...คาสบลังก้า...ดารัลฟาเดล...(จบแล้วค่ะ)
สืบเนื่องมาจากเรื่อง "อะรูซะตี...เจ้าสาวของผม"
เรื่องนี้จะเป็นเรื่องราวของลูกสาวสุดหวงของหมอดานีส
กับนาดา โดยเรื่องราวของคุณพ่อเมื่ิอครั้งก่อนนั้น
จะเป็นแนา "แต่งก่อนจีบ"
แต่สำหรับรุ่นลูกแล้ว จะเป็นแนว "จีบก่อนแต่ง"

ต้องมาคอยดูกันค่ะว่า จะจีบกันอย่างไร แล้วคุณหมอดานีส
ที่ต้องมารับบทบาทเป็นพ่อของลูกทั้งเจ็ดจะตกอยู่ในสภาพเช่นไร..
แล้วนาดาจะเป็นแม่แบบไหน...



เรื่องราวความรักที่เกิดขึ้นท่ามกลางบรรยากาศของเมือง
"คาสบลังก้า" หรือ "อัดดารัลบัยฎออ์"
ซึ่งแปลว่า..."บ้านสีขาว"
ดินแดนในฝันดั่งต้องมนต์เสน่หาแห่งโมร็อกโก...
กับดินแดนอันแสนอบอุ่นด้วยไอรักแห่งแดนอาทิตย์อุทัย...

พบกับเขาและเธอ...

...ดารัล...ฟาเดล...

หญิงสาวที่หัวใจเปี่ยมล้นไปด้วยความรักความอบอุ่น
จากครอบครัวอันแสนสุขและน่ารัก...
ชีวิตที่มีพร้อมทุกอย่าง ไม่เคยต้องการสิ่งใดอีกแล้ว
เพราะเธอพอใจทุกอย่างที่มีมาตลอด

จนเมื่อเจอกับเขา...ที่นั่น "คาสบลังก้า"
เขาทำให้เธอไม่อาจลบลืมมนต์เสน่หาของที่นั่นได้เลย
ไม่ว่าจะยามหลับหรือตื่น...

กับ

ชายหนุ่มที่เปี่ยมไปด้วยรูปเปลือกที่สวยงามสมบูรณ์
หากภายในใจนั้นยังคงโหยหาไออุ่นแห่งรักจากใครสักคน
มาเติมเต็มหัวใจกำพร้าของเขา...

แล้วเธอคือผู้ที่เขาค้นพบว่ามีทุกอย่างที่เขากำลังต้องการอยู่
ดังนั้น...ไม่ว่าจะต้องทำอย่างไร เขาก็จะปล่อยเธอ
ไปไม่ได้โดยเด็ดขาด!




Tags: หวานซึ้งโรแมนติก ดราม่า โมร็อกโก คาสบลังก้า ทะเลทรายซาฮาร่า ดารัล ฟาเดล โสภณพสุธ

ตอน: บทที่ 13 ตำแหน่งมักมาพร้อมกับหน้าที่





วันนี้จึงเป็นอีกวันที่ทุกคนมารวมตัวกัน ยกเว้นคนบางคนที่เธอรอคอย
เขาพอใจจะหลบเธอต่อไปอย่างนี้ไปถึงไหนกันนะ จะทรมานใจกันไปถึงไหน…

ดารัลเริ่มหงุดหงิดงุ่นง่าน แต่ก็ต้องกักเก็บอารมณ์เหล่านั้นเอาไว้
เพราะต้องเอาหน้าไปสู้กับคนอื่นๆที่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับอารมณ์ของเธอ
มันไม่ยุติธรรมเลยถ้าเธอจะเอาอารมณ์ไม่ดีของตัวเองไปลงที่คนอื่น

ดังนั้น วันนี้ คุณปู่คุณย่าของฟาเดลอยู่บ้าน และกำลังขลุกอยู่ในสวน
เอาคุณย่าของเธอไปด้วย…

ก็แน่ล่ะ สวนออกจะกว้างขนาดนั้น
มีอะไรให้น่าตื่นเต้นให้ชวนมองจนคุณย่าของเธอเพลิดเพลิน

นี่คงลืมหลานเขยขวัญไปเสียสนิทแน่ๆเลย…

มารดาของเธอก็ดูจะชอบกับต้นอะไรก็ไม่รู้ที่คุณปู่ของเขาบอกว่า
วิจัยและลองเพาะพันธุ์มาหลายต่อหลายครั้งแต่ก็คว้าน้ำเหลว
จนสุดท้าย ก็ทำสำเร็จ เลยชวนคุณย่าและมารดาของเธอไปชมผลงานท่ีอยู่ท้ายสวน
ซึ่งเป็นห้องกระจกสำหรับวิจัยพันธุ์ไม้…
และห้องทดลองนั่นคือสถานที่เดียวที่เธอยังไม่เคยแวะไปเยือน
กลัวว่าจะเดินซุ่มซ่่ามทำอะไรต่อมิอะไรของคุณปู่พังน่ะสิ…

ดารัลจึงเลือกที่จะมานั่งเล่นอยู่บนชิงช้า มองเจ้าดำกับเจ้าขาวของฟาเดล
วิ่งเล่นซนไปมาในสวน วันนี้เธอกะจะปล่อยให้มันวิ่งเล่นอย่างอิสระ
จะไม่จำกัดพื้นที่ให้มันแล้ว เพราะว่านึกสงสาร…

ก่อนจะหันมองไปทางศาลาที่ตอนนี้มีฟาฮาน่านั่งจับจองอยู่
เห็นหน้าตาคร่ำเคร่งกับการอ่านหนังสืออย่างนั้นแล้ว
ดารัลจึงไม่อยากเข้าไปรบกวนนัก

และวันนี้ แขกขาประจำของบ้านก็แวะมาเยี่ยมพร้อมอาหารแมว
ที่ฟาฮาน่าบอกว่าเป็นอาหารไฮโซติดไม้ติดมือมาด้วย…

“ยังไงวันนี้ก็อยู่ทานข้าวเย็นด้วยกันนะคะ…”

ดารัลเอ่ยชวนแขกขาประจำอย่างเคย
ตอนนี้เธอเริ่มสนิทใจกับหญิงสาวผู้นี้แล้ว
แม้จะรู้สึกสัมผัสถึงกำแพงหนาบางอย่างที่เธอเองก็ไม่แน่ใจ

แต่เมื่อหญิงสาวผู้นี้มิได้มีอะไรไม่ดีหรือไม่น่าไว้วางใจ แล้วเธอจะไปตั้งป้อมทำไม…
เธอไม่ชอบระแวงใครโดยไร้พยานแวดล้อม…

“ผู้หลักผู้ใหญ่ของบ้านไปไหนกันหรือคะ…”

นาตาชาเอ่ยถามด้วยแววตาระแวดระวัง…

เพราะเป้าหมายของเธอมันถูกยืดออกไปไกล
เนื่องจากท่านหญิงอะมานีและมารดาของหญิงสาวผู้นี้แหล่ะที่ก้าวเข้ามา…
ปิดประตูทุกบาน ไม่มีช่องโหว่ให้เธอเข้าจัดการตามแผนอะไรได้เลย…

และเหมือนจะเป็นโชคดีที่เข้าข้าง

“เมื่อกี้เห็นเดินมาบอกอย่างพร้อมเพรียงกันว่าจะไปดูสวน
ที่คุณปู่เป็นคนแต่งเองตรงรีสอร์ทด้วยกันค่ะ…ไม่ไกลจากที่นี่
คุณนาตาชาน่าจะรู้จักแล้ว…”ผู้หลักผู้ใหญ่ที่แขกเอ่ยถึง
เดินมาบอกขอตัวไปข้างนอกกับเธอต้ังแต่แขกผู้นี้ยังไม่ได้มาเยือนด้วยซ้ำ…

“ไปกันหมดเลยเหรอคะ…แล้วทำไมคุณรัลถึงไม่ไปด้วยล่ะคะ…”

“ไม่อยากทิ้งบ้านไปค่ะ อีกอย่างฮาน่าก็อยู่ด้วย…โน่นแน่ะ”
ดารัลบุ้ยใบ้ไปทางศาลา…

“กำลังอ่านหนังสือหรือทำรายงานอยู่มั้งคะ…เห็นขยันแบบนี้แล้ว
ไม่นานคุณปู่คุณย่าคงมีมือดีมาช่วยดูแลกิจการแน่ๆค่ะ…”

น้ำเสียงที่ดูชื่นชมจากใจจริง ทำให้คนฟังถึงกับยิ้มเย็น…
ยิ้มที่ดารัลไม่เคยได้เห็น และไม่มีโอกาสได้เห็น

เพราะนาตาชาดูออก และสังเกตมาหลายครั้งแล้วว่า
เด็กสาวคนนั้นมีใจให้ฟาเดลอยู่ไม่น้อย…สายตาเชิดชูบูชาแบบนั้น
ทำไมเธอจะมองไม่ออก มันไม่เคยปกปิดมิดชิด…
และท่าทางตรงไปตรงมาแบบนั้นก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคอะไร
ที่จะทำให้เธอมองความคิดของเด็กสาวไม่ออก…

แต่เพราะความสาว ความสดสวยงดงามของเด็กคนนั้นเปร่งประกายเตะตาเธอน่ะสิ
ความสวยสดใสแห่งวัยของเด็กคนนั้นที่เธอกับดารัลไม่มี
มันมากพอจะดึงดูดสายตาของฟาเดลได้บ้างหรือเปล่านะ…

หรือเธอควรจะยืมมือเด็กคนนั้นมาช่วยงานของเธอก่อนดี…
แล้วค่อยจัดการเขี่ยทีหลัง เพราะดูไปแล้วเด็กคนนั้นกับเธอ
มันกระดูกคนละเบอร์ชัดๆ…

ซึ่งดูไปแล้วเด็กคนนั้นมีโอกาสได้อยู่ใกล้ชิดฟาเดลมากกว่าเธอ
โอกาสที่จะทำให้ดารัลกับฟาเดลมีปัญหาขัดแย้งกันย่อมเกิดขึ้นได้ไม่ยาก
หากใช้ให้เด็กคนนั้นมาเป็นสาเหตุแห่งการขัดแย้งของคนทั้งคู่…

“เดี๋ยวช่าขอไปเดินเล่นในสวนได้มั้ยคะ…บอกตามตรงค่ะว่าชอบสวนที่นี่มาก
ไม่เคยเห็นสวนที่ไหนจะสวยและสมบูรณ์เท่าที่นี่มาก่อนเลย…
คุณปู่กับคุณฟาเดลเก่งนะคะที่ทำให้สวนแห่งนี้สวยได้มากขนาดนี้…”

แววตาชื่นชมนั้นทำให้ดารัลส่งยิ้มตอบกลับไป

“เชิญเลยค่ะ…ตามสบายเลย…”




และเพราะดารัลไม่คิดเอะใจอะไร จนคำพูดนั้นทำให้เธอต้องพบกับ
การสูญเสียของรักไปอย่างไม่มีวันกลับ…

