ภรรยาเพียงนาม
ภรรยาเพียงนาม โดย...ธัญปัณณ์


เป็นเรื่องสุดท้ายของหนุ่มๆ ตระกูลเศรษฐินาธรนะคะ

นำแสดงโดย คุณใหญ่ โคแก่มาดขรึม และ ใบบัว สาวน้อยจอมดื้อ!






‘พิชาภพ เศรษฐินาธร’ มหาเศรษฐีหนุ่มหล่อ เจ้าของธุรกิจโรงแรมและรีสอร์ทที่ร่ำรวยอันดับต้นๆ ของประเทศ จำต้องรับ ‘ณัฐชาดา’ สาวน้อยหน้าหวานเข้ามาใช้นามสกุลเดียวกันด้วยบุญคุณที่พ่อของเธอเคยช่วยชีวิตเขาเอาไว้ แรกนั้นจะให้อยู่ในสถานะ ‘ภรรยาเพียงนาม’ แต่ความดื้อดึงปนน่ารักในการเอาตัวรอดของเธอ ทำให้หนุ่มใหญ่นึกอยากเอาชนะ แม่กวางน้อยไร้เดียงสาน่ะหรือ...จะรอดพ้นราชสีห์หนุ่มเจ้าป่าอย่างเขา

และสิ่งที่เขาสังหรณ์ใจแต่แรก จึงจดทะเบียนสมรสกับเธอเสียก็เกิดขึ้นจริง เมื่อหญิงสาวถูกหลอกขาย แต่เขานี่แหละที่จะซื้อเธอด้วยความรักอย่างเต็มใจ!



ตัวอย่างจ้าาาาาา

“คุณใหญ่ปล่อยนะ!”

สาวน้อยร้องลั่นเมื่อเขาตวัดคว้าเอวบางเข้าหาตัวก่อนจะกดเธอลงกับเตียงนอนแล้วโน้มใบหน้าเข้ามาหาเสียใกล้ ท่าทางล่อแหลมมากเหลือเกิน

“เด็กโกหก!”

“คุณใหญ่ไม่รู้หรอกว่าผู้หญิงที่ไหนก็ต้องกลัวเรื่องแบบนี้ทั้งนั้น”

“เรื่องแบบไหน”

“ก็เรื่องเซ็กซ์”

“ใครบอกเธอว่าฉันจะทำแบบนั้น”

“ก็คนนอนเตียงเดียวกันก็ต้องคิดเรื่องนี้ทั้งนั้นแหละค่ะ”

“คราวหน้าอย่ามาทำอะไรไม่เข้าเรื่องแบบนี้อีก เข้าใจไหม” พิชาภพเลี่ยงที่จะตอบว่าเขาคิดเรื่องพวกนั้นกับเธอหรือเปล่าเพราะยังไม่แน่ใจตัวเองนัก จะว่าคิดก็ใช่ จะว่าไมได้คิดก็ใช่

“ค่ะ” เธอตอบเสียงแผ่ว

“ไม่งั้นจะถูกลงโทษ” ชายหนุ่มยิ้มเจ้าเล่ห์ นัยน์ตาพราวระยับเมื่อจับจ้องที่ริมฝีปากซึ่งเผยอน้อยๆ ในขณะนี้

“ลงโทษ?”

“ถ้าใบบัวดื้อ ฉันจะจูบ!”

“จะ...จูบ!” สาวน้อยเบิกตาโตเท่าไข่ห่าน

“ใช่! ดังนั้นอย่าดื้อหรือทำให้ฉันไม่พอใจอีก”

“ค่ะ ใบบัวจะไม่ดื้อแล้ว” สาวน้อยรีบรนตอบจนลิ้นแทบพันกัน “คุณใหญ่คะ ครั้งนี้ยกเว้นใช่ไหม”

“ถ้ายกเว้น ใบบัวจะเข็ดหลาบไหม”

“ใบบัวยังไม่แปรงฟันด้วยนะ”

***********
Tags: โคแก่หญ้าอ่อน

ตอน: บทที่ 1 ชีวิตแต่งงานวันแรก 2

พิชาภพมองสาวน้อยตรงหน้าอย่างอ่อนระอาใจ ณัฐชาดาสวมชุดเอี๊ยมกางเกงสามส่วนสีฟ้าอ่อนลายจุดขาว เรือนผมรวบไปมัดเป็นวงกลมหลวมๆ ที่กลางศีรษะมีปอยห้อยลงมาระแก้มใสอมชมพูธรรมชาติ เขาถอนหายใจยาว นี่โชคดีที่แค่ลงไปรับประทานอาหาร หากออกไปข้างนอกด้วยกันเขาคงเหมือนเสี่ยแก่ๆ เลี้ยงต้อยเด็กสาวเป็นแน่

