รักแท้...เคียงใจ
รักแท้...เคียงใจ

โดย ต้นเรื่อง(ภูเพชร)

อารัมภบท

ณหทัย ‘ฉันจะเชื่อเขาได้ไหม ผู้ชายที่เพียบพร้อมอย่างเขา จะมาสนใจใยดีอะไรกับฉัน ผู้หญิงธรรมดา ๆ คนหนึ่งที่ไม่มีค่าพอให้ใครต้องจดจำ ขนาดแฟนหนุ่มที่คิดว่าดี คบกันมา กว่า 4 ปี ยังใช้เวลาแค่สิบนาที มาบอกเลิกได้อย่างไม่สะทกสะท้านอะไรเลย’

นราภพ ‘อย่าถามผมได้ไหม ว่ารักคุณเพราะอะไร ผมรู้แค่ว่าอยากมีคุณอยู่ใกล้ ๆ อยากมีคุณอยู่เคียงข้างใจ ไม่รู้เหมือนกันว่าความรู้สึกเหล่านี้มันเกิดขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไหร่ รู้ตัวอีกทีผมก็สามารถบอกกับคุณได้อย่างมั่นใจ ว่าผู้ชายอย่างผมคนนี้ จะรักคุณคนเดียวตลอดไป’

มาพิสูจน์ รักแท้ ที่ไม่จำกัดนิยาม ของ ผู้ชายที่ชีวิตนี้มีเพียง หนึ่งใจ

-------------------------------------------------------------

ข้อความเล็ก ๆ ของคนต้นเรื่อง/ภูเพชร/ปีบเพชร

ก่อนอื่นต้องขออภัยท่านผู้อ่านทุกท่านเป็นอย่างสูงเลยนะคะ ที่หายไปนานแสนนานมาก
ตอนนี้พร้อมแล้วสำหรับการสร้างสรรค์ผลงานชิ้นนี้ให้จบ ไม่พูดพร่ำทำเพลงจ้า ไปอ่านตอนที่หนึ่งกันเลยเนอะ
อ่านแล้วรู้สึกอย่างไร ติชมวิพากษ์วิจารณ์กันได้นะคะ หรือจะต่อว่าต้นเรื่อง(ภูเพชร)ที่หายไปก็จัดมาได้เลยจ้า จังหวะนี้ยอมทู้กอย่าง :)

--------------------------------------------------

นิยายเรื่องนี้เขียนขึ้นจากจินตนาการของผู้เขียนเป็นสำคัญ ทั้งพล็อตเรื่อง ชื่อตัวละครและคาแร็คเตอร์ตัวละครล้วนแล้วแต่ดำเนินไปตามเนื้อเรื่อง มิได้มีเจตนาจะกล่าวอ้างถึงบุคคลหนึ่งบุคคลใด และเนื่องจากเป็นนิยายเรื่องแรกในชีวิต หากมีจุดบกพร่อมประการใด ต้นเรื่องใคร่ขอคำชี้แนะจากทุกท่านมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ :)

Tags: หวานซึ้ง อบอุ่นใจ

ตอน: ตอนที่ 8 เหตุแห่งเรื่อง

รักแท้...เคียงใจ ตอนที่ 8 เหตุของเรื่อง โดยต้นเรื่อง

ทางกลับบ้านพักค่อนข้างไกลจากตัวโรงแรม นราภพจึงอุ้มร่างบางที่กำลังหลับใหลในอ้อมแขนแข็งแรงมาพักยังบริเวณล็อบบี้เพื่อรอรถที่จะพาตนกับหญิงสาวไปส่งยังบ้านพัก

“รถมาแล้วครับนาย”

เพชรให้สัญญาณกับเจ้านายก่อนจะเป็นฝ่ายเดินนำออกไปพร้อมกับภัคค์ พนักงานนำรถมาส่งมอบให้ แล้วหลบไปอย่างรู้งาน ภัคค์ขึ้นประจำตำแหน่งคนขับคู่กับเพชรซึ่งนั่งข้างกัน นราภพอุ้มร่างบางมานั่งทางตอนหลังเป็นลำดับถัดไป

“หมอก”

“ครับเจ้านาย”

“อยู่คอยส่งผู้จัดการใหญ่วัชพลกลับห้องพักก่อนนะ ดูแลให้ดีล่ะอย่าให้เสียชื่อมือขวานายเพชร”