“ฮาน่า เห็นเจ้าชิโระกับคุโระมั้ย…พี่หาจนทั่วแล้ว เรียกแล้วเรียกอีก
ก็ไม่ยอมโผล่หน้ามา…ไม่รู้ว่ามันหายไปไหน…ปกติพอได้เวลากินนะ
มันจะโผล่หน้ามาคลอแข้งคลอขาพี่…แต่นี่เลยเวลากินไปแล้ว
ก็ไม่เห็นโผล่หัวมาเลย…หายไปไหนนะ…อย่าให้เจอนะอย่าให้เจอ”

ดารัลถามหาเจ้าเหมียวกับฟาฮาน่าที่กำลังยืดเส้นยืดสาย
อยู่ตรงพื้นหญ้าใกล้ๆกับศาลา…พร้อมคาดโทษเจ้าสองตัวไปด้วยที่ทำให้เธอ
เหน็ดเหนื่อยกับการตามหาจนเหงื่อซึมขนาดนี้…

“อ้าว…ก็เห็นมันวิ่งซนไปทางสระปลาคาร์ฟไม่ใช่เหรอคะ…
หรือมันจะกระโดดลงบ่อแอบง้าบคอปลาคาร์ฟร้อยปีของคุณปู่ไปแล้วก็ไม่รู้…
คุณปู่ไม่ได้อยู่เฝ้าด้วยนิ…ฮ่าๆ”

ฟาฮาน่าหัวเราะอย่างนึกสนุก เพราะรู้ว่าเจ้าสองตัวชอบไปป้วนเปี้ยน
แถวสระปลาคาร์ฟของคุณปู่เวลาเจ้าของเผลอประจำ
แต่ก็คงทำอะไรไม่ได้…เพราะเห็นทำได้แค่เดินวนเวียนมองปลาคาร์ฟตามันวาวทุกที…
เห็นทีไรแล้วอดเอ็นดูไม่ได้

“พูดเล่นไป…”

“พี่รัลลองไปดูสิคะ…เผื่อจะเจอ…”ดารัลลอบถอนใจ

“ว่าแต่แขกของพี่รัลกลับไปแล้วเหรอคะ…”ดารัลพยักหน้า

“อ้าว…ทำไมพี่ไม่ชวนให้เขาอยู่ทานข้าวด้วยกันล่ะคะ…
เห็นใจดีเอาปลามาให้เจ้าสองตัวประจำ ไอ้สองตัวนั่นก็ดูจะระริกระรี้ทุกที
ที่ได้กินอาหารไฮโซราคาแพงนั่น…มันคงคิดว่าเป็นเนื้อปลาคาร์ฟร้อยปี
ในสระนั่นล่ะมั้ง…ฮ่าๆ”

ฟาฮาน่าซักด้วยสีหน้าเฉยเมย ไม่ได้ให้ความสำคัญนักราวกับถามไปงั้นๆ
ก่อนจะเปลี่ยนเป็นแววตาเอ็นดูเมื่อพูดถึงเจ้าแมวเหมียวสุดที่รักของพี่สาวตรงหน้า
ที่แสนรู้ อีกทั้งยังแสนซนเหลือเกิน…

“เห็นเมื่อกี้บอกว่ามีธุระต้องรีบกลับน่ะ…ก็เลยขอตัวกลับก่อน”
ดารัลตอบพร้อมกับกวาดสายตามองหาเจ้าแมวเหมียวไปด้วย

“มันหายไปนานแล้วเหรอ…”
ดารัลพยักหน้าเมื่อฟาฮาน่าถามด้วยน้ำเสียงจริงจังเป็นครั้งแรก

“งั้นเดี๋ยวฮาน่าช่วยตามหาให้อีกแรง…แต่เชื่อสิ หายไปอย่างนี้
ต้องไปแอบมองปลาคาร์ฟคุณปู่อยู่แน่ๆ…ถ้าไปแถวนั้นนะ
ไม่ลากกลับไม่มีทางกลับเองหรอก…”ฟาฮาน่าจึงเดินไปยังสระ
หรือบ่อปลาคาร์ฟดังกล่าวโดยมีดารัลเดินตามไปติดๆ…

และภาพที่สองสาวเห็นทำให้สองสาวยืนนิ่งตาค้าง ยกมือทั้งสองขึ้นปิดปาก
กับภาพแมวทั้งสองที่จมน้ำหรือจะเรียกว่าลอยอยู่ในบ่อปลาคาร์ฟเคียงกัน
ปลาในบ่อดูจะตื่นตกใจไม่แพ้สองสาว…

ภาพที่เห็น ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าสองชีวิตในบ่อปลานั้นได้จากเธอไปแล้ว

ดารัลน้ำตาไหลโดยไม่รู้ตัว ทั้งรักทั้งสงสารและสมเพชเวทนากับภาพที่เห็น

และเป็นฟาฮาน่่าที่ได้สติก่อน เด็กสาวเดินไปคว้าที่ตักเศษใบไม้ในสระซึ่งอยู่ไม่ไกลนัก
คว้ามาได้แล้วก็เดินมาอยู่ริมสระเพื่อตักร่างอันไร้วิญญาณของเจ้าเหมียวทั้งสอง
ขึ้นมาวางไว้ขอบสระ

ดารัลรีบรุดไปยังร่างของทั้งสองแล้วยกขึ้นอุ้ม กอดมันไว้แน่นร้องไห้สะอื้น…
แม้ไม่มีเสียงดังออกมา แต่ฟาฮาน่าที่นั่งมองภาพนั้นก็อดสะเทือนใจไปด้วยไม่ได้

เด็กสาวปาดน้ำตาของตัวเองทิ้ง…
เธอเองก็ทั้งรักทั้งเอ็นดูเจ้าสองตัวไม่น้อย แม้จะไม่ค่อยได้อยู่กับมัน
ตลอดเหมือนพี่ดารัลที่คงจะรู้สึกเสียใจไม่น้อย…แต่เธอก็เสียใจ
เสียใจที่รู้ว่ามันซนถึงขนาดลงไปตายในสระได้

…มันไม่น่าเชื่อเลย แม้ที่ผ่านมามันจะแอบชอบมาเดินดูปลาคาร์ฟของคุณปู่ที่นี่บ่อยๆ
แต่มันก็แค่เดินดู ไม่เคยคิดจะกระโดดลงไปในนั้น…

เธอถึงรู้ว่าแมวสองตัวนี้แสนรู้และฉลาด…ถึงได้ไม่กระโดดลงไปในสระ

แล้วทำไมวันนี้ เจ้าสองตัวนี้ถึงพร้อมใจกันกระโดดลงไปในนั้น…

เท่าที่เธอรู้…แมวมันพอจะว่ายน้ำเป็นนะ ตอนที่น้ำท่วมใหญ่ที่กรุงเทพฯ
เธอยังเคยเห็นลูกแมวลอยคอว่ายน้ำขึ้นบนบกมาแล้วเลย…

…มันไม่น่าจะมาตายอนาถในสระได้…ไม่น่าตายได้!

“พี่รัล…อย่าเสียใจไปเลยนะคะ…เดี๋ยวเราพามันไปฝังกันนะ…”

ดารัลส่ายหน้าลูกเดียว ไม่พูดอะไรออกมาเลย
มีแต่น้ำตากับท่าทางที่กอดลูกแมวสองตัวนั้นไว้ไม่ยอมปล่อยเป็นคำตอบ

ฟาฮาน่าจึงนั่งลงข้างๆโอบบ่านั้นไว้แล้วลูบเพื่อปลอบประโลม

“ฮาน่าไม่เชื่อหรอกว่ามันจะซนขนาดกระโดดลงไปในสระ…
แล้วไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ก่อนตาย…แมวพี่รัลแสนรู้จะตาย”

ถ้อยคำดังกล่าวทำให้ดารัลที่เอาแต่ก้มหน้ามองลูกแมว
ต้องเงยหน้าขึ้นมองคนพูดทันที…เพราะเธอเองก็คิดไม่ต่างกัน…

เธอไม่เชื่อว่ามันจะกระโดดลงไปในบ่อปลาคาร์ฟทั้งๆที่มันแอบมาเที่ยวที่นี่ออกบ่อย…
ก็ไม่เคยมีปรากฏสักครั้งว่ามันจะหาเรื่่องกระโดดลงไปในนั้น…

“แต่…แต่ตอนนี้เราต้องปล่อยให้มันไปนะพี่รัล…มันตายแล้ว…
ทุกชีวิตต้องกลับคืนสู่พระเจ้า…เพราะทุกชีวิตคือสิทธิ์ของพระองค์”

ดารัลพยักหน้า พยายามตัดใจ แต่ก็ยังไม่วายกอดเจ้าลูกแมวสองตัวเอาไว้แน่น
แม้เสื้อผ้าจะเปียกหรือสกปรกอย่างไรก็ไม่ใส่ใจ…
ทำเอาฟาฮาน่ารู้สึกหดหู่…จึงปลอบอีกว่า

“ถึงมันไม่จากเราไปวันนี้ วันนึงมันก็ต้องจากไป…”

“แต่…แต่พี่ดูแลมันไม่ดีเอง…พี่ไม่ดีเอง…พี่ผิดเองฮาน่า…
ต้นเหตุคือพี่ ถ้าพี่จะดูแลใส่ใจมันให้ดีกว่านี้ มีหรือที่มันจะมาตายอนาถ
ในบ่อปลาคาร์ฟที่คุณปู่หวงนักหวงหนา…”

นั่นคือประโยคแรกที่ดารัลเอ่ยกับเธอ ถ้อยคำที่มีแต่โทษตัวเอง…

“ถ้าพี่รัลไม่อยากฝังมัน ให้ฮาน่าทำเถอะนะคะ…”

เด็กสาวอาสาอย่างรู้ใจ…ดารัลจึงยอมส่งร่างที่ไร้วิญญาณของลูกแมวสุดที่รัก
ให้กับเด็กสาวอย่างพยายามจะตัดใจ…ก่อนจะเดินแกมวิ่งไปยังตัวบ้าน…
แล้วหายไปในห้อง ไม่โผล่หน้าออกมาให้ใครได้เห็นอีก

มื้อค่ำบนโต๊ะอาหารจึงปราศจากร่างของดารัล…

“น่าจะเป็นเอามาก เขารักของเขาน่ะนะ…”อะมานีลอบถอนใจ
หันไประบายกับเพื่อนสนิทที่นั่งทานข้าวเงียบๆ

“น้องรัลก็เป็นอย่างนี้ เวลารักก็รักเหลือเกิน…เหมือนพ่อเขานั่นแหล่ะ”

นาดาเห็นด้วยกับคำพูดนั้นของมารดาสามี…เพราะคุณหมอดานีสนั้น
เวลารักก็รักมาก มากพอที่จะต่อสู้ฝ่่าฟันทุกอย่าง…
เขาไม่ยอมให้อุปสรรคมาขวางทางรักของตัวเองได้เลย…

ถ้าไม่ใช่เพราะเขารักเธอมาก เธอก็คงไม่มีกำลังใจต่อสู้เพื่อจะได้อยู่
เคียงคู่เขามาได้แบบนี้แน่…

