ฝันรัก รอยอดีต
แต่เพียงวันแรกที่ 'นิมมาน' ได้เหยียบย่างเข้าไปที่บ้านทรงไทย เขาก็ได้บังเอิญช่วยชีวิตหญิงสาวซึ่งกำลังจะจมน้ำในสระบัว หากอะไรก็ไม่น่าประหลาดใจเท่าที่เธอเคยมีชีวิตอยู่เมื่อ ๘๐ ปีที่แล้วต่างหาก!

นี่ไม่ใช่ดวงจิตหรือวิญญาณ แต่เขารู้ดีว่าเจ้าหล่อนมีเลือดเนื้อเช่นเดียวกับตน ซ้ำสตรีผู้นี้ยังขอให้เขาตามหาบิดาที่หายสาบสูญไปตั้งแต่ครั้งเกิดเหตุการณ์กบฏบวรเดช

ทว่าเบาะแสเดียวที่นิมมานมีคือความฝัน และนับวันความจริงอันน่าหวาดหวั่นในอดีตก็ทำให้ชายหนุ่มค้นพบว่า...เขานั่นเองที่อาจเคยผูกพัน ผูกกรรมกับเธอ

น้องแช่งชักหักรักขาดสะบั้น
พี่หลับฝันตั้งจิตคิดแก้ไข
น้องหลบลี้หนีรักจากพี่ไป
ขอตามใจสมัครรักมิคลาดคลา
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: บทที่ ๑



บ้านไม้ครึ่งตึกสองชั้นตั้งอยู่บนสนามหญ้าร่มรื่นไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ มันเป็นบ้านของพระยาพลาธิปพิชัย ก่อนจะส่งต่อสู่บุตรชายคนเดียวของท่าน 'พันโทหลวงชาญยุทธกิจ' หรือประณต พลาธิป ผู้ซึ่งรับราชการสนองเบื้องพระยุคลบาทเช่นเดียวกับบิดา

หน้ามุกระเบียงที่มีเสาต้นเล็กค้ำยันหลังคากันแดดฝน หญิงสาวร่างบอบบางนั่งพับเพียบอยู่กับพื้น ข้างเก้าอี้โยกของผู้เป็นบิดา เธอบีบนวดขาให้ท่านอย่างปะเหลาะเอาใจ จนหลวงชาญยุทธกิจต้องลดหนังสือพิมพ์ในมือลง เผยให้เห็นใบหน้าคมเข้ม หนวดโค้งเหนือริมฝีปากเพิ่มความดุดันบนใบหน้า ตรงข้ามกับแววตาอ่อนโยนยามทอดมองผู้เป็นแก้วตาดวงใจ

"มีอะไร มาปะเหลาะพ่อต้องการสิ่งใดฮึ"

ประณีตซ่อนยิ้มในหน้า ภาพข่าวพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินทรงวางศิลาฤกษ์สร้างปฐมบรมราชานุสรณ์ และโปรดเกล้าฯ พระราชทานนามสะพานว่า 'สะพานพระพุทธยอดฟ้า' ดึงความสนใจไปจากธุระของตนชั่วขณะ

"ลูกแทบรออีกสามปีต่อจากนี้ไม่ไหว ข่าวว่าสะพานนี้จะสร้างแล้วเสร็จก่อนงานฉลองพระนครครบรอบหนึ่งร้อยห้าสิบปีใช่ไหมคะคุณพ่อ"

"ใช่"

"แล้วคำทำนายที่บอกว่าราชวงศ์จักรีจะสิ้นสุดแค่หนึ่งร้อยห้าสิบปีล่ะคะ"

"พูดอะไร!" หลวงชาญยุทธกิจขึงตาดุบุตรสาว "พ่อส่งให้ร่ำเรียน แต่ลูกกลับเชื่อเรื่องนี้รึ"

ผู้เป็นลูกก้มหน้านิ่ง เธอไม่เชื่อ แต่เมื่อได้ยินคนร่ำลือกันก็อดถามท่านไม่ได้

"ลูกไม่เชื่อค่ะ ยิ่งเห็นข้าราชการอย่างคุณพ่อ ลูกยิ่งไม่เชื่อ"

