...คาสบลังก้า...ดารัลฟาเดล...(จบแล้วค่ะ)
สืบเนื่องมาจากเรื่อง "อะรูซะตี...เจ้าสาวของผม"
เรื่องนี้จะเป็นเรื่องราวของลูกสาวสุดหวงของหมอดานีส
กับนาดา โดยเรื่องราวของคุณพ่อเมื่ิอครั้งก่อนนั้น
จะเป็นแนา "แต่งก่อนจีบ"
แต่สำหรับรุ่นลูกแล้ว จะเป็นแนว "จีบก่อนแต่ง"
ต้องมาคอยดูกันค่ะว่า จะจีบกันอย่างไร แล้วคุณหมอดานีส
ที่ต้องมารับบทบาทเป็นพ่อของลูกทั้งเจ็ดจะตกอยู่ในสภาพเช่นไร..
แล้วนาดาจะเป็นแม่แบบไหน...
เรื่องราวความรักที่เกิดขึ้นท่ามกลางบรรยากาศของเมือง
"คาสบลังก้า" หรือ "อัดดารัลบัยฎออ์"
ซึ่งแปลว่า..."บ้านสีขาว"
ดินแดนในฝันดั่งต้องมนต์เสน่หาแห่งโมร็อกโก...
กับดินแดนอันแสนอบอุ่นด้วยไอรักแห่งแดนอาทิตย์อุทัย...
พบกับเขาและเธอ...
...ดารัล...ฟาเดล...
หญิงสาวที่หัวใจเปี่ยมล้นไปด้วยความรักความอบอุ่น
จากครอบครัวอันแสนสุขและน่ารัก...
ชีวิตที่มีพร้อมทุกอย่าง ไม่เคยต้องการสิ่งใดอีกแล้ว
เพราะเธอพอใจทุกอย่างที่มีมาตลอด
จนเมื่อเจอกับเขา...ที่นั่น "คาสบลังก้า"
เขาทำให้เธอไม่อาจลบลืมมนต์เสน่หาของที่นั่นได้เลย
ไม่ว่าจะยามหลับหรือตื่น...
กับ
ชายหนุ่มที่เปี่ยมไปด้วยรูปเปลือกที่สวยงามสมบูรณ์
หากภายในใจนั้นยังคงโหยหาไออุ่นแห่งรักจากใครสักคน
มาเติมเต็มหัวใจกำพร้าของเขา...
แล้วเธอคือผู้ที่เขาค้นพบว่ามีทุกอย่างที่เขากำลังต้องการอยู่
ดังนั้น...ไม่ว่าจะต้องทำอย่างไร เขาก็จะปล่อยเธอ
ไปไม่ได้โดยเด็ดขาด!
เรื่องนี้จะเป็นเรื่องราวของลูกสาวสุดหวงของหมอดานีส
กับนาดา โดยเรื่องราวของคุณพ่อเมื่ิอครั้งก่อนนั้น
จะเป็นแนา "แต่งก่อนจีบ"
แต่สำหรับรุ่นลูกแล้ว จะเป็นแนว "จีบก่อนแต่ง"
ต้องมาคอยดูกันค่ะว่า จะจีบกันอย่างไร แล้วคุณหมอดานีส
ที่ต้องมารับบทบาทเป็นพ่อของลูกทั้งเจ็ดจะตกอยู่ในสภาพเช่นไร..
แล้วนาดาจะเป็นแม่แบบไหน...
เรื่องราวความรักที่เกิดขึ้นท่ามกลางบรรยากาศของเมือง
"คาสบลังก้า" หรือ "อัดดารัลบัยฎออ์"
ซึ่งแปลว่า..."บ้านสีขาว"
ดินแดนในฝันดั่งต้องมนต์เสน่หาแห่งโมร็อกโก...
กับดินแดนอันแสนอบอุ่นด้วยไอรักแห่งแดนอาทิตย์อุทัย...
พบกับเขาและเธอ...
...ดารัล...ฟาเดล...
หญิงสาวที่หัวใจเปี่ยมล้นไปด้วยความรักความอบอุ่น
จากครอบครัวอันแสนสุขและน่ารัก...
ชีวิตที่มีพร้อมทุกอย่าง ไม่เคยต้องการสิ่งใดอีกแล้ว
เพราะเธอพอใจทุกอย่างที่มีมาตลอด
จนเมื่อเจอกับเขา...ที่นั่น "คาสบลังก้า"
เขาทำให้เธอไม่อาจลบลืมมนต์เสน่หาของที่นั่นได้เลย
ไม่ว่าจะยามหลับหรือตื่น...