“ว่าแต่ปลาคาร์ฟคุณปู่ไม่เป็นไรนะคะ…”
ฟาฮาน่ายังไม่วายกังวลถึงสวัสดิภาพของปลาคาร์ฟที่มีอายุร้อยปีของคุณปู่ของเธอ
ซึ่งนับได้ว่าเป็นสัตว์เลี้ยงที่ท่านรักและผูกพันธ์ยิ่งกว่าอะไร

และคำถามดังกล่าว ทำให้ผู้เฒ่าพยักหน้าพร้อมทั้งเข้าใจหัวอก
ของเจ้าของลูกแมวสองตัวที่ไม่ยอมลงมากินข้าว…

...คงจะกินไม่ลง…

“มันยังว่ายน้ำแข็งแรงดีอยู่…สงสัยปู่คงต้องปรับปรุงสระแล้วล่ะ…”

นาดาทานข้าวไปก็ลอบมองไปยังห้องด้านบน

…คงหนีไม่พ้นที่เธอต้องหาตัวช่วย…






ฟาเดลมองใบหน้าที่พริ้มหลับพร้อมคราบน้ำตาก่อนจะค่อยๆนั่งลงบนเตียงนุ่มเบาๆ
มองใบหน้าหวานที่ดูเศร้านั้นด้วยแววตาเจ็บปวด
ก่อนจะเกลี่ยเส้นผมที่กำลังบดบังแก้มใสออกอย่างเบามือ
ลากปลายนิ้วไล้พวงแก้มที่ดูซูบลง ก่อนจะก้มลงจรดริมฝีปากลงกลางหน้าผากมน

…ใครว่าเขาตัดใจจากเธอ เปล่าเลย
ที่เขาห่างจากเธอก็เพื่อพักใจลงชั่วคราวเท่านั้น…

เขาเพียงแค่ขอพักเพื่อที่จะได้มีแรง รอให้ใจหายเหนื่อย
เมื่อเหนื่อยหายเขาจะได้กลับมาสานต่อความตั้งใจ
กลับมาทุ่มใจอย่างเดิมอีกครั้ง…ให้เธอมีใจให้เขาทีละนิดทีละน้อย..ค่อยๆรัก…

ดังนั้น…ไม่มีวันที่เขาจะทิ้งหญิงสาวอันเป็นที่รักของเขาไป…
แม้จะมีบางครั้งที่อยากจะตัดใจแต่สุดท้ายแล้วเขาไม่เคยทิ้งเธอไปได้จริงๆ
จนต้องกลับมาดูใบหน้านี้ในทุกๆวัน

เธออาจไม่รู้ แต่อย่างน้อยเขาก็ได้รู้ รู้ว่าเธอเริ่มมีใจให้เขาแล้ว…


ฟาเดลระบายยิ้มออกมากับสิ่งที่เขาได้เห็นเมื่อห่างออกไป…
หากเธอไม่รักไม่ใส่ใจเขาจริงๆ เธอคงไม่ทนรอเขา เธอคงไม่อยู่ที่นี่แล้ว

เขารู้จักผู้หญิงคนนี้ในระดับหนึ่ง ซึ่งคนดื้ออย่างดารัล
ย่อมดื้อรั้นพอที่จะเดินจากเขาไปเมื่อเขาเปิดทางให้แบบนี้…

แต่เธอก็ไม่ได้จากไป เธอนั่งรอเขาที่ชิงช้าตัวนั้นทุกคืน…

เมื่อก่อนในสวนของเขาไม่ได้มีชิงช้า แต่พอเขารู้ว่าที่สวนบ้านของเธอมีชิงช้า
เขาก็เลยเก็บภาพรายละเอียดของชิงช้าตัวนั้นที่เขาเคยเห็นเธอชอบนั่งประจำ
แล้วทำมันขึ้นด้วยมือของเขา ก่อนจะผูกรอเธอมานั่งไว้ในสวนที่นี่…
จัดบรรยากาศตรงนั้นให้คล้ายคลึงกับที่สวนบ้านเธอ...
และดูเธอจะคุ้นเคยกับมันอยู่ไม่น้อยเลย…



ตอนนี้เขาเชื่อเสียยิ่งกว่าเชื่อว่าเธอมีใจให้เขา…ที่ผ่านมาไม่ใช่มายา…


ริมฝีปากหยักแย้มยิ้มก่อนจะแตะสัมผัสริมฝีปากของเจ้าหญิงนิทราเพียงแผ่วเบา…
ทำเอาเจ้าหญิงนิทราถึงกับลืมตาตื่นแล้วจ้องเขานิ่งด้วยแววตาไม่แน่ใจ

“พี่ฟาเดล…”เธอร้องเรียกชื่อเขาแล้วลุกพรวดยกตัวขึ้น
พร้อมวาดแขนทั้งสองโอบรอบคอเขาแล้วกอดเขาเอาไว้แน่น

“พี่ฟาเดลจริงๆด้วย…”เสียงนั้นเปี่ยมไปด้วยความตื่นเต้นและแฝงความดีใจเอาไว้

ฟาเดลจึงยกแขนขึ้นรวบร่างบางเอาไว้ด้วยเช่นกัน…
มือหนาลูบแผ่นหลังเธอเบาๆราวกับปลอบประโลม…

“น้องรัลขอโทษ…ให้อภัยน้องรัลนะคะ…”

ดารัลวางศีรษะไว้ตรงบ่ากว้างของเขา กระซิบให้เขาได้ยินความในใจของเธอ
ที่เธอไม่คิดจะปิดบังมันอีกต่อไป มันไม่มีประโยชน์ที่จะเก็บไว้อีกแล้ว

“น้องรัลผิดเอง…ผิดที่ไม่ยอมเข้าใจพี่ฟาเดล ผิดที่ไม่ยอมเชื่อมั่นในตัวพี่
ผิดที่ทำให้พี่เสียใจ…แต่น้องรัล น้องรัลก็เจ็บและก็เสียใจ…
น้องรัลเสียใจกับสิ่งที่ทำลงไป…น้องรัลขอโทษ…”

ฟาเดลยกมือขึ้นลูบผมนุ่มนิ่มนั้นเบาๆอย่่างแสนรัก…

“พี่ไม่ได้โกรธน้องรัลเลย…แค่น้อยใจเท่านั้น…
แต่ตอนนี้พี่รู้แล้วว่าน้องรัลไม่ใช่อย่างที่พี่คิด…
อย่าร้องไห้นะครับคนดีของพี่…วันนี้ร้องมาเยอะแล้วไม่ใช่เหรอ…อย่าร้องอีกเลยนะ…”

เสียงทุ้มนุ่มอ่อนโยนที่คุ้นหูทำให้หัวใจที่บอบช้ำกลับมาชุ่มชื่นอีกครั้ง…

“เจ้าขาวกับเจ้าดำของพี่ฟาเดลทิ้งน้องรัลไปแล้ว…”

เสียงสั่นๆเอ่ยขึ้นราวกับยังมิอาจตัดอาลัยได้ ทำให้ฟาเดลดึงร่างนั้นให้ออกห่าง
เพื่อจะได้มองใบหน้าของคนขี้แยได้ถนัด…
แล้วค่อยๆยกมือขึ้นเกลี่ยน้ำตานั้นให้ด้วยท่าทางทะนุถนอม
แววตาอ่อนโยนคู่นั้นทำให้หัวใจที่เคยอ้างว้างกลับมาอบอุ่น…

ความอุ่นที่แผ่ซ่านลงสู่หัวใจ

“แต่น้องรัลยังมีพี่ และพี่จะหาสิ่งทดแทนที่ดีกว่าที่น้องรัลสูญเสียไป
มาให้น้องรัลอีกเท่าที่น้องรัลต้องการ…พี่จะพยายาม…”

รอยยิ้มของเขาดูกระจ่างตาเหลือเกิน…ดารัลจึงยิ้มรับแล้วสวมกอดเขา
ให้สมกับที่เขาไม่อยู่ให้กอดเสียเกือบเดือน เอาให้หายคิดถึง…

ฟาเดลยิ้มกว้างกับท่าทางเหมือนเด็กอนุบาลที่โดนเพื่อนรังแก
จนร้องไห้งอแงมาทั้งวัน…พอได้พบหน้าพ่อตอนมารอรับกลับบ้าน
ก็เลยโผเข้ากอดร้องไห้ ฟ้องโน่นนี่ให้ฟังเสียยกใหญ่…

เขาว่าเขาเลือกภรรยาที่มีอายุแล้วนะ ไหงได้เด็กอนุบาลมากอดแทน…

ดารัลมีหลายอย่างที่ไม่เหมือนมารดาที่เยือกเย็น เหมือนสายน้ำ…
อย่าบอกนะว่าเหมือนหมอดานีส พ่อตาของเขา…

สงสัยจะไม่ใช่แค่หน้าตาแล้วล่ะมั้งที่เหมือนพ่ออย่างกับพิมพ์ออกมาอย่างนี้…

และใช่เขาจะจำไม่ได้ถึงคำขู่ที่พ่อตาเคยแกล้งพูดเข้าหูตอนมาส่งลูกสาวที่สนามบิน…
ซึ่งดูเหมือนจะนกรู้ ส่งภรรยากับมารดามาเป็นสายสืบ…ไม่เบาเลยพ่อตาเขา…

“ถ้ากอดพี่จนหายคิดถึงแล้ว ไปกินข้าวกับพี่นะ…พี่ยังไม่ได้กินข้าวเลย”
ดารัลส่ายหน้า

“น้องรัลไม่หิวเลย ไม่รู้ทำไม มันตื้อไปหมด…”

“ไม่หิวก็ต้องกิน…ไปเถอะ…พี่หิวแล้ว…กินเป็นเพื่อนพี่หน่อยนะ”

ว่าพลางก็คว้าข้อมือของหญิงสาวให้เดินตามเขาไป…
ดารัลจึงเพิ่งสังเกตชุดที่เขาสวมใส่
เขาสวมชุดเดิมตอนที่เดินจากเธอไปวันนั้น…



และยิ่งสังเกตเห็นว่าเขาดูเปลี่ยนไปก็ตอนที่นั่งทานข้าวด้วยกันในห้องครัว…
แม้จะเลยเวลาอาหารค่ำมานานจนคนอื่นๆเข้านอนกันหมดแล้ว
แต่เมื่อมานั่งกินข้าวกับเขาสองคน จากที่ไม่คิดจะแตะต้องอาหารตรงหน้า
หากก็ต้องเปลี่ยนใจเมื่อถูกอีกคนคะยั้นคะยอตักโน่นตักนี่มาให้จนเต็มจาน…

พอเธอไม่กินเขาก็ยกช้อนป้อนให้…
เลยต้องอ้าปากรับเพราะไม่อยากให้อีกฝ่ายเสียน้ำใจ…

เมื่ออาหารลงสู่กระเพาะ ร่างกายก็เหมือนจะตอบรับ
เธอสามารถจัดการอาหารตรงหน้าได้ไม่ยากเย็นเลย…