มือหนาลูบลงมาบนเรือนผมสั้นดกดำของบุตรสาว ทว่าดวงตาคมกล้าของชายชาติทหารกลับทอดมองไปไกล กระทั่งเสียงเล็กของลูกเอ่ยขึ้นอีกครั้งหนึ่ง

"คุณพ่อคะ วันนี้วันเกิดอารี ลูกขอไปบ้านเธอนะคะ"

หลวงชาญยุทธกิจปรายตามองบุตรสาว ถึงจะรู้จักและเอ็นดูเพื่อนสนิทของลูกคนนี้ หากก็อดสั่งกำชับไม่ได้

"เอาศรีชุมไปด้วย"

ประณีตยิ้มกว้างออกมาเมื่อรู้ว่านั่นคือคำอนุญาต เธอกราบขอบคุณกับตักของท่านแล้วจึงขยับไปรินน้ำชา เมื่อผู้เป็นพ่อกางหนังสือพิมพ์อ่านอีกครั้ง ร่างบางจึงค่อยขยับถอยออกมา

ศรีชุม...พี่เลี้ยงสาวร่างอวบคอยอยู่ข้างหลังประตูนั่นเอง ทั้งสองยิ้มให้แก่กันอย่างเพื่อนที่รู้ใจ

............................

แสงอาทิตย์แยงตาปลุกคนที่นอนหลับไหลให้รู้สึกตัวตื่น มือหนาควานเปะปะหาโทรศัพท์มือถือบนหัวเตียง เขากดดูเวลาก่อนจะนึกได้ว่ามันเสียไปแล้วตั้งแต่เมื่อวาน

นิมมานลูบหน้าพลางลุกนั่ง เขาลองกดเปิดโทรศัพท์อีกครั้งแล้วจึงรู้ว่าตนไม่ได้ฝันไป มันเสียเพราะเขาลงไปช่วยใครบางคนขึ้นจากน้ำ แล้วเมื่อคืนเขายังฝัน...ฝันถึงผู้หญิงคนนั้นกับพ่อของเธอ

จริงสิ เมื่อวานเธอบอกแล้วนี่นะว่าเป็นลูกเต้าเหล่าใคร พันโทหลวง... เขาจำไม่ได้ บางทีเขาควรถามเธอใหม่และค้นหาประวัติบุคคลนั้นในอินเตอร์เน็ตดู

คิดได้ดังนั้นชายหนุ่มก็รีบลุกจากเตียงตรงไปเข้าห้องน้ำ เมื่อวานนี้เขาปล่อยให้เธออยู่ลำพังในบ้านที่ไม่มีน้ำไฟหลังนั้นได้อย่างไรนะ นึกย้อนไปแล้วก็โมโหความใจอ่อนไม่เข้าท่าของตน หากเธอหายไปหรือได้รับอันตราย เขาคงโทษตัวเองที่สุด

นิมมานรีบแต่งตัว เขาคว้าทั้งนมและน้ำดื่มจากตู้เย็นในคอนโดมิเนียมตนติดมือไปด้วย นอกจากนี้ก็ไม่มีอาหารอะไรประสาห้องพักของหนุ่มโสด ก่อนจะขับรถออกมาราวหนึ่งชั่วโมงกว่าก็ถึงที่หมาย บ้านเรือนไทยย่านรังสิตยังคงงับรั้วไว้หากไม่ได้ล็อกเช่นเดิม

"คุณ คุณประณีต..." เขาเรียกชื่อเธอไม่เต็มปาก สมัยนี้จะหาคนชื่อไทยอย่างนี้ไม่มีแล้ว "คุณณีต"

เออนะ เรียกแบบนี้ค่อยเข้าปากหน่อย ชายหนุ่มก้าวขึ้นบันไดไม้ลั่นเอียดอาดพลางมองหาหญิงสาวบนเรือน ทว่านอกจากฝุ่นฟุ้งอย่างไม่เหมาะเป็นที่อยู่อาศัยแล้ว ใจเขาก็หล่นไปยังตาตุ่มเมื่อไม่พบเธอ