กับ
ชายหนุ่มที่เปี่ยมไปด้วยรูปเปลือกที่สวยงามสมบูรณ์
หากภายในใจนั้นยังคงโหยหาไออุ่นแห่งรักจากใครสักคน
มาเติมเต็มหัวใจกำพร้าของเขา...
แล้วเธอคือผู้ที่เขาค้นพบว่ามีทุกอย่างที่เขากำลังต้องการอยู่
ดังนั้น...ไม่ว่าจะต้องทำอย่างไร เขาก็จะปล่อยเธอ
ไปไม่ได้โดยเด็ดขาด!
Tags: หวานซึ้งโรแมนติก ดราม่า โมร็อกโก คาสบลังก้า ทะเลทรายซาฮาร่า ดารัล ฟาเดล โสภณพสุธ
ตอน: บทที่ 28 เธอผู้จุดประกายฝัน
“ไม่มีประโยชน์ที่นายจะฆ่าเธอ…”
เสียงชายกลางคนแย้งขึ้นก่อนจะให้เหตุผลว่า
“ขาดเธอไปก็เท่ากับเราจะขาดตัวต่อรอง…
ฟาเดลจะไม่ยอมทำตามที่เราต้องการอีกต่อไป…”
หากเหตุผลดังกล่าวก็มิอาจหยุดยั้งแววตาที่เปี่ยมไปด้วยความแค้นที่ฝังแน่นทรวง…
“ไม่จำเป็นต้องมีตัวต่อรองอีกต่อไป…”
ดารัลกลืนน้ำลายลงคอที่เริ่มแห้งผากเมื่อเห็นปากกระบอกปืนจ่อเล็งแน่วนิ่ง
แววตาที่ไร้ความปรานี…วินาทีนั้นเองที่ดารัลนึกถึงลูกน้อยในท้อง
ความรักความหวงแหนแล่นจู่โจมสู่หัวใจจนเผลอยกมือลูบหน้าท้อง
“อย่าบอกนะว่าแกกำลังจะมีลูกกับสามีหลานสาวฉัน…ฮ่าๆๆ”
เสียงหัวเราะของชายชราดังกึกก้องไปทั่วทั้งพื้นที่เมื่อเห็นปฏิกิริยาตามสัญชาตญาณ
ที่ดารัลเผยออกมา...
“อะมานีคงกระอักเลือด หัวใจสลาย ถูกหามส่งโรงพยาบาลแน่
ถ้ารู้ว่าคนอย่างฉันสามารถล้างผลาญเผ่าพันธ์ของไอ้พวกโสภณพสุุธ
ไปได้อีกสองคนในคราวเดียวกัน…ฮ่าๆๆๆ…” เสียงหัวเราะสมใจนั้น
บาดหัวใจของดารัลจนแทบจะขาดสติ…
“นี่ใช่มั้ยหัวใจของเธอ…” ปืนที่เคยจ่อเล็งที่ศีรษะของดารัลเปลี่ยนทิศ
ขยับเลื่อนลงมาที่หน้าท้องของเธอแทน…
“ตอนนี้…หัวใจดวงใหม่คงกำลังเต้นร้องขอชีวิตอยู่ล่ะสิ…”
สีหน้าคนพูดดูบิดเบี้ยวน่าเกลียดน่ากลัวจนดารัลถึงกับส่ายหน้า
“คุณมันฆาตกรเลือดเย็น…” หญิงสาวพ่นคำพูดใส่คนตรงหน้า
ส่งผลให้เจ้าของกระบอกปืนหัวเราะลั่น…
“นักล่าที่ฆ่าไม่เป็น…จะเป็นนักล่าได้อย่างไรกัน…” เสียงนั้นเยียบเย็น
“มนุษย์นักล่าที่ดีไงล่ะ…ไม่ใช่สัตว์นักล่าเลือดเย็นอย่างคุณ…”
ดารัลเน้นคำว่า ‘สัตว์’ เพื่อตอกย้ำ แล้วเสริมต่ออีกว่า
“แต่สัตว์มันยังดูดีกว่าคุณตรงที่ฆ่าเพื่อเป็นอาหารประทังชีวิตตัวเองให้รอด…
ส่วนคุณ…มันยิ่งกว่านั้นอีก…”
ปืนในมือเริ่มสั่นสะท้านเพราะแรงอัดจากภายในของชายชรา…
หัวใจของเขาเริ่มทำหน้าที่สูบฉีดเลือดหนักขึ้นอีกเท่าตัวเมื่อถูกกระตุ้น…
จนรู้สึกปวดปลาบตรงบริเวณหน้าอก…
ชายกลางคนที่เป็นคนสนิทของชายชราขยิบตาให้ดารัล…
หากเพียงหญิงสาวขยับตัว ชายชราที่ยกมือข้างซ้ายขึ้นกุมหน้าอก
ก็ยกปืนในมือขวาตั้งแน่ว
“ยิงนังนี่ทิ้งซะการุณ…” ชายกลางคนหันมามองหน้านาย
ที่สั่งให้เขาลงมือฆ่าผู้หญิงกับเด็กในท้องของเธอ
…ศรัทธาสลาย...
