อลวน ถนน หัวใจ (จบแล้ว)

Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: 9. อลวน ถนน หัวใจ

9.

“ว่าไงนะอินตา นายโชคอยู่กับแกเหรอ”

“ครับ”

“แล้วทำไมนายเพิ่งจะโทรมารายงาน รู้ไหม ทางฉันนี่กลุ้มใจจะตายแล้ว”

“คือคุณหนูขอร้องไว้น่ะครับ ขอทำใจสักพักหนึ่ง ขอเรียนรู้อะไรใหม่ ๆ ในเมืองไทยดูบ้าง”

“แล้วเขาทำอะไร”

“ขับรถแท็กซี่”

“ตายห่า เป็นลูกพ่อเลี้ยงสมบูรณ์ แต่คิดใฝ่ต่ำไปขับแท็กซี่รู้ถึงไหนอายถึงนั่น”

“ก็เพราะผมกลัวว่าพ่อเลี้ยงจะอาย ผมก็เลยไม่กล้าโทรไปรายงาน”

เมื่อพูดไปแล้วแน่นอนว่า ทางปลายสายต้องด่ากลับมายกใหญ่ ทางนี้เลย เบี่ยงโทรศัพท์ออกห่างใบหู

“ครับ ครับ สัญญาณไม่ค่อยดีครับ ผมขับรถอยู่ครับ”

นายอินตาแกล้งทำให้มันเป็นอย่างนั้น ทั้งที่สัญญาณยังเต็มเปี่ยม ใจหนึ่งก็อยากตามใจอดีตคุณหนูที่เคยดูแลมาตั้งแต่ขับรถรับส่งไปโรงเรียนอนุบาล แต่อีกใจก็สงสารพ่อเลี้ยง เลี้ยงลูกมาก็คงหวังอะไรไว้ถึงได้ตัดสินใจทำอย่างนั้น

แต่เมื่อฝ่ายคุณโชคชัยเดินทางมาหา แล้วขอพักพิงเขาจำต้องให้ที่อยู่ที่กินและอาชีพที่คุณโชคชัยอยากลองทำดู

ยังไม่ทันที่รถแท็กซี่ของนายอินตาจะขับออกจากจุดจอดรถเพื่อรอรับผู้โดยสาร โทรศัพท์มือถือที่ข้างเอวก็ดังอีกรอบ

“แกมีเบอร์มันไหม ฉันจะคุยกับมันหน่อย”

“คุณหนูไม่มีโทรศัพท์ใช้ครับ” เขาจำต้องโกหก

“แล้วตอนนี้มันอยู่ที่ไหน” อันนี้เขาตอบตามความเป็นจริงได้แน่

“ตอนนี้ไม่ได้อยู่กับผมแล้วครับ เก็บผ้าออกไปกับเพื่อน ผมก็ไม่กล้าถามว่าออกไปไหน” เขาพูดตรงกับความเป็นจริงทุกประการ จึงได้รู้สึกสบายใจ แต่ถึงกระนั้น ปลายสายก็ยังรู้สึกว่าทางนี้พูดให้กวนประสาทอีกแล้ว

“เออ กูเจอะหน้ามึง มึงโดนตีนกูแน่”

“ครับ เฮ้ย! ผมเกี่ยวอะไรด้วย”

“เกี่ยวซิ คุณหนูมึงทั้งคน มึงไม่มีปัญญาดูแล ไม่มีปัญญาถามว่าจะไปไหน อย่างนี้มันใช้ได้เหรอ”

“เอ่อ ท่านครับ ผมแค่อดีตคนรับใช้นะครับ แต่ท่านน่ะ

“ไอ้อินตา ไอ้เวร ไอ้ ไอ้” เมื่อได้ระบายแล้วพ่อเลี้ยงก็ตัดสัญญาณทิ้ง อย่างกับไม่ใช่คนที่โทรศัพท์มาหาทางนี้ก่อนอย่างนั้น

---------------------------------------
“ฮาดเช้ย! ๆ ๆ ๆ” อาการจามติด ๆ กันของโชคชัย สร้างรอยยิ้มให้ประดิพัทธ์และอินทรา หญิงสาวถึงกับยื่นหน้ามาใกล้ ๆ แล้วร้องเพลงของจิ้งหรีดขาว วงศ์เทวัญทีเดียว

