คานน้อย คอยรัก (จบแล้วค่ะ)
คานน้อย คอยรัก
ในลักษณ์นั้นว่าประหลาด…………….คนบนคานนั้นว่าน่าประหลาด
เป็นเชื้อชาตินักรบกลั่นกล้า…………...เป็นเชื้อชาตินักรักผู้หาญกล้า
เหตุไฉนย่อท้อรอรา…………………..เหตุไฉนย่อท้อรอเวลา
ฤาจะกล้าแต่เพียงวาที…………………ฤาไม่กล้าบอกรักใครสักที
เห็นแก้วแวววับที่ดับจิต…………………เห็นคานแก้วแวววับสดับจิต
ใยไม่คิดอาจเอื้อมให้ถึงที่……………...ใยไม่คิดปีนไปให้ถึงที่
เมื่อไม่เอื้อมจะได้อย่างไรมี……………อย่ามัวรอจงขึ้นมาเร็วรี่
อันมณีฤาจะโลดไปถึงมือ………………บนคานนี้มีรักให้ฝึกปรือ
อันของสูงแม้ปองต้องจิต………………..คานเราสูงไม่เป็นรองของใครอื่น
ถ้าไม่คิดปีนป่ายจะได้ฤา………………..อย่าได้ขืนลงไปให้เสียชื่อ
มิใช่ของตลาดที่อาจซื้อ………………….มิใช่ทองตามตลาดที่อาจซื้อ
ฤาแย่งยื้อถือได้โดยไม่ยอม……………..เพราะเราถือความพอใจจึงลงไป
ไม่คิดสอยมัวคอยดอกไม้ร่วง……………ไม่คิดสอยมัวคอยให้คานทับ
คงชวดดวงบุปผาชาติสะอาดหอม………..รอให้ดับคาคานหรืออย่างไร
ดูแต่ภุมรินเที่ยวบินตอม…………………..ฤาต้องคอยรักแท้จนแก่ใช่ไหม
จึงได้ออมอบกลิ่นสุมาลี…………………..เกาะคานน้อยคอยรักต่อไป
…………………..........จนกว่าจะเจอคนที่ใช่…ใช่ไหมคาน………………
(อ้างอิงกลอนจากบทละครเรื่องท้าวแสนปม)
มาดูเหตุผลของคนที่ยังไม่ลงจากคานกันค่ะ...
อาจจะมีเหตุผลมากมายที่ไม่อยากลงจากคาน
หรืออาจมีเพียงแค่หนึ่งเหตุผลง่ายๆก็คือ...
...ไม่ใช่คนที่ใช่ก็ไม่ใช่...
หรือว่า
...โดนข้อหาหลายใจ เพราะเคยมีแฟนหลายหน...
หรืออาจเป็นเพรา
...เขาบอกให้รอ เราก็รอ...
หรือจริงๆแล้ว
...ขออยู่รอคนสุดท้ายคนนั้นได้ไหม...
หรือลึกลงไป
...กำลังรอเจ้าชายในฝันอยู่อย่างอดทนได้ทุกอย่าง...
หรือกำลังปลอบใจตัวเองว่า
...ครึ่งหนึ่งของฉันยังมาไม่ถึง...ซึ่งสักวันเขาจะมาอยู่ข้างกัน...
หรือกำลังหลอกตัวเองด้วยการปกปิดว่า
...ไม่หวั่นไหว หัวใจไม่ปรารถนา...
ทั้งๆที่จริงๆแล้ว
...อยากรัก อยากฝัน แต่เพราะกลัว ก็เลยไม่กล้ารักใคร...
หรือว่าอาจจะเป็นเหตผลสุดท้ายที่ไม่ค่อยมีใครกล้ายอมรับดังๆว่า
...ไม่เคยมีใครมาจีบ ไม่มีใครสน เรามันคนธรรมดาๆ...
แต่ไม่ว่าจะเหตุผลใด...
เราก็ยังหวังและยังคงรอคอยปาฏิหาริย์ว่าจะได้เจอคนที่ใช่ในสักวัน...
ในลักษณ์นั้นว่าประหลาด…………….คนบนคานนั้นว่าน่าประหลาด
เป็นเชื้อชาตินักรบกลั่นกล้า…………...เป็นเชื้อชาตินักรักผู้หาญกล้า
เหตุไฉนย่อท้อรอรา…………………..เหตุไฉนย่อท้อรอเวลา
ฤาจะกล้าแต่เพียงวาที…………………ฤาไม่กล้าบอกรักใครสักที
เห็นแก้วแวววับที่ดับจิต…………………เห็นคานแก้วแวววับสดับจิต
ใยไม่คิดอาจเอื้อมให้ถึงที่……………...ใยไม่คิดปีนไปให้ถึงที่
เมื่อไม่เอื้อมจะได้อย่างไรมี……………อย่ามัวรอจงขึ้นมาเร็วรี่
อันมณีฤาจะโลดไปถึงมือ………………บนคานนี้มีรักให้ฝึกปรือ
อันของสูงแม้ปองต้องจิต………………..คานเราสูงไม่เป็นรองของใครอื่น
ถ้าไม่คิดปีนป่ายจะได้ฤา………………..อย่าได้ขืนลงไปให้เสียชื่อ
มิใช่ของตลาดที่อาจซื้อ………………….มิใช่ทองตามตลาดที่อาจซื้อ
ฤาแย่งยื้อถือได้โดยไม่ยอม……………..เพราะเราถือความพอใจจึงลงไป
ไม่คิดสอยมัวคอยดอกไม้ร่วง……………ไม่คิดสอยมัวคอยให้คานทับ
คงชวดดวงบุปผาชาติสะอาดหอม………..รอให้ดับคาคานหรืออย่างไร
ดูแต่ภุมรินเที่ยวบินตอม…………………..ฤาต้องคอยรักแท้จนแก่ใช่ไหม
จึงได้ออมอบกลิ่นสุมาลี…………………..เกาะคานน้อยคอยรักต่อไป
…………………..........จนกว่าจะเจอคนที่ใช่…ใช่ไหมคาน………………
(อ้างอิงกลอนจากบทละครเรื่องท้าวแสนปม)
มาดูเหตุผลของคนที่ยังไม่ลงจากคานกันค่ะ...
อาจจะมีเหตุผลมากมายที่ไม่อยากลงจากคาน
หรืออาจมีเพียงแค่หนึ่งเหตุผลง่ายๆก็คือ...
...ไม่ใช่คนที่ใช่ก็ไม่ใช่...
หรือว่า
...โดนข้อหาหลายใจ เพราะเคยมีแฟนหลายหน...
หรืออาจเป็นเพรา
...เขาบอกให้รอ เราก็รอ...
หรือจริงๆแล้ว
...ขออยู่รอคนสุดท้ายคนนั้นได้ไหม...
หรือลึกลงไป
...กำลังรอเจ้าชายในฝันอยู่อย่างอดทนได้ทุกอย่าง...
หรือกำลังปลอบใจตัวเองว่า
...ครึ่งหนึ่งของฉันยังมาไม่ถึง...ซึ่งสักวันเขาจะมาอยู่ข้างกัน...
หรือกำลังหลอกตัวเองด้วยการปกปิดว่า
...ไม่หวั่นไหว หัวใจไม่ปรารถนา...
ทั้งๆที่จริงๆแล้ว
...อยากรัก อยากฝัน แต่เพราะกลัว ก็เลยไม่กล้ารักใคร...
หรือว่าอาจจะเป็นเหตผลสุดท้ายที่ไม่ค่อยมีใครกล้ายอมรับดังๆว่า
...ไม่เคยมีใครมาจีบ ไม่มีใครสน เรามันคนธรรมดาๆ...
แต่ไม่ว่าจะเหตุผลใด...
เราก็ยังหวังและยังคงรอคอยปาฏิหาริย์ว่าจะได้เจอคนที่ใช่ในสักวัน...
