ภรรยาเพียงนาม
ภรรยาเพียงนาม โดย...ธัญปัณณ์
เป็นเรื่องสุดท้ายของหนุ่มๆ ตระกูลเศรษฐินาธรนะคะ
นำแสดงโดย คุณใหญ่ โคแก่มาดขรึม และ ใบบัว สาวน้อยจอมดื้อ!
‘พิชาภพ เศรษฐินาธร’ มหาเศรษฐีหนุ่มหล่อ เจ้าของธุรกิจโรงแรมและรีสอร์ทที่ร่ำรวยอันดับต้นๆ ของประเทศ จำต้องรับ ‘ณัฐชาดา’ สาวน้อยหน้าหวานเข้ามาใช้นามสกุลเดียวกันด้วยบุญคุณที่พ่อของเธอเคยช่วยชีวิตเขาเอาไว้ แรกนั้นจะให้อยู่ในสถานะ ‘ภรรยาเพียงนาม’ แต่ความดื้อดึงปนน่ารักในการเอาตัวรอดของเธอ ทำให้หนุ่มใหญ่นึกอยากเอาชนะ แม่กวางน้อยไร้เดียงสาน่ะหรือ...จะรอดพ้นราชสีห์หนุ่มเจ้าป่าอย่างเขา
และสิ่งที่เขาสังหรณ์ใจแต่แรก จึงจดทะเบียนสมรสกับเธอเสียก็เกิดขึ้นจริง เมื่อหญิงสาวถูกหลอกขาย แต่เขานี่แหละที่จะซื้อเธอด้วยความรักอย่างเต็มใจ!
ตัวอย่างจ้าาาาาา
“คุณใหญ่ปล่อยนะ!”
สาวน้อยร้องลั่นเมื่อเขาตวัดคว้าเอวบางเข้าหาตัวก่อนจะกดเธอลงกับเตียงนอนแล้วโน้มใบหน้าเข้ามาหาเสียใกล้ ท่าทางล่อแหลมมากเหลือเกิน
“เด็กโกหก!”
“คุณใหญ่ไม่รู้หรอกว่าผู้หญิงที่ไหนก็ต้องกลัวเรื่องแบบนี้ทั้งนั้น”
“เรื่องแบบไหน”
“ก็เรื่องเซ็กซ์”
“ใครบอกเธอว่าฉันจะทำแบบนั้น”
“ก็คนนอนเตียงเดียวกันก็ต้องคิดเรื่องนี้ทั้งนั้นแหละค่ะ”
“คราวหน้าอย่ามาทำอะไรไม่เข้าเรื่องแบบนี้อีก เข้าใจไหม” พิชาภพเลี่ยงที่จะตอบว่าเขาคิดเรื่องพวกนั้นกับเธอหรือเปล่าเพราะยังไม่แน่ใจตัวเองนัก จะว่าคิดก็ใช่ จะว่าไมได้คิดก็ใช่
“ค่ะ” เธอตอบเสียงแผ่ว
“ไม่งั้นจะถูกลงโทษ” ชายหนุ่มยิ้มเจ้าเล่ห์ นัยน์ตาพราวระยับเมื่อจับจ้องที่ริมฝีปากซึ่งเผยอน้อยๆ ในขณะนี้
“ลงโทษ?”
“ถ้าใบบัวดื้อ ฉันจะจูบ!”
“จะ...จูบ!” สาวน้อยเบิกตาโตเท่าไข่ห่าน
“ใช่! ดังนั้นอย่าดื้อหรือทำให้ฉันไม่พอใจอีก”
“ค่ะ ใบบัวจะไม่ดื้อแล้ว” สาวน้อยรีบรนตอบจนลิ้นแทบพันกัน “คุณใหญ่คะ ครั้งนี้ยกเว้นใช่ไหม”
“ถ้ายกเว้น ใบบัวจะเข็ดหลาบไหม”
“ใบบัวยังไม่แปรงฟันด้วยนะ”
***********
เป็นเรื่องสุดท้ายของหนุ่มๆ ตระกูลเศรษฐินาธรนะคะ
นำแสดงโดย คุณใหญ่ โคแก่มาดขรึม และ ใบบัว สาวน้อยจอมดื้อ!
‘พิชาภพ เศรษฐินาธร’ มหาเศรษฐีหนุ่มหล่อ เจ้าของธุรกิจโรงแรมและรีสอร์ทที่ร่ำรวยอันดับต้นๆ ของประเทศ จำต้องรับ ‘ณัฐชาดา’ สาวน้อยหน้าหวานเข้ามาใช้นามสกุลเดียวกันด้วยบุญคุณที่พ่อของเธอเคยช่วยชีวิตเขาเอาไว้ แรกนั้นจะให้อยู่ในสถานะ ‘ภรรยาเพียงนาม’ แต่ความดื้อดึงปนน่ารักในการเอาตัวรอดของเธอ ทำให้หนุ่มใหญ่นึกอยากเอาชนะ แม่กวางน้อยไร้เดียงสาน่ะหรือ...จะรอดพ้นราชสีห์หนุ่มเจ้าป่าอย่างเขา
และสิ่งที่เขาสังหรณ์ใจแต่แรก จึงจดทะเบียนสมรสกับเธอเสียก็เกิดขึ้นจริง เมื่อหญิงสาวถูกหลอกขาย แต่เขานี่แหละที่จะซื้อเธอด้วยความรักอย่างเต็มใจ!
ตัวอย่างจ้าาาาาา
“คุณใหญ่ปล่อยนะ!”
สาวน้อยร้องลั่นเมื่อเขาตวัดคว้าเอวบางเข้าหาตัวก่อนจะกดเธอลงกับเตียงนอนแล้วโน้มใบหน้าเข้ามาหาเสียใกล้ ท่าทางล่อแหลมมากเหลือเกิน
“เด็กโกหก!”
“คุณใหญ่ไม่รู้หรอกว่าผู้หญิงที่ไหนก็ต้องกลัวเรื่องแบบนี้ทั้งนั้น”
“เรื่องแบบไหน”
“ก็เรื่องเซ็กซ์”
“ใครบอกเธอว่าฉันจะทำแบบนั้น”
“ก็คนนอนเตียงเดียวกันก็ต้องคิดเรื่องนี้ทั้งนั้นแหละค่ะ”
“คราวหน้าอย่ามาทำอะไรไม่เข้าเรื่องแบบนี้อีก เข้าใจไหม” พิชาภพเลี่ยงที่จะตอบว่าเขาคิดเรื่องพวกนั้นกับเธอหรือเปล่าเพราะยังไม่แน่ใจตัวเองนัก จะว่าคิดก็ใช่ จะว่าไมได้คิดก็ใช่
“ค่ะ” เธอตอบเสียงแผ่ว
“ไม่งั้นจะถูกลงโทษ” ชายหนุ่มยิ้มเจ้าเล่ห์ นัยน์ตาพราวระยับเมื่อจับจ้องที่ริมฝีปากซึ่งเผยอน้อยๆ ในขณะนี้
“ลงโทษ?”