“ฮัดเช้ย ฮัดเช้ย ฮัดเช้ย อยากรู้จังเลยว่าใครเอ่ยถึงฉัน” โชคชัยเงยหน้าขึ้นมาจากการเช็ดน้ำมูกถึงกับถลึงตาเข้าใส่

“นี่ยังมีอารมณ์สนุก ตอนนี้คิดซิคิด ว่าพวกเราจะทำอย่างไรกันดี”

“ทำอย่างไร หนูมันแค่นักข่าวบันเทิงมือสมัครเล่น ส่วนเฮียเป็นถึงครีเอทีฟหัวเห็ด”

“ผมมันก็แค่คนขับแท็กซี่” โชคชัยมีอารมณ์พูดเล่นขึ้นมาบ้าง

“เฮ้อ! เหมือนงมเข็มกลางมหาสมุทรอย่างไรอย่างนั้นเลย โทรกลับไปใหม่ไหม เผื่อจะติด แล้วทำไมคุณรังสิตาถึงได้ตัดสายทิ้ง”

“หรือว่าลักโทรศัพท์คนอื่นโทร แอบโทรประมาณนั้น ถ้าเราโทรกลับไป มันไม่ดีนะ ความลับอาจแตก” อินทราตั้งสมมุติฐาน

ประดิพัทธ์พยักหน้าเห็นด้วย

---------------------------------------

ทางด้านรังสิตาเมื่อเดินกลับเข้าห้องหญิงสาวก็ครุ่นคิดถึงคำพูดสุดท้ายของพี่ชายคนที่มักใหญ่ใฝ่สูงทันที

‘แล้วแกมีปัญญาหาคนที่มีคุณสมบัติดีได้เท่าลูกพ่อเลี้ยงสมบูรณ์ไหมล่ะ’ คำพูดนี้มันเหมือนเป็นการสบประมาทกันชัด ๆ หญิงสาวพยายามครุ่นคิดหาผู้ชายสักคนที่น่าจะรวยจนกระทั่งพี่ชายของตัวเองตาลุกวาวได้เท่านั้น เธอนึกถึงเพื่อนตั้งแต่สมัยเรียนชั้นอนุบาล ตอนนั้นที่บ้านยังยากจน พ่อแม่เป็นเพียงคนงานในเหมืองพลอย ส่วนพี่ชายก็เพิ่งเรียนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่หก แถมเป็นโรงเรียนประจำจังหวัด ยังไม่มีปัญญาส่งเสียน้องนุ่งให้เรียนในโรงเรียนชั้นดีมีสังคมที่เต็มไปด้วยลูกเศรษฐี เพราะฉะนั้นเพื่อน ๆ พวกนั้นจึงเป็นเด็กลูกชาวไร่ชาวนาแถว ๆ อำเภอบ่อพลอย หญิงสาวนึกถึงเพื่อนชั้นมัธยม เท่าที่รู้จักกันก็เป็นเพียงข้าราชการชั้นผู้น้อยเท่านั้น ไม่มีใครสักคนเป็นเจ้าของกิจการ ส่วนเพื่อนเรียนในระดับมหาวิทยาลัย พอมีบ้าง แต่เธอก็ไม่ได้สนิทสนมขนาดที่จะไปขอความช่วยเหลือ หรือคนที่มาจีบเธอ เมื่อรู้ว่าเธอหัวสูง ใช้ของแพง ๆ ใช้เงินฟุ้งเฟ้อตามคำแนะนำของพี่ชาย พวกเขาเหล่านั้นเข้ามาหาประเดี๋ยวประด๋าวแล้วก็จากไป

ช่วงที่พี่ชายทำธุรกิจแล้วรุ่ง เขาส่งเธอไปอยู่เมืองนอก อยู่สหรัฐเธอก็รู้จักแต่พวกโรบินฮูด เพราะมหาวิทยาลัยที่เข้าไปศึกษาต่อนั้นเป็นเพียงมหาวิทยาลัยห้องแถว เมื่อเธอกลับมาก็ยังไม่ได้ไปโชว์โฉมที่ไหน แล้วจะไปพบลูกอภิอัครมหาเศรษฐีที่ไหนได้

แล้วใบหน้าของคนขับแท็กซี่ที่หล่อเหลาก็เข้ามาในสมอง รังสิตารีบสลัดทิ้งในทันที เธอชอบเขาแหละ แต่ มันดูใฝ่ต่ำเกินไปหากจะคิด