Tags: ดราม่า หวานซึ้ง อบอุ่น หมอรัง สิ้นรัก วายุ ปองขวัญ
ตอน: ยกที่ 93 หยุดตรงนี้ที่เธอ
ยกที่ 93 หยุดตรงนี้ที่เธอ
ท่ามกลางดงกุหลาบขาวที่กำลังบานสะพรั่งอวดความบริสุทธิ์
นับร้อยไร่แห่งเกาะรังรัก ราวกับเป็นสัญลักษณ์ของเกาะแห่งนี้
ตอบรับฟากฟ้ากระจ่างและท้องทะเลสีครามที่รายล้อมไปด้วย
สีเขียวของใบไม้ที่ก่อเกิดเป็นป่าเขาลำเนาไพรเรียงราย สายลมพัดพริ้ว
คู่บ่าวสาวที่เพิ่งสลัดโสดลงจากคานน้อยคอยรักเป็นคู่สุดท้าย
ได้เก่ียวก้อยพร้อมรอยยิ้มเปี่ยมสุขเดินไปหยุดอยู่ตรงศาลาสีขาว
กลางดงกุหลาบหลังจากเสร็จสิ้นพิธีสมรสตามศาสนา…
กลายเป็นคู่สามีภรรยา…และหมายรวมไปถึง ‘คู่ชีวิต’
หลังจากที่ได้ผ่านพ้นเรื่องราวมากมายในชีวิตทั้งสุขและทุกข์
และแน่นอน…ต่อจากนี้ไป ทั้งคู่ก็ย่อมต้องพบเจอทั้งทุกข์และสุขอีกเช่นกัน…
แต่เขาทั้งสองต่างมั่นใจว่าจะช่วยกันประคับประคองชีวิตคู่ไปด้วยกัน
จะไม่มีใครต้องทิ้งใครไว้ยังเบื้องหลังให้ต้องเจ็บช้ำดั่งที่เคยผ่านมา…
เมื่อรู้ซึ้งแล้วว่า…สิ่งใดคือสิ่งล้ำค่าในชีวิต…
“พี่ไม่เคยคิดเลยว่าจะมีวันนี้ วันที่พี่กับเธอจะได้ใช้ชีวิตคู่ด้วยกัน
มันเหมือนกับฝันที่พี่เคยทำหลุดหายไปแล้วกลับมาเป็นจริง…”
ตะวันหันมาหันมายิ้มให้กับหญิงสาวหนึ่งเดียวในดวงใจ
ผู้ที่เป็นรักแรกและรักสุดท้ายของเขา…เพราะจากนี้ทุกลมหายใจของเขา
คือ…เธอ!
“เหนื่อยนะคะ…กว่าเราจะมายืนตรงจุดนี้ได้ ตามรู้สึกว่ามันเหนื่อย
เหนื่อยเหลือเกิน…”ตามตะวันกล่าวในขณะท่ีน้ำตารื้นจนเกือบจะล้นขอบตา…
ครั้งนี้…มันไม่ใช่น้ำตาแห่งความเสียใจอย่างที่ผ่านๆมา…
เธอรู้ว่าที่ผ่านมา เธอจมอยู่กับกองน้ำตา จมอยู่กับความเจ็บปวด
เสียใจจนท่วมใจ แต่เธอก็ไม่เคยผลักหนีความเจ็บปวดเหล่่านั้น
และยังคงอยู่ตรงนั้น…เพราะเพียงสิ่งเดียว…เพียงสิ่งเดียว
ที่ทำให้เธอยอมทนอยู่ตรงนั้น คอยเหนี่ยวรั้งไม่ให้ไปไหน…
เพราะความรักความผูกพันที่เธอมีต่อผู้ชายคนนี้ คนที่กำลังกุมมือเธออยู่
คนที่ได้กลายมาเป็นสามีเธออย่างถูกต้องแล้ว…
ผู้ชายที่สาวๆมากมายเฝ้าฝัน คนที่ไม่มีใครคิดว่าจะเอาเขาอยู่
และเธอไม่เคยคิดว่าจะเอาเขาอยู่ แต่รู้ว่าที่เขายอมหยุดที่เธอ
ก็ด้วยเหตุผลเดียวกันกับเธอ…เธอมั่นใจ…
เขาคือรักแรกและรักครั้งสุดท้ายของเธอ!
“พี่ขอโทษอีกครั้งสำหรับทุกเรื่องราวท่ีผ่านมา…”
ตะวันกระชับมือบางที่เขากุมอยู่แน่นขึ้น…แววตาสำนึกผิดอย่างจริงใจ
ทำให้หัวใจที่แห้งผากของตามตะวันที่ตกผลึกแล้วถึงกับชุ่มชื่น
“พี่ไม่เคยคิดว่าจะมีผู้หญิงคนไหนที่ทั้งอดทั้งทนและร้องไห้เพราะพี่ได้มากเท่าเธออีกแล้ว…
และยิ่งได้พบว่าสุดท้ายพี่ก็เหลือเพียงเธอที่ยังรอพี่…
ยังคงรักพี่ตั้งแต่วินาทีแรกที่ได้เจอกันจวบจนวันนี้…
มันนาน…นานจริงๆ…นานจนไม่คิดว่าเราจะมีวันนี้ด้วยกันจริงๆ”
ตะวันหันมายิ้มให้หญิงสาวตรงหน้าด้วยแววตาที่มีน้ำตาเอ่อออกมา
ด้วยแรงสะท้านสะเทือนในหัวใจ…
ขอบตาแดงๆของเขาทำเอาหญิงสาวที่น้ำตากำลังปริ่ม
จะล้นออกมาก็ถึงกับร่วงพรูออกมาทั้งรอยยิ้มเมื่อเขากล่าวว่า
“การเดินทางของพี่หยุดลงตรงนี้…ตรงที่มีเธออยู่เคียงข้าง…
พี่คงไม่ไปไหนอีกแล้ว…พอแล้วสำหรับชีวิตที่ไร้แก่นสารกับหัวใจเร่ร่อน…”
พูดจบหนุ่มใหญ่ก็ดึงร่างบางที่ชุดสีขาวบริสุทธิ์เข้าสู่อ้อมกอดที่เขาพร้อมจะปกป้องเธอ
ดูแลเธอด้วยชีวิตที่เขามี
“พี่เพลิงคือที่หนึ่งในใจตามเสมอ…”
เสียงนั้นเอ่ยขึ้นจากก้นบึึ้งของหัวใจที่ไม่เคยมีใครได้ครอบครอง
นอกจากเจ้าของอ้อมกอดนี้เท่านั้น…
“เราจะสร้างครอบครัวแสนสุขด้วยกัน…จะมีลูกๆที่น่ารักด้วยกัน
พ่ีจะเป็นพ่อที่ดี…ที่รักของลูกๆ…และพี่จะไม่ให้ตามต้องเหนื่อยอีกแล้ว
ต่อไป…พี่จะให้ตามหยุดทุกอย่างเพื่อที่จะมาเป็นภรรยาและแม่ของลูกๆของเรา…”
ตามตะวันเงยหน้าข้ึนสบตาคมคู่นั้นที่ดูจะแรงกล้า
และท้าทายแสงตะวันในยามนี้เหลือเกิน
“พี่จะไม่ให้ตามต้องเผชิญกับปัญหาภายนอกอย่างที่ผ่านๆมา
ไม่ต้องวุ่นวายกับผู้คนมากมายที่รุมล้อมตาม
แต่พี่จะยกบ้านทั้งหลังให้ตามได้ดูแลบริหารแทนพี่…
ส่วนข้างนอก…พี่จะจัดการให้ตามทุกอย่าง…ทุกอย่าง…”
น้ำเสียงของเขานุ่มน่าฟังแลอ่อนโยนทว่าแฝงไปด้วยความมุ่งมั่น
