...คาสบลังก้า...ดารัลฟาเดล...(จบแล้วค่ะ)
สืบเนื่องมาจากเรื่อง "อะรูซะตี...เจ้าสาวของผม"
เรื่องนี้จะเป็นเรื่องราวของลูกสาวสุดหวงของหมอดานีส
กับนาดา โดยเรื่องราวของคุณพ่อเมื่ิอครั้งก่อนนั้น
จะเป็นแนา "แต่งก่อนจีบ"
แต่สำหรับรุ่นลูกแล้ว จะเป็นแนว "จีบก่อนแต่ง"
ต้องมาคอยดูกันค่ะว่า จะจีบกันอย่างไร แล้วคุณหมอดานีส
ที่ต้องมารับบทบาทเป็นพ่อของลูกทั้งเจ็ดจะตกอยู่ในสภาพเช่นไร..
แล้วนาดาจะเป็นแม่แบบไหน...
เรื่องราวความรักที่เกิดขึ้นท่ามกลางบรรยากาศของเมือง
"คาสบลังก้า" หรือ "อัดดารัลบัยฎออ์"
ซึ่งแปลว่า..."บ้านสีขาว"
ดินแดนในฝันดั่งต้องมนต์เสน่หาแห่งโมร็อกโก...
กับดินแดนอันแสนอบอุ่นด้วยไอรักแห่งแดนอาทิตย์อุทัย...
พบกับเขาและเธอ...
...ดารัล...ฟาเดล...
หญิงสาวที่หัวใจเปี่ยมล้นไปด้วยความรักความอบอุ่น
จากครอบครัวอันแสนสุขและน่ารัก...
ชีวิตที่มีพร้อมทุกอย่าง ไม่เคยต้องการสิ่งใดอีกแล้ว
เพราะเธอพอใจทุกอย่างที่มีมาตลอด
จนเมื่อเจอกับเขา...ที่นั่น "คาสบลังก้า"
เขาทำให้เธอไม่อาจลบลืมมนต์เสน่หาของที่นั่นได้เลย
ไม่ว่าจะยามหลับหรือตื่น...
กับ
ชายหนุ่มที่เปี่ยมไปด้วยรูปเปลือกที่สวยงามสมบูรณ์
หากภายในใจนั้นยังคงโหยหาไออุ่นแห่งรักจากใครสักคน
มาเติมเต็มหัวใจกำพร้าของเขา...
แล้วเธอคือผู้ที่เขาค้นพบว่ามีทุกอย่างที่เขากำลังต้องการอยู่
ดังนั้น...ไม่ว่าจะต้องทำอย่างไร เขาก็จะปล่อยเธอ
ไปไม่ได้โดยเด็ดขาด!
เรื่องนี้จะเป็นเรื่องราวของลูกสาวสุดหวงของหมอดานีส
กับนาดา โดยเรื่องราวของคุณพ่อเมื่ิอครั้งก่อนนั้น
จะเป็นแนา "แต่งก่อนจีบ"
แต่สำหรับรุ่นลูกแล้ว จะเป็นแนว "จีบก่อนแต่ง"
ต้องมาคอยดูกันค่ะว่า จะจีบกันอย่างไร แล้วคุณหมอดานีส
ที่ต้องมารับบทบาทเป็นพ่อของลูกทั้งเจ็ดจะตกอยู่ในสภาพเช่นไร..
แล้วนาดาจะเป็นแม่แบบไหน...
เรื่องราวความรักที่เกิดขึ้นท่ามกลางบรรยากาศของเมือง
"คาสบลังก้า" หรือ "อัดดารัลบัยฎออ์"
ซึ่งแปลว่า..."บ้านสีขาว"
ดินแดนในฝันดั่งต้องมนต์เสน่หาแห่งโมร็อกโก...
กับดินแดนอันแสนอบอุ่นด้วยไอรักแห่งแดนอาทิตย์อุทัย...
พบกับเขาและเธอ...
...ดารัล...ฟาเดล...
หญิงสาวที่หัวใจเปี่ยมล้นไปด้วยความรักความอบอุ่น
จากครอบครัวอันแสนสุขและน่ารัก...
ชีวิตที่มีพร้อมทุกอย่าง ไม่เคยต้องการสิ่งใดอีกแล้ว
เพราะเธอพอใจทุกอย่างที่มีมาตลอด
จนเมื่อเจอกับเขา...ที่นั่น "คาสบลังก้า"
เขาทำให้เธอไม่อาจลบลืมมนต์เสน่หาของที่นั่นได้เลย
ไม่ว่าจะยามหลับหรือตื่น...
กับ
ชายหนุ่มที่เปี่ยมไปด้วยรูปเปลือกที่สวยงามสมบูรณ์
หากภายในใจนั้นยังคงโหยหาไออุ่นแห่งรักจากใครสักคน
มาเติมเต็มหัวใจกำพร้าของเขา...
แล้วเธอคือผู้ที่เขาค้นพบว่ามีทุกอย่างที่เขากำลังต้องการอยู่
ดังนั้น...ไม่ว่าจะต้องทำอย่างไร เขาก็จะปล่อยเธอ
ไปไม่ได้โดยเด็ดขาด!
Tags: หวานซึ้งโรแมนติก ดราม่า โมร็อกโก คาสบลังก้า ทะเลทรายซาฮาร่า ดารัล ฟาเดล โสภณพสุธ
ตอน: บทที่ 18 คนนิสัยเสีย
ฟาเดลยืนกอดอกพิงขอบประตูตรงทางออกสู่ระเบียงบ้าน
มองภาพภรรยาสาวที่นั่งขีดๆเขียนๆอะไรบางอย่างอยู่บนกระดาษ
สีหน้าท่าทางค่อนข้างหมกมุ่นราวกับไม่สนใจสิ่งรอบข้าง
บางครั้งก็เห็นเธอยกดินสอเคาะขมับเหมือนกำลังครุ่นคิดอะไรอยู่
เขารู้สึกว่าเธอทำตัวประหลาดไปนับตั้งแต่วันที่เกิดเรื่องกับเขา…
หากก็ไม่อยากคิดว่า เหตุการณ์นั่นมีอิทธิพลต่อเธอ
เพราะเธอเป็นฝ่ายบอกปัดเขาไปแล้วว่าไม่ติดใจเอาความ…
ซึ่งฟาเดลคงยังไม่รู้ว่า ผู้หญิงนั้น ปากกับใจมักจะไม่ตรงกันเสมอไป
ยิ่งในบางครั้งปากกับการกระทำก็อาจจะสวนทางกันเลยด้วยซ้ำไป…
ยิ่งมาได้ยินคำพูดที่หลุดมาจากปากของเธอ แม้จะเป็นเพียงการพึมพำคนเดียว
หากเขาก็ได้ยินชัดถ้อยชัดคำ…
มันทำให้เขาต้องเปลี่ยนความคิดใหม่เกี่ยวกับดารัลทันที…
“ผู้หญิง…พูดไทยชัด…รู้เรื่องโปรแกรมการท่องเที่ยวของเรา…
และน่าจะรู้เวลาไปกลับของพี่ฟาเดล…ต้องการให้พี่ฟาเดลเสื่อมเสียชื่อเสียง…