ยิ่งมีเขาคอยเอาใจใส่ ยิ่งทำให้เจริญอาหารขึ้น…

“น้องรัลซูบลงไปมากรู้ตัวรึเปล่า…”เสียงนั้นเจือความเป็นห่วงและอาทร

“พี่ฟาเดลก็เหมือนกัน…”หญิิงสาวสังเกตเห็นใบหน้าที่ตอบลง
และขอบตาดำคล้ำของเขา ก็อดรู้สึกผิดไม่ได้…

“งั้นป้อนพี่หน่อยสิ…จะได้กินได้เยอะๆ…”แล้วเขาก็เริ่มส่งเสียงอ้อนเธออย่างที่เคยทำ…

ดารัลยิ้มกว้าง และทำตามอย่างไม่เกี่ยงงอน ตักของโปรดส่งให้เขาถึงปาก…

“เราน่าจะผลัดกันป้อน ดีมั้ย…”
แล้วเขาก็ทำตามที่พูดโดยการตักของโปรดของเธอป้อนให้เธอถึงปากเช่นกัน…





เมื่อเสร็จจากการทานอาหารด้วยกัน ดารัลกับฟาเดลก็กลับขึ้นห้องนอน
ดารัลลุกขึ้นอาบน้ำอีกครั้งให้สบายเนื้อสบายตัว…

กลับออกมาก็เห็นเขากำลังนั่งเคาะแป้นพิมพ์อยู่หน้าโน้ตบุ๊คอยู่ตรงโซฟา
ดารัลซับน้ำที่ผม ทั้งๆที่ตอนแรกไม่ได้อยากจะสระผมนัก
เนื่องจากดึกมากแล้วเลยไม่อยากเสียเวลาไปกับการจัดการกับผม
แต่พอรู้สึกสมองตื้อๆก็เลยต้องสระเสียให้หายมึน…

ฟาเดลผละจากจอหันมามองภรรยาที่ยืนจ้องเขาอยู่
ในมือมีผ้าขนหนูผืนเล็กที่กำลังซับน้ำออกจากเส้นผม
เขาก็เลยกวักมือให้เธอเดินมาหา…

หญิงสาวก็ว่าง่ายเดินไปนั่งข้างๆเขา ฟาเดลจึงวางโน้ตบุ๊คลงข้างๆ
แล้วขอผ้าขนหนูนั่นมา ก่อนจะช่วยเช็ดผมให้ดารัลอย่างเบามือแทน

“ผมยาวขนาดนี้ ดูแลยากนะครับ…”

ฟาเดลมองเส้นผมที่ยาวถึงสะโพกของหญิงสาวด้วยแววตาชื่นชม…
เพราะมันไม่ใช่แค่ยาว แต่มันยังนุ่ม สวย ลื่นมือราวกับเส้นไหม…

“อยากจะตัดอยู่หลายครั้งเหมือนกันค่ะ…แต่ตัดใจไม่ได้…
ถึงจะรำคาญบ้างในบางครั้งเวลามันพันกัน แต่ก็ต้องใจเย็น
ค่อยๆแกะค่อยๆคลาย…พยายามทะนุถนอมมัน…
ต้องคอยบำรุงมันสักหน่อย มันจะไม่แห้งเสีย…เพราะน้องรัลรักมันค่ะ…”

“รักผมเหรอ…”

“ค่ะ…”

“รักมากมั้ย…”

“รักมากค่ะ…ก็เลยไม่อยากตัด…ปล่อยให้ยาวไปอย่างนี้แหล่ะ
น้องรัลดูแลได้สบายอยู่แล้วค่ะ…”ดารัลตอบไปก็ยิ้มไป ไม่ทันได้สังเกต
ดวงตาของคนที่กำลังเล่นผมเธออยู่สักนิด

“ง้ันเอาใหม่…พี่จะถามใหม่นะ…”ดารัลเอียงคอมองคนพูดด้วยแววตาสงสัย…
ก็มันน่่าสงสัยอยู่ไม่น้อยนะกับสีหน้าแบบนั้น

“ไอ้ที่บอกว่ารักมากจนตัดใจไม่ได้นั้น…รักผมหรือรักพี่…”

คำถามนั้นทำเอาคนถูกถามถึงกับอึ้ง…

“เอ่อ…ก็…”สงสัยคงต้องสารภาพไปแล้วล่ะ ก็ไม่รู้ว่าจะเก็บไว้ให้ใคร
หรือเก็บไว้ทำไม เพราะคนที่อยากเก็บไว้ให้ เขาก็อยู่ตรงหน้าเธอแล้วนี่

“รักทั้งผมรักทั้งพี่ฟาเดลนั่นแหล่ะค่ะ…”

ตอบเสร็จก็ก้มหน้างุดยื้อผ้าขนหนูมาจากเขาแล้วเอามาเช็ดผมแก้เขิน…

“งั้นก็อย่าตัดมันเลย…พี่ชอบมันนะ…ยาวๆแบบนี้แหล่ะพี่ชอบ…
พี่ชอบผู้หญิงผมยาว ยิ่งยาวยิ่งชอบ…”

ถ้อยคำนั้นทำให้คนที่เอาแต่ก้มหน้าต้องเงยหน้าขึ้นมองคนพูด
และรู้ทันทีว่าพลาดท่าเสียทีให้คนเจ้าเล่ห์เข้าให้แล้ว…

“และก็รักเจ้าของผมสวยๆคนนี้มากๆด้วย…ให้ตัดใจยังไงก็ตัดไม่ขาดเหมือนกัน…”

พูดจบเขาก็ตบรางวัลให้เธอด้วยการมอบจุมพิตให้
ก่อนจะผละออกแล้วพาเธอไปยังเตียงนอน…

“จะทำอะไรคะ…”

ดารัลสะดุ้งตกใจ ฟาเดลเห็นท่าทางตื่นๆนั่นก็หัวเราะในลำคอ

“ก็จะเป่าผมให้น่ะสิ…”ว่าพลางหยิบที่เป่าผมขึ้นมาแสดงเจตนา
ทำเอาคนถามหน้าแดงก่ำ…

“คิดลึกนะเนี่ย…”ก็มันชวนให้คิดลึกมั้ยล่ะ…คนอะไรชอบแกล้ง…
แล้วเขาก็เป่าผมให้เธออยู่นานกว่าผมจะแห้ง…

“พอแห้งแบบนี้แล้วน่าจับมาก…หอมด้วย…”ไม่พูดเปล่า
เขายกมันขึ้นมาสูดดมพร้อมช้อนตาขึ้นมองเจ้าของเส้นผม…

“นี่ก็เป็นอีกหนึ่งมนต์เสน่ห์ของผู้หญิงที่ทำให้ผู้ชายยอมตกลงไปในหลุม…
จะขึ้นมาได้หรือไม่ได้นั่นก็สุดจะรู้” เขาพูดหน้าตาย…

“เป็นบุญของผู้ชายอย่างพี่ที่ได้เห็นและสัมผัสมันคนเดียว…”

เขาว่าไปนั่น…แต่ไอ้คำพูดง่ายๆแบบนั้นทำไมมันทำให้หัวใจเธอเต้นกระหน่ำ
ซ้ำยังรู้สึกดีที่ได้ยินอีก

“อาจจะเป็นกรรมก็ได้นะคะ…ถ้ามันคือหลุมดำ…”ดารัลสวนกลับ

“สนซะที่ไหน…รักแล้วรักเลย…ขุดหลุมแล้วฝังก็ยังได้…
หรือจะให้ลงหลุมนี้แล้วไปโผล่อีกหลุมนึงก็ยังไหว...
สวยและน่ารักขนาดนี้พี่ยอมลงมันทุกหลุมที่น้องรัลขุดไว้รอ…”

วันนี้มันวันอะไรนะ ทำไมเขาถึงได้กลับมาพร้อมกับวาจาที่รุกเธอจนแทบตั้งตัวไม่ทัน…
การกลับมาครั้งนี้ของเขาดูจะทำให้เขาแตกต่างไปจากเก่าก่อน…

“เดี๋ยวพี่ขอไปอาบน้ำก่อนนะครับ…เห็นน้องรัลหอมๆแล้วอิจฉา
และถ้าอยากให้พี่หอม รอพี่ออกมาจากห้องน้ำก่อนนะครับ…”

พูดเสร็จเขาก็เดินเข้าห้องน้ำไป…ดารัลมองตามด้วยหัวใจอบอุ่น วาบหวาน
มันช่างเป็นอะไรที่มหัศจรรย์จริงๆ ตอนกลางวันเธอได้แต่ร้องไห้
แต่พอได้พบสบตาเขา ความมัวหมองในใจกลับมลายสิ้น...

แล้วนี่จึงเป็นอีกอย่างที่ทำให้เธอมั่นใจว่า เธอรักเขาเหลือเกิน!

…แต่ไอ้คำพูดสองแง่สองง่ามนั่นล่ะ…เง้อ…



แล้วเขาก็ทำให้เธอแปลคำพูดสองแง่สองง่ามของเขาได้ในบัดดล
เมื่อเขาเดินออกมาพร้อมชุดคลุมอาบน้ำแล้วก็ก้มลงหอมแก้มเธอ

ดารัลที่กำลังนอนอยู่แต่ยังไม่ได้หลับถึงกับสะดุ้งโหยง
แล้วดีดตัวแบบอัตโนมัติไปยังอีกฟากหนึ่งของเตียงทันที…
นั่งพับขาทั้งสองไปทางด้านหลังจ้องตาคนในเสื้อคลุมอาบน้ำอย่างระแวดระวัง…

แม้จะรับปากแม่มาแล้วว่าจะยอมๆเขา…
แต่พอเอาเข้าจริงๆ ใจมันเต้นตึกๆ

...แม่จ๋า น้องรัลกลัว…

“ฮีๆ…”ฟาเดลหัวเราะในลำคอ มองแม่กวางสาวในท่านั่งพับขาทั้งสอง
ไปทางด้านหลังอย่างเอ็นดู…แล้วเขาก็หันหลังเดินไปที่ตู้เสื้อผ้า

“น้องรัลเตรียมไว้ให้แล้วค่ะ วางอยู่ตรงนั้น…”ดารัลชี้ไปทางเก้าอี้
หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง…ซึ่งมีชุดนอนของเขาวางอยู่…

ฟาเดลยกขึ้นมาพร้อมกับหันมาฉีกยิ้มให้แม่กวางสาว…
ยิ้มแบบนี้ หมายความว่าไง เขายิ้มแปลกๆ…

และเธอก็ได้รู้คำตอบของรอยยิ้มนั้นเมื่อเขาหันหลังให้
พร้อมกับดึงสายเชือกเสื้อคลุมออก ไม่ต้องบอกก็รู้
เมื่ออยู่ๆเขาก็ถอดเสื้อคลุมตัวนั้นต่อหน้าต่อตาเธอ…

“อ๊ายยยยย!”ดารัลอุทานพร้อมกับยกมือปิดตา หลับตาปี๋
เสียงหัวเราะเบาๆของเขาดังสะท้านทรวง

…น่ีเขาแกล้งยั่วเธอให้หัวใจเต้นตึกๆตักๆเล่นใช่มั้ย…

ร้ายกาจ!