“ใบบัวพร้อมแล้วค่ะ สิบห้านาทีพอดีเลย” เธอรายงาน

“ดี”

หลังเหตุการณ์วาบหวามผ่านไป แล้วเขาแสดงอาการออกนอกหน้าไปหน่อย หญิงสาวทำหน้าแดงดูไม่ประสีประสาแต่ไม่ได้ตอบอะไร เขาจึงเฉเปลี่ยนเรื่องด้วยการให้เธอรีบแต่งตัวจะได้ลงไปรับประทานอาหารด้วยกัน ทั้งๆ ที่ความจริงอยากจะรับประทาน ‘ของหวาน’ ตรงหน้าเสียมากกว่า

“เดี๋ยวค่ะคุณใหญ่” หญิงสาวเอ่ยเรียกเมื่อเห็นว่าเขาหมุนตัวกลับเตรียมเดินนำลงไปข้างล่าง

“มีอะไรหรือ”

“ใบบัวไม่ได้ทำให้คุณใหญ่ลำบากใช่ไหมคะ” หญิงสาวกังวล นัยน์ตาอดแวววาวด้วยหยาดน้ำใสไม่ได้ ดูสิ...เขามายืนรอเธอสิบห้านาที แทนที่จะกินข้าวอิ่มแล้วเอาเวลาที่เหลือไปทำงาน อีกอย่าง...แม้ครอบครัวของเขาจะดูต้อนรับเธอดี แต่ไม่รู้ว่าลับหลังจะต่อว่าพิชาภพหรือเปล่าที่คว้าเด็กที่ไหนก็ไม่รู้มาเป็นเมีย

“ทำไมถึงคิดอะไรอย่างนั้นล่ะ หืม...”

“ใบบัวกลัวคุณใหญ่จะลำบากเพราะใบบัว”

“ฉันจะลำบากเรื่องอะไรล่ะ” พิชาภพมองเธออย่างนึกเอ็นดู ถ้าเขาจะลำบากก็เห็นจะเป็นเรื่องเดียวคือ...กลัวเธอจะเข้ามาทำให้น้ำแข็งที่ปกคลุมหัวใจมาสามสิบห้าปีละลายลง ดังเช่นเหตุการณ์เมื่อครู่ เป็นต้น

“ครอบครัวของคุณใหญ่...” หญิงสาวพูดไม่ค่อยเต็มปากด้วยกลัวเขาจะหาว่าเธอต่อว่าครอบครัวของเขา

“ไปสิ...แล้วจะรู้ว่าครอบครัวของฉันยินดีต้อนรับใบบัวแค่ไหน”

ชายหนุ่มถือโอกาสเอื้อมไปกุมมือบางเป็นครั้งที่สอง แล้วจูงเดินลงไปข้างล่าง สองหนุ่มสาวพากันมาถึงโต๊ะอาหาร ทุกคนนั่งรอกันพร้อมหน้าแล้ว รวมถึงชลชญาน์ สะใภ้คนกลางที่ดูตื่นเต้นที่จะได้พบสะใภ้คนใหม่ของบ้านเศรษฐินาธร

“สวย น่ารักอะไรอย่างนี้ ว่าไหมคะรดา” ผู้หมวดสาวถึงกับเอ่ยปากชื่นชม เมื่อณัฐชาดาก้าวเข้ามายืนตรงหน้า

“ใช่ค่ะ น้องน่ารักมากทีเดียวนะคะ” รดาเองก็เห็นพ้องต้องกัน

“หนูใบบัวมานั่งทานข้าวด้วยกันนะลูก” คุณพิมุกต์เอ่ยเชื้อเชิญ น้ำเสียงท่านเอ็นดูจนสาวน้อยใจชื้น

พิชาภพเผยยิ้มบางๆ เมื่อณัฐชาดาเงยหน้าขึ้นมอง เธอคงโล่งใจที่ทุกคนต้อนรับด้วยดีเช่นนี้ ชายหนุ่มเลื่อนเก้าอี้ให้ภรรยาในนามก่อนทรุดกายลงนั่งเคียงข้างกัน

“ใบบัวจ๊ะ นี่พี่ไหมเป็นเมียพี่กลางจ้ะ” รดาเป็นผู้เอ่ยแนะนำชลชญาน์ให้รู้จักเพราะตอนเย็นชลชญาน์กลับมาไม่ทันได้พบณัฐชาดา