“พี่ขอแค่เมื่อพี่กลับมาบ้านของเรา พี่จะได้เห็นรอยยิ้มสดใสของตาม
ได้ฟังน้ำเสียงไพเราะจากภรรยาที่แสนดีและอ่อนหวาน
ได้กินกับข้าวฝีมือตามด้วยกันอย่างที่ครั้งหนึ่งตามเคยเป็น…
พี่อยากเห็นผู้หญิงคนนั้นเมื่อสิบกว่าปีก่อนกลับมาอีกครั้ง…”
ตามตะวันยิ้มทั้งน้ำตา เขารู้ดีว่าภาระที่เธอแบกอยู่นั้นมากมาย
และหนักหนาเพียงใด แต่เขา เขาบอกว่าจะรับมันไปแบกเอาไว้เอง
ทั้งๆที่ภาระในมือเขาก็มากเพียงพออยู่แล้ว…
และเขาเหมือนจะรู้ว่าเธอจะปฏิเสธ เขายิ้มให้เธอ ยิ้มที่ดูอบอุ่นหัวใจเหลือเกิน
ยิ้มที่ทำให้เธอต้องหลั่งน้ำตาออกมาเมื่อเขากล่าวราวกับกระซิบ
ด้วยน้ำเสียงทุ้มกังวานน่าฟังเหลือเกินว่า
“วางมันลง วางมันให้พี่นะครับ…”มือหนายกขึ้นเพื่อจะซับน้ำตา
บนดวงหน้าสวยนั้นอย่างเบามือ ทะนุถนอม
ทำให้หญิงสาวตรงหน้ายิ้มสดใสให้เขาพร้อมกับพยักหน้ารับ
“ค่ะ…ตามเชื่อ…ตามมั่นใจในตัวพี่เพลิง…”
ตามตะวันวางมือทั้งสองลงบนฝ่ามือของเขาทั้งสองของเขาที่แบ
รอขอความไว้วางใจจากอยู่แล้ว…
เมื่อเขาพร้อม เธอก็พร้อม…เธอมั่นใจผู้ชายตรงหน้าของเธอ
“พี่ก็มั่นใจในตัวเธอ…”ตะวันยิ้มกระจ่างพร้อมกับรวบร่างนั้น
เข้าสู่อ้อมกอดอีกครั้ง…ก่อนจะหันไปรอบๆกาย
ณ ศาลาแห่งนี้มีเพียงเขาและเธอก็จริง
หากเมื่อห่างออกไปในส่วนของงานเลี้ยงนั้น…
เขาจะพบว่าทุกคนต่างมาร่วมงานของเขากับตามตะวันด้วยชุดสีขาวบริสุทธิ์…
เสียงครื้นเครงเฮฮาดังมาตลอดไม่ขาดสาย โดยเฉพาะเสียงหัวเราะของเด็กๆ
ตะวันอดมองไปทั่วทั้งบริเวณเกาะรังรักไม่ได้…
ไม่แปลกใจเลยว่า ทำไมเกาะแห่งนี้ถึงมีชื่อปัจจุบันว่า ‘เกาะรังรัก’
เพราะที่นี่มีกลิ่นอายของความรักอันบริสุทธิ์กรุ่นไปทั่วทั้งบรรยากาศนั่นเอง…
โดยเฉพาะเจ้าของเกาะที่ชื่อ ‘รัง’ กับ ‘รัก’
รักของทั้งสองที่หยั่งรากลึก ความผูกพันธ์
ที่ร้อยขึ้นของทั้งสองดูจะยิ่งกว่าคำว่ารัก เขารู้ว่ามัน ‘มากกว่ารัก’
เกาะแห่งนี้ช่างเป็นเกาะที่เหมาะจะสร้างรักสร้างรังอย่างแท้จริง…
“ในที่สุดตามก็ตามหาเกาะท่ีตามเคยพูดกับพี่เพลิงเจอสักที…
เกาะที่ซ่อนตัวอยู่…นี่แหล่ะค่ะ…เกาะที่ว่า…
และตามก็ดีใจที่มันคือสถานที่ที่ทำให้เราได้กลับมาจับมือด้วยกันอีกครั้ง…”
ตามตะวันยืนอิงพิงอิงแอบกับแผ่นอกกว้างของคนตัวใหญ่
ในขณะที่ตะวันโอบแขนรอบเอวบางหันหน้าไปยังงานเลี้ยง…
อยู่อย่างนั้นเนิ่นนานนัก
ก่อนที่หญิงสาวจะหันมามองหน้าเจ้าบ่าว
แล้วจูงมือเขาเดินไปยังทิศทางหนึ่งซึ่งนำไปสู่ต้นไม้ใหญ่…
‘ต้นศรีตรัง’ ที่มีดอกศรีม่วงอมชมพูร่วงเต็มพื้น…
ตะวันขมวดคิ้วเมื่อเห็นเสาต้นเล็ก
แล้วหัวใจของเขาก็ต้องกระตุกราวกับถูกกระชาก
เมื่อเห็นชื่อที่ถูกสลักอยู่บนเสาต้นนั้น ‘จันทร์เจ้าขา’
ตามตะวันคุกเข่าลงนั่งตรงหลุมศพที่มีขนาดความยาวสามฟุต
หลุมศพที่เต็มไปด้วยดอกศรีตรัง…มือบางของหญิงสาวที่เขารัก
วางลงบนหลุมศพนั้นอย่างอ่อนโยนนุ่มนวล…
“ตามไม่เคยยอมให้ศพจันทร์เจ้าขาเน่าเปื่อย ตามดองร่างลูกเอาไว้
เป็นเวลาสิบกว่าปีเพื่อช่วยเตือนถึงความผิดพลาดของตามในอดีต…
ที่ไม่อาจดูแลปกป้องเขาได้…และเพื่อที่จะกระตุ้นเตือนความแค้นที่มีต่อพี่เพลิง…
ยอมทำผิดหลักศาสนา…ไม่ยอมให้อภัย ไม่ยอมปล่อยวาง…ตามมันเป็นคนบาป…”
เสียงของหญิงสาวที่เขารักดูจะสั่น จนตะวันถึงกับทรุดเข่าลง
ตรงข้างๆเธอโอบเธอเอาไว้…น้ำตาของเขาเริ่มปริ่มออกมาจากอกที่สั่นสะท้าน…
เขาไม่เคยคาดคิดเลย…ไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อน…
“พี่ไม่บาปยิ่งกว่าเหรอ…ในเมื่อพี่คือสาเหตุของความผิดพลาดทั้งหมด…”
ตะวันเอ่ยด้วยน้ำเสียงขาดเป็นห้วงๆ…มองหลุมศพของลูกสาวนิ่งด้วยหัวใจที่ถูกสัั่นคลอน…
แล้วน้ำตาของลูกผู้ชายก็ไหลลงมาเป็นทาง…
“พี่ไม่เคยได้ปกป้องเขา ซ้ำยังทำลายเขากับมือ…”ตามตะวันส่ายหน้า
หันมามองคนที่กำลังโอบกอดเธอ
“อย่าโทษตัวเองเลยค่ะ…พี่เพลิงทำไปโดยไม่รู้…”
ตะวันก้มลงมองหญิงสาวในอ้อมกอด ก็พบกับแววตาจริงใจไร้แววตัดพ้อต่อว่า
“จันทร์เจ้าขาจากเราไปนานแล้วค่ะ…ลูกได้ไปอยู่ในที่ที่ดีกว่าที่นี่มาตั้งนานแล้ว…
ที่นี่ โลกนี้ไม่เหมาะกับเขา…เขาถึงต้องไป…
ไม่มีใครตั้งใจให้มันเป็นแบบนี้ค่ะพี่เพลิง…”ตามตะวันเริ่่มปลอบเขา