ความเป็นตายไล่เรียงเป็นฉาก…กี่ศพที่เขาเหยียบข้ามมา
เพราะความจนที่เขาหนีมา…กี่คนที่เขาเป่าหัวเพื่อถางทางให้คนเป็นนาย
นายผู้ยิ่งใหญ่มากด้วยบารมี มีทั้งพระเดชพระคุณ
“เพราะถ้าแกไม่ทำ คนที่จะต้องตายตามนังนี่ไปอีกคนก็คือแก…”
แล้วปืนในมือของชายชราก็หันมาทางเขาพร้อมกับคำสั่ง
“หยิบปืนขึ้นมา แล้วเป่าหัวมันอย่างที่แกเคยทำ…”
การุณมองคนเป็นนาย ไม่ใช่สิ บัดนี้ คนตรงหน้าก็เพียงแค่ชายชราคนนึง
ที่เขาหมดสิ้นแล้วซึ่งศรัทธา…
หากเขาก็ยังทำตามด้วยการหยิบปืนขึ้นมา
แล้วเล็งไปยังหญิงสาวผู้จุดประกายฝัน คนที่ล้างหัวใจเขา
จนเขาได้กลิ่นของความดีงามอีกครั้ง…
ปัง! ปัง! ปัง!
ปังแรกทำให้ผลกล้วยที่กำลังสุกเหลืองบนต้นที่อยู่เยื้องไปทางด้านหลัง
ของดารัลเละไม่เหลือชิ้นดีด้วยกระสุนจากปากกระบอกปืนของการุณ
ปังต่อมาทำให้ร่างของชายกลางคนทรุดลงกับพื้นพร้อมเลือดแดงฉาน
และเสียงกรีดร้องของดารัลด้วยกระสุนจากปากกระบอกปืนในมือของชายชราเลือดเย็น…
ปังสุดท้ายทำให้ปืนในมือของชายชราร่วงหล่นจากมือ
พร้อมเสียงครางด้วยความเจ็บปวดของเจ้าของปืน
มือที่หมายจะปลิดชีวิตของดารัลเป็นคนต่อไปอาบไปด้วยเลือด
หมดสิทธิ์ที่จะยกปืนของตนขึ้นมาเพื่อเหนี่ยวไกสังหารชีวิตใดได้อีกต่อไป…
“น้องรัล…”
ฟาเดลเก็บปืนเข้ารังแล้วรีบวิ่งไปยังร่างของภรรยาสาว
ที่ตอนนี้กำลังประคองร่างของชายกลางคนที่นอนแผ่อยู่บนพื้น
หน้าอกข้างซ้ายเต็มไปด้วยเลือดสดๆส่งกลิ่นคาวคลุ้ง…
พร้อมด้วยทีมบอดีการ์ดที่เข้าจัดการล็อกตัวลูกน้องทั้งหมดของชายชรา
เนเนตที่ก้าวเข้ามารีบเข้าคุมตัว ‘ตาเฒ่า’ ที่กำลังร้องครางด้วยความเจ็บปวด
มือขวาถูกฟาเดลยิงเลือดอาบ ส่วนมือซ้ายกอบกุมหน้าอกเอาไว้…
จนไม่แน่ใจว่าสีหน้าเจ็บปวดนั้นเกิดจากบาดแผลที่มือหรือที่หัวใจ หรือทั้งสองอย่าง…
เสียงหวอทั้งของรถตำรวจพร้อมด้วยรถพยาบาลดังไปทั่วพื้นที่ในวินาทีต่อมา…
“รถพยาบาลมาแล้วค่ะ…คุณต้องปลอดภัย…”
ดารัลปลอบประโลมชายกลางคนที่มีสีหน้าเจ็บปวด หากเขากลับส่ายหน้า
“ถึงเวลาแล้วคุณ…เวลาของผมสำหรับที่นี่ใกล้จะหมดลงแล้ว…จบสิ้นกันเสียที…”
การุณพยายามเปล่งคำพูดออกมาให้เป็นปกติที่สุด…
...ในความเจ็บกายมีความโล่งใจ...