เพชรและภัคค์หันมามองหน้าลูกน้องอย่างสงสัยว่านายจะให้ไปทำอะไร สายตาของลูกน้องที่ส่งตอบกลับมาทำให้สองหนุ่มยิ้มอย่างสะใจเมื่อเข้าใจในความหมาย ‘นานแค่ไหนแล้วนะ ที่เจ้านายของเขาไม่ได้สั่งให้ลูกน้องออกกำลังกายแบบนี้ สงสัยไอ้นี่มันจะซวยจริง ๆ’

“ครับนาย”

หมอกยิ้มรับคำสั่งด้วยความเต็มใจ อะไรจะสนุกมากไปกว่าการดูแลเทคแคร์ศัตรู กระผมนายหมอก เมฆบัง จะจัดให้ผู้จัดการใหญ่ทำงานไม่ได้ไปหลายวันเลยครับ ร่างบึกบึนของหมอกหลบไปทำหน้าที่ตามที่ได้รับมอบหมายด้วยความกระตือรือร้น
รถกอล์ฟไฟฟ้าขนาดสี่ที่นั่งขับเคลื่อนด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติค่อย ๆ เคลื่อนตัวออกจากหน้าล็อบบี้ ไปตามถนนอย่างดีที่รีสอร์ทลงทุนสร้างเพื่อความสะดวกสบายของลูกค้า มุ่งหน้าสู่บ้านพักริมทะเลสุดหรูที่นราภพใช้ต้อนรับครอบครัวของณหทัยในทริปนี้ บรรยากาศเงียบสงบสมกับเป็นสถานตากอากาศสุดหรูที่สุดอีกแห่งหนึ่งในเมืองไทย ดวงไฟให้ทางรูปทรงเก๋ไก๋ที่ประดับประดาอยู่สองฟากฝั่งทางส่องแสงสีนวลสลัวให้ความสว่างเป็นระยะ ๆ สายตาอ่อนโยนทอดมองไปยังร่างบางในอ้อมแขนนิ่งนาน รอยยิ้มชอบใจจุดขึ้นทั้งปากและตาเมื่อลมทะเลยามค่ำคืนโลมไล้ผิวกายจนคนตัวเล็กต้องซุกซบเรือนร่างแข็งแกร่งมากขึ้น เพื่อหาไออุ่น แต่เพียงครู่เดียวรอยยิ้มนั้นก็จางลงเมื่อสังเกตเห็นอะไรบางอย่าง

“นายมองหาอะไร เพชร” เสียงเจ้านายหนุ่มชักเริ่มไม่สบอารมณ์ เมื่อเห็นว่าลูกน้องคนสนิทยังไม่ละสายตาไปจากร่างบางของสาวน้อยในอ้อมแขนเขา เห็นจด ๆ จ้อง ๆ อยู่เป็นนาน

‘หวงมากซะด้วยนายเรา สงสัยคืนนี้จะมีเรื่องให้วิพากษ์วิจารณ์กับนายภัคค์ยาวซะแล้ว’ เพชรบอกกับตัวเองในใจ ดันเผลอยิ้มออกมาทั้ง ๆ ที่สายตายังไม่ละไปจากร่างที่อยู่ในอ้อมกอดเจ้านาย

“ไอ้เพชร !!” คราวนี้ชายหนุ่มตวาดเสียงดังลั่นรถ

“ค..คะ...ครับ” เพชรสะดุ้ง

“ผมไม่ได้คิดอะไรกับคุณตรีนะครับ...ผมแค่คิดอะไรอยู่ในใจ...เอ้ย ผมแค่กำลังคิดถึงนายภัคค์ครับ...ไม่ได้คิดอะไรเกินเลย หรือเกี่ยวกับเธอเลยแม้แต่นิดเดียวครับนาย”

“เออ!...ถ้าเป็นอย่างที่นายพูดก็ดีไป”

‘เอาแล้วไง ไอ้สายตาเฮงซวย เกือบจะพาชีวิต ๆ ทั้งชีวิตของไอ้เพชรซวยไปทั้งชาติแล้วไหมล่ะ’ เพชรถอนหายใจอย่างโล่งอก เหลือบเห็นคู่หูส่งยิ้มสมน้ำหน้ามาให้แล้วมันคันไม้คันมืออย่าบอกใคร

สิ้นเสียงโวยวายของเจ้านายลูกน้อง ภัคค์ก็นำทั้งหมดมาถึงหน้าบ้านพักพอดี นราภพค่อย ๆ อุ้มร่างบอบบางเข้าข้างในโดยมีสองคู่หูคอยอำนวยความสะดวกให้