“ออกอาการขนาดนี้…คิดอะไรพิเรนๆอยู่ใช่มั้ย…”เสียงเขากระซิบข้างหู
ดารัลส่ายหน้าจนผมสะบัดทั้งๆที่มือทั้งสองข้างยังปิดหน้าอยู่…

“พี่ไม่โป๊แล้ว ลืมตาดูสิ…”

“ไม่เชื่อ…”ดารัลส่ายหน้า

อะไรจะใส่เสื้อผ้าเร็วขนาดนั้น จ้างให้ก็ไม่เชื่อหรอก

“จริงๆ…”แล้วคนที่หลับตาปี๋อยู่ก็เลือกที่จะเปิดตาข้างเดียวดู
แล้วก็เป็นอีกครั้งที่เธอเสียรู้เขา…เมื่อเขาคว้ามือของเธอไป

แถมที่บอกว่าไม่โป๊น่ะ ใกล้ความจริงแค่ครึ่งเดียว
เพราะเขายังไม่ยอมใส่ท่อนบน…อกแกร่ง ผึงผาย อวดมัดกล้ามสวยน่ามองนั่น
กับหน้าท้องแบนราบไม่ลงพุง ซ้ำยังแน่นไปด้วยเนื้อล้วนไร้ไขมันสวนเกิน
ลำแขนแข็งแรงที่ทอดยาว มันทำให้เธอเผลอจ้องมันอย่างลืมตัวอยู่นาน…

เป็นครั้งแรกที่เธอมีโอกาสได้เห็นเขาโชว์หุ่นให้ดู…ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ
ว่าหุ่นเขาที่ซ่อนอยู่ภายใต้เสื้อผ้า มันทำให้หน้าเธอร้อนผ่าวได้โดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว…

สรีระผู้ชายกับผู้หญิงช่างแตกต่างกันเหลือเกิน...
แม้จะเคยเห็นพี่ชายกับน้องชายเปลือยท่อนบนมาแล้วบ้าง
แต่มันก็ไม่ได้ส่งผลอะไรกับเธอเลย
ผิดกับคนตรงหน้า ที่ดูจะมีอิทธิพลเกินจะบรรยาย

...นี่เธอเป็นอะไรไปดารัล!


และนัั่นมันทำให้เห็นสะพานที่เขาทอดมาให้เดินไปหาอยู่ตรงหน้า…

ไม่ ไม่…อย่่าหลงเดินเข้าไปนะ…มันคือหลุมพรางที่เขาขุดไว้

“ลวนลามพี่ด้วยสายตาแบบนี้…พี่คิดค่าเข้าชมนะ”

ไม่พูดเปล่าเขาโน้มตัวเข้าหาแล้วผลักเธอนอนราบลงบนที่นอน…
ดารัลใจเต้นตูมตาม อกสั่นขวัญหนีที่คนที่เกือบจะกลายเป็นชีเปลือย
มาอยู่ใกล้ๆ...แต่ก็ไม่อยากหาเรื่องปฏิเสธเขาอีกอย่างคราวก่อน…
กลัวเขาจะไม่พอใจแล้วหนีไปอีก...

หญิงสาวจึงเอียงหน้าหลบไปอีกทาง หลับตาปี๋

ให้มองเขาน่ะหรือ มองแล้วสั่น หัวใจเต้น ไม่เอาดีกว่า
ตอนนี้สติสตางค์หล่นหายไปอยู่ที่ไหนนะ กลับมาด่วน…
กลับมาช่วยพาฉันออกไปจากสถานการณ์ฉุกเฉินนี้ที

“ฮึๆๆ…”เสียงหัวเราะอย่างสนุกของเขาดังอยู่ข้างๆหูเธอ…

“กลัวพี่เหรอ…กลัวทำไม ทีเมื่อกี้เห็นจ้องเอาจ้องเอาไม่ใช่เหรอ…”

“นะ…น้องรัล…มะ มะไม่ได้กลัวนะ…ปะ…ป่าวกลัวนะ…”ดารัลร้องท้วง
ยิ่งรับรู้ถึงอุ่นไอของเขาใกล้ชิดเข้ามาแบบนี้พาลทำให้หัวใจเธอเต้นแรงเข้าไปอีก
ไม่แน่ใจว่าตอนนี้มันเต้นจังหวะไหน…
รู้แค่เธอแทบอยากจะหยุุดหายใจได้อยู่แล้ว…และอยากจะลม

ถ้าสามารถหายตัวได้ ก็อยากจะหายไปเลย...


“ไม่กลัว แค่ตัวสั่น ใจสั่น เริ่มติดอ่างเท่านั้นเองใช่มั้ย…”

แล้วเขาก็ผละจากเธอ ดีดตัวขึ้น ยกร่างเธอให้นอนลงในท่าปกติ
ก่อนจะยกศีรษะเธอวางลงบนหมอนแล้วห่มผ้าให้อย่างดี…
ทุกความเคลื่อนไหวของเขาตรึงไว้ในหัวใจน้อยๆที่ยังสั่น


หลังจากนั้นเขาก็ก้มลงฝังจมูกและปากลงตรงกลางหน้าผาก
แล้วแตะริมฝีปากลงบนริมฝีปากเธอแผ่วๆแล้วผละออกทันที…

“หลับฝันดีนะครับ…”ดารัลลืมตาขึ้นมองเขาอย่างไม่อยากจะเชื่อ
มีคำถามมากมายซ่อนอยู่ในแววตาคู่งาม…

“หรืออยากให้พี่ทำมากกว่านี้…”ดารัลกลืนน้ำลายลงคอ
ไม่ตอบหรือซักอะไรออกไปให้กลายเป็นบ่วงรัดคอ...

“พี่ขอโทษนะที่วันนั้นใจร้อนเหมือนวัยรุ่นด่วนได้ไปหน่อย…
คงทำให้น้องรัลขวัญหนีดีฝ่อใช่มั้ย…ขวัญเอ๊ยขวัญมา…”

แล้วเขาก็ลูบหัวเธอพร้อมรอยยิ้มอบอุ่น…ก่อนจะลากมือลงปิดตาของเธอ

“หลับซะ…พรุ่งนี้เช้าพี่จะพาไปเที่ยว…”และเหมือนมีมนต์สะกด
หลังจากเขาร่ายมนต์จบดารัลก็หลับไปด้วยความรู้สึกอบอุ่นปลอดภัย
ไร้กังวลพร้อมด้วยความหวังใหม่ในเช้าวันรุ่งขึ้น…

ฟาเดลมองใบหน้าสวยหวานแล้วระบายยิ้มออกมา

เขาเพิ่งสัมผัสนิยามรักซึ่งต่างจากที่เคยสัมผัสมา…ว่า…

ในความรัก แม้จะไม่ได้มีอะไรด้วยกัน
เพียงแค่ได้อยู่ใกล้ๆกัน ได้มองเห็นกัน แค่ได้รับรู้ความเป็นไป
แค่ได้คิดถึง แค่ได้ห่วงใย แค่ได้ดูแลปกป้อง

แค่ได้เห็นอีกฝ่ายมีความสุข ก็มีความสุขอย่างมากมายแล้ว…

และเหนือสิ่งอื่นใด แค่ได้รู้ว่าคนที่เรารักก็รักเราด้วยเช่นกัน…
ก็เหมือนโลกนี้ทั้งใบสวยงาม สดใส กว่าที่เคยเป็นขึ้นมาทันตา…
มันช่างเป็นความรู้สึกที่วิเศษและมหัศจรรย์ใจ...สุขใจเหลือล้น...


และนั่นยิ่งทำให้เขารู้สึกละอายใจที่วันนั้นเขาได้เผลอทำร้ายเธอไป...

ทั้งๆที่ลึกๆแล้วเขาไม่เคยต้องการขืนใจเธอ
หรือเร่งรัดเธอเรื่องบนเตียงเลย แม้เขาจะปรารถนาในตัวเธอสักแค่ไหนก็ตาม
แต่เขาก็อยากให้ทุกๆอย่างค่อยๆเป็นค่อยๆไป อยากให้เธอสบายใจและสมัครใจ
มิใช่หวาดกลัวเขาจนตัวสั่นแบบนั้นด้วยซ้ำ...

ทั้งๆที่เขาก็รู้ว่าเธอไม่คุ้นเคยกับอะไรแบบนั้น และยังใหม่อยู่มาก...
แต่เพราะอารมณ์ที่อยู่เหนือการควบคุมแท้ๆที่ทำให้ทุกอย่างผิดไปจากที่ตั้งใจ...

ยิ่งเห็นปฏิกิริยาเมื่อครู่ เขาก็ยิ่งเอ็นดูเธออยู่ไม่น้อย...
เพราะเธอน่ารักเหลือเกิน

และเมื่อกล่อมเจ้าหญิงของเขาให้หลับสนิทได้แล้ว ฟาเดลก็เดินไปยัง
โซฟาตัวเก่าแล้วนั่งลงเคาะแป้นพิมพ์บนโน้ตบุ๊คต่อ…

ลงมือทำงานไปก็หันไปมองหน้าเจ้าหญิงนิทราของเขาไปด้วย
แค่นี้เขาก็มีกำลังใจที่จะแก้ปัญหาต่างๆที่เกี่ยวกับงานได้ไม่น้อย
ยิ่งได้เห็นรอยยิ้มเธอยามพริ้มหลับ เขาก็แน่ใจว่าเจ้าหญิงของเขา
กำลังหลับฝันดี…




เสียงนกปลุกให้หญิงสาวลืมตา แล้วประสาทสัมผัสแรกก็ทำให้เธอ
หันไปทางโซฟาตัวเก่า ทว่ากลับปราศจากร่างใหญ่ มีเพียงผ้าห่ม
ที่ถูกพับเก็บไว้อย่างดีวางอยู่บนหมอนกับโน้ตบุ๊คที่เปิดอ้าอยู่…

ดารัลเปิดปากหาว บิดขี้เกียจ แล้วลุกจากเตียงมองไปรอบๆห้อง
ก็ไม่พบร่างที่คุ้นตา ในห้องน้ำก็ไม่มี…เธอเลยเดินลงมาดูชั้นล่าง
ไปยังห้องครัว ก็พบเขากำลังยืนชงกาแฟอยู่…

“ตื่นเช้าจังเลยนะคะ…”

ฟาเดลหันมายิ้มรับอรุณภรรยาสาวที่เดินเข้ามาทักทาย
อยากจะบอกเหมือนกันว่าเขาไม่ได้ตื่นเช้าหรอก
แค่ยังไม่ได้นอนเท่านั้นเอง…มีงานสำคัญอีกหลายชิ้นที่ยังไม่เสร็จ
และเขาต้องรีบสะสางให้มันจบ…คืนทั้งคืนเขานั่งตอบจดหมาย
และหาข้อมูลเกี่ยวกับคู่แข่งทางธุรกิจ…

