณก็เป็นคนที่หยิบมันลงมา

“ขอบคุณนะ”

เธอเลือกหนังสืออีก 3 เล่ม เมื่อได้ครบแล้วก็เดินกลับมาที่โต๊ะ โดยที่คิณช่วยถือหนังสือมาให้

“นั่งด้วยได้มั๊ย ?”

ดวงตากลมโตเงยขึ้นมอง และพยักหน้าเบาๆ คิณฉีกยิ้มกว้างด้วยความดีใจ รีบนั่งลงในฝั่งตรงกันข้ามอย่างรวดเร็ว

บทสนทนาของเราเริ่มต้นขึ้นอย่างเรียบง่าย ด้วยการถามไถ่เกี่ยวกับช่วงระยะเวลาที่ไม่ได้พบเจอ และไม่ได้คุยกัน ว่าแต่ละคนได้ไปทำอะไรมาบ้าง ซึ่งดูเหมือนว่าคิณจะสามารถทำใจยอมรับได้มากขึ้นแล้ว สำหรับความรู้สึกที่มีมอบให้กับเธอว่ามัน “เป็นไปไม่ได้”


“นึกว่าทรายจะไม่ยอมคุยกับคิณอีกแล้ว”

คิณนั่งเงียบอยู่สักพัก ก่อนจะพูดขึ้นมาเสียงเศร้า เธอละสายตาจากหนังสือในมือ มองสบสายตากับผู้ชายตรงหน้า รู้ดีว่าเขาเป็นคนหนึ่งที่รักและหวังดีกับเธอมาตลอดระยะเวลาหลายปี

เขาไม่มีความผิดอะไรเลยสักนิดที่มารักเธอ แต่ความผิดของเขาก็คือมารักคนที่ไม่มีวันรักเขาต่างหาก

“คุยสิ เราเป็นเพื่อนกันนะ”

เธอตัดสินใจพูดออกไป และนั่นก็ทำให้ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความหม่นหมองอยู่เมื่อครู่ ระบายรอยยิ้มออกมาได้ แม้ความเป็นเพื่อนอาจจะไม่ใช่สิ่งที่ต้องการและปรารถนาที่สุด แต่ขอเพียงยังมีโอกาสได้พูดคุยและใกล้ชิดกับเธอแบบนี้ก็เพียงพอแล้ว

“ขอบคุณนะทราย ขอบคุณ”

คิณเอื้อมมือมากอบกุมมือเนียนที่วางอยู่บนโต๊ะ เธอดึงมือตัวเองกลับมาอย่างเป็นธรรมชาติ เพื่อไม่ให้ทำร้ายจิตใจเขาไปมากกว่านี้

“เอ่อ ขอโทษ คิณขอโทษนะ”

คิณเอ่ยปากขอโทษ หลังจากรู้สึกตัวว่าทำอะไรลงไป

“นี่ห้องสมุดนะ จะทำอะไรก็น่าจะเลือกที่หน่อย !”

เสียงของซันดังแทรกเข้ามา พร้อมกับการปรากฏตัว

“พูดอะไรระวังปากมั่งนะ ผู้หญิงเค้าเสียหาย”

คิณลุกขึ้นยืนเผชิญหน้ากับซัน และโต้ตอบด้วยความโมโห

“อ้าว ก็เห็นมานั่งสวีทกันนี่”

ซันตอบด้วยท่าทางยียวน ใบหน้าหล่อเครียดขรึม และปรายตามองมาทางร่างบางที่ยังนั่งนิ่งไม่รู้สึกรู้สาอะไรอยู่

“ซัน ใจเย็นๆ สิวะ”

พีทพูดเตือนสติ พร้อมกับที่เชนพยายามดึงแขนซันเอาไว้

“แล้วมายุ่งอะไรด้วย จะหาเรื่องรึไง !”

“เออ จะทำไม !”

เธอมองดูการประทะคารมของผู้ชายสองคนตรงหน้าอยู่แวบหนึ่ง ก่อนจะลุกยืนและเดินจากมาโดยที่ไม่หันไปสนใจอีก


“ทราย / ทราย !”

สองเสียงประสานเรียกเธออย่างพร้อมเพรียง และวิ่งตามมาติดๆ ถึงข้างนอกห้องสมุด

“ทราย คิณขอโทษนะ”

คิณเอ่ยปากขอโทษด้วยท่าทางสำนึกผิดจริงๆ

“ไว้ค่อยคุยกันวันหลังนะคิณ”

เธอพูดเสียงเรียบ คิณพยักหน้าเบาๆ อย่างรับรู้ และเดินจากไป

“ทราย”

ซันเดินตามมาและจับแขนเธอเอาไว้ไม่ให้เดินหนี ก่อนจะยอมปล่อยออกแต่โดยดี เมื่อเธอปรายตาลงไปมอง

“โกรธเหรอ ?”