“คุณลุงหลับใช่ไหม”

“ครับนาย”

“ผมช่วยไหมครับนาย” ภัคค์ เห็นผู้เป็นนายตระกองกอดคุณตรีมาตลอดทาง กลัวจะเมื่อยแขนล้าแขน จึงเอ่ยขึ้นออกมาด้วยความหวังดี พลางยื่นมือเข้าไปโดยหวังจะรับร่างหญิงสาวมาจากเจ้านายหนุ่ม

“ไม่ต้อง!!” เสียงปฏิเสธอย่างไม่ค่อยจะนิ่มนวลจากผู้เป็นนายดังลั่นขึ้นมาแทบจะทันที จนทั้งภัคค์ที่ยืนอยู่ตรงหน้าและเพชรที่เดินตามหลังมาถึงกับสะดุ้งอีกคำรบ

อารมณ์คุกรุ่นจากเพชรยังไม่ทันจางหาย ก็ต้องมาโมโหกับภัคค์อีกจนได้ ทำให้นราภพคันไม้คันมือ อยากจะลงไม้ลงมือกับสองคนสนิทยิ่งนัก เพชรกับภัคค์เห็นท่าทางของเจ้านายแล้ว ก็ให้เสียวสันหลังวาบ รีบปลีกตัวถอยไปไกล ก่อนที่จะโดนหักงวงไอยรา ตามมาด้วย หนุมานถวายแหวน

ลับร่างไอ้สองตัวแสบนราภพก็พาร่างบอบบางไปวางที่เตียงนอนในห้องของหญิงสาวเองอย่างทะนุถนอม ราวกับกลัวว่าร่างบางจะแตกสลายหากพลั้งมือรุนแรงไป ชายหนุ่มยิ้มก่อนจะยกมือลูบผมนุ่มสลวยอย่างเอื้อเอ็นดู ร่างบางตรงหน้าเริ่มขยับเขยื้อนตัว พลิกตัวกระสับกระส่ายไปมา

‘คงจะอึดอัดกับเสื้อผ้าน่ะสิ สาวน้อยของผม’ ร่างสูงตัดสินใจว่าจะลงมือเปลี่ยนเสื้อผ้าให้หญิงสาวด้วยตนเอง จะไหว้วานใครหันไปทางไหนก็มีแต่ผู้ชายทั้งนั้น เขาไม่อยากให้ใครมาเห็นผิวเนียน ๆ ของเจ้าหล่อน เหมือนที่เขาได้เห็นในตอนนี้

เพชรถืออ่างน้ำใบเล็กพร้อมผ้าขนหนูขนาดเหมาะมือมาให้เจ้านาย สายตาแน่วแน่มาที่ผู้เป็นนายคนเดียว เพราะขืนชำเลืองมองไปทางผู้หญิงของนายอาจจะหัวขาดได้ ชายหนุ่มรับของทั้งหมดไว้ พลางรีบไล่คนสนิทออกไป เพชรเดินออกไปพร้อมทั้งดึงประตูห้องปิดให้อย่างรู้งาน

นราภพเช็ดเนื้อเช็ดตัวให้คนที่นอนกระสับกระส่ายอยู่บนเตียงอย่างเบามือ ก่อนจะลงมือเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ ซึ่งกว่าจะเปลี่ยนเสร็จเล่นเอาคนเปลี่ยนเหงื่อชุ่มไปเลยเหมือนกัน นราภพปาดเหงื่อที่ไหลซึมออกมาเบา ๆ ร่างที่นอนหลับปุ๋ยสบายอยู่บนเตียง กระตุ้นอารมณ์บางอย่างของตนได้อย่างประหลาด ทำให้ฤๅษีอย่างเขาใจสั่น เหมือนจะควบคุมตัวเองไม่ได้ยังไงชอบกล ชายหนุ่มสะบัดศีรษะเพื่อขับไล่ความคิดฟุ้งซ่านที่เริ่มแพร่กระจายเต็มสมอง

‘วันนี้วันเดียว ณหทัยของผมต้องเจอกับเรื่องราวต่าง ๆ มากมายทีเดียว นอนพักผ่อนให้สบายนะครับ แล้วพรุ่งนี้พบกัน’
ริมฝีปากได้รูปจรดลงบนแก้มขาวเนียนหนึ่งฟอดเป็นการล่ำลากันอย่างเป็นทางการในค่ำคืนนี้ ชายหนุ่มเดินมาที่ประตูด้วยรอยยิ้มพึงใจ แต่เพียงเปิดประตูออกมาร่างสูงใหญ่ของนราภพก็ต้องล้มไม่เป็นท่า ด้วยแรงเหวี่ยงจากกำปั้นของคุณดนัยที่ซัดเข้าใส่ใบหน้าของหนุ่มรุ่นลูกแบบที่อีกฝ่ายยังไม่ทันได้ระวังตัว

พลั่ก !!!