“ละหมาดรึยังคะ…”ฟาเดลส่ายหน้า

“งั้นเดี๋ยวขึ้นไปละหมาดพร้อมกันนะคะ…
ไม่ได้ละหมาดพร้อมกันนานเกือบเดือนแล้ว…”

ฟาเดลพยักหน้ารับแล้วหันมาจูงมือดารัลขึ้นห้อง
โดยอีกมือถือกาแฟติดมาด้วย…


เมื่อละหมาดเสร็จ ฟาเดลก็กลับมานั่งจมอยู่กับกองเอกสารกองใหม่ที่หน้าจอ…
ภาพนั้นทำให้ดารัลที่กำลังสางผมอยู่ถึงกับขมวดคิ้ว…
มือบางวางหวีลงแล้วรวบผมมาไว้ทางด้านซ้าย เดินไปนั่งข้างๆคนตัวโต
มองหน้าจอนั่นสลับกับมองหน้าคุณสามี…

“งานสำคัญเหรอคะ…”

“ครับ…งานด่วน…พี่เพิ่งอ่านเจอเมลล์…ก็เลยคิดว่าวันนี้…”

ฟาเดลช้อนตาขึ้นมองภรรยาแสนสวยที่นั่งข้างๆ ไม่อยากบอกเธอเลยว่า
เขาอาจจะพาเธอไปเที่ยวตามที่พูดไว้ไม่ได้แล้ว

“ไม่เป็นไรค่ะ…วันนี้น้องรัลจะอยู่ช่วยพี่ฟาเดลทำงาน…
อย่าลืมสิคะว่านี่ใคร…รองผู้บริหารบริษัทยาเชียวนะคะ…
มีหรือจะช่วยคุณสามีไม่ไหว…”ฟาเดลยิ้มกว้าง

แค่เธออาสา กำลังใจก็มาเต็มร้อยแล้ว…

และเหมือนดารัลจะอ่านสายตาเขาได้

“กำลังใจอย่างเดียวน่ะ ไม่ได้หรอกนะคะ ต้องกำลังกายด้วย…”

“โอเคครับ…ท่านรองฯ กระผมยอมแล้ว…”ฟาเดลก้มหัวยิ้มหยอก

“ง้ันเดี๋ยวน้องรัลลงไปทำอะไรให้ทานกันก่อนนะคะ
แล้วเดี๋ยวจะขึ้นมาช่วย พี่ฟาเดลก็จดๆเอาไว้นะคะว่าจะให้น้องรัล
ช่วยอะไรตรงไหนได้บ้าง…เพราะกองทัพต้องเดินด้วยท้อง…”

พูดจบ สาวเจ้าก็เตรียมจะลุกขึ้น
ทว่า ฟาเดลกลับรั้งข้อมือไว้แล้วหอมแก้มใส
ที่ลูบแป้งฝุ่นจนหน้าผ่องไปสองฟอด…

“ชื่นใจ…”

“แสดงว่าให้ไปได้แล้วนะคะ…”ฟาเดลจึงยอมปล่อยมือ
ก่อนจะมองตามร่างบางที่เดินลับไปแล้วหันกลับมาจดจ่ออยู่กับงานตรงหน้า
เนื่องจากก่อนบ่ายโมงเขาต้องออกไปประชุมสำคัญ…



แต่เมื่อลงมาข้างล่าง มารดาของเธอกับแม่บ้านจองห้องครัวไปเรียบร้อยแล้ว
แถมยังไล่ให้เธอขึ้นมาเอาใจคุณสามีอีก…

ดารัลเลยกลับเข้ามาในห้องอีกครั้งก็เห็นคนที่กำลังทำงาน
อย่างเอาเป็นเอาตายเมื่อครู่ฟุบหลับคาคอมพ์ไปเสียแล้ว…

เห็นภาพนั้นแล้วก็ชักจะเห็นใจ นี่แสดงว่าเมื่อคืนต้องไม่ได้หลับแน่ๆ
ถึงได้มีสภาพเช่นนี้ ว่าแล้วดารัลก็เดินเข้าไปหา…
คุกเข่าลงนั่งข้างๆเขา เพียงแตะเขานิดเดียว ร่างยักษ์ก็สะดุ้ง…
แล้วดีดตัวกลับมานั่งตัวตรงได้โดยอัตโนมัติ
ทำให้ดารัลถึงกับหัวเราะเสียงใส

“พี่ฟาเดลดูท่าจะเป็นเอามากๆ…สารภาพกับน้องรัลมาเดี๋ยวนี้เลยว่า
เมื่อคืนยังไม่นอนใช่ไหม…และดูจะไม่ใช่แค่เมื่อคืนซะด้วย…
หน้าตาอิดโรยแบบนี้…จะเข้าประชุมไหวรื้อ…”ฟาเดลสบตาคนพูดนิ่ง

“รู้ได้ไงว่าวันนี้พี่มีประชุม…”

“ก็แล้วที่จัดเตรียมอยู่นี่มันไม่ใช่หรือคะ…”

ดารัลที่เคยเป็นผู้บริหารมาก่อน มองเพียงผิวเผินก็พอจะรู้แล้วว่า
ที่เขากำลังตระเตรียมอยู่นั้น เป็นเอกสารสำหรับการประชุม

“ตอนแรกพี่ไม่รู้ว่าจะมีประชุมสำคัญระดับประเทศ
เพิ่งจะได้อ่านรายละเอียดที่เลขาฯของพี่ส่งมาให้เมื่อคืน…

จริงๆเลขาฯพี่เคยเตือนพี่แล้ว…แต่พี่ลืมเรื่องวันเวลาเสียสนิท…”

ฟาเดลอธิบายถึงสาเหตุที่เขาต้องนั่งถ่างตาให้คุณภรรยาฟังด้วยสีหน้าอิดโรย

“งั้นพี่ฟาเดลบอกเกี่ยวกับหัวข้อการประชุม ข้อมูล
และเอกสารที่ต้องเตรียมมาให้เลยค่ะ…เดี๋ยวน้องรัลช่วย…”

ฟาเดลยิ้มบาง ลูบเส้นผมนุ่มของดารัลเบาๆ…

“พี่ทำใกล้เสร็จแล้วครับ…เหลืออีกนิดเดียวเอง…นี่ไง…”
เขาเริ่มอธิบายเกี่ยวกับการพรีเซ้นท์ที่เขาเตรียมไว้ในโน้ตบุ๊ค

“โหย…พี่ฟาเดลเชยมาก…มาค่ะ…เดี๋ยวน้องรัลช่วย…
เรื่องโปรแกรมพรีเซนเตชั่นน่ะขอให้บอก…
จะเอาโลดโผนขนาดไหน...ดารัลจัดให้…”

หนุ่มนักจัดสวนถึงกับทึ่งกับความสามารถของหญิงสาว
ที่เข้ามาช่วยจัดการงานพรีเซ้นท์ให้เขาอย่างคล่องแคล่วว่องไว

เขายอมรับว่าพอจะใช้งานโปรแกรมตัวนี้ได้ในระดับพื้นฐาน
แต่ไม่ชำนาญจนถึงขั้นช่ำชองหรือขั้นเทพแบบเธอ…

ยิ่งดูเธอสนุกกับการใช้เทคนิคและลูกเล่นของมันที่เขาไม่เคยรู้
และไม่เคยสัมผัสหรืออีกนัยคือใช้ไม่เป็น…เขาก็ยิ่งไม่แปลกใจเลย
ว่าทำไมผู้หญิงคนนี้ถึงได้เกิดมาเป็นลูกสาวคนโตของคุณหมอดานีส…

และมีพี่ชายที่เก่งเข้าขั้นอัจฉริยะอย่างดารุสที่เขาเคยสัมผัส
ถึงความสามารถมาแล้วกับตัว…

ดารุสทำงานได้รวดเร็วฉับไว คิดเร็วทำเร็วและไม่เคยพลาด…
การตัดสินใจชี้ขาดก็เฉียบคม ยากจะหาข้อติติงได้…
งานทุกชิ้นเนียบและสมบูรณ์แบบเสมอ…

“เรียบร้อย…”ดารัลยิ้มอย่างพึงพอใจให้กับผลงานการนำเสนอของตัวเอง
ที่ปรากฏบนหน้าจอแล้วหันมาทางคนตัวโตเพื่อขอความเห็น
ก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆกับภาพที่เขาฟุบหลับลงบนโซฟาไปเรียบร้อย
ตั้งแต่เมื่อไหร่แล้วก็ไม่รู้…

ดารัลจึงบันทึกงานแล้วส่งไฟล์ดังกล่าวเข้าอีเมลล์ส่วนตัวของเธอ
ที่มีแค่เธอและคนในครอบครัวเท่าน้ั้นที่รู้…เผื่อว่าคอมพ์ตัวนี้
อยู่ๆเกิดมีปัญหาขึ้นมาจะได้ไร้กังวล…

แล้วหันมาจัดแจงให้เขาได้นอนในท่าสบายๆ และไม่ลืมห่มผ้าให้เขา

เมื่อทุกอย่างเสร็จสรรพหญิงสาวจึงมองภาพผลงานการจัดวางของตัวเอง
เอียงคอมองใบหน้าคม หล่อไม่ปันใครที่กำลังพริ้มหลับแล้วระบายยิ้มออกมา
ด้วยความสุขใจ…นั่นยิ่งทำให้เธอแน่ใจ ว่าเธอรักเขาเข้าแล้วจริงๆ...

"พี่มีริมฝีปากที่สวยมากจริงๆ...พี่ฟาเดล"

ดารัลเผลอหลุดปากพึมพำออกไปดังใจคิด
เมื่อจ้องมองเรียวปากนั่นของเขาอยู่เป็นนาน
ก่อนจะวกกลับไปมองใบหน้านั้นอีกครั้ง
อดใจไม่ไหวที่จะก้มลงไปหอมแก้มสากน่ามองนั้น

…เขาจะหาว่าเธอแอบลักหลับเขารึเปล่านะ…แต่ช่างเธอ…
หลับเป็นตายขนาดนี้ เขาคงไม่รู้หรอก…



เพราะนี่เป็นเวลาเดียวที่เธอจะสามารถมองหน้าเขาได้เต็มๆ
ได้สำรวจและพินิจมองเขาได้เต็มที่
โดยไม่ต้องกลัวสายตาคมๆเป็นประกายราวกับลูกแก้วใสของเขา
จับจ้องมาให้ได้เขินอาย...