รังสิตานึกถึงดารานามประดิพัทธ์ ดิษยาลัย ถึงแม้จะไม่โด่งดัง แต่หากเธอควงเขาออกงานหรือได้แต่งงานกับเขา มันก็ทำให้พี่ชายของเธอมีหน้ามีตาขึ้นมาได้

หญิงสาวนึกถึงเบอร์โทรของเขา แต่มันไม่มีโทรศัพท์ จะทำอย่างไรดี

---------------------------------------

“คิออกและ” อินทราโพล่งขึ้นด้วยสำเนียง ‘กะเหรี่ยงพูดไทยไม่ชัด’ สองหนุ่มที่นั่งอยู่บนโซฟาด้วยกันถึงกับตกอกตกใจ

“ทำไมไม่เข้าห้องน้ำ”

“คิด-ออก-แล้ว” หญิงสาวก็ขำกับมุกของตัวเองที่จำมาจากโทรทัศน์เหมือนกัน

“คิดอะไรออก”

อินทราอยากจะสุมหัวทำเสียงมีแต่ลมออกจากริมฝีปากแบบในละคร แต่หากเธอทำอย่างนั้นรับรองเลยว่า หนึ่งในสองจะต้องเอาจมูกมาใกล้แก้มเธอแน่ ๆ

“ก็พวกเราเป็นใครกัน”

“อ้าวทำไมถามอย่างนั้นล่ะ เออ ตกลงพวกเราเป็นใคร” ประดิพัทธ์มีอารมณ์สนุกที่จะเล่นลิ้นเล่นคำด้วยแล้ว

“ใช่พวกเราเป็นใคร” โชคชัยก็เริ่มสงสัยตัวเองขึ้นมาเหมือนกัน จุดมุ่งหมายของเขาที่หนีพ่อออกมาจากบ้านที่เชียงใหม่ คือ แค่แสวงหาใครสักคนที่รักเขา แบบที่เขาเป็นอยู่ รักเขาแค่ตาเห็นไม่ใช่ทรัพย์สมบัติมหาศาลของเขา แล้วทำไมเขาปล่อยให้ชีวิตเลยเถิดถึงขนาดนี้ได้ มารวมกลุ่มกันเพื่อช่วยเหลือใครด้วยเรื่องอะไรก็ไม่รู้

นึก ๆ แล้วเขาก็อยากจะขำตัวเองเหมือนกัน

“งั้นพวกเราต้องตั้งสติกันใหม่ เรามาที่กาญจนบุรีเพราะว่าพวกเราต้องช่วยคุณรังสิตา ผู้หญิงคนที่หยิบกระเป๋าของคุณลงมาจากรถ รถคันนั้นเป็นของคุณโชคชัย ที่บังเอิญฉันเป็นผู้โดยสารที่เป็นพยานให้เขา โอเค”

หนุ่มทั้งสองพยักหน้าเริ่มรู้ที่มาของตัวเอง หลังจากที่ความสัมพันธ์ชักจะสานไปอย่างไม่รู้ทิศทาง

“ที่ฉันคิดออกก็คือ พวกเราเป็นคนของสื่อ คุณประดิพัทธ์เป็นดารา แล้วทำไมเราไม่ใช้ความเป็นดาราให้เป็นประโยชน์ล่ะ”
“ทำอย่างไร” ประดิพัทธ์สงสัยขึ้นมา

“อ้าว คุณเป็นพิธีกรรายการโทรทัศน์ใคร ๆ ก็รู้จัก เพราะฉะนั้นพรุ่งนี้เราเข้าไปที่รังสิตารีสอร์ตเพื่อถ่ายทำสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เราก็ฟอร์มว่า ต้องใช้โรงแรมเป็นสถานที่พักช่วงระหว่างที่พวกเราถ่ายทำรายการ”

“แต่เราไม่มีกล้องมาด้วยนะ” ประดิพัทธ์เริ่มมองเห็นปัญหาที่จะขยายใหญ่

“เราก็บึ่งรถกลับไปที่บริษัท ฉันว่าอย่างไรนายพหลต้องช่วยคุณแน่”

“ไม่มีทางหรอก กล้องราคาไม่ใช่บาทสองบาท จะเอาออกมาได้อย่างไร”

