อลวน ถนน หัวใจ (จบแล้ว)

Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: 10. อลวน ถนน หัวใจ

10.

ขบวนรถของบริษัท แมส มอร์นิ่ง มาจอดที่ลานจอดรถในเวลา 11.00 น. รีเซฟชั่นสาวห้าคนเมื่อเห็นว่าแขกที่เจ้านายได้รอคอยมาถึงก็รีบกุลีกุจอออกจากแผนกมาต้อนรับถึงที่รถ

รัชดาพร พรมั่นคง พิธีกรสาวฝีปากดีที่คนทั้งประเทศต่างคุ้นเคยรีบลงจากรถ พนักงานสาวสวยในชุดไทยมอญประยุกต์ต่างพร้อมใจกันยกมือและเปล่งวาจาแสดงความเคารพ

“รังสิตารีสอร์ตในเครือตระกูลเจริญธัญญายินดีตอนรับค่ะ”

พิธีกรสาวยกมือตอบแล้วจับมือกับทุก ๆ คนจนทั่ว

“คุณสาธร และครอบครัว รอคุณอยู่ที่ห้องรับรองพิเศษแล้วค่ะ” หัวหน้าพนักงานรีบบอกที่หมายของพิธีกรสาว

“พาฉันไปหน่อยนะคะ” เมื่อบอกรีเซฟชั่นแล้ว เธอจึงหันมาหาฝ่ายอื่น ๆ ที่ติดตามมา

“เตรียมงานกันก่อนแล้วกัน ได้เวลาแล้วฉันจะประสานออกมาอีกที”

รัชดาพร ก้าวเดินตามรีเซฟชั่นสาวคนหนึ่งไปอย่างมั่นใจ

“สวยเนอะ สวยจริง ๆ” รีเซฟชั่นที่เหลืออยู่เริ่มตั้งวงพูดถึง

“แต่ไม่น่ามีข่าวคราวว่าเป็นบ้านเล็กของเจ้าของค่ายเลยนะ”

“ค่ายมวยเหรอ” อีกคนหนึ่งไม่รู้เรื่องในวงการมากนัก

“ค่ายผลิตงานย่ะ ฮู้”

แล้วคนที่รู้มากกว่าก็เดินสะบัดสะโพกนำหน้าพรรคพวกเข้าสู่อาคารรับรอง

เมื่อเห็นขบวนรถของบริษัทแมสมอร์นิ่งที่ตนคุ้นเคยแล่นผ่านหน้าไป ดูแล้วจุดมุ่งหมายอยู่ที่อำเภอศรีสวัสดิ์ ประดิพัทธ์จึงยกโทรศัพท์โทรหาเด็กในฝ่ายกล้องเพื่อถามข้อมูล

“มีอุปสรรคแล้วเรา บริษัทแมสมาถ่ายทำบ้านนายสาธรพอดีเลย เอาไงดีวะ ทำไมใจตรงกันได้”

“พวกเราก็เข้าไปเป็นแขกซิ”

“ผมไม่ชอบยายรัชดาพร”

“ฝีปากกล้าสู้เขาไม่ได้ก็ว่ามาเถอะ” อินทราพูดตามตรง

“ประมาณนั้นแหละ รายการเราก็คนละรูปแบบอยู่แล้วไม่เกี่ยวกัน”

“ของเขามันสร้างสรรค์ส่วนของคุณมันแผลง ๆ”

“ขอบใจที่ชม” ประดิพัทธ์พูดไปเสียอีกทาง

“ติต่างหากล่ะ”

“จะต่อปากต่อคำกันไปทำไม” โชคชัยเริ่มอารมณ์เสีย ก็เขาอุตส่าห์ปลอมตัวเป็นคนขับรถที่ยังไม่ได้ขับจริง แล้ว แผนก็ยังไม่สามารถดำเนินการไปได้อีก

