...คาสบลังก้า...ดารัลฟาเดล...(จบแล้วค่ะ)
สืบเนื่องมาจากเรื่อง "อะรูซะตี...เจ้าสาวของผม"
เรื่องนี้จะเป็นเรื่องราวของลูกสาวสุดหวงของหมอดานีส
กับนาดา โดยเรื่องราวของคุณพ่อเมื่ิอครั้งก่อนนั้น
จะเป็นแนา "แต่งก่อนจีบ"
แต่สำหรับรุ่นลูกแล้ว จะเป็นแนว "จีบก่อนแต่ง"
ต้องมาคอยดูกันค่ะว่า จะจีบกันอย่างไร แล้วคุณหมอดานีส
ที่ต้องมารับบทบาทเป็นพ่อของลูกทั้งเจ็ดจะตกอยู่ในสภาพเช่นไร..
แล้วนาดาจะเป็นแม่แบบไหน...
เรื่องราวความรักที่เกิดขึ้นท่ามกลางบรรยากาศของเมือง
"คาสบลังก้า" หรือ "อัดดารัลบัยฎออ์"
ซึ่งแปลว่า..."บ้านสีขาว"
ดินแดนในฝันดั่งต้องมนต์เสน่หาแห่งโมร็อกโก...
กับดินแดนอันแสนอบอุ่นด้วยไอรักแห่งแดนอาทิตย์อุทัย...
พบกับเขาและเธอ...
...ดารัล...ฟาเดล...
หญิงสาวที่หัวใจเปี่ยมล้นไปด้วยความรักความอบอุ่น
จากครอบครัวอันแสนสุขและน่ารัก...
ชีวิตที่มีพร้อมทุกอย่าง ไม่เคยต้องการสิ่งใดอีกแล้ว
เพราะเธอพอใจทุกอย่างที่มีมาตลอด
จนเมื่อเจอกับเขา...ที่นั่น "คาสบลังก้า"
เขาทำให้เธอไม่อาจลบลืมมนต์เสน่หาของที่นั่นได้เลย
ไม่ว่าจะยามหลับหรือตื่น...
กับ
ชายหนุ่มที่เปี่ยมไปด้วยรูปเปลือกที่สวยงามสมบูรณ์
หากภายในใจนั้นยังคงโหยหาไออุ่นแห่งรักจากใครสักคน
มาเติมเต็มหัวใจกำพร้าของเขา...
แล้วเธอคือผู้ที่เขาค้นพบว่ามีทุกอย่างที่เขากำลังต้องการอยู่
ดังนั้น...ไม่ว่าจะต้องทำอย่างไร เขาก็จะปล่อยเธอ
ไปไม่ได้โดยเด็ดขาด!
เรื่องนี้จะเป็นเรื่องราวของลูกสาวสุดหวงของหมอดานีส
กับนาดา โดยเรื่องราวของคุณพ่อเมื่ิอครั้งก่อนนั้น
จะเป็นแนา "แต่งก่อนจีบ"
แต่สำหรับรุ่นลูกแล้ว จะเป็นแนว "จีบก่อนแต่ง"
ต้องมาคอยดูกันค่ะว่า จะจีบกันอย่างไร แล้วคุณหมอดานีส
ที่ต้องมารับบทบาทเป็นพ่อของลูกทั้งเจ็ดจะตกอยู่ในสภาพเช่นไร..
แล้วนาดาจะเป็นแม่แบบไหน...
เรื่องราวความรักที่เกิดขึ้นท่ามกลางบรรยากาศของเมือง
"คาสบลังก้า" หรือ "อัดดารัลบัยฎออ์"
ซึ่งแปลว่า..."บ้านสีขาว"
ดินแดนในฝันดั่งต้องมนต์เสน่หาแห่งโมร็อกโก...
กับดินแดนอันแสนอบอุ่นด้วยไอรักแห่งแดนอาทิตย์อุทัย...
พบกับเขาและเธอ...
...ดารัล...ฟาเดล...
หญิงสาวที่หัวใจเปี่ยมล้นไปด้วยความรักความอบอุ่น
จากครอบครัวอันแสนสุขและน่ารัก...
ชีวิตที่มีพร้อมทุกอย่าง ไม่เคยต้องการสิ่งใดอีกแล้ว
เพราะเธอพอใจทุกอย่างที่มีมาตลอด
จนเมื่อเจอกับเขา...ที่นั่น "คาสบลังก้า"
เขาทำให้เธอไม่อาจลบลืมมนต์เสน่หาของที่นั่นได้เลย
ไม่ว่าจะยามหลับหรือตื่น...
กับ
ชายหนุ่มที่เปี่ยมไปด้วยรูปเปลือกที่สวยงามสมบูรณ์
หากภายในใจนั้นยังคงโหยหาไออุ่นแห่งรักจากใครสักคน
มาเติมเต็มหัวใจกำพร้าของเขา...
แล้วเธอคือผู้ที่เขาค้นพบว่ามีทุกอย่างที่เขากำลังต้องการอยู่
ดังนั้น...ไม่ว่าจะต้องทำอย่างไร เขาก็จะปล่อยเธอ
ไปไม่ได้โดยเด็ดขาด!
Tags: หวานซึ้งโรแมนติก ดราม่า โมร็อกโก คาสบลังก้า ทะเลทรายซาฮาร่า ดารัล ฟาเดล โสภณพสุธ
ตอน: บทที่ 16 แรงปรารถนา
เมื่อตื่นขึ้นมา เสียงใสๆของหะบีบี้ก็ดังเจี๊ยวจ๊าวก่อนใคร
กลางวงล้อมของโต๊ะอาหาร…
“พ่อรู้มั้ยคะ ว่าเตียงนอนของพี่รัลน่ะกว้างมากๆเลย
เรานอนยัดกันสี่คนได้สบายๆ…บีบี้อยากได้เตียงใหญ่ๆแบบนี้บ้างจัง…
กลิ้งยังไงก็ไม่มีวันตกเตียงแน่”
ราวกับตอกย้ำเรื่องที่เขาโดนไล่ออกจากห้องเมื่อคืน
ฟาเดลจึงหันไปทางพ่อตาให้ช่วยขัดตาทัพให้อย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน
“รอให้แต่งงานได้ก่อนแล้วกันนะบีบี้ แล้วพ่อจะสั่งทำเตียงขนาดใหญ่ให้”
คำตอบนั้นเรียกเสียงหัวเราะครืนจากทุกคนได้ดีโดยเฉพาะนาบีล
พี่ชายคู่ปรับตลอดกาลของหะบีบี้
“ว่าแต่ทำไมถึงยุ่งอย่างนี้นะเรา…ไปยึดเตียงนอนพี่เค้า
แล้วเมื่อไหร่ย่าจะได้อุ้มเหลนล่ะบีบี้…”
อะมานีเอ่ยด้วยสีหน้าไม่พอใจพร้อมกับส่งสายตาเอาเรื่อง
ไปยังหลานสาวทั้งสี่ที่ไม่รู้จักโต…
“สงสัยคุณย่าต้องรอเหลนจากบีบี้แล้วล่ะ…เฮะๆ…”
