^วันอยากเขียน^
รวมเรื่องสั้น ฉบับลิขิตราค่ะ ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว จับเรื่องสั้นมารวมกันไปเลยดีกว่า
Tags: เรื่องสั้น ลิขิตรา
ตอน: ~เจ้าชาย...กับแม่มด(3)~
“ได้ค่ะ...เดี๋ยวเราเอาไปดูนะ” หญิงสาวเอ่ยเบา ๆ ก่อนจะวางสายโทรศัพท์ไป
ร่างแบบบางค่อยก้าวไปตามระเบียงทางเดินกว้าง ก่อนจะชะงักเท้าลงเมื่อพบร่างสูงที่ก้าวมาดักตรงหน้า เธอเอียงคอมองหน้าเขาอย่างประหลาดใจ
“สายัณห์สวัสดิ์ค่ะ” หญิงสาวคลี่ยิ้มบอก
“ทำไมวันนี้ยังไม่กลับบ้านล่ะ”
“เข้าเวรของแผนกค่ะ” เธอทำงานด้านการรักษาความปลอดภัยในระบบ จึงมีเวรเฝ้าระวังที่ต้องพักค้างที่องค์กรเป็นเรื่องปกติ
“กินอะไรหรือยังครับ”
“ยังค่ะ”
“ไปกินด้วยกันไหม”
“พี่ที่เฝ้าอยู่เพิ่งโทร.มาบอกว่ามีสัญญาณแปลก ๆ เหมือนเราจะถูกแฮค เดี๋ยวหนูคงต้องไปดูก่อน” เธอเม้มริมฝีปากด้วยท่ทางกังวล
ชายหนุ่มเลิกคิ้วมอง ก่อนบอก “เดี๋ยวพี่ไปด้วยไหม แล้วไปกินข้าวกันนะครับ”
เธอชั่งใจอยู่ครู่ เขาก็โน้มหน้ามาใกล้ ส่งสายตาออดอ้อน “นะครับ..”
“ค่ะ…” หญิงสาวหลุดคำตอบรับ
ภาพที่เจ้าหญิงเดินเคียงข้างพ่อมดแห่งฝ่ายวิจัยกลายเป็นเรื่องที่ใครหลายคนเริ่มพูดถึงและอดล้อไม่ได้ คนที่หมกตัวอยู่แต่ในห้องแล็บไม่ได้สนใจข่าวสารมากนัก ขณะที่หญิงสาวซึ่งพบปะผู้คนมากมายกลับได้ยินเสียงร่ำลือไม่ขาดสาย และทุกคราวที่มีคำถาม คำตอบของเธอก็ยังมีเพียงรอยยิ้มบาง ๆ
“คนเริ่มพูดกันแล้วนะคะ” เธอถอนใจเบา ๆ
“เหรอ”
“ค่ะ…วันก่อนพี่ที่แผนกบอกว่าเห็นหนูเดินกับพี่”
“อืม…ก็ไม่เป็นไรนี่ครับ คิดมากทำไม”
“เดี๋ยวเรตติ้งพี่ตก”
“ไม่มีเรตติ้งครับ” เขาตอบกลั้วหัวเราะ ก่อนจะโน้มตัวมาใกล้ “พี่หอมแก้มได้ไหม”
“ไม่ได้ค่ะ” เธอตอบชัดเจน “อย่าพยายามด้วย ถ้าไม่อยากโดนหนูต่อย”
เขากลับโน้มตัวมาใกล้ เธอไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากปล่อยหมัดเบา ๆ ไปยัดที่ท้อง เขาจึงผละตัวออกห่าง “ต่อยจริงอ่ะ”
“จริงสิคะ...ถ้าพี่ยังนิสัยเสียแบบนี้อยู่”
“โหดจัง”
เขาแกล้งบ่น ก่อนจะจูงมือเธอเดินไปเรื่อย ๆ “รถพี่จอดอยู่ชั้นหก”