ร่างสันทัดก้าวเร็วไปยังท่าน้ำหลังบ้าน กระนั้นก็ช้ากว่าใจที่ร้อนรุ่ม เขาคิดแต่ในทางร้าย ทั้งที่หากเธอหายตัวไปจริงย่อมเป็นผลดีกับเขาที่สุด แต่เป็นเขาที่จะทำเหมือนเหตุการณ์เมื่อวานไม่เคยเกิดขึ้นไม่ได้เสียเอง

แล้วหัวใจซึ่งเต้นแรงก็ค่อยสงบลง นิมมานจ้องมองแผ่นหลังของคนที่นั่งพับเพียบอยู่ยังสะพานไม้ซึ่งยื่นออกไป เธอยังอยู่ที่นี่ ไม่ไปไหน เขาลอบผ่อนหายใจพลางก้าวช้าไปนั่งขัดสมาธิข้างเธอ

"ผมนึกว่าคุณกลับไปแล้ว" เขาบอกเสียงเบาเมื่อเจ้าหล่อนหันมาเห็นตนแล้วเช่นกัน

ประณีตยิ้มเศร้า เธออยากกลับไปแต่ไม่รู้จะทำอย่างไร และที่สำคัญ...ที่นี่ก็เป็นบ้านของเธอ แม้จะเป็นในอนาคตอีกแปดสิบปีต่อมาก็เถิด

"คุณหิวหรือเปล่า ผมมีนมกับน้ำดื่ม" เอ่ยไปแล้วชายหนุ่มก็ได้แต่เกาท้ายทอยแก้เก้อ พลอยรู้สึกว่าความช่วยเหลือของเขาช่างน้อยนิดเหลือเกิน

"ขอบคุณค่ะ ดิฉันเพิ่งรับประทานขนมปังที่คุณให้"

"แล้วคุณคิดไว้หรือยังว่าจะทำยังไงต่อไป"

หญิงสาวสั่นศีรษะ เธอไม่รู้จะกลับไปอย่างไร เช่นเดียวกับที่ไม่รู้ว่าตนมาอยู่ในยุคนี้ได้อย่างไร

นิมมานเปิดซองหนังใส่แท็บเล็ตออก เมื่อรู้สึกได้ถึงแสงตาที่มองมาเขาจึงเงยหน้าส่งยิ้มให้ ครั้นตนกดเปิดหน้าจอแอลอีดี ดวงตาโศกเมื่อครู่นี้ก็กลับกลายเป็นประหลาดใจแทน

"นี่นะ เขาเรียกว่าแท็บเล็ต มันสามารถเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต ค้นหาอะไรก็ได้ที่เราอยากรู้"

"เหมือนหนังสือหรือคะ" เธอถามอย่างฉงน

"จะว่าอย่างนั้นก็ได้ เหมือนหนังสือทุกเล่มในโลกมารวมอยู่ในนี้"

ประณีตขยับมาดูใกล้อย่างลืมตัว จุดพรายยิ้มบางยังมุมปากชายหนุ่มราวกลับไปเป็นเด็กยามได้อวดของเล่นตน

"คุณบอกชื่อพ่อของคุณอีกทีได้ไหม ผมจะลองเสิร์ช...ค้นหาเรื่องราวของท่านดู เผื่อมีบันทึกประวัติอะไรไว้"

"พันโทหลวงชาญยุทธกิจค่ะ"

นิมมานพิมพ์ชื่อนั้นลงในเว็บไซต์ค้นหายอดนิยม แล้วเขาก็รีบกดชื่อเว็บไซต์สารานุกรมซึ่งมีชื่อท่านปรากฏอยู่ในนั้นจริงๆ หากเป็นเพียงการกล่าวถึงสั้นๆ ในชีวประวัติบุคคลอื่น

"พ่อของคุณอยู่ในกลุ่มกบฎบวรเดช"

เขาหันมองเจ้าหล่อน แล้วก็ได้เห็นหญิงสาวเชิดหน้าขึ้นอย่างไว้ตัว

"แล้วเขาบอกอะไรอีกคะ บอกไหมว่าคุณพ่ออยู่ที่ไหน บั้นปลายชีวิตของท่านเป็นอย่างไร"

