Sweetheart รักละมุนอุ่นหัวใจ
เมื่อความรักเป็นเรื่องไม่เข้าใครออกใคร เมื่อเจอแล้วต้องจับไว้ให้แน่น เช่นเดียวกับ 'อัษฎางค์' ที่ไม่ปล่อยให้ 'รดา' ต้องหลุดมือไป ทว่าคนที่ผิดหวังกับความรักอย่าง 'รดา' จะมั่นใจหนุ่มเจ้าสำราญอย่างเขาได้อย่างไร ความรักครั้งนี้เหมือนจะเป็นเรื่องของคนสองคน แต่ยังมี 'มิรันตี' ถูกดึงมาร่วมเกมรักอย่างเลิี่ยงไม่ได้ เรื่องราวชักจะอลหม่านแล้วสิ
Tags: Sweetheart รดา

ตอน: บทที่ 11 Sweetie

บทที่ 11

Sweetie

คุณหญิงรดีสุดากับคุณระรินทิพย์นั่งบนโซฟาในขณะที่เรวัตกับมิรันตีก้มลงกราบที่ตักของทั้งสอง คุณหญิงรดีสุดาฉุดให้มิรันตีขึ้นมานั่งด้วยกันบนโซฟา

“ถ้ากลับไปล่ะก็แม่จะจัดงานแต่งให้สมเกียรติหนูมิเลยนะ” คุณหญิงรดีสุดาถูกใจลูกสะใภ้คนนี้อย่างมาก นึกชมเรวัตที่ตาคมเลือกเจ้าสาวได้ถูกใจนัก

“แล้วเราจะจัดแบบไทย แบบฝรั่ง หรือแบบจีนดี” คุณระรินทิพย์ที่ล้มตึงไปด้วยอาการดีใจสุดขีดที่เรวัตไม่ได้ไปตกอยู่ในมือชะนีนางอื่นอย่างที่ห่วง

“แบบไหนก็ได้ตามใจคุณป้าครับ” เรวัตเอาอกเอาใจเพื่อนรักของมารดา

“คุณป้าทีไหน เรียกใหม่สิว่าคุณแม่ มิรันตีก็ถือเป็นลูกสาวอีกคนของป้า” ชายหนุ่มพูดตามทำเอาคุณแม่ยิ้มหน้าบาน

“แหมทำเป็นพูดดีนะ ฉันไม่คิดเลยว่าลูกชายฉันจะทำตัวเป็นวัยรุ่นใจร้อนขนาดนี้ทั้งๆ ที่อายุอานามก็มากแล้ว”

“คุณหญิงแม่ก็พูดเกินไป” เรวัตไม่อยากถูกมองเป็นไอ้หนุ่มในร้อนร้องขึ้น

“แต่ยังไงก็รีบมีหลานให้แม่อุ้มไวๆ นะ” คำพูดติดตลกทำให้ทุกคนหัวเราะคิก ยกเว้นคนเดียวที่ทำหน้าเจี๋ยมเจี้ยม...มิรันตี

“เอ่อ คือว่า” มิรันตีอึกอักพูดไม่ออก มันไม่เป็นไปตามแผนที่วางไว้ นี่ขนาดเรวัตคนเดียวก็ทำให้เธอชิ่งได้ไม่สะดวก แต่นี่มากันเป็นทีมกันมาอย่างนี้เห็นทีเธอจะดิ้นไม่หลุด

“คือว่าอะไรล่ะมิรันตี” คุณระรินทิพย์เรียกซะเต็มยศทำเอาเธอชักลน

“คือว่ามิยังไม่พร้อมจะแต่งงานค่ะ แค่หมั้นไว้ก่อนไม่ได้หรือคะ”

“ไม่ได้” เรวัตพูดเสียงเฉียบขาดทำเอามิรันตีสะดุ้งเฮือก ส่งยิ้มแหยๆ ให้ชายหนุ่ม

“ป้าเห็นด้วยกับตาเร นี่ถ้าเกิดว่าหนูเกิดท้องขึ้นมาจะทำยังไง กลับไปก็เตรียมงานแต่งงานทันที” คุณระรินทิพย์คล้อยตามเรวัต