“หาแผนสองแล้วกัน” ประดิพัทธ์มีสีหน้าครุ่นคิด

“ถ้าผมเข้าไป ยายรัชดาพรก็ต้องรู้ว่าผมมาป้วนเปี้ยนที่นี่ เอางี้แล้วกัน คุณสองคนเปลี่ยนเป็นพวกแบกแพ็คเกอร์ ส่วนผมจะจอดรถซุ่มรออยู่แถวนี้ มีอะไรก็โทรมา”

“เครื่องฉันไม่ค่อยมีสัญญาณ ตรงนี้มี ตรงนั้นไม่มี มีเป็นหย่อม ๆ ไม่กระจัดกระจาย”

“แล้วทำไมใช้ค่ายนี้”

“โปรโมชั่นมันถูกไง”

“ของคุณล่ะ” ประดิพัทธ์หันไปถามโชคชัย

“พอมี แต่เขาจะเชื่อเราเหรอว่าเราเป็นพวกแบ็กแพ็ค แถวนี้มันมีแต่รีสอร์ตคนมีเงินมาพักทั้งนั้น”

“พูดอย่างนี้จะเอาเงินใช่ไหม เอาบัตรเครดิตผมไปเลย แล้วเอาเงินติดไปอีกห้าพันเอ้า”

“ใจป้ำแฮะ ไม่กลัวพวกเราเชิดหนีหรือ”

“หนีก็หนีไป คืนหนึ่งที่อยู่ด้วยกันนี่ คิดว่าพวกคุณไว้ใจได้”

“ฉันสิบแปดมงกุฎนะ ทั้งสลัมนี่กลัวฝีมือฉันทั้งนั้นแหละ”

“เอาฝีมือไปฉกคุณรังสิตาออกมาดีกว่ามาคุยโวอยู่ตรงนี้ ไปเร็ว”

“ก็ขับไปส่งที่หน้าปากทางเข้าซิ แล้วก็เลยไปซุ่ม จะให้เดินไปตั้งแต่ตรงนี้มันไกลนะ กระเป๋าเราก็ใบเบ้อเริ่มเทิ่ม” อินทรายังต่อรอง

ประดิพัทธ์ไม่ตอบโต้ เขาขับรถเลยทางเข้ารีสอร์ตไปประมาณยี่สิบเมตร ทั้งอินทราและโชคชัยลงจากรถ ประดิพัทธ์เปิดท้ายให้ทั้งสองหยิบกระเป๋าของตนออกไป เมื่อเห็นว่าทั้งคู่มีกระเป๋าอยู่บนไหล่และหลังแล้ว ประดิพัทธ์จึงเคลื่อนตัวรถไปข้างหน้า

“พวกเรามาติดต่อจองห้องพักค่ะ” อินทราทำตัวให้กระปรี้กระเปร่าทั้งที่รู้สึกเกร็ง ๆ ด้วยจุดมุ่งหมายที่มานั้นไม่ดี

“เตียงเดี่ยวใช่ไหมคะ”

อินทราพยักหน้า

“ขอบัตรจำประจำตัวประชาชนด้วยค่ะ”

อินทราวางกระเป๋าสัมภาระของตนแล้วดึงกระเป๋าสตางค์ออกมาจากกางเกงยีนส์ส่งให้พนักงานสาวที่ฉาบใบหน้าด้วยเครื่องสำอางจนมองแทบไม่เห็นผิวหน้าที่แท้จริง

โชคชัยเองเริ่มใช้สายตาส่ายส่องไปยังบริเวณโดยรอบของสถานที่แห่งนี้ เขานึกไม่ออกว่าคุณรังสิตาจะไปพักอยู่ในบริเวณไหน

“เออทำไมถึงได้ชื่อว่ารังสิตารีสอร์ตคะ”

“คือ เป็นชื่อของน้องสาวเจ้าของรีสอร์ตค่ะ”