“ทะลึ่งไม่เลิกนะเราน่ะ…เดี๋ยวเถอะ…”อะมานีคาดโทษหลานสาวด้วยแววตาเอาเรื่อง…
ทำเอาหลานสาวตัวน้อยถึงกับก้มหน้างุด
จากหน้าบานเท่าจานดาวเทียมเห็นจะเหลือเพียงคืบเดียว…
ส่วนดารัลนั้นก้มหน้าทานข้าวโดยไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมาสบตาคนที่นั่งอยู่ข้างๆ…
ทำเอาฟาเดลถึงกับลอบยิ้ม แต่เพราะอยากแกล้งเอาคืน
จึงต้องทำเป็นหน้าดุ ไม่พูดไม่จากับเจ้าหล่อน…จะได้รู้สึกสำนึกเสียบ้าง
คราวหลังจะได้ไม่คิดก่อการกบฏเช่นที่ทำเมื่อคืนอีก…
เสร็จจากรับประทานอาหาร คณะทัวร์จากแดนปลาดิบ
ก็เริ่มเดินทางท่องเที่ยวตามโปรแกรมที่ได้วางไว้…
ตั้งใจจะเข้าพักยังรีสอร์ทริมทะเลของฟาเดลเพื่อเปล่ียนบรรยากาศ
ฟาเดลเห็นว่าคณะทัวร์มีไกด์กิติมศักดิ์อย่างคุณปู่กับคุณย่าอยู่แล้ว
เขาจึงถือโอกาสขอตัวกลับไปสะสางงานต่อที่บริษัททัวร์
แล้วจะกลับมาให้ทันร่วมรับประทานอาหารค่ำกับทุกคน…
แต่เพราะมีเหตุวุ่นวายที่บริษัทเกี่ยวกับโครงการใหม่ที่ควบคุมงานโดยนาตาชา
เขาจึงต้องอยู่เคลียร์ปัญหาจนเลยเวลาอาหารค่ำไปแล้ว…
“พี่ฟาเดลอยู่ที่ไหนแล้วคะ…”
ดารัลโทรหาฟาเดลด้วยเพราะห่วงว่าอีกฝ่ายยังไม่ได้ทานอะไรมา
“พี่กำลังออกจากบริษัทครับ…”
“แล้วทานอะไรมารึยังคะ…”
“ยังเลยครับ…กะจะแวะหาอะไรทานที่ห้องอาหารโรงแรมก่อน…
น้องรัลไม่ต้องรอนะครับ…นอนไปก่อนเลย…ไม่ต้องห่วงพี่…
หรือจะรอให้พี่กลับไปนอนกล่อมก็ได้นะครับ…”ดารัลถึงกับหน้าแดง
ก่อนจะวางหูจากเขาไป
แต่ไม่วายเดินไปเดินมาในห้องด้วยรู้สึกร้อนรุ่มในอกอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน…
สายตาก็พยายามทอดมองออกไปยังนอกหน้าตา…
เมื่อเห็นนาฬิกาล่วงเลยไปนานแล้ว แต่คนที่บอกว่ากำลังออกมา
จากบริษัทแล้วแต่ยังมาไม่ถึง ทั้งๆที่ไม่น่าจะใช้เวลามากขนาดนี้
ทำให้ดารัลกดโทรศัพท์หาทางโน้นอีกครั้ง แต่ครั้งนี้กลับโทรไม่ติด
ดารัลเริ่มกระสับกระส่าย…ออกไปยังเคาน์เตอร์เพื่อถามพนักงาน
ต้อนรับว่าเห็นฟาเดลเข้ามาหรือยัง
“ท่านเพิ่งกลับเข้ามาค่ะ…เมื่อสักสิบห้ายี่สิบนาทีนี้เอง…”ดารัลขมวดคิ้ว
ก่อนจะขอตัวเดินกลับไปยังห้องพักอีกรอบ หากก็ไม่ปรากฏร่างคุ้นตาในห้องพักเลย
หรือเขาจะเข้าห้องพักผิด เป็นไปไม่ได้…
“ไปไหนของเขานะ…”ดารัลบ่นพึมพำ แล้วก็ต้องเดินกระสับกระส่าย
ไปมาหน้าบ้านพักของตัวเอง…
แล้วสายตาก็เหลือบไปเห็นรองเท้้าหน้าบ้านพักหลังตรงข้ามกัน
…รองเท้าส้นสูงปรี๊ดของผู้หญิงสี่คู่กับรองเท้าผู้ชายหนึ่งคู่
หญิงสาวอดตั้งข้อสังเกตถึงความไม่ชอบมาพากลไม่ได้
…ปกติรีสอร์ทแห่งนี้จะไม่ต้อนรับแขกในลักษณะแบบนี้นี่นา
และที่สำคัญ…เธอจำรองเท้าผู้ชายคู่นั้นได้…
รองเท้าที่เธอเลือกให้เขาเอง และวางไว้ให้เขาเมื่อเช้าก่อนไปทำงาน
ทำไมมันถึงไปอยู่หน้าบ้านหลังนั้นล่ะ…
ไม่ต้องคิดนาน…ดารัลรีบเดินไปยังบ้านพักหลังนั้น
ก่อนจะยืนรีๆรอๆอยู่หน้าห้องพัก
เพราะไม่แน่ใจว่าควรจะเคาะห้องดีหรือไม่
บางทีอาจจะไม่ใช่รองเท้าของเขาก็ได้…
แต่ด้วยเพราะห่วงอีกฝ่ายมากกว่าอื่นใด
หญิงสาวเลยเลือกที่จะเคาะประตูนั่น…
นานกว่าที่เจ้าของห้องพักจะเปิดประตูต้อนรับ…
“เอ่อ…คือว่า…”เสียงดารัลเอ่ยติดๆขัดๆเมื่อเห็นหญิงสาว
ในชุดนอนบางเบายืนมองเธอด้วยสายตาอ่านยากตรงหน้า
“มีอะไรคุณ…”ดารัลจนด้วยคำพูด แล้วก็ตัดสินใจได้ในที่สุด
“เอ่อ ไม่มีอะไรค่ะ…ฉันขอโทษที่มารบกวน…”
หญิงสาวสำนึกได้ว่ากำลังขาดสติ ทำในสิ่งที่ไม่ควรทำ
หากพอจะหันหลังกลับ เสียงที่คุ้นหูจากคนในห้องพักก็ดังกระทบโสตประสาทเข้าพอดี
ดารัลจึงหันมาทางหญิงสาวเจ้าของห้องอีกครั้ง
คราวนี้เธอเลือกที่จะผลักร่างบางนั้นออกแล้ววิ่งเข้าไปในห้องนั้นทันที
ภาพที่เห็นทำเอาดารัลถึงกับช็อก!
ภาพผู้หญิงสามคนกำลังโอ้โลมผู้ชายคนเดียวอยู่บนเตียง
ผู้ชายที่อยู่ในสภาพเกือบเปลือย
ท่อนล่างมีเพียงบอกเซอร์ตัวเดียวที่ตอนนี้กางเกงของเขาถูกผู้หญิงพวกนั้น
ช่วยกันปลดออกสำเร็จพอดี
ทำเอาลมหายใจของดารัลติดขัด หาเสียงตัวเองไม่เจอ...