“ถ้าใบบัวดื้อ ฉันจะจูบ!”
“จะ...จูบ!” สาวน้อยเบิกตาโตเท่าไข่ห่าน
“ใช่! ดังนั้นอย่าดื้อหรือทำให้ฉันไม่พอใจอีก”
“ค่ะ ใบบัวจะไม่ดื้อแล้ว” สาวน้อยรีบรนตอบจนลิ้นแทบพันกัน “คุณใหญ่คะ ครั้งนี้ยกเว้นใช่ไหม”
“ถ้ายกเว้น ใบบัวจะเข็ดหลาบไหม”
“ใบบัวยังไม่แปรงฟันด้วยนะ”
***********
Tags: โคแก่หญ้าอ่อน
ตอน: บทที่ 2 คืนแรก 1
บทที่ 2
ณัฐชาดาเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดนอนกระโปรงยาวเสมอเข่าสีชมพูลายเรียบ หัวใจเต้นตุ้มๆ ต่อมๆ ไม่หายเมื่อใกล้เวลาที่เธอจะต้องอยู่กับพิชาภพเพียงสองต่อสองในห้องนอน หลังมื้ออาหารชายหนุ่มบอกเธอว่าจะขอทำงานสักครู่ ให้เธอนอนก่อนได้เลย นั่นทำให้สาวน้อยพอมีเวลาคิดหาทางหนีรอดจากเขา แต่จนมาถึงตอนนี้ก็ยังคิดไม่ออกว่าจะทำอย่างไรดี
“คุณใหญ่คะ ใบบัวยังไม่พร้อม” หญิงสาวซักซ้อมที่หน้ากระจก ใบหน้าแดงแปร๊ดอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน “โอ๊ย! เราจะกล้าพูดแบบนี้จริงๆหรือ เดี๋ยวเขาตอกกลับมาว่าน่าพิศวาสตายแหละก็อายแย่”
หญิงสาวถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่พลางเหลือบมองนาฬิกา สี่ทุ่มกว่าแล้ว หากอยู่บ้านป่านนี้คงหลับปุ๋ยไปอย่างสบายใจแล้ว นี่ง่วงจะตายก็ต้องถ่างตาคอยระวังตัวเองให้อยู่รอดปลอดภัย
“นึกสภาพไม่ออกเลย ถ้าคุณใหญ่กอด จูบ ซุกไซ้ อี๋! ขนลุก”
ณัฐชาดายกมือป้องปากเมื่อหาวหวอดๆ อย่างคนง่วงจัด เธอรู้ดีว่าเหลือเวลาคิดอีกไม่มากเพราะพิชาภพคงเข้ามานอนในอีกไม่เกินหนึ่งชั่วโมงนี้แน่ๆ
“คิดออกแล้ว!” สาวน้อยยิ้มกว้าง นัยน์ตาซุกซนเมื่อแผนนี้ร้ายสุดๆ ไปเลย จะโดนบีบคอตายไหมนะเรา
ร่างบางรีบก้าวยาวๆ ไปยังหน้าประตูห้องก่อนจะกดล็อคกลอนดังกริ๊ก! เท่านี้ก็เรียบร้อย พิชาภพไม่มีทางเข้ามานอนร่วมห้องกับเธอได้แน่นอน ว่าแต่ว่าเขาจะนอนที่ไหนกันเล่า อาจะเป็นอย่างในทีวีก็ได้ เขาคงไปนอนที่โซฟารับแขก แล้วนางเอกก็ย่องเอาผ้าห่มไปคลุมให้ แต่โทษที เผอิญคนอย่างณัฐชาดาไม่ใช่นางเอกเสียด้วย ดังนั้นสาวน้อยจึงกระโดดขึ้นเตียง ตวัดผ้าห่มผืนหนาคลุมกาย กลิ่นของบุรุษเพศไม่ค่อยคุ้นเคยนัก แต่ก็หอมดีเหมือนกัน
“ฝันดีนะคะคุณใหญ่ ใบบัวง่วงจะตายอยู่แล้ว ขอนอนก่อนแล้วกัน ผ้าห่มอะไรก็หาเอาเองนะ ใบบัวไม่ใจดีเอาไปให้กลางดึกอย่างนางเอกในละครหรอก คิกๆ”
แล้วสาวน้อยก็หลับตาพริ้มลงอย่างสบายอกสบายใจ
ร่างสูงโปร่งก้าวเข้ามาที่หน้าห้องนอนของตัวเองในเวลาห้าทุ่มตรงด้วยเป็นห่วงกลัวเจ้าตัวยุ่งจะรอเข้านอนพร้อมกัน เธอคงไม่เคยนอนดึกดื่นอะไร เดี๋ยวตอนเช้าจะเพลียได้ แต่เมื่อมือหนาเอื้อมไปขยับลูกบิดกลับพบว่าถูกล็อคจากด้านใน ชายหนุ่มจึงเคาะประตูเรียกสองสามครั้ง
“ใบบัว ใบบัวเปิดประตูให้ฉันหน่อย”
เงียบ...
สังหรณ์ใจบางอย่างทำให้หนุ่มใหญ่วัยสามสิบห้าปีถึงกับกัดฟันกรอด
แม่ตัวดี! อย่าคิดว่าจะรอด
ไม่นานนัก พิชาภพก็กลับมายังหน้าห้องนอนของตัวเองอีกครั้งพร้อมกับกุญแจสำรองในมือ เพียงคลิกเดียวก็สามารถเปิดประตูออกได้โดยง่าย
ภายในห้องนอนมีแสงสลัวจากโคมไฟที่หัวเตียงเท่านั้นเผยให้เห็นนวลหน้ากระจ่าง แพขนตางอนงามทาบทาผิวแก้มเมื่อเจ้าตัวหลับตาพริ้ม เขามองตาปรอยเมื่อเห็นหน้าอกอิ่มสะท้อนขึ้นลงตามลมหายใจเข้าออกสม่ำเสมอที่ยืนยันว่าหญิงสาวเข้าสู่ห้วงนิทรารมย์อย่างสบายอกสบายใจ โดยตั้งใจให้เขาต้องระเห็จออกไปนอนข้างนอกห้อง
“แม่ตัวดี!” พิชาภพเอ่ยเรียกเสียงติดจะแค้น นัยน์ตาลุ่มลึกจับจ้องสาวน้อย ก่อนเจ้าตัวจะกระตุกยิ้ม
ร่างสูงย่างสามขุมเข้าไปหาราวสิงโตกำลังปฏิบัติการขย้ำเหยื่ออย่างใจเย็น มือหนาสั่นน้อยๆ อย่างน่าแปลกใจเมื่อเขาเอื้อมไปไล้พวงแก้มนุ่มนิ่มเบาๆ โดยสมมติเอาว่าเป็นทรวงอกอวบที่กำลังสะท้อนล่อตาล่อใจ เขาไม่ชอบลักหลับเสียด้วยสิ ดังนั้นแม่กวางน้อยจึงรอดพ้นเงื้อมมือเจ้าป่าทรงอำนาจไปโดยปริยาย
“ขนาดนี้ยังไม่รู้ตัว นึกหรือว่าแค่นี้จะรอด หึๆ”
เขาเผยรอยยิ้มเล็กๆ อย่างที่ไม่เคยมีใครได้เห็น ก่อนจะละมือออกจากแก้มใส ยืดตัวตรงแล้วพ่นลมหายใจออกมาเบาๆ ฟู่!