“คงสวยมากซิคะ” อินทราเริ่มทำหน้าที่ของตน ซึ่งโชคชัยอดทึ่งกับความฉลาดของหญิงสาวไม่ได้

“สวยมากค่ะ นี่ถ้ายอมประกวดนางงาม ต้องได้ตำแหน่งแน่นอน”

“พูดจนฉันอยากพบตัวจริงเสียแล้วซิ

พนักงานสาวไม่ต่อคำ อินทราจึงต้องพูดต้องชวนคุยต่อ

“ตกลงเราจะได้พบคุณรังสิตาไหมคะ”

“เอ่อ!” คือ พนักงานสาวเริ่มอ้ำ ๆ อึ้ง ๆ ด้วยไม่รู้ว่าคุณรังสิตาอยู่หรือไม่อยู่

“เธอไม่ค่อยได้อยู่ที่นี่หรอกค่ะ” พนักงานอีกคนที่เดินเข้ามาตอบคำถามนั้นแทน

“ห้องได้แล้วนะคะ ไม่ทราบจะอยู่กี่คืน และจะชำระเงินด้วยระบบไหนคะ”

“อยู่คืนหนึ่งก่อนแล้วกัน ถ้าดี ก็จะอยู่ต่อ เราจะชำระเป็นเงินสด” อินทราบอกความจริงไป

“อย่างนั้นเราคงขอมัดจำไว้หนึ่งคืนก่อนนะคะทั้งหมด 2,500 บาท”

“แพงจังเลย”

“ค่ะ” สายตาของพนักงานมองหญิงสาวอย่างเหยียด ๆ ทำนองว่าไม่มีเงินก็พากันออกไปเลยไม่ต้องอยู่ให้เสียเวลาหรอก

อินทราอยากจะหยิบบัตรเครดิตของนายประดิพัทธ์ส่งให้ แต่เธอก็ใช้ไม่เป็น พอดีกับโชคชัยยื่นบัตรเครดิตของตนให้เสียก่อน เมื่อเห็นว่าเป็นบัตรชนิดใด พนักงานสาวถึงกับเปลี่ยนสีหน้าทันที

พนักงานหนุ่มเดินถือกระเป๋าของทั้งคู่นำมายังห้องพัก เลขที่ 518 ที่อยู่ติดริมทะเลสาบ สายตาของอินทรา นั้นกวาดไปทั่วบริเวณ ยังคิดไม่ออกจริง ๆ ว่าจะไปตามหาตัวคุณรังสิตาได้ที่ไหน

“เชิญครับ”

เมื่อพนักงานเปิดประตูเข้า

“อ้าวทำไมเตียงเดียวล่ะ”

“ก็คุณจองเตียงเดี่ยวนี่ครับ”

“ครับ โอเคผมเข้าใจแล้ว” โชคชัยรีบพูดออกมาก่อนที่อินทราจะปล่อยไก่ไปมากกว่านี้ พนักงานหนุ่มเมื่อวางกระเป๋าพร้อมกับเปิดไฟเปิดเครื่องปรับอากาศแล้ว เขาทำท่าจะออกจากห้อง โชคชัยควักแบงก์ร้อยจากกระเป๋าส่งให้ พนักงานหนุ่มยกมือไหว้แล้วรีบออกจากห้องไปด้วยกริยาอ่อนน้อมทีเดียว

“เตียงเดี่ยว ไม่ใช่เตียงนอนคนเดียวสองเตียง” โชคชัยอธิบาย อินทราเกาหัว

“เหอะ เอาของวางไว้แล้วรีบออกไปสำรวจเร็ว ไปเดินให้ทั่ว ๆ เผื่อคุณรังสิตาเธอจะเห็นเราเอง วิธีนี้ง่ายที่สุดแล้ว”

“แล้วอย่างคุณนี่มีบัตรแพลตตินั่มใช้ด้วยเหรอ”

“ไม่จำเป็น ก็อย่าถามเรื่องอะไรเกี่ยวกับผม ทำงานให้เสร็จสิ้นเถอะ”

