ห่างไกลเหลือเกิน
ภาคภูมิและจริงใจ สองเพื่อนรักที่กลายมาเป็นคนรักกันในที่สุด
จะเป็นอย่างไร เมื่อจริงใจอยากได้เพื่อนรักของเธอกลับคืน
พบกับความรักของคนสองคนที่แม้จะอยู่ใกล้กัน แต่ก็เหมือนไกลออกไปทุกที

ห่างไกลเหลือเกิน

Tags: เพื่อนสนิท เพื่อนรัก รัก

ตอน: ตอนที่ 4

“ฉันบอกแล้วใช่มั้ยว่าคอนเส็ปนี้มันไม่ผ่านตั้งแต่แรก ทำไมถึงยังเสนออันนี้ขึ้นมาอีก!!!”

เสียงจริงใจดังลั่นออกมานอกห้อง เรียกเสียงฮือฮาให้กับบริษัทได้แต่หัววัน แต่เธอไม่สนใจ ตอนนี้เธอรู้สึกโกรธจนอยากจะเหวี่ยงคนตรงหน้า ขึ้นไปให้สูงจนติดเพดาน

“หรือว่าเธอ… ฟังภาษาคนไม่รู้เรื่อง ถึงทำงานซ้ำไปซ้ำมาแบบนี้” จริงใจหรี่ตาอย่างน่ากลัว

คนตรงหน้ายังคงนิ่ง มีเพียงน้ำตาที่ยังเคลียคลออยู่ที่เบ้า แลดูน่าสงสาร แต่จะไม่ให้เธอโมโหได้อย่างไร งานที่ถูกสั่งไว้เกินสัปดาห์ ยังไม่เสร็จสักที ทั้งๆที่อีกสองวัน ก็ต้องเอาคอนเส็ปไปขายลูกค้าแล้วแต่นี่ยังไม่มีอะไรเสร็จสักอย่าง แถมพนักงานตรงหน้า ยังเอาคอนเส็ปเดิมที่ถูกตีกลับไปแล้ว เอามาส่งใหม่ให้ดูอีก ตัว presentation ก็ยังไม่ได้เริ่มทำ วุ่นวายกันไปหมด

“ฉันต้องการคอนเส็ปใหม่ ภายในเย็นนี้!!! รีบไปจัดการเดี๋ยวนี้เลย! ถ้าทำไม่ได้ ก็เก็บของออกไปให้หมด...ยกทีมนั่นแหละ!”

เธอกล่าวอย่างเลือดเย็น พนักงานตัวน้อยๆ ผงกหัวรับแฟ้มกลับคืนไปอย่างหวาดกลัว แล้วตาลีตาเหลือกออกไป

เธอเอนเบาะหลับตาสักพัก หลังจากผ่านปัญหาการงานที่ยังแก้ไม่ตก เสียงปลอบปะโลมเพื่อนพนักงานหลายคนดังเล็ดลอดเข้ามา ทำให้เดาได้ไม่ยาก ตอนนี้เธอกลายเป็น 'เจ๊โหด' สำหรับใครหลายๆคนในบริษัทนี้อย่างถอนตัวไม่ขึ้นเสียแล้ว

จริงใจ มีอีกชื่อหนึ่งที่รู้จักกันดีในหมู่พนักงานบริษัทคนอื่นๆว่า 'เจ๊โหด' เพราะเธอโหดมาตั้งแต่ไหนแต่ไร งานทุกงานที่ผ่านเข้ามาไม่ใช่แค่ว่าต้องดี หรือ ดีมาก แต่ต้อง 'ดีเยี่ยม' ดังนั้นหากทีมไหนที่บังเอิญ ดันต้องมาร่วมงานกับเธอเข้า ก็มีอันต้องเข็ดขยาดกันไปทั้งนั้น ลำพัง งานหนักก็ยังพอจะทนกันได้ งานออกมาดี คนทำก็ดีใจ แต่พอต้องมานั่งฟังคำพูดขวานผ่าซาก คำวิจารณ์ที่ตรงไปตรงมา แรงจิก แรงกัด แรงกดดันที่รับมา ส่วนใหญ่ก็ฟันธงว่าไม่คุ้ม ทนไม่ค่อยไหว คนในทีมจึงไม่ค่อยมีใครอยากร่วมงานกับเธอนัก ในบริษัทแห่งนี้ ก็เห็นจะมีคนอยู่คนเดียวเนี่ยแหละที่ยอมไปกินข้าวกับเธอได้ และเป็นคนเดียวที่มีอิทธิพลมากพอ ที่จะทำให้ทุกคนยอมเออออไปกับจริงใจได้บ้าง