ในขณะที่ตัวเธอเองนั้นทำใจในเรื่องได้นานแล้ว…
เพราะทำใจได้แล้ว เธอถึงนำร่างของลูกสาวที่ดองมานานมาฝังไว้ ณ ที่ตรงนี้…
“ตามนำร่างของลูกมาฝัง เขามาจากดินก็ต้องกลับสู่ดิน…
ตามไม่คิดจะฝืนอีกต่อไปแล้ว…”พูดพลางก็ลูบไล้ไปตามดินบนหลุมศพ
“ครั้งแรกที่ตามได้มีโอกาสมาเยือนที่นี่ ตามก็รู้ได้ทันทีว่านี่แหล่ะ
คือเกาะที่ตามตามหามานานแล้ว…เมื่อเจอ ตามจึงแน่ใจว่าตามจะฝังร่างของลูกไว้ที่นี่…
จึงขออนุญาตเจ้าของเกาะให้ต้นศรีตรังต้นนี้เป็นสุสานของลูกเรา…อย่างที่ตามตั้งใจไว้…”
หญิงสาวอธิบายด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน แววตากระจ่างขึ้นหลังจากผ่านการร้องไห้
“การสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่นี้…ตามทำใจได้แล้วค่ะ…
และเชื่อว่า…พระเจ้าจะชดเชยให้เรามากกว่านี้…ดีกว่านี้…”
ตะวันเงยหน้าเพื่อให้น้ำตาได้ย้อนกลับไปก่อนจะกอดร่างบางไว้แน่น
พร้อมกับกล่าวราวกับกระซิบ หากหนักแน่นว่า
“เราจะมีลูกด้วยกันอีกนะตาม…ถ้าพระเจ้ามอบลูกให้เราอีกครั้ง…
พี่สัญญาว่าพี่จะรักเขา ดูแลปกป้องเขาให้ดีที่สุดเท่าที่พี่จะทำได้…”
ตามตะวันหันมายิ้มให้กับตะวัน ยิ้มที่เปีี่ยมไปด้วยความเชื่อมั่น...ไว้วางใจ…
“ตามได้วางมือทั้งสองของตามลงบนอุ้งมือของพี่เพลิงแล้ว…
ต่อไป…ไม่ว่าจะทุกข์จะสุข จะฝันดีหรือฝันร้าย เราจะแชร์กันนะคะ…”
ถ้อยคำที่กินความนัยมากมาย ทำให้ตะวันอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา
เขารู้ว่าเธอได้ให้อภัยเขาหมดแล้ว…แล้วทำไมเขาจะให้อภัยตัวเขาเองมิได้…
“เราจะแชร์กัน…”นั่นคือหนึ่งในคำมั่นสัญญาจากปากของลูกผู้ชาย
ที่พร้อมแล้วที่จะใช้ชีวิตทั้งชีวิตเพื่อทำในสิ่งที่ถูกต้อง สิ่งที่ดีงาม…
“พร้อมจะเป็นแม่ของลูกพ่ีอีกครั้งแล้วรึยัง…”
คำถามนั้นทำเอาหน้าซีดๆของหญิงสาวถึงกับแดงระเรื่อขึ้นมา
ยิ่งสบตาที่แฝงความนัยเอาไว้อย่างหมายมั่นนั้น
ก็ยิ่งทำเอาหัวใจของหญิงสาวหวั่นไหววูบวาบ…
“ว่าไงครับ…พร้อมมั้ย…”ดูเขาจะไม่ยอมลดละเลยจริงๆ
แกล้งอยู่ได้ ทั้งๆที่รู้อยู่ว่าเธออาย ก็เธอยังเป็นผู้หญิงนะ…
ความอายมันก็ต้องมีบ้างซิ…เขามันผู้ชาย เลยพูดได้ไม่อายปาก…
“ถ้าไม่พร้อม จะยอมแต่งงานให้เสียงานเสียการ
เสียเวลาทำมาหากินหรือคะ…พี่เพลิงนี่ถามแปลกจริง…
ไม่เอาแล้ว ตามจะกลับไปในงานแล้ว…”
หญิงสาวพยายามกลบเกลื่อนความอายด้วยการรีบๆพูดแล้วรีบๆลุกขึ้นเพื่อเลี่ยง
ทว่ามือหนาไวกว่าคว้าเอวบางไว้แล้วโอบเอาไว้ก่อนจะก้มลง
หอมแก้มนั้นฟอดใหญ่…
“ชื่นใจจริงๆ…”
“ก็พี่น่ะอิจฉาพวกน้องๆในงานจะแย่…พวกนั้นมันจงใจพาลูกๆมายั่วพี่ ตามไม่รู้เหรอ…
ไอ้ลมพามาสองพ่วงในท้องปองขวัญอีกหนึ่ง
ส่วนเจ้าดินก็สองคนหญิงหนึ่งชายหนึ่ง…แล้วไหนจะเหยี่ยวอีก
รายนั้นก็สามคนเข้าไปแล้ว…ส่วนน้ำก็สองคน…หญิงคู่ชูชื่น…
แล้วพี่ล่ะตาม…พี่เป็นพี่คนโตของบ้านแท้ๆ กลับไม่มีปัญญา…”
ตะวันกลับมาเป็นคนขี้เล่นอีกครั้ง
“อ้าว…ก็เขามีลูก ไปไหนมาไหนเขาก็ต้องพาไปด้วยสิคะ…
คงไม่ได้ตั้งใจจะมาอวดหรือยั่วใครแถวๆนี้หรอก
พี่เพลิงไม่มีปัญญาเองนี่…จะไปโทษคนอื่นได้ไง…”
คนโดนปรามาสถึงกับขึงตาใส่เจ้าของคำพูดบาดจิตบาดใจนั่น
“พี่ยอมรับว่าไม่มีปัญญา แต่น้ำยาพี่มี…เดี๋ยวคืนนี้ก็รู้…แม่ขนมจีนของพี่…”
ถ้อยคำแฝงความนัยนั่นทำเอาตามตะวันหน้าแดงอีกรอบ
ร้อนผ่าวไปหมดทั้งหน้า…ก่อนจะรีบกลบเกลื่อนความเขินอายไปอย่างข้างๆคูๆว่า
“คืนนี้เห็นทีขนมจีนของพี่เพลิงจะไม่พร้อมนะคะ…
ติดไฟแดงอยู่ที่สี่แยกโน่นแน่ะ…นานเป็นสัปดาห์เลยนะจะบอกให้”
ตะวันถึงกับสะดุ้ง ก่อนจะส่ายหน้าด้วยแววตาไม่ไว้วางใจ
“จริงไม่จริง ของมันพิสูจน์กันได้นี่…อย่าให้รู้ว่าโกหกพี่ก็แล้วกัน
ไม่งั้น…หนาวแน่…”
ตามตะวันหัวเราะคิกๆ หากในใจนั้นอดหวั่นไม่ได้
เพราะรู้ดีว่า ตัวเองไม่ได้ติดไฟแดงอย่างที่บอกไปน่ะสิ…
แต่ช่างเถอะ…เอาไว้ค่อยแก้ไขสถานการณ์ก็แล้วกัน
มาถึงตอนนี้แล้ว…จะกลัวไปใย…
แกล้งเขาไปเท่านั้นเอง จริงๆแล้วอดสงสารเขาไม่ได้อยู่ดี
เพราะเห็นๆว่าที่ผ่านมาหลังจากเกิดเหตุการณ์ครั้งนั้น
เขาก็เป็นเด็กดี ไม่ไปซุกซนกับใครที่ไหนอีก…
แถมยังอดยังทนไม่ซุกซนกับเธอ นับว่าเป็นตะวันดวงใหม่