คู่แข่งทางธุรกิจเหรอ…ไม่มั้ง…เรื่องอื้อฉาวพวกนี้อาจกระทบกับงานบ้าง
แต่ก็ไม่น่าจะมากจนทำให้ธุรกิจเสียหายมากมายอะไรนักหรอก…
แต่ก็ไม่แน่…ภาพพจน์มุสลิมที่ดีมาตลอด
เคร่งครัดเรื่องศาสนาของพี่ฟาเดลอาจเสียหายไปด้วยในสายตาคนอื่น
จนอาจนำมาเป็นการลดทอนความน่าเชื่อถือได้
เมื่อศีลธรรมสั่นคลอน ชีวิตและการงานก็จะสั่นสะเทือนตามไปด้วย”
ดารัลพึมพำคนเดียวพร้อมกับวาดวงกลมล้อมรายละเอียด
และตัวเชื่อมโยงลงบนกระดาษพลางเคาะขมับไปด้วย
ก่อนจะพ่นลมหายใจออกมาราวกับตกอยู่ในภวังค์
“แต่พี่ฟาเดลไม่เคยมีศัตรูมาก่อนนี่นา…นักธุรกิจที่ทำกันขนาดนี้ได้
ถ้าไม่เกลียดขี้หน้ากันมากๆ…ก็คงจะแค้นกันจนขนาด
จะไม่ให้มีหน้าบนแผ่นดินกันเลยทีเดียว…ใครนะ…ใคร…
แล้วทำไมต้องทำแบบนี้ด้วย บริษัทไหนกันที่จะแค้นพี่ฟาเดล
ถึงขั้นต้องลงทุนทำกันขนาดนี้ด้วย…
ก็คู่แข่งทางธุรกิจก็ไม่ได้แข่งกันดุเดือดขนาดนี้นี่นา…”
ดารัลส่ายหน้าไปมาราวกับไม่อยากจะชี้ชัดลงไป
สำหรับประเด็นความขัดแย้งทางธุรกิจเลย
เพราะเท่าที่เธอรู้มาตลอดก็คือ เขาเป็นคนทำธุรกิจมือสะอาด
จนใครๆต่างให้การนับถือและชื่นชมในความสามารถ
และเขาไม่ใช่คนโลภอยากมีอยากได้อยู่คนเดียวไม่แบ่งปันใคร
จนต้องถึงกับตัดแข้งตัดขาคู่แข่ง
ดังนั้น เรื่องที่คู่แข่งจะเล่นสกปรกกับเขาแบบนี้ก็ไม่น่าจะใช่เสียทีเดียว…
“แต่ถ้าพี่ฟาเดลเสียชื่อเสียงเรื่องผู้หญิงขนาดมีคลิิปฉาวกับผู้หญิงถึงสี่คน…
เผลอๆนั่นอาจส่งผลให้เราเลิกกับพี่ฟาเดลไปด้วยก็ได้…
ผู้หญิงที่ไหนก็คงไม่อาจทนรับสภาพของสามีแบบนั้นได้แน่ๆ…
และคนของตระกูลโสภณพสุธก็คงไม่มีทางให้อภัยการกระทำ
ของเขยใหญ่ได้แน่ๆ…ยิ่งนั่นเป็นการชิงลงมือถึงถิ่น
แล้วทุกคนก็อยู่กันพร้อมหน้าในที่นั่นด้วย…
หากพี่ฟาเดลตื่นมาในตอนเช้าแล้วพวกเราเข้าไปเห็นสภาพเขากับผู้หญิงสี่คน…
โอ้…นี่สิๆ…นี่อาจเป็นการเลิกราขั้นเด็ดขาดเลยทีเดียว…
ยิ่งมีวิดิโอยืนยันการกระทำ ยิ่งแก้ตัวไม่ขึ้น…
ประเด็นนี้สิค่อยน่าสนใจหน่อย…”ดารัลยิ้มปรายก่อนจะขมวดคิ้วมุ่นอีกครั้ง
“แต่ทำไมถึงอยากให้เราเลิก…นั่นน่ะสิ…”
ดารัลเติมรายละเอียดลงไปในกระดาษอีก…
พยายามพิจารณาสิ่งที่เขียนลงไปทั้งหมดอย่างใคร่ครวญ
“ผู้หญิง ผู้หญิง ใช่…คนในเงานั่นเป็นผู้หญิง…”
ดารัลดีดนิ้วพร้อมรอยยิ้มพราวระยับ…
“สามีเราก็ออกจะหล่อซะ…ทั้งรวยทั้งเก่ง ใครเห็นเป็นหลงใหลออกอย่างนั้น ”
คราวนี้ดารัลเหมือนจะเห็นเงาอะไรลางๆขึ้นมาบ้างแล้ว…
“พูดไทยชัด…สำหรับฮ่าน่าคงต้องตัดไป…ถึงจะรักพี่ฟาเดล
และเคยกล้าทำอะไรๆทำนองนั้นมาก่อน แต่ก็สำนึกและกลับตัวแล้ว…
แล้วยังเคร่งศาสนามากขึ้นอีก…คนตรงไปตรงมา
และมีปมเรื่องครอบครัวหย่าร้างแบบนั้นไม่มีทางเล่นลอบกัดกับสามีชาวบ้านแน่…
แล้วใครล่ะที่พูดไทยชัดๆที่อยู่ใกล้เราจนรู้ข้อมูลเชิงลึกได้อีก…ใครนะ…”
แล้วดวงตาของดารัลราวกับมีแสงจ้าเข้ากระทบ…
สมองก็เธอพลันนึกไปถึงใบหน้าหนึ่งขึ้นมาในเงาลางๆเลือนๆนั่น…
ที่เหมือนจะชัดขึ้นเรื่อยๆในความรู้สึก
และเหมือนความคิดนั้นจะหยุดชะงักลงเมื่อมีเสียงหนึ่งขัดขึ้น
หลังจากทนดูภาพหญิงสาวที่หมกมุ่นจนไม่รู้ตัว
ว่ามีคนเฝ้าจับตาเธอมานานจนเกินไปแล้ว
“ทำอะไรอยู่ครับ…”เสียงเรียบๆนั้นทำเอาดารัลถึงกับสะดุ้ง
หลุดจากภวังค์แห่งความคิดทันที…และไวเท่าความคิด
หญิงสาวคว่ำหน้ากระดาษลง หันไปยิ้มให้คนที่เดินเข้ามาทักทาย
“ตกใจหมดเลย…ทำไมมาเงียบๆล่ะคะ…”ฟาเดลจ้องมองกระดาษ
ที่เจ้าของเอามาวางไว้บนหน้าตักราวกับหวงแหนนั่นนิ่ง
ก่อนจะทรุดลงนั่งฝั่งตรงข้ามกับหญิงสาว เอ่ยเสียงเรียบ
ด้วยสีหน้าและแววตาที่ยากจะคาดเดาความคิด
“รู้ตัวบ้างรึเปล่่าว่าทำตัวประหลาดๆมาหลายวันแล้ว…”
ฟาเดลยกแขนทั้งสองขึ้นวางบนโต๊ะแล้วเท้าคางจ้องหน้าดารัลนิ่ง
“ประหลาดยังไงคะ…”ดารัลเลิกคิ้วสูงขณะถาม
“หมกมุ่น…ดูหมกมุ่นเกินไป…มีอะไรที่พี่ควรจะรู้รึเปล่า…”