เจ้านายของเขาฉลาดพอจะรู้ว่าเขาจะไม่ยิงเข้าเป้าหมายแน่
เลยลั่นไกสังหารเขาในทันทีที่เสียงปืนของเขาดังขึ้นเพื่อปกป้องตัวเอง
ด้วยกลัวว่าปืนของเขาจะหันมาเล่นงานตัวเองต่อจากนั้น…
โดยที่เจ้านายของเขาไม่รู้…ไม่รู้เลยว่าเขาไม่คิดจะฆ่าใครอีกแล้ว
นับตั้งแต่วันที่ได้พบกับลำแสงที่สาดส่องเข้ามาในหัวใจ…
แต่นายก็คือนาย…เขาประเมินหัวใจเจ้านายสูงไป…สูงเกินไป
ทั้งๆที่คนเช่นนั้นเลือดเย็นและเหี้ยมโหดเกินกว่าจะเรียกว่า ‘สิ่งมีชีวิต’ ด้วยซ้ำไป…
“ในที่สุดก็ได้กลับบ้านเสียทีนะคุณ…” ชายกลางคนยิ้มให้ดารัล
พลางหันมาทางฟาเดล…แล้วพูดกับฟาเดลว่า
“ผมทำได้ดีที่สุดแค่นี้…”
ฟาเดลพยักหน้าพร้อมขอบคุณน้ำใจอันล้ำค่าจากชายตรงหน้า…
เพียงแต่ถ้าเขามาไม่ทัน เขาก็ไม่แน่ใจว่าภรรยาและลูกของเขาจะเป็นอย่างไร…
และหากไม่ได้คนผู้นี้ช่วยไว้ เขาอาจจะสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ไปก่อนหน้านี้แล้วก็เป็นได้…
“คุณคือตัวแทนแห่งศรัทธา…คือวิญญาณแห่งความปรานี…”
การุณหันไปยิ้มให้กับดารัลและชื่นชมเธออย่างจริงใจ
“ขอบคุณที่จุดประกายฝัน…ให้คนในโลกมืดได้เห็นลำแสงแห่งศรัทธา…ขอบคุณจริงๆ…”
น้ำตาดารัลกลิ้งตัวลงสู่ใบหน้าของชายกลางคน
“ขอให้คุณโชคดี…ในวันแห่งการตัดสิน…วันที่ไร้ซึ่งความอยุติธรรมใดๆ
วันที่อำนาจเด็ดขาดเป็นสิทธิ์ของพระเจ้าแต่เพียงผู้เดียว…
พระเจ้าผู้ทรงยุติธรรม ผู้ทรงอำนาจเด็ดขาด ผู้ทรงเมตตาและผู้ทรงให้อภัยยิ่ง…”
การุณรู้ว่า ‘วันแห่งการตัดสิน’ ที่หญิงสาวผู้นี้เอ่ยถึงนั้นคือวันใด
เพราะสำหรับชีวิตบนโลกใบนี้ เขาได้ถูกผู้คนมากมายตัดสินมาเพียงพอแล้ว…
เหลือพระเจ้าเท่านั้น…เหลือการตัดสินชี้ขาดจากพระเจ้าเท่านั้น…
“ขอให้คุณโชคดีในวันนั้นเช่นกัน…ขอบคุณ…อีกครั้ง…สำหรับ…คำอวยพร…อามีน…”
แล้วปากเขาก็ขมุบขมิบถ้อยคำบางอย่างที่ดารัลพอจะอ่านออก
ว่าลิ้นของเขาได้เอ่ยคำใดออกมา…ส่งผลให้น้ำตาแห่งความยินดี
ร่วงรินลงมาเป็นสายต้องใบหน้าของชายกลางคน
ที่กำลังจะเดินทางล่วงหน้าเธอไปยังอีกโลกนึง…
ฟาเดลยกมือเพื่อปิดดวงตาของชายกลางคน
ปิดฉากเรื่องราววุ่นวายทั้งหมดลง…
“เขาได้กลับมาตายที่บ้านเกิด…น้องรัลน่าจะรู้ว่าทำไมเขาถึงเลือกที่นี่…”
ฟาเดลยกมือขึ้นกุมมือภรรยาแล้วโอบบ่าของเธอเอาไว้