"ไง ยัยเจ๊โหด ... ไปทำอะไรยัยนกเข้าละ ร้องไห้ขี้มูกโป่งกลับโต๊ะไปนู่นแล้ว"

ยิ้ม เพื่อนคนเดียวในบริษัทเดินก้าวเข้ามาราวกับจะเยาะเย้ย

"พูดบ้าๆ! เจ๊โหดอะไรของแก? แค่นี้ก็ไม่มีใครอยากทำงานกับฉันแล้ว แกยังจะมาปั่นอีก"
"เอ้า!!! ก็แกโหดจริงๆนี่หว่า นี่ถ้าฉันไม่ใช่เจ้านายแก ไม่ใช่เจ้าของบริษัท แกก็คงจะโหดกับฉัน ไม่ต่างจากน้องนก น้องกาพวกนั้น"
"งั้นก็ขอบคุณพ่อแม่แกได้เลยนะ ที่ลงทุนเปิดบริษัทนี้ให้ เพราะถ้าแกเป็นพนักงานธรรมดาพวกนั้น แกจะต้องโดนฉันฟาดเหมือนกัน ที่เล่นมาทำงานสายขนาดนี้"
"นี่! จริงใจ.. ฉันจ้างแกมาทำงานให้ฉันนะ ไม่ได้ให้มาเป็นแม่!!! เลิกบ่นได้แล้ว! บ่นตั้งแต่มหาลัย ยันมาจนป่านนี้ แกนี่ไม่คิดจะเลิกเลยเหรอไง?"
"ไม่เลิก! แกไม่มีสิทธิมาว่าฉันนะ แกเป็นขอร้องให้ฉันมาทำงานกับแกเอง อย่าลืม!!"
"โอเค อะโอเค เถียงกันไปถึงชาติหน้าฉันก็แพ้อยู่ดี ฉันให้้แกชนะไปเลย เห็นว่าวันนี้เป็นวันเกิดหรอกนะ ฉันถึงได้ยอม"
"วันเกิด?"
"ก็ใช่นะสิ วันเกิด... อย่าบอกนะ ว่าแกลืมวันเกิดตัวเอง?"
จริงใจชะงักไป แล้วรีบคว้าปฏิทินมาดู
ใช่แล้ว ... วันนี้วันเกิดครบ 25 ปีของเธอ พอดิบพอดี เธอลืมไปเสียสนิท
"โอ๊ยยยย ... ฉันคงใช้งานแกหนักไป ถึงขนาดเลอะเลือนลืมแม้กระทั้งวันเกิดตัวเอง สงสัยฉันต้องเอากระเช้าไปขอขมาป้าติ๋มกับคุณลุงหน่อยแล้ว โทษฐานใช้งานแกหนักเกินไป"
"อย่าบ้าน่า แกก็พูดเล่นไปเรื่อย"
" โอเคๆ เลิกเล่นละ รีบๆมาเก็บของเลยดีกว่า ไปกินข้าวกัน ออกก่อนพักเที่ยงนิดหน่อยคงไม่เปนไร ดีซะอีก... ปล่อยให้ลูกน้องมันหายใจหายคอบ้าง เจ้านายหายไปสองคนคงทำให้หายใจกันสะดวกขึ้น" ยิ้มกล่าวอย่างอารมณ์ดี พร้อมพยักเพยิดให้ดูลูกน้องที่บัดนี้รวมตัวกันปลอบประโลม น้องนก คนที่โดนเธอแหวซะจนน้ำมูกน้ำตาไหล

บอกตรงๆเธอหนักใจ เธอก็ไม่ได้อยากโหดกับใครๆ แต่ถ้าไม่โหด งานก็ไม่เคยเดินเลย

"ไปกินข้าวก็ดีเหมือนกัน ฉันก็เซ็งๆ กลับมาไม่รู้ว่ายัยน้องนกของแกจะมีคอนเส็ปมาส่งฉันรึเปล่า ดูท่าทางแล้ว คืนนี้คงจะยาว" เธอบ่น พร้อมเก็บของบนโต๊ะอย่างลวกๆ ยิ้มหัวเราะแห้งๆ เพราะรู้ดีว่าจริงใจทุ่มเทให้บริษัทของเธออย่างมากมาย จนบางครั้งเธอก็อดเกรงใจไม่ได้