เพชรและภัคค์ได้แต่เอามือลูบหน้าลูบตาตนเอง เพราะงานนี้มีแต่พังกับพัง ไม่ใช่ใครที่ไหนที่พังพวกเขาสองคนนี่แหละพัง โดนทั้งขึ้นทั้งล่องแน่นอน ฝ่ายหนึ่งก็เจ้านายที่เคารพ อีกฝ่ายหนึ่งก็อนาคตผู้หลักผู้ใหญ่ที่ตนจะต้องให้ความเกรงใจในฐานะพ่อตาเจ้านาย ถ้าเป็นคนอื่นคงไม่มีทางได้เข้าถึงตัวผู้เป็นนายแน่นอน แค่เฉียดมาปลายก้อยก็อาจจะตายได้ แต่พอเป็นท่านนี้คงได้แต่ปล่อยเลยตามเลย ให้ทั้งสองฝ่ายเคลียร์กันเอง น่าจะดีที่สุด

“เรามีเรื่องต้องคุยกัน”

น้ำเสียงเรียบนิ่งจากผู้สูงวัยกว่า ดึงสติที่กำลังอยู่ในช่วงงุนงงของหนุ่มรุ่นลูกให้คืนกลับมา พ่อตาในอนาคตของเขาหมัดหนักไม่เบา นับดาวได้หลายดวงทีเดียว

คุณดนัยเดินนำไปยังห้องนั่งเล่น นราภพรีบขยับตามทันที ระหว่างเดินไม่วายหันมาคาดโทษกับสองตัวแสบ ที่พยายามทำตัวลีบอยู่แถว ๆ หน้าห้อง สองคนสนิทได้แต่ส่งยิ้มแหย ๆ ให้ผู้เป็นนาย

--------------------------------

บรรยากาศในห้องนั่งเล่นเต็มไปด้วยความตึงเครียด เมื่อผู้สูงวัยหนึ่งเดียวเอาแต่จ้องมองไปนอกหน้าต่าง ทั่วทั้งบริเวณมีแต่ความเงียบ ได้ยินเพียงเสียงคลื่นที่ซัดเข้าหาฝั่งอยู่เนือง ๆ สามหนุ่มขยับตัวอย่างอึดอัด ในชีวิตไม่เคยตกอยู่ในสภาพแบบนี้มาก่อน บริหารมาแล้วทั้งเครือ ยังไม่รู้สึกเครียดเท่านี้เลย ความรู้สึกตอนนี้เหมือนหมูรอขึ้นเขียง วัวรอปังตอมาแล่เนื้อ ปลารอพ่อค้าเอามีดทุบหัว สิ้นกระบวนการคิดในสมองอันปราดเปรื่องของภัคค์ เสียงนุ่มทุ้มจากชายหนุ่มผู้มีอำนาจมากที่สุด แต่ ณ เวลานี้คือจำเลยหมายเลขหนึ่งก็ดังขึ้น

“ผมพร้อมแล้วครับ”

ในเมื่อคู่กรณีโดยตรงเป็นฝ่ายเอ่ยปากขึ้นมาก่อนอย่างอาจหาญ คุณดนัยจึงหันมามองทั้งสามหนุ่ม ก่อนจะมองนิ่งไปยังคนที่นั่งอยู่ตรงกลาง เจ้าของน้ำเสียงเมื่อครู่ที่ตนคุ้นชินดี

“พวกคุณเป็นใคร ?”

ไม่พูดพร่ำทำเพลงดนัยปล่อยคำถามที่ตนค้างคาใจมาได้พักใหญ่ใส่หนุ่มรุ่นลูก นราภพเห็นว่าไม่มีประโยชน์ที่จะปิดบังอีกต่อไป จึงเปิดปากสารภาพกับผู้สูงวัยตามจริง

“ผมนราภพ อัศวเดชา...” ยังไม่ทันกล่าวจบ น้ำเสียงแหบห้าวบ่งบอกอายุก็แทรกขึ้นเสียก่อน

“อัศวเดชา...อัศวารารึ เหอะ” ดนัยนิ่งไปครู่ “ที่นี่เป็นของคุณ...”