เธอพยักหน้ารับ เดินขึ้นลิฟท์ซึ่งจอดเฉพาะชั้นคี่ไปจนถึงชั้นห้า ก่อนจะเดินขึ้นบันไดหนีไฟข้าง ๆ สัญญาณสั่นเบา ๆ ของโทรศัพท์ในกระเป๋าทำให้เธอหยิบออกมาเกิดอ่าน เป็นข้อความจากเพื่อนในแผนกที่ส่งภาพประมวลผลโปรแกรมใหม่มาให้
หญิงสาวหยุดยืนดูภาพในจออยู่นาน ก่อนพิมพ์ตอบอย่างตั้งอกตั้งใจ กว่าจะรู้ตัวก็เมื่อสัมผัสเย็น ๆ แตะผ่านแก้มเนียน เธอเบิกตากว้าง เงยหน้ามองผู้ชายตัวโตที่รีบวิ่งขึ้นบันไดแล้วหันมายิ้มยักคิ้วให้อย่างกวนประสาท ดวงตาคมวาวจัดแสงขึ้น ร่างบางวิ่งเร็ว ๆ ตามขึ้นไปบนลานจอดรถจนเกือบถึงตัวเขา ชายหนุ่มหันมามองหน้า ก่อนบอกเสียงเบา
“ขอโทษนะครับ”
เธอถอนใจ “นิสัยไม่ดีนะคะ ไม่ให้เกียรติกันเลย”
“แฟนกันเขาก็ทำทั้งนั้นล่ะครับ” เขาทำเสียงงุ้งงิ้งในคอ ขณะที่เธอเลิกคิ้วมอง เมื่อเห็นว่าชายหนุ่มกำลังเผลอจึงตวัดศอกซัดเบา ๆ ที่ข้างเอวเขากึ่งลงฑัณฑ์
เขาอมยิ้มเดินนำเธอมาที่รถ หญิงสาวเดินไปยังฝั่งที่นั่งข้างคนขับ กระโดดขึ้นไปนั่งแล้วกวาดตามองโดยรอบ
“โหย…แน่ใจนะคะว่าพี่ยังไม่มีครอบครัว”
“อะไรครับ รถรกเหมือนบ้านออกขนาดนี้”
“ตุ๊กตาเต็มไปหมด เหมือนรถแฟมิลี่แมนมากกว่าผู้ชายโสด”
เขาหัวเราะ “คนซื้อให้บ้าง ซื้อเองบ้าง มันน่ารักดีนะ”
คราวนี้หญิงสาวเลิกคิ้ว หันหน้าจ้องเขาอย่างระแวงกึ่งค้นหา “ตกลงว่า...พี่เป็นเกย์ป่ะคะ”
เขาหัวเราะ “พิสูจน์ป่ะล่ะ”
“ได้ค่ะ...เพื่อนเกย์หนูเยอะ เดี๋ยวให้มันมายั่วพี่ก็ได้” เธอขยิบตาให้อย่างไม่ใส่ใจ เขาหัวเราะในคอ ก่อนจะสตาร์ตรถ
หญิงสาวนั่งนิ่งอยู่ครู่ ก่อนจะเลิกคิ้วขึ้นเมื่อรู้สึกถึงมือเย็น ๆ ที่ยื่นมากุมมือเธอไว้ เธอเลิกคิ้วมองเมื่อเห็นว่าเขาบังคับพวงมาลัยด้วยมือข้างเดียว แล้วยื่นมือซ้ายมาจับมือเธอไว้
“อะไรคะ...ขับรถมือเดียวอันตรายนะ”
“พี่ชินแล้วครับ”
“หืม…” หญิงสาวเลิกคิ้วมอง “ชินอะไรคะ ขับรถมือเดียวแล้วอีกมือมาจับมือคนข้าง ๆ อ่ะนะ”
“ไม่ใช่สิ...ถ้าข้าง ๆ ไม่มีใครพี่ก็ไม่ค่อยได้แตะพวงมาลัยอยู่แล้ว”
“แล้วปกติข้าง ๆ มีใครเหรอคะ”
เขาหัวเราะ “ไม่มีครับ...มีแค่หนูคนเดียวจริง ๆ”