ยิ้มเป็นเพื่อนสมัยมหาวิทยาลัยของจริงใจ เธอเป็นเด็กมีอันจะกิน จึงมีต้นทุนเยอะกว่าคนอื่นๆเค้า พอเรียนจบมา พ่อแม่ก็เปิดบริษัท event เล็กๆไว้ให้คอยดูแลจัดการ อนิสงข์จึงตกมาที่เพื่อนสนิทอย่างเธอ ด้วยความที่สนิทกัน และอย่างที่ใครๆก็รู้ว่าจริงใจทำงานเก่ง ยิ้มจึงชวนจริงใจมาทำงานด้วยกันอย่างไม่ลังเล

ยิ้มเป็นเจ้านายที่ทุกคนรัก เธอเป็นกันเองและสดใส ใจดี ต่างกับจริงใจ ที่เคร่งขรึมและ ดูเหมือนจะตึงเครียดเกินไปตลอดเวลา ดังนั้นหากบริษัทต้องแบ่งโปรเจคกันทำ ทีมไหนที่ได้ยิ้มไปเป็นหัวหน้าโปรเจค ทีมนั้นจะดีใจออกนอกหน้า ต่างกับทีมที่ได้จริงใจ ที่หน้าจะอมทุกข์จนเป็นที่สังเกตุได้

ต้องยอมรับ สถานการณ์ของจริงใจในบริษัทตอนนี้ไม่ค่อยดีเลย ... เธอไม่ได้เป็นที่รักของใครนัก

"ฉันว่าแกโหดให้น้อยลงกว่านี้หน่อยเหอะวะ" ยิ้มพูดกลางโต๊ะอาหาร สำเนียงและท่าทางดูจริงจังขึ้น
"ทำไมวะ" จริงใจสงสัยกับคำเตือนไม่น้อย เธอเป็นของเธออย่างนี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไร ยิ้มรู้ดี
"ก็ ... มีพนักงานหลายคนเขามาบอก ว่าบางครั้งเขาก็ไม่ไหว" ยิ้มกล่าว
"เขาบอกทำงานกับแกแล้วมันเครียดไปหน่อย"
... ความอยากอาหารของจริงใจหดหาย ...
"เครียด? ... การทำงานมันก็ต้องเครียดรึเปล่าวะ?" เธอตอบ ไม่ใช่การแก้ตัว แต่นี่คือความคิดของเธอจริงๆ ก็เพราะมัวแต่ชิวไม่ใช่เหรอ งานจึงไม่เดิน
"มันก็ใช่... แต่แกก็เบาเบาลงหน่อยเถอะวะ นะ... คนทำงานบางครั้งเราก็ต้องใช้ไม้อ่อนบ้าง ใช้แต่ไม้แข็งลูบเดี๋ยวนี้ไม่มีใครทนหรอก งานมีรออยู่ข้างหน้าเยอะแยะ เขาไปตายกันเอาดาบหน้าก็ได้ ส่วนใหญ่เราก็รับแต่เด็กจบใหม่ ไม่มีใครทนมือทนไม้เราได้ขนาดนั้นหรอก" ยิ้มยังคงหยิบยื่นเหตุผลเข้าใส่
"ไม่!! ฉันไม่เปลี่ยน แกก็รู้ ฉันเกลียดที่สุด พวกเหยาะแหยะ อ่อนแอ ไม่มีความอดทน ทำอะไรครึ่งๆกลางๆ แล้วแกจะให้ฉันทนเห็นพวกมันทำงานออกมาชุ่ยๆงั้นเหรอ ฉันทำไม่ได้หรอก"
"แต่ว่า..."
"นี่!... ถ้าแกไม่เห็นด้วยกับวิธีการทำงานของฉันบอกมาตรงๆก็ได้ ไม่ต้องอ้อมค้อม ฉันจะได้ไปหางานใหม่"
"เอ้ยยย .. ไปกันใหญ่แล้วแก ฉันไม่ได้พูดอย่างนั้นเลย"
จริงใจนิ่ง ไม่ตอบ ยิ้มที่เห็นอย่างนั้นก็ได้แต่ถอนใจ
"เฮ้อออ ... เอาเถอะ เอาไงก็เอา แกนี่มันขี้งอนตามเคย"
"ฉันไม่ได้งอน ..."
"โอเค ไม่ได้งอนก็ไม่ได้งอนโอเคปะ ฉันผิดไปแล้ว กินข้าวกันต่อเถอะนะ" ยิ้มรีบสงบปากสงบคำทันที เมื่อเห็นเพื่อนสนิทตั้งท่าจะด่าต่อ เธอไม่อยากให้อาหารเลี้ยงฉลองวันเกิดจริงใจวันนี้หมดอร่อย