เด็กหนอเด็ก! นึกหรือว่ามุกตื้นๆ แบบนี้จะทำให้ตัวเองปลอดภัย หากเขาจะทำอะไรจริงๆ มีหรือที่เธอจะรอดพ้นเงื้อมมือไปได้ แล้วดูสิ! แทนที่จะระวังตัวกลับนอนอย่างสบายใจเฉิบเชียว
แล้วเขาเล่า...รู้สึกอะไรบ้างไหม พิชาภพเฝ้าค้นหาคำตอบ แล้วก็รู้สึกเพียงว่าณัฐชาดาน่ารักน่าเอ็นดูในแบบของเธอ ทำให้หัวใจกระตุกไหวได้เหมือนกัน แต่ไม่แน่ใจว่าใช่ความรักหรือไม่
พิชาภพสลัดความคิดไม่เข้าท่าออกไป แล้วไปอาบน้ำชำระร่างกายให้หอมสดชื่นพอที่จะกลับมานอนเคียงข้างกับสาวน้อยได้ บรรยากาศแปลกใหม่เมื่อไม่ได้นอนเพียงลำพังอีกต่อไป
จะว่ารู้สึกดีก็ใช่...
สาวน้อยลืมตาตื่นขึ้นมาก็บิดแขนขา บิดลำตัวไปมาเพื่อไล่ฉันการเมื่อยขบออกไป เฮ้อ! สบายจัง เมื่อคืนเธอหลับสนิททีเดียวคงเพราะอ่อนเพลียกับความคิดฟุ้งซ่านมาทั้งวัน โชคดีที่ตื่นมาแล้วรู้สึกสดชื่นกับวันใหม่ ว่าแต่นี่มันกี่โมงกี่ยามกันแล้วนะ สายตาเหลือบไปมองนาฬิกาที่ข้างเตียงพบว่าเป็นเวลาเจ็ดโมงครึ่ง เมื่อเลื่อนมามองตรงที่นอนข้างกายก็ต้องหัวเราะคิกคัก
“เมื่อคืนคุณใหญ่จะนอนที่ไหนนะ” หญิงสาวทำหน้าตาสะใจ โดยไม่ได้สังเกตเลยว่าผ้าปูที่นอนข้างๆ มีรอยยับ และหมอนก็มีรอยยุบอยู่
“ช่างเถอะ แฮ่! รอดไปหนึ่งคืนนะเรา เดี๋ยวต้องรีบคิดแผนสองของคืนนี้ต่อ กระชั้นชิดแบบเมื่อคืนไม่เอาแล้ว หัวใจจะวายตาย”
ณัฐชาดาบ่นงึมงำอยู่คนเดียว ก่อนลุกขึ้น บิดขี้เกียจอีกสองสามรอบ พาตัวเองไปหยุดยืนที่หน้าต่างริมระเบียง รูดม่านสีฟ้าน้ำทะเลออกเพียงนิด ท้องฟ้าสีสดใส ปุยเมฆขาวนวลที่ลอยละล่องตรงหน้าทำให้คนมองเผยยิ้มออกมาได้
“บรรยากาศยามเช้าบ้านคุณใหญ่ก็ใช้ได้ทีเดียว หรือเราอารมณ์ดีเพราะเมื่อคืนแผนการสำเร็จกันนะ”
เมื่อมองไปอีกครั้งก็เห็นพิริยะกับรดากำลังเดินไปที่รถยนต์ซึ่งจอดรออยู่ รดาถือเสื้อสูทของสามีเอาไว้ ก่อนสวมใส่ให้ จัดให้เข้าที่เข้าทาง มองแล้วมองอีกจนพอใจ สายตาของรดาดูรักใคร่เต็มเปี่ยม สายตาของพิริยะก็เช่นกัน ทั้งสองคนคงรักกันมากทีเดียว
“อุ๊ย!” สาวน้อยถึงกับยกมือขึ้นมาปิดตาเมื่อพบฉากเลิฟซีนต่อหน้าต่อตา พิริยะก้มลงหอมแก้มภรรยาสาวก่อนไปทำงานด้วย ที่รู้เพราะเธอมองลอดนิ้วที่แอบกางเอาไว้ด้วยความอยากรู้อยากเห็น “มีหอมแก้มกันด้วยเหรอ”
แล้วทฤษฎีความรักที่สาวน้อยเพิ่งค้นพบก็ถูกยืนยันด้วยอีกคู่ เมื่อผู้หมวดชลชญาน์ที่ดูยังไงก็ไม่หวานสมกับเป็นผู้หญิงสักนิดถูกผู้เป็นสามีหอมแก้มตอนเดินไปส่งที่รถยนต์ แถมคู่นี้ยังมีหอมแก้มกลับอีกด้วยต่างหาก
“คนเป็นสามีภรรยากัน เขาต้องทำแบบนี้ด้วยเหรอเนี่ย” ณัฐชาดายังทำตาเบิกโตไม่เลิกรา หัวใจเต้นแรงโดยอัตโนมัติเมื่อคิดถึงตัวเอง “แล้วเราล่ะ ยังไม่แต่งก็เหมือนแต่งแล้วเพราะจดทะเบียนสมรสเป็นเมียคุณใหญ่แล้ว อย่างนี้เราต้องทำอะไรแบบนี้กับเขาไหมนะ”
พรืด!
“เอ๊ะ! เสียงอะไร” หญิงสาวหันขวับไปมองทางด้านหลังเมื่อได้ยินเสียงคล้ายคนหัวเราะ แต่แล้วก็ยักไหล่ เมื่อคิดว่าคงหูฝาดไปเอง เธออยู่คนเดียวจะมีใครมาหัวเราะกันเล่า
“แล้วนี่คุณใหญ่ไปทำงานหรือยังนะ คงไปแล้วล่ะมั้ง ท่าทางเคร่งงานเสียอย่างนั้นอาจจะไปตั้งแต่ตีห้าด้วยซ้ำ ขอโทษทีนะคะคุณใหญ่ ใบบัวตื่นสายไปหน่อยเลยอดหอมแก้มเลย”
ณัฐชาดาพูดเองเออเองอย่างตลกขบขันเสร็จสรรพก็พาตัวเองเดินเข้าไปล้างหน้าแปรงฟันในห้องน้ำอย่างสบายใจ
เมื่อเสียงประตูห้องน้ำถูกปิดลง ร่างสูงโปร่งในชุดทำงานเสื้อเชิ้ตสีเทาก็ก้าวออกมาจากที่ซ่อน ซึ่งคือมุมทางออกนั่นเอง ชายหนุ่มเฝ้ามองแม่สาวน้อยปากคอเลาะร้ายอยู่นานแล้ว คอยดูว่าตื่นขึ้นมาแล้วจะสำนึกผิดบ้างไหมที่ปล่อยให้เขาต้องนอนนอกห้องทั้งคืน ที่ไหนได้ เปล่าเลย แถมยังหัวเราะคิกคักด้วยความสะใจอีกด้วย รู้อย่างนี้แกล้งนอนอยู่บนเตียงนั่นแหละให้ตกใจจนเป็นลมไปเลยก็ดีที่รู้ว่าเมื่อคืนนอนร่วมเตียงกับเขาแล้ว
“ใบบัวนะใบบัว ฉันไม่คิดเลยว่าเราจะแสบถึงขนาดนี้”
ที่ว่าแสบไม่ใช่เพียงเรื่องที่ล็อคกลอนประตูไม่ให้เขาเข้าห้องเท่านั้น ยังมีเรื่องแอบดูน้องชายกับน้องสะใภ้หอมแก้มกันและกันอีกด้วย ไม่เคยเห็นคนแสดงความรักกันหรือยังไง ต่อไปเขาคงต้องสอนให้ช่ำชองเสียหน่อยแล้ว แม่สาวน้อย!