ฟาเดลหยั่งเชิง ทว่าดารัลกลับส่ายหน้า
“ตอนนี้ยังค่ะ…เอาไว้น้องรัลแน่ใจเมื่อไหร่จะบอกพี่ฟาเดลเป็นคนแรกเลย…”
ฟาเดลเลิกคิ้วนิดนึง แววตาที่ทอดมองอีกฝ่ายเต็มไปด้วยคำถามมากมาย
“ไม่ใช่ว่ากำลังวางแผนหาทางหนีพี่กลับไปญี่ปุ่นกับคนอื่นๆในวันพรุ่งนี้หรอก…ใช่มั้ย…”
ดารัลยิ้มกว้างกับถ้อยคำสัพยอกนั้น
“ถ้าจะหนีพี่ฟาเดลกลับญี่ปุ่นน่ะ น้องรัลคงไม่ต้องวางแผนอะไรเลย
แค่เดินเข้าไปเก็บเสื้อผ้ายัดใส่กระเป๋าแล้วก็จองตั๋วกลับเท่านั้นเอง
โอกาสมีทุกวัน โดยเฉพาะวันที่พี่ฟาเดลต้องไปทำงาน…
กว่าจะกลับก็มืดค่ำมิใช่เหรอคะ…”
ฟาเดลพยักหน้าหงึกๆ เธอมีเวลาแอบหนีเขาไปไหนก็ได้
ยามที่เขาต้องไปทำงานจริงๆอย่างที่เธอว่านั่นแหล่ะ
“แต่เธอก็ไม่ปฏิเสธใช่มั้ยว่าแผนการในกระดาษนั่น มันเกี่ยวข้องกับพี่โดยตรง…”
ฟาเดลชี้ไปที่กระดาษที่วางอยู่บนตักของดารัลพร้อมแววตาคาดคั้น…
แต่ไม่ว่าจะคาดคั้นแค่ไหน คนตรงหน้าก็ดูจะไม่อนาทรร้อนใจ
กลับยิ้มแฉ่งได้อย่างชื่นบาน แถมยังยอมรับโดยไม่ให้ข้อมูลอะไรเลยสักนิด…
“ค่ะ…เกี่ยวกับพี่โดยตรง…”ฟาเดลจ้องหน้าคนพูดด้วยแววตาคมกริบ
ทำให้ดารัลรู้ว่า เขากำลังไม่พอใจที่เธอจงใจปกปิดเขา…
“พี่ฟาเดลเชื่อใจน้องรัลแค่ไหน…”หญิงสาวถามออกไปด้วยสีหน้าจริงจัง
“เรื่องอะไรล่ะครับ…”
“ทุกๆเรื่อง…”ฟาเดลยกมุมปากนิดนึง…
“เรื่องหัวใจน่ะ พี่เชื่อ…แต่เรื่องอื่นๆพี่ยังไม่วางใจ…
ความสวยและความฉลาดของผู้หญิงเป็นอาวุธชั้นเยี่ยม…
ยิ่งมีความรู้ความสามารถยิ่งประมาทไม่ได้…
พี่อาจจะยังไม่รู้จักน้องรัลหมดในทุกอย่าง…
แต่สิ่งหนึ่งที่พี่แน่ใจก็คือ…น้องรัลเป็นคนดี…รักเดียวใจเดียว…”
ฟาเดลเอ่ยด้วยน้ำเสียงหนักแน่น หากแววตาที่จับจ้องดารัลนั้นยังส่อแววกังขา
“แต่ไม่ว่ายังไง พี่ก็อยากให้น้องรัลรอบคอบ อย่าประมาท
เพราะสิบเท้ายังรู้พลาด นักปราชญ์ยังรู้พลั้ง…”ดารัลพยักหน้าพร้อมรอยยิ้ม
รู้สึกดีเหลือเกินที่คนตรงหน้าเป็นห่วงเป็นใยเธอขนาดนี้
“ค่ะ…น้องรัลจะไม่ประมาท…”
หากถ้อยคำต่อมาของเขากลับทำให้ดารัลถึงกับยิ้มไม่ออก
“ภรรยาที่ดีไม่ควรออกไปข้างนอกตามลำพังโดยไม่บอกสามีให้รู้…”
ถ้อยคำเหมือนจะตำหนินั้นทำให้ดารัลถึงกับสะดุ้ง
เพราะนั่นเท่ากับทำให้รู้ว่าเขารู้การเคลื่อนไหวของเธอ…
“และพี่พร้อมจะให้อภัย ถ้าน้องรัลจะไม่ทำแบบนั้นอีก…
ที่นี่คือคาสบลังก้า…ไม่เหมาะที่ผู้หญิงจะเดินทางไปไหนเพียงลำพัง
ต่อให้ผู้หญิงคนนั้นจะเก่งกาจและฉลาดเอาตัวรอดเก่งแค่ไหนก็ตาม…”
ฟาเดลลุกขึ้นแล้วตั้งท่าจะปลีกตัวจากไป
ทว่าดารัลกลับคว้าข้อมือของเขาเอาไว้ก่อนจะสวมกอดเขาจากทางด้านหลัง
แนบหน้าลงบนแผ่นหลังนั่นขณะเอ่ยว่า
“น้องรัลขอโทษ…”เธอรู้ว่าเขากำลังโกรธเธอ แม้เขาจะไม่ดุด่า
แต่แววตาตัดพ้อและคำพูดแฝงนัยตำหนิในน้ำเสียงนั้น
เธอรู้...รู้ว่าเขากำลังไม่พอใจเธอ…
“น้องรัลมีความจำเป็นค่ะ…พี่ฟาเดลอย่าโกรธน้องรัลเลยนะคะ…”
“งั้นรับปากพี่ได้มั้ยว่าจะไม่ทำแบบที่เคยทำอีก…จะไม่ไปไหนมาไหนคนเดียวอีก…
แล้วจะบอกพี่ทุกครั้งที่ออกไปข้างนอก…รับปากกับพี่สิ…”ดารัลถึงกับนิ่งงันไป
ฟาเดลจึงแกะมือที่กอดเขาไว้ออก พร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงเยียบเย็น
ชวนให้คนฟังรู้สึกร้อนๆหนาวๆว่า
“ถ้ายังดื้อและไม่เชื่อฟังกัน…ต่อให้ต้องขังเธอเอาไว้แต่ในห้อง พี่ก็จะทำ!”
ดารัลเห็นเขากำลังโกรธจัดและกำลังจะเดินหนีไปอีก
ก็รีบวิ่งเข้าไปหาแล้วสวมกอดเอาไว้จากทางด้านหลังอีกครั้งราวกับจะง้อ…
“ทำไมถึงดื้ออย่างนี้นะ…”ฟาเดลพยายามแกะมือที่เหนียวเหมือนตุ๊กแกนั้นออก
แต่ไม่เป็นผล
“ถ้าไม่รับปากก็เตรียมตัวเป็นนักโทษได้เลย…และพี่ไม่ได้ขู่!
พ่อแม่พี่น้องหรือใครก็ไม่มีสิทธิ์ช่วยเธอได้…”
ดารัลซบหน้าลงตรงแผ่นหลังของเขา
จนฟาเดลรับรู้ได้ถึงความเย็นของของเหลวที่ซึมผ่านเข้าสู่เนื้้อหนัง
แล่นเข้าสู่หัวใจของเขา
…แต่คราวนี้เขาจะไม่ใจอ่อนกับคนตัวเล็กอีก…ไม่มีอีกแล้ว!