“แต่...”
“ไม่มีแต่อะไรทั้งนั้น เรื่องมาถึงขนาดนี้แล้วนะหนูมิ” คุณหญิงรดีสุดานั่งมองคนนั้นคนนี้พูดกันไปอย่างขำๆ ไม่บ่อยนักที่จะเห็นเพื่อนรักพูดจาเป็นการเป็นงานแถมลูกชายตัวดีที่ร้อยวันพันปีไม่มีทีท่าว่าจะสนใจสาวนางไหนถึงขนาดจะลงหลักปักฐาน แล้วรดาจะทำหน้าอย่างไรหนอเมื่อรู้ว่าพี่ชายหาพี่สะใภ้ให้แล้ว “แล้วน้องล่ะอยู่ที่โรงแรมหรือเปล่า”

นั่นไง เรวัตเห็นความซวยที่มาเยือนน้องสาวและอดีตศัตรูที่ปิดโทรศัพท์ไปสวีทกันสองต่อสองโดยหารู้ไม่ว่าความซวยกำลังจะมาเยือน

“ก็คงประมาณนั้นแหละครับ” ชายหนุ่มตอบไม่เต็มเสียง

“งั้นคืนนี้เราไปพักกันที่โรงแรมดีกว่ารดี ถือโอกาสนี้ไปหาตาธามกับหนูรดาด้วย” คุณระรินทิพย์เจ้าเก่าเสนอไอเดียโดดเด้ง

“ไม่ได้นะครับ” เรวัตโพล่งขึ้นทำเอาผู้สูงวัยทั้งสองตกใจไปตามกัน

“ทำไมล่ะตาเร” ผู้เป็นมารดาถามอย่างสงสัย

“เอ่อ คือผมเห็นว่ามันดึกแล้ว บางทีน้องอยากพักผ่อน คุณแม่ก็รู้นี่ครับว่ารดาน่ะอ่อนแอจะตายไป ถ้าเกิดว่านอนหลับพักผ่อนไม่ครบวันละแปดชั่วโมงล่ะก็ร่างกายจะไม่เจริญเติบโตเต็มที่” ชายหนุ่มพูดโดยไม่หยุดหายใจทำเอามิรันตีที่ลุ้นอยู่ด้วยใจหายใจคว่ำไปตามๆ กัน

แม้ว่าเธอจะแอบเถียงในใจว่าพ่อคุณโกหกไม่เนียนเลย รู้ๆ กันอยู่ว่ารดาชอบเมาหัวราน้ำขนาดนั้นจะนอนครบแปดชั่วโมงอย่างที่บอกหรือเปล่าก็ไม่รู้

“งั้นวันพรุ่งนี้ก่อนก็ได้ แล้วแกตอนสายๆ พาหนูมิไปที่โรงแรมด้วยเข้าใจไหม” คุณแม่ดีเด่นหันมาสั่งเสียลูกชายไม่ให้ตามใจตัวเองเกินไป ก็หลักฐานบนเนื้อตัวว่าที่ลูกสะใภ้มันฟ้องแล้วคุณหญิงรดีสุดาก็กระซิบกระซาบกับว่าที่ลูกสะใภ้ให้ได้ยินกันสองคน “หนูมินี่เยี่ยมไปเลย ทำเอานายเรคลั่งได้ถึงขนาดนี้”

มิรันตีเข้าใจคำว่าคลั่งของคุณหญิงรดีสุดาแจ่มแจ้งเชียวล่ะ


/////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////


“เฮ้อ เกือบตายแล้วไหมล่ะ” เรวัตถอนหายใจแล้วนั่งบนโซฟา ถอนหายใจเฮือกใหญ่ สภาพโดยรวมเรียกว่าดูไม่ได้

“แล้วเรื่องของสองคนนั่นล่ะ”