“ทุกอย่างมันจบแล้วน้องรัล…” ฟาเดลปลอบประโลมดารัลที่เหมือนจะยังอกสั่นขวัญหนี…
หญิงสาวจึงโผเข้ากอดชายหนุ่มที่เธอเฝ้าคิดถึงมาตลอดพร้อมปล่อยให้น้ำตา
ได้ไหลอาบแก้มโดยไม่กักเก็บมันเอาไว้อีกต่อไป…ปล่อยให้มันไหลไป…
ฟาเดลลูบหลังภรรยาสาว ปล่อยให้ทีมงานจากโรงพยาบาล
และเจ้าหน้าที่ตำรวจจัดการเคลียร์พื้นที่พร้อมกับบอกตำรวจเจ้าของคดีนี้ว่า
“ผมขอรับจัดการศพของชายผู้นี้…เอ่อ…คุณการุณ ปรัชญาธร
หลังจากเสร็จสิ้นกระบวนการทางกฎหมายเองนะครับ…”
“พี่ฟาเดลมาที่นี่ได้ไงคะ…” ดารัลหันมาถามฟาเดล
เมื่อขึ้นมานั่งบนรถในตอนหลังกับเขาเรียบร้อยแล้ว
โดยมีเนเนตนั่งตอนหน้าข้างๆคนขับ…
“ตามกลิ่นที่คุณการุณเขาส่งไปให้…” ดารัลหันมามองฟาเดล
ด้วยแววตาคาดไม่ถึง…ฟาเดลจึงเฉลยว่า
“เขาส่งข้อความไปหาพี่…บอกให้พี่มารับเธอที่นี่ให้ทันก่อนที่นายของเขาจะมาถึง…
ตอนแรกพี่ไม่รู้ว่าอะไรทำให้เขาเลือกทำเช่นนั้น...
แต่คิดว่า…คงเพราะน้องรัล…และก็จริง…”
ว่าแล้วก็รวบร่างบางที่ดูซูบลงไปมากเข้ามากอด…
ก่อนจะมองผ้าคลุมศีรษะของเธอ มองใบหน้าซูบซีด
แล้วยกนิ้วชี้ขึ้นตวัดตรงรอยคิ้วที่ถูกโกนทิ้ง…
ส่งผลให้ดารัลถึงกับน้ำตาคลอก่อนจะเอ่ยเสียงสั่นๆออกไปว่า…
“ไม่สวยแล้ว…”
“แต่พี่ก็ยังจะรัก…และยิ่งรักมากกว่าเดิม…” ฟาเดลก้มลงจุมพิตตรงหน้าผากมนนั่น
แล้วยิ้มให้อย่างอ่อนโยนก่อนจะยกนิ้วขึ้นเกลี่ยน้ำตาที่กลิ้งลงมาให้…
ดารัลยิ้มให้กับแววตารักใคร่ ห่วงใย อย่างที่เขามีให้เสมอมา
“ไม่ใช่เพราะน้องรัล…แต่เพราะเขาเป็นคนดีค่ะ…
เขาแค่หลงผิดไปชั่วขณะนึงของช่วงชีวิตนึงเท่านั้น…
และหัวใจที่ยังคงเชื่อมั่นในความดีก็สามารถเอาชนะความมืดดำในหัวใจของเขาได้ในที่สุด…
น้องรัลดีใจ…ที่ได้คนดีๆคนหนึ่งกลับคืนมา…”
ดารัลเอ่ยขึ้นอีกครั้งเมื่อฟาเดลเปลี่ยนมาใช้มือข้างซ้ายโอบบ่าเธอ
ส่วนมือข้างขวาวางทาบลงบนหน้าท้องของเธอแล้วลูบเบาๆวนไปวนมา…
“ข้อความสุดท้ายที่เขาส่งมา…บอกพี่ว่า…ลูกของพี่น่าจะชอบกินกล้วย
เหมือนกับลูกชายของเขา…เขาก็เลยอยากพาลูกของพี่มากินกล้วยที่ลูกชายของเขาชอบ…
ดูเขาจะรักและคิดถึงลูกของเขามาก…” ดารัลพยักหน้าพร้อมยืนยันด้วยคำพูด
“ค่ะ…เขารักลูกและเมียมาก…มากจนน้องรัลคิดได้ว่า…
พ่อแม่ที่สูญเสียลูกคงเจ็บปวดมาก…
และยิ่งเข้าใจความรู้สึกของเขา เมื่อตอนที่มีปืนมาจ่อตรงหน้าท้อง…