“ย่ะ พ่อความลับเยอะ”

ที่ห้องรับรองพิเศษ ครอบครัวของนายสาธรนั่งกันอยู่พร้อมหน้า ซึ่งได้แก่นางวินิตราผู้เป็นภรรยาซึ่งอยู่ในชุดไทยประยุกต์สมสมัย ถัดไปเป็นลูกชายที่เรียนอยู่ในระดับมหาวิทยาลัยสองคน กับลูกสาวอีกสองคนที่เรียนอยู่ระดับชั้นประถมในโรงเรียนประจำที่กรุงเทพฯ

ผู้เป็นน้องสาวที่นั่งอยู่ที่เก้าอี้เบาะนุ่ม ๆ นั้น แม้จะแต่งตัวด้วยชุดทันสมัยซึ่งนมแสงเป็นคนจัดแจงให้ แต่ใบหน้าที่ไม่เต็มใจรับแขกหามีใครสามารถบังคับให้ยิ้มแย้มเหมือนกับรูปหน้าได้

“สวัสดีค่ะ” รัชดาพร รีบยกมือไหว้เมื่อรีเซฟชั่นสาวนำเข้าสู่ห้องรับรองซึ่งประดับตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์สไตล์หลุยส์

นายสาธรและภรรยารวมถึงบุตรธิดารีบลุกขึ้นอย่างรู้บทบาทของตน รังสิตาคิดว่า คนเป็นพ่อคงได้ ‘เสี้ยม’ กันมาดี หญิงสาวลุกขึ้นต้อนรับอย่างเนือย ๆ ใบหน้าบอกบุญไม่รับดั่งเดิม

เมื่อแขกที่มาเพื่อผลประโยชน์นั่งลงแล้ว รังสิตาก็เฉไฉมองไปทางอื่น เธอมองไปที่ประตูกรอบไม้ระแนงซึ่งมีดอกชมพูเบิกฟ้าเลื้อยกั้นระหว่างตัวรีสอร์ตกับบ้านพักพิเศษหลังนี้

ยามตัวใหญ่อย่างกับยักษ์ยืนนิ่งเหมือนกับว่าคุ้มครองคนสำคัญอย่างนั้น รัชดาพรเองเมื่อมาถึงแล้วก็ ‘จ้อ’ ไม่หยุด พูดชมสถานที่จนเจ้าของบ้านตัวลอย แล้วแม่พิธีกรคนสวยก็เริ่มร่ายถึงสคริปท์ที่จะต้องถ่ายทำ นั่นก็คือ เป็นรายการท่องเที่ยวที่เน้นตัวเจ้าของบ้านเจ้าของรีสอร์ต เป็นการโฆษณาสรรพคุณความสามารถของเจ้าของแฝงไว้ซึ่งการหาเสียงเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในเร็ววัน

พี่ชายเธอตั้งอกตั้งใจที่จะก้าวขึ้นสู่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร รังสิตาอยากจะรู้ว่า ยศและลาภนั้นพี่ชายของเธอจะอยากได้ไปทำไมหนักหนา เป็นโรคจิตแน่ ๆ เลย อยากให้เป็นที่ยอมรับในสังคมแม้ว่าจะเหน็ดเหนื่อยขนาดไหนก็ตาม

“น้องสาวคุณสวยนะคะ” รัชดาพร เริ่มไขว่มาหาคนที่ไม่อยากร่วมวงด้วย

“ครับ เธอจบจากอเมริกา”

“เรียนทางด้านไหนคะ” คนถามดูจงใจให้เธอตอบคำถามเสียเอง เพราะสายตาและรอยยิ้มหวานนั้นมุ่งทางเธอที่นั่งเบี่ยงตัวไปอีกทาง