เธอไม่เคยคิดถึงหัวอกของเขาเลยว่าเขาจะกังวลใจแค่ไหน
ตอนที่รู้ว่าเธอหายไปจากบ้านโดยไม่บอกกล่าว
แถมกลับมายังปกปิดไม่บอกกล่าวอะไรด้วยการหาเรื่องกลบเกลื่อนอีก
และไม่ใช่แค่เขา พ่อแม่พ่ีน้อง
และคนอื่นๆต่างก็ห่วงกังวลคิดไปสารพัดว่าเธอจะตกอยู่ในอันตรายหรือเปล่า…
ข้างนอกนั่นน่ะไม่ได้เหมาะสำหรับผู้หญิงตัวคนเดียวเลยสักนิดเดียว
…เธออาจจะม่ันใจในตัวเอง แต่เขาไม่มั่นใจสังคมและผู้คนภายนอก…
แม้ที่คาสบลังก้าจะเป็นเมืองค่อนข้างปลอดภัย แต่อะไรๆก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น…
ที่นี่ไม่ได้มีแต่เฉพาะคนในพื้นที่เท่านั้น แต่ยังมีชาวต่างชาติที่เข้ามาติดต่อทำธุรกิจ
มีนักท่องเที่ยวมากหน้าหลายตา ร้อยพ่อพันแม่ หลากหลายสายพันธุ์
ที่ยากจะคาดเดาความคิดอ่าน
โดยเฉพาะเขาเริ่มรู้มาว่ามีคนกำลังคิดมิดีมิร้ายต่อเขาและเธออยู่…
แม้ตอนนี้จะยังไม่รู้เป้าหมายที่แน่ชัด
แต่มันไม่ควรเลยที่เขาจะปล่อยให้เธอออกไปเที่ยวเดินข้างนอกเพียงลำพัง…
“ทำไมถึงไม่หัดเข้าใจพี่บ้าง…ได้โปรดเถิดน้องรัล…
อย่าให้พี่ต้องใช้ไม้แข็งกับเธอเลย…”
“น้องรัลขอแค่เรื่องนี้ เรื่องเดียว พี่ฟาเดลให้น้องรัลได้มั้ยคะ…
น้องรัลขอเวลาแค่เดือนเดียว แล้วน้องรัลจะยอมให้พี่ฟาเดลกักขังน้องรัล
ไม่ให้เห็นเดือนเห็นตะวันเลยก็ได้…”ดารัลต่อรองด้วยน้ำเสียงเจือสะอื้น
จะให้เธอเลิกสืบเรื่องผู้หญิงคนนั้นเธอหยุดไม่ได้หรอก…
ยิ่งให้เขาเข้ามาช่วยทำแทน เธอยิ่งมองไม่เห็นว่าเขาจะช่วยอะไรได้…
ผู้ชายหรือจะรู้เท่าทันผู้หญิงด้วยกัน ผู้หญิงกับผู้ชายใช่จะมีหลักความคิด
และวิธีการที่เหมือนกันเสียที่ไหน…
ยิ่งอารมณ์พวกผู้หญิงแล้ว ผู้ชายที่ไหนจะหยั่งถึง…
แล้วผู้หญิงที่ทำได้ขนาดนั้นมันต้องเจออย่างเธอ!
เธอมั่นใจว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องของผู้หญิง ผู้หญิงด้วยกันต้องสะสางเอง
“งั้นพี่ก็คงต้องบอกว่า…เสียใจ…เธอยังรู้จักพี่น้อยไปน้องรัล…”
ฟาเดลแกะมือนั้นออกแล้วเดินจากไป
โดยไม่หันมามองใบหน้าเปื้อนคราบน้ำตานั่นแม้แต่น้อย
ทำเอาดารัลถึงกับน้อยใจยกสองมือปิดหน้าร้องไห้ไร้เสียงสะอ้ืนไห้…
ครั้นเมื่อส่งพ่อแม่พ่ีน้องรวมทั้งคุณย่าของเธอกลับญี่ปุ่นแล้ว
ดารัลก็ถูกจำกัดพื้นที่โดยฟาเดลส่งบอดีการ์ดสาวมาคุมถึงสองคน
จนไม่อาจขยับตัวไปไหนมาไหนได้อย่างเคยอีก…
สร้างความหงุดหงิดให้หญิงสาวไม่น้อย
จนพาลหาเรื่องกับเจ้าตัวต้นเหตุแทบทุกครั้งที่สบโอกาส
“พี่ฟาเดลจะมาทำกับน้องรัลแบบนี้ไม่ได้…น้องรัลจะกลับญี่ปุ่น…”
“ถ้าคิดว่ากลับได้ก็ลองดู…”ฟาเดลท้า
“ถ้ากลับไปญี่ปุ่นได้ล่ะก็…จะไปไม่กลับมาอีกเลย”
ดารัลรับคำท้าด้วยแววตาวาวโรจน์…
ขุ่นโกรธที่เขาจำกัดอิสรภาพของเธอในช่วงที่เธอต้องการมันมากที่สุด
ถ้าเป็นช่วงเวลาอื่นเธอจะไม่โกรธถึงขั้นนี้
“คราวก่อนโน้นก็พูดแบบนี้…แล้วเป็นไงล่ะ…สุดท้ายก็ต้องมาอยู่ที่นี่่กับพี่อยู่ดี…
พี่ว่า…เธอหาทางออกไปจากคฤหาสถ์หลังนี้ให้ได้ก่อนเถิด
อย่างน้อยเธอก็ต้องล้มคนของพี่ให้ได้เสียก่อน
เก่งนักไม่ใช่เหรอ...แสดงฝีมือให้ดูหน่อยเป็นไร…”
ฟาเดลยิ้มเยาะราวกับจะยั่วอีกฝ่าย
ดารัลกัดฟันจนอยากจะใช้ฟันกัดเนื้อกล้ามเป็นมัดๆที่ต้นแขนเขาเหลือกำลัง
อยากรู้นักว่าจะยิ้มเย้ยเธอแบบที่ยิ้มอยู่ต่อไปได้อีกรึเปล่า…
“อย่าท้านะอย่าท้า…”
ฟาเดลหัวเราะฮึๆในลำคอ ทำเอาคนที่กำลังโกรธถึงกับเดือดพล่าน
และยิ่งถึงจุดเดือดเมื่อเห็นสีหน้ายียวนกวนอารมณ์ยื่นเข้ามาหา
เอามือมาดึงมาลูบที่ผม แล้วใช้นิ้วเรียวเกลี่ยแก้มเธอเบาๆราวกับจะยั่ว…
ดารัลจึงคว้าข้อมือข้างนั้นของเขาให้หงายขึ้นแล้วใส่แรงบิดเข้าที่แขนและไหล่
แล้วใส่แรงกดดันที่ข้อศอก ทุกอย่างรวดเร็วจนฟาเดลแทบไม่มีเวลาตั้งตัว
“โอ๊ยๆๆ…”เสียงร้องโอดโอยดังขึ้นพร้อมกับร่างเล็กที่หมุนมือไปข้างหลัง
จนล็อกหัวไหล่แล้วจึงทุ่มไปข้างหน้า…ก่อนจะเข้าล็อกเขาเอาไว้ทั้งตัว