"เปล่าครับ มีกล่าวถึงท่านสั้นๆ เท่านั้น"

เธอผงกศีรษะเข้าใจพร้อมกับพยายามกล้ำกลืนน้ำตา เขาเสียใจกับเธอ หากข้อมูลน้อยนิดที่ค้นเจอนี้ก็ทำให้ได้รู้ว่าผู้หญิงคนนี้ไม่ได้โกหก รวมทั้งความฝันเมื่อคืนคงไม่ได้โกหกเขาเช่นกัน

"คุณเชื่อเรื่องมิติเวลาไหม หรือคุณพ่อคุณสอนว่าอย่าเชื่อเรื่องเร้นลับ อย่างคำทำนาย"

ประณีตหันมองผู้พูดอย่างไม่เชื่อหู ไม่ใช่เรื่องมิติเวลา...แต่เป็นคำพูดราวเขารู้จักคุณพ่อของเธอ

"เมื่อคืนผมฝันถึงคุณกับคุณพ่อของคุณ พวกคุณนั่งอยู่ระเบียงหน้าบ้าน คุณกำลังอ้อนขอพ่อไปงานเลี้ยงวันเกิดที่บ้าน..."

"อารี" เธอต่ออย่างจดจำได้ขึ้นใจ

หนุ่มสาวมองสบตากันอย่างเหลือเชื่อ นี่คือความจริงที่สุด เรื่องพิศวงเหล่านี้กำลังเกิดขึ้นกับพวกตนด้วยสาเหตุใดก็สุดรู้ แต่มันเกิดขึ้นแล้วเพื่อนำไปสู่บางสิ่งอย่างแน่นอน

"คุณประณีต ออกไปอยู่กับผมเถอะ คือผมหมายถึงคุณจะอยู่ที่นี่ต่อไปได้ยังไง ไม่นานคนงานก็จะเข้ามาทำงาน คุณเป็นผู้หญิงคนเดียว จะอยู่ท่ามกลางผู้ชายเป็นสิบๆ ไม่ได้หรอกนะ แล้วผมจะช่วยคุณทุกวิถีทางเพื่อตามหาญาติที่เหลืออยู่ของคุณ หรือคุณพ่อคุณ

"เอาอย่างนี้ ถ้าคุณไม่ไว้ใจผม ผมจะพาคุณไปแนะนำให้รู้จักกับแฟนผม...หมายถึงคนรักน่ะครับ ว่าผมไม่ได้มีเจตนาทำให้คุณเสื่อมเสียเกียรติเลย" เขาเสนอมาอีก

"แล้วคนรักของคุณ เธอจะไว้ใจดิฉันหรือคะ"

"โธ่ ผมคบกับเอ๋ยมาตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัยแล้วครับ เราไม่เคยแม้แต่ทะเลาะกัน และเธอคงดีใจที่ได้รู้จักกับคุณ"

ประณีตหลุบเปลือกตามองหลังมือตนเอง เธอไม่อยากไปจากบ้านหลังนี้ สิ่งเดียวที่ผูกเธอไว้กับอดีตที่เธอจากมา แต่เธอจะอยู่ที่นี่ลำพังกับคนแปลกหน้าได้อย่างไร เธอไม่ใช่คนดื้อดึงยามประสบปัญหา อันที่จริง เธอเลือกเป็นฝ่ายปล่อยและเดินออกมาเสมอมา จนต้องระเห็จมาอยู่กับคุณป้าที่นี่อย่างไร

"คุณจะช่วยดิฉันตามหาคุณพ่อจริงหรือ"

พ่อผู้เป็นมิ่งขวัญของลูก ยามนี้เธอเฝ้าคิดถึงแต่ท่าน แต่ละวันผ่านไปนับปีที่เธอรอคอยข่าวคราวของท่าน บ้างก็ว่าท่านถูกจับขังอยู่ที่เรือนจำบางขวาง เธอกับป้าดั้นด้นไปเพื่อพบเจอว่ามันเป็นเพียงข่าวลือ พวกเธอตามไปแม้มีแสงแห่งความหวังเพียงน้อยนิด แต่แล้วแสงนั้นก็กลับมืดดับทุกครา