เธอไม่ได้สะบัดมือเพราะอยู่ในช่วงไฟแดง เขาจับมือเธอไว้แน่นก่อนจะคลายออกกุมไว้หลวม ๆ
“พี่ไม่มีใครอยู่จริง ๆ เหรอคะ”
“ไม่มีจริง ๆ จริง ๆครับ” เขาหันมาสบตาเธอ “ช่วงนี้พี่เล่นแต่เกม ไม่ได้สนใจใครเลย”
“แล้วทำไม...พี่ถึงเลือกหนูล่ะคะ”
เธอรู้ว่ารอบตัวเขามีผู้หญิงตั้งมากมาย หลายคนหน้าตาดี มีความรู้ และน่าที่ผู้ชายหลายคนจะตกหลุมรักได้ไม่ยาก
เขาถอนใจหนัก ๆ “ก็ไม่รู้สิครับ...บางครั้งมันก็ไม่ต้องมีเหตุผล ก็ถ้าพี่ถามว่าทำไมหนูถึงชอบพี่”
หญิงสาวเงียบไปครู่ ใคร่ครวญหาเหตุผลมากมาย แต่กลับไม่พบคำตอบ สิ่งเดียวที่รู้คือ เธอมีความสุขเมื่ออยู่ข้าง ๆ ผู้ชายคนนี้ หัวใจเธอสงบเมื่อเอนกายพิงอยู่ในอ้อมกอดของเขา
เธอถอนใจเบา ๆ พยักหน้ารับอย่างยอมเข้าใจ ไม่ต้องมีคำถามใดอีก หากดวงตาลดลงมองมือที่กุมมือเธออยู่บนตัก คำถามจาง ๆ ผุดขึ้นในใจ
…เราจะกุมมือกันได้นานเท่าไร???....
ตลอดไปจะได้ไหม???
ริมฝีปากอุ่นชื้นที่บดทาบลงมาไม่ได้หอมหวานอย่างในนิยาย แต่เย็นฉ่ำและชวนให้หัวใจเต้นรัวด้วยความสับสนมึนงง หญิงสาวนิ่งงันอยู่นาน ก่อนจะเผยอริมฝีปาก ค่อยแตะลิ้นไล่ตามเหมือนที่เคยอ่านในหนังสือ นานก่อนริมฝีปากนั้นจะถอนออก คนตรงหน้าปรือตามองเธอ ก่อนจะแตะริมฝีปากทาบลงอีกครั้ง ซ้ำแล้วซ้ำเล่า
หญิงสาวไม่แน่ใจว่าเพราะอะไร เธอไม่มีเรี่ยวแรงจะผลักไส แม้คำถามและสัญญาณอันตรายจะกรีดร้องก้องอยู่ในหัว
“พี่จะทำอะไรคะ” เธอกระซิบถาม เมื่อเขาถอนริมฝีปากออก
“พี่รักหนูนะครับ...” เขากระซิบคำเบา ๆ ก่อนจะจูบเธออีกครั้ง
หญิงสาวถอดใจเบา ๆ กอดเขาไว้ราวเป็นเครื่องยืนยันถึงความรัก
เธอไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่ามันเป็นความรักหรือเปล่า ร้อยพันสัญญาณอันตรายทำให้เธอไม่มั่นใจในตัวเขา แต่เมื่อเห็นดวงตาอ่อนแสงที่ราวลูกแมวบาดเจ็บคู่นั้น เธอก็อดไม่ได้ที่จะกอดเขาไว้ให้แน่นขึ้น
หลายคนเคยเตือนว่าเธอจะงมงายในรัก
และความจริงก็คงเป็นเช่นนั้น เมื่อรัก...เธอพร้อมจะโอบกอดความรักไว้อย่างโง่งม
หญิงสาวให้คำมั่นอย่างมั่นคง
…ให้คนทั้งโลกหันหลังให้เขา เธอจะเป็นคนเดียวที่พร้อมจะยืนข้างเขาตลอดไป!!!