ในท่านอนคว่ำหน้าบนพื้นพรม มีร่างเล็กคร่อมเหนือร่างใหญ่อยู่ทางด้านบน…
ล็อกข้อต่อของเขาเอาไว้ไม่ให้ขยับได้โดยง่าย
ก่อนจะก้มลงกระซิบข้างริมหูของคุณสามีด้วยเสียงหวานพร้อมรอยยิ้มว่า
“คิดว่าน้องรัลต้องยอมพี่ไปตลอดทุกทีใช่มั้ย...น้องรัลก็สู้คนนะคะ…”
ฟาเดลที่ถูกจับล็อกนอนคว่ำถึงกับอมยิ้ม
ปล่อยให้เธอทิ้งน้ำหนักลงบนตัวเขาอยู่เช่นนั้น รอจนเธอเผลอ…
เขาจึงใช้ช่วงจังหวะนั้นในการพลิกตัวแล้วม้วนตัว หมุนเป็นวงกลม
เปลี่ยนจากฝ่ายเสียเปรียบเป็นฝ่ายได้เปรียบในพริบตา…
เมื่อตอนนี้ร่างเล็กกว่ากำลังนอนหงายในขณะที่เขาขึ้นคร่อมร่างเธอเอาไว้ได้สำเร็จ…
อย่าว่าแต่ขยับเขยื้อนเลย แม้แต่จะพูดก็หมดโอกาส
“ครูผู้ฝึกไม่สอนน้องรัลบ้างเหรอว่านักสู้ที่ดีนั้นควรเป็นทั้งผู้ให้และผู้รับที่ดี…”
พูดจบเขาก็ก้มลงหอมแก้มแดงๆนั่นทั้งซ้ายและขวา
ก่อนจะมอบจุมพิตหวานละมุนให้ทันทีที่เธออ้าปากจะพูด
จากจูบที่อ่อนหวานเปลี่ยนเป็นรุกเร้าดูดดื่มทำเอาคนที่ตกเป็นเบี้ยล่าง
ถึงกับครางออกมาอย่างพ่ายแพ้หมดรูป มือไม้และเร่ี่ยวแรงหดหายไปจนหมดสิ้น
ฟาเดลจึงยอมถอนจุมพิตนั้นแล้วมองแก้มแดงๆด้วยแววตาเป็นประกาย
“น้องรัลคงต้องเรียนรู้วิธีต่อสู้กับจูบของพี่เพิ่มแล้วล่ะ…
และพี่ยินดีเป็นสนามทดลอง…”
พูดจบเขาก็ก้มลงมอบจุมพิตให้กับเธออีกครั้งและอีกครั้ง
ไม่ยอมปล่อยโอกาสให้เธอได้พูดหรือประท้วง…
สองแขนที่ถูกปล่อยให้เป็นอิสระเพราะเจ้าของมือที่ตรึงมือเธอเอาไว้
ใช้ประโยชน์จากมือนั้นในการลูบไล้เรือนกายของเธอแทน…
ดารัลจึงยกสองแขนโอบรอบคอของเขาเอาไว้…
และคนที่ถูกท้าก็ไม่ลืมที่จะรับคำท้าเสียด้วย!!!
ดารัลใช้สองแขนโน้มใบหน้าของเขาเข้าหาอีกครั้ง
จนลมหายใจเป่ารดใบหน้ากันและกัน
รอยยิ้มหวานของเธอทำเอาฟาเดลถึงกับหัวใจหลอมละลายจนเผลอตัว
ก้มลงหมายจะมอบจุมพิตยังริมฝีปากอวบอิ่มสวยที่กำลังแย้มยิ้มให้เขาอีกครั้ง
กว่าจะรู้ตัวหรือคิดจะป้องกันก็สายจนเกินไป
เมื่อเธอใช้ศีรษะโขกกับหน้าผากของเขาเต็มแรง
“โอ๊ย…”ฟาเดลรู้สึกเจ็บ มึน ปวดหนึบ เหมือนจะหน้ามืดไปชั่วขณะ
เริ่มเห็นดาวกะพริบระยิบระยับตอนกลางวัน แต่ยังไม่ทันผุดลุก
ก็ต้องร้องครางอีกครั้ง
“โอ้ย…..”เสียงร้องครางดังยาวเพราะท่อนแขนของเขา
โดนฟันของคนตัวเล็กฝังเขี้ยวลงไม่ยอมปล่อย…
เมื่อสมใจแล้วเจ้าของร่างก็ผลักเขาจนหงายหลังก่อนจะดีดตัวม้วนตัวหนีไปอีกทาง…
เมื่อกอบกู้เอกราชจากการตกเป็นเมืองขึ้นได้สำเร็จเสร็จสิ้น
ดารัลจึงใช้จังหวะนั้นลุกข้ึนวิ่งหนีไปที่ประตูห้องทันที
พร้อมเสียงหัวเราะสดใสร่าเริงเบิกบาน ไม่ลืมหัวมามองคนที่นั่ง
ยกมือกุมหน้าผากด้วยสีหน้าเหยเกแล้วพูดด้วยน้ำเสียงสดใสว่า
“ครูผู้ฝึกสอนน้องรัลว่า เมื่อเรายังสู้ไม่เก่ง เราต้องหนีให้เก่ง…
รู้อะไรไม่สู้รู้วิชา…รู้รักษาตัวรอดเป็นยอดดี…”
ฟาเดลกัดฟันมองหน้าคนพูดนิ่ง
ถ้าเขาจะลุกไปตะครุบตัวแม่เนื้อหอมอีกครั้งคงไม่ใช่เรื่องยาก
แต่อยากจะรู้นักว่าเธอจะคิดหาวิธีใดมากอบกู้อิสรภาพอีก…
“อ้อ…พี่ฟาเดลเองก็ต้องหัดรู้จักเรียนรู้วิธีต่อสู้กับมารยาผู้หญิงเอาไว้เยอะๆด้วยนะคะ…
และดูว่าผู้หญิงข้างนอกนั่นจะเป็นสนามทดลองได้ดีกว่าน้องรัลเป็นไหนๆซะด้วย…
ระวังตัวเอาไว้ให้ดีเถอะ…พลาดท่าเสียทีขึ้นมาจะหาว่าไม่เตือนไม่ได้นะเออ…”
พูดจบเจ้าร่างบางก็เปิดประตูก้าวออกไป
แต่จะไปไหนพ้น ในเมื่อต่อให้เก่งแค่ไหน
ก็คงไม่อาจล้มคนของเขาที่อยู่ข้างนอกได้อยู่ดี…
ดารัลมองไปรอบๆห้องก็ไม่พบเครื่องมือสื่อสารใดๆที่พอจะติดต่อโลกภายนอกได้
มือถือของเธอและที่เธอยึดมาได้จากสี่สาวนั่นก็โดนเขายึดไป
ส่วนโทรศัพท์บ้านก็พ่วงกับเครื่องในห้องทำงานของเขา
แค่เพียงยกหูขึ้นมาโทร เขาหรือคนของเขาก็สามารถยกหูขึ้นฟังการสนทนา
ระหว่างเธอกับปลายสายได้ทันที…
จะมีก็แค่มือถือที่เขาเอามาให้ มือถือที่มีความสามารถเพียงโทรเข้า
กับโทรออกได้เท่านั้น และเบอร์ที่ถูกบันทึกไว้ในเครื่อง
ก็มีเพียงเบอร์ของเขากับของที่บ้านและที่บริษัทเท่านั้น…