“กล้องวิดีโอถูก ๆ ได้ไหม ตัวละหมื่นสองหมื่นบาท” โชคชัยเสนอความคิดขึ้นมาบ้าง

“ดูถูกสถานที่เขาตายเลย แล้วเขาจะเชื่อเราไหมเนี่ย” อินทราบอกความเห็นของตนเอง

“กลับไปเราก็จะเสียเวลา สู้เราเข้าไปมือเปล่า ๆ นี่แหละ บอกเขาว่าเรามาหาข้อมูลก่อนเพื่อที่จะให้กองถ่ายยกตามมาทีหลังดีกว่า” ประดิพัทธ์คิดว่าสิ่งที่เขาเสนอน่าจะง่ายสุด

“เมื่อเข้าไปแล้ว คุณกับผม” ประดิพัทธ์หมายถึงเขากับอินทรา “เข้าไปหาที่ประชาสัมพันธ์ เข้าไปหาผู้จัดการรีสอร์ต หรือจะให้ดี เข้าไปหานายสาธรนี่เลย พวกนี้อยากเป็นคนในสื่อจะตายไป ยิ่งหาเสียงอย่างนี้ด้วยแล้วรับรองเลยว่าดีไม่ดีเราจะได้ค่าน้ำร้อนน้ำชาด้วย”

“แล้วผม” โชคชัยถามถึงหน้าที่ของตัวเอง

“ช่วงนั้นคุณเป็นเพียงคนขับรถของผม” ประดิพัทธ์เพ่งพิศดูลักษณะท่าทางของโชคชัย ซึ่งมันตรงกันข้ามกับคำว่า ‘คนขับรถ’ อย่างสิ้นเชิง เสื้อผ้าของชายหนุ่มแม้เป็นชุดลำลอง แต่ถึงอย่างไร มันก็ยังเห็นถึงการรู้จักเลือกใช้แบบเสื้อผ้าเพื่อให้คนสวมใส่ดูดี

อยากจะสงสัยว่า หมอนี่เป็นคนขับรถแท็กซี่จริงเหรอ เขาก็จะปวดหัวยิ่งขึ้น สู้ไม่รู้ไม่ชี้เสียดีกว่า

“ผมว่าคุณต้องปลอมตัว ทำให้มันโทรมกว่านี้สักนิด คุณนั่นแหละที่จะเป็นคนเดินตามหาคุณรังสิตาในรีสอร์ทนั่น หรือถ้าคุณช่วยเธอออกไปได้ ตามความต้องการของเธอ พวกพี่ชายเขาก็จะไม่ต้องสงสัยผม”

“ผมนี่เหรอ อันตรายนะ” แม้จะดีใจว่าได้อยู่ฝ่ายพาผู้หญิงที่เขาชอบหนี แต่ความเกรงกลัวก็ยังมีอยู่

“รึไม่อยากทำ” อินทราแกล้งดักคอ

“อยากทำสิ” โชคชัยตอบไปจากใจจริง ซึ่งอินทราเองเห็นถึงแววตาที่สมหวังนั้น หญิงสาวถอนหายใจออกมา แน่ล่ะ ผู้ชายหล่อก็ต้องมองผู้หญิงสวยและดูดีมีสง่าอย่างนั้น แถมตอนนี้ก็รู้แล้วว่า เธอคนนั้นเป็นถึงหงส์ฟ้าทีเดียว แต่หงส์ฟ้าจะคู่กับหมาวัดได้หรือ?

แม้จะรู้ว่า ความปรารถนาของนายโชคชัยคนขับแท็กซี่มีอุปสรรคเสียแล้ว แต่อินทราก็ยังมั่นใจว่า เขาไม่ใช่เพียงคนขับแท็กซี่ธรรมดาแน่ ๆ

หลังสรุปแผนการคร่าว ๆ แล้วอินทราก็ขอตัวเดินกลับไปที่ห้องพักของตน
---------------------------------------



เมื่อเดินกลับมาถึงห้องเธอก็ได้รับโทรศัพท์จากผู้เป็นแม่

“อิน หนูอยู่ไหน”

“อยู่กาญจนบุรีแม่ แม่มีไรหรือ”

“มีสิ ก็ชัยวัฒน์มันก่อเรื่องอีกแล้ว”

เมื่อได้ยินแค่คำว่า ‘ก่อเรื่อง’ อินทราก็เดาถูกทันทีว่าเรื่องที่ว่านั้นไม่ใช่เรื่องดีแน่