แล้วเหมือนบุคคลทั้งสี่ที่อยู่บนเตียงจะรู้ตัวว่ามีบุคคล
ที่ไม่พึงประสงค์เข้ามาร่วมสนุกด้วย ทั้งหมดจึงหันมาทางเธอเป็นสายตาเดียวกัน…
“นี่มันอะไร!”ดารัลตะโกนออกไปอย่างคนที่กำลังเดือดเต็มที่…
“น้องรัล…”เสียงฟาเดล เขายังจำเธอได้อีกเหรอ
…ทำขนาดนี้ยังจำกันได้อีกเหรอ…
ดารัลเหมือนจะเป็นลมล้มลงไปกองตรงนั้นเสียให้ได้…
แต่ก็พยายามพะยุงร่างของตัวเองเพื่อวิ่งออกไปจากภาพอุจาดตรงหน้า
โดยไม่สนใจใครหรือสิ่งกีดขวางใดๆทั้งนั้น…
ดารัลทรุดเข่าลงบนผืนหญ้าหน้าบ้านพักหลังนั้น หมดเรี่ยวแรงจะไปต่อ…
น้ำตาหญิงสาวพรั่งพรูไหลลงมาเป็นทาง
หัวใจรู้สึกปวดแปลบราวกับถูกกรีดด้วยมีดพันเล่ม
แต่เมื่อสามัญสำนึกกลับมา ดารัลก็ฮึด สูดลมหายใจเข้าเต็มปอด
หันกลับไปยังบ้านพักหลังนั้นอีกครั้ง…
“อย่าหวังว่าจะมาหยามหน้ากันได้ง่ายๆถึงถิ่นแบบนี้…”
หญิงสาวพ่นคำพูดออกมาด้วยแววตาวาวโรจน์
ก่อนจะย่างสามขุมกลับไปยังห้องพักนั้นอีกรอบ…
คราวนี้ต่างจากคราวก่อนราวกับหน้ามือเป็นหลังมือ…
“รู้จักดารัลน้อยไปแล้ว!!!…”
ดารัลเดินเข้าไปในห้องนั้นก่อนจะกระชากผมของหนึ่งในสี่สาว
ที่ตอนนี้ดูจะกำลังสนุกกับการหาทางปลดกางเกงบ็อกเซอร์ตัวนั้นของสามีเธออยู่
ราวกับหญิงไร้ยางอาย…
เรี่ยวแรงมหาศาลที่ไม่รู้ว่ามาจากไหนส่งให้ดารัลกระชาก
และตบพร้อมเสยหมัดลงบนปลายคางของผู้หญิงอีกคนที่เข้ามาช่วยเพื่อน…
สองสาวลงไปนอนหมอบบนพื้น
เหลืออีกสองสาว คราวนี้ดารัลกระโดดขึ้นไปบนเตียงแล้วใช้เท้ายันร่างแน่งน้อย
ที่คร่อมร่างของฟาเดลอยู่จนกระเด็นตกลงไปนอนกองข้างเตียง
ร้องครางโอดโอยด้วยความเจ็บปวดอยู่บนพื้นห้อง…
แล้วมองไปยังอีกหนึ่งสาวที่กำลังมองเธอด้วยสายตาตกตะลึง
“ออกไป๊…”หญิงสาวชี้หน้าตวาดลั่น
“ถ้ายังไม่อยากเป็นศพ ก็ออกไปให้พ้นจากรีสอร์ทนี้ เดี๋ยวนี้!”
เสียงประกาศิตพร้อมกับมือที่กำม้าไม้ไว้แน่นนั้นทำเอาสี่สาวถึงกับวิ่งถลากอดกัน
คว้าข้าวของส่วนตัวแล้วรีบโกยทันที
และเมื่อร่างสี่สาวหายลับไปแล้วดารัลก็หันมาตั้งหน้าจะจัดการคนที่เหลือ…
หากยังไม่ทันได้ทำอะไร ร่างของเธอก็ถูกตวัดปลิวติดมือราวกับกรงเหล็กของฟาเดล
ลงไปนอนอยู่บนเตียงโดยมีร่างของเขาคร่อมเอาไว้…
อกเปลือยๆ อวดกล้ามเนื้อสวยของชายชาตรีเผยโฉมอยู่ตรงหน้า
พาลทำเอาหัวใจน้อยๆของดารัลสั่นไหว…ไหนจะกลิ่นกายของเขาอีก
นับตัั้งแต่ครั้งนั้น เขาก็ไม่เคยรุกเธอหนักอีกเลย จวบจนบัดนี้…
“น้องรัล…ช่วยพี่ด้วย…”
เสียงนั้นครางออกมาราวกับคนเมาขาดสติิ
คนที่ไม่อาจยับยั้งชั่งใจตัวเองได้…ใบหน้าแดงก่ำ แววตาหวานฉ่ำสื่อความหมายชัดเจน
ทำเอาดารัลถึงกับใจหายวาบ พยายามยกมือเพื่อตบหน้าเขาเรียกสติ
แต่มือเธอกลับถูกมือของเขาตรึงเอาไว้กับเตียงแน่น
หญิงสาวพยายามขัดขืนต่อต้าน หวังเพื่อที่จะเรียกฟาเดลคนเดิมกลับมา
ยิ่งเขาโถมกายเข้าหา พร้อมใบหน้าคร้ามที่ก้มลงไซร้ซอกคอและเนิ่นไหล่
ก่อนจะพรมจูบตะโบมไปทั่วใบหน้าซ้ำมือก็ปัดป่ายลากไล้ไปตามเรือนกายของเธอ
อย่างจาบจ้วง ก่อนจะกระชากเสื้อผ้าออกจากกายเธอด้วยแรงปรารถนาอันแรงกล้า
เธอก็รู้ได้ทันทีว่าเขาต้องโดนดีมาแน่ๆ อาการแบบนี้มันฟ้องชัดๆ
ถ้าเธอมาไม่ทัน คนที่จะถูกเขาทำแบบนี้ก็ต้องเป็นยายพวกสี่สาวนั่นใช่มั้ย
“ไม่!ไม่!ไม่!”ดารัลตะโกนออกมา
เธอจะยอมให้ความสัมพันธ์ครั้งแรกของเธอกับเขาเป็นแบบนี้ไม่ได้ ไม่ได้เด็ดขาด!!!…
“น้องรัล…ลลล”เสียงเขาสั่น สายตาเว้าวอน เรียกร้อง จนอยากจะสงสาร
“ไม่นะคะพี่ฟาเดล…ไม่…”ดารัลสะบัดหน้าจนผมสยายเต็มหมอน
หากชายหนุ่มกลับไม่สนใจเสียงอ้อนวอนนั้น
เขาในตอนนี้ไม่อาจห้ามความปรารถนาที่กำลังบีบคั้นตัวเองได้อีก…
ความทรมานส่งให้เขาก้มลงควานหาความสุขจากร่างบางเพื่อจะปลดปล่อยความอึดอัดนั้น…
ยิ่งร่างหญิงสาวดิ้นเท่าไหร่ก็ยิ่งปลุกอารมณ์ของเขามากขึ้นเท่านั้น…
ดารัลกำหมัดแน่นก่อนจะใช้แรงฮึดสุดท้าย
ก่อนที่เธอจะเผลอปล่อยให้ความต้องการทางกายครอบงำ
จนหมดสิ้นหนทางด้วยการผลักร่างใหญ่แล้วเสยหมัดเข้าตรงปลายคางของฟาเดล…
หมัดเดียวก็ส่งผลให้ร่างใหญ่ล้มลงไปนอนคอพับอยู่บนเตียงได้อย่างไม่น่าเชื่อ…
ดารัลพ่นลมหายใจออกมาก่อนจะรีบสวมเสื้อผ้าตัวเองให้เรียบร้อย
แล้วหันไปจัดการกับร่างที่ไร้สติของสามี
อดเสียใจไม่ได้ที่ทำร้ายเขาลงไปแบบนั้น แต่มันเป็นหนทางเดียวเท่านั้นที่จะหยุดเขาได้…
เธอรู้ว่าเขาเองเมื่อได้สติก็ย่อมจะต้องรู้สึกผิด เธอไม่ต้องการให้เป็นแบบนั้น…
ดารัลมองสภาพของสามีที่เหลือเพียงกางเกงบ็อกเซอร์ตัวเดียวด้วยหัวใจกระตุก
เมื่อไม่มีทางเลือก ดารัลจึงเลือกที่จะจัดการให้เขาได้นอนในท่าสบายในห้องนี้…
เพราะไม่อยากเอะอะโวยวายให้ผู้คนแตกตื่น
อย่างน้อย…เธอก็ไม่อยากให้เรื่องนี้แพร่งพรายออกไป…
แต่ไอ้เรื่องที่จะปล่อยให้ผู้หญิงสี่คนนั้นลอยนวลไปได้ง่ายๆโดยไม่ทำอะไรเลย
เห็นจะไม่ใช่ดารัล
…ใครที่กล้าเข้ามาล้วงคองูจงอางอย่างเธอถึงถิ่น