จริงๆยิ้มไม่ได้มีปัญหาอะไรกับเรื่องนี้เท่าไหร่ เพราะเธอรู้ว่าเพื่อนเธอทำเคร่งเครียดไป เพื่อให้งานออกมาดีที่สุด หากใครได้มาสนิทกับจริงใจก็จะรู้เลย ว่าจริงใจไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด แต่สำหรับพนักงานคนอื่นๆ กลับไม่คิดอย่างนั้น จริงใจเป็นปัญหาใหญ่พอดู สำหรับทุกคน

"เออ! ไอวินเป็นไงมั่ง ปีนี้แกได้เค้กจากมันรึเปล่า?" ยิ้มเสเปลี่ยนเรื่องทันทีทันใดอย่างคนพึ่งนึกได้ สมัยก่อนพอถึงวันเกิดของจริงใจทีไร วินมักจะหิ้วเค้กที่ทำเองมาให้เพื่อนคนนี้ของเธอเป็นประจำทุกปี แต่ปีสองปีมานี้คงจะทำไม่ได้เพราะอยู่ไกลกัน

"มันจะเป็นได้ได้ยังไง อยู่กันคนละซีกโลกขนาดนั้น" จริงใจตอบอย่างไม่คาดหวัง ถ้านับรวมปีนี้ เธอก็ไม่ได้เค้กของวินมาสองปีแล้ว

"มันเป็นไงมั่งวะ? ฉันก็ไม่ได้คุยกับมันเลย หลังจากแกหย่ากับมัน มีติดต่อคุยกันบ้างรึเปล่า?" ยิ้มถามอย่างอยากรู้อยากเห็น เธอรู้ดีความสัมพันธ์ของสองคนนี้มันซับซ้อน

"ก็... คุยเหมือนเดิมนั่นแหละ สวนใหญ่คุยกันในไลน์ตลอด" จริงใจกล่าว

"ตอนนั้นฉันก็ใจหายใจคว่ำ คิดว่ามันจะโกรธไม่ยอมคุยกับแกอีกเลย"

ไม่ใช่แค่ยิ้มหรอกที่ใจหายใจคว่ำ จริงใจคิด เมื่อนึกย้อนไปถึงตอนนั้น ใจเธอก็คว่ำไปเสียหลายครั้ง ภาคภูมิเหมือนจะขาดการติดต่อไปเลย ราวกับว่า เขาไม่อยากจะเป็นเพื่อนกับเธอแล้วด้วยซ้ำ หนทางเดียวที่จริงใจนึกออก คือส่งของไปง้อ ส่งไปให้โดยที่ไม่รู้ว่าเจ้าตัวจะได้รับรึเปล่า

และดูเหมือนว่าแผนเธอจะสำเร็จ วินติดต่อเธอกลับมา และยอมกลับมาเป็นเพื่อนกับเธอในที่สุด

"เผลอแป๊ปเดียวก็เร็วเหมือนกันนะ แกกับมันหย่ากันเกือบจะสองปีแล้ว" ยิ้มพูดขึ้น เมื่อเห็นเพื่อนเงียบไปนาน เรื่องของจริงใจกับภาคภูมิ ยิ้มรู้ดีทีเดียว

"ไม่รู้ป่านนี้มีเมียแหม่มไปรึยัง?" ยิ้มลอบถามเพื่อนสาวด้วยสายตาเจ้าเล่ห์ แอบเหล่มองดูปฏิกริยาของเพื่อน ว่าจะมีอาการอย่างไรบ้าง แต่จริงใจไม่ตกหลุมพรางนั้น เธอยักไหล่นิดหน่อยอย่างไม่สนใจ แล้วกินข้าวต่อ