พิชาภพกลับบ้านเร็วผิดปกติจนทุกคนในบ้านต่างมองด้วยความสงสัย เมื่อก่อนกว่าจะกลับก็ราวทุ่มสองทุ่ม เรียกได้ว่าหากตะวันยังไม่ตกดินก็ไม่ยอมย่างกรายออกจากที่ทำงานเด็ดขาด ทว่าวันนี้กลับมาถึงตั้งแต่ห้าโมงเย็น เท่ากับว่าออกจากที่ทำงานประมาณสี่โมงเย็นเท่านั้นเอง ชายหนุ่มไม่ได้ตอบคำถามที่ถูกส่งมาจากสายตาของผู้เป็นบิดาแต่อย่างใด เขาส่งกระเป๋าเอกสารให้เด็กรับใช้ก่อนเดินตรงเข้าไปในห้องครัว รู้ดีว่าเป้าหมายอยู่ที่นั่น แล้วก็พบจริงๆ
“อ้าว! พี่ใหญ่กลับมาเร็วจังเลยคะ” รดาเอ่ยทักด้วยรอยยิ้ม เธอสวมชุดกันเปื้อน กำลังทำอาหารอย่างขะมักเขม้น ทุกคนในบ้านต่างติดใจรสมือของสะใภ้คนเล็กอย่างมาก “พี่ใหญ่หิวหรือเปล่าคะ ทานอะไรรองท้องก่อนไหมคะ เดี๋ยวรดาจัดให้เองค่ะ”
“ไม่เป็นไรครับ ว่าแต่รดาทำอาหารใกล้เสร็จหรือยังครับ”
“ยังเลยค่ะ รดาเพิ่งมาทำเมื่อกี้นี้เอง”
“อย่างนั้นหรือครับ” น้ำเสียงของพิชาภพดูผิดหวังจนคนตอบต้องขมวดคิ้วเรียวสวย
“พี่ใหญ่มีอะไรหรือเปล่าคะ”
“คือพี่มีเรื่องจะรบกวนรดาสักหน่อยนะครับ” เขาเอ่ยอย่างเกรงใจ
“บอกมาได้เลยค่ะ เดี๋ยวรดาให้ป้านวลกับเด็กๆ ทำกันไปก่อนก็ได้เพราะรดาทำของโปรดของคุณเล็กเสร็จแล้ว” เธอยิ้มเขินๆ ทำนองว่าทำของชอบของสามีเสร็จก็ไม่ต้องห่วงคนอื่นแล้ว
“พี่ว่าจะชวนรดาไปห้างสักหน่อยน่ะ”
“ห้าง?” คราวนี้รดายิ่งขมวดคิ้วจนแทบเป็นโบว์ด้วยความสงสัย
“พี่จะชวนรดาไปช่วยเลือกของให้ใบบัวน่ะครับ” พิชาภพบอกไม่ค่อยเต็มปากนัก ยิ่งเห็นรอยยิ้มล้อเลียนของน้องสะใภ้ก็ยิ่งทำหน้าตาไม่ค่อยถูก จะเรียกว่าเขินครั้งแรกของชีวิตก็คงไม่ผิดนัก
“อะไรกันครับ! เมียพี่ใหญ่ก็มี จะมาพาเมียผมไปได้ยังไง” เจ้าของสาวน้อยผู้มีเสน่ห์ปลายจวักก้าวแทรกผ่านผู้เป็นพี่ชายเข้าไปโอบไหล่บอบบางของภรรยาเอาไว้ ท่าทางหวงแหน หน้าตาเอาเรื่องทีเล่นทีจริง
“คุณเล็ก!” รดาตีมือหนาดังเผียะ โทษฐานทำให้เธอเขิน
“ขอยืมตัวแป็บเดียว”
“แล้วทำไมไม่พาใบบัวไปเลือกของเลยล่ะครับ” พิริยะอดแปลกใจไม่ได้ มองอย่างต้องการคำตอบ หวงเมียก็เหตุผลหนึ่ง แต่ไม่เข้าใจว่าทำไมไม่พาไปเลือกของด้วยตัวเองทั้งๆ ที่ณัฐชาดาก็อยู่บ้าน
“นั่นสิคะพี่ใหญ่ พาใบบัวไปเองดีกว่านะคะ อีกอย่างน้องจะได้ไม่เหงาด้วย วันนี้ก็อยู่บ้านทั้งวันแล้วด้วย”
“เอ่อ...คือพี่อยากซื้อของเซอร์ไพร์สเขาน่ะ”
“อ๋อ!” รดาลากเสียงยาวก่อนแซว “แหม! ไม่คิดว่าพี่ใหญ่จะมีมุมโรแมนติกเหมือนกันนะเนี่ย”
“ตกลงรดาไปกับพี่ก็แล้วกันนะ”
“ไม่อนุญาต!”