เห็นทีจะปล่อยให้รอดปลอดภัยไปง่ายๆไม่ได้…
ดารัลนั่งกุมขมับมองหน้าคุณสามีแล้วให้ทอดถอนใจ
ไอ้รูปหล่อๆแบบนี้นี่แหล่ะที่ทำให้เธอหนักใจเหลือแสน
ถ้าหล่อน้อยกว่านี้สักหน่อย เธอคงไม่เครียดและกลุ้มใจขนาดนี้…
ไม่รู้ไปทำเอาอีท่าไหน ถึงโดนพวกผู้หญิงนั่นหิ้วมาได้แบบนี้…
นี่กะจะเล่นจ้ำจี้สี่รุมหนึ่งกันเลยทีเดียวสินะ…
ดารัลพ่นลมหายใจออกมาแล้วเดินออกไปนอกห้องพัก
สำรวจไปรอบๆห้องอีกรอบก็ไม่พบอะไรที่จะสืบไปถึงสี่สาวน่ันได้…
ดารัลจึงหันไปปิดประตูห้องพักแล้วเดินไปยังเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์
“เห็นผู้หญิงสี่คนที่วิ่งออกมาทั้งชุดนอนบ้างมั้ยคะ…”ดารัลถามเสียงเรียบ
ก่อนจะอธิบายเพิ่มเมื่อเห็นแววตาสงสัยของประชาสัมพันธ์สาว
“เกรงว่าแขกของเราจะเจอคนโรคจิตน่ะค่ะ เห็นวิ่งเตลิดออกมาแบบนั้น
รัลเลยตามมาดูให้แน่ใจ…ว่าที่นี่ไม่ได้มีอะไรให้น่่าหวาดกลัว…”
“พวกเขาขอมาเช็คเอาท์ออกไปทันทีเลยค่ะ…บอกว่าเจอผีในห้องพัก…
ตลกดีนะคะ พวกเราอยู่มาตั้งนาน ไม่เห็นมีแขกที่ไหนบอกว่าเจอผีเลย”
ดารัลกลั้นเสียงหัวเราะเอาไว้…
“แล้วพอจะรู้มั้ยคะว่าแขกคนดังกล่าวเขาชื่ออะไร แล้วทางเราจะติดต่อเขาได้ยังไง…
รัลเห็นสภาพเขาแล้ว อยากชดเชยค่าเสียหายให้น่ะค่ะ…
ไม่อยากให้เขาเอารีสอร์ทเราไปพูดในทางเสียหาย…”
ประชาสัมพันธ์สาวยิ้มกว้างขณะเอ่ยว่า
“ตอนแรกทางเราบอกว่าจะชดใช้ให้ แต่ขอให้รอสักครู่ จะติดต่อผู้จัดการให้
พวกเขาก็เอาแต่ส่ายหน้า บอกว่าไม่เอาค่ะ…ดูท่าทางจะกลัวเอามากๆซะด้วย…”
“เหรอคะ…งั้นไม่เป็นไรค่ะ…ขอข้อมูลนั่นให้รัลก็พอค่ะ…”
แล้วประชาสัมพันธ์สาวก็นำข้อมูลดังกล่าวมาให้หญิงสาว
ซึ่งเป็นภรรยาเจ้าของรีสอร์ทอย่างว่าง่าย…
“ขอบคุณค่ะ…”
ดารัลกล่าวขอบคุณก่อนจะเดินกลับมายังห้องพักที่ฟาเดลกำลังนอนอยู่…
“เอาไว้พรุ่งนี้เถอะ…”แววตาคาดโทษเอ่ยขึ้นเมื่อมองข้อมูลของแขก
“คิดจะทำการใหญ่ แต่ใช้บัตรเครดิตรูดค่าที่พัก…”
แล้วเหมือนโชคจะเข้าข้างอีกเมื่อดารัลเห็นกระเป๋าสะพายใบเล็กของผู้หญิง
ตกอยู่ตรงข้างๆโซฟา ดารัลหยิบมันขึ้นมาสำรวจหา จนเจอกระเป๋าเงิน
ซึ่งแน่นอน ในนั้นมีไอดีการ์ด…หญิงสาวยิ้มอย่างผู้มีชัย…
ก่อนจะขบกรามแน่นเมื่อสายตาหันไปเจอะเข้ากับกล้องวิดีโอ
ที่ซ่อนตัวอยู่ในห้องพัก…ดารัลเดินเข้าไปหยิบกล้องวิดีโอนั่นขึ้นมาดู
ก็พบว่าสี่สาวได้แอบถ่ายภาพเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นภายในห้องนี้เอาไว้…
ดารัลนำกล้องดังกล่าวกลับไปเก็บไว้ในห้องพักของตัวเอง
พร้อมข้าวของของผู้หญิงหนึ่งในสี่สาวด้วย
แล้้วเดินกลับมายังห้องพัก เดินไปยังเจ้าของเตียงนอนแล้วขยับผ้าห่มให้เขา
ก่อนจะเดินไปยังโซฟาแล้วทรุดลงนอนโดยที่ตาก็จ้องมองคนบนเตียงไม่วางตา…
ฟาเดลรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาเมื่อใกล้รุ่งสาง ชายหนุ่มขยับกาย ก่อนจะลุกขึ้น
แล้วรู้สึกเจ็บหนึบตรงปลายคาง
มือใหญ่จับคางตัวเองเพื่อสำรวจ ในขณะที่พยายามนึกว่าตน
กลับมานอนบนเตียงในห้องพักได้อย่างไร และเร็วเท่าความคิด
ชายหนุ่มหันไปมองรอบห้องก็พบกับร่างบางที่นอนขดตัวอยู่บนโซฟา
ฟาเดลขมวดคิ้วมุ่น ก่อนจะเดินไปหาร่างบางนั่นแล้วคุกเข่าลง
หยิบผ้าห่มที่ร่วงลงไปกองที่พื้นขึ้นมาห่มให้อย่างเบามือ
ทว่า ดารัลกลับรู้สึกตัวเสียก่อน…หญิงสาวลืมตาขึ้นก่อนจะสะดุ้งโหยง
ดีดตัวกระถดไปนั่งพับเพียบ หดแข้งหดขาอยู่ยังอีกมุมของโซฟา
ฟาเดลมองภาพตื่นๆนั่นของหญิงสาวอย่างขำขัน…
“กลัวอะไรพี่นักหนา…”ดารัลจ้องคนตรงหน้านิ่งอย่างระแวดระวัง…
ก่อนจะถอนใจออกมาอย่างโล่งอก…
“แสดงว่ายาหมดฤทธิ์แล้ว…”
“ยาหมดฤทธิ์?”ฟาเดลทวนคำพูดนั้นราวกับจะถาม…
“นี่พี่จำไม่ได้เลยเหรอ…”ฟาเดลเริ่มหันมาทบทวนความจำ
พร้อมกับจับปลายคางตัวเองไปด้วย…ดารัลที่เห็นใบหน้าเหยเก
บ่งบอกความเจ็บปวดนั้นของเขาก็เริ่มใจเสีย…จึงกระเถิบเข้าไปหา
“ปวดมากมั้ยคะ…”เสียงนั้นถามอย่างห่วงใย…
“น้องรัลขอโทษ…”
“ฝีมือน้องรัลเหรอ…”
ดารัลพยักหน้าก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วจูงมือเขา
เดินกลับห้องพักของตน…ยื่นกล้องวิดิโอให้…
“เรื่องทั้งหมดมันเป็นอย่างที่พี่เห็นในนั้นแหล่ะค่ะ…”
ดารัลปล่อยให้วิดิโอดังกล่าวเป็นตัวเล่าเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้น
ฟาเดลวางกล้องวิดิโอลง แล้วเดินมาหาดารัลที่นั่งพับเพียบเรียบร้อยอยู่บนโซฟา
ก่อนจะกุมมือของหญิงสาวไว้แล้วยิ้มออกมา
“น้องรัลของพี่เก่งจัง…ขนาดสี่คนยังทำอะไรน้องรัลคนเดียวไม่ได้เลย”
น้ำเสียงเหมือนจะหยอกเย้านั้นทำให้คนถูกชม
ถึงกับค้อนให้เจ้าของสายตาหวานฉ่ำนั่น
“นี่อย่าบอกนะว่าฤทธิ์ยานั่นยังตกค้างอยู่…”
“ถ้าบอกว่ายังตกค้างอยู่ น้องรัลจะอาสาช่วยพี่มั้ยล่ะครับ…”
ดารัลสะบัดหน้าทันทีโดยไม่ต้องคิดนาน…
“ถ้าพี่อยากได้อีกสักหมัดก็เอาสิิ…”
“ร้ายกาจ!”