ซ้ำยังเป็นโทรศัพท์มือถือรุ่นโบราณเต่าล้านปีที่ไม่สามารถเข้าอินเตอร์เนตได้อีก
เขาปิดการเชื่อมต่อโครงข่ายบริการอินเตอร์เนต
แม้กระทั่งคอมพิวเตอร์ที่วางไว้ให้ใช้งานก็ไม่สามารถเชื่อมต่อโลกภายนอกได้
นี่เขากะจะมือตัดแขนเธอเลยหรือยังไงกัน…
ยิ่งคิดยิ่งเจ็บใจเป็นที่สุด…ขนาดนี้แล้วเธอก็ยังหาโอกาสออกไปนอกคฤหาสถ์หลังนี้ไม่ได้
อย่างมากสุดก็แค่ออกไปสูดอากาศตรงสวนสวยน่ันแหล่ะ ไปได้ไกลสุดแค่นั้นเอง…
ส่วนปู่กับย่าของเขาก็ไปพักอยู่กับญาติสนิิทที่กรุงราบัด
ซึ่งเป็นเมืองหลวงของโมร็อกโกตั้งแต่วันที่พ่อแม่พี่น้อง
และคุณย่าของเธอกลับไปญี่ปุ่นแล้ว
“ถามหน่อยเถอะ…พี่ฟาเดลเห็นน้องรัลเป็นอะไร…ถึงได้ทำกันแบบนี้…
สาแก่ใจพี่รึยัง…หัวใจพี่ยังมีรึเปล่า…”
ดารัลต่อว่าต่อขานคนที่โผล่หน้ามารองรับอารมณ์เธอพร้อมถาดอาหารในมือนั่น…
“พี่ก็เห็นเธอเป็นนักโทษน่ะสิ…เลิกดื้อเมื่อไหร่ค่อยเซ็นสัญญาสงบศึกกันอีกรอบ…
อย่าลืมนะว่าเธอทำผิดข้อสัญญาฉบับก่อนกับพี่…
สัญญาฉบับนั้นก็เลยถือเป็นโมฆะ…”
ฟาเดลพูดพลางวางถาดลงบนโต๊ะตรงโซฟาในห้องนอน…
“มาทานข้าวกันเถอะ…พี่อุตส่าห์ลงมือทำเองเลยนะ…ข้าวผัดทะเลที่เธอชอบไง…”
ดารัลมองข้าวผัดที่ส่งกลิ่นหอมกรุ่นสองจาน
กับน้ำเปล่าสองแก้วในถาดที่คนนำมากำลังยกขึ้นจัดแจง
“ไม่กิน…”ดารัลปฏิเสธทั้งๆที่กำลังหิวจัด
เพราะหมดพลังงานไปกับอารมณ์หงุดหงิดงุ่นง่านที่ขึ้นๆลงๆทั้งวัน…
“ไม่หิวหรือไง…”
“ถึงหิวก็ไม่กิน…ยิ่งพี่ทำมายิ่งไม่อยากกิน…เอาออกไป
แล้วก็ไม่ต้องมานั่งกินยั่วในห้องนี้…ออกไปทั้งคนทั้งข้าวผัดนั่นแหล่ะ
ไม่อยากเห็นหน้า ไม่อยากกิน…”
ดารัลปฏิเสธเสียงแข็งพร้อมกับหันหลังให้อาหารจานโปรด
โดยเฉพาะหน้าคนทำเธอไม่อยากเห็น เห็นที่ไรแล้วของขึ้นอยู่ร่ำไป
…เพราะเขา เพราะเขาคนเดียวเลยที่ทำให้แผนการของเธอต้องพ่ายพัง…
เขาทำลายแผนการทุกอย่างของเธอจนหมดสิ้น ทุกอย่างกำลังไปได้สวย
แต่เขาก็เข้ามาขัดขวางการดำเนินการของเธอ...
แล้วผู้หญิงคนนั้นก็ไม่รู้ว่ากำลังคิดจะทำอะไรต่อ
คนแบบนั้นคงไม่วางมือง่ายๆแน่ๆ แล้วเธอมาโดนกักขังแบบนี้จะทำอะไรใครได้
แค่จะเอาตัวเองยังไม่รอดเลย…
ป่านนี้ผู้หญิงคนนั้นคงไหวตัวทัน
จนไอ้ที่เธอทำๆมามันคงจะใช้การไม่ได้แล้วด้วยซ้ำ
โธ่เอ๊ย!!!…
“อย่าให้พี่ต้องป้อนข้าวเธอด้วยวิธีพิเศษเลยนะน้องรัล…”
เสียงราบเรียบนั่นทำเอาคนที่ยืนหันหลังให้ถึงกับชาสันหลังวาบ…
หันมามองหน้าเจ้าของข้าวผัด แล้วก็ได้เห็นแววตาคมกริบที่จ้องมองมา
“จะมานั่งกินดีๆหรือจะให้พี่ป้อน เลือกเอา…”
ดารัลกัดฟันกรอด เม้มปากแน่นจนเป็นเส้นตรง
“ไม่กิน…ไม่ต้องมาขู่…ไม่ต้องมาทำดีด้วย…ไม่ต้องมาทำเป็นห่วงใย
ไม่ต้องมาเสียเวลาเอาใจ ในเมื่อคิดจะกักขังกันก็ไม่ต้องมาดูแลเอาใจใส่
ปล่อยให้นอนแห้งเหี่ยวตายคาห้องนี้แหล่ะ…
ถ้าอยากจะกิน น้องรัลมีปัญญาลงไปทำกินเองในครัวได้…
ไม่ต้องมาทำเป็นตบหัวแล้วลูบหลัง…ยังไงๆน้องรัลก็ไม่ยอม…
อยากให้ยอมอยากให้หยุดนักใช่มั้ย งั้นก็รอเก็บศพได้เลย…”
ดารัลตัดพ้อต่อว่าผู้เป็นสามีที่ไม่เคยจะเข้าใจเธอเลยสักนิดเดียว…
อีกแค่นิดเดียว เธอก็จะรู้อยู่แล้วว่าใครอยู่เบื้องหลังแผนการอุบาทว์นั่น
คนแบบนั้นปล่อยไปจะเป็นปัญหาของสังคม เธอยอมไม่ได้หรอก!!
“อยากจะขังก็ขังไป…ขังได้ขังไปสิ…เอาให้สาแก่ใจไปเลย…
แต่อย่าหวังว่าดารัลคนนี้จะคุกเข่าอ้อนวอนพี่นะ…อยากทำสงครามกันนักใช่มั้ย
งั้นก็ไม่ต้องสงบกันละ…ถ้าไม่ตายไปก่อนก็อย่าหวังว่าจะยอมหยุด…
จะไม่หยุดคิดหยุดวางแผนแม้แต่วันเดียวเลย...”
ฟาเดลที่นั่งจ้องคนพูดมานานโดยไม่เอ่ยคำใดถึงกับขบกรามแน่นจนขึ้นสันนูน…
ก่อนจะลุกขึ้นคว้าไหล่ของดารัลแล้วบีบเอาไว้แน่น
“ทำไมถึงได้ดื้ออย่างนี้นะน้องรัล…พี่ต้องทำยังไงเธอถึงจะหยุด…และวางมือ...
บอกพี่สิว่าต้องทำยังไง…ทำไมไม่วางใจพี่แล้ววางมันให้พี่ วางมันในมือพี่สิ
บอกพี่แล้วพี่จะจัดการให้ทุกอย่าง...ทุกอย่าง!”