“คุณเล็ก...ไปแป็บเดียวเองค่ะ” ภรรยาสาวทำเสียงอ้อน
“นี่ฉันรีบกลับมาหารดาเลยนะ คิดถึงจะแย่” พิริยะทำเสียงออดอ้อนบ้าง นับวันๆ เขายิ่งรักรดามากขึ้นเป็นทบทวี ห่างกันแค่วันเดียวก็คิดถึง ดังนั้นชายหนุ่มจึงกลับบ้านตรงเวลาทุกวัน นอกจากมีพบลูกค้าช่วงเย็นนั่นแหละถึงกลับมืดค่ำ
“อย่าให้มันเว่อร์มากไปนะนายเล็ก แค่สองชั่วโมงก็คงกลับแล้ว” พิชาภพนึกรำคาญน้องชาย ประเดี๋ยวยึกยักไปมา ณัฐชาดาก็มาได้ยินเข้าพอดี
“เดี๋ยวพี่ใหญ่ก็เข้าใจผม ห่างกับใบบัวแค่ไม่ถึงวันแล้วจะรู้ว่าความคิดถึงมันมากมายแค่ไหน”
“เถอะน่า วันนี้ยืมตัวเมียนายก่อนก็แล้วกัน”
“แล้วรดาจะรีบกลับมานะคะ”
“ฉันรอทานข้าวนะคนดี”
“ค่ะ” เธอยิ้มหวาน ก่อนหันไปหาพิชาภพ “รดาขอตัวไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเดี๋ยวเดียวนะคะ”
“จ้ะ”
พิชาภพหิ้วข้าวของกลับมาบ้านก็ราวสองทุ่ม จากที่คาดไว้ว่าจะไปแค่สองชั่วโมงกลับยาวนานจนต้องให้รดาโทรศัพท์บอกพิริยะ ด้วยกลัวน้องชายหวงเมียจะโวยวาย เขาเพิ่งรู้เดี๋ยวนี้เองว่าข้าวของของผู้หญิงมันมากมาย แถมยังต้องใช้เวลาในการเลือกสรรนานอีกด้วย ชายหนุ่มซื้อของใช้ที่จำเป็นมาหลายอย่างด้วยสาวน้อยของเขาเอาของส่วนตัวมาเพียงนิดเดียวเท่านั้น นึกฉุนเมื่อคิดเลยไปว่าเธอกะจะอยู่ไม่นานหรืออย่างไร
ร่างสูงหอบหิ้วเต็มสองมือก็เหนื่อยและหนักจะแย่ พอมาถึงห้องก็เจอมุกล็อคกลอนประตูของสาวน้อยตัวดีอีก เขากัดฟันกรอด ครางฮึ่มฮั่มอย่างคาดโทษ โชคดีที่ติดกุญแจสำรองเอาไว้ในกระเป๋าจึงต้องล้วงออกมาไขอย่างยากลำบาก เขานำของทั้งหมดไปวางไว้ แล้วก้าวมาหยุดยืนที่ริมเตียง ทอดตามองคนขี้เซาแล้วยิ้ม
“คนอะไร หลับง่าย ตื่นยาก”
แค่นั้นแล้วก็พาตัวเองไปอาบน้ำอาบท่า ทำเสียงดังแค่ไหนก็ได้โดยไม่ต้องระแวงระวังว่าณัฐชาดาจะตื่นขึ้นมาโวยวาย จนเข้ามาทรุดกายลงนอนเคียงข้าง พิชาภพหันไปมองหญิงสาวที่พลิกกายมาหาพอดี หัวใจเต้นประท้วงความรู้สึกบางอย่าง
ฉันตัดสินใจแล้ว ฉันก็จะดูแลใบบัวอย่างดีที่สุด
พิชาภพบอกตัวเองอย่างนั้น ครั้งนั้นไม่ได้มีใครบังคับว่าเขาจะต้องรักเธอ จะต้องแต่งงานจดทะเบียนสมรสกับเธอ มโนธรรมต้องการเพียงคนดูแลลูกสาวเท่านั้น แรกเขาจะรับดูแลในฐานะน้องสาว แต่บิดาของณัฐชาดากลับไม่ยินยอม ซึ่งน่าแปลกใจ ก็ได้แต่หวังว่าการตัดสินใจของเขาจะไม่ผิดพลาด และหญิงสาวจะไม่ลำบากเพราะการตัดสินใจของเขาเด็ดขาด
//////////////////////////////
น้องใบบัวแสบไม่เบา คอยดูสิ...ว่าคุณใหญ่จะจัดการเด็กแสบยังไง อิอิ
ณัฐชาดาเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดนอนกระโปรงยาวเสมอเข่าสีชมพูลายเรียบ หัวใจเต้นตุ้มๆ ต่อมๆ ไม่หายเมื่อใกล้เวลาที่เธอจะต้องอยู่กับพิชาภพเพียงสองต่อสองในห้องนอน หลังมื้ออาหารชายหนุ่มบอกเธอว่าจะขอทำงานสักครู่ ให้เธอนอนก่อนได้เลย นั่นทำให้สาวน้อยพอมีเวลาคิดหาทางหนีรอดจากเขา แต่จนมาถึงตอนนี้ก็ยังคิดไม่ออกว่าจะทำอย่างไรดี
“คุณใหญ่คะ ใบบัวยังไม่พร้อม” หญิงสาวซักซ้อมที่หน้ากระจก ใบหน้าแดงแปร๊ดอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน “โอ๊ย! เราจะกล้าพูดแบบนี้จริงๆหรือ เดี๋ยวเขาตอกกลับมาว่าน่าพิศวาสตายแหละก็อายแย่”
หญิงสาวถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่พลางเหลือบมองนาฬิกา สี่ทุ่มกว่าแล้ว หากอยู่บ้านป่านนี้คงหลับปุ๋ยไปอย่างสบายใจแล้ว นี่ง่วงจะตายก็ต้องถ่างตาคอยระวังตัวเองให้อยู่รอดปลอดภัย
“นึกสภาพไม่ออกเลย ถ้าคุณใหญ่กอด จูบ ซุกไซ้ อี๋! ขนลุก”
ณัฐชาดายกมือป้องปากเมื่อหาวหวอดๆ อย่างคนง่วงจัด เธอรู้ดีว่าเหลือเวลาคิดอีกไม่มากเพราะพิชาภพคงเข้ามานอนในอีกไม่เกินหนึ่งชั่วโมงนี้แน่ๆ
“คิดออกแล้ว!” สาวน้อยยิ้มกว้าง นัยน์ตาซุกซนเมื่อแผนนี้ร้ายสุดๆ ไปเลย จะโดนบีบคอตายไหมนะเรา
ร่างบางรีบก้าวยาวๆ ไปยังหน้าประตูห้องก่อนจะกดล็อคกลอนดังกริ๊ก! เท่านี้ก็เรียบร้อย พิชาภพไม่มีทางเข้ามานอนร่วมห้องกับเธอได้แน่นอน ว่าแต่ว่าเขาจะนอนที่ไหนกันเล่า อาจะเป็นอย่างในทีวีก็ได้ เขาคงไปนอนที่โซฟารับแขก แล้วนางเอกก็ย่องเอาผ้าห่มไปคลุมให้ แต่โทษที เผอิญคนอย่างณัฐชาดาไม่ใช่นางเอกเสียด้วย ดังนั้นสาวน้อยจึงกระโดดขึ้นเตียง ตวัดผ้าห่มผืนหนาคลุมกาย กลิ่นของบุรุษเพศไม่ค่อยคุ้นเคยนัก แต่ก็หอมดีเหมือนกัน
“ฝันดีนะคะคุณใหญ่ ใบบัวง่วงจะตายอยู่แล้ว ขอนอนก่อนแล้วกัน ผ้าห่มอะไรก็หาเอาเองนะ ใบบัวไม่ใจดีเอาไปให้กลางดึกอย่างนางเอกในละครหรอก คิกๆ”
แล้วสาวน้อยก็หลับตาพริ้มลงอย่างสบายอกสบายใจ
ร่างสูงโปร่งก้าวเข้ามาที่หน้าห้องนอนของตัวเองในเวลาห้าทุ่มตรงด้วยเป็นห่วงกลัวเจ้าตัวยุ่งจะรอเข้านอนพร้อมกัน เธอคงไม่เคยนอนดึกดื่นอะไร เดี๋ยวตอนเช้าจะเพลียได้ แต่เมื่อมือหนาเอื้อมไปขยับลูกบิดกลับพบว่าถูกล็อคจากด้านใน ชายหนุ่มจึงเคาะประตูเรียกสองสามครั้ง
“ใบบัว ใบบัวเปิดประตูให้ฉันหน่อย”
เงียบ...