“เรียนทางด้านออกแบบผลิตภัณฑ์ค่ะ” แท้จริงแล้วเธออยากเรียนแบบนั้น แต่ว่าพี่ชายของเธอบังคับให้เธอเรียนด้านการตลาด ซึ่งเธอเบื่อเป็นอย่างมาก เธอชอบวาดรูป อยากเรียนเพ้นท์อะไรลงเครื่องปั้นดินเผา แล้วมีงานชิ้นเดียวออกสู่สายตาชาวโลกมากกว่า

“อุ้ย! แสดงว่าเป็นศิลปินเหมือนกัน” ทางนั้นพยายามชวนคุย รังสิตาไม่ตอบคำถามนั้น เพราะคำว่าศิลปิน ทุก ๆ คนจะรู้คร่าว ๆ อยู่แล้วว่า อารมณ์ไหวเหมือนใบไม้ ลมพัดมาทีก็สั่นสะเทือนไปได้ง่าย เธอนั่งนิ่งให้รู้ว่านี่แหละ ‘ศิลปิน’

เมื่อเห็นว่าน้องสาวไม่ให้ความร่วมมือ นายสาธรจึงชวนพิธีกรสาวคุยเรื่องอื่น

“นี่กำลังจะแต่งงานครับ”

“กับใครหรือคะ”

“เข้าใจผิดกันค่ะ” รังสิตารีบบอกปัด

“คือฉันมีคนที่หมั้นหมายไว้ในใจอยู่แล้ว แต่พี่ชายฉันกำลังจะบังคับให้ฉันแต่งกับคนที่ฉันไม่รู้จักมักคุ้น หรือเรียกว่าคลุมถุงชน” รังสิตารีบโพล่งความปรารถนาของตนให้คนอื่นได้ร่วมรับรู้

“ทำไมพูดอย่างนั้นล่ะสิตา” พี่สะใภ้ขัดขึ้น แล้วก็รีบตะล่อมให้หล่อนเป็นไปยังทิศทางที่ต้องการ

“ล้อ คุณรัชดาพรเล่นค่ะ แต่งกับลูกชายพ่อเลี้ยงสมบูรณ์ค่ะ”

“พ่อเลี้ยงสมบูรณ์ คนที่อยู่เชียงใหม่ใช่ไหม ว๊าว เป็นอะไรที่วิเศษมาก ๆ เลยรู้ไหม นี่ดิฉันเคยไปถ่ายทำรายการที่บ้านท่านนะคะ รู้ไหม อย่างกับพระราชวังเก่า เรือนกาแลหลังใหญ่ม๊าก มาก”

“ของนอกกาย” รังสิตารีบขัด ส่งผลให้พิธีกรสาวเริ่มมีลมออกหู

“เอ่อ คุณรัชดาพรคะ คือ ดิฉันรบกวนอะไรนิดหนึ่ง” เธอต้องฉวยโอกาสใช้สื่อช่วยเธอบ้างซิ

“ยืมโทรศัพท์หน่อยค่ะ พอดี เครื่องของดิฉันแบตหมดค่ะ นัดกับคนรักไว้ไม่รู้ว่ามาถึงหรือยัง”

“ใครหรือคะ คนรักของคุณ” แม้เริ่มไม่ชอบขี้หน้าแต่เมื่อเจ้าหล่อนเป็นฝ่ายชวนเจรจาด้วย พิธีกรสาวจึงยิ้มแย้มได้ดั่งเคย

“เซอร์ไพรส์ค่ะ” รังสิตามองพี่ชายกับพี่สะใภ้ที่จ้องมองอย่างคนที่ถือไพ่เหนือกว่าเช่นกัน

“อย่ารบกวนเขาเลย เอาของพี่ดีกว่า” นายสาธรรีบส่งของตัวเองมาให้ รังสิตารีบไปรับมาถือไว้แล้วกดเบอร์ที่ท่องจำจนขึ้นใจลงไป ทุกคนในห้องเงียบเพื่อฟังให้ถนัดหูอย่างไม่เกรงใจคนที่ยกโทรศัพท์ขึ้นด้วยทีท่าดุจเจ้าหญิงผู้สูงศักดิ์