“ก็คงต้องปล่อยให้เป็นไปตามกรรม คุณจะช่วยทุกคนไม่ได้หรอก เรามาต่อเรื่องของเราดีกว่า” จู่ๆ เรวัตก็ดึงร่างบางที่เดินไปเดินมาให้นั่งแปะบนตัก มิรันตีเจอไม้นี้ก็ทำอะไรไม่ถูก

“เรื่องของเรา อะไร” มิรันตีตัวแข็งขึ้นมาทันที พอจะจำได้อยู่ว่าเธอได้กระตุกต่อมโกรธาของเขาเข้า

“ก็เรื่องที่คุณยังไม่พร้อมจะแต่งงานไง”

“ก็จริงนี่ ฉันยังไม่พร้อมที่จะแต่งงานแล้วก็ดูแลคุณแล้วก็...”

“แล้วก็ลูกใช่ไหม” เรวัตบอกอย่างรู้ทัน หญิงสาวหลบสายตาแล้วซบอกเขาอย่างเอาใจ

ใช่แล้ว เธอเกลียดเด็กจะตาย เสียงกระจองอแง น่ารำคาญ ทำไมต้องมีเด็กด้วย ทำไมไม่เกิดมาแล้วโตเลยนะ

“เราอาจจะมีลูกก็ได้เพราะทุกครั้ง ผมไม่ได้ป้องกัน”

“...”

มิรันตีไม่ว่าอะไรฟังเขาเงียบๆ ใช่สิ เขาไม่ได้ป้องกัน แต่เธอป้องกันตัวเองตลอด

“ผมว่าคุณกับรดาน่าจะเปิดชมรมคนเกลียดเด็กด้วยกันนะ” คำพูดติดตลกของคุณสามีไม่อาจเรียกรอยยิ้มจากคุณภรรยาได้

ไม่มีทางที่เธอจะยอมให้เด็กตัวเล็กๆ ลืมตาเกิดมาบนโลกใบนี้ แม้ว่าเธอเองจะมั่นใจกับความรักที่เขามีให้เธอ แต่หลังจากนี้ล่ะ เธอกลัวว่าความรักที่เขามีให้เธอจะจืดจางลง ที่สำคัญเธอกลัวว่าเขาจะไม่รักเธอเท่ากับที่เธอรักเขา

/////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////


สมาร์ทที่รีบเผ่นออกจากโรงแรมหลังจากเหตุการณ์กลับตาลปัตร ศัตรูกลายเป็นมิตร เขาต้องรีบไปให้พ้นจากอัษฎางค์และเรวัต ชายหนุ่มไม่ได้สนใจมองใครหน้าไหนทั้งสิ้น เรื่องปืนผาหน้าไม้ใช่ว่าจะเข้าใครออกใคร สมาร์ทเดินสวนกับคุณหญิงรดีสุดาและคุณระรินทิพย์ที่เดินเข้ามา

“ว๊าย” คุณระรินทิพย์ที่ตกใจที่ชายหนุ่มร่างสูงสวมแว่นตาดำกับหมวกแก๊ปเดินดุ่มๆ ไม่ได้มองเธอ และเพื่อนเลย

“เอ่อ ขอโทษครับ” ครั้นจะจากไปสมาร์ทขอแก้แค้นเล็กๆ น้อยๆ โดยการเซไปกระซิบคุณหญิงรดีสุดาว่า ตอนนี้อัษฎางค์กับรดาอยู่ด้วยกันที่ห้อง อาจจะเลยเถิดกันไปถึงไหนต่อไหนแล้วก็ได้

“เขาพูดอะไรกับเธอน่ะ”

“เขาก็บอกว่าลูกชายเธอพาลูกสาวฉันเข้าห้องไปน่ะสิ”

“อะไรนะ” คุณระรินทิพย์ตาโต ยกมือทาบอก

ลูกชายเธอก้าวหน้าไปกว่าที่คิดแฮะ อย่างนี้โครงการกามเทพแผลงศรของเธอคงต้องพับโครงการลงแล้วมั้ง