"ผมสัญญา ผมจะตามหาคุณพ่อคุณ หรือญาติคุณที่เหลืออยู่ คุณไม่ต้องกลัวว่าจะอยู่บนโลกนี้ลำพัง"

น้ำเสียงของเขาหนักแน่น มั่นคง สร้างความเชื่อมั่น จุดแสงแห่งความหวังให้แก่เธออีกครั้ง หญิงสาวเบือนสายตาทอดมองผิวน้ำ แอบซ่อนน้ำตาแห่งความอ่อนแอซึ่งรื้นขึ้นมา

น้ำคำของคนจะเชื่อถือได้เพียงไหน เธอขอเชื่อคำพูดของผู้ชายที่แสดงให้เห็นว่าเขาไม่ทิ้งเธอไปอีกสักครั้งก็แล้วกัน

.............................

ประณีตมองทิวทัศน์สองข้างทางที่เปลี่ยนไปผิดตา บนท้องถนนเต็มไปด้วยรถรา ตึกแถวและอาคารสูงสร้างความตื่นตาตื่นใจให้แก่เธอ

"ผมนึกว่าคุณจะเมารถซะอีก" ชายหนุ่มเอ่ยขันๆ

หญิงสาวหันมายิ้มบาง เธอมองเขาด้วยสายตาที่อ่านได้ว่าเขาช่างไม่รู้อะไรเสียเลย

"ในยุคของดิฉัน เรามีรถยนต์แล้วค่ะ"

นิมมานหัวเราะเก้อๆ เขาไม่เคยนึกสนใจประวัติศาสตร์ กระทั่งตอนนี้

"เอ้อ คุณประณีต คุณมีชื่อเล่นหรือเปล่า ผมไม่รู้ว่าคนสมัยก่อนมีชื่อเล่นกันไหม ผมเรียกคุณว่าณีตได้หรือเปล่าครับ"

เธออมยิ้มน้อยๆ ขณะฟังเขาเกริ่นเสียยืดยาว

"ไม่พิลึกหรอกหรือคะ เรียกดิฉันว่านิดก็ได้ คุณพ่อท่านเรียกอย่างนั้น คุณก็มีพระคุณกับดิฉันเช่นกัน"

"ครับ นิด" นิมมานลองเรียก

ราวกับพลังบางอย่างจู่โจมในใจเขาทันทีที่เอ่ยชื่อนั้น หัวใจเขาหวิวโหวงประหลาด จนเกือบรู้สึกว่ามันปวดปลาบแค่เพียงชื่อของเธอผ่านริมฝีปากเขาออกไป

ชายหนุ่มกะพริบตาเรียกสติ ครู่หนึ่งกว่าความรู้สึกเหล่านั้นจะบรรเทา เขาปรายตามองเสี้ยวหน้าของคนข้างๆ ไม่เข้าใจตนเองเลยว่าทำไมความรู้สึกที่มีต่อเธอจึงมากมาย รุนแรงเช่นนี้

"ผมชื่อนิมมาน" เขาแนะนำตัวบ้างเมื่อตั้งสติได้ "เรียกนนท์ก็ได้ครับ"

"ค่ะ" เธอตอบรับ

ประณีตกลับเข้าสู่ห้วงความคิดตนอีกครั้ง เธอมองสภาพบ้านเรือนซึ่งเปลี่ยนแปลงไปจนแทบไม่รู้จัก จากความตื่นตากลายเป็นความหวาดกลัว เธอจะทำอย่างไรถ้าต้องอยู่ที่นี่ตลอดไป แล้วคุณป้า...คุณป้าจะร้อนใจเพียงใดที่เธอหายไป

หญิงสาวขยับตัวอย่างอึดอัดเมื่อรถเลี้ยวเข้ามายังลานมืด เธอหันมองคนขับทันทีอย่างหวังถึงคำอธิบาย ชายหนุ่มแตะข้อมือเธอแผ่วเบาก่อนยิ้มอย่างใจเย็น

"มันเป็นลานจอดรถในตึกที่พักผมเอง เพิ่งรู้ว่าคุณกลัวความมืดนะนี่"