“ถ้าไม่ร้ายกาจ…คนแถวนี้ก็ไม่รอดมือพวกสี่สาวนั่นแล้วล่ะ
เคยคิดบ้างมั้ยว่าถ้าพลาดไปแล้วภาพวิดิโอที่ถูกบันทึกหลุดว่อนไปทั่ว
จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง…อย่าว่าแต่ชื่อเสียงเลยที่จะเสีย…”
“เมียก็จะทิ้งพี่ไปด้วยใช่มั้ย…”ฟาเดลต่อให้อย่างเง้างอด…
“บอกมานะคะว่าไปทำอีท่าไหนเข้าถึงโดนหิ้วปีกไปที่ห้องนั้นได้…
บอกมาให้ละเอียดเลย…”ฟาเดลลอบถอนใจ
“พี่ขอตัวไปอาบน้ำให้สะอาดแล้วทำละหมาดก่อนได้มั้ยครับ
แล้วเดี๋ยวจะกลับมาให้น้องรัลซักจนสะอาดอีกรอบนึง…”
พูดจบฟาเดลก็ลุกขึ้นแล้วก้มลงหอมแก้มหญิงสาวก่อนจะผละเข้าห้องน้ำ
หลังจากที่หันไปมองเข็มนาฬิกา…
“จะไปอาบด้วยกันมั้ยครับ…”
“เชิญก่อนเลยค่ะ…น้องรัลรอได้…”ดารัลรีบบอกปัดทันที
ส่งผลให้ฟาเดลถึงกับหัวเราะฮึๆในลำคอ…
เมื่อฟาเดลละหมาดเสร็จ ทั้งสองก็มานั่งจับเข่าคุยกันอยู่ตรงโซฟาอีกครั้ง
“ตอนที่พี่เดินเข้ามา มีผู้หญิงคนหนึ่งเดินสวนเข้ามาชนกับพี่…
แล้วเธอก็ขาแปลงเดินไม่ไหว พี่เลยอาสาพะยุงเธอกลับไปยังที่ห้อง
เมื่อไปถึงที่นั่น อยู่ๆก็มีใครก็ไม่รู้เอาผ้ามาปิดจมูกและปากของพี่
ไม่นานพี่ก็เหมือนจะสะลึมสะลือ ควบคุมตัวเองไม่ได้…”
“แสดงว่าโดนผู้หญิงล่อลวงกะจะรุมขืนใจ…น่าสงสารสุภาพบุรุษสุดหล่อจัง…”
“โธ่น้องรัล…ใครจะคิดว่าจะมีผู้หญิงแปลกหน้าคิดจะทำมิดีมิร้ายกับตัวเอง…”
ฟาเดลอุทธรณ์เสียงอ่อย
“ก็นั่นแหล่ะที่ทำให้น้องรัลอดห่วงไม่ได้…คราวหน้าคราวหลังอย่าชะล่าใจอีกนะคะ…
เพราะถ้าน้องรัลไปช่วยไว้ไม่ทัน เห็นจะแย่แน่ๆ…”
ฟาเดลยิ้มกริ่มจ้องหน้าหญิงสาวนิ่ง ก่อนจะดึงเธอเข้ามากอด
ซุกหน้าลงตรงกลุ่มผมแล้วสูดดมกลิ่นหอมนั่น
“พี่ขอโทษนะครับ ที่เกือบทำร้ายน้องรัล…พี่ห้ามตัวเองไม่ได้จริงๆ…”
ฟาเดลได้แต่พร่ำขอโทษภรรยาสาวที่เขารักสุดหัวใจ…
“น้องรัลก็ต้องขอโทษพี่ฟาเดลเหมือนกันที่ไม่อาจช่วยเหลือพี่ฟาเดลได้
แถมยังทำให้พี่เจ็บตัวอีก…”ดารัลยันร่างหนาออกห่างแล้วมองปลายคางของเขา
“เดี๋ยวน้องรัลไปเอายามาทาให้นะคะ…”ฟาเดลพยักหน้ารับ
ดารัลจึงลุกไปหยิบยามาทาและนวดให้เขาอย่างเบามือ
“เจ็บมั้ย…”น้ำเสียงและแววตาที่ดูเป็นห่วงเป็นใยนั้นทำเอาหัวใจ
ที่หนักแน่นราวแผ่นผาถึงกับสั่นสะท้าน…
ฟาเดลยกมือขึ้นประคองใบหน้านั้นแล้วอดใจไม่ไหวที่จะจุมพิตริมฝีปาก
ที่เขาจับจ้องอยู่นานแล้ว อ้อยอิ่งอยู่นานกว่าจะปล่อยให้หญิงสาวได้รับอิสระ…
“เมื่อไหร่จะยอมพี่สักที…พี่ไม่อยากรอเลยแม้แต่วินาทีเดียว…”
น้ำเสียงและแววตาเว้าวอนนั้นทำเอาดารัลถึงกับหน้าแดง…
หญิงสาวจึงยกมือขึ้นกุมใบหน้าของเขาแล้วยิ้มทั้งปากทั้งตา
“เหตุผลหลักๆที่น้องรัลไม่ยอมช่วยพี่ฟาเดลเมื่อคืนก็เพราะน้องรัล
กำลังติดไฟแดงอยู่ด้วยค่ะ…มันเพิ่งจะมาเอาตอนหัวค่ำนี่เอง…
ราวกับจะแกล้งคนแถวนี้…”ฟาเดลถึงกับเบิกตากว้างกับสิ่งที่ได้ยิน
เขาน่าจะรู้สิ…เมื่อกี้เธอก็ไม่ได้ละหมาดร่วมกันกับเขาด้วย…
“พี่เกือบทำผิดไปแล้วจริงๆ…นี่ถ้าไม่ได้น้องรัลช่วยสยบไว้ด้วยหมัด
พี่คงทำผิดไปแล้ว…”ฟาเดลมีสีหน้าสลดลงเมื่อนึกถึงภรรยาที่กำลังมีประจำเดือน
ซึ่งเป็นกฎข้อห้ามทางศาสนาที่ห้ามคู่สามีภรรยา
มีเพศสัมพันธ์กันในระหว่างที่ฝ่ายหญิงมีประจำเดือน จวบจนกว่าเธอจะสะอาด…
“โอ้…ทูนหัวของพี่…”ฟาเดลวาดวงแขนโอบกอดดารัลเอาไว้อีกครั้ง
ด้วยความรักใคร่และเทิดทูน…เสียงหัวเราะคิกของหญิงสาวในอ้อมกอด
ทำให้หัวใจของชายหนุ่มชุ่มชื่นเบิกบาน จมูกโด่งจึงกดลงตรงขมับ
และกลุ่มผมนั่นหนักๆ…
“เหมือนจะแกล้งจริงๆด้วยสิ…แล้วเมื่อไหร่ฟาเดลน้อยจะถือกำเนิดกันล่ะ…
ยิ่งโดนเร่งอยู่ด้วย…”ดารัลยิ้มพลางส่ายหน้าไหวๆ
“พี่ฟาเดลซีเรียสเรื่องนี้จริงๆหรือคะ…”หญิงสาวถามด้วยแววตาจริงจัง
“ถ้าให้บอกตามตรง…พี่ก็อยากมีลูกนะ…อยากมีครอบครัวที่สมบูรณ์
พ่อ แม่ ลูก มันคือความฝันของพี่…แต่ถ้าน้องรัลยังไม่พร้อม พี่ก็รอได้
ไม่รีบอะไรหรอกครับ…พี่อยากให้น้องรัลอยู่กับพี่ด้วยความสบายใจมากกว่า…”