ที่ให้ความอบอุ่นใจกับเธอ แล้วเธอจะปฏิเสธหรือเล่นตัวกับเขาไปเพื่ออะไรอีก
…งานนี้เธอเต็มใจเพราะรักเขาโดยแท้
จะให้มีลูกหัวปีท้ายปีเธอก็ยอมล่ะ ถ้านั่นคือสิ่งที่เขาปรารถนา…
ว่าแต่เขานั่นแหล่ะ จะมีน้ำยาอย่างที่โม้ไว้หรือเปล่า…
1ปีผ่านไป
ตะวันสามารถพิสูจน์ให้ภรรยาผู้ท้าชิงได้รู้ซึ้งถึงคำว่า ‘น้ำยา’
ของลูกผู้ชายพันธุ์แท้อย่างเขาไปอย่างเป็นทางการแล้ว…
เมื่อลูกสาวตัวน้อยๆ ผิวแดงๆลืมตาดูโลกด้วยน้ำหนักเกือบสี่กิโลกรัม…
และดูเหมือนเธอจะพิสูจน์ให้เขาได้เห็นเช่นกันว่า
เธอก็มี ‘ปัญญา’ คลอดลูกโดยธรรมชาติได้อย่างภาคภูมิ
ในขณะที่มีคนทักว่า อายุเกือบจะเฉียดสี่สิบอีกไม่กี่ปีจะเบ่งไหวหรือ
“เป็นไงล่ะ…ทำมาว่าตามไม่มีแรงเบ่ง…”
น้ำเสียงภาคภูมินั้นทำเอาคุณพ่อมือใหม่ถึงกับหัวเราะลั่นห้องคลอด
โชคดีที่หมอยอมให้เขาเข้ามาเป็นกำลังใจให้ภรรยาได้…
เพราะดูภรรยาของเขาจะเรียกหาแต่เขาเสียเหลือเกิน
เรียก 'พี่เพลิง พี่เพลิง' ไม่ขาดปาก
จนหมอทนไม่ไหว ต้องไปเรียกเขาเข้ามาช่วยส่งแรงเชียร์…
ทั้งๆที่คนอย่างเขา แม้จะอกสามศอก แต่กับเลือดและกลิ่นของมัน
ชวนให้ขนหัวตั้งแล้วพาลจะเป็นลมไปไม่รู้กี่รอบ…
แต่ก็อั้นเอาไว้ เพื่อเมียและลูก…
แต่ดูแม่คุณจะไม่สำนึกบุญคุณข้อนี้ของเขาเลยสักนิด…
โกยความดีความชอบเขาหาตัวคนเดียวเรียบ!
“เก่งขนาดนี้…แรงเยอะขนาดนี้…งั้นรอบหน้าเอาอีกนะ…”
“หา!”
“ไหนว่าหัวปีท้ายปีก็ไหวไง…”
ตะวันกระซิบข้างๆหูภรรยาด้วยแววตาเจ้าเล่ห์แสนกล
“คราวหลังถ้าไม่แน่จริงอย่าท้าพี่…เพราะพี่น่ะมีน้ำยาพอ
แต่เธอสิ มีปัญหาเบ่งรึเปล่า…”
“ไอ้พี่เพลิงบ้า มาว่าเค้า…”
ตามตะวันฟาดมือลงบนอกของคนที่กำลังหัวเราะเยาะเธออยู่…
ทำเอาพยาบาลที่เดินเข้ามาหาพร้อมลูกน้อยของทั้งสองถึงกับอมยิ้ม…
“แกล้งอะไรภรรยาหรือคะ หน้าแดงเชียว…”
พยาบาลสูงวัยอดไม่ได้ที่จะเย้าแหย่คนไข้ตรงหน้า
“เปล่าครับ แค่ชมว่าเก่ง…เธอเลยรับปากผมว่า ปีหน้าจะมาให้หมอ
ช่วยทำคลอดให้อีกครับ…ผมก็เลยบอกว่า ถ้าเบ่งไม่ไหว ผมจะเข้ามา
ช่วยเบ่งให้อีก…เธอก็เลยหน้าแดงครับ…”
ตามตะวันกดฟันตัวเอง เม้มปากเพื่อไม่ให้กรี๊ดออกมา
…เขาช่างกล้าหน้าด้านจริงๆ…
ไปพูดกับพยาบาลอย่างนั้นเธอก็อายเป็นนะ…
แล้วเห็นมั้ย พยาบาลหันมายิ้มให้เธอ ยิ้มหยอกๆด้วย…
โอ๊ย…อยากจะมุดผ้าหนีหน้าชาวประชา
ทว่า เดี๋ยวนะ นั่นลูกสาวตัวน้อยๆของเธอใช่มั้ย…
“โอ…ลูกแม่…มาให้แม่อุ้มหน่อยสิคะคนดี…”
ตามตะวันหันไปทางพยาบาลยื่นมือไปเพื่อรับลูก
“เดี๋ยวจะสอนวิธีให้นมลูกนะคะ…”
ว่าแล้วพยาบาลก็สอนวิธีให้เจ้าตัวน้อยดื่มนมจากอกแม่…
แรกๆตามตะวันขัดเขินคุณพยาบาล
และไหนจะสายตาอยากรู้อยากเห็นของคุณสามีที่จ้องมาไม่วางตาอีก
“น้องฉลาดมากเลยค่ะ…ดูซิ ช่างรอบรู้…”
พยาบาลเอ่ยชมที่เด็กน้อยดูจะรู้วิธีทำมาหากินตั้งแต่เด็กๆ…
ดูดนมคุณแม่เสียงดังเชียว ทำเอาคุณแม่แก้มแดง…ส่วนคุณพ่อก็ไม่แพ้กัน…
“นมแม่เป็นนมที่ดีที่สุดสำหรับลูกนะคะ…”พยาบาลเอ่ยด้วยสีหน้าอ่อนโยน…
“ค่ะ…ตามจะเลี้ยงเขาด้วยนมของตามเอง…”หญิงสาวเอ่ยออกมาจากใจ…
แม้แรกๆจะรู้สึกแปลกๆ และยิ่งพบความรู้สึกใหม่ๆเข้ามาอีก
เมื่อลูกเริ่มดูดนมเธอ ลูกต้องการเธอ…
ตามตะวันจึงหันไปหาคู่ชีวิตของเธอ…จากที่เอียงอายเมื่อครู่เปล่ียนเป็นความประทับใจ…
เหมือนมีเยื่อใยบางๆร้อยรัดเธอและลูกรวมทั้งเขาเอาไว้ด้วยกัน…
ตะวันก็เช่นกัน ภาพตรงหน้า ภาพผู้หญิงที่เขารักกำลังให้นมลูกของเขา
มันช่างเป็นภาพที่สวยงามที่สุดในชีวิตของเขา…
“พี่อยากจะขอบคุณเธออีกสักพันครั้ง…ขอบคุณที่รักพี่
ขอบคุณที่อยู่กับพี่ ไม่ทิ้งพี่ไปไหน ขอบคุณที่เติมฝันให้เต็มหัวใจพี่
ขอบคุณที่เธอมั่นใจในตัวพี่ ขอบคุณท่ีมอบใจของเธอให้พี่
ขอบคุณที่มอบลูกน่ารักๆให้พี่…”
ตามตะวันยกนิ้วขึ้นแตะริมฝีปากเขาแล้วยิ้มทั้งน้ำตาคลอเบ้า…
“พี่ขอบคุณจริงๆนะตาม…”ตามตะวันพยักหน้า เช็ดน้ำตาให้เขา
เขาดีใจขนาดร้องไห้เลยหรือนี่
…โถ…พี่เพลิงของตาม…
ตะวันเองก็ยกมือขึ้นซับน้ำตาให้อีกคนด้วยเช่นกัน…
พยาบาลสูงวัยที่กำลังเตรียมจะออกไปนอกห้อง
เพื่อแจ้งข่าวดีกับผู้ที่ดูเหมือนจะรออยู่เต็มหน้าห้อง
ถึงกับยิ้มด้วยความประทับใจให้กับภาพนั้น…