"ไม่รู้เลยวะ อาจจะมี หรืออาจจะไม่มี" จริงใจตอบแบบดูเหมือนว่าจะไม่สนใจอะไร จนดูไม่สนใจ เกินไป มันทำให้ยิ้มอดขำไม่ได้

'ทีเรื่องอย่างนี้ดันปากไม่เคยตรงกับใจ ที่จริงก็อยากรู้ใจจะขาดละสิ' ยิ้มคิด

"มันจะมีรึเปล่าเนี่ย ฉันไม่รู้ แต่แกอะ มีพวกลองของมายืนรอต่อแถวกันยาวเฟื้อย ฉันไม่เห็นแกจะสนใจใครสักคนเลย" ยิ้มแหย่ต่อไปเล็กๆ เพราะเห็นเป็นเรื่องสนุกเมื่อได้เห็นอากัปกริยานิ่งเฉยเกินปกติของจริงใจ เธอจึงแกล้งต่อไป

...

ได้ผล..

จริงใจหน้างอเพราะรู้ว่าเพื่อนกำลังกวนประสาท เธอถลึงตาใส่พร้อมกล่าวอย่างคาดโทษ

"ก็เพราะแกไม่ใช่เหรอไง? เที่ยวเป็นแม่สื่อแม่ชักให้คนนั้นคนนี้อยู่ได้ ระวังเหอะ สักวันแกจะเจออย่างฉัน!!!"
"อย่างไหน?"
"ก็อย่างพวกผู้ชายที่แกหามาให้ฉันไง!! คนนึงก็ติดแม่ อีกคนก็ติดเที่ยว บางคนยิ่งแล้วใหญ่ ขี้อวด พูดอยู่นั่นแหละ พูดเป็นต่อยหอย กว่าจะหลุดมาได้แต่ละคน เสียเวลาชีวิตไปตั้งเยอะ"
"แล้วที่แกไปใช้ชีวิตอยู่กับไอวินมาตั้งเป็นปีปี นั่นไม่เสียเวลาชีวิตแกเลยรึไง"

จริงใจสะอึกไป พร้อมตอบด้วยน้ำเสียงกระท่อนกระแท่น

"นั่น...ไม่นับ"
"นั่นไง แกยังไม่ลืมมันจริงๆด้วย" ยิ้มตบโตะฉาดใหญ่ ดีใจที่เห็นว่าสิ่งที่ตนคิดนั้นถูกต้อง
"ไม่ใช่ มันไม่เกี่ยว" จริงใจตอบกลับอย่างรวดเร็ว แต่ก็โดนเพื่อนรักเบรกไว้อย่างรู้ทัน
"อย่ามาพูดเลย แกมันดูง่ายจะตาย รักกันอยู่แท้ๆ จะเลิกกันทำไมก็ไม่รู้ ... สงสารวินมัน"

ยิ้มพูดอย่างอดไม่ได้ เพราะรู้จักนิสัยเพื่อนสาวของตัวเองดี รายนี้ตัดสินใจแล้วตัดสินใจเลย ไม่เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาแน่ ถ้าบอกว่าจะแต่งก็แต่ง ถ้าบอกว่าจะเลิกก็คือเลิก