“ค่ะ รังสิตาพูดค่ะที่รัก คุณอยู่ไหนล่ะ ข้างนอกหรือ เข้ามาเลยนะคะ ขับรถเข้ามา บอกยามว่ามาหาคุณสาธรค่ะ ยามยินดีเปิดให้ ค่ะ ๆ จะรออยู่นะคะ จุ๊บ ๆ” เมื่อวางสายแล้วเธอจึงส่งโทรศัพท์คืนให้พี่ชายพร้อมรอยยิ้มกริ่ม


คนฝั่งทางนี้เมื่อได้รับโทรศัพท์ด้วยน้ำเสียงหวานปานน้ำผึ้งก็รู้สึกงุนงง มันเกิดอะไรขึ้น ประดิพัทธ์อยากจะโทรกลับไปแต่ ‘รหัส’ นั้นมันน่าจะหมายถึงให้เขาเข้าไปได้แล้ว เขากลับรถให้หันหน้าไปทางทิศเหนือแล้วรีบเลี้ยวขวาเข้าไปยังรังสิตารีสอร์ต ในสายตาของประดิพัทธ์พบว่าอินทรากับโชคชัยกำลังเดินเล่น มองซ้ายมองขวาอยู่ที่สนามหญ้าด้านที่ติดริมทะเลสาบ เขาทำเป็นไม่เห็นสองคนนั้น พอดีกับที่โชคชัยยกโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วโทรหา เขารีบกดสายรับแล้วรายงานความคืบหน้า

“คุณรังสิตาโทรให้เข้ามาข้างใน เรียกผมว่าที่รัก มันแปลก ๆ เอาอย่างนี้แล้วกัน ตอนนี้พวกคุณไปหามุมสงบ ๆ นั่งดื่มกาแฟหรือทำกิจกรรมอื่นรอไปก่อนนะ ผมรู้สึกว่ากลางแจ้งที่พวกคุณยืนอยู่มันเป็นเป้าสายตาเหลือเกิน”

“อ้าวไม่ยืนในที่แจ้งคุณรังสิตาจะเห็นพวกเราหรือ” โชคชัยเถียงขึ้น รู้สึกไม่ชอบเลย กับคำว่า ‘ที่รัก’ ที่นายประดิพัทธ์บอกเล่ามา

ประดิพัทธ์ตัดสายโทรศัพท์เมื่อรถจอด เขาเดินไปหารีเซฟชั่น พอดีกับที่ยามจากส่วนหลังเดินมาหาเขาที่รถ พนักงานของบริษัทแมส มอร์นิ่ง ที่รู้จักเขาเป็นอย่างดีรีบยกมือทำความเคารพ ซึ่งการมีผู้มานอบน้อมนายประดิพัทธ์เช่นนี้สร้างความกริ่งเกรงให้กับยามร่างยักษ์อยู่ในทีเหมือนกัน

“นายให้มาเชิญไปที่เรือนรับรองทางด้านหลัง”

เขาเดินตามยามโดยที่สายตายังแลเหลือบดูอินทรา กับโชคชัยที่เปลี่ยนทิศทางตัวเองเดินกลับมาที่ล็อบบี้

เขาสูดลมหายใจเข้าปอดจนลึก ไม่รู้เหมือนกันว่า มีเรื่องอะไรรอเขาอยู่ข้างหน้า จะว่าเขาซวยก็ไม่ผิดนัก อยู่ดี ๆ จากกระเป๋าใบเดียวแท้ ๆ เชียว ยังโมโหกับเหตุของเรื่องไม่หาย ยามร่างยักษ์ก็พาเข้าเดินผ่านซุ้มไม้เลื้อยซึ่งน่าจะกั้นแดนกันระหว่างรีสอร์ตกับบ้านพัก เขาเพ่งสายตาไปยังบ้านพักทรงสเปนหลังใหญ่ ถ้าทายไม่ผิดยายรัชดาพร จะต้องประจ๋อประแจ๋อยู่กับเจ้าของบ้านที่ด้านในอย่างแน่นอน