“ครับ...ส่วนนี่เพชรกับภัคค์ เลขาคนสนิทของผม เป็นทั้งบอดี้การ์ดและเลขาคู่ใจ”

ดนัยถึงบางอ้อในทันทีว่าทำไมคนงานเก็บจำปีเจ้าเดิมที่คุ้นเคยกันดีถึงได้หายไป กลายเป็นภัคค์กับลูกน้องที่เข้ามารับหน้าที่แทน ลักษณะถึงได้เหมือนทีมมือปืนมากกว่าคนงานเก็บดอกไม้ เพราะทั้งหมดเป็นผู้ชายและแต่ละคนร่างกายกำยำล่ำสันทั้งนั้น คนพวกนี้มายุ่งกับตนทำไม คำถามต่อไปจึงเอื้อนเอ่ยมาในทันควัน

“พวกคุณมีจุดประสงค์อะไรถึงเข้ามายุ่งกับครอบครัวผม ?”

“สองเรื่องครับ เรื่องแรกการทุจริตที่เกิดขึ้นในบริษัทผมมีหลักฐานว่าณหัยเป็นผู้มีส่วนเกี่ยวข้องและร่วมกระทำ เรื่องที่สองผมถูกชะตาลูกสาวคุณลุงเลยใช้ประเด็นแรกเข้ามาทำความสนิทสนมครับ”

นราภพตอบเสียงดังฟังชัด จนผู้สูงวัยถึงกับอึ้งไป

“ผมต้องเชื่อคุณไหม”

“สุดแล้วแต่คุณลุงครับ ถึงผมจะมาเพราะมีจุดประสงค์ แต่ตลอดเวลาที่อยู่บ้านสวนนั่นคือตัวตนของผมจริง ๆ”

“วันนั้นที่ผมถูกทำร้าย มันเป็นการจัดฉากของคุณด้วย ?”

“ไม่ครับ คนร้ายไม่ใช่คนของผม นั่นเป็นอีกประการหนึ่งที่ทำให้ผมตัดสินใจมาอาศัยอยู่บ้านคุณลุง”

ดนัยไตร่ตรองทุกคำตอบที่ได้มาอย่างละเอียด ตั้งแต่วันแรกที่เจ้าหมอนี่เข้ามาอยู่ที่บ้านสวน อะไร ๆ มันก็ดีขึ้นไปเสียหมด ดีเสียจนมิอาจคิดได้ว่านี่คือสิ่งที่คนประสงค์ร้ายเขาทำให้กัน ประกอบกับการที่เคยได้พูดได้คุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและทัศนคติกัน เขายอมรับมาตั้งแต่เดือนแรกแล้วว่านราภพเป็นคนหนุ่มที่มีความคิดความอ่านใช้ได้ บุคลิกลักษณะการวางตัวดีผิดแผกไปจากชาวบ้านคนธรรมดาทั่วไป ยังเคยคิดกับตัวเองเล่น ๆ ว่าไอ้หนุ่มคนนี้อาจจะเป็นเชื้อพระวงศ์เลือดสีน้ำเงินปลอมตัวมาก็ได้ พอมาถึงตอนนี้ ไม่ใช่ก็เกือบใช่ ถึงจะเป็นชาวสวนตาสีตาสาอย่างตนแต่น้ำ ไฟ อินเตอร์เน็ตก็เข้าถึงแล้ว บ้านก็มีทีวีให้ติดตามข่าวสารได้ทุกวัน เครืออัศวเดชาใหญ่โตแค่ไหนทำไมตนจะไม่เคยได้ยินข่าว เพียงแค่ไม่รู้จักลึกไปถึงทีมบริหารหรือเจ้าของบริษัทเท่านั้นเอง

“คุณทำให้ผมแปลกใจมาก มีเรื่องอะไรที่ผมยังไม่รู้อีกไหม”

“มีครับ”

“.........” คุณดนัยนิ่งเงียบไป เหมือนเปิดโอกาสให้หนุ่มรุ่นลูกได้พูดต่อ

“ความรู้สึกผมตอนนี้ไม่ใช่แค่ถูกชะตา แต่ผมรักลูกสาวคุณลุงจริง ๆ ครับ”