ดารัลยิ้มกว้าง อดไม่ได้ที่จะหยิกแก้มเขาด้วยความหมั่นเขี้ยวขณะพูดว่า
“แล้วถ้าน้องรัลบอกว่า ความสบายใจของน้องรัลก็คือ
การให้พี่ฟาเดลรอไปอีกหนึ่งปี พี่ฟาเดลจะรอได้หรือ…”
ฟาเดลส่งเสียงครางในลำคอทันที
“พี่ก็จะยั่วน้องรัลให้หนักขึ้น เอาให้อดใจไม่ไหว…วิ่งเข้ามาซบอกพี่ด้วยความเต็มใจ…
เพราะเท่าที่เห็นจากวิดิโอนั่น ก็พอจะรู้แล้วล่ะว่าจะยั่วยังไง…ให้ได้ผล…”
ดารัลหน้าแดงทันทีเมื่อเจอคำพูดแล้วแววตาของคนตรงหน้า
“เอากล้องนั้นคืนมาเลยนะ…”ดารัลถามหากล้องวิดิโอดังกล่าวทันที
ที่นึกขึ้นได้ว่ามีบางซ็อตที่ล่อแหลมสำหรับเธออยู่ในนั้นด้วย…
“เรื่องอะไรจะคืนให้…พี่จะเก็บไว้ดูเล่นเวลาคนแถวนี้ดื้อและคิดจะเบี้ยว”
“คิดจะแบล็กเมล์กันเหรอ…”ฟาเดลยักไหล่ตั้งใจจะยั่วอีกฝ่าย
“ก็ถ้าเป็นเด็กดี เป็นเมียที่อยู่ในโอวาท ไม่ดื้อไม่ซน ก็ไม่มีอะไรต้องกลัว
หรือว่าเธอลืมไปแล้วว่าเราตกลงสัญญากันไว้ว่าอย่างไร…ฏออัต…จำได้ม้ัย…”
ฟาเดลตอกย้ำเรื่องสัญญา
“พี่เองก็อย่าลืมคำว่า ซื่อสัตย์ก็แล้วกัน…”ดารัลย้อนกลับ
“ว่าแต่เธอจะให้พี่จัดการกับสี่สาวนี้ยังไงดี…”ฟาเดลเปลี่ยนเรื่องทันที
เมื่อเห็นอีกฝ่ายเริ่มมาคุ ดารัลลอบถอนใจแล้วเอ่ยขึ้นเหมือนคนที่ตัดใจ
และปลงได้แล้วว่า
“ปล่อยเขาไปเถอะค่ะ…น้องรัลไม่อยากให้เป็นเรื่องใหญ่…
ตอนนี้ยังไม่มีใครรู้เรื่องนี้เลยด้วยซ้ำ…หรือพี่ฟาเดลอยากให้มีคนรู้
ว่าพี่โดนสาวล่อลวงพาไปขืนใจในห้องพักซึ่งเป็นถิ่นของตัวเอง…”
“ก็เพราะว่ามาหยามกันถึงถิ่นน่ะสิ พี่ถึงไม่อยากยอมง่ายๆ”
“แต่ช่างมันเถอะค่ะ…นะคะ…อย่าไปสนใจเลย…
เอาเวลาไปทำมาหากินกันดีกว่า…ที่สำคัญเราจะต้องเอาเวลา
ไปเทคแคร์คณะทัวร์จากญี่ปุ่นด้วย…”
“แน่นะว่าไม่อยากให้พี่ตามเอาเรื่องสี่สาวนี้จริงๆ…”ฟาเดลเลิกคิ้วถาม
เพื่อขอคำยืนยันอีกครั้ง…
“แน่สิคะ…”ดารัลตอบอย่างฉะฉาน หากแววตาข้างในนั้นกลับลุกโพลง
เธอน่ะไม่ต้องการให้เขาเข้ามาจัดการก็จริง
เพราะตั้งใจว่าเธอนี่แหล่ะที่จะเป็นคนจัดการเรื่องนี้ด้วยตัวเอง
เพราะเท่าที่ใคร่ครวญมาเรื่องนี้มันมีกลิ่นตุๆ ไม่ชอบมาพากล…
แต่เพราะไม่อยากให้สามีเป็นกังวล
…จึงอยากให้เรื่องนี้เป็นเรื่องของผู้หญิงที่จะต้องสะสาง!!!
“เรื่องที่ให้พวกเธอไปจัดการเป็นไงบ้าง…”เสียงดังมาจากโทรศัพท์
ทำให้หนึ่งในสี่สาวต้องหันไปมองเพื่อนร่วมห้องอีกสามคนแล้วส่ายหน้า
“ไม่รู้มีผู้หญิงที่ไหนเข้ามาขัดขวางน่ะสิ…ดุชะมัด…”
“ผู้หญิงที่ไหน…”
“ไม่รู้สิ สวยสะบัด ถ้าดูไม่ผิดน่าจะเป็นเมียเขานะ…เห็นหวงอย่างกับจงอางหวงไข่…
กะจะเอาให้ตายถ้าใครเข้าไปใกล้ไข่ในรัง…
บ้าบิ่นขนาดนั้นใครจะไปกล้ากับเขา…ให้เอาหน้าไปแลกกับหมัดยัยนั่น
พวกเราไม่เอาด้วยหรอกนะ ไม่อยากเสียเงินไปศัลยกรรมหน้าใหม่…
ขนาดเราสี่คนยังเอาไม่อยู่เลย…แม่เล่นงิ้ว ฟาดงวงฟาดงา ฟัดเสียพวกเรากระเจิง…
บอกตามตรงว่าเซ็ง…เป้าหมายน่ะน่าสนอยู่หรอก แต่ไม่คิดเลยว่าจะมีเมียดุขนาดนั้น”
“แล้วทิ้งหลักฐานอะไรเอาไว้บ้างรึเปล่า…”คนทางปลายสายไม่วาย
ถามด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด และนั่นทำให้สาวเจ้าถึงกับหน้าซีดเผือด
แต่ก็จำต้องโกหกทางโน้นไปว่า
“ไม่มีหรอก…จะมีอะไร…”
“แน่ใจนะว่า ทางนั้นจะตามกลิ่นพวกเธอไม่เจอ…”
“อย่ากังวลไปเลยน่า…”แม้จะพูดเช่นนั้น หากคนพูดก็อดปากคอสั่น
ไม่ได้เมื่ออยู่ๆห้องพักก็ต้องต้อนรับแขกที่ไม่ได้รับเชิญโดยบังเอิญ
“ฉันขอวางหูก่อนนะ…แล้วค่อยคุยกัน…”กระบอกปืนที่จ่ออยู่ตรงหน้า
ทำเอามือที่ถือโทรศัพท์อยู่ถึงกับสั่น
“เอาโทรศัพท์มา…”เสียงนั้นสั่งอย่างวางอำนาจ หญิงสาวจึงส่งไปให้อย่างว่าง่าย
“ว่าไง…หวังว่ายังคงไม่ใจเสาะวางสายไปก่อนหรอกนะ…”
ดารัลกรอกเสียงลงไปทันทีที่รู้ว่าทางปลายสายยังฟังอยู่
“เธอใช่มั้ยที่ทำตัวเป็นหมาลอบกัด…”
พูดพลางมือก็ยกปืนขู่สี่สาวที่ถลาเข้าไปยืนกอดกันกลมตรงมุมห้องพลาง
“บอกมาว่าต้องการอะไร…”ไม่มีเสียงตอบรับจากทางปลายสาย