เมื่อเดินขึ้นบันไดสู่โถงกว้าง ยามก็พาเขาเดินไปสู่ห้องรับรองพิเศษ แน่นอนว่า คุณรังสิตา ผู้หญิงที่นับว่าสวยคนหนึ่งในความรู้สึกของเขา รีบลุกขึ้นยืนยิ้มให้เขาเต็มวงหน้าก่อนจะรีบเดินออกมาต้อนรับ

“ที่รัก” น้ำเสียงและกริยานั้นดูเหมือนรังสิตาจะโผเข้าหาอ้อมกอดของเขา ดังนั้นเขาจึงกางแขนออกโดยอัตโนมัติ ซึ่งรังสิตาเองก็สวมกอดเขาไว้หลวม ๆ คล้ายคนที่รักใคร่ชอบพอกันมานาน จนถึงขนาดมีอะไรกันมาแล้วด้วยซ้ำ ชั่ววินาทีที่รังสิตาคล้ายจะหอมแก้มเขา เขาได้ยินเสียงกระซิบของเธอว่า

“ช่วยฉันเล่นละครหน่อยนะ”

เขาไม่คิดเลยว่า จะได้เล่นละครโดยที่ไม่มีการอ่านบทกันมาก่อน เขากอดเธอกลับ แล้วบิดตัวเธอให้ยืนเคียงคู่กับเขาโดยมีมือของเขาอยู่ที่เอวกิ่วได้รูปของเธอ

“นี่ค่ะ คู่รักของสิตา คุณประดิพัทธ์”

ถ้าประดิพัทธ์ตาไม่ฝาด เขาเห็นสีหน้าตกใจของรัชดาพร แต่ชั่วอึดใจเท่านั้นเจ้าหล่อนก็ยิ้มแย้มพูดคุยเจื้อยแจ้วต่อได้สบาย

“ต๊าย นึกว่าใครที่ไหน คนกันเอง คุณประดิพัทธ์ไม่เห็นแย้มให้ฟังเลยนะคะว่า คบกับน้องสาวคุณสาธร”

ในสายตาของรัชดาพร เสี่ยสาธรและภรรยาดูจะไม่เชื่อสายตาตัวเองเหมือนกัน มันน่าจะมีอะไรแอบแฝงอยู่ในหมากบนกระดานแผ่นนี้แล้ว รัชดาพรเริ่มสนุก

รังสิตาพาประดิพัทธ์เดินกลับมาร่วมวง หญิงสาวมีใบหน้าสดชื่นให้พี่ชายและพี่สะใภ้ ผิดเมื่อครู่

“พี่ใหญ่ พี่วินิตรา คะ นี่คุณประดิพัทธ์ คู่รักของหนู”

ประดิพัทธ์รีบยกมือทำความเคารพด้วยใบหน้ายิ้มแย้มอย่างไม่ได้ยากเย็นนัก เด็ก ๆ ผู้เป็นหลานซึ่งพอรู้จักว่าที่น้าเขยจากสื่อดียกมือทำความเคารพด้วยสายตาที่ชื่นชมยินดี แต่ดูเหมือนว่าคนเป็นพี่ชายนั้นยังไม่ชอบใจนัก

“ตกลงเดี๋ยวดิฉันขอตัวไปคุยกับทางทีมงานหน่อยนะคะ จะได้ไม่เสียเวลามากนัก” รัชดาพรขอตัวออกไปข้างนอก ซึ่งก่อนจะพ้นจากวงสนทนา เธออดทิ้งปริศนาไว้ไม่ได้