“ตอนนี้…มันไม่มีคำใดเลยจะอธิบายใจพี่…พี่พูดได้แค่ขอบคุณที่รักกัน
ต่อไปนี้และทุกๆวัน พี่จะรักตามคนเดียว…จะรักให้สมกับที่ตามมอบใจให้พี่…
พี่รักตามนะ…”ตามตะวันดึงเขาเข้ามาโอบกอด
ในขณะที่ลูกน้อยกำลังหลับสนิทบนตักของเธอ
ก่อนจะก้มลงจุมพิตที่กระหม่อมของเขาด้วยความรัก
เหนือคำบรรยายใดๆ
“ว้าวววววววว…ภาพครอบครัวสุขสันต์…”
เสียงของแขกผู้บุกรุกสถานที่ดังขึ้นตรงประตูห้อง
ทำเอาหัวหน้า ‘ครอบครัวสุขสันต์’หันมามองเจ้าของเสียง
“ผมเข้ามาขัดจังหวะรึเปล่าเนี่ย…”
“พ่อลมรีบเข้าไปสิคะ น้องปิ่นกับพี่ปานจะได้เข้าไปด้วย…”
เสียงแจ้วๆนั้นดังมาจากนอกห้อง ทำเอาตะวันถึงกับยิ้มให้กับเสียงใสๆ
ของลูกสาวฝาแฝดของนายลม…
“ก็พ่อกำลังขออนุญาตเจ้าของห้องเขาอยู่น่ะลูก
ไม่รู้เขาจะให้เราเข้าไปขัดความสุขรึเปล่าน่ะสิ…”
วายุหันไปทำเสียงอ้อนเสียงอ่อนกับลูกสาวขณะใช้ร่างยักษ์ยืนขวางประตูเอาไว้
เสียงขัดอกขัดใจของลูกสาวดังตามมาเป็นระยะๆ
เพราะลุ้นจนตัวโก่งอยากเห็นหน้าน้องสาวในห้องของลุงเพลิง…
“ท่าเยอะไม่เปลี่ยนนะไอ้ลม…ปล่อยให้หลานสาวฉันเข้ามาสักที
ดูสิไปแกล้งลูก…”
ตะวันแสร้งต่อว่าน้องชายก่อนจะปล่อยเสียงหัวเราะออกมา
เมื่อเห็นหลานสาวยื่นเฉพาะส่วนหัวโผล่แทรกแง้มเบียดช่องระหว่างขอบประตู
ที่พ่อตัวดีขวางไว้เต็มตัวเพื่อหวังจะได้เห็นหน้าน้องสาวในห้อง…
“จะแกล้งลูกสักหน่อย พี่ก็มาขัด…เอ้าๆ เข้าไปๆ…”
วายุทำเสียงขัดอกขัดใจ และเมื่อเปิดทางให้แล้ว
ลูกๆทั้งสองของเขาก็วิ่งจู๋เข้าไปในห้อง
พร้อมด้วยอีกสองสาวลูกของพี่น้ำของเขา
ตามด้วยลูกของนายดินและลูกของอากิโกะ
เมื่อสิ้นสุดการต้อนขบวนพาเหรดของเด็กๆที่ขนกันไปยึดเตียงคนไข้เรียบร้อยแล้ว…
คราวนี้ก็ถึงตาขบวนพาเหรดของผู้ใหญ่บ้างล่ะ…
เพราะนอกจากจะส่งลูกนำขบวนเข้าไปแล้ว
แน่นอนพ่อแม่มันก็มาด้วย!…
โดยมีเขา วายุ อาทิตยะ ถือคฑาไม้หนึ่งเดินนำขบวน
แต่ยังไม่ทันไรคฑาไม้หนึ่งอย่างเขาก็โดนเมียสุดที่รักอุ้มลูกชายอายุขวบเศษ
ปาดหน้าไปอย่างหวุดหวิด…
“ทำอะไรน่ะปอง…เห็นๆอยู่ว่าพี่เดินนำขบวนมา…”
“ก็ชักช้าท่าเยอะเอง ไม่ทันใจเลย…ปองอยากเห็นหน้าหลานจะแย่แล้ว”
ก็นั่นมันหลานสาวแท้ๆ ลูกพี่สาวของเธอเหมือนกันนี่นา…
ใช่ว่าจะเป็นลูกสาวของพี่ชายเขาคนเดียวเสียเมื่อไหร่…
“ว่าไงหลานน้า…”ปองขวัญรีบเดินแกมวิ่งเข้าไปทักก่อนใคร
หลังจากที่ยืนรออยู่หลังสามีร่างยักษ์ที่ยืนขวางประตูอยู่ตั้งนาน
“น้องตัวแด๊งแดงจังเลยค่ะแม่ปอง…”
เสียงใสของลูกสาวพูดเจื้อยแจ้ว…แล้วก็ตามมาด้วยเสียงนกแก้วนกขุนทอง
นกกระจิบนกกระจอก นกขมิ้น นกสาลิกาดง นกนางแอ่น
นกกาเหว่าและนกโพระดก ที่ต่างก็พร้อมใจกันส่งเสียงลั่นห้องคนไข้อีกระลอกใหญ่…
ทำเอาขบวนพาเหรดของผู้ใหญ่ที่เพิ่งสิ้นขบวนลงถึงกับส่ายหัวไปมา…
จะว่ารำคาญก็ไม่เชิง เพราะต่างก็ชินเสียแล้ว…
ใจนั้นอยากจะเดินเข้าไปพูดจาทักทายคนไข้อยู่หรอก
แต่คิดแล้วว่าอย่างไรก็คงสู้เสียงเจื้อยแจ้วเจรจาของขบวนพาเหรดของเด็กๆ
ที่เข้าไปยึดสถานที่และปิดกั้นการเข้าถึงจนหมดสิ้นแล้ว
แม้แต่เสียงก็คงไม่อาจผ่านเข้าไปถึง
ขบวนพาเหรดของผู้ใหญ่จึงพร้อมใจกันหุบปากปิดสนิทโดยมิได้นัดหมายกันอยู่นานท่ีเดียว
“เด็กในวันนี้ คือกำนันในวันหน้า…”
พสุธเปรยออกมากับพี่ๆน้องๆด้วยเสียงกลั้วหัวเราะ
“อะไรของแก…ฉันงง…”วายุมองหน้าน้องชายอย่างงงๆ
“ก็รึไม่จริง ดูพลังของเด็กๆตอนนี้สิ มันยิ่งกว่าผู้ใหญ่อีกนะ…หรือพี่ลมว่าไม่จริง…”
“อ๋อ…ฉันเข้าใจแล้ว…แต่ฉันว่ามันยิ่งกว่ากำนันนะ…
เพราะขนาดพ่อตาของแกก็ยังยิ่งใหญ่ไม่พอจะสู้ได้…
ถอยทัพไปยืนสงบอยู่ตรงโน้นแน่ะ…”
วายุพยักพเยิดไปทางกำนันนาคา เจ้าของค่ายมวย ส.พันธกาลแห่งเมืองสุพรรณฯ
ที่ยืนยิ้มรับมุกอยู่ตรงมุมประตูห้อง…เพราะว่าหลานๆรบเร้าให้พามาดูน้องที่โรงพยาบาล
เนื่องจากพสุธกับภรรยาสุดที่รักตรงดิ่งมาจากที่ทำงานทันทีโดยไม่ได้แวะที่บ้านก่อน
เดือดร้อนพ่อตาต้องพาลูกๆของพสุธกับพันทิวามาด้วยตัวเอง…
“พอน้องออกจากโรงพยาบาลนะ จีตาร์จะเอาน้องไปเลี้ยงที่ค่ายมวย
จะให้ตาสอนมวยให้ด้วยล่ะ…”
“อ่ะโด่…เช็ดอึก็ยังไม่เป็น จะเอาน้องไปเลี้ยง อย่าเลยจีตาร์…
แล้วน้องน่ะผู้หญิงนะ ไม่ใช่ผู้ชาย…ใครเขาให้ชกมวยกัน…”