"แกไม่รู้อะไร อย่าพูดดีกว่า" จริงใจตอบ รู้สึกว่าข้าวที่ทานไปฝืดคอขึ้นทันที
"ทำไมฉันจะไม่รู้ แกหย่าไม่กี่เดือน ไอวินก็หอบเสื้อผ้าไปอเมริกาละ"
"แล้วไง?"
"ฉันก็เลยไปถามนนท์นะสิ ว่าเรื่องมันเป็นยังไงกันแน่? ทำไมอะไรๆมันถึงได้กระทันหัน สุดท้ายไอนนท์ก็คายออกมาหมด แกหย่ากับไอวินเพราะมันได้งานที่อเมริกาใช่มั้ย?"
"..."
"แกอะนะ มันเป็นประเภทบ้างาน ...แล้วก็คิดว่าคนอื่นเขาจะเป็นเหมือนแกหมด เห็นงานสำคัญเป็นอันดับหนึ่ง มันไม่ใช่เลยเว้ยจริงใจ! จริงๆไอวินมันอาจจะไม่ได้อยากไปอเมริกาเลยก็ได้ แต่เพราะแกเนี่ยแหละ มันเลยต้องไป"
"แกจะหยิบเรื่องนี้ขึ้นมาพูดตอนนี้ทำไมวะ? ไหนๆจะแกล้งทำเป็นไม่รู้แล้ว ก็แกล้งให้ตลอดดิ"
"ฉันไม่ได้แกล้งนะ แต่ที่ผ่านมา ฉันก็คิดว่าแกเลือกแล้ว แกก็น่าจะตัดใจจากมันได้ ฉันก็เลยไม่พูด แต่นี่อะไร!! ใครเข้ามาแกก็ปฏิเสธไว้หมด พวกที่ผ่านๆฉันมา ก็ไม่ใช่ว่าฉันจะไม่รู้จักนะ บางคนประวัติดีเลิศ ดีจนกระทั่งไอวินเทียบไม่ติดเลยก็มี ฉันก็ไม่เห็นแกจะแล แล้วอย่างนี้จะไม่ให้ฉันพูดได้ไง" ยิ้มพูดออกมาเตือนสติเพื่อนอย่างเสียไม่ได้ ตั้งแต่หย่ากับภาคภูมิ จริงใจไม่เคยเปิดใจให้ใครเลย และมันก็น่าเสียดาย ที่ผู้หญิงที่ดีพร้อมทั้งรูปสมบัติ และคุณสมบัติอย่างจริงใจ จะต้องมาอยู่คนเดียวไปจนแก่
"ก็ถ้าเขาดีขนาดนั้น ทำไมแกไม่เก็บไว้เองละ แกมาแนะนำฉันให้รู้จักทำไม" จริงใจตอบผ่านๆ ทำเอายิ้มถึงกับเซ็ง
"โอยแกนี่ ก็เขาไม่ได้ชอบฉัน ฉันจะไปเอาได้ยังไงละ"
"ก็เหมือนกัน เปลี่ยนเป็น ฉันไม่ได้ชอบเขา แล้วจะให้ฉันเอาไปได้ยังไงละ"
ยิ้มตีหน้าเซ็ง เมื่อเพื่อนสาวยอกย้อน
"ถามจริงๆเหอะ ... แกเลิกกับวินทำไมวะ? แค่เพราะมันได้ไปทำงานที่อเมริกาแค่นี้จริงๆเหรอ? เหตุผลแค่นี้ มันดูไม่น่าจะเลิกกันได้นะ" ยิ้มถามอย่างอดไม่ได้ จริงใจนิ่ง ใช้สีหน้าคิดหนัก
"ว่าไง?"
"...ตอนแรก..."
"อืมม"
"ตอนแรก ... ฉันโกรธมาก ที่มันไม่ยอมบอกฉันเรื่องที่ได้งานทำที่อเมริกา... มันรู้มาเกินเดือนแล้ว แต่มันก็ไม่บอก ปล่อยให้ไอนนท์มันมาบอก ฉันก็เลยมานั่งคิด ว่าอะไรทำให้มันทำอย่างนั้นวะ?"
"แล้ว?"
"แล้วฉันก็ได้คำตอบ... คำตอบคือ เรารู้จักกันมากเกินไป แกเข้าใจมั้ยวะ? มันกับฉันรู้จักกันมากเกินไป จนเราสองคนไม่สามารถเป็นตัวของตัวเองได้แล้ว... มันไม่บอกเพราะมันรู้ ว่าถ้ามันไป ฉันจะไม่ไปกับมันแน่นอน แม้จะไม่เลิกกัน ฉันก็ไม่ไปอยู่ดี มันก็เลยตัดสินใจไม่ไปเลย เพื่อที่จะได้อยู่กับฉัน"
"ก็ถูกแล้วนี่"
"แต่...ตอนที่เราเป็นเพื่อนกัน มันไม่ใช่อย่างนี้เลยเว้ย เรามีอิสระกันเต็มที่ เราไม่ต้องมาคิด เราไม่ต้องมาแคร์ เราสามารถเลือกชีวิตทางเดินของตัวเองได้ ฉันมีