ซีรีส์บุปผาสันนิวาส Flower of love<<<รอยฝันกุหลาบนางฟ้า>>>
สร้อยเส้นนี้สำคัญมากขนาดไหน คำตอบที่มีให้ ก็คงบอกได้ว่า เท่ากับภาพวาดสีน้ำรูปดอกไม้รูปนั้น และคงไม่มีใครรู้ซึ้งเท่าพวกเขาและเธอ ความรัก ความลับ ความหลัง คำสัญญาในอดีต ที่ผูกพันเธอและพวกเขาไว้ด้วยกัน ถูกกักเก็บไว้ในสร้อยสำคัญที่หายไป และภาพวาดภาพนั้น ที่ส่งผลทำให้...
เธอรอ...มาตลอด โดยที่ไม่รู้ว่าต้องรอใคร
ส่วนเขาทั้งคู่ ตามหา...มายาวนาน โดยที่ไม่รู้ว่าต้องตามหาใคร
ฉะนั้นเพื่อเปิดเผยคำถามในหัวใจที่ค้างคา ภารกิจค้นหาชิ้นส่วนสำคัญของสร้อยที่หายไป และเพื่อไขความลับในภาพวาดที่ถูกเก็บไว้ จึงเริ่มต้นขึ้น ท่ามกลางความอลหม่านของหัวใจสามดวง
เมื่อหนึ่งชายนั้น คืออดีตรักที่เธอไม่เคยลืม แม้เขาจะทำให้หัวใจเธอบอบช้ำก็ตามที
และอีกหนึ่งคน ที่เพิ่มเติมเข้ามาเพราะความจำเป็น ทว่ากลับผูกพันกับเธอลึกซึ้ง ยิ่งกว่าชายใด!

Tags: ตำนานดอกไม้,นิรันดร์-จิรัสยา,จิรัสยา,ทานตะวัน,กรรณิการ์,พิสูจน์รักทานตะวัน,รอยฝันกุหลาบนางฟ้า,กรรณิการ์มนตรารัก

ตอน: บทที่ 3 บุพกรรม ๒ 2.2

“อูย-ย-ย” โครนอสครางออกมาเบาๆ หลังหายจุกเสียดจากแรงตกกระแทกพื้น ชายหนุ่มรู้สึกมองเห็นดาว ในเสี้ยวที่หัวกระทบกับพื้นท่าน้ำด้วยซ้ำ มันทำเขามึนไปพักใหญ่ทีเดียวละ กว่าที่เขาจะขยับตัวลุกขึ้นนั่งได้

“คุณ...คุณจาว”

เขาลองเขย่าคนที่ตัวอ่อนพับ อิงอยู่แทบอกเบาๆ แต่จิรัสยาก็ยังแน่นิ่งไม่รู้สึกตัว โครนอสลองเรียกอีกครั้ง พลางตีเบาๆ ที่ข้างแก้มนุ่ม แต่ไม่มีปฏิกิริยาตอบรับมาจากเธอเลย เขาขมวดคิ้วอย่างกังวล แล้วค่อยโล่งอกเมื่อเห็นว่าร่างบอบบางนั้นดูปกติดี ท่อนแขนท่อนขาไม่ได้งอผิดรูป กระทั่งศีรษะก็ไม่มีรอยแตก นอกจากรอยช้ำบนหน้าผากเล็กน้อยเท่านั้น

ส่วนตัวเขาเองนอกจากอาการจุกและยอกนิดๆ แล้วก็ไม่มีอะไรผิดปกติ ชายหนุ่มนั่งนิ่งๆ อีกพักก่อนค่อยๆช้อนร่างเล็กขึ้นอุ้ม พาเดินขึ้นไปบนศาลา วางเธอลงนอนราบ แล้วนำผ้าเช็ดหน้าของตน ไปชุบน้ำบิดหมาด จากก๊อกน้ำที่อยู่ใกล้ๆ เพื่อจะนำมาเช็ดหน้าเช็ดตาให้คนที่ยังสลบไม่ได้สติ แต่ทั้งที่ตัวโครนอสเอง อยากอุ้มหญิงสาวกลับไปปฐมพยาบาลที่ศาลาการเปรียญมากกว่า แต่เมื่อคำนวณจากระยะทาง และสภาพตัวเองแล้ว เขาก็ได้แต่ถอนใจยอมแพ้