“มันถูกตำรวจจับเรื่องซิ่งมอเตอร์ไซค์”

“เมื่อไหร่”

“สี่ทุ่มได้มั้ง นี่มันเพิ่งจะโทรมาบอก แต่คืนนี้ตำรวจเขายังไม่ให้ทำอะไรทั้งนั้น”

“ก็ควรให้ไอ้พวกเด็กเวรนี่อยู่ห้องขังกันสักคืน ดีแล้ว ช่างมันเถอะแม่มันยังไม่ตายหรอก”

“ทำไมถึงพูดถึงน้องแบบนั้น”

“อ้าว เรื่องจริงจากใจจริงก็รับไม่ได้กันอีก ไม่ต้องร้องไห้เลยนะ เอาไว้ร้องตอนมันตายแล้วกัน อย่างไรพรุ่งนี้ไปที่สถานีตำรวจ แล้วช่วยฝากเขาขังมันไว้สักสิบวัน ดัดสันดานให้เข็ดไอ้พวกเด็กไม่รักดีแล้วนี่ทางโรงเรียนเขาจะเก็บพวกมันไว้ไหม”

“ไม่รู้ แค่นี้นะ จะโทรมาระบายเอ็งกลับมาระบายใส่ซะอีก”

“ฉันพูดให้แม่ปลงต่างหากล่ะ นอนเถอะ แล้วพ่ออยู่บ้านหรือเปล่า”

“ยังไม่กลับมาเลย ไม่รู้ไปแดกห่าเหล้าที่ไหนอีก ได้เงินมาไม่เคยถึงมือกูหรอก”

อินทราถอนหายใจออกมา เรื่องซ้ำซากที่พูดกันไม่จบไม่สิ้น

“แค่นี้นะแม่ ง่วงนอนแล้ว”

“แล้วเอ็งอยู่กับใครไปทำอะไร”

“ทำงานจ้ะ แม่ไม่ต้องห่วงหนูหรอก หนูเอาตัวรอดได้”

แม่เป็นคนตัดสัญญาณโดยไม่มีคำล่ำลาเหมือนทุก ๆ ครั้ง หลังจากที่วางโทรศัพท์ลงที่ข้างตัวแล้ว อินทราก็ถอนหายใจดังเฮือกใหญ่

ชัยวัฒน์เด็กอายุแค่สิบแปดเรียนอยู่แค่ชั้นมัธยมหก ผลการเรียนลูกผีลูกคน ถามว่าโตขึ้นอยากเป็นอะไร มันบอกว่า ‘ไม่ได้อยากเป็นอะไร อยู่ไปวัน ๆ’ ผู้ชายเฮงซวยแท้ ๆ เชียว ใครได้ไปทำเผ่าพันธุ์ ตระกูลนั้นคง ‘วายป่วง’

เมื่อได้ระบายทางคำพูดและความคิดแล้ว หญิงสาวก็เปิดกระเป๋าเตรียมอาบน้ำ ในขณะที่ก้ม ๆ เงย ๆ เธอรู้สึกเหมือนว่ามีใครมองเธออยู่ในห้อง อาจจะเป็นที่โต๊ะเครื่องแป้ง บนเตียงนอนหรือที่ไหนสักแห่ง แล้วความกลัวก็แล่นเข้ามาสู่ทรวงอก ใจของอินทราหายแว๊บ มือที่จะหยิบของออกจากกระเป๋าเปลี่ยนเป็นคว้าหูกระเป๋าแล้วตรงดิ่งไปที่ประตู

พอเธอเปิดประตูเท่านั้น

“กรี๊ดดดดด” หญิงสาวร้องสุดเสียง แล้วมือหนัก ๆ ก็จับเธอเขย่าเพราะเธอหลับหูหลับตาระบายความกลัวออกมา

“เอ๊า เป็นอะไรอินทรา” เมื่อได้ยินเสียงคุ้นหูอินทราจึงได้สติ

“คุณพัทธ์ ผีมันหลอกฉัน” อินทราทิ้งกระเป๋าโผไปกอดเขาจนแน่น

“ผีที่ไหน”

คนถามทำหน้าเลิ่กลั่ก อันที่จริงเขาต้องการมายืมยาสีฟัน แต่กลับเป็นว่าต้องมายืนให้เจ้าหล่อนกอดจนแน่น