ร่างสูงมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าและเอ่ยถาม

“นายต้องการอะไร ?”

“อะไร ?”

คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันอย่างสงสัยในคำถาม

“เราถามว่านายต้องการอะไร กับทุกๆ อย่างที่กำลังทำอยู่ !”

เธอถามเสียงแข็งอย่างไม่อาจเก็บกลั้นเอาไว้ได้ ไม่เข้าใจว่าผู้ชายคนนี้คิดอะไร และต้องการจะทำอะไรกันแน่ คิดเท่าไหร่ก็คิดไม่ออก ไม่มีเหตุผลจริงๆ

“ต้องการ “ทราย””


คำพูดของเขาดึงเธอให้หลุดออกจากภวังค์แห่งความคิดทั้งหมดทั้งมวลในทันที

“อะไรนะ !”

เธอถามย้ำอีกครั้งอย่างไม่แน่ใจจากสิ่งที่ได้ยิน ซันยืนนิ่งเงียบไปอีกครู่ใหญ่ๆ จนบรรยากาศโดยรอบเต็มไปด้วยความน่าอึดอัด
ก่อนที่จะตัดสินใจพูดบางคำออกมา

“ซันชอบทราย”


ไม่จริง เป็นไปไม่ได้ !

ระยะเวลา 1 เดือนที่ผู้ชายคนนี้พยายามเข้ามาวนเวียนอยู่รอบตัวเธอ นั่นเป็นเพราะเขาชอบเธออย่างงั้นเหรอ

“อย่ามาตลก”

และเธอก็พูดออกไปอย่างที่ใจคิด

“ซันชอบทราย”

ซันยังคงพูดย้ำอย่างยืนยัน ด้วยสีหน้าและแววตาที่จริงจัง จนเธอต้องเป็นฝ่ายหลบสายตาซะเอง ก่อนจะตัดสินใจเดินหนีอีกครั้ง

“ทำไมต้องเดินหนี ทำไมต้องหลบหน้า !”

เธอหยุดชะงักฝีเท้าและยืนนิ่งอยู่กับที่

“ซันชอบทราย ชอบทราย”


เธอหันกลับไปเผชิญหน้ากับเขา

“แต่เรา “ไม่ได้ชอบ” นาย”

เธอตอบเขาด้วยน้ำเสียง แววตา ท่าทาง ที่เย็นชาอย่างเต็มรูปแบบ

“แล้วทำยังไงถึงจะชอบ ?”

เธอมองผู้ชายที่ยืนอยู่ตรงหน้าอย่างไม่อยากจะเชื่อ นี่เขากำลังเล่นตลกอะไรกับเธอกันแน่ หรือว่าเขาอาจจะเบื่อที่ชีวิตตัวเองมันสมบูรณ์แบบจนเกินไป ก็เลยคิดจะทำเรื่องสนุกๆ แก้เซ็งไปวันๆ หรือว่าเขาอาจจะพนันกับเพื่อนว่าจะต้องทำให้เธอ ผู้หญิงหน้าตาจืดชืด บ้าเรียน และไม่เคยมีแฟนมาก่อน ตกหลุมรักเขาให้ได้ แบบที่เคยอ่านเจอจากในหนังสือการ์ตูน


“เราไม่มีวันชอบนาย”

เธอพูดและเดินหนี แต่ร่างสูงกลับเดินมาขวางทางเอาไว้ด้วยท่าทางจริงจังอย่างไม่ยอมหลีก

“ก็บอกมาสิว่าต้องทำยังไง บอกซันสิ บอกว่าซันต้องทำยังไง ทรายถึงจะชอบ”


ความคิดวูบหนึ่งแล่นเข้ามาในหัวสมอง ในเมื่อเขาคิดจะเล่นเกมส์นี้กับเธอ ก็ได้ เธอจะยอมตกลงเล่นเกมส์นี้ดู และนั่นก็ทำให้เธอพูดเรื่องบ้าๆ พวกนี้ออกมา

“เราไม่ชอบผู้ชายที่ไว้ทรงผมแบบนาย ไม่ชอบผู้ชายที่คอยเดินตามผู้หญิงเหมือนพวกไม่มีสมอง ไม่ชอบผู้ชายที่หว่านเสน่ห์ให้คนอื่นไปจนทั่ว เลยไม่รู้ว่าใครกันแน่ที่เป็นคนสำคัญ ไม่ชอบผู้ชายหน้าตาดี ที่มีแต่คนมารุมล้อม จนทำให้ต้องคอยหวาดระแวง และที่สำคัญ”

ซันยืนนิ่งเงียบ ฟังทุกถ้อยคำด้วยท่าทางตั้งอกตั้งใจ

“เรา ไม่ ชอบ นาย”