สังหรณ์ใจบางอย่างทำให้หนุ่มใหญ่วัยสามสิบห้าปีถึงกับกัดฟันกรอด
แม่ตัวดี! อย่าคิดว่าจะรอด
ไม่นานนัก พิชาภพก็กลับมายังหน้าห้องนอนของตัวเองอีกครั้งพร้อมกับกุญแจสำรองในมือ เพียงคลิกเดียวก็สามารถเปิดประตูออกได้โดยง่าย
ภายในห้องนอนมีแสงสลัวจากโคมไฟที่หัวเตียงเท่านั้นเผยให้เห็นนวลหน้ากระจ่าง แพขนตางอนงามทาบทาผิวแก้มเมื่อเจ้าตัวหลับตาพริ้ม เขามองตาปรอยเมื่อเห็นหน้าอกอิ่มสะท้อนขึ้นลงตามลมหายใจเข้าออกสม่ำเสมอที่ยืนยันว่าหญิงสาวเข้าสู่ห้วงนิทรารมย์อย่างสบายอกสบายใจ โดยตั้งใจให้เขาต้องระเห็จออกไปนอนข้างนอกห้อง
“แม่ตัวดี!” พิชาภพเอ่ยเรียกเสียงติดจะแค้น นัยน์ตาลุ่มลึกจับจ้องสาวน้อย ก่อนเจ้าตัวจะกระตุกยิ้ม
ร่างสูงย่างสามขุมเข้าไปหาราวสิงโตกำลังปฏิบัติการขย้ำเหยื่ออย่างใจเย็น มือหนาสั่นน้อยๆ อย่างน่าแปลกใจเมื่อเขาเอื้อมไปไล้พวงแก้มนุ่มนิ่มเบาๆ โดยสมมติเอาว่าเป็นทรวงอกอวบที่กำลังสะท้อนล่อตาล่อใจ เขาไม่ชอบลักหลับเสียด้วยสิ ดังนั้นแม่กวางน้อยจึงรอดพ้นเงื้อมมือเจ้าป่าทรงอำนาจไปโดยปริยาย
“ขนาดนี้ยังไม่รู้ตัว นึกหรือว่าแค่นี้จะรอด หึๆ”
เขาเผยรอยยิ้มเล็กๆ อย่างที่ไม่เคยมีใครได้เห็น ก่อนจะละมือออกจากแก้มใส ยืดตัวตรงแล้วพ่นลมหายใจออกมาเบาๆ ฟู่!
เด็กหนอเด็ก! นึกหรือว่ามุกตื้นๆ แบบนี้จะทำให้ตัวเองปลอดภัย หากเขาจะทำอะไรจริงๆ มีหรือที่เธอจะรอดพ้นเงื้อมมือไปได้ แล้วดูสิ! แทนที่จะระวังตัวกลับนอนอย่างสบายใจเฉิบเชียว
แล้วเขาเล่า...รู้สึกอะไรบ้างไหม พิชาภพเฝ้าค้นหาคำตอบ แล้วก็รู้สึกเพียงว่าณัฐชาดาน่ารักน่าเอ็นดูในแบบของเธอ ทำให้หัวใจกระตุกไหวได้เหมือนกัน แต่ไม่แน่ใจว่าใช่ความรักหรือไม่
พิชาภพสลัดความคิดไม่เข้าท่าออกไป แล้วไปอาบน้ำชำระร่างกายให้หอมสดชื่นพอที่จะกลับมานอนเคียงข้างกับสาวน้อยได้ บรรยากาศแปลกใหม่เมื่อไม่ได้นอนเพียงลำพังอีกต่อไป
จะว่ารู้สึกดีก็ใช่...
สาวน้อยลืมตาตื่นขึ้นมาก็บิดแขนขา บิดลำตัวไปมาเพื่อไล่ฉันการเมื่อยขบออกไป เฮ้อ! สบายจัง เมื่อคืนเธอหลับสนิททีเดียวคงเพราะอ่อนเพลียกับความคิดฟุ้งซ่านมาทั้งวัน โชคดีที่ตื่นมาแล้วรู้สึกสดชื่นกับวันใหม่ ว่าแต่นี่มันกี่โมงกี่ยามกันแล้วนะ สายตาเหลือบไปมองนาฬิกาที่ข้างเตียงพบว่าเป็นเวลาเจ็ดโมงครึ่ง เมื่อเลื่อนมามองตรงที่นอนข้างกายก็ต้องหัวเราะคิกคัก
“เมื่อคืนคุณใหญ่จะนอนที่ไหนนะ” หญิงสาวทำหน้าตาสะใจ โดยไม่ได้สังเกตเลยว่าผ้าปูที่นอนข้างๆ มีรอยยับ และหมอนก็มีรอยยุบอยู่
“ช่างเถอะ แฮ่! รอดไปหนึ่งคืนนะเรา เดี๋ยวต้องรีบคิดแผนสองของคืนนี้ต่อ กระชั้นชิดแบบเมื่อคืนไม่เอาแล้ว หัวใจจะวายตาย”
ณัฐชาดาบ่นงึมงำอยู่คนเดียว ก่อนลุกขึ้น บิดขี้เกียจอีกสองสามรอบ พาตัวเองไปหยุดยืนที่หน้าต่างริมระเบียง รูดม่านสีฟ้าน้ำทะเลออกเพียงนิด ท้องฟ้าสีสดใส ปุยเมฆขาวนวลที่ลอยละล่องตรงหน้าทำให้คนมองเผยยิ้มออกมาได้
“บรรยากาศยามเช้าบ้านคุณใหญ่ก็ใช้ได้ทีเดียว หรือเราอารมณ์ดีเพราะเมื่อคืนแผนการสำเร็จกันนะ”
เมื่อมองไปอีกครั้งก็เห็นพิริยะกับรดากำลังเดินไปที่รถยนต์ซึ่งจอดรออยู่ รดาถือเสื้อสูทของสามีเอาไว้ ก่อนสวมใส่ให้ จัดให้เข้าที่เข้าทาง มองแล้วมองอีกจนพอใจ สายตาของรดาดูรักใคร่เต็มเปี่ยม สายตาของพิริยะก็เช่นกัน ทั้งสองคนคงรักกันมากทีเดียว
“อุ๊ย!” สาวน้อยถึงกับยกมือขึ้นมาปิดตาเมื่อพบฉากเลิฟซีนต่อหน้าต่อตา พิริยะก้มลงหอมแก้มภรรยาสาวก่อนไปทำงานด้วย ที่รู้เพราะเธอมองลอดนิ้วที่แอบกางเอาไว้ด้วยความอยากรู้อยากเห็น “มีหอมแก้มกันด้วยเหรอ”
แล้วทฤษฎีความรักที่สาวน้อยเพิ่งค้นพบก็ถูกยืนยันด้วยอีกคู่ เมื่อผู้หมวดชลชญาน์ที่ดูยังไงก็ไม่หวานสมกับเป็นผู้หญิงสักนิดถูกผู้เป็นสามีหอมแก้มตอนเดินไปส่งที่รถยนต์ แถมคู่นี้ยังมีหอมแก้มกลับอีกด้วยต่างหาก
“คนเป็นสามีภรรยากัน เขาต้องทำแบบนี้ด้วยเหรอเนี่ย” ณัฐชาดายังทำตาเบิกโตไม่เลิกรา หัวใจเต้นแรงโดยอัตโนมัติเมื่อคิดถึงตัวเอง “แล้วเราล่ะ ยังไม่แต่งก็เหมือนแต่งแล้วเพราะจดทะเบียนสมรสเป็นเมียคุณใหญ่แล้ว อย่างนี้เราต้องทำอะไรแบบนี้กับเขาไหมนะ”
พรืด!
