^วันอยากเขียน^
รวมเรื่องสั้น ฉบับลิขิตราค่ะ ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว จับเรื่องสั้นมารวมกันไปเลยดีกว่า
Tags: เรื่องสั้น ลิขิตรา

ตอน: -เพลงรักในสายลม(1)-

เพลงรักในสายลม

ว่ากันว่า...ฟ้าหลังฝนสวยงามเสมอ
เพียงแต่...แม้ฟ้าจะงามเพียงไร หากคนยังซุกตัวอยู่ในห้องอันมืดมน ก็คงไม่มีวันได้เห็น ได้สัมผัส
พรายเพ็งคงเป็นหนึ่งในนั้น ผู้หญิงที่ซุกตัวอยู่ในห้องมืด จมอยู่กับเงาฝน โดยไม่คิดจะก้าวไปสัมผัสกับความงามของฟ้ากว้าง

หญิงสาวปลดหูฟังลงม้วนเก็บใส่กระเป๋า ถอนใจเบา ๆ เมื่อมองสมาร์ทโฟนในมือ

...ได้เวลาแล้ว...

เธอคว้ากระเป๋า เก็บของ ยังไม่เรียบร้อยดี เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น เธอเหลือบมองชื่อที่หน้าจอ แล้วโยนโทรศัพท์ลงกระเป๋าอย่างไม่ใส่ใจ วูบหนึ่งที่เผลอชะงักงัน เมื่อคิดได้ว่าอาการไม่แยแสกับผู้ที่ติดต่อเข้ามานั้นช่างคล้ายกับใครบางคน

...เขาคนนั้นที่ไม่ชอบรับโทรศัพท์จากหมายเลขที่ไม่รู้จัก หรือกระทั่งคนรู้จักคุ้นเคย หลายคราวก็ยังเฉยเมย!

เธอถอนใจเบา ๆ เวลาผ่านมานานมากแล้ว แต่ทำไมทุกห้วงคำนึงยังมีภาพ มีเรื่องราวของใครบางคนสลักไว้ไม่เลือนหาย

...ใครบอกว่าเวลาจะช่วยให้ทุกอย่างดีขึ้น...ตราบที่หัวใจยังติดยึด เวลาก็ไม่ช่วยอะไร

ร่างแบบบางในชุดกระโปรงผ้าฝ้ายคว้ากระเป๋าสะพายเดินไปด้วยสีหน้าเรียบเฉย จนถึงลานจอดรถที่มีรถยนต์คันหนึ่งติดเครื่องจอดรออยู่ก่อนแล้ว เธอเปิดประตูเข้าไปนั่งอย่างคุ้นชิน ท่าทีราวไม่แยแสต่อโลกรอบข้างคงทำให้ใครที่บังเอิญเดินผ่านอดจะยกริมฝีปากขึ้นกึ่งหยันไม่ได้

หญิงสาวตวัดสายตามองนอกหน้าต่างรถยนต์ที่แล่นผ่านร่างสูงของชายคนหนึ่ง วูบหนึ่งที่สายตาสบประสานโดยมีกระจกรถคั่นกลาง ความเย็นชากึ่งท้าทายถูกส่งผ่านมาปะทะกันชวนให้หนาวไปถึงขั้วหัวใจ

เธอเงยหน้าขึ้น ปล่อยให้หยาดน้ำที่เกือบรินจากตาได้ไหลย้อนกลับไป

...เงยหน้าซ่อนโศกไว้อย่าให้เห็น เก็บงำเร้นหยาดน้ำตาอย่ารินไหล...

พรายเพ็งเหยียดริมฝีปากราวเย้ยหยันต่อโลก สูดลมหายใจยาวตั้งสติ หยิบหูฟังในกระเป๋าออกมาต่อกับไอแพดแล้วกดเล่นเพลง

...I'm all out of faith
This is how I feel
I'm cold and I am shamed...

รถยนต์จอดลงในลาดจอดรถที่คอนโดมิเนียมแห่งหนึ่ง พรายเพ็งกล่าวขอบคุณคนขับรถเบา ๆ อย่าคุ้นเคย ก่อนจะก้าวลงจากรถ กดลิฟต์ขึ้นไปที่ห้องพัก

รองเท้าผู้ชายสีดำแปลกตาที่วางอยู่ข้างชั้นวางรองเท้าหน้าห้องทำให้หญิงสาวขมวดคิ้วมองอย่างประหลาดใจ นานแล้วที่ห้องนี้ไม่ได้รับแขก

เธอเปลี่ยนรองเท้าเก็บในชั้นวาง หยิบสลิปเปอร์มาสวมแทนเมื่อเดินเข้าไปภายใน ฉากไม้ฉลุลายกั้นทางเดินกับห้องนั่งเล่นให้เป็นส่วน แต่ไม่อาจกั้นเสียงพูดคุยที่ลอดผ่านมาได้