“ไม่ต้องอะไรนะหรอก ฉันว่าผู้ชายคนเมื่อกี้น่ะมั่วแล้ว ยัยรดาน่ะไม่มีทางให้คนอื่นลากเข้าห้องหรอก ฉันว่าลูกสาวฉันมากกว่าล่ะมั้งที่ล่อลวงผู้ชายเข้าห้อง”

“ไม่ไปดูหน่อยหรอ” คุณระรินทิพย์ท้วงขึ้น

หล่อนเป็นแม่ประสาอะไรยะ นั่นลูกสาวหล่อนนะยะ

“ไม่ล่ะ แต่ถ้าจริงล่ะก็ ฉันว่าพรุ่งนี้เราค่อยไปดูอาการนายธามดีกว่าว่าจะน่วมไปทั้งตัวหรือเปล่า” ว่าแล้วสองสาววัยกลางคนพากันเข้าลิฟต์ไป หัวเราะคิกกับการพูดคุยเรื่องเตรียมงานแต่งงานของเรวัตกับมิรันตี ในขณะที่สงครามย่อมๆ บนห้องพักสุดหรูของโรงแรม นักมวยฝ่ายแดง และฝ่ายน้ำเงินยังคงดูเชิงกันอยู่ ไม่มีฝ่ายไหนที่จะชกก่อน

“พี่ธาม รดาเอาจริงนะ” หญิงสาวตั้งการ์ดแล้วมองเขาอย่างไม่ไว้ใจ

“พี่ก็เอาจริงเหมือนกัน” อัษฎางค์ยิ้มกริ่มหากทำเอาเธอหัวเสีย

“มันคนละเรื่องเดียวกันแล้วพี่ธาม อย่ามามั่ว” เธอพูดพลางเดินอ้อมไปยังอีกฝั่งหนึ่งของเตียงโดยมีสายตาหื่น เอ๊ย มุ่งมั่นมองตาม

“คนละเรื่องที่ไหน รดาบอกพี่ว่าจะเอาจริง พี่ก็บอกว่าจะเอาจริงเหมือนกัน”

“พี่ธามทำให้รดาหมดความอดทนแล้วนะ รดาจะนับหนึ่งถึงสามถ้าพี่ธามไม่หยุด รดาจะหยุดพี่เอง” เธอเองก็เหนื่อยกับการวนรอบเตียงแล้วก็กระโดดขึ้นบนเตียงเต็มทน

“หนึ่ง” นอกจากชายหนุ่มจะไม่กลัวคำขู่ของเธอแล้วยังทำหน้ายียวนกวนประสาทประมาณว่าฉันไม่กลัวเธอหรอก

“สอง สองครึ่ง” เมื่อเห็นเขายังเฉยเธอก็นับสามทันที รดาที่อยู่บนเตียงโถมทับอัษฎางค์แล้วล้มไปบนพื้นด้วยกัน ชายหนุ่มที่อึ้งแล้วจุกได้แต่นอนนิ่งปล่อยให้ริมฝีปากอิ่มประกบริมฝีปากบางอยู่อย่างนั้น กว่าจะรู้ตัวอีกทีสองมือของเขาก็ถูกเชือกป่านที่เจ้าตัวซ่อนไว้ในกระเป๋ากางเกงมัดจนแน่น

“เฮ้ย” เท่านั้นไม่พอหญิงสาวจัดการกลับหัวกลับหางมัดเท้าอัษฎางค์ด้วย

“รดาทำอะไรน่ะ”

“ก็รดาเตือนพี่แล้วไงว่ารดาเอาจริง” เธอพูดแล้วเอานิ้วชี้เชือดคอชายหนุ่มจนเขากลืนน้ำลายเอื๊อกใหญ่