“ทำมาว่าเค้า…พี่ต้นล่ะ เช็ดอึน้องเป็นรึเปล่า…แล้วเรื่องมวยน่ะ
ทำไมผู้หญิงจะซ้อมไม่ได้…ตายังสอนจีตาร์ชกมวยได้เลย…”
“เรื่องขี้ๆ พี่น่ะช่วยแม่เลี้ยงน้องลูกแก้วประจำ…ส่วนเรื่องมวยน่ะ
ให้ยัยทอมอย่างเธอซ้อมไปคนเดียวเลย…น้องโอปอลห้ามแตะ”
“เชอะ…เค้าก็เคยช่วยแม่แมงมุมเช็ดอึน้องจากัวร์แล้วด้วยล่ะ…
แต่ยังไงเค้าก็จะให้น้องโอปอลไปซ้อมมวยกับเค้า พี่ต้นนั่นแหล่ะห้ามยุ่ง”
“ขี้โม้…ตัวน่ะ…เกลียดขี้จะตาย…วันก่อนเดินไม่ดูทาง
เหยียบขี้ไก่ยังร้องลั่นค่าย…พออย่างนี้…ทำเป็นเก่ง…
สุดท้ายก็ต้องเป็นพี่ที่ต้องไปช่วยเช็ดขี้ไก่ให้ล่ะน้า…
แล้วพี่ก็เอามือที่เช็ดขี้ไก่ให้มาเช็ดน้ำตาให้ด้วย…ฮ่าๆๆๆ”
เสียงเอะอะของสองพี่น้องอย่าง 'ต้นหนาว' ซ่ึ่งเป็นลูกชายของอากิโกะกับฑยาวีย์
ที่ต่อล้อต่อเถึยงกันอยู่กับ 'เพชรชมพูหรือจีตาร์'
ลูกสาวคนโตของพสุธกับพันทิวาทำเอาผู้ใหญ่ถึงกับส่ายหน้าพร้อมรอยยิ้มเอ็นดู
“สงสัยผมว่า ลูกพี่กับลูกผมดูจะได้ขึ้นสังเวียนกันเร็วๆนี้นะพี่เหยี่ยว”
พสุธเอ่ยกับพี่สาวด้วยรอยยิ้มเอ็นดู
“รอบที่แล้วชกหน้าลูกพี่คว่ำไป ยังไม่พอใจรึดิน…”
“ต้นเขาเป็นสุภาพบุรุษหรอก…เลยไม่อยากชกหน้าน้องคืน…”
“น้องก็เลยกระโดดกอดคอตั๋นหน้าซะ!”
อากิโกะพูดพลางเข่นเขี้ยวน้องชายจอมยุ ที่ยุให้เด็กขึ้นสังเวียน…
“ฝึกไว้จะได้คุ้นเคยสังเวียนไงพี่…”
“โดยมีลูกพี่ยืนเป็นกระสอบทรายซิ!…”
“ถือซะว่าฝึกความอดทนและความเป็นสุภาพบุรุษให้ลูกชายพี่ไปด้วยไง”
“เฮ้อ…นี่ใจคอเธออยากให้ลูกสาวลุกขึ้นมาจับทางมวยจริงรึ…”
“ก็ให้ทำไงได้ล่ะพี่…นั่นน่ะหลานตาเขา…ผมห้ามได้ซะที่ไหน
ไอ้ผมนะก็อยากได้ลูกสาวแบบว่าเรียบร้อย อ่อนหวาน พ่อคะพ่อขา
แต่ตายายเขายอมให้ซะที่ไหน…ว่าแล้วก็เศร้า…
เมียก็โหดอย่างกับอะไรดี…ยิ่งเป็นแม่คนยิ่งโหดยกกำลังสอง…เฮ้อ”
“นินทาเผาขนเลยนะเจ้านายขาาาาาาา…เห็นมีพี่ๆรายล้อม
อย่าคิดว่าจะรอดตัวนะ…”
พันทิวาที่ยืนอยู่ข้างๆบิดาเดินมาหาผู้เป็นสามีแล้วกระซิบข้างๆหู…
ทำเอาคนโดนขู่ถึงกับยิ้มแหย…
“ไม่จ๊ะไม่…แม่แมงมุมอย่าขยุ้มหัวใจเขานะ…”
“ไม่หรอกจ๊ะ เค้าจะขย้ำตัวแล้วชักใยให้คลานไปไหนไม่รอดเลย…
เมื่อวานเห็นนะว่าแอบไปป้อสาวหน้าโรงอาหารที่ค่ายมา…”
“อะไร…ใส่ความ…เค้าแค่ไปหาข้าวกินแถวนั้นเฉยๆ”
“อย่า…อย่า…เห็นตำตา…ว่าไปช่วยเขาเก็บจานด้วย…”
“ก็เขาชวนกินขนมหวานต่อ…ไอ้เราก็สุภาพบุรุษไม่อยากปฏิเสธ
ให้ผู้หญิงเขาเสียความรู้สึก…เลยกินซะหน่อย
กินแล้วก็ช่วยเขาเป็นการตอบแทนน้ำใจ…”
“ดี…งั้นวันหลังก็ไปกินข้าวกินขนมหวาน แล้วก็นอนเฝ้ายามให้เขา
ที่โรงอาหารไปเลยก็แล้วกัน สุภาพบุรุษดีนักนี่…”
เจอไม้เด็ด ไม้ตายแบบนี้เข้า…พสุธหาทางไปไม่ถูกเลย…
เขาน่ะเข็ดเสียตั้งนานแล้วไอ้เรื่องนอกใจเมียจนเกือบเสียเมียน่ะ
ตั้งแต่นั้นมาก็ไม่เคยเลยสักครั้งจะไปยุ่งกับหญิงอื่นให้เมียช้ำใจ
แต่จะให้ทำไงได้…เขามันหน้าตาดีจนสาวๆอยากส่งมอบน้ำใจให้…เขาก็แค่รับมา…
ไม่อยากปฏิเสธน้ำใจพวกเธอที่อุตส่าห์หอบหิ้วข้าวของเต็มไม้เต็มมือมาให้อย่างนั้น…
ก็แค่ไม่อยากทำให้ผู้หญิงเสียใจ…แต่ไม่มีอะไรเกินเลยจริงๆนะจ๊ะเมียจ๋า…
“เพื่อความสบายใจของเธอ
เดี๋ยวฉันจะไปผ่าตัดหน้าตาให้หล่อน้อยกว่านี้ก็แล้วกัน…”
คนฟังหมั่นไส้คนหลงตัวเองเสียไม่รู้จะหมั่นไส้อย่างไรแล้ว…
“ไม่ต้องลงทุนขนาดนั้นหรอก…ก็แค่จะไม่ไปยื่นหน้าหล่อๆ
ให้สาวๆเขาหวั่นไหวก็พอแล้ว…กลัวว่าจะทำไม่ได้มากกว่า”
พันทิวาเสนอแนวทาง ทำเอาคนฟังถึงกับขนลุก
และยิ่งขนตั้งเมื่อได้ยินข้อเสนอแนะต่อมา
“อ้อ…ยังมีอีกวิธีนึง…ก็แค่จะไปยืนเป็นกระสอบทรายให้ลูกเราซ้อมมวย
บนสังเวียนทุกเย็น รับรอง ไม่ต้องไปผ่าตัดศัลยกรรม
ก็หมดหล่อไปได้เยอะอยู่…แถมได้ประโยชน์ ไม่เสียตังค์ด้วย…
จะได้ช่วยน้องต้นฝึกความเป็นสุภาพบุุรุษด้วยไงล่ะ…”
เหมือนเวรกรรมจะติดจรวดรวดเร็วปานสายฟ้าฟาด…
และดูเหมือนจะมีคนเห็นด้วย เมื่อได้ยินเสียงหัวเราะจากผู้เป็นพี่สาว
“พี่ว่าเป็นความคิดที่ดีมากๆเลยนะแมงมุม”อากิโกะพูดเสร็จก็หันมา
กระซิบกระซาบกับน้องชายตัวดี…
“เพิ่งรู้เดี๋ยวนี้เองว่า กรรมติดจรวดมันเป็นยังไง…
พี่ไม่ได้ยุนะ…ไม่ได้ยุเลย…”
....โปรดติดตามตอนต่อไป....