ซันพยักหน้าน้อยๆ อย่างรับรู้เมื่อประโยคสุดท้ายหลุดออกมาจากริมฝีปากสวย ก่อนจะพึมพำอย่างแผ่วเบา

“เข้าใจแล้ว”

จากนั้นร่างสูงก็หันหลังและเดินจากไป


นั่นเป็นครั้งแรกที่ได้มองเห็นแผ่นหลังของเขา เพราะตามปกติแล้วเธอจะนั่งเรียนตรงโต๊ะที่อยู่ด้านหน้าเขา และก็จะเป็นเขาที่เสนอหน้าเข้ามาให้เห็นอยู่เสมอ ในทุกที่ ทุกเวลา ที่มีโอกาส

วินาทีนี้เป็นวินาทีแรกที่รู้สึกว่าการได้มองเห็นแผ่นหลังของใครบางคน ที่ไม่ใช่พ่อซึ่งเคยทอดทิ้งเธอกับแม่ในวันนั้น จะทำให้รู้สึกเศร้าขึ้นมาได้มากมายขนาดนี้อย่างไม่มีเหตุผล


และวันนี้ก็เป็นวันแรกในรอบหนึ่งเดือน ที่เธอกลับบ้านเพียงคนเดียวลำพัง โดยที่ไม่มีเขาคนนั้น เธอนั่งรถกลับบ้าน โดยไม่สามารถสลัดภาพดวงตาคู่คมที่ดูหม่นหมอง ใบหน้าหล่อเหลาที่ดูเศร้าสร้อย และแผ่นหลังกว้างที่ดูห่อเหี่ยว ให้หลุดออกไปจากความทรงจำได้

เธอรู้สึกหงุดหงิด อึดอัด และกระสับกระส่ายอย่างบอกไม่ถูก ที่จริงเธอควรจะรู้สึกดีใจและโล่งอก ที่ได้ระบายความรู้สึกทั้งหมดออกไป แต่กลับกลายเป็นความรู้สึกหดหู่ และใจหายอย่างประหลาด พลางคิดไปว่าเธอพูดถ้อยคำที่รุนแรงเกินไปหรือเปล่า ในเวลานั้น ความทรงจำที่เกี่ยวกับซัน ซึ่งเข้ามาเกี่ยวข้องกับชีวิตเธอ ก็เริ่มฉายชัดขึ้นมาในความรู้สึกและสมองเป็นระยะ ๆ


ผู้หญิงคนหนึ่ง ที่มีหน้าตาธรรมดา ไม่มีอะไรโดดเด่นเลยนอกจากผลการเรียนและความประพฤติ กับผู้ชายที่พรั่งพร้อมไปด้วยหน้าตา ฐานะ ชื่อเสียง เป็นที่หมายปองของผู้หญิงมากมาย

ซัน มักจะคอยวนเวียนอยู่รอบตัวเธอเสมอ คอยส่งยิ้ม คอยทำนู่นทำนี่ให้ คอยใส่ใจดูแลทุกอย่าง

ซัน มักจะมองเธออย่างไม่ยอมให้คลาดสายตา และมีท่าทีห่วงใยตลอดเวลา

ซัน บอกว่าชอบเธอ โดยที่เธอก็ไม่รู้ว่าตัวเองมีดีอะไรที่ทำให้เขามาชื่นชอบ

สุดท้าย เธอก็ตอบแทนความรู้สึกของเขา ด้วยประโยคที่ทำร้ายจิตใจเขาอย่างที่สุด


บางที เธออาจจะเพิ่งทำสิ่งที่ผิดพลาดที่สุดในชีวิตไปแล้วก็ได้


Sun and Sand







ศศิธาราริน
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 19 ก.ย. 2557, 12:20:35 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 19 ก.ย. 2557, 12:20:35 น.

จำนวนการเข้าชม : 1005





<< 2 เลือกที่จะ “เกลียด” มากกว่าจะ “รัก”   ไม่มีใครที่จะสามารถบังคับ “หัวใจ” ได้ แม้แต่ตัวเรา ซึ่งเป็นเจ้าของหัวใจของตัวเอง >>
แว่นใส 19 ก.ย. 2557, 20:32:21 น.
้เฮ้อ กว่าจะรู้สึกตัว


ใบบัวน่ารัก 19 ก.ย. 2557, 21:27:33 น.
อ้อ น้องพึ่งอยู่ ม. 4 ไม่ใช่หรือคะ
อย่าไปกลุ้มใจมากมาย
ชีวิตยังต้องเดินต่อก้าวไปข้างหน้านะคะ ทราย


ไม้เอก 23 ก.ย. 2557, 18:11:29 น.
เศร้า


Zephyr 2 ต.ค. 2557, 00:08:42 น.
อ่ะ เค้าไปแล้ว เห็นม่ะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account