“คุณมีเรื่องเซอร์ไพรส์ฉัน ฉันก็มีเรื่องเซอร์ไพรส์คุณเหมือนกัน”

ประดิพัทธ์ไม่รู้นัยยะนั้น เขาได้แต่ยิ้ม ๆ ให้กับคนนั้นคนนี้ต่อไปด้วยความอึดอัด

“ขับรถมาเหนื่อยไหมคะ” รังสิตารีบคุยกับเขาคล้ายกับว่านั่งอยู่กันสองคน

“ไกลไหมคะ แล้วช่วงที่สิตากลับบ้าน คุณพัทคิดถึงสิตาหรือเปล่า”
“คิดถึงสิครับ” ปากตอบไป แต่สายตาของประดิพัทธ์นั้นรู้ว่า พี่ชายและพี่สะใภ้ยังจ้องมองละครฉากนั้นอย่างไม่ได้เกรงใจตัวละครสักนิด

“หยุดละครบ้าบอของแกเลยสิตา”

“เอ๊ะ พี่ใหญ่ นี่คุณประดิพัทธ์แฟนสิตานะคะ ให้เกียรติสิตาบ้าง”

“จ้างฉันก็ไม่เชื่อ ไปเด็ก ๆ กลับเข้าห้องส่วนตัวกันก่อน พ่อกับแม่มีเรื่องจะต้องคุยกับอาเขาเป็นการส่วนตัว”

เด็ก ๆ ลุกขึ้นรีบเดินกันออกไปเหมือนกับว่ารอให้คำสั่งนี้ออกมานานแล้ว



จุฬามณีเฟื่องนคร
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 7 ก.ค. 2554, 17:17:48 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 7 ก.ค. 2554, 17:17:48 น.

จำนวนการเข้าชม : 1916





<< 9. อลวน ถนน หัวใจ   11.อลวน ถนน หัวใจ >>
จุฬามณีเฟื่องนคร 7 ก.ค. 2554, 17:19:05 น.
อลวน ถนน หัวใจ วันพุธหน้าผมจะได้รับหนังสือจากโรงพิมพ์มาแล้วนะครับ ใครใคร่เป็นเจ้าของรีบติดต่อ ขอทราบรายละเอียดเพิ่มเติมได้เลยครับ ราคาพร้อมรายเซ็น(แถม) 200 บาทครับ


จุฬามณีเฟื่องนคร 7 ก.ค. 2554, 17:20:12 น.
จะได้รู้ก่อนเพื่อนในสิรินดา ว่าใครคู่กับใคร (งุิงิ ๆ)


มะดัน 7 ก.ค. 2554, 17:35:36 น.
แล้วม่าล่ะคะ


จุฬามณีเฟื่องนคร 7 ก.ค. 2554, 17:54:11 น.
ไอ้ม่าสัปดาห์ละตอนครับ..(เอาไว้ ลุ้น ๆ ฝัน ๆ หวาน ๆ รอ ๆ )จุ๊บ ๆ


Zephyr 7 ก.ค. 2554, 18:19:47 น.
มันชักจะ วุ่นวาย ยุ่งเหยิง ไปหมดแล้วเนี่ย


คิมหันตุ์ 7 ก.ค. 2554, 20:18:20 น.
อยากรู้ก่อนเพื่อนจัง อิอิ


ปูสีน้ำเงิน 8 ก.ค. 2554, 00:53:11 น.
(*O*)
จนถึงวันนี้ก็ยังเดาไม่ออกอยู่ดีว่าใครคู่ใคร


คุณแม่ลูกสอง 8 ก.ค. 2554, 02:24:22 น.
อึมม นั่นสิ ใครคู่ใครเอ่ย จะลุ้นรอนะคะ


dedy 8 ก.ค. 2554, 14:19:48 น.
มีอะไรให้ลุ้นตลอดเลยค่ะ เซอร์ไพร์สของรัชดาพรคืออะไรเนี่ย


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account