“แต่ลูกสาวผมเป็นแค่ผู้หญิงธรรมดา ๆ ซึ่งถ้าเทียบแล้ว ไม่เหมาะกับคุณด้วยประการทั้งปวง”

“ธรรมดาสำหรับคนอื่น แต่พิเศษสำหรับผม แค่นี้ก็เพียงพอแล้วครับ”

“แล้วถ้าผมไม่ให้คุณยุ่งกับลูกสาวผมอีกล่ะ รวมถึงไม่ต้องมายุ่งกับครอบครัวผมด้วย คุณจะว่าไง”

ดนัยหยั่งเชิง

“ถ้าเป็นประกาศิตคุณลุง ผมก็คงต้องยอมรับครับ แต่อยากให้คุณลุงทราบว่าผมไม่ได้ยินดีหรือเต็มใจยอมถอยง่าย ๆ ที่ผมยอมเพราะผมเป็นผู้น้อย ด้อยอาวุโสกว่า ถ้าเปรียบแล้วผมก็เหมือนเป็นรุ่นลูกรุ่นหลานของคุณลุง ที่มีหน้าที่ต้องให้ความเคารพยำเกรงในตัวผู้ใหญ่อาวุโสกว่า ไม่ควรทำอะไรที่เป็นการหักหาญน้ำใจและผมเองก็รักลูกสาวคุณลุงด้วยใจจริง ในเมื่อรักลูกก็ต้องให้ความเคารพยำเกรงต่อพ่อของคนที่เรารักด้วย ในสายตาผมคุณลุงคือพ่อที่รักและปรารถนาดีต่อลูกสาวเป็นที่สุด คุณลุงต้องเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้ลูกสาวแน่นอน ดังนั้นทุกการกระทำของคุณลุงต้องมีเหตุผล ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด ถึงผมจะยังไม่รู้ความหมายของเหตุผลนั้น แต่ผมก็พร้อมที่จะน้อมรับและปฏิบัติตาม หากมันจะเป็นหนทางพิสูจน์ความจริงใจที่ผมมีให้ และชดเชยความผิดเรื่องการปกปิดตัวตนของผมในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาได้”

ดนัยอึ้งไปอีกคำรบกับคำตอบที่ได้รับ สังคมไทยในทุกวันนี้ การให้ความเคารพและรู้จักเข้าหาผู้หลักผู้ใหญ่ ผู้อาวุโสที่อายุมากกว่า ดูเหมือนจะเลือนรางจางหายไปจากสาระบบของวัฒนธรรมไทยอันดีงามแล้วกระมัง อย่าว่าแต่เคารพผู้ใหญ่นอกบ้านเลย ผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านขนาดว่าเป็นบุพการีผู้อุปถัมภ์ค้ำชู เป็นญาติพี่น้องร่วมสายเลือดกันมา ความเคารพยำเกรงสักนิดก็ยังไม่มีให้กัน การพูดคุยกับปู่ย่าตายายกลายเป็นเรื่องน่าเบื่อ โลกทุกวันนี้คงหมุนเร็วไปแรงหมุนเลยพัดเอาความดีงามที่คนรุ่นเก่าก่อนสั่งสมมาหลุดหายไปในอวกาศด้วย

คำตอบของนราภพจึงเปรียบดั่งน้ำทิพย์ชโลมใจให้คนแก่อย่างตนใจชื้นขึ้นมา ว่าอย่างน้อยก็ยังมีคนหนุ่มรุ่นใหม่ไฟแรงคนหนึ่งที่ยังคงเห็นความสำคัญของการให้ความเคารพผู้อื่นในฐานะที่ตนด้อยอาวุโสกว่าและเห็นความสำคัญของการเข้าหาผู้ใหญ่ด้วยความนอบน้อม ทั้งที่ตัวเขาเหนือกว่าทั้งอำนาจและทรัพย์สินเงินทอง ความจริงแล้วอย่างนราภพหากถูกใจแล้วจะฉุดลูกสาวตนไป ตนก็คงไม่อาจทัดทานได้ด้วยซ้ำ แต่เจ้าหนุ่มนี่เลือกใช้วิธีการเข้าหาตน คนแก่อย่างเรา ๆ จะมีอะไร ลูกหลานมาพูดจาหวานใส่ เจรจาปราศรัยเอาอกเอาใจเสียหน่อย ไม่บีบบังคับหักหาญให้เสียน้ำใจ ขี้คร้านมีอะไรก็ยกให้หมดนั่นปะไร