"...เสี่ยงอยู่เหมือนกันครับ แต่ก็สนุกดี มีเรื่องท้าทายอยู่ตลอดเวลา" เสียงนั้นคล้ายคุ้นเคย แต่เธอจำไม่ได้ว่าเคยได้ยินจากไหน

จนเมื่อเดินมาสุดทางที่กั้นด้วยฉากไม้ พรายเพ็งหันไปมอง 'แขก' ที่นั่งอยู่บนโซฟาเดี่ยวข้างบิดาของเธอ

ชายหนุ่มหน้าคมที่โดดเด่นด้วยดวงตาสีน้ำตาลวาวที่มองตรงอย่างแน่วแน่ องค์ประกอบบนใบหน้าได้ส่วนราวรูปสลักนั้นไม่ได้หล่อเหลาชวนหลงใหล แต่กลับสะกดสายตาด้วยความมั่นคงบางอย่างที่พรายเพ็งเรียกว่าเป็นเหมือนรัศมีที่ทำให้คนไม่อาจมองข้าม

หากผู้ชายที่อยู่ในห้วงคำนึงของเธอเป็นสีเขียว คนตรงหน้าคือผู้ชายสีน้ำตาล!



วีมาร์รู้ถึงการมาถึงของหญิงสาวตั้งแต่ได้ยินเสียงเปิดประตู ฝีเท้าที่ก้าวเข้ามาแผ่วเบาแต่ไม่เกินกว่าประสาทสัมผัสของคนที่ถูกฝึกมาอย่างดี

ชายหนุ่มรู้ เขาเผลอพูดช้าลง เพราะสติจดจ่ออยู่กับเสียงฝีเท้าแผ่วเบานั่นล่ะ จนเมื่อเธอเดินผ่านฉากไม้มาหยุดต่อหน้า ลมหายใจเขาก็สะดุดไป ทุกสรรพเสียงคล้ายเงียบงัน

ร่างเล็กผอมบางในวันก่อน เติบโตขึ้นเป็นร่างโปร่งบางที่ราวจะปลิวลมได้ ใบหน้าเรียวยาวได้ส่วนรับกับทรงผมซอยสั้นทำให้เธอดูเป็นสาวมั่นที่ใครหลายคนคงไม่อยากตอแย แต่ที่โดดเด่นที่สุดในสายตาเขา คือดวงตาสีดำจัดที่มองตรงมานิ่งอย่างสำรวจตรวจสอบ แววตาที่เต็มไปด้วยความสงสัยใคร่รู้ทำให้เขาเผลอคลี่ยิ้มออกมาอย่างอดไม่ได้

เธอยกมือไหว้บิดามารดา และไหว้เขาด้วยท่าทางแปลกใจ

เป็นบิดาของเธอที่ต้องเอ่ยถาม คำถามที่เขาเองก็อยากรู้ "เพลง...จำอาว่านได้ไหม"

"คะ..." เธอเลิกคิ้ว นิ่งไปครู่ ก่อนคลี่ยิ้มหวาน แววตากลับเป็นประกายสดใส เมื่อเสียงใสร้องเรียกชื่อที่เคยคุ้นเคย "อาว่าน..."

เธอรีบสาวเท้ามานั่งลงข้าง ๆ เขา "ไม่เจอเสียนาน อาว่านหล่อกว่าเดิมอีกนะคะ" ท่าทางออดอ้อนเป็นลูกแมวนี่ก็ไม่ต่างจากเดิม เพียงแต่เมื่อยามนี้เด็กหญิงแปรเปลี่ยนเป็นหญิงสาว อาการที่เคยเข้ามาเคล้าคลอคลอเคลียจึงต้องหายไป

ชายหนุ่มถอนใจเบา ๆ อดแย้งไม่ได้ "เรียกพี่ว่านได้ไหม...เรียกอาแล้วฟังแก่จัง"

พรายเพ็งหัวเราะคิก "แหม...แต่ก่อนก็เรียกอย่างนี้ตลอด" เพราะเขาเป็นรุ่นน้องและลูกน้องของบิดาเธอ แม้จะอายุมากกว่าหญิงสาวเพียงไม่ถึง 10 ปี เธอก็เรียกว่าอาเสียทั้งหมด

"นั่นแต่ก่อน ตอนนี้ พี่เพิ่งจะ 30 ต้น ๆ ให้มีหลานอายุ 25 นี่ไม่ไหวนะ"

"โอว...เลข 3 แล้วนะคะ...อาว่าน" เธอเน้นเสียงเรียกเขาชัดถ้อยชัดคำ แล้วฉีกยิ้มอย่างเด็กเกเร