“เอ๊ะ! เสียงอะไร” หญิงสาวหันขวับไปมองทางด้านหลังเมื่อได้ยินเสียงคล้ายคนหัวเราะ แต่แล้วก็ยักไหล่ เมื่อคิดว่าคงหูฝาดไปเอง เธออยู่คนเดียวจะมีใครมาหัวเราะกันเล่า
“แล้วนี่คุณใหญ่ไปทำงานหรือยังนะ คงไปแล้วล่ะมั้ง ท่าทางเคร่งงานเสียอย่างนั้นอาจจะไปตั้งแต่ตีห้าด้วยซ้ำ ขอโทษทีนะคะคุณใหญ่ ใบบัวตื่นสายไปหน่อยเลยอดหอมแก้มเลย”
ณัฐชาดาพูดเองเออเองอย่างตลกขบขันเสร็จสรรพก็พาตัวเองเดินเข้าไปล้างหน้าแปรงฟันในห้องน้ำอย่างสบายใจ
เมื่อเสียงประตูห้องน้ำถูกปิดลง ร่างสูงโปร่งในชุดทำงานเสื้อเชิ้ตสีเทาก็ก้าวออกมาจากที่ซ่อน ซึ่งคือมุมทางออกนั่นเอง ชายหนุ่มเฝ้ามองแม่สาวน้อยปากคอเลาะร้ายอยู่นานแล้ว คอยดูว่าตื่นขึ้นมาแล้วจะสำนึกผิดบ้างไหมที่ปล่อยให้เขาต้องนอนนอกห้องทั้งคืน ที่ไหนได้ เปล่าเลย แถมยังหัวเราะคิกคักด้วยความสะใจอีกด้วย รู้อย่างนี้แกล้งนอนอยู่บนเตียงนั่นแหละให้ตกใจจนเป็นลมไปเลยก็ดีที่รู้ว่าเมื่อคืนนอนร่วมเตียงกับเขาแล้ว
“ใบบัวนะใบบัว ฉันไม่คิดเลยว่าเราจะแสบถึงขนาดนี้”
ที่ว่าแสบไม่ใช่เพียงเรื่องที่ล็อคกลอนประตูไม่ให้เขาเข้าห้องเท่านั้น ยังมีเรื่องแอบดูน้องชายกับน้องสะใภ้หอมแก้มกันและกันอีกด้วย ไม่เคยเห็นคนแสดงความรักกันหรือยังไง ต่อไปเขาคงต้องสอนให้ช่ำชองเสียหน่อยแล้ว แม่สาวน้อย!
พิชาภพกลับบ้านเร็วผิดปกติจนทุกคนในบ้านต่างมองด้วยความสงสัย เมื่อก่อนกว่าจะกลับก็ราวทุ่มสองทุ่ม เรียกได้ว่าหากตะวันยังไม่ตกดินก็ไม่ยอมย่างกรายออกจากที่ทำงานเด็ดขาด ทว่าวันนี้กลับมาถึงตั้งแต่ห้าโมงเย็น เท่ากับว่าออกจากที่ทำงานประมาณสี่โมงเย็นเท่านั้นเอง ชายหนุ่มไม่ได้ตอบคำถามที่ถูกส่งมาจากสายตาของผู้เป็นบิดาแต่อย่างใด เขาส่งกระเป๋าเอกสารให้เด็กรับใช้ก่อนเดินตรงเข้าไปในห้องครัว รู้ดีว่าเป้าหมายอยู่ที่นั่น แล้วก็พบจริงๆ
“อ้าว! พี่ใหญ่กลับมาเร็วจังเลยคะ” รดาเอ่ยทักด้วยรอยยิ้ม เธอสวมชุดกันเปื้อน กำลังทำอาหารอย่างขะมักเขม้น ทุกคนในบ้านต่างติดใจรสมือของสะใภ้คนเล็กอย่างมาก “พี่ใหญ่หิวหรือเปล่าคะ ทานอะไรรองท้องก่อนไหมคะ เดี๋ยวรดาจัดให้เองค่ะ”
“ไม่เป็นไรครับ ว่าแต่รดาทำอาหารใกล้เสร็จหรือยังครับ”
“ยังเลยค่ะ รดาเพิ่งมาทำเมื่อกี้นี้เอง”
“อย่างนั้นหรือครับ” น้ำเสียงของพิชาภพดูผิดหวังจนคนตอบต้องขมวดคิ้วเรียวสวย
“พี่ใหญ่มีอะไรหรือเปล่าคะ”
“คือพี่มีเรื่องจะรบกวนรดาสักหน่อยนะครับ” เขาเอ่ยอย่างเกรงใจ
“บอกมาได้เลยค่ะ เดี๋ยวรดาให้ป้านวลกับเด็กๆ ทำกันไปก่อนก็ได้เพราะรดาทำของโปรดของคุณเล็กเสร็จแล้ว” เธอยิ้มเขินๆ ทำนองว่าทำของชอบของสามีเสร็จก็ไม่ต้องห่วงคนอื่นแล้ว
“พี่ว่าจะชวนรดาไปห้างสักหน่อยน่ะ”
“ห้าง?” คราวนี้รดายิ่งขมวดคิ้วจนแทบเป็นโบว์ด้วยความสงสัย
“พี่จะชวนรดาไปช่วยเลือกของให้ใบบัวน่ะครับ” พิชาภพบอกไม่ค่อยเต็มปากนัก ยิ่งเห็นรอยยิ้มล้อเลียนของน้องสะใภ้ก็ยิ่งทำหน้าตาไม่ค่อยถูก จะเรียกว่าเขินครั้งแรกของชีวิตก็คงไม่ผิดนัก
“อะไรกันครับ! เมียพี่ใหญ่ก็มี จะมาพาเมียผมไปได้ยังไง” เจ้าของสาวน้อยผู้มีเสน่ห์ปลายจวักก้าวแทรกผ่านผู้เป็นพี่ชายเข้าไปโอบไหล่บอบบางของภรรยาเอาไว้ ท่าทางหวงแหน หน้าตาเอาเรื่องทีเล่นทีจริง
“คุณเล็ก!” รดาตีมือหนาดังเผียะ โทษฐานทำให้เธอเขิน
“ขอยืมตัวแป็บเดียว”
“แล้วทำไมไม่พาใบบัวไปเลือกของเลยล่ะครับ” พิริยะอดแปลกใจไม่ได้ มองอย่างต้องการคำตอบ หวงเมียก็เหตุผลหนึ่ง แต่ไม่เข้าใจว่าทำไมไม่พาไปเลือกของด้วยตัวเองทั้งๆ ที่ณัฐชาดาก็อยู่บ้าน
“นั่นสิคะพี่ใหญ่ พาใบบัวไปเองดีกว่านะคะ อีกอย่างน้องจะได้ไม่เหงาด้วย วันนี้ก็อยู่บ้านทั้งวันแล้วด้วย”
“เอ่อ...คือพี่อยากซื้อของเซอร์ไพร์สเขาน่ะ”
“อ๋อ!” รดาลากเสียงยาวก่อนแซว “แหม! ไม่คิดว่าพี่ใหญ่จะมีมุมโรแมนติกเหมือนกันนะเนี่ย”
“ตกลงรดาไปกับพี่ก็แล้วกันนะ”
“ไม่อนุญาต!”