เขาอ้อมไปเปิดประตูให้เธอลงมา หากเจ้าหล่อนยังคงเหลียวมองรอบตัวอย่างไม่มั่นใจ

"นั่นไงครับ เข้าประตูนั่นไปก็เจอลิฟต์"

"แต่คุณบอกว่าจะพาดิฉันไปอยู่ที่บ้าน"

"ครับ ที่นี่คือบ้านของผม แต่ถ้าคุณหมายถึงบ้านเป็นหลังๆ อย่างที่คุณเคยอยู่ เราอาจต้องไปกันถึงเชียงใหม่"

ประณีตนิ่วหน้าไม่เข้าใจนัก กระนั้นเธอก็ก้าวช้าตามเขาไป แว่วเสียงอธิบายสืบมา

"เพราะคนจากทุกสารทิศมาทำงานที่กรุงเทพฯ นอกจากที่ดินจะแพงแล้วก็ไม่มีพื้นที่พอสำหรับสร้างบ้านได้ทุกคนหรอกครับ ที่พักแบบนี้เรียกว่าคอนโดมิเนียม มีตั้งแต่ห้องพักเล็กๆ พอซุกหัวนอนไปจนถึงใหญ่กว่าบ้านก็มี"

หญิงสาวกวาดตามองรอบตัวอย่างเหลือเชื่อ บ้านอะไรจึงเหมือนโรงแรมเสียมากกว่า ไม่ว่าจะโต๊ะรับแขก ชุดเก้าอี้นวมกลางโถง และพนักงานต้อนรับ

สายตาหลายคู่จับจ้องมองเธอด้วยความใคร่รู้ อาจเพราะเครื่องแต่งกายของตนต่างจากผู้คนเหล่านี้ กระนั้นเมื่อเธอหันมองชายหนุ่มข้างๆ เขาก็ยังคงมีรอยยิ้มละไมอย่างใจดี

ประณีตก้าวตามเขาเข้าไปในลิฟต์ ก่อนจะยืนตัวเกร็งเมื่อมันเคลื่อนขึ้นไปข้างบน พลอยให้รู้สึกปั่นป่วนท้องไส้ขึ้นมา

"อีกนานไหมคะ ดิฉันไม่ชอบในนี้เลย"

นิมมานผายมือเมื่อประตูลิฟต์เปิดออก คนที่ทำท่าเหมือนกลืนยาขมค่อยผ่อนลมหายใจ ภายนอกที่ก้าวออกมามีแต่ผนังรอบด้านกับประตูหลายบาน กระทั่งชายหนุ่มมาหยุดยังหน้าห้องห้องหนึ่ง เขาเสียบบัตรแข็งกับกล่องเล็กข้างประตูแล้วจึงเปิดเข้าไป

"ยินดีต้อนรับครับ"

หญิงสาวกวาดตามองห้องรับแขกที่ถูกตกแต่งเรียบง่ายด้วยเก้าอี้นวมตัวเตี้ยเข้ามุม ชิดผนังกระจกใสซึ่งมองเห็นทิวทัศน์ภายนอก ออกจะแปลกตาไปบ้างเมื่อห้องนั่งเล่นกับครัวอยู่ติดกัน นอกจากนี้ยังมีเครื่องใช้หลายอย่างที่เธอไม่รู้ว่าใช้ทำอะไร

"ผมยกห้องนอนให้คุณ"

ร่างบางเดินไปเยี่ยมหน้ามองห้องที่เขาเปิดประตูเข้าไป มีเตียงขนาดใหญ่ตั้งอยู่กลางห้อง ผนังด้านหนึ่งเป็นกระจกใสหากมีม่านพรางตา

"แล้วคุณเล่าคะ"

"ผมจะนอนที่ห้องทำงาน ในนั้นมีโซฟาพอให้เหยียด แค่ผ้าห่มสักผืนก็พอครับ"

"คุณต้องลำบากเพราะดิฉัน" เธออดเอ่ยด้วยความละอายไม่ได้

นิมมานพิจารณาใบหน้าหวานปนเศร้าของผู้หญิงตรงหน้า เขาก็ไม่เคยคิดว่าตนเองจะทุ่มเทช่วยใครได้ถึงเพียงนี้ กระทั่งมาเจอเธอ