“สวัสดีค่ะพี่ไหม” หญิงสาวพนมมือไหว้พลางส่งยิ้มหวานให้

“สวัสดีจ้ะ ยินดีต้อนรับสู่บ้านของเรานะ น้องใบบัวไม่ต้องเกร็งนะคะ ที่นี่เรากันเอง มีอะไรก็คุยเล่นกันได้ พี่อาจจะไม่ค่อยอยู่บ้าน ยังไงคงต้องฝากรดาช่วยดูน้องเนอะ” ชลชญาน์เอ่ยอย่างใจดี แถมยังฝากฝังกับรดาอีกด้วย

“ขอบคุณพี่ทั้งสองมากนะคะที่เอ็นดูใบบัว”

“คราวนี้ก็เลิกกังวลเสียทีนะ” พิชาภพเอ่ยขึ้น

“กังวลอะไรหรือ” คุณพิมุกต์ขมวดคิ้ว

“ใบบัวกลัวพวกเราจะไม่ชอบเธอน่ะครับ”

“คุณใหญ่!” สาวน้อยมองค้อนคนข้างกายตาเขียว เธอแค่ถามเขาเฉยๆ ไม่ใช่ให้เอามาบอกทุกคนแบบนี้สักหน่อย

“โธ่! นึกว่าเรื่องอะไร พ่อกับพี่ๆ ยินดีต้อนรับหนูใบบัวอยู่แล้ว รู้ไหมว่าพวกเราเชียร์ให้ตาใหญ่มีเมียมาหลายปีแล้ว จนคิดว่าหมดหวังเสียด้วยซ้ำเพราะน้องชายแต่งงานกันหมดแล้วก็ยังไร้วี่แวว จนหนูเข้ามาพวกเราก็ต้องยินดีต้อนรับสิ และยิ่งน่ารักน่าเอ็นดูแบบนี้ด้วย ใครจะใจร้ายไม่รักได้ลงคอ จริงไหมตาใหญ่”

“ครับ” ชายหนุ่มโล่งใจยิ่งกว่าหญิงสาวเสียอีก เขาพาเธอมาก็ย่อมประสงค์อยากให้อยู่อย่างมีความสุข โชคดีที่แม้บิดาจะสงสัยในตัวเธอแต่ก็ยอมรับเข้ามาเป็นครอบครัวเดียวกัน

“เอ้า! เรามาทานข้าวกันดีกว่า วันนี้พ่อให้ป้านวลทำกับข้าวเยอะแยะเลย หวังว่าหนูใบบัวจะชอบนะ”

“ขอบคุณค่ะคุณพ่อ”

พิชาภพพยายามตักอาหารให้ภรรยาเพื่อให้สมาชิกในครอบครัวที่เขารู้ดีว่ากำลังจับตามองแทบไม่กะพริบเชื่ออย่างสนิทใจว่าเขากับณัฐชาดารักกันจริงๆ เขาไม่แปลกใจสักนิดที่ทุกคนจะเคลือบแคลงสงสัยเพราะนอกจากจะจดทะเบียนสมรสกันแบบสายฟ้าแลบแล้ว สาวน้อยยังดูแตกต่างกับเขามากเหลือเกิน ทั้งวัยและนิสัยใจคอ

ชายหนุ่มมองณัฐชาดาอย่างเอ็นดู แก้มเธอแดงใสระเรื่อ และขนาดยังเหนียมอายต่อทุกคนแต่เธอก็เคี้ยวอาหารตุ้ยๆ ดูน่าอร่อย ท่าทางจะกินเก่งไม่เบาทีเดียว สาวน้อยของเขาสดใสไร้จริตมารยาใด เธอไม่ได้สนใจห่วงความสวยจนเม็ดข้าวติดที่มุมปากยังกับเด็กๆ

มือหนาเอื้อมไปเช็ดปากให้อย่างนุ่มนวล ณัฐชาดาตกใจ เบิกตากว้างจนเมื่อเห็นว่าอะไรจึงถอนหายใจยาวเหมือนโล่งใจ

“กินระวังๆ หน่อยสิ” เขาแกล้งดุ

“ขอโทษค่ะ”

“ไม่เอาน่าตาใหญ่ ไปดุน้องทำไม น้องกำลังกินน่าอร่อยเชียว” ผู้เป็นบิดาปราม เขารู้นิสัยลูกชายดีว่าเป็นผู้นำ และน่าเกรงขาม

“กินต่อเถอะ เอาทอดมันปลากรายไหม อาจะตักให้”