“ในห้องนี้แหละมีผีแน่ ๆ ฉันรู้สึกเหมือนมีใครมานั่งอยู่ข้าง ๆ ฉันรู้สึกเหมือนมีลมหายใจใครสักคนมันรดอยู่ที่ซอกคอฉัน โอ๊ย!ไม่เอาแล้ว ฉันนอนคนเดียวไม่ได้หรอก”

“ระหว่างผีกับผู้ชายเธอจะกลัวใครมากกว่ากัน”

“ผี”

“โอเค งั้นไปนอนห้องโน้นกันสามคน แม้ ไม่บอกตั้งแต่ทีแรก จะได้เปิดแค่ห้องเดียว เปลืองเงินค่าห้องไหมเนี่ย”
ประดิพัทธ์ยังบ่นไม่เลิก อินทราเอง เมื่อมีคนอยู่เป็นเพื่อนเธอจึงจูงข้อมือเขากลับไปหยิบของบนโต๊ะเครื่องแป้ง

แต่พอหันกลับมา เขากลับแหกตาหลอกเธออีก คราวนี้เธอใช้สองมือโถมใส่ทุบผีตัวปลอมไม่ยั้ง

“โอ๊ย! ๆ ๆ เจ็บนะ เจ็บ”

“จะแกล้งฉันอีกไหม เร็ว ๆ ไป ออกไป”

“ไม่-แกล้ง-ก็-ได้” ประดิพัทธ์แกล้งทำเสียงยานคางขึ้นมาอีก ทีนี้อินทราเกาะเขาออกจากห้อง ชนิดถ้าใครมาเห็นต้องคิดว่าคนทั้งคู่เป็นคู่รักกันอย่างแน่นอน


ค่ำคืนนั้นประดิพัทธ์มองเจ้าตัวจ้อยนอนขดที่ระหว่างเตียงแล้วนึกขำ ในตอนแรกเขาจะสละที่ให้เธอนอนบนเตียง แต่เธอนึกได้ว่าในห้องเก่ามีหมอนและผ้าห่ม เธอจึงคะยั้นคะยอให้เขาพาเดินกลับมาลากของจากห้องเก่ากลับไป เมื่อลากไปปูเองเสร็จสรรพแล้ว เธอก็จะเปลี่ยนเสื้อผ้าอาบน้ำ ด้วยมีหนุ่มสองคนนั่งมองอยู่ในห้องเธอจึงหยิบกระเป๋าผลุบเข้าห้องน้ำไป ออกมาอีกทีใบหน้าที่เกลี้ยงเกลานั้นดูสดใสด้วยแป้งฝุ่นปัด ๆ พอเป็นพิธี ผมเส้นเล็กชื้นน้ำดูคล้ายถูกใช้มือเสย ๆ มากกว่าหวีให้เป็นระเบียบ ผู้หญิงคนนี้ดูจะเป็นทอมก็ไม่ใช่ แต่ก็ไม่สำอางจัดเหมือนกับผู้หญิงทั้งหลายที่เคยเห็นมา ชายหนุ่มถอนหายใจดังเฮือก ถึงวันนี้เขาก็ยังปรารถนาใครสักคนมาร่วมทางเดินชีวิต แต่ใครคนนั้นอยู่ที่ไหนเล่า

อินทราเองแม้จะหลับตา แถมมีผ้าห่มคลุมทั้งตัวเพื่อบรรเทาความหนาวจากเครื่องปรับอากาศที่ไม่คุ้นเคย แต่ใจของหญิงสาวกลับเต้นไม่เป็นจังหวะ อาจจะเป็นเพราะผู้ชายแปลกหน้าสองคนที่นอนอยู่บนเตียงขนาบอยู่ทั้งสองข้าง แม้จะมั่นใจว่าพวกเขาไม่ลุกขึ้นมาฉวยโอกาส แต่เธอก็คิดว่า นี่เป็นการใช้ชีวิตอยู่ด้วยความประมาท เพราะหากพวกเขา คนที่เธอไม่เคยรู้จักมักจี่ พร้อมใจกันคิดไม่ซื่อ อะไรจะเกิดขึ้น เมื่อคิดดังนั้นแล้ว ตัวหญิงสาวก็ยิ่งสั่นจนยากจะควบคุม