"ผมก็ไม่รู้หรอกนะว่าทำไมผมจึงอยากช่วยคุณ แต่เมื่อผมเสี่ยงช่วยคุณขึ้นมาจากน้ำได้แล้ว ผมก็อยากช่วยคุณไปจนตลอดรอดฝั่ง ขอแค่คุณอยู่ที่นี่อย่างสบายใจก็พอ...นะนิด"

ประณีตยิ้มเศร้า เธอผงกศีรษะแทนคำมั่นเมื่อลำคอตีบตื้อขึ้นมา

เธอสัญญากับตัวเองว่าจะไม่ทำให้เขาเดือดร้อนไปกว่านี้ และเพราะน้ำใจของเขา เธอจึงไม่ต้องรู้สึกเหมือนแบกเรื่องร้ายนี้ไว้ลำพัง

........................

ภาพเคลื่อนไหวบนจอโทรทัศน์สร้างความตื่นตาตื่นใจให้แก่ผู้ไม่เคยพบเห็นยิ่งนัก เธอลองกดสิ่งที่ชายหนุ่มเรียกว่ารีโมตคอนโทรล แล้วก็ต้องยิ้มออกมาเมื่อภาพบนจอเปลี่ยนฉับไปเป็นอีกรายการหนึ่ง

วิวัฒนาการของสิ่งต่างๆ ช่างรวดเร็วเสียจริง ถ้าเพื่อนรักอย่างอารีหรือคนสนิทของเธออย่างศรีชุมมาเห็นคงกรี๊ดกร๊าดชอบใจ ไหนจะเครื่องปรับอากาศเย็นฉ่ำที่เขาเรียกว่าแอร์ คนขี้ร้อนอย่างอารีคงชอบใจกว่าใคร นึกถึงสองคนนั้นแล้วแววหม่นเศร้าก็แต่งแต้มดวงตาเธออีกครา

คิดถึง อยากเจอเหลือเกิน

หากประณีตก็ไม่มีเวลาให้ทอดอาลัยนานนัก เสียงออดเบาจากหน้าประตูดึงความสนใจของเธอ หญิงสาวนึกถึงคนที่บอกว่าจะออกไปซื้ออาหารและเสื้อผ้าให้ แล้วร่างบางจึงลุกไปที่ประตู แว่วเสียงผู้ชายดังอยู่ภายนอกหากเธอฟังไม่เป็นศัพท์

เธอกดเปิดประตูเมื่อคิดว่าอาจเป็นนิมมานกลับมา ทว่าผู้ซึ่งยืนอยู่กลับเป็นชายหญิงคู่หนึ่ง ใบหน้าคุ้นตาของฝ่ายชายทำเอาเธอเผลอก้าวถอยหลังโดยไม่รู้ตัว

เขามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร ผู้ชายที่เคยดีต่อเธอและทำร้ายเธออย่างถึงที่สุด

.............................

มีตัวละครเพิ่มเข้ามา ผู้ชายคนนั้นเป็นใคร ฝากติดตามด้วยนะคะ



ภาพิมล_พิมลภา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 11 ต.ค. 2557, 16:01:07 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 11 ต.ค. 2557, 16:01:07 น.

จำนวนการเข้าชม : 1398





<< บทนำ   บทที่ ๒ >>
ใบบัวน่ารัก 11 ต.ค. 2557, 16:30:00 น.
จ้า


ภาพิมล_พิมลภา 11 ต.ค. 2557, 19:35:51 น.
คุณใบบัวน่ารัก - แพรวอ่านคอมเมนต์แล้วขำเลยค่ะ 5555


konhin 11 ต.ค. 2557, 21:33:04 น.
ใครกันน้อ


แว่นใส 12 ต.ค. 2557, 00:28:55 น.
อดีตคนรักหรือเปล่า


ภาพิมล_พิมลภา 12 ต.ค. 2557, 10:22:21 น.
คุณkonhin - ตอนหน้ารู้กันจ้า

คุณแว่นใส - หุๆ อันนี้ก็น่าสนน้า


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account