แรกนั้นนึกว่าณัฐชาดาจะอายจนไม่กล้ารับ แต่ผิดคาดเมื่อเธอพยักหน้าหงึกหงัก ชายหนุ่มยิ้มมุมปากก่อนเอื้อมไปตักทอดมันปลากรายชิ้นโตใส่จานสาวน้อย

“กินเยอะๆ นะใบบัวจะได้มีน้ำมีนวลหน่อย ตอนนี้ตัวเล็กไป เล็กกว่ารดาเสียอีก”

คำพูดคำจาของหมวดชลชญาน์แทบทำให้พิชาภพติดคอตาย พูดอย่างกับว่าณัฐชาดาเป็นเด็ก กินเยอะๆ จะได้โตไวๆ อย่างนั้นแหละ

“ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ เดี๋ยวพี่ใหญ่ก็ดูแลจนโต เอ๊ย! จนมีน้ำมีนวลขึ้นเองแหละค่ะ” รดาหัวเราะคิกคัก

ณัฐชาดาได้แต่ยิ้มเขินๆ แล้วตักอาหารเข้าปากต่อตามประสาสาวกินเก่ง

“แล้วตอนนี้หนูใบบัวเรียนจบหรือยัง”

“จบแล้วค่ะคุณพ่อ เพิ่งรับปริญญามาเมื่อไม่กี่เดือนนี้เองค่ะ”

“แล้วคิดจะทำอะไรต่อล่ะ”

“ใบบัวว่าจะหางานทำน่ะค่ะ”

“ไม่ได้!” พิชาภพก็โพล่งออกมาทันที ก่อนหันขวับไปมองสาวน้อยข้างกายจนหงอทีเดียว

“อ้าว! ทำไมล่ะครับพี่ใหญ่” พิชาทยุตม์เอ่ยถามอย่างแปลกใจ

“เอาไว้ให้ใบบัวโอเคกับการอยู่ที่นี่ก่อนครับคุณพ่อ เดี๋ยวผมจะพาใบบัวไปทำงานด้วยเอง” อันที่จริงไม่ใช่เหตุผลนี้ แต่เขายังต้องปกปิดเอาไว้

“อย่างนั้นก็ดี ให้น้องได้ปรับตัวเสียหน่อย” คุณพิมุกต์พยักหน้าเห็นด้วย

“แล้วพี่ใหญ่ต้องเดินทางขึ้นเหนือล่องใต้บ่อยๆ แบบนี้จะพาใบบัวไปด้วยหรือว่าให้อยู่ที่นี่ล่ะครับ” พิริยะเอ่ยถาม

“ช่วงนี้พี่คงอยู่ที่บ้านนี่แหละ งานทางโน้นพี่วางระบบเอาไว้หมดแล้ว ถ้ามีเรื่องด่วนถึงไป”

“ฮั่นแน่! พอมีเมียก็ไม่อยากห่างเมียเลยนะครับ” พิริยะ น้องชายตัวแสบล้อเลียน

“ก็คงอย่างนั้นแหละ” พิชาภพจำต้องรับสมอ้าง แต่ที่จริงแล้วเขาเป็นห่วงณัฐชาดา เขาไม่อยากให้เธอรู้สึกอ้างว้างและยังกลัวว่าจะเกิดอะไรขึ้นอย่างที่สงสัยมาตลอด

เขาไม่แน่ใจเรื่องราวในอดีตของสาวน้อยข้างกายเอาเสียเลย...

//////////////////////////////
คุยกันสักนิด...
ในเนื้อหาบางคนอาจจะงงว่าตกลงจะเรียกคุณใหญ่ว่าอะไร เดี๋ยว 'ฉัน' เดี๋ยว 'อา' คืออย่างนี้ค่ะ ตอนแรกนักเขียนให้เรียกว่าอา แต่คิดว่าอาจจะดูแก่เกินไป อิอิ จึงเปลี่ยนให้แทนตัวเองว่า ฉัน ค่ะ
ยังไงฝากด้วยนะคะ เม้นๆ กัน อิอิ



จรดปลายรุ้ง
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 11 ธ.ค. 2557, 21:18:26 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 11 ธ.ค. 2557, 21:18:26 น.

จำนวนการเข้าชม : 2213





<< บทที่ 1 ชีวิตแต่งงานวันแรก 1   บทที่ 2 คืนแรก 1 >>
Zephyr 27 ก.พ. 2558, 18:04:47 น.
บร้ะ คุณใหญ่นี่ เสียงดังจนใบบัวกลัวนะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account