มือขาวนุ่มจับมือใหญ่ไว้มั่น มือกอดมือราวจะแทนทุกถ้อยคำสัญญา
-------
กล่าวกันว่า...บางครั้งความรักก็ทำให้คนฉลาดกลายเป็นคนโ่ง่
โดยเฉพาะความรัก...ที่ไร้เดียงสา และยิ่งใหญ่จนน่ากลัว
เมื่อรักทำให้รู้สึกเป็นเจ้าของ เราจึงต้องดูแล...และปกป้องสิ่งที่รัก
-------
คุณ konhin : นั่นสิคะ
คุณ คิมหันตุ์ : อย่าเพิ่งลืมกันนะคะ
คุณ นักอ่านเหนียวหนึบ : แม่มดใจร้ายตรงไหนกันคะ
คุณ pkka : ไอซ์ก็สงสัยเหมือนกันค่ะ
คุณ goldensun : เรื่องราวความรักมีหลายรูปแบบนะคะ คงเพราะมนุษย์เรามีความหลากหลายที่ทำให้งดงาม
ร่างแบบบางค่อยก้าวไปตามระเบียงทางเดินกว้าง ก่อนจะชะงักเท้าลงเมื่อพบร่างสูงที่ก้าวมาดักตรงหน้า เธอเอียงคอมองหน้าเขาอย่างประหลาดใจ
“สายัณห์สวัสดิ์ค่ะ” หญิงสาวคลี่ยิ้มบอก
“ทำไมวันนี้ยังไม่กลับบ้านล่ะ”
“เข้าเวรของแผนกค่ะ” เธอทำงานด้านการรักษาความปลอดภัยในระบบ จึงมีเวรเฝ้าระวังที่ต้องพักค้างที่องค์กรเป็นเรื่องปกติ
“กินอะไรหรือยังครับ”
“ยังค่ะ”
“ไปกินด้วยกันไหม”
“พี่ที่เฝ้าอยู่เพิ่งโทร.มาบอกว่ามีสัญญาณแปลก ๆ เหมือนเราจะถูกแฮค เดี๋ยวหนูคงต้องไปดูก่อน” เธอเม้มริมฝีปากด้วยท่ทางกังวล
ชายหนุ่มเลิกคิ้วมอง ก่อนบอก “เดี๋ยวพี่ไปด้วยไหม แล้วไปกินข้าวกันนะครับ”
เธอชั่งใจอยู่ครู่ เขาก็โน้มหน้ามาใกล้ ส่งสายตาออดอ้อน “นะครับ..”
“ค่ะ…” หญิงสาวหลุดคำตอบรับ
ภาพที่เจ้าหญิงเดินเคียงข้างพ่อมดแห่งฝ่ายวิจัยกลายเป็นเรื่องที่ใครหลายคนเริ่มพูดถึงและอดล้อไม่ได้ คนที่หมกตัวอยู่แต่ในห้องแล็บไม่ได้สนใจข่าวสารมากนัก ขณะที่หญิงสาวซึ่งพบปะผู้คนมากมายกลับได้ยินเสียงร่ำลือไม่ขาดสาย และทุกคราวที่มีคำถาม คำตอบของเธอก็ยังมีเพียงรอยยิ้มบาง ๆ
“คนเริ่มพูดกันแล้วนะคะ” เธอถอนใจเบา ๆ
“เหรอ”
“ค่ะ…วันก่อนพี่ที่แผนกบอกว่าเห็นหนูเดินกับพี่”
“อืม…ก็ไม่เป็นไรนี่ครับ คิดมากทำไม”
“เดี๋ยวเรตติ้งพี่ตก”
“ไม่มีเรตติ้งครับ” เขาตอบกลั้วหัวเราะ ก่อนจะโน้มตัวมาใกล้ “พี่หอมแก้มได้ไหม”
“ไม่ได้ค่ะ” เธอตอบชัดเจน “อย่าพยายามด้วย ถ้าไม่อยากโดนหนูต่อย”
เขากลับโน้มตัวมาใกล้ เธอไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากปล่อยหมัดเบา ๆ ไปยัดที่ท้อง เขาจึงผละตัวออกห่าง “ต่อยจริงอ่ะ”
“จริงสิคะ...ถ้าพี่ยังนิสัยเสียแบบนี้อยู่”
“โหดจัง”
เขาแกล้งบ่น ก่อนจะจูงมือเธอเดินไปเรื่อย ๆ “รถพี่จอดอยู่ชั้นหก”