“คุณเล็ก...ไปแป็บเดียวเองค่ะ” ภรรยาสาวทำเสียงอ้อน
“นี่ฉันรีบกลับมาหารดาเลยนะ คิดถึงจะแย่” พิริยะทำเสียงออดอ้อนบ้าง นับวันๆ เขายิ่งรักรดามากขึ้นเป็นทบทวี ห่างกันแค่วันเดียวก็คิดถึง ดังนั้นชายหนุ่มจึงกลับบ้านตรงเวลาทุกวัน นอกจากมีพบลูกค้าช่วงเย็นนั่นแหละถึงกลับมืดค่ำ
“อย่าให้มันเว่อร์มากไปนะนายเล็ก แค่สองชั่วโมงก็คงกลับแล้ว” พิชาภพนึกรำคาญน้องชาย ประเดี๋ยวยึกยักไปมา ณัฐชาดาก็มาได้ยินเข้าพอดี
“เดี๋ยวพี่ใหญ่ก็เข้าใจผม ห่างกับใบบัวแค่ไม่ถึงวันแล้วจะรู้ว่าความคิดถึงมันมากมายแค่ไหน”
“เถอะน่า วันนี้ยืมตัวเมียนายก่อนก็แล้วกัน”
“แล้วรดาจะรีบกลับมานะคะ”
“ฉันรอทานข้าวนะคนดี”
“ค่ะ” เธอยิ้มหวาน ก่อนหันไปหาพิชาภพ “รดาขอตัวไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเดี๋ยวเดียวนะคะ”
“จ้ะ”
พิชาภพหิ้วข้าวของกลับมาบ้านก็ราวสองทุ่ม จากที่คาดไว้ว่าจะไปแค่สองชั่วโมงกลับยาวนานจนต้องให้รดาโทรศัพท์บอกพิริยะ ด้วยกลัวน้องชายหวงเมียจะโวยวาย เขาเพิ่งรู้เดี๋ยวนี้เองว่าข้าวของของผู้หญิงมันมากมาย แถมยังต้องใช้เวลาในการเลือกสรรนานอีกด้วย ชายหนุ่มซื้อของใช้ที่จำเป็นมาหลายอย่างด้วยสาวน้อยของเขาเอาของส่วนตัวมาเพียงนิดเดียวเท่านั้น นึกฉุนเมื่อคิดเลยไปว่าเธอกะจะอยู่ไม่นานหรืออย่างไร
ร่างสูงหอบหิ้วเต็มสองมือก็เหนื่อยและหนักจะแย่ พอมาถึงห้องก็เจอมุกล็อคกลอนประตูของสาวน้อยตัวดีอีก เขากัดฟันกรอด ครางฮึ่มฮั่มอย่างคาดโทษ โชคดีที่ติดกุญแจสำรองเอาไว้ในกระเป๋าจึงต้องล้วงออกมาไขอย่างยากลำบาก เขานำของทั้งหมดไปวางไว้ แล้วก้าวมาหยุดยืนที่ริมเตียง ทอดตามองคนขี้เซาแล้วยิ้ม
“คนอะไร หลับง่าย ตื่นยาก”
แค่นั้นแล้วก็พาตัวเองไปอาบน้ำอาบท่า ทำเสียงดังแค่ไหนก็ได้โดยไม่ต้องระแวงระวังว่าณัฐชาดาจะตื่นขึ้นมาโวยวาย จนเข้ามาทรุดกายลงนอนเคียงข้าง พิชาภพหันไปมองหญิงสาวที่พลิกกายมาหาพอดี หัวใจเต้นประท้วงความรู้สึกบางอย่าง
ฉันตัดสินใจแล้ว ฉันก็จะดูแลใบบัวอย่างดีที่สุด
พิชาภพบอกตัวเองอย่างนั้น ครั้งนั้นไม่ได้มีใครบังคับว่าเขาจะต้องรักเธอ จะต้องแต่งงานจดทะเบียนสมรสกับเธอ มโนธรรมต้องการเพียงคนดูแลลูกสาวเท่านั้น แรกเขาจะรับดูแลในฐานะน้องสาว แต่บิดาของณัฐชาดากลับไม่ยินยอม ซึ่งน่าแปลกใจ ก็ได้แต่หวังว่าการตัดสินใจของเขาจะไม่ผิดพลาด และหญิงสาวจะไม่ลำบากเพราะการตัดสินใจของเขาเด็ดขาด
//////////////////////////////
น้องใบบัวแสบไม่เบา คอยดูสิ...ว่าคุณใหญ่จะจัดการเด็กแสบยังไง อิอิ

เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 12 ธ.ค. 2557, 20:09:22 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 12 ธ.ค. 2557, 20:09:22 น.
จำนวนการเข้าชม : 2014
<< บทที่ 1 ชีวิตแต่งงานวันแรก 2 | บทที่ 2 คืนแรก 2 >> |

โอชิน 12 ธ.ค. 2557, 21:06:58 น.
นางเอกเธอบ๊องแต่น่ารักค่ะ
นางเอกเธอบ๊องแต่น่ารักค่ะ

agentaja 12 ธ.ค. 2557, 22:01:33 น.
รอดูตอนเซอรไพรส
รอดูตอนเซอรไพรส