“ลุกขึ้น” มือบางดึงเขาให้ลุกขึ้น ถ้าปกติเขาคงไม่ทำตาม แต่เสียงเฉียบขาดที่สั่งเขาทำให้ไม่กล้าหือกับเธอ
อัษฎางค์ลุกตามแรงหากเดินไม่ถนัดจึงกระโดดไปข้างหน้า รดาผลักเขาให้ล้มนอนบนเตียง จัดท่านอนเขาในท่วงท่าที่สบาย

“ปล่อยพี่เถอะนะ พี่ไม่ทำอะไรรดาแล้วจริงๆ”

“จริงนะ” หญิงสาวท้าวสะเอวมองเขา

“จริงครับ” ชายหนุ่มบอกอย่างขันแข็งทว่าเธอส่ายหน้าแล้วค้นหาอะไรไม่รู้ในกระเป๋าเดินทางใบโตของตนเอง
ปากกาสี Stabilo จำนวน 20 สี 20 แท่งที่รดาเลือกสรรมาละเลงบนผิวกายของชายหนุ่ม หญิงสาวที่รักศิลปะบรรจงวาดรูปหัวใจ ดวงดาว สามเหลี่ยม สี่เหลี่ยม และรอยเท้า พื้นที่ตรงไหนที่พ้นเสื้อผ้าถูกเธอแต่งแต้มซะเละ

“อ๊าก ไม่เอ๊า พี่ไม่เอานะรดา” อัษฎางค์ร้องจ้าเมื่อถูกสาวเจ้าปลดกางเกงไปรวมกันที่เท้า ทั้งเนื้อทั้งตัวเหลือเพียงเสื้อกล้ามกับกางเกงบ็อกเซอร์

“แกล้งรดาใช่ไหม” เธอดึงขนหน้าแข้งเขาหนึ่งเส้น

“โอ๊ย พี่เจ็บนะ”

“ก็เจ็บน่ะสิ ไม่อย่างนั้นไม่ดึงหรอก” เสียงรูดกาวหนังไก่ดังปรื้ดทำเอาอัษฎางค์ร้องจ๊ากแทบกระเด้งลงจากเตียง หากมือหนักๆ ที่กดเขาให้นอนอยู่กับที่

“พี่ไม่อยากแว็กซ์ขนหน้าแข้งนะ” เขารีบปฏิเสธแล้วหดขายาวๆ ของตัวเอง

“ใครบอกล่ะว่ารดาจะแว็กซ์ขนหน้าข้างพี่ ฮี่ๆ”

รดาส่ายหัวกับความคิดที่หลุดลอยไปไกลถึงดาวอังคาร เธอพันกาวหนังไก่รอบข้อมือชายหนุ่ม กลัวว่าเชือกป่านจะไม่อาจทานแรงเขาได้

“พี่นอนไม่ถนัดเลย รดาปล่อยพี่ไปเถอะนะ พี่สัญญาว่าจะไม่แกล้งรดาอีก แล้วก็จะไม่เอาจริงกับรดาด้วย”

“พี่ธามเงียบไปเลย รดาจะนอน” ว่าแล้วหญิงสาวก็ล้มตัวนอนบนอีกฟากหนึ่งของเตียงไม่สนใจชายหนุ่มแม้แต่น้อย

“รดา รดาครับ”

“เอ๊ะ พี่ธามพูดไม่รู้เรื่องหรือไง บอกให้เงียบ คนจะหลับจะนอน”

“ก็พี่เมื่อยจริงๆ นี่นา” อัษฎางค์อ้อนหญิงสาวหากเธอสะบัดหน้าไม่สนใจเขาเลย

“ใจร้าย”

“หึ ไม่ต้องงอนเลยนะ ผู้หญิงงอนน่ะพอทนแต่ผู้ชายตัวใหญ่ยักษ์อย่างพี่งอนน่ะ น่าเกลียด” พูดจบรดาก็นอนต่อ นี่เป็นการแก้แค้นเล็กๆ น้อยๆ สำหรับเขาที่เอาแต่ใจตัวเอง อีกไม่นานหรอก แค่สองชั่วโมงเองที่เธอจะปล่อยให้เขานอนเมื่อยอย่างนี้