เสียงตบเข่าฉาดตามด้วยเสียงหัวเราะดังลั่นจากคุณดนัย ทำเอาเพชรและภัคค์ที่นั่งเกร็งกันอยู่เป็นนานลอบถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก ตอนแรกนึกว่าจะต้องยื่นปืนให้คนละกระบอกซะแล้ว นราภพเองก็ระบายยิ้มออกมาอย่างโล่งใจที่ทำให้อีกฝ่ายชอบใจขึ้นมาได้ อย่างน้อยก็ยังมีรอยยิ้ม ทำให้บรรยากาศที่ตึงมากเมื่อครู่ผ่อนคลายลง

“พูดได้ดี พูดได้ดี”

ดนัยหัวเราะเอิ้กอ้ากอย่างชอบอกชอบใจ ไม่ได้ถูกใจเพราะอำนาจหรือความร่ำรวย แต่ถูกใจเพราะความรู้จักคิดของชายหนุ่ม การแสดงออกอย่างตรงไปตรงมา ฉะฉาน รู้จักกาลเทศะ รู้ว่าอะไรควรไม่ควร ถึงจะไม่ชอบที่อีกฝ่ายโกหกปิดบังเรื่องตัวตนตามจริง แต่ก็ต้องยอมรับว่าตลอดเวลาที่อยู่บ้านสวนกันมาหลายเดือน ไอ้หนุ่มนี่เป็นลูกผู้ชายที่มีนิสัยใช้ได้คนหนึ่ง ถ้าให้คะแนนระหว่างนราภพกับวัชพล ตนให้นราภพกินขาดแน่นอน

นราภพเห็นสถานการณ์ผ่อนคลายลง จึงเอ่ยสิ่งที่ติดค้างอยู่ในใจ

“ผมขอโทษนะครับที่ต้องปิดบัง”

“เฮ้ย...ไม่เป็นไร แต่อย่าให้มีอีกก็แล้วกัน”

“ครับ ไม่มีอีกแน่นอน แต่คุณลุงอย่าพึ่งบอกอะไรกับณหทัยนะครับ”

“ทำไมล่ะ ลุงเตือนไว้ก่อนนา ลูกสาวลุงถ้าลองได้โกรธ หายยากนะ”

“ยินดีรับผลที่ตามมาครับ”

สีหน้าจริงจังแน่วแน่ของคนที่ขอร้องทำให้ดนัยปฏิเสธไม่ออก แต่ก็ยังอยากรู้เหตุผลที่แท้จริง

“ไหนลองว่าเหตุผลของเจ้ามาให้ลุงฟังซักข้อสองข้อหน่อย เผื่อจะเห็นดีเห็นงามร่วมด้วย”

“พิสูจน์ความรัก ไม่จำเป็นต้องชักฐานะมาเป็นตัวนำไม่ใช่หรอครับ ผมแค่อยากให้เธอได้สัมผัสและรักผมด้วยตัวตนของผมจริง ๆ เหมือนอย่างที่ผมรักเค้าด้วยตัวตนของเค้าจริง ๆ ไม่ใช่ที่ฐานะเงินทองหรือรูปร่างหน้าตา”

“อุบ๊ะ!! เหตุผลเข้าท่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า ตกลง ว่าไงว่าตามกัน ลุงยอมจำนนในเหตุผลของเอ็งจริง ๆ”

ห้องนั่งเล่นตอนนี้ช่างต่างกับเมื่อครึ่งชั่วโมงที่แล้วอย่างสิ้นเชิง ทั้งห้องมีแต่เสียงหัวเราะถูกอกถูกใจของคุณดนัยดังลั่นไปหมด นราภพยิ้มอย่างสบายอารมณ์ที่สถานการณ์แปรเปลี่ยนไปในทางที่ดี เพชรและภัคค์ถึงกับแอบยกนิ้วให้เจ้านายหนุ่มที่ว่าเหตุผลเรื่องความรักมาแต่ละประโยคนั้นเด็ดโดนใจทั้งนั้น ชายผู้ผ่านโลกมามากยังแสดงออกถึงความพึงพอใจและคล้อยตามได้ขนาดนี้