“ถ้าแค่พูดกับฉันยังไม่กล้า…ก็เลิกคิดไปได้เลยที่จะมาลองดีกับคนอย่างดารัล…
เพราะถ้าฉันไม่แน่จริง…คงตามกลิ่นสี่คนนี้มาไม่เจอหรอก…
และคงไม่ยากที่จะตามกลิ่นเธอเจอในอีกไม่ช้านี้แหล่ะ…”
แล้วดารัลก็กดวางสายพร้อมกับเก็บมือถือเครื่องนั้น
เข้ากระเป๋าสะพายข้างของตัวเองทันที
“บอกฉันมาว่า ผู้หญิงในสายเมื่อก้ีคือใคร…”
ดารัลยกปืนขึ้นส่องไปทางสี่สาวด้วยแววตาแน่วนิ่ง
ท่าทางเยือกเย็นนั่นทำเอาคนถูกไล่เบี้ยถึงกับเย็นวาบตรงสันหลัง…
“ใครใช้ให้พวกเธอทำเรื่องอุบาทว์แบบนั้นกับสามีชาวบ้านเค้า…”
ดารัลกระชากเสียงด้วยแววตาวาวโรจน์ ทำเอาสี่สาวถึงกับผวา
ทรุดลงไปกองกับพื้นด้วยความหวาดกลัว…
“ฉัน…ฉัน…ฉันเองก็ไม่รู้…เขาไม่เคยบอกชื่อ…ส่งแค่รูปเป้าหมาย
มาให้พร้อมด้วยแผนการ สถานที่ แล้วโอนเงินให้เท่านั้น…”
ดารัลยิ้มหยันที่ทางโน้นดูจะรอบคอบเหลือเกิน
แต่ให้ยังไงก็ยังคงทำพลาดอยู่ดีล่ะ
“โอนเงินให้เหรอ…ถ้างั้นก็ไปเอาเลขบัญชีที่เขาโอนมาให้ฉัน…ไปเอามาสิ…”
ดารัลสั่งเสียงเข้ม แววตาเยียบเย็น
เพียงไม่นาน เธอก็ได้รับข้อมูลดังกล่าวมา…ซึ่งก็ยังไม่แน่ใจ
ร้อยเปอร์เซ็นนักว่าเจ้าของชื่อบัญชีดังกล่าวจะใช่คนที่อยู่เบื้องหลังนี้
“แล้วยังมีอะไรที่จะสาวไปถึงคนๆนั้นได้อีกบ้าง…บอกมาให้หมด
ไม่อย่างนั้นฉันจะเอาเรื่องพวกเธอให้ถึงที่สุดเลยล่ะ…”
“คือ…คือ…พวกเราไม่รู้อะไรมากนักหรอก…รู้เพียงแต่ว่าเธอเป็นผู้หญิง
พูดไทยได้…เพราะพวกเราเป็นคนไทยที่มาทำงานที่นี่
เราเองก็ไม่รู้หรอกว่าเธอคนนั้นรู้ได้ยังไงว่าเราทำอาชีพอะไร
และได้เบอร์ติดต่อพวกเรามาได้ยังไง…แต่…เธอคนนั้นพูดไทยได้ชัดมาก…”
ดารัลพยักหน้า อย่างน้อยข้อมูลดังกล่าวก็ดูจะช่วยกระชับเป้าหมายให้แคบเข้ามา
“แล้วเขาก็เลือกใช้เบอร์โทรศัพท์สาธารณะด้วย…”ดารัลพยักหน้า
พร้อมกับลอบถอนใจ…
“นี่พวกเธอไม่คิดบ้างรึไงว่าทำแบบนี้จะส่งผลในทางร้ายกับตัวเองขนาดไหน
ที่นี่ไม่ใช่เมืองไทย ไม่ใช่บ้านเกิดของพวกเธอนะที่จะหลบหนีไปไหนได้โดยง่ายดาย…
ข้อหาล่อลวงน่ะ ติดคุกไม่น้อยหรอกนะ…”
“อย่า อย่าทำอะไรพวกเราเลย…ที่พวกเรายอมทำอย่างนี้เพราะต้องการได้เงินกลับบ้าน…”
หนึ่งจากสี่สาวยกมือพนมอ้อนวอน…
“ไม่ต้องมาทำเป็นน่าสงสาร ฉันไม่เชื่อพวกเธอหรอก
เพราะฉันไปสืบเรื่องพวกเธอที่สถานทูตมาหมดแล้ว…
จนรู้ว่าพวกเธออยู่ในประเทศนี้อย่างผิดกฎหมาย…
ถ้าอยากกลับบ้านจริงๆ ก็แค่เดินไปให้ตำรวจจับขังสักสามสี่วัน
ขี้คร้านเขาจะทำเรื่องส่งตัวกลับไทย…ไม่ต้องเสียตังค์เลยมั้ง…”
ดารัลยิ้มกว้างอย่างมีความหมาย ทำเอาสี่สาวถึงกับขนลุก
“แล้วฉันเองก็อยากจะช่วยสงเคราะห์ให้พวกเธอได้กลับบ้านไวๆด้วย…”
ว่าแล้วดารัลก็ชูบัตรประชาชนสำหรับคนไทยที่ใช้ในเมืองไทยเท่านั้นขึ้น
“นี่คงจะเป็นบัตรประชาชนของเธอล่ะสิ…ชื่ออะไรนะ…
นางสาว พนิดา นามี…กรุ๊ปโอ…อยู่บ้านเลขที่…”
“พอๆๆ…ฉันยอมแล้ว…ขอของฉันคืนเถอะนะ…”
เจ้าของบัตรประชาชนถึงกับร้องเสียงหลง…
“ไม่อยากกลับบ้านแล้วเหรอ…ฉันจะได้ช่วยส่งกลับบ้านให้ไง…”
“ได้โปรดปล่อยพวกเราไปเถอะนะ…สัญญาเลยว่าเราจะไม่ยุ่งกับคุณอีก ไม่อีกแล้ว…”
ดารัลส่่ายหน้า
“อย่างพวกเธอน่ะ ถึงจะไม่ยุ่งเรื่องของฉันแล้ว…
ก็คงจะอยู่สร้างความเดือดร้อนให้คนอื่นได้อีกเยอะ…
เพราะจากที่ดูผลงานการแอบถ่ายของพวกเธอแล้ว…ฉันชักจะหวั่นใจแล้วว่า…
พวกเธอคงมีสมองและร่างกายเอาไว้เพื่อทำงานที่คอยแต่จะสร้างความเดือดร้อน
ให้คนอื่นไม่เลิกง่ายๆแน่ๆ…”
“ไม่ ไม่…พวกเราสัญญาว่าจะเลิกทำงานพวกนี้แล้ว
ได้โปรดอย่าส่งพวกเราให้พวกตำรวจเลยนะ…”ดารัลส่ายหน้าไหวๆ
“เห็นจะยากแล้วล่ะ…เพราะสิ่งที่พวกเธอขอฉันน่ะมันมากเกินไป…
ฉันว่าจังหวัดชัยภูมิน่าอยู่มากเลยนะ ฉันเคยไป ที่นั่นสวยมาก
มีดอกอะไรนะที่สีชมพูสวยๆน่ะ อ้อ ดอกกระเจียว…เธอไม่คิดถึงบ้าน
และทุ่งดอกกระเจียวบ้างเลยเหรอ…”เสียงดารัลทอดยาวอย่างมีความหมาย…
“ตอนนี้พอจะบอกแผนการที่เหลือของยัยนั่นที่ต้องการให้พวกเธอทำ