ชายหนุ่มเขย่าร่างบางจนโยกไปมาด้วยแรงโทสะ…
ดารัลยืนนิ่งสงบ แววตานิ่งราวกับทะเลไร้คลื่น
“พี่แค่อยากมีเมียที่รู้จักเชื่อฟังกันบ้าง…พี่ต้องการแค่นี้เอง…
แค่นี้น้องรัลให้พี่ไม่ได้หรือไง…”แววตาตัดพ้อต่อว่านั้นทำเอาดารัลถึงกับหวั่นไหว
“ทั้งๆที่พี่ไม่เชื่อใจน้องรัลเลยอย่างนั้นหรือ…ทำไมพี่ถึงไม่เชื่อว่าน้องรัล
สามารถดูแลตัวเองได้บ้าง…ทำไมถึงไม่เชื่อ…ขนาดพี่ยังไม่เชื่อใจน้องรัล
แล้วจะให้น้องรัลเชื่อฟังคนที่ไม่คิดที่จะเชื่อใจเราอย่างนั้นหรือ…
งั้นพี่ก็คงต้องกักขังน้องรัลไปตลอดชีวิตแล้วล่ะ…
อยู่ในคฤหาสถ์หลังงามหลังนี้ไปจนตายมันนั่นล่ะ…
ไม่ต้องทำอะไรเลย หิวก็กิน ง่วงก็นอน…ร้อนก็อาบน้ำ…
อย่างนี้ใช่มั้ยที่พี่หวังจะให้น้องรัลเป็น…น้องรัลมีค่าชีวิตแค่นี้เองหรือ
ถ้าเกิดมามีค่าแค่นี้ ก็ไม่รู้จะอยู่เป็นผู้เป็นคนไปทำไมให้รกโลก...”
ดารัลใช้มือดันร่างฟาเดลออกด้วยน้ำเสียงและแววตาตัดพ้อ…
“แต่ถ้ารอดไปได้เมื่อไหร่ อย่าคิดว่าน้องรัลจะบินกลับมาอยู่ในกรงทองของพี่อีก…
น้องรัลไม่ใช่นกน้อยในกรงทอง…ไม่เคยถูกเลี้ยงมาแบบนั้น
น้องรัลหากินเองได้มานานแล้ว…ไม่จำเป็นต้องรอให้ใครมาป้อนอาหารให้ถึงปาก…”
ฟาเดลหันหลังกำหมัดแน่น สูดลมหายใจเข้าปอดเพื่อข่มใจ
ข่มอารมณ์ที่กำลังปะทุ หากก็สุดจะต้านทาน
ชายหนุ่มหันกลับไปคว้าร่างบางเข้ามาปะทะกับอก
แล้วก้มลงจุมพิตริมฝีปากนั้นหมายจะลงทัณฑ์
ก่อนจะยกร่างบางขึ้นอุ้มแล้ววางลงบนเตียงนอนอย่างง่ายดาย
โดยที่เจ้าของร่างไม่แม้แต่จะขัดขืน…
ฟาเดลจึงสามารถจัดการกับเสื้อผ้าของเธอที่กีดขวางออกไปโดยสะดวก…
หากร่างบางของเจ้าเนื้อหอมกลับแข็งเกร็งเหมือนท่องซุง
ทำเอาอารมณ์ที่กำลังคุกรุ่นของฟาเดลลดฮวบ…
เขามองใบหน้าที่ไร้อารมณ์ความรู้สึกนั้นอย่างเจ็บปวด…
และยิ่งปวดแปลบแสบไปถึงทรวงกับถ้อยคำตัดพ้อนั้นของเธอ
“เอาสิ…พี่เก่งกว่าน้องรัลอยู่แล้วนี่…จะทำให้ท่อนซุงกลายเป็นเทียนลนไฟยังไงก็ได้…
เอาเลย…อยากทำอะไรก็ทำเลย…เอาให้พอใจเลยนะ…
อยากได้ลูกกี่คนก็ขอให้บอก…น้องรัลพร้อมแล้ว
พร้อมจะอยู่เลี้ยงลูกนกในกรงทองไปจนตายเลย...”
ฟาเดลกัดฟันกรอดก่อนจะก้มลงจูบริมฝีปากที่ช่างต่อว่าต่อขานเขาเหลือเกิน
มือก็ลูบไล้ไปทั่วร่างที่กำลังสั่นเหมือนลูกนกนั่น
ในเมื่อเธอบอกว่าพร้อม เขาก็จะสนองให้ตามที่บอก…
จากท่อนซุงแข็งๆก็หลอมละลายกลายเป็นเทียนลนไฟดั่งปากเธอพร่ำว่าเขา…
ใช่...เขาสามารถทำให้เธอเป็นอย่างท่ีใจเขาต้องการได้จริงๆนั่นล่ะ...
แต่เขากลับก้าวไปไม่ถึงฝั่ง เมื่อเห็นแววตาเจ็บปวดของผู้หญิงที่เขารักสุดหัวใจ…
แววตาที่มีปฏิกิริยาตรงกันข้ามกับร่างกายที่ตอบรับเขา…
แววตาที่เป็นหน้าต่างของหัวใจ!!!…
ฟาเดลหยุดทุกอย่างลงทันทีที่สบตาคู่นั้นของเธอเข้า
ก่อนจะลุกขึ้นแล้วหยิบเสื้อผ้ามาสวมใส่ลวกๆเดินออกจากห้องนั้นไป...
ไม่แม้แต่จะหันกลับมามองอีกคน...อย่างที่ครั้งหนึ่งเขาเคยทำมาแล้ว…
ดารัลก้มหน้ากับหมอนร้องไห้สะอื้นทันทีที่ได้เห็นภาพเดิมๆเข้ามาฉายซ้ำ…
ภาพที่ดึงสติทั้งมวลของเธอกลับมาจนครบถ้วน
ก่อนจะยกกำปั้นทุบเตียงนอนด้วยความเจ็บใจ
เจ็บใจที่เธอปล่อยให้อารมณ์ครอบงำสติ จนทำร้ายทั้งเขาและตัวเองอีกจนได้
…ทำไมนะ ทำไมนะ…ทำไมเป็นคนแบบนี้นะดารัล…ทำไมปากร้ายอย่างนี้นะ…
ทำไมถึงได้เป็นคนแบบนี้…ใครใช้ให้แกพูดอะไรแบบนั้นลงไป
ผีห่าซาตานที่ไหนยุยงแกให้พูดจาแบบนั้นออกไป…
ทำแบบนี้แล้วมันได้อะไรขึ้นมา ฮือๆๆ
เขาเป็นสามีแกไม่ใช่หรือ แกเองก็รักเขาไม่ใช่หรือ เขาเองก็รักแกมิใช่หรือ…
แล้วทำไมถึงทำแบบนั้น พูดจาร้ายกาจแบบนั้นกับเขาไปทำไม…ทำไปทำไม…ฮือๆๆ…
หญิงสาวได้แต่โกรธตัวเองว่าตัวเองพร้อมกับเปิดปากร้องไห้
รู้ทั้งรู้ว่าทำตัวไม่ดีไม่น่ารักเลย แต่ไม่รู้จะเปลี่ยนยังไง…
ปากมันก็พูดๆไปแบบนั้น แต่น้องรัลรักพี่ฟาเดลนะคะ…
ไม่เคยคิดจะไปจากพี่จริงๆสักหน่อย…
แล้วก็ให้หวนนึกถึงถ้อยคำพร่ำสอนของบิดาผู้ให้กำเนิด…
‘น้องรัลเป็นผู้หญิง ซึ่งผู้หญิงนั้นจะมีปัญหาเรื่องของอารมณ์มากกว่าผู้ชายหลายเท่า
ดังนั้น การจะทำงานหรือคุมคนให้ได้ผล
น้องรัลต้องรู้จักควบคุมอารมณ์ความรู้สึกของตัวเองให้ได้เสียก่อน
หากควบคุมอารมณ์หรือบริหารอารมณ์ตัวเองไม่ได้
ก็ไม่สามารถที่จะควบคุมคนหรืองานได้นะลูก…
อย่าปล่อยให้อารมณ์เป็นใหญ่…เพราะนอกจากมันจะทำร้ายคนอื่นแล้ว
ท้ายที่สุดมันก็จะย้อนกลับมาทำร้ายเรา ทำลายงานการของเรา
ทำลายชีวิตเราด้วย…
ธรรมชาติของผู้หญิงเป็นเช่นน้ีก็จริง และพ่อไม่ได้บอกให้น้องรัลฝืนธรรมชาติ
แต่กำลังจะบอกว่า เราสามารถควบคุมมันได้ต่างหาก…
ขอแค่เราตั้งใจและมีความอดทน รู้จักคิดรู้จักใช้สติ…
ใช้ปัญญาที่เรามีพยายามเอาชนะมัน…’
ซึ่งดารัลเห็นจริงอย่างที่บิดากล่าวมาทั้งหมดแล้ว…
เธอมันไม่ดีเอง อยากเป็นคนมีค่า อยากมีชีวิตที่มีค่า
อยากช่วยเหลืองานการของเขา อยากช่วยเหลือเขา
แต่สุดท้้ายก็เหลว…เพราะอารมณ์ตัวเองแท้ๆ
ดารัลได้แต่หวังเหลือเกินว่าเขาจะให้อภัยเธอ…อย่างที่เคยให้อภัยมาโดยตลอด…
...โปรดติดตามตอนต่อไป....