"เหอะ...ไม่เข้าเลข 3 บ้างให้รู้ไป"

พรายเพ็งย่นจมูกใส่ ก่อนจะเริ่มกระบวนการซักถามด้วยอาการที่วีมาร์คิดว่าใกล้เคียงกับการสืบสวนเอาการ เมื่อหญิงสาวโน้มตัวมาใกล้ จ้องตากึ่งคาดคั้นในบางคราว

10 ปีเต็มที่เขาหายไปจากชีวิตของพรายเพ็ง หลังจบการศึกษาจากโรงเรียนนายร้อย ไปฝึกงานอยู่กับบิดาของหญิงสาวอยู่เกือบ 3 ปี ชายหนุ่มก็ตัดสินใจรับทุนไปศึกษาต่อที่สหรัฐอเมริกา ก่อนจะถูกรั้งตัวไว้ทำงานต่อที่สำนักข่าวกรองกลางของสหรัฐฯ

แม้จะเลี่ยงไม่เล่าถึงรายละเอียดของงานที่บางคราวก็เสี่ยงชีวิตอยู่ไม่น้อย แต่ผู้หญิงที่คุ้นชินกับงานเสี่ยงๆมาตลอดชีวิตอย่างพรายเพ็งก็รู้เท่าและตามทัน เธออาจไม่ถามมาก แต่ทุกคำถามตรงประเด็น แววตาที่มองเปิดเผยทุกความรู้สึก ทั้งเข้าใจและห่วงใยแบบที่เขาเฝ้ามองในความฝันตลอดสิบปี

"...บางทีก็ต้องปลอมตัวบ้าง คล้าย ๆ ที่เพลงเห็นในหนังนั่นล่ะ" เขาเอ่ยกลั้วหัวเราะ ขณะที่พรายเพ็งเบิกตาโต

"ท่าทางอาว่านดูสนุกนะคะ"

"สนุกสิ ถ้าไม่สนุกคงไม่ทำ"

คราวนี้หญิงสาวถอนใจยาว พยักหน้าด้วยท่าทางอ่อนแรง ก่อนตวัดสายตามองผู้เป็นบิดา "โรงเรียนนายร้อยนี่เขาสอนกันมาอย่างนี้เหรอคะ ทั้งพ่อทั้งอาว่านถึงเป็นเหมือนกันหมด"

"อ้าว ทำไมมาลงที่พ่อ" คนเป็นบิดาเอ่ยกลั้วหัวเราะ

"ก็จริงไหมล่ะคะ แต่ก่อนพ่อก็อย่างนี้...อาสาลงใต้ไป รู้ไหมว่าแม่กับหนูห่วงแค่ไหน" เธออดบ่นและส่งสายตาค้อนใส่ไม่ได้ เมื่อคิดถึงช่วงเวลาที่ต้องใช้ชีวิตเป็นคนแนวหลังที่ต้องคอยห่วงหาอาวรณ์คนที่ก้าวไปแนวหน้าอย่างไม่หวั่นเกรง

"แต่ก็...ถ้ามันเป็นความสุข ความตั้งใจของอาว่าน หนูก็คงบ่นอะไรไม่ได้สินะคะ" เธอทำตาปรอย มองชายหนุ่มอย่างห่วงใย

วีมาร์หัวเราะ เขารู้ว่าเธอห่วง แต่เขาอยากบอกว่าเธอเองก็ไม่ต่างจากบิดาและตัวเขา เธอใส่ใจกับคนรอบตัว มีอุดมการณ์ต่อแผ่นดินและเพื่อนมนุษย์อย่างที่เขาต้องยอมรับ แม้จะบ่นเรื่องอันตราย แต่เขาจำได้ว่าวันที่บิดาเธอไปปฏิบัติราชการในพื้นที่ชายแดน เด็กสาววัย 14 วันนั้นยกมือกอดรอบคอบิดา บอกเสียงหวาน "หนูรู้ว่าพ่อตั้งใจทำ ไม่ต้องห่วงแม่กับหนูนะคะ ดูแลคนที่นั่นให้เต็มที่อย่างที่พ่อทำเสมอมา"

ตั้งแต่วันนั้น วีมาร์ก็รู้แล้วว่าผู้หญิงที่เขาจะเลือกมาเดินข้าง ๆ ควรเป็นเช่นไร

"ถ้าเป็นเพลง พี่ยอมให้บ่นสักสามคำละกัน" เขาบอกด้วยรอยยิ้ม

หญิงสาวเบะปาก "สามคำน้อยไป โควต้าแค่นี้ไม่บ่นดีกว่าค่ะ"

วีมาร์หัวเราะ อดไม่ได้ที่จะยื่นมือไปตั้งใจจะยีผมหญิงสาวเบา ๆ แบบที่ชอบทำยามเธอยังเด็ก แต่มือก็หยุดชะงักอยู่กลางอากาศเมื่อเธอหันมามองตาแป๋ว

ตรงหน้าเขาไม่ใช่เด็กสาวอีกต่อไปแล้ว !