หลังจากจัดการคนของฉันเสียอยู่หมัดให้ฉันได้รึยัง…”
หลังจากนั้นสี่สาวก็เริ่มเล่าถึงแผนการทั้งหมดของคนที่อยู่เบื้องหลัง
ให้ดารัลฟังอย่างหมดเปลือก…
“พวกฉันเล่าทุกอย่างให้เธอฟังหมดแล้วนะ…หวังว่าเธอจะรักษาสัญญา”
“สัญญา?”ดารัลเลิกคิ้วสูง
“ฉันไปสัญญาหรือตกลงอะไรกับพวกเธอตอนไหน…”
“นี่เธอ…”หนึ่งในสี่สาวชี้หน้าดารัลด้วยแววตาขุ่นโกรธ
“พวกเธอทำผิด ก็ต้องรับผิด…เอาเป็นว่าฉันจะหยวนๆให้
ไม่สาธยายเรื่องความผิดของพวกเธอที่ทำกับคนของฉันก็แล้วกัน…
แค่ส่งตัวให้ตำรวจเฉยๆ ให้พวกเธอได้ตั๋วกลับบ้านฟรีๆก็แล้วกันนะ…
ถึงชัยภูมิเมื่อไหร่ อย่าลืมคิดถึงฉันบ้างก็แล้วกัน ส่วนนี่กระเป๋าของเธอฉันให้คืน”
แล้วดารัลก็โยนกระเป๋านั้นคืนไปให้เจ้าของ…
ก่อนจะชูบัตรประชาชนของนางสาวพนิดา นามีที่อยู่ในมือ
พร้อมรอยยิ้มหวานบาดลึกปานมีดโกนอาบน้ำผึ้ง
“และนี่…ฉันคงต้องยึดเอาไว้ก่อนนะ…ตำรวจจะได้ส่งเธอกลับบ้านถูก
ส่วนภาพพวกเธอในวิดีโอก็คงชัดพอที่จะทำให้ทางตำรวจควานหาตัวเจอ…
ดังนั้น ทางที่ดี ฉันว่าพวกเธอเตรียมเก็บกระเป๋าเสื้อผ้า
เดินทางกลับบ้านเกิดดีกว่านะ…เปลี่ยนอาชีพซะด้วย
เพราะถ้าฉันสืบเจอว่าพวกเธอยังไม่เลิกทำอาชีพแบบนี้อีก…
คงไม่ต้องให้ฉันพูดหรอกนะว่าพวกเธอจะเจอกับอะไรบ้าง…
เพราะพวกเธอคงไม่อยากเจอฉันอีกครั้งหรอกจริงมั้ย…
ขอให้โชคดี…เดินทางโดยสวัสดิภาพ…ลาก่อน…”
การจากไปของดารัลเหมือนภาพฝันร้ายของสี่สาว
เพราะหลังจากนั้นทั้งสี่สาวก็ถูกคุมตัว แล้วถูกส่งตัวกลับเมืองไทยทันที
เมื่อเสร็จสิ้นกระบวนการ…
......โปรดติดตามตอนต่อไป......
ฟาเดลคงคาดไม่ถึงแน่ ถ้ารู้ว่าดารัล แท้จริงแล้วเป็นอย่างไร
พ่อตาก็ดูเหมือนจะเตือนๆลูกเขยเอาไว้แล้ว...
ว่าผู้หญิงสวยและฉลาดน่ะน่ากลัว...ฮ่าๆๆ
และอีกนานนะกว่าจะรู้...
ตอนนี้นางร้ายอาละวาดแล้ว...นางเอกเราก็เริ่มกลายพันธฺุ์
มาดูกันค่ะว่า ใครจะร้ายกว่ากันงานนี้...
วันนี้มาให้ติดๆกันเลย...ขอกำลังใจด้วยนะจ๊ะ...
....คุยกับนักอ่านจากตอนที่แล้วค่ะ....
1.คุณแว่นใส...เพราะตกที่นั่งลำบากด้วยกันน่ะสิคะถึงได้เข้าใจหัวอกกันดี...อิอิ
2.คุณคิมหันตุ์...พ่อตากับลูกเขยเริ่มไปด้วยกันได้ คราวนี้เหลือนางเอกเราล่ะค่ะ
ว่าจะปราบเหล่านางร้ายอย่างไร...
ลูกใครหลานใครก็ลายเหมือนคนนั้นล่ะค่ะ...ฮ่าๆ
3.คุณตุ๊งแช่...และเหนือนางร้ายก็มีนางเอกค่ะ...ฮ่าๆ
สุดท้้ายไม่ท้ายสุด...
ขอบคุณนักอ่านทุกๆท่านนะคะสำหรับการติดตาม...
...รักษาสุขภาพนะคะ...
"เต่าโย"

เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 11 พ.ย. 2557, 12:59:02 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 11 พ.ย. 2557, 12:59:02 น.
จำนวนการเข้าชม : 3352
<< บทที่ 15 ร้ายเดียงสา | บทที่ 18 คนนิสัยเสีย >> |


แว่นใส 11 พ.ย. 2557, 20:15:06 น.
ผู้สวยและฉลาด น่ากลัวจริง ๆ
ผู้สวยและฉลาด น่ากลัวจริง ๆ


คิมหันตุ์ 11 พ.ย. 2557, 20:59:46 น.
ร้ายยยยยยยยยเจอดารัลกลายเป็นหงอยเลยนะคะ
ร้ายยยยยยยยยเจอดารัลกลายเป็นหงอยเลยนะคะ

Pat 11 พ.ย. 2557, 21:13:38 น.
น้องรัลเยี่ยมมาก เวลาเอาเรื่องนี่ใช้ได้เลย อย่างนี้ก็เบาใจเรื่องนางร้ายได้ล่ะ
น้องรัลเยี่ยมมาก เวลาเอาเรื่องนี่ใช้ได้เลย อย่างนี้ก็เบาใจเรื่องนางร้ายได้ล่ะ


Amarilys 12 พ.ย. 2557, 12:17:00 น.
แอบอ่านเงียบๆ มานาน ชอบตอนนี้มาก โดยเฉพาะฉากสยบยาปลุกของน้องรัล นางเอกในดวงใจเลยอะ นอกจากบู๊เก่งยังฉลาดรู้ตะหาก ไม่เหมือนนางเอกทั่วไปเรื่องไหนเรื่องนั้นฉากพระเอกโดนมอมยาเป็นข้ออ้างที่สุดยอด เต็มสิบครูให้ร้อยค่า
แอบอ่านเงียบๆ มานาน ชอบตอนนี้มาก โดยเฉพาะฉากสยบยาปลุกของน้องรัล นางเอกในดวงใจเลยอะ นอกจากบู๊เก่งยังฉลาดรู้ตะหาก ไม่เหมือนนางเอกทั่วไปเรื่องไหนเรื่องนั้นฉากพระเอกโดนมอมยาเป็นข้ออ้างที่สุดยอด เต็มสิบครูให้ร้อยค่า




pseudolife 15 พ.ย. 2557, 10:57:12 น.
น้องรัลโหดมากจ้าาาา
น้องรัลโหดมากจ้าาาา