ขนาดลูกเราแค่สองเดือนกว่าๆ น้องรัลยังรู้สึกรักและผูกพันขนาดนี้
แล้วกับเขา…ลูกที่เขาต้องดูแลมาเกือบสิบปีท่ามกลางความหวังว่าลูกจะต้องรอด
จะต้องเติบโต จะต้องไม่ตาย…
ตลอดระยะเวลาเกือบสิบปีนั่น เขาคงโดนความรู้สึกหวังและต้องสิ้นหวังซ้ำไปซ้ำมา
กัดกร่อนหัวใจเขาให้เจ็บปวดและทุกข์ทรมานไม่น้อย…
น้องรัลเข้าใจแล้ว…และตั้งใจจะดูแลลูกของเราให้ดีที่สุด…จะรักให้ดีที่สุด…”
ฟาเดลยิ้มให้ดารัลก่อนจะก้มลงมองหน้าท้องของเธอที่เริ่มนูนขึ้นมาให้เห็น
มือใหญ่ลูบไปมาด้วยแววตารักใคร่…
“ดาวดวงน้อยของพ่อ…” ดารัลถึงรู้สึกอุ่นซ่านเข้าไปในหัวใจ
เมื่อได้ยินถ้อยคำนั้นจากปากของเขา
โดยเฉพาะคำว่า ‘พ่อ’ที่เขาเอ่ยออกมา มันดูไพเราะจับใจเธอยิ่งนัก…
“แล้วคุณนายิกา…” ดารัลอดไม่ได้ที่จะถามถึงหญิงสาวอีกคน
ผู้เป็นเหตุแห่งการพลัดพรากในครั้งนี้…
“ปล่อยให้เขานอนกอดกระดาษแผ่นนั้นกับกองสมบัติไปก็แล้วกัน…
เพราะพี่จะขอนอนกอดเมียกอดลูกของพี่เท่านั้น…
เขาไม่ใช่เมียพี่…ไม่เคยใช่และจะไม่ใช่ไปตลอดกาล…”
แม้หลายครั้งที่เขาจะโดนอีกฝ่ายเรียกร้องให้ทำหน้าที่สามี…
หากเขาก็พยายามหลบเลี่ยงมาตลอด…
ไม่ใช่เพราะขยะแขยง หากเขาสำนึกมาตลอดว่า
นายิกามิใช่ภรรยาที่ถูกต้องตามบทบัญญัติแห่งอิสลามของเขาเท่านั้น…
และเขาเองก็ไม่เคยหย่าขาดจากภรรยาทั้งทางกาย วาจา ใจ
เพราะที่ห่างกายกันนั้นเนื่องจากความจำเป็น…มิใช่ความเต็มใจออกห่าง
ซึ่งการนอกใจภรรยาต่างหากที่เขานึกรังเกียจ…
หากเขายอมทำตามที่นายิกาเรียกร้อง ก็เท่ากับเขากำลังทำผิดต่อดารัล…
ผิดต่อตัวเองและก็ผิดต่อพระเจ้า…
ซึ่งเขาทำไม่ได้…และไม่ได้ทำด้วย…
“พี่มันหัวโบราณ ยึดหลักการเดิมของศาสนา…
เพราะกระดาษไม่สำคัญเท่าคำมั่นสัญญาระหว่างคู่บ่าวสาวที่มีต่อกันในพิธีศักดิ์สิทธิ์…
ทั้งกาย วาจา ใจ ต่อหน้าพระเจ้า ด้วยนามอันสูงส่งของพระองค์…
พี่ตอบรับน้องรัลและน้องรัลก็ตอบรับพี่…เราสองคนเป็นที่อนุมัติต่อกันและกัน…
ตั้งใจจะใช้ชีวิตคู่ไปบนหนทางของพระเจ้า...แค่นี้ก็สมบูรณ์แล้วสำหรับพี่…
และถ้าน้องรัลต้องการที่จะเข้าพิธีนิกะฮ์ (สมรส) กับพี่อีกสักกี่รอบก็ย่อมได้
เพราะพี่ก็ยังจะยืนยันคำเดิมว่า…ตอบรับน้องรัลทุกรอบ…
แล้วไม่เคยคิดจะหย่ากับน้องรัลเลย…”