เธอพยักหน้ารับ เดินขึ้นลิฟท์ซึ่งจอดเฉพาะชั้นคี่ไปจนถึงชั้นห้า ก่อนจะเดินขึ้นบันไดหนีไฟข้าง ๆ สัญญาณสั่นเบา ๆ ของโทรศัพท์ในกระเป๋าทำให้เธอหยิบออกมาเกิดอ่าน เป็นข้อความจากเพื่อนในแผนกที่ส่งภาพประมวลผลโปรแกรมใหม่มาให้
หญิงสาวหยุดยืนดูภาพในจออยู่นาน ก่อนพิมพ์ตอบอย่างตั้งอกตั้งใจ กว่าจะรู้ตัวก็เมื่อสัมผัสเย็น ๆ แตะผ่านแก้มเนียน เธอเบิกตากว้าง เงยหน้ามองผู้ชายตัวโตที่รีบวิ่งขึ้นบันไดแล้วหันมายิ้มยักคิ้วให้อย่างกวนประสาท ดวงตาคมวาวจัดแสงขึ้น ร่างบางวิ่งเร็ว ๆ ตามขึ้นไปบนลานจอดรถจนเกือบถึงตัวเขา ชายหนุ่มหันมามองหน้า ก่อนบอกเสียงเบา
“ขอโทษนะครับ”
เธอถอนใจ “นิสัยไม่ดีนะคะ ไม่ให้เกียรติกันเลย”
“แฟนกันเขาก็ทำทั้งนั้นล่ะครับ” เขาทำเสียงงุ้งงิ้งในคอ ขณะที่เธอเลิกคิ้วมอง เมื่อเห็นว่าชายหนุ่มกำลังเผลอจึงตวัดศอกซัดเบา ๆ ที่ข้างเอวเขากึ่งลงฑัณฑ์
เขาอมยิ้มเดินนำเธอมาที่รถ หญิงสาวเดินไปยังฝั่งที่นั่งข้างคนขับ กระโดดขึ้นไปนั่งแล้วกวาดตามองโดยรอบ
“โหย…แน่ใจนะคะว่าพี่ยังไม่มีครอบครัว”
“อะไรครับ รถรกเหมือนบ้านออกขนาดนี้”
“ตุ๊กตาเต็มไปหมด เหมือนรถแฟมิลี่แมนมากกว่าผู้ชายโสด”
เขาหัวเราะ “คนซื้อให้บ้าง ซื้อเองบ้าง มันน่ารักดีนะ”
คราวนี้หญิงสาวเลิกคิ้ว หันหน้าจ้องเขาอย่างระแวงกึ่งค้นหา “ตกลงว่า...พี่เป็นเกย์ป่ะคะ”
เขาหัวเราะ “พิสูจน์ป่ะล่ะ”
“ได้ค่ะ...เพื่อนเกย์หนูเยอะ เดี๋ยวให้มันมายั่วพี่ก็ได้” เธอขยิบตาให้อย่างไม่ใส่ใจ เขาหัวเราะในคอ ก่อนจะสตาร์ตรถ
หญิงสาวนั่งนิ่งอยู่ครู่ ก่อนจะเลิกคิ้วขึ้นเมื่อรู้สึกถึงมือเย็น ๆ ที่ยื่นมากุมมือเธอไว้ เธอเลิกคิ้วมองเมื่อเห็นว่าเขาบังคับพวงมาลัยด้วยมือข้างเดียว แล้วยื่นมือซ้ายมาจับมือเธอไว้
“อะไรคะ...ขับรถมือเดียวอันตรายนะ”
“พี่ชินแล้วครับ”
“หืม…” หญิงสาวเลิกคิ้วมอง “ชินอะไรคะ ขับรถมือเดียวแล้วอีกมือมาจับมือคนข้าง ๆ อ่ะนะ”
“ไม่ใช่สิ...ถ้าข้าง ๆ ไม่มีใครพี่ก็ไม่ค่อยได้แตะพวงมาลัยอยู่แล้ว”
“แล้วปกติข้าง ๆ มีใครเหรอคะ”
เขาหัวเราะ “ไม่มีครับ...มีแค่หนูคนเดียวจริง ๆ”
เธอไม่ได้สะบัดมือเพราะอยู่ในช่วงไฟแดง เขาจับมือเธอไว้แน่นก่อนจะคลายออกกุมไว้หลวม ๆ
“พี่ไม่มีใครอยู่จริง ๆ เหรอคะ”
“ไม่มีจริง ๆ จริง ๆครับ” เขาหันมาสบตาเธอ “ช่วงนี้พี่เล่นแต่เกม ไม่ได้สนใจใครเลย”
“แล้วทำไม...พี่ถึงเลือกหนูล่ะคะ”
เธอรู้ว่ารอบตัวเขามีผู้หญิงตั้งมากมาย หลายคนหน้าตาดี มีความรู้ และน่าที่ผู้ชายหลายคนจะตกหลุมรักได้ไม่ยาก
เขาถอนใจหนัก ๆ “ก็ไม่รู้สิครับ...บางครั้งมันก็ไม่ต้องมีเหตุผล ก็ถ้าพี่ถามว่าทำไมหนูถึงชอบพี่”