หายกันนะคะพี่ธาม


/////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////


คุณหญิงรดีสุดาอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ในห้องอาหารของโรงแรมกับคุณหญิงระรินทิพย์ที่ทำหน้าระรื่นกับการเลือกชุดเจ้าสาวให้หลานสาวคนสวยที่สายป่านนี้ยังไม่โผล่มาให้เห็นหน้าเลย

“ทำไมป่านนี้ยังไม่มากันนะ”

“เธอจะบ่นไปถึงไหนยะ ยังไงหนูมิกับตาเรก็ไม่หนีไปไหนหรอกนะ หรือว่าดีใจที่จะได้หลานเขยจนเนื้อเต้น” คุณหญิงรดีสุดาเห็นเพื่อนสาวชะเง้อดูที่ประตูทางเข้าโรงแรมจนคอจะยาวเป็นยีราฟอยู่แล้ว

“ก็ประมาณนั้นแหละ เออแล้วนี่ฉันยังไม่เห็นหนูรดากับตาธามเลย”

“สองคนนั่นฉันให้คนไปตามตัวมาแล้ว ไม่ต้องห่วง” คุณหญิงรดีสุดายกกาแฟเอสเปรสโซ่ขึ้นจิบแล้วพลิกหน้าหนังสือพิมพ์

ไม่นานนักรดาที่ฉีกยิ้มกว้างวิ่งไปกอดมารดาโดยอัษฎางค์ทำหน้ามุ่ยจับข้อแขนตัวเอง คิ้วหนาขมวดเล็กน้อยเมื่อรอยแดงนั้นไม่จางหายไป

“คิดถึงจังเลย จุ๊บ” เธอก้มลงหอมแก้มมารดา คุณหญิงรดีสุดาก็ไม่น้อยหน้าเอาหน้าผากชนหน้าผากลูกสาวคนเล็ก รดากอดพุงนิ่มๆ ของมารดาอย่างอ้อนๆ

“คิดถึงเหมือนกันค่ะคุณลูก” รดานั่งข้างๆ มารดาด้วยมาดกุลสตรี

“สวัสดีครับ คุณแม่ คุณหญิงป้า” อัษฎางค์ยกมือไหว้ แล้วนั่งข้างๆ กับรดา

“อ้าว ไปนั่งตรงนู้นสิ ไปชิ่วๆ” หญิงสาวชี้นิ้วไปยังเก้าอี้ที่ว่างอีกฝั่งหนึ่ง ก็เขามานั่งเบียดเธออยู่นี่

“รดา พูดเพราะๆ สิคะ ไม่น่ารักเลยรู้ไหม” คุณหญิงแม่ตั้งท่าจะอบรมลูกสาว

“ไม่เป็นไรครับคุณป้า ผมไม่ถือ” อัษฎางค์บอกอย่างผู้ใหญ่ใจดี

“ไม่ได้หรอกจ้ะ ป้าตามใจรดาจนเคยตัว นี่รดารู้ไหมว่ากิริยาของหนูเมื่อกี้น่ะ ถ้าคุณยายมาเห็นล่ะก็หนูโดนเฆี่ยนหลังลายแน่นอน ขอโทษพี่เขาซะ”

“โหย ไม่เอาหรอก จะให้หนูขอโทษเขาเหรอ ไม่มีทางซะหรอก” เหมือนคำพูดของมารดาจะไม่เข้าหัวลูกสาวเมื่อรดาชี้หน้าอัษฎษงค์อย่างไม่เกรงกลัว

“เอ๊ะรดา หนูดื้อกับแม่แล้วใช่ไหม แม่บอกให้ขอโทษพี่เขาซะ”

คุณระรินทิพย์ที่มองสองคนแม่ลูกทะเลาะกันอย่างขำๆ คุณแม่ใจเย็นอบรมลูกสาวในขณะที่ลูกสาวใจร้อนเถียงเต็มที่

“ไม่เป็นไรหรอก หนูรดายังเด็ก”

“ไม่ได้หรอกทิพย์ ฉันตามใจแกจนเคยตัว แม่บอกให้ขอโทษพี่เขาไง”

“แต่...”