“เป็นอะไรอินทรา” โชคชัยชะเง้อมองแล้วร้องถาม อินทราได้สติ หญิงสาวผุดนั่งหายใจแรง ๆ หลาย ๆ รอบ ก่อนจะล้มตัวลงไปนอนต่อ

“เป็นอะไร ถามก็ไม่ตอบ” โชคชัยพูดจบก็พลิกตัวหันหลังให้

คราวนี้อินทราลืมตาโพลงขึ้นมา เธอเหลือบแลไปยังเตียงของประดิพัทธ์ ในความสลัวของห้องนอน อินทราเห็นดวงตาสีขาวของเขามองมายังใบหน้าเกลี้ยงเกลาของเธอ ยิ่งกว่ามนต์สะกดหัวใจ เธอรู้สึกอบอุ่นขึ้นมาอย่างประหลาด คล้ายกับว่า หากมีเขาอยู่ตรงนี้แล้ว เธอจะไม่เป็นอะไรทั้งนั้น เมื่อรู้ว่าตัวเองหวั่นไหว อินทรารีบหลับตา แต่ยิ่งหลับเธอก็ยิ่งเห็นภาพรอยยิ้มที่พิมพ์ใจของอดีตพ่อพระเอกพ่อหม้ายคนนี้มากขึ้น


(วันที่ 3)


รังสิตารีบตื่นแต่เช้า ด้วยรู้ว่าในบ้านพักส่วนตัวที่อยู่ด้านหลังของรีสอร์ตนี้ นมแสงจะตื่นก่อนใคร ๆ เพื่อเข้าครัวเตรียมคุมคนงานทำอาหาร ยิ่งพี่ชายใหญ่มาพักอย่างนี้ด้วยนมแสงจะลุกขึ้นเพื่อแสดงฝีมือให้เต็มที่

หญิงสาวค่อย ๆ เปิดประตูแล้วเร้นกายออกจากห้อง ด้วยเป็นบ้านสไตล์สเปนชั้นเดียว ทำให้การเดินไปที่ห้องนมแสงที่อยู่ทางด้านหลังนั้นไม่ใช่เรื่องยาก เมื่อไปถึงหน้าห้องครัว หญิงสาวเห็นนมแสงกำลังจู้จี้กับคนงานหญิงชาวพม่าสองคนที่ทำงานไม่ได้ดั่งใจ ดั่งที่เธอได้คาดการณ์ไว้ เมื่อนมแสงยังวุ่นอยู่ตรงนั้นก็แสดงว่าที่ห้องของนมแสงไม่มีใครอยู่ รังสิตาสาวเท้าเบา ๆ มาหยุดอยู่ที่หน้าห้อง มือขวากำลูกบิดแล้วเปิดหมุนเบา ๆ มันหลุดออกอย่างง่ายดาย โชคดีที่นมแสงเปิดไฟทิ้งไว้ จึงทำให้เธอสามารถมองเห็นของทุกอย่างในห้องอย่างชัดเจน สายตาของรังสิตากวาดไปทั่วห้องแต่หาได้พบโทรศัพท์มือถือเครื่องเมื่อวานนี้ไม่

“ฮะแอ้ม”

“นมแสง” คนที่ถือวิสาสะเข้าห้องคนอื่นถึงกับสะดุ้งโหยง

“หาอะไร” คนเป็นแม่นมคอยดูแลตั้งแต่เธอเป็นสาวรุ่นยืนพิงกรอบประตูทำหน้าให้รู้ว่าเป็นต่อ

“หาโทรศัพท์นะซิ” รังสิตาบอกตามตรง

“หาไปทำไม มีเรื่องอะไรต้องใช้หรือคะ”

“นมแสง หนูไม่ใช่เชลยนะถึงได้มากักขังกันไว้อย่างนี้”

“ต้องกักขังค่ะ เพราะถ้าปล่อยไป พวกเราจะลำบากกันทุกคน คุณก็รู้”

“ถามจริง ๆ เถอะว่าพี่ชายใหญ่ ไปกู้เงินเขามาเท่าไหร่”

“คุณไม่มีปัญญาไปชดใช้เขาได้แน่ค่ะ รีสอร์ตแห่งนี้ก็ดี กิจการหลาย ๆ อย่างที่เรามีอยู่ ทางพ่อเลี้ยงสมบูรณ์มีหุ้นอยู่เกือบจะทุกหนแห่ง อย่าลืมนะคะว่าพวกเรามีแต่ตัว จับแพะชนแกะกันมาหรอกถึงได้มีวันนี้ได้ แต่ใช่ว่าพวกเราจะสุขสบายลืมตาอ้าปากได้แล้ว พวกเรายังต้องสู้ในแบบของพวกเรา”