วีมาร์ลดมือลง ลอบมองท่าทีรุ่นพี่และอดีตผู้บังคับบัญชาที่มองมาอย่างรู้ทัน

"แล้วนี่...จะกลับเมื่อไรล่ะ" ท่านเอ่ยถาม

"เสร็จงานก็คงกลับครับ"

"งานอะไรคะ" พรายเพ็งแกล้งทอดเสียงถาม หรี่ตากึ่งล้อเลียน เธอรู้ดีว่างานบางอย่างของเขาเป็นความลับที่ไม่อาจเปิดเผย

เขาเพียงยิ้ม "ก็งานทั่วไปล่ะ หนูเพลงจะช่วยทำเหรอคะ"

"แหม่...ถ้าช่วยได้เพลงก็ยินดีค่ะ"

"อืม...มีงานราษฎร์กับงานหลวง งานหลวงมันยุ่ง พี่ไม่กวนเพลงหรอก" เขาเหลือบมองบิดาหญิงสาวอีกครั้ง เห็นท่านมองนิ่งโดยไม่มีท่าทีใดจึงแข็งใจเอ่ยต่อ "ส่วนงานราษฎร์ หนูเพลงคงช่วยได้"

"อะไรคะ" เธอถามอย่างกระตือรือร้น

อดีตผู้บังคับบัญชาของวีมาร์โน้มตัวจากโซฟาที่นั่ง หยิบโทรศัพท์มากดก่อนลุกขึ้นยืนแล้วเดินออกไปเงียบ ๆ

วีมาร์นิ่งไปครู่ก่อนเอ่ยทีเล่นทีจริง "หาลูกสาวให้แม่พี่"

พรายเพ็งชะงักไปครู่ใหญ่ เหมือนมีใครเอาค้อนมาฟาดหัว เธอหัวเราะแห้ง ๆ มองหน้าชายหนุ่มที่เธอคุ้นเคยแต่วัยเยาว์ ลึกลงไปในดวงตาที่เขามองมา มีแววหวานและอบอุ่นที่เธอมองข้ามมาตลอด

เสียงเพลงแว่วอยู่ในหู พรายเพ็งสะท้านในใจราวใครราดน้ำแข็งลงไป

...Illusion never changed
Into something real
I'm wide awake and I can see
The perfect sky is torn
You're a little late, I'm already torn...

ถ้าเขากลับมาเร็วกว่านี้ เธออาจมองและเปิดใจรับความอ่อนโยนและอบอุ่นนี้ได้ไม่ยาก แต่หัวใจที่ยังเจ็บช้ำราวซากเศษชิ้นเนื้อใต้น้ำแข็งนั้นไม่อาจจะทนต่อความเสี่ยงใดได้อีก

พรายเพ็งคลี่ยิ้มจาง "เพื่อนหนูน่ารักเยอะ ถ้าอาว่านสนใจ...เดี๋ยวเปิดคอลเลคชั่นในเฟซบุ๊คให้เลือกเลยค่ะ

------
พาพรายเพ็งกับอาว่านมาฝากเนื้อฝากตัวกับทุกท่านค่ะ
คิดถึงนะคะ



ลิขิตรา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 12 พ.ย. 2557, 20:44:22 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 12 พ.ย. 2557, 20:44:22 น.

จำนวนการเข้าชม : 1225





<< เหนื่อยไหมสายลม???   -เพลงรักในสายลม(2)- >>
ใบบัวน่ารัก 12 พ.ย. 2557, 21:06:38 น.
จ้า
มาเร็วๆๆนะ


นักอ่านเหนียวหนึบ 12 พ.ย. 2557, 22:41:46 น.
สงสารอาว่านอ้ะ เศร้าตลอดเบยยยย


คิมหันตุ์ 13 พ.ย. 2557, 07:41:51 น.
เวรรรรกรรม. อาว่านจะไหวไหม


mhengjhy 13 พ.ย. 2557, 08:14:59 น.
อาว่านคะ เห็นไร่แห้วอยู่ลิบๆ


grazioso 30 พ.ย. 2557, 20:59:26 น.
เหหหหหหห แอบรู้สึกว่าจะกรี๊ดอาว่านมากกว่าหนุ่มคนเก่าของหนูเพลงยังไงก็ไม่รู้สิคะ ...
#ทีมอาว่าน ค่ะ ๕๕๕๕
คิดถึงพี่ไอซ์มากๆ มาบ่อยๆ นะคะ เป็นกำลังใจให้เสมอค่า :)


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account