“ไม่มีแต่ค่ะ” ไม่ใช่เพราะคำพูดนี้หรอกที่ทำให้รดายอมอ่อนลง หากเป็นสายตาดุๆ ที่มองเธออย่างคาดโทษต่างหาก

“ขอโทษ” เธอบอกอย่างไม่เต็มใจ

“พูดเพราะๆ มีหางเสียงด้วย แล้วก็ยกมือไหว้พี่เขาด้วย”

“คุณหญิงแม่คะ” หญิงสาวถอนหายใจอย่างขัดเคือง แต่ก็ต้องทำตามที่มารดาบอก ไม่วายส่งสายตามองอัษฎางค์ที่กลั้นหัวเราะอย่างโกรธๆ

“ขอโทษค่ะ”

“เอาล่ะ หมดเรื่องหมดราวแล้วโทรตามพี่ชายตัวดีของเราทีสิ”

“ไม่ต้องโทรแล้ว นั่นไงมาโน่นแล้ว” เสียงร้องของคุณระรินทิพย์ทำให้มือบางที่กดดูเบอร์โทรชะงัก

เรวัตยังคงตีหน้าตายหากมิรันตีคนรักทำหน้าตื่นๆ เมื่อเห็นอัษฎางค์ รดา และญาติผู้ใหญ่ทั้งสอง เข้าข่ายอาการวัวสันหลังหวะเป็นที่สุด

“เป็นอะไรไปน่ะหนูมิหน้าซีดจังเลย” คุณหญิงรดีสุดาถามด้วยน้ำเสียงที่เป็นห่วงลูกสะใภ้จนเกินงาม (ภาษาชาวบ้านก็คือ ‘เวอร์’ นั่นเอง)ตรงนี้นี่เองที่ทำให้อัษฎางค์คลายความสงสัยว่าอาการเห่อของรดาได้มาจากใคร

“อ๋อ ไม่เป็นไรหรอกค่ะแค่รู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัวเท่านั้นเอง” มิรันตีไม่ได้บอกเพิ่มเติมว่าตอนนี้เธอรู้สึกว่าอาการตื่นเต้นของคนที่กำลังจะแต่งงานกับหมูที่กำลังจะขึ้นเขียงเชือดนั้นไม่ต่างกัน

อัษฎางค์กับเรวัตทำหน้าที่สุภาพบุรุษเอาใจสาวทั้งสี่ด้วยการบริการอาหาร ใครอยากจะทานอะไรขอให้บอกสองหนุ่มยินดีบริการตักเสิร์ฟว่าที่คุณแม่และว่าที่ภรรยาด้วยความเต็มใจ

/////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////

:)




เรียงอักษร
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 7 ก.ค. 2554, 00:34:00 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 7 ก.ค. 2554, 00:35:41 น.

จำนวนการเข้าชม : 2002





<< บทที่ 10 The Mommies Return   บทที่ 12 Pre Wedding >>
theme 7 ก.ค. 2554, 07:10:07 น.
รักษาสุขภาพด้วยนะคะ ขอให้สุขภาพแข็งแรงค่ะ


lovemuay 7 ก.ค. 2554, 10:09:51 น.
น่ารักทั้งสองคู่เลย อิอิ


anOO 7 ก.ค. 2554, 14:26:39 น.
รักษาสุขภาพด้วยนะค่ะ หายไวๆๆๆๆๆๆๆ
น่ารักมากมาย ทั้งสองคู่เลย


หมู้หมู 7 ก.ค. 2554, 18:34:45 น.
เอิ้กๆๆ


ปูสีน้ำเงิน 7 ก.ค. 2554, 21:40:31 น.
น่ารักทั้งสองคู่เลย


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account