ฟาเดลยืนยันทุกความคิด ทุกความตั้งใจ ทุกการกระทำของเขาด้วยน้ำเสียงแน่วแน่
มั่นคง ทำเอาคนขับรถและเนเนตที่นั่งร่วมโดยสารมาด้วยที่ฟังไม่เข้าใจ
เพราะต่างภาษากัน...ถึงกับขมวดคิ้วหันมามองหน้ากัน…
เพราะเมื่อมองจากกระจกส่องหลังเห็นรอยยิ้มสดใส
จากผู้เป็นนายหญิงทันทีเมื่ออีกฝ่ายกล่าวจบ
“ขอบคุณค่ะที่รักและเชื่อใจน้องรัล…” ฟาเดลยิ้มกว้างโอบบ่าภรรยาสาวเอาไว้แน่น
แล้วรั้งศีรษะของเธอวางลงบนบ่าของเขา
ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล อ่อนโยนว่า
“ขอบคุณที่น้องรัลมอบความเชื่อมั่นไว้วางใจให้กับพี่…ขอบคุณที่รักและเชื่อใจกัน”
ดารัลซบหน้าลงกับบ่ากว้างของเขาพร้อมรอยยิ้มสุขใจ…
“ว่าแต่…น้องรัลจะรังเกียจผู้ชายที่เหลือแต่ตัวอย่างพี่ได้รึเปล่า…”
ดารัลตอบทั้งๆที่ศีรษะยังแนบอยู่กับบ่าของเขาว่า
“ถ้าหัวใจพี่ยังเหลือให้น้องรัลอยู่ น้องรัลก็ไม่รังเกียจผู้ชายจนๆคนนี้…
เพราะพ่อน้องรัลรวย…”
นั่นแหล่ะปัญหา เพราะคนที่รวยคือพ่อของเธอ...ไม่ใชพ่อหรือปู่ย่าของเขาน่ะสิ…
“แล้วน้องรัลจะถามพ่อให้นะคะว่าพ่อยินดีรับลูกเขยจนๆคนนี้ไว้ในปกครองได้รึเปล่า…”
เสียงหัวเราะคิกคักของเธอทำเอาฟาเดลถึงกับส่ายหน้าพร้อมรอยยิ้ม…
แม้จะล่วงรู้ชะตากรรมของตนที่รออยู่ข้างหน้าเมื่อรถคันนี้จอดลงตรงบ้านสีฟ้ารั้วสีขาว
ในฟาร์มสมุนไพรของคุณพ่อตา…
...โปรดติดตามตอนต่อไป...
ตอนนี้สั้นกว่าตอนอื่นๆ...
แต่ตอนหน้าตอนจบแล้วนะจ๊ะ...
มาร่วมติดตามทุกบทสรุปด้วยกันกับความยาวในตอนหน้ากันนะจ๊ะ..
...คุยกับนักอ่านจากคอมเม้นท์ในบทที่แล้วจ้า...
1.คุณร้อยวจีง...พระเอกขี่เรือบินมาช่วยแล้วนะคะ...เฮะๆ
ปล่อยให้นางเอกแย่งซีนมาหลายตอน ยกนี้ขอยกให้พระเอกเขาทำหน้าที่บ้างคะ...
อิอิอิ...
2.คุณตุ๊งแช่...เกือบตกเก้าอี้เลยหรือคะ...ฮ่าๆๆ
โยก็นึกว่าแค่ทำให้ตกใจเล่นๆเท่านั้น...แต่นี่เกือบทำนักอ่านตกเก้าอี้...อิอิอิ
ตอนหน้าตอนจบแล้วน้าาาาาา...
3.คุณsaralun...พระเอกกลับมาทำหน้าที่ของพระเอกแล้วค่ะ...
แม้จะไม่มีม้าขาว...แต่นั่งเครื่องมาดูจะเหมาะกับสถานการณ์มากกว่า...
รอดแล้ว ได้กลับบ้านแล้วนะคะ...
4.คุณnapt....ตาแก่จะเจออะไรต่อจากนี้มาดูกันในบทสรุปของเรื่องนี้กันค่ะ
5.คุณแว่นใส...พอดีว่าตาแก่แกหนังเหนียว เลยตายยากค่ะ...