“ทำไมต้องเป็นหนูด้วยเล่า ลูกของพี่ชายใหญ่ก็มีตั้งหลายคน”

“วัยเจริญพันธุ์มีแต่ลูกชาย จะให้ไปแต่งกับผู้ชายได้เหรอคะ” นมแสงดูขัดใจกับคำถามนั่นเหมือนกัน

รังสิตาถอนหายใจออกมา อย่างไรเธอก็ไม่แต่งกับลูกชายพ่อเลี้ยงสมบูรณ์นั่นเด็ดขาด

“กลับเข้าห้องไปอาบน้ำแต่งตัวเถอะค่ะ วันนี้จะมีรายการโทรทัศน์มาถ่ายทำรายการที่บ้านเรา คุณหนูจะต้องออกไปรับแขกด้วย”

“เกี่ยวอะไรคะ ไม่ใช่บ้านหนูสักหน่อย”

“ที่นี่คือ รังสิตารีสอร์ตหนึ่งในธุรกิจของครอบครัวเจริญธัญญา ตระกูลใหม่ เศรษฐีใหม่ที่คนกำลังจับตามอง เหตุผลแค่นี้พอไหมคะ”




จุฬามณีเฟื่องนคร
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 6 ก.ค. 2554, 07:56:23 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 6 ก.ค. 2554, 07:56:23 น.

จำนวนการเข้าชม : 1925





<< 8.อลวน ถนน หัวใจ   10. อลวน ถนน หัวใจ >>
จุฬามณีเฟื่องนคร 6 ก.ค. 2554, 08:02:52 น.
ยังเดากันไม่ออกใช่ไหม..(แต่อย่าเพิ่งเลิกเดาไปก่อนนะครับ))..

คุณminafiba ตอนนี้อยู่ที่ไหนครับ // สำหรับ หัวใจไม่ใช่เส้นขนาน รู้สึกว่าตอนนี้กระแสดีมาก (ก่อนหน้านั้นหนังสือขายไม่ค่อยได้) คือได้ยินคำชื่นชมกลับมาเป็นประจำโดยเฉพาะในช่วงนี้ นักอ่านบางคนก็ชอบเรื่องนั้นแล้วก็กลับมาตามงานของผมเล่มอื่น ๆ บ้างว่า ไม่อยากจะเชื่อว่า อักษรศาสตร์จะพิมพ์นิยาย หวาน ๆ ขม ๆ แบบนั้น..ผมเองก็รักแอม และสันติเช่นกันครับ เป็นตัวละครทีจับต้องได้เป็นคนจริง ๆ อีกเรื่องหนึ่ง...

สำหรับอลวนฯ เรื่องนี้ ถ้าตัวเองคนเขียนชอบ ก็ชอบในความอลวน อลเวง ครื้นเครง เฮฮา ขม ๆ หวาน ๆ นี่แหละครับ ลุ้นกันต่อไป //// ขอบคุณจากทุก ๆ กำลังใจนะครับ.. แล้วก็ย่าลืมแบ่งใจไปให้ไอ้ม่าอีกตอนนะครับ..


saralun 6 ก.ค. 2554, 10:09:55 น.
แล้วตกลงใครคู่ใครละเนี่ย...อิอิ


คิมหันตุ์ 6 ก.ค. 2554, 15:29:39 น.
ยังไงก็ เชียร์ รังสิตา กะ ตาโชคชัย...
ลุงพัทธ์ กะ น้อง อินทรา อิอิอิ


ปูสีน้ำเงิน 6 ก.ค. 2554, 22:08:33 น.
แต่ปูอยากให้อินทราคู่กับนายโชคชัยอ่ะ


Zephyr 7 ก.ค. 2554, 11:28:43 น.
ตอนนี้หนูอินมีสปาร์กกะลุงพัทธ์แล้ว พี่โชคกับหนูสิตาจะเจอกันแล้ววววว แอบคิดว่าคู่น่าจะประมาณนี้แต่เซนส์ลึกๆว่าต้องสลับกันแน่เลยอ่ะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account