เอาคู่พี่เพลิงมาให้กันค่ะ...
แถมยังเอาเรื่องราวของพี่น้องบ้านอาทิตยะมาอัพเดตด้วย
ยกหน้ายังเหลือคู่ไหนอีกน้าาาาาาาาาา...
ใกล้แล้ว ใกล้แล้ว...ใกล้ถึงยอดตาลแล้ว...อิอิอิ...
ขอโทษด้วยนะคะที่กว่าจะนำเรื่องนี้มาอัพเดตให้ก็นานหลายวันเลย...
เกิดมาจากคนเขียนยังไม่ค่อยอยากให้เรื่องมันจบขึ้นมา...
อยากเขียนต่ออีกนิดและอีกนิด...เพราะผูกพันธ์กับตัวละครเรื่องนี้จริงๆ
เขียนมานานมาก นานหลายปีจริงๆค่ะ ตั้งแต่เรื่อง "รังรัก" "หัวใจไร้ที่อยู่"
จนเรื่องนี้ก็เกือบ 8 ปีแล้ว เพราะพอหมดจากเรื่องนี้...
ตัวละครเหล่านี้ก็จะปิดตัวลง เหลือเพียง "ขุนพล" กับ "ดุจมณี" และ "จอมพล"
เท่านั้น ที่จะนำไปเขียนในเรื่องอีกเรื่องนึง...ประกบกับนางเอกหน้าใหม่...
อยากขอบคุณสำหรับน้ำใจและกำลังใจจากนักอ่านทุกท่าน
และต้องขออภัยเรื่อง "ของขวัญ" กับ "โปสการ์ด" จากเรื่องอะรูซะตีด้วยจริงๆค่ะ
โยยุ่งจนลืมไปเลย เอาไว้จัดการเรื่องยุ่งๆเสร็จ จะรีบจัดการเลยจ้าาาาา...
...ขอคุยกับนักอ่านจากยกที่แล้วนิดนึงค่ะ...
1.คุณตุ๊งแช่...ความหวานคงไม่มาก เอาความฮาเล็กๆไปแทนนะคะ
ตอนนี้พี่เพลิงได้ลูกสาวแล้วนะคะ...ไม่ไร้น้ำยาอย่่างที่นักอ่านของโยแอบคิดๆกันอยู่...
ฮ่าๆๆ
2.คุณแว่นใส...ขอบคุณค่ะสำหรับกำลังใจและความห่วงใย
โยนำมาอัพให้กันแล้วนะคะ...ไม่ยืดไม่ยาว...แต่นำชีวิตตัวละครมาอัพเดต
เผื่อใครๆจะลืมแบบตกๆหล่นๆไปบ้างแล้ว...คนเขียนอาจจะไม่ลืม
แต่คนอ่านย่อมมีลืมแน่นอน...อิอิ
3.คุณใบบัวน่ารัก...แม่นแล้วค่ะ...คู่สุดท้ายลงจากคานแล้ว
จะเหลืออยู่คนนึงค่ะที่ยังลงไม่ได้ มาดูกันค่ะว่าใครที่ยังหาทางลงไม่ได้กัน...อิอิ
เชื่อว่านักอ่านไม่่น่าจะจำได้แน่ๆ...ว่าคนๆนั้นคือใคร...เฮะๆ
4.คุณkonhin...พี่ลมมีไปแล้ว สามค่ะ แต่เรื่องยังไม่จบ
ยังมีอะไรฮาๆอีกนิดนึงค่ะ ต้องมาลุ้นกันในบทส่งท้ายโน้นค่ะว่าแต่ละคน
จะมีทายาทเท่าไหร่จ้าาาา
5.คุณพัชรี...ขอบคุณค่ะสำหรับกำลังใจและการติดตาม...
เรื่องใหม่มา 2 เรื่อง คนเขียนก็มีงานประจำ คงมาอัพได้แบบเรื่อยๆน่ะค่ะ...
วันหยุดว่างหน่อยก็อาจจะเขียนได้เยอะหน่อย...
สุดท้ายไม่ท้ายสุด
ขอบคุณทุกๆคนที่เข้ามาอ่านมาติดตามกันนะคะ
...รักษาสุขภาพค่ะ...

เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 24 ก.ย. 2557, 16:06:57 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 24 ก.ย. 2557, 16:06:57 น.
จำนวนการเข้าชม : 2307
<< ยกที่ 92 ขอเพียงเรารักกัน | ยกที่ 94 ลูกสาวของพ่อ >> |

แว่นใส 24 ก.ย. 2557, 17:21:07 น.
รออ่านตอนต่อไปอยู่จ้า
รออ่านตอนต่อไปอยู่จ้า


ใบบัวน่ารัก 24 ก.ย. 2557, 19:25:21 น.
สงสารฝ่ายญ ด้วย ต้องอุ้มท้อง คลอดลูก เลี้ยงลูก หมดกัน ให้ลงจากคาน30 + ทั้งนั้น
แก่งอมเลยคุณแม่ๆ
ยังไม่ครบ100 ตอนเลย นายหัวกับยัยนาโนปลาดาวมีลูกเพิ่มยัง
ถ้ายังนายหัวก็ไม่มีน้ำยาน้า
อีกเรื่องที่เอานางเอกเราแต่งงานไปดูแลคนป่วยนะ มาไว้ๆนะ
หนูน้อย8 ขวบจะความทรงจำยอมรับความจริงได้ไหมกลับมาเร็วๆน้า
สงสารนางเอก ศรีทนได้ฮือๆๆ
สงสารฝ่ายญ ด้วย ต้องอุ้มท้อง คลอดลูก เลี้ยงลูก หมดกัน ให้ลงจากคาน30 + ทั้งนั้น
แก่งอมเลยคุณแม่ๆ
ยังไม่ครบ100 ตอนเลย นายหัวกับยัยนาโนปลาดาวมีลูกเพิ่มยัง
ถ้ายังนายหัวก็ไม่มีน้ำยาน้า
อีกเรื่องที่เอานางเอกเราแต่งงานไปดูแลคนป่วยนะ มาไว้ๆนะ
หนูน้อย8 ขวบจะความทรงจำยอมรับความจริงได้ไหมกลับมาเร็วๆน้า
สงสารนางเอก ศรีทนได้ฮือๆๆ

konhin 24 ก.ย. 2557, 21:58:46 น.
หวานนนนนนนนนนนน แบบอบอุ่นครอบครัวสุขสันต์มากก
หวานนนนนนนนนนนน แบบอบอุ่นครอบครัวสุขสันต์มากก

goldensun 25 ก.ย. 2557, 19:36:47 น.
เศร้ามานาน ได้สุขซะที ครอบครัวอบอุ่น แถมอุ่นหนาฝาคั่งดีแท้ ครอบครัวใหญ่มากกกกกก
รักและผูกพันกันดีเชียวค่ะ น่ารัก
เศร้ามานาน ได้สุขซะที ครอบครัวอบอุ่น แถมอุ่นหนาฝาคั่งดีแท้ ครอบครัวใหญ่มากกกกกก
รักและผูกพันกันดีเชียวค่ะ น่ารัก