บางทีโทษตายก็ดูน้อยเกินไปสำหรับการลงโทษ...
6.คุณPat...ไม่ใช่หมดมุกหรอกค่ะ...แต่อยากยิงให้กระสุนหมดแมกซ์มากกว่า
อิอิอิ...ตอนหน้าบทสรุปของทุกเรื่องทุกตัวละครในเรื่องนี้ค่ะ...
ไม่มีตกหล่น...แม้แต่บทสรุปของ แมงมุมแม่ม่าย...ลองเดาๆดูนะคะว่าจะลงเอยแบบไหน
...สุดท้ายไม่ท้ายสุด...
สิ่งหนึ่งที่ทำให้เต่าโยนึกขึ้นมาได้ว่าลืม!
ลืมอย่างไม่น่าให้อภัยเมื่อเขียนมาถึงตอนนี้
นั่นก็คือ...การส่งมอบของขวัญและโปสการ์ดให้นักอ่านที่ร่วมสนุกตอบคำถาม
ของเต่าโยในเรื่อง อะรูซะตี...เจ้าสาวของผม...(นี่มันกี่เดือนผ่านมาแล้วนะ)
ประมาณว่าเขียนจบมาอีกเรื่องนึงแล้วเพิ่งนึกได้ว่ายังติดค้างนักอ่านอยู่...
หวังว่านักอ่านจะให้อภัย...เพราะเท่าที่จำได้...นักอ่านของเต่าที่ได้รางวัล
ยังคงติดตามอ่านเรื่องนี้กันอยู่หลายท่านมาก...ขออภัยจริงๆนะคะ...
แล้วเต่าโยจะพยายามจัดสรรเวลา...
ไปไปรษณีย์แล้วส่งของขวัญกับโปสการ์ดไปให้นะจ๊ะ...
เป็นของขวัญที่ช่างเหมาะสำหรับเอาไว้ใช้เวลาอ่านนิยายเต่า...ฮ่าๆๆ...
คิดว่านักอ่านของเต่าน่าจะพอเดาได้แล้วว่ามันคืออะไร...
...อยากขอบคุณอีกสักครั้งที่นักอ่านยังไม่ทอดทิ้งกัน
แม้ว่าเต่าจะเผลอลืม เผลอทำเรื่องน่าอายอะไรไป...อภัยให้ด้วยน้าาาาาาาา...
...และขอบคุณนักอ่านทุกๆท่านด้วยนะคะที่ยังคงติดตามและเป็นกำลังใจให้กันเสมอมา...
...รักษาสุขภาพนะคะ...
"เต่าโย"

เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 6 ธ.ค. 2557, 16:23:40 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 6 ธ.ค. 2557, 16:23:40 น.
จำนวนการเข้าชม : 3960
<< บทที่ 27 เรื่องกล้วย กล้วย | บทที่ 29 บทสรุปทุกความรู้สึก (ตอนจบ) >> |

แว่นใส 6 ธ.ค. 2557, 17:31:44 น.
พ่อตาวางแผนแกล้งไรลูกเขยอีกไหมนะ
พ่อตาวางแผนแกล้งไรลูกเขยอีกไหมนะ

omelate 6 ธ.ค. 2557, 21:43:53 น.
เฮ้อ...ค่อยหายใจหายคอโล่งหน่อยค่ะ
เฮ้อ...ค่อยหายใจหายคอโล่งหน่อยค่ะ

saralun 6 ธ.ค. 2557, 21:56:24 น.
ว้า..ไกล้จบละ...
ว้า..ไกล้จบละ...

napt 7 ธ.ค. 2557, 09:35:05 น.
ตอนนี้มาแบบซึ้งๆ การุณสมชื่อในตอนสุดท้ายของชีวิต
รอดูว่าพ่อตาจะต้อนรับแบบไหนนะคะ
ตอนนี้มาแบบซึ้งๆ การุณสมชื่อในตอนสุดท้ายของชีวิต
รอดูว่าพ่อตาจะต้อนรับแบบไหนนะคะ

ตุ๊งแช่ 8 ธ.ค. 2557, 09:33:46 น.
ช่วยได้สักที งานนี้ลูกเขยท่าจะอ่วม
ช่วยได้สักที งานนี้ลูกเขยท่าจะอ่วม