ตกม้าตายเอาตอนเข้าด้ายเข้าเข็มอีกแล้วพระ-นางของเต่า...ฮ่าๆๆๆ
จะพยายามมาให้บ่อยเท่าที่จะทำได้นะคะ...
ขอกำลังใจทั้งคอมเม้นท์และจำนวนไลค์ให้ชื่นใจหน่อยนะคะ...เฮะๆ
ดารัลยังมีอะไรๆที่ใครๆคาดไม่ถึงอีกเพียบ!!!
...ขอคุยกับนักอ่านค่ะ...
1.คุณร้อยวจี...พ่อเขาสอนสั่งกันมาอย่างดีค่ะ...คนนี้ลูกสาวพ่อ
มากกว่าจะเป็นลูกสาวแม่...อิอิอิ
2.คุณแว่นใส...คุณหมอดานีสพ่อตาฟาเดลเขาก็เคยเตือนๆอีตาลูกเขยได้แล้วนะคะ
ตอนก่อนแต่งน่ะ รีบจนไม่ดูตาม้าตาเรือ ตอนนี้เลยตกม้าเสียก็โสน้าหน้าเนอะ...ฮ่าๆ
3.คุณChii...อาจจะเป็นเพราะแรงยุยง วันนี้เต่าเลยเร่งสปีดมาให้กันอีกแล้ว...เฮๆ
4.คุณคิมหันตุ์...ยังร้ายไม่หมดค่ะ ลายยังมีอีกเพียบ...
ก็ต้องมาดูกันว่าลวดลายของใครจะเยอะกว่ากัน
ระหว่างนางเอกร้ายกับนางมารร้าย...อิอิ
5.คุณPat...ต้องมารอดูเบื้องหลังการเลี้ยงดูดารัลมาล่ะค่ะ...
ของแบบนี้ใช่ว่าจะได้มาง่ายๆ ทุกอย่างล้วนผ่านการฝีกเคี่ยว...
ส่วนนางร้ายเราตอนนี้จะคิดแผนไรต่อค่อยมาดูกันค่ะ...
6.คุณAmarilys...ชอบชื่อนี้มากเลยค่ะ...
ขอบคุณมากๆนะคะที่เข้ามาให้กำลังใจเต่าโย...
พลอยทำให้เต่ามีแรงสปีดขึ้นอีกเยอะเลย...
แต่คนเราต่อให้เก่งแค่ไหน ถ้าไม่รู้จักควบคุมอารมณ์ล่ะก็
เสร็จทุกราย...เฮะๆ
7.คุณตุ๊งแช่....พี่หะบีบี้เสียอย่างค่ะ...อย่างไรๆเสียก็คงไม่แคล้วกัน
โยรู้น้าว่าที่ลุ้นๆน่ะ กะจะลุ้นฉากเข้าพระเข้านางช่่ายมะ...ฮ่าๆๆ
พระเอกเต่างี่เง่าจะตาย...ตกม้าตายตลอด...ฮ่่าๆๆ
จะปล้ำก็ไม่ปล้ำ จะทำให้เต็มใจทั้งกายและใจก็ทำไม่เป็น...
ทั้งยั่วทั้งยียวนกวนประสาท ทั้งปลอบทั้งโอ้โลมปฏิโลมเข้าแแล้วก็ไม่สำเร็จซ้ากกะที
ปล่อยให้ซื่อบื้อไปสักพักก่อนค่ะ ปล่อยไปก่อน เหอๆ
สุดท้ายไม่ท้ายสุด...
ขอบคุณนักอ่านเช่นเคยค่ะ ขอบคุณทุกๆไลค์ทุกๆคอมเม้นท์ที่มอบให้
...รักษาสุขภาพนะคะ...
"เต่าโย"
yoraya
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 12 พ.ย. 2557, 20:47:36 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 12 พ.ย. 2557, 20:47:36 น.
จำนวนการเข้าชม : 3663
<< บทที่ 16 แรงปรารถนา | บทที่ 18 คลื่นสัญญาณความคิดถึง >> |
แว่นใส 12 พ.ย. 2557, 23:01:53 น.
เป็นเรื่องอีกละ ดีกันได้ไม่กี่วัน
เป็นเรื่องอีกละ ดีกันได้ไม่กี่วัน
ตุ๊งแช่ 13 พ.ย. 2557, 08:14:28 น.
เหมือนจะดี เฮ้อ คนอ่านเพลียยย อารมณ์นางจริ๊งจริงๆๆ ไม่ลุ้นแล้วค่า ลุ้นมาหลายเรื่อง หึหึ ยังไม่ฟีดเจอริ่งกันง่ายๆแน่นอน แต่แรงทั้งคู่ จริงๆ อ่านไปอ่านมาแอบ งงโกรธเคืองกันเรื่องไรนี่ ขี้ปะติ๋วจริงๆๆ งานนี้แอบเข้าข้างดารัล ละเมิดสิทธิกันเห็นๆ
เหมือนจะดี เฮ้อ คนอ่านเพลียยย อารมณ์นางจริ๊งจริงๆๆ ไม่ลุ้นแล้วค่า ลุ้นมาหลายเรื่อง หึหึ ยังไม่ฟีดเจอริ่งกันง่ายๆแน่นอน แต่แรงทั้งคู่ จริงๆ อ่านไปอ่านมาแอบ งงโกรธเคืองกันเรื่องไรนี่ ขี้ปะติ๋วจริงๆๆ งานนี้แอบเข้าข้างดารัล ละเมิดสิทธิกันเห็นๆ
คิมหันตุ์ 13 พ.ย. 2557, 11:42:08 น.
หรอบเดิมเลย T___T แง๊
หรอบเดิมเลย T___T แง๊