หญิงสาวเงียบไปครู่ ใคร่ครวญหาเหตุผลมากมาย แต่กลับไม่พบคำตอบ สิ่งเดียวที่รู้คือ เธอมีความสุขเมื่ออยู่ข้าง ๆ ผู้ชายคนนี้ หัวใจเธอสงบเมื่อเอนกายพิงอยู่ในอ้อมกอดของเขา
เธอถอนใจเบา ๆ พยักหน้ารับอย่างยอมเข้าใจ ไม่ต้องมีคำถามใดอีก หากดวงตาลดลงมองมือที่กุมมือเธออยู่บนตัก คำถามจาง ๆ ผุดขึ้นในใจ
…เราจะกุมมือกันได้นานเท่าไร???....
ตลอดไปจะได้ไหม???
ริมฝีปากอุ่นชื้นที่บดทาบลงมาไม่ได้หอมหวานอย่างในนิยาย แต่เย็นฉ่ำและชวนให้หัวใจเต้นรัวด้วยความสับสนมึนงง หญิงสาวนิ่งงันอยู่นาน ก่อนจะเผยอริมฝีปาก ค่อยแตะลิ้นไล่ตามเหมือนที่เคยอ่านในหนังสือ นานก่อนริมฝีปากนั้นจะถอนออก คนตรงหน้าปรือตามองเธอ ก่อนจะแตะริมฝีปากทาบลงอีกครั้ง ซ้ำแล้วซ้ำเล่า
หญิงสาวไม่แน่ใจว่าเพราะอะไร เธอไม่มีเรี่ยวแรงจะผลักไส แม้คำถามและสัญญาณอันตรายจะกรีดร้องก้องอยู่ในหัว
“พี่จะทำอะไรคะ” เธอกระซิบถาม เมื่อเขาถอนริมฝีปากออก
“พี่รักหนูนะครับ...” เขากระซิบคำเบา ๆ ก่อนจะจูบเธออีกครั้ง
หญิงสาวถอดใจเบา ๆ กอดเขาไว้ราวเป็นเครื่องยืนยันถึงความรัก
เธอไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่ามันเป็นความรักหรือเปล่า ร้อยพันสัญญาณอันตรายทำให้เธอไม่มั่นใจในตัวเขา แต่เมื่อเห็นดวงตาอ่อนแสงที่ราวลูกแมวบาดเจ็บคู่นั้น เธอก็อดไม่ได้ที่จะกอดเขาไว้ให้แน่นขึ้น
หลายคนเคยเตือนว่าเธอจะงมงายในรัก
และความจริงก็คงเป็นเช่นนั้น เมื่อรัก...เธอพร้อมจะโอบกอดความรักไว้อย่างโง่งม
หญิงสาวให้คำมั่นอย่างมั่นคง
…ให้คนทั้งโลกหันหลังให้เขา เธอจะเป็นคนเดียวที่พร้อมจะยืนข้างเขาตลอดไป!!!
มือขาวนุ่มจับมือใหญ่ไว้มั่น มือกอดมือราวจะแทนทุกถ้อยคำสัญญา
-------
กล่าวกันว่า...บางครั้งความรักก็ทำให้คนฉลาดกลายเป็นคนโ่ง่
โดยเฉพาะความรัก...ที่ไร้เดียงสา และยิ่งใหญ่จนน่ากลัว
เมื่อรักทำให้รู้สึกเป็นเจ้าของ เราจึงต้องดูแล...และปกป้องสิ่งที่รัก
-------
คุณ konhin : นั่นสิคะ
คุณ คิมหันตุ์ : อย่าเพิ่งลืมกันนะคะ
คุณ นักอ่านเหนียวหนึบ : แม่มดใจร้ายตรงไหนกันคะ
คุณ pkka : ไอซ์ก็สงสัยเหมือนกันค่ะ
คุณ goldensun : เรื่องราวความรักมีหลายรูปแบบนะคะ คงเพราะมนุษย์เรามีความหลากหลายที่ทำให้งดงาม

เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 23 ก.ย. 2557, 14:21:05 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 23 ก.ย. 2557, 14:21:10 น.