เมื่อบิดผ้าเช็ดหน้าจนหมาดแล้ว ชายหนุ่มก็กลับมาหาคนที่สลบอยู่ ก่อนทรุดลงนั่งแล้วช้อนศีรษะซึ่งปกคลุมด้วยกลุ่มผมสลวยขึ้นวางบนตัก พลางบรรจงเช็ดหน้านวลอย่างถนอม และอดไม่ได้ที่จะพิจารณาใบหน้านั้น

เหมือนเหลือเกิน

ข้อสรุปที่เกิดในใจบอกเช่นนั้น เพราะไม่ว่าจะปากคอ คิ้วคาง...จิรัสยาเหมือนกับคนในฝันของเขาไม่มีผิด เขาก้มหน้าลงมองอีกนิด ก่อนจะชะงักเมื่อร่างเล็กเหมือนจะรู้สึกตัวแล้ว เพราะเธอขยับตัวน้อยๆ คิ้วเรียวดูขมวดมุ่น

“คุณจาว”

โครนอสเอ่ยเรียก หลังเห็นแผงขนตากะพริบถี่ๆ แล้วดวงตาสีน้ำตาลแก่ ก็ลืมขึ้นมองเขา

“ฝ่าบาท”

จิรัสยาที่ยังดูมึนงง เอ่ยขึ้นด้วยเสียงอันแหบแห้ง ดวงตาของเธอยังมีแต่แววเลื่อนลอย และเพราะมันเบาเกิน โครนอสเลยก้มลงไปฟังใกล้ๆ แต่ต้องชะงักเมื่อมือน้อยยกขึ้นมาแนบแก้มสาก พร้อมกับมองเห็นหยดน้ำตาที่เอ่อคลอในดวงตาคู่สวย แล้วเธอก็เอ่ยขึ้นอีกครั้ง ด้วยเสียงอันอ่อนระโหย

“ฝ่าบาท”

ท่าทีร้าวรานเจ็บช้ำนั้นทำให้นึกเห็นใจ เขายกมือขึ้นแนบกับมือของเธอที่ยังวางทาบบนแก้มตนอย่างแผ่วเบา ท่าทีเหมือนเด็กน้อยหลงทางของเธอ ทำให้เขาสงสารอย่างจับใจ

“ไม่เป็นไรหรอก ผมอยู่ตรงนี้ อยู่ที่นี่ จะไม่ทิ้งคุณไปไหนหรอก”

ไม่รู้เพราะอะไร โครนอสถึงพูดออกไปเช่นนั้น แต่ก็ดูเหมือนจะได้ผล จิรัสยาหลับตาลงอีกครั้ง และหยดน้ำตาก็ไหลจวนจะหยดตรงหางตา

ชายหนุ่มใช้ปลายนิ้วกรีดทิ้งให้อย่างอ่อนโยน พลางก้มต่ำลงจนแทบจะชิดใบหน้านวล ระยะห่างระหว่างริมฝีปากของเขา และหน้าผากของเธอ มีเพียงเส้นด้ายกั้น ซึ่งโครนอสรู้สึกมันได้ในเสี้ยววินาที ก่อนจะรีบดึงใบหน้าออกห่าง และได้แต่ทำหน้ากระอักกระอ่วน เมื่ออยู่ดีๆ เกือบจะ...จูบเธอเข้าให้แล้ว

ราวสองสามนาที คนเจ็บถึงได้ส่งเสียงอีกครั้ง หญิงสาวกะพริบตาถี่ๆ อย่างงุนงง เธอจ้องใบหน้าคมสันที่ลอยเด่นอยู่ใกล้ๆ มือเรียวเอื้อมขึ้นหาโดยไม่รู้ตัวแต่หยุดเพราะเสียงถาม

“คุณเป็นยังไงบ้างน่ะ เจ็บตรงไหนเป็นพิเศษหรือเปล่า รู้ตัวมั้ยว่าคุณสลบไปเกือบยี่สิบนาทีแน่ะ”

คำถามของโครนอสทำให้รู้สึกตัว หญิงสาวปิดเปลือกตาลงอีกหนก่อนจะลืมขึ้น แล้วพบว่าตัวเองนอนหนุนตักเขาอยู่บนศาลา เขาคงก้มหน้ามองเธอ พลางเขย่าเบาๆที่บ่า จิรัสยานิ่วหน้าจ้องโครนอสเขม็ง เพราะ...เมื่อมองชัดๆ อีกหน ความคล้ายของเขาก็กระแทกใจ เพราะหลานชายของบัวรินดูคล้ายกับนิพิฐเหลือเกิน!

“คุณ” ถ้อยคำแผ่วเบา ที่หลุดรอดจากริมฝีปากอิ่มอย่างงุนงง ทำให้โครนอสอดยิ้มไม่ได้

“ครับ ผมหลานคุณยายบัวรินไง คุณลืมแล้วเหรอ”

หญิงสาวชะงักไป เมื่อกำลังจะหลุดปากถาม ว่าทำไมเขาถึงได้หน้าเหมือนกับอดีตคนรัก ทว่าก็ยั้งไว้ทันก่อนจะผ่อนลมหายใจ เสไปพูดอีกเรื่อง

“เอ้อ ฉันอยากจะลุกแล้วละค่ะ”

“เดี๋ยวผมช่วย”

ชายหนุ่มยิ้มพลางพยุงให้เธอลุกขึ้นนั่ง ส่วนจิรัสยาครางอูยยามยกมือขึ้นแตะที่ขมับ

“มึนจังค่ะ รู้สึกเหมือนโลกยังหมุนๆ อยู่เลย” เธอว่าก่อนเหลียวมอง เรือนร่างสูงใหญ่ที่นั่งเคียงข้าง มองสำรวจอย่างห่วงใย เพราะจำได้แล้วว่าโครนอสเป็นคนรับเธอไว้ ก่อนที่จะหล่นลงพื้น “แล้วคุณล่ะค่ะ เจ็บตรงไหนหรือเปล่า คุณเอาตัวรับฉันไว้นี่ คงจะเจ็บมากกว่าฉันอีก”

“ผมมันหัวแข็งน่ะ แล้วบันไดก็ไม่สูงด้วย ยังเจ็บหัวอยู่มั้ย ไม่รู้กระแทกโดนอะไร แต่ปูดขึ้นมาเท่าลูกมะนาวทีเดียว” โครนอสว่าพลางเอื้อมมือแตะที่หน้าผากของเธอ และจิรัสยาก็น้ำตาเล็ด

“เจ็บจังคะ อูย...อย่าแตะเลยค่ะ เจ็บจัง”

“แขนคุณก็ด้วย ตรงนี้คุณไปโดนอะไรนะ ทำไมเขียวคล้ำแบบนี้”

เขาว่าเมื่อเห็นรอยช้ำที่แขนข้างซ้ายของเธอ และจิรัสยาก็มองตาม ก่อนจะตกใจเพราะมันเขียวจนม่วง โครนอสเองกดลงเบาๆ ดวงตาเป็นกังวล “ขอโทษ แต่ผมกดลงอย่างนี้ คุณเจ็บมั้ย”

หญิงสาวส่ายหน้า นึกสงสัยอยู่เหมือนกันว่าตัวเองไปโดนอะไรมา แล้วจู่ๆ เธอก็ฉุกใจคิด ถึงตอนที่กำลังจะตกบันได แขนข้างที่เธอรู้สึกว่าโดนดึง...มันเป็นแขนข้างนี้ แต่แล้วจิรัสยาก็ปัดความคิดนั่นทิ้งไป เพราะตอนตกกระแทกพื้น แขนเธอคงไปโดนอะไรเอามากกว่า

“ไม่ค่ะ เจ็บที่หัวอย่างเดียว”

“เหรอ ผมว่าขากลับไปให้หมอดูหน่อย แต่ที่หน้าผากนี่เห็นจะต้องนวดละ เพราะไม่งั้น มันคงเขียวช้ำจนคุณย่าคุณตกใจเลยละ” ชายหนุ่มเป่าลมร้อนๆลงตรงอุ้งมือ ก่อนจับร่างเล็กเข้ามาชิดไม่ให้เบือนหน้าหนี แล้วเริ่มคลึงเบาๆ ส่วนจิรัสยาแม้จะอยากเบือนหน้าหนีแต่ก็สู้แรงไม่ได้ หนึ่งนั้นเพราะความเจ็บ ส่วนที่สองคือลมหายใจร้อนๆ ที่เป่ารด และการใกล้ชิดกับคนที่เพิ่งพบหน้า มันทำให้เธอรู้สึกกระดากอาย “ทนหน่อยนะ เดี๋ยวก็ไม่เจ็บแล้ว”

น้ำเสียงทุ้มนุ่มอ่อนหวาน ท่าทีเอาใจใส่ทำให้หญิงสาวงันไป เธอช้อนตาขึ้นมองคนที่กำลังปฐมพยาบาลให้ น้ำตาที่ปริ่มๆ รู้สึกเหมือนจะเกินกลั้น เมื่อภาพวันเก่าๆ หวนคืนย้อนมา โดยเฉพาะเมื่อได้พินิจใกล้ๆ เช่นนี้

โครนอส...ใช่แค่เหมือนคนในฝันของเธอ แต่เขายังคล้ายกับนิพิฐเหลือเกิน

จิรัสยาหลับตาลง ความอ่อนแอให้เธอหวั่นไหว ก็ใครจะลืมได้ เมื่อครั้งหนึ่งเหตุการณ์นี้เคยเกิดขึ้น






“หัวโนเลย จาวเดินยังไงน่ะ” เสียงขบขันดังขึ้น พร้อมกับเจ้าของร่างสูงเพรียวยึดตัวเธอไว้ให้เผชิญหน้ากัน หลังจากที่จิรัสยา ซึ่งก้มหาแฟ้มในตู้ลิ้นชักข้างๆตู้ใหญ่ ภายในห้องชมรมเงยหน้าขึ้นกะทันหัน โดยไม่รู้ว่าคนข้างกันเปิดประตูตู้อีกใบ เลยชนเข้าเต็มเปาจนหัวโน และตอนนี้กำลังน้ำตาคลอ จ้องมองผู้ประทุษร้ายโดยไม่ได้ตั้งใจอย่างงอนๆ

“โอ๋ๆ พี่ขอโทษ เจ็บมากมั้ย น้ำตาเล็ดเชียว”

นิพิฐถามยิ้มๆ ส่วนมือใหญ่ยังแตะที่รอยช้ำ กดลงเบาๆ และส่งผลให้คนหน้างอคว้ามือไว้ทันควัน

“พี่พีทแกล้งจาวใช่มั้ย ไม่ต้องตบหัวแล้วลูบหลังเลย”

“อ้าวงานเข้า”

ชายหนุ่มหันไปหัวเราะกับเพื่อนๆ ที่อยู่ในห้อง จนจิรัสยาหน้างอหนักขึ้น และแม้กระทั่ง รัตนาเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวที่ยืนอยู่ใกล้ๆเธอก็เช่นกัน เจ้าหล่อนยังไม่เข้าข้างเธอเลยสักนิด “งี้ละพี่พีทคะ ยายจาวแสนงอน”

หญิงสาวหันไปมองค้อนผู้เป็นเพื่อน ในขณะที่นิพิฐหัวเราะอย่างพอใจ

“ถึงแสนงอน...พี่ก็รักนะ”

เท่านั้นเอง...จิรัสยาก็พูดไม่ออกอีกต่อไป เธอก้มหน้างุด ในขณะที่เพื่อนหลายคนของเขา ซึ่งเป็นผู้ชายและเป็นสมาชิกชมรมก็โห่ขึ้นพร้อมกัน ส่วนรุ่นพี่ผู้หญิงก็หัวเราะคิกคัก มีบางคนส่ายหน้าอย่างปลงๆ หลังรู้โดยทั่วกันแล้วว่า ตำแหน่งคนรักของเดือนประจำมหาวิทยาลัย ได้ตกเป็นของเธอไปเรียบร้อย

เพราะหลังจากคนเนื้อหอม เฝ้าตามจีบอยู่ราวสี่ห้าเดือน และประกาศตัวชัด ว่าสนใจในตัวเธอจริงจัง สุดท้ายจิรัสยาเองที่หวั่นไหวอยู่แล้ว ก็ปฏิเสธหัวใจตัวเองไม่ได้ ว่าในใจของเธอก็มีเขาอยู่เช่นกัน

“อย่าโกรธพี่เลยนะ พี่ไม่อยากเห็นจาวร้องไห้นักหรอก”

นิ้วชี้แข็งแรงแตะที่หางตาของเธอ ซึ่งตอนนี้น้ำตาปริ่มๆ จวนจะหยด หญิงสาวได้แต่ก้มหน้างุดๆ เมื่อเขากดบ่าให้นั่งลง พลางเรียกหาผ้าขนหนูผืนเล็กชุบน้ำอุ่น เพื่อนำมันมาคลึงตรงรอยช้ำบนหน้าผากเธอเบาๆ

นิพิฐทำทุกอย่างด้วยท่าทีถนอมยิ่ง รอยยิ้มที่เหมือนกับดวงตะวันของเขา ทำให้เธอยิ่งถลำหัวใจลงลึก จมปลักอยู่ในวังวนคำว่ารัก อย่างไม่เคยจะเผื่อแผ่ความรู้สึกนี้ให้ใครได้อีก เธอมอบหัวใจให้เขาดูแล รู้สึกดีกับการปกป้องของเขา ที่ทำให้เธอรู้สึกราวกับเป็นเจ้าหญิง

‘รัก’ของเขา ซึ่งเป็นรักแรกของเธอ อ่อนหวานเหมือนน้ำค้าง สวยงามราวทะเลหมอก...แต่ในวันวาน เธอไม่เคยรู้มาก่อนเลย ว่ามันแฝงไว้ด้วยความเย็นเยียบ ซึ่งทรมานหัวใจ แม้ว่าเวลาจะผ่านมานานป่านนี้แล้วก็ตาม

และเธอก็ไม่ปรารถนา ที่จะไขว่คว้าพาความเจ็บช้ำนั้นมาสู่หัวใจอีก!

“ฉันไม่เป็นไรแล้วค่ะ ขอบคุณ”

หญิงสาวลืมตาขึ้นมองก่อนเบี่ยงตัวออกห่างคนพยาบาล และท่าทีนั่นก็ทำให้เจ้าของมือใหญ่แข็งแรง ที่กำลังนวดรอยช้ำให้ยกค้างแล้วจึงดึงออกห่าง ส่วนจิรัสยาหลุบตาลงต่ำพลางลุกขึ้นยืนบอกเสียงเบา เพราะหัวใจกำลังร้าวด้วยภาพหวานชื่นในอดีตทำพิษ “กลับไปที่ศาลากันเถอะค่ะ หายมานานแล้ว ฉันกลัวคุณย่าจะเป็นห่วงน่ะค่ะ”







แต่แรกที่ได้เห็น หน้าตาหลานชายของบัวรินเต็มสองตาชัดๆ พิกุลแทบหลุดอุทานออกมาเสียเดี๋ยวนั้น ด้วยความตกใจ หลังเห็นชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ สวมเชิ้ตแขนยาวสีดำ ปลดกระดุมตรงคอสองสามเม็ด กับกางเกงพอดีตัวสีเดียวกัน ก้าวล่วงขึ้นมาในศาลา และตรงมาที่เธอกับบัวรินนั่งอยู่

สาเหตุนั้นก็เพราะหลานของเพื่อนคนนี้นั้น ช่างคล้ายกันเหลือเกิน กับ‘หม่อมเจ้านิธาน’ !

แต่เมื่อมองดีๆ เธอคงต้องบอกใหม่แล้วละ ว่าดูราวกับเป็นคนๆ เดียวกัน ด้วยเรือนร่างสูงใหญ่กำยำ เค้าหน้าคมคาย และดวงตาสีอ่อนที่ฉายแววปราณีนี้ เธอจำได้ขึ้นใจ เพราะไม่มีชายใด ที่จะ‘งามสมชาย’ เท่ากับท่านชายองค์นั้นอีกแล้ว!!

ความหลัง ความทรงจำในอดีตค่อยตีตื้นขึ้นมา เมื่อหญิงชราระลึกถึง คู่หมั้นของ‘คุณกุหลาบ’พี่สาวคนละแม่ของเธอ ซึ่งเป็นผู้มากไปด้วยเกียรติยศ ศักดิ์ศรี รวมถึงชาติตระกูล ด้วยหม่อมเจ้านิธานเป็นถึงโอรสของเสด็จในกรม กับหม่อมโซเฟีย หม่อมรองของท่าน

ซึ่งก็น่าเสียดาย ที่ทั้งคู่ได้เพียงแค่หมั้นหมาย แต่ไม่ได้สมรสกัน แต่จะด้วยเหตุอันใดนั้น พิกุลก็ไม่อาจทราบได้ เพราะบรรดาผู้ใหญ่ต่างก็เลี่ยงที่จะพูดถึง พิกุลเคยได้ยินแต่เลาๆ ว่าเป็นเพราะพี่สาวของเธอไม่ได้รัก

แล้วคุณพี่ของเธอ ก็มาเสียชีวิตไป ตั้งแต่ตอนที่พิกุล ยังเป็นเด็กสาววัยสิบห้าปี และต่อจากนั้นมาไม่นาน ท่านชายก็สิ้นชิพิตักษัยด้วยโรคหทัย หลายคนต่างพูดกันว่าเป็นเพราะท่านทรงตรอมพระทัย ด้วยเรื่องของคุณพี่ของเธอ และเมื่อนึกมาถึงตรงนี้ พิกุลก็อดเศร้าใจไม่ได้ เพราะมันเป็นเรื่องน่าเศร้าเกี่ยวกับบุคคลสองคน ที่เธอชื่นชมหนักหนา

วันที่คุณพี่ของเธอเสียนั้น พิกุลยังจำได้ดีอย่างกับว่ามันเพิ่งเกิดขึ้นก็ไม่ปาน



==============================================================>>>>>>


เห็นเจ่เจ้ ศิษย์พี่ใหญ่ลง หนอนน้อยเลยตามมาติดๆ 555+ เสร็จแล้วจะหนียาว กร๊ากกกกกกกกกกกกกกก

คุณบุลินทร หมี้ริน ขอบอก ถูมิต้านทานเยอะย่ะขุ่นน้อง ขุ่นพี่ไม่หลุด โฮะๆๆๆๆ ถามยังไงขุ่นพี่ก็ไม่หลุด 555+
คุณพันธ์แตงกวา อะไรกันละนั่น กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดด เจ่เจ้จิทำอัลไลครอสจังของหนอนนนนนนน 555+ ครอสจังมา บทนี้พีพีทก็มา ไม่สงสารพีพีทเลยเหรอฮ้าาาาาาาาาา แบ่งใจให้พี่พีทบ้างจิฮ้า
คุณแว่นใส นั่นสิ เสียงนั่นคืออะไร ยายจาวไปทำไรไว้น้อออออออออ
คุณsukhumvit66 งอแงๆๆ ตะเองหายไปนานเบยเก๊าคิดถึง

และคุณๆรีดเดอร์นะคะ ขอบคุณที่แวะมาอ่าน มาคุย มากดคะแนนให้ ขอบคุณมากๆๆค่ะ

วันนี้มาไวไปไวค่ะ เจอกันตอนหน้าวันอังคารนะคะ คืนนี้ฝันดี ราตรีสวัสดิ์จ้า ^O^



ดังปัณณ์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 20 พ.ย. 2557, 10:47:45 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 20 พ.ย. 2557, 10:47:45 น.

จำนวนการเข้าชม : 1366





<< บทที่ 3 บุพกรรม ๒ 1.2   บทที่ 4 พันธนาการ 1.2 >>
นักอ่านเหนียวหนึบ 20 พ.ย. 2557, 15:57:30 น.
อ่านแล้วก็อ่านอีก แล้วก็อยากอ่านอีกๆๆๆๆ 555


พันธุ์แตงกวา 20 พ.ย. 2557, 19:01:08 น.
อยากอ่านต่อไปเวยๆ คนเค้ากำลังฟิน พี่พีทมาแว่บเดียวหัวใจคนอ่านระทึก นายช่างมีผลต่อความรู้สึกจาวเสียจริง ครอสสู้ๆ


แว่นใส 20 พ.ย. 2557, 20:23:33 น.
ทำไมสองคนปัจจุบันถึงหน้าเหมือนกันได้นะ


บุลินทร 21 พ.ย. 2557, 18:17:31 น.
มีซีนโครนอสเยอะอีกแล้ว คลอเคลียใกล้ชิดกันเลย แต่สุดท้ายจะได้หัวใจจาวไปครองมั้ยเนี่ย เพราะรู้สึกจาวจะยังมีภาพพีทซ้อนขึ้นมาอยู่ ยังไงก็ลืมรักเก่าไม่ด้ายยย


Zephyr 26 พ.ย. 2557, 09:44:29 น.
มาน้อยจุงเบย แง แง่งงงง
อ่านแล้วฟิน ฟินปล้วก็จะอ่านอีก แต่ จบ มีขีดเส้นใต้ สองขีดยาวๆๆๆๆๆ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account