“เอ้อ ลุงพึ่งนึกขึ้นได้ ภพว่ายายตรีไปเกี่ยวข้องอะไรกับการทุจริตในบริษัทภพ เรื่องมันเป็นยังไง”

พอพูดเรื่องนี้ ทั้งสามหนุ่มหันมามองกันด้วยสีหน้าหนักใจ ก่อนที่นราภพจะเป็นฝ่ายไขข้อข้องใจให้อีกฝ่ายทราบรายละเอียด

“เมื่อหลายเดือนก่อนเพชรตรวจพบการทุจริตในฝ่ายจัดซื้อครับ ซึ่งผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อก็คือวัชพล หมอนั่นมารับตำแหน่งก่อนที่ผมจะเข้ามาดูแลบริษัท แล้วก็ฉกฉวยโอกาสช่วงรอยต่อของการเปลี่ยนมือจากพ่อผมเป็นผม ทำการทุจริตขึ้นมา ผมให้เพชรรวบรวมหลักฐานเพื่อเอาผิด แต่ก็เจอตอขึ้นมา...”

“ยายตรีนะหรือ”

“ครับ วัชพลใช้ชื่อณหทัยเป็นผู้ขายวัตถุดิบส่งให้กับโรงแรมและธุรกิจในเครือของอัศวเดชา โดยที่ตัวมันเองเป็นคนจัดหาวัตถุดิบเหล่านั้นทั้งหมด แล้วอาศัยตำแหน่งที่ตนเป็นผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ รู้ราคาซื้อวัตถุดิบต่าง ๆ เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว จึงตั้งราคาเสนอขายสินค้าที่แอบเอามาได้ดีกว่าคู่แข่ง พอถึงขั้นตอนตรวจคุณภาพก็เกรดเอมาให้ตรวจ และย้อมแมวอีกทีตอนจัดส่ง วัชพลเป็นคนตรวจรวมถึงเซ็นอนุมัติเอง ทุกอย่างมันเลยดูลงล็อคไปหมดครับ”

นราภพชี้แจงให้ผู้สูงวัยฟังอย่างหมดเปลือก ด้วยตนนั้นเตรียมหลักฐานไว้เล่นงานวัชพลอยู่แล้ว แต่เมื่อเรื่องมาพาดพิงถึงณหทัย เขาจึงหยุดทุกอย่างไว้ก่อน เหตุที่ณหทัยไม่รู้ตัวว่ากำลังถูกนำชื่อไปแอบอ้างก็เพราะการขายวัตถุดิบของวัชพลเป็นการซื้อขายในนามบุคคลธรรมดา และไม่มีภาษีเข้ามาเกี่ยวข้อง เรื่องจึงยังไม่แดงขึ้นมา

“สารเลวที่สุด”

คุณดนัยสบถออกมาแทบจะทันทีเมื่อได้ยินเรื่องราวทั้งหมด ความผิดทั้งหมดคงอยู่ที่ตนที่เลี้ยงลูกสาวมาให้ถูกคนอื่นเค้าหลอกใช้ ไม่รู้จักระแวดระวังภัย ผู้คนสมัยนี้รู้แต่หน้าไม่รู้ใจ

“แล้วยายตรีจะมีความผิดอะไรไหม ลุงห่วงเหลือเกิน” สีหน้าทุกข์ใจปรากฏขึ้นกับผู้สูงวัยชัดเจน

“ไม่ครับ ณหทัยจะไม่มีชื่อเข้าไปข้องเกี่ยวกับกระบวนการของนายวัชพลแน่นอนครับสัญญาด้วยเกียรติของผม”

--------------------------------------------------

สัญญาด้วยใจจริงเหมือนกันว่าเรื่องนี้มาจนจบแน่นอนจ้า อิอิ

ลอกเลียนแบบวลีของพระเอกซะหน่อย

ขอบคุณทุกการติดตามนะคะ

ต้นเรื่อง.



ปีบเพชร
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 20 พ.ย. 2557, 16:32:35 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 20 พ.ย. 2557, 16:32:35 น.

จำนวนการเข้าชม : 1322





<< ตอนที่ 7 หาเรื่อง   ตอนที่ 9 ไม่มีอะไร ก็แค่น้อยใจ >>
โอชิน 20 พ.ย. 2557, 18:41:35 น.
น่ารักดีค่ะ เดี๋ยวตามต่อ


ยัยตัวนุ่มนิ่ม 27 พ.ย. 2557, 16:10:21 น.
รอค่ะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account