จำนวนการเข้าชม : 1405
<< ~เจ้าชาย...กับแม่มด(2)~ | เหนื่อยไหมสายลม??? >> |

คิมหันตุ์ 23 ก.ย. 2557, 15:36:42 น.
ยังไม่จบใช่ไหมคะ. รอติดตามจ้า
ยังไม่จบใช่ไหมคะ. รอติดตามจ้า

mhengjhy 23 ก.ย. 2557, 17:06:00 น.
ติดไฟแดงน้านนาน 5555
ติดไฟแดงน้านนาน 5555

นักอ่านเหนียวหนึบ 23 ก.ย. 2557, 17:39:38 น.
เอ่อ เค้าหมายถึงแม่มด คนอื่นๆ อ่า เช่น แม่มดในนิทานทั้งหลาย
อ่านตอนนี้แล้วให้ความรู้สึกว่า ความรักเป็นเรื่องน่ากลัวจังเลย >< ความคาดหวัง ความรอคอย ความไม่รู้ เห้อ น่าสงสารรร
เอ่อ เค้าหมายถึงแม่มด คนอื่นๆ อ่า เช่น แม่มดในนิทานทั้งหลาย
อ่านตอนนี้แล้วให้ความรู้สึกว่า ความรักเป็นเรื่องน่ากลัวจังเลย >< ความคาดหวัง ความรอคอย ความไม่รู้ เห้อ น่าสงสารรร

goldensun 24 ก.ย. 2557, 19:18:14 น.
เจ้าหญิงใจอ่อนให้พ่อมดแล้ว ก็ตอดนิดตอดหน่อยตลอดนี่นา
ว่าแต่ขโมยหอมแก้มอยู่ดีๆ กลายเป็นจุ๊บกันไปซะแล้ว อ่อนใจเลยใจอ่อนซะอย่างนั้น
เจ้าหญิงใจอ่อนให้พ่อมดแล้ว ก็ตอดนิดตอดหน่อยตลอดนี่นา
ว่าแต่ขโมยหอมแก้มอยู่ดีๆ กลายเป็นจุ๊บกันไปซะแล้ว อ่อนใจเลยใจอ่อนซะอย่างนั้น

ปอรินทร์ 28 ก.ย. 2557, 20:03:51 น.
คิดถึงไรเตอร์จังเลยค่ะ แอบขโมยหอมแก้มแปปเดียว จุ๊บเลยแย้ว แอบเขินเบาๆ
>///<


คิดถึงไรเตอร์จังเลยค่ะ แอบขโมยหอมแก้มแปปเดียว จุ๊บเลยแย้ว แอบเขินเบาๆ
>///<





grazioso 30 ก.ย. 2557, 23:16:26 น.
ไม่รู้ทำไม ลึกๆแล้วรู้สึกเป็นห่วงเจ้าหญิงมากเลย รู้สึกพ่อมดไม่น่าไว้ใจยังไงก็ไม่รู้ (อย่างกับตัวเองเป็นแม่เจ้าหญิง หวงลูกสาว ๕๕๕) แต่แอบรู้สึกอยู่ลึกๆจริงๆ นะคะ ว่าพ่อมด"ไม่ธรรมดา"
ไม่รู้ทำไม ลึกๆแล้วรู้สึกเป็นห่วงเจ้าหญิงมากเลย รู้สึกพ่อมดไม่น่าไว้ใจยังไงก็ไม่รู้ (อย่างกับตัวเองเป็นแม่เจ้าหญิง หวงลูกสาว ๕๕๕) แต่แอบรู้สึกอยู่ลึกๆจริงๆ นะคะ ว่าพ่อมด"ไม่ธรรมดา"