“หลับฝันดีนะคะ แล้วใกล้ถึงเวลาน้องรัลจะมาปลุก…”




ฟาเดลรู้สึกตัวขึ้นมาอีกครั้งก็พบกับเจ้าของผมนุ่มสลวยที่ถูกรวบเป็นมวยสวย
เอาไว้กลางศีรษะพร้อมปิ่นปักผมที่เขาเคยทำให้เป็นของขวัญวันแต่งงานให้กับเธอ
แต่เพิ่งจะเห็นเธอนำออกมาใช้งานก็ตอนนี้…


นับว่ามันเป็นปิ่นปักผมอันแรกในชีวิตที่เขาคิดและประดิษฐ์มันขึ้นมา
ด้วยสมองและสองมือของเขาเอง...เพียงแค่คิดว่าเธอจะสวยแค่ไหนถ้าได้ใส่
เครื่องประดับสักอย่างบนผมนุ่มๆที่เขาเคยได้เห็นและสัมผัสแค่ครั้งเดียว
ก่อนแต่งงานซึ่งก็คือตอนที่เธอเป็นลม

เขาจึงไม่ลังเลที่จะลองออกแบบและประดิษฐ์ปิ่นอันนี้ขึ้นมา
และยิ่งเห็นมันปักอยู่บนศีรษะสวยๆของเธอแล้ว
เขาก็ยิ่งมั่นใจว่าเขาคิดไม่ผิดที่ลงแรงไปกับมัน...

ก่อนจะเปลี่ยนทิศทางหันไปมองนิ้วทั้งสิบของเธอที่นั่งเคาะแป้นพิมพ์ลงบนคีย์บอร์ด
ของโน้ตบุ๊คของเขาอย่างตั้งอกตั้งใจ…

“ทำอะไรครับ…”ดารัลหันไปยิ้มหวานให้คนที่เพิ่งตื่นแล้วหันกลับมาที่หน้าจอ
พร้อมกับตอบคำถามนั้นไปว่า

“เห็นพี่ฟาเดลทำงานตัวนี้ค้างอยู่ ก็เลยลองหาข้อมูลเสริมให้
และนำมาทำเป็นพรีเซ้นเทชั่นให้ค่ะ…มันเป็นงานถัดไปไม่ใช่หรือคะ
น้องรัลแอบเปิดดูตารางงานของพี่ที่เลขาฯเขาทำตัวแดงๆเอาไว้ให้แล้ว”

ดารัลพูดในขณะที่สายตาก็ยังคงเคาะแป้นพิมพ์ผสมผสานการใช้เมาส์ลาก
ที่เธอนำมาต่อพ่วงเสริมในภายหลังเพื่อความสะดวกในการใช้งาน…

ฟาเดลจึงลุกขึ้นมองผลงานของเธอแล้วก็อดไม่ได้ที่จะตบรางวัลให้คนเก่ง
ด้วยการหอมแก้มเสียสองฟอด...

ขนาดว่าเขาไม่ได้พูดหรืออธิบายเกี่ยวกับตัวงานดังกล่าวให้เลย
เพราะเผลอฟุบหลับไปตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่แน่ใจ แต่เธอกลับทำมัน
เสียจนกลายเป็นผลงานระดับมือโปร…เนียบขนาดนี้เขาจะต่อว่า
หรือติติงอะไรได้อีก…

“รู้เรื่องโรงแรมและรีสอร์ทด้วยหรือนี่…”

“ก็ไม่เห็นจะยาก เมื่อกี้น้องรัลลงไปสอบถามข้อมูลจากกูรูทั้งสี่ท่านที่อยู่ด้านล่าง…
เลยได้ข้อมูลชั้นเยี่ยมมาทำเป็นพรีเซนเตชั่นให้พี่ฟาเดลเพียบเลยทีเดียว…
แล้วก็ลองค้นดูรูปภาพโรงแรมและรีสอร์ทของพี่ในคอมพ์ตัวนี้ดู
เห็นมีออกเยอะแยะ และพี่ก็จัดเก็บแยกแยะข้อมูลเป็นหมวดหมู่
ที่ง่ายต่อการค้นหาและง่ายต่อการเข้าถึงและเข้าใจ…
ลดทอนเวลาของน้องรัลไปได้เยอะเลย…

แต่ถ้ามีตรงไหนผิดพลาดเพราะความไม่รู้ของน้องรัล
พี่ฟาเดลก็ช่วยบอกด้วยนะคะ…เดี๋ยวน้องรัลแก้ให้…”

ฟาเดลฟังคนจ้อไปก็จ้องผลงานบนหน้าจอไปด้วย…

“ก็โอเคนี่ครับ…รูปแบบสวยดี…สวยและรวดเร็วกว่าพี่ทำหลายพันเท่าทีเดียว…
บอกตามตรงว่าพี่ชอบ…”

“งั้น…งานนี้ต้องมีรางวัลพาเที่ยวฟรีกินฟรีที่พักฟรีนะ…ห้ามเบี้ยวด้วย”

“แล้วพี่ก็ยินดีให้น้องรัลหอมแก้มฟรีๆด้วย…”ฟาเดลเสริมให้

ทำเอาคนที่กำลังยิ้มกริ่มถึงกับตาโต

…นี่อย่าบอกนะว่าเขารู้ว่าเธอแอบลักหลับเขาน่ะ…

และดูเสียงหัวเราะของเขาสิ…ดวงตาวิบวับระยับแบบนั้น ต้องใช่แน่ๆเลย…

"แถมให้จูบฟรีๆด้วยอีก..."ดารัลเบิกตากว้างอย่างหวาดหวั่นไปกับคำพูดแฝงนัยยะ
ซ่อนเร้นนั่น...ชักไม่แน่ใจขึ้นมาแล้วว่าคนที่เธอเห็นว่านอนหลับอยู่นั้น
จะไม่ได้หลับลึกจริงๆอย่างที่เธอคิด...

"ไม่ว่าจะยามหลับหรือยามตื่น...เพราะมันมีไว้เพื่อน้องรัลคนเดียว"
ว่าพลางเขาก็ยกนิ้วขึ้นแตะและไล้ริมฝีปากของตัวเองไปด้วย ทำเอาดารัลหน้าแดง

แง้....ใช่จริงๆด้วย...ตอนนั้นเขาไม่ได้หลับลึกจริงๆ...

คนอะไรเจ้าเล่ห์...ร้ายกาจ!

“แต่ตอนนี้ต้องลุกขึ้นไปอาบน้ำค่ะ น้องรัลเตรียมชุดหล่อและเท่
เอาไว้ให้เรียบร้อยแล้ว…”ดารัลเบนเข็มไปทางอื่นทันที่ที่ได้โอกาส

เรื่องอะไรจะปล่อยให้เขาถล่มเธอต่อล่ะ…
คิดจะหาทางต้อนให้จนมุมหรือยอมรับง่ายๆน่ะไม่ง่ายนักหรอกนะคะพี่ฟาเดลขา…

“ส่วนอาหารเช้าก็รวมไว้กับอาหารเที่ยงเลยก็แล้วกันนะคะ
เพราะนี่ก็ใกล้เวลาอาหารเที่ยงแล้ว…”

ดารัลจึงดันร่างยักษ์ที่ยังไม่ยอมขยับเขยื้อนให้ลุกไปยังห้องน้ำ…

“พี่ว่า พี่เปลี่ยนเลขาฯดีกว่า…”

“อ๊ะ…อย่าแม้แต่จะคิดนะคะ…”ดารัลทำตาโตจ้องคนพูดอย่างรู้ทัน

“ทำไมล่ะ…ก็เห็นทำงานคล่องเชียว…แถมยังมีบริการพิเศษสุดประทับใจอีก...”

ไอ้ประโยคหลังๆนี่กลิ่นมันทะแม่งๆอยู่นา ดารัลขนลุกขึ้นมาอีกแล้ว
ก่อนจะรีบปัดความรู้สึกนั้นทิ้งหันมาดุคนที่ดีแต่หาเรื่องยั่วว่า


“อย่าหาเรื่องให้เลขาฯเขาเดือดร้อนตกงานเลยค่ะ…
น้องรัลไม่อยากทำบาปทำกรรมกับใคร…ขอเป็นผู้ช่วยท่านประธานที่บ้านก็แล้วกัน…”

“งั้นพี่จะต้องให้เงินเดือนเท่าไหร่ดีถึงจะคุ้มค่ากับงานที่ทำให้พี่”
แววตาเจ้าเล่ห์ส่องแสงแพรวพราว…

“เงินเดือนคงไม่ต้อง…”

“ไม่เอาจริงๆอ่ะ…”ฟาเดลถามย้ำอย่างนึกสนุก

“ไม่เอา…พี่ฟาเดลอย่าลืมซิ ว่าตอนนี้น้องรัลกินตำแหน่งอะไรอยู่…”

เท่านั้นแหล่ะ ฟาเดลก็เปิดเสียงหัวเราะดังอย่างไม่เกรงใจใคร
นานๆจะได้หัวเราะอย่างนี้สักที…

“นั่นน่ะสินะ…พี่ลืมไปได้ไงว่าตำแหน่งภรรยาท่านประธานน่ะ
เขาได้ครึ่งหนึ่งของทรัพย์สินของท่านประธาน…
เงินเดือนเลขาฯหรือผู้ช่วยอะไรนั่นคงเทียบไม่ติด…”

ดารัลยิ้มพราวอย่างสาวเจ้าเล่ห์พราวเสน่ห์กลับไปยังท่านประธาน

“ดังนั้น…ท่านประธานต้องขยันทำมาหากินให้มากๆ
จะได้เป็นการเพิ่มทรัพย์ให้ภรรยาท่านประธานไปด้วยในตัว…
และตอนนี้ก็ได้เวลาอาบน้ำแล้ว…ลุกค่ะ…ลุก…”

ดารัลสรุปแล้วฉุดแขนของคนตัวโตให้ลุกขึ้น
แต่ฉุดไงไม่รู้คนฉุดกลับถูกคนถูกฉุดฉุดลงไปนั่งแหมะลงบนตักเขาไปได้…

“ไม่มีของหวานก่อนกินของคาวค่ะ…”ดารัลยกมือปิดหน้าตัวเอง
อย่างรู้เท่าทันความคิดของอีกฝ่าย

“แล้วหน้าก็ยังไม่ล้าง ฟันก็ยังไม่แปรง…อย่านะ…”

ฟาเดลหัวเราะอย่างมีความสุขให้กับท่าทางและถ้อยคำของคนร่างบาง
ที่ดูจะไม่ยอมให้เขาได้กินของหวานตรงหน้าง่ายๆ…

“โอเคๆ พี่จะยอมไปอาบน้ำล้างหน้าแปรงฟันก่อนก็ได้…”
ฟาเดลยอมผละออกจากเจ้าร่างบางอย่างว่าง่าย…

เท่านั้นแหล่ะที่ดารัลคนนี้ต้องการ…ไปเลยค่ะไป…เดินไปเลยนะคะ
เดินเข้าห้องน้ำไปเลย…อ๊ะๆ อย่าหันกลับมานะ
ไม่งั้นจะวิ่งหนีลงไปข้างล่างไม่ช่วยงานต่อแล้ว…

“แต่พี่อยากให้น้องรัลช่วยเพิ่มทรัพย์ให้พี่ด้วย…”

นั่น ยังไม่มีทีท่าว่าจะยอมปิดประเด็นนี้ลงง่่ายๆ…

...ทำไมนะ ไอ้การต้อนผู้ใหญ่ไปอาบน้ำมันถึงได้ยากเย็นอะไรเยี่ยงนี้…

“ลูกของเราสองคนคือทรัพย์ชนิดหนึ่ง…”

ดารัลตาโต อึ้งกับสิ่งที่ได้ยิน ไม่แน่ใจว่าตัวเองได้เผลออ้าปากค้างไว้หรือเปล่า
และยิ่งอึ้งเมื่อ…

“ระหว่างรอพี่กลับมาจากประชุม น้องรัลก็ช่วยคิดหาทางเพิ่มทรัพย์
และแนวทางการบริหารจัดการทรัพย์ดังกล่าวให้พี่ด้วยนะครับ…
ขอเป็นแผนบริหารการจัดการและดูแลรักษาในระยะยาว…
ต้องใช้อะไรบ้าง ขอให้บอกพี่…เรื่องปริมาณพี่ไม่เกี่ยง…
เมื่อโรงงานพร้อม เรื่องวัตถุดิบพี่จัดหาให้ได้ครับ…ไม่ต้องห่วง…”

เขาว่าพลางถอดเสื้อที่สวมอยู่ต่อหน้าต่อตาเธอแล้วหันมายิ้มให้เธอ
ใช่ เขายิ้ม ยิ้มแปลกๆเหมือนเมื่อคืนนั่นแหล่ะ
จงใจยิ้มในแบบที่รู้ว่าเธอต้องอ่านออกเสียด้วย…

แล้วเขาก็ปาเสื้อตัวนั้นมาให้ ดารัลรับมาอย่างเคืองๆ
แต่ส่งสายตาพิฆาตไปได้ไม่กี่วินาที เขาก็ทำท่าจะปลดกางเกงของเขาออก
คราวนี้ดารัลรู้ และเพราะรู้ก็เลยต้องรึบหันหลังให้
หลับตาปี๋ กอดเสื้อเขาไว้แนบอกราวกับว่ามันจะช่วยอะไรเธอได้อย่างนั้นแหล่ะ

แล้วเสียงเขาก็ตามมาหลอกหลอนเธออีกระลอก…

“เพราะพี่เชื่อว่าตำแหน่งของน้องรัล'ยิ่งใหญ่'พอจะทำหน้าที่นี้ได้แน่ๆ
การจะให้พี่ทำคนเดียว เห็นจะไม่ได้ ต้องพึ่งตำแหน่งของน้องรัล
เข้าช่วยด้วยอีกแรง...เพราะมันคือภารกิจที่เราต้องพึ่งพากันและกัน
ถึงจะสำเร็จเสร็จสิ้นกระบวนการ...”


ดูเขาจะเน้นย้ำตรงคำว่า 'ยิ่งใหญ่' ให้เธอสะท้านทรวงอย่างจงใจ

แล้วกางเกงของเขาก็ถูกโยนมากองแทบเท้าเธอ…

ดารัลอ้าปากหวอก่อนจะกลืนน้ำลายลงคอเมื่อฟังถ้อยคำที่กินความนัยนั้น…

แล้วไหนจะเสียงหัวเราะชอบใจของเขาตอนเดินเข้าไปในห้องน้ำนั่นอีก…
มันช่างบาดจิตบาดใจเธอเหลือเกิน…

ไม่อยากจะจินตนาการถึงคนที่ถอดเสื้อผ้าทั้งชุดแล้วโยนมาให้เธอ
ว่ามีสภาพเช่นไรตอนเดินเข้าไปในห้องน้ำ…เฮ้อ…

เธอต้องอกสั่นขวัญหนีไปอีกกี่วันกี่เดือนกันนะเนี่ย…
ในเมื่อเขาตั้งใจยั่วเธอชัดๆ! เขาจงใจกวนประสาทและกวนใจกันเห็นๆ!

อย่าให้ถึงคราวเธอบ้างก็แล้วกัน คราวนี้จะยั่วคืนเสียให้เข็ด…เอาให้หัวปั่นเลยทีเดียว
คิดได้ดังนั้นดารัลก็กระหยิ่มยิ้มย่อง หากเมื่อใคร่ครวญดูอีกครั้ง…

...เอ๋ ยั่วเหรอ…ไม่ดีมั้ง…ยั่่วเขาแล้วเราเสียเปรียบนา…ไม่เอาดีกว่า…
ยังไม่อยากจะเล่นกับไฟ ยังจำไฟในพายุวันนั้นได้ติดตาตรึงใจ…


เฮ้อ...นี่เธอลืมไปได้อย่างไรนะ…ว่าปกติแล้ว
ทุกๆตำแหน่งมักจะมาพร้อมกับหน้าที่…แง้…

...แม่จ๋า…น้องรัลกลัว!

แค่เจอเขายั่วใส่ น้องรัลก็แทบจะลืมหายใจอยู่แล้ว…




แล้ว แล้วน้องรัลต้องทำไงถึงจะผ่านพ้นสถานการณ์เหล่านี้ไปได้...

...น้องรัลกลัวจ๊ะแม่จ๋า…




...โปรดติดตามตอนต่อไป....

ขนาดว่ากลัว ยังกล้ากระตุกหนวดเสือ...
ดีว่าเป็นเสืออดทน...เลยโดนไปเบาะๆ...ฮ่าๆ



ตอนนี้พ่อเสือโผล่หัวออกมาจากถ้ำแล้ว...อิอิอิ
และดูเหมือนว่าพอได้พ่อเสือกลับมา
ก็ลืมลูกแมวตัวน้อยๆเสียสนิทเลยนางเอกของโย...อิอิอิ


ตอนหน้าว่าจะเอาพ่อตาของฟาเดลมาให้กรี๊ด
เห็นตั้งใจจะยกไพร่พลขนกันมาเหยียบลูกเขย...


งานนี้จะได้เหยียบหรือไม่ มาลุ้นกันนะคะ...

นางร้ายของโยแผลงฤทธิ์แล้ว แม้แผนการจะดูตื้นๆง่ายๆ

แต่คนคิดตื้นๆง่ายๆแบบนี้แหล่ะ ที่สร้างความปั่นป่วนวุ่นวายให้สังคมอยู่ไม่น้อย...
เพราะขยันสร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้านไม่หยุดไม่หย่อน...
เหมือนยุงนั่นแหล่ะค่ะ ตรงไหนมีน้ำเน่าก็มียุงชุมหน่อย
(อันนี้ไม่ได้ว่านิยายตัวเองน้ำเน่าน้าาาาาา อิอิ)
แม้ยุงมันจะกัดและดูดเลือดเราไปบ้างโดยไม่ถึงตาย หากก็น่ารำคาญสุดๆ...
แต่ถ้าเจอยุงลายที่มีเชื้อร้าย ก็อาจตายได้เหมือนกานนนนน...


ตอนนี้ยุงไม่ตาย แต่แมวตายไปสอง...
นับว่าจิตใจโหดเหี้ยมเหมือนกานนะ ฆ่าแมวอำพรางคดีได้น่ะ...ฮ่าาาาา



...คุยกับนักอ่านจากตอนที่แล้วค่ะ...

1.คุณคิมหันตุ์...แสนรักขนาดนั้น หนีไปไหนไม่ไกลหรอกค่ะ
อุตส่าห์ทำมาทุกหนทางเพื่อจะได้นางมานั่งแท่นตำแหน่งภรรยา
เรื่องว่าจะตัดอาลัยทิ้งไปนั้นคงไม่ต้องคิดกันแล้วล่ะค่ะ...อิอิ
อึดและทนเท่านั้นที่ครองโลก!!!!!!! เหอๆ

2.คุณแว่นใส...โผล่มาแล้วค่ะ โผล่หัวออกจากถ้ำมาแล้ว
มาพร้อมลวดลายที่เคยซ่อนเอาไว้ซะด้วย แสดงว่าที่หายไปนั้น
ก็เพื่อไปลอกลายมานี่เอง...จากพ่อแมวกลายเป็นพ่อเสือไปแล้ว...
ตอนนี้เลยชักจะออกลาย...ฮ่าๆ

3.คุณตุ๊งแช่...ตอนหน้าตามมาเหยียบแน่ค่ะ...รอกรี๊ดได้เลย...
งานนี้หมอดานีสเขายกไพร่พลมาถล่มคาสบลังก้าเสียด้วย...ฮิฮิ
แต่ดูๆไปแล้ว เชลยน่าจะเต็มใจยอมให้พ่อเสือขย่ำอยู่นะคะ...
งานนี้ที่คิดว่าหมอดานีสร้ายก็คงจะร้ายสู้น้ำค้างเมียสุดที่รักไม่ได้หรอกค่ะ...
เพราะรายนั้นเขาล้ำลึกมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว...
ไอ้ที่ส่งมาเป็นสายสืบให้ตัวเองน่ะ หมอดานีสเขาคิดไปเองทั้งน้านนนนนนนน...

4.น้องเจื้อยแจ้ว...แล้วนินจาก็กลับมาซับน้ำตาให้เมียสุดที่รักแล้วค่ะ...
แถมยังดูเปี๊ยนไป๋ซะด้วย...มาดูความเปลี่ยนแปลงของฟาเดลในลุคใหม่กันค่ะ...
อิอิ...ส่วนตอนหน้าคงได้พบกับความน่ารักฮาๆจากครอบครัวดารัลค่ะ...
และไม่ลืมพกความน่ารักฉบับหะบีบี้มาให้ด้วยจ้าาาาาาา...



สุดท้ายไม่ท้ายสุด...

ขอบคุณนักอ่านทุกๆท่านที่เข้ามาติดตามและกดไลค์ให้กันด้วยนะคะ


...รักษาสุขภาพนะคะ...

"เต่าโย"






yoraya
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 18 ต.ค. 2557, 11:38:45 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 18 ต.ค. 2557, 11:58:42 น.

จำนวนการเข้าชม : 4047





<< บทที่ 12 เรามีเรา   บทที่ 14 รักเดียวใจเดียว 50% >>
คิมหันตุ์ 18 ต.ค. 2557, 12:54:35 น.
เจ้ช่าทำไมใจร้ายฆ่าแมวได้ลงคอน้าาาา


แว่นใส 18 ต.ค. 2557, 13:00:14 น.
่สงสารเจ้าดำเจ้าขาว แล้วมีใครสงสัยไหมว่ามันตายแปลก ๆ


ตุ๊งแช่ 18 ต.ค. 2557, 14:22:31 น.
ไปดูกล้องวงจรปิดเลย บ้านระดับนี้ต้องมี๊ๆๆ ช่วงนี้ขยันมาทุกวันเลย ดีจัง อ่านไปแอบหวั่นใจไป จะวางยาพระนางยังไงนี่ ลุ้นๆๆ


pseudolife 18 ต.ค. 2557, 23:49:04 น.
แหม่ ตอนนี้น่ารักกันทั้งคู่เลยแถมพี่ฟาเดลร้ายกาจขึ้นอีก
อยากให้น้องรัลเผลอตัวยั่วพี่ฟาเดลจัง คงน่ารักน่าดู อิอิ

...

น่ารักจนคนอ่านเกือบลืมเจ้าดำเจ้าขาวเลย พี่ฟาเดลสงสัยเรื่องนี้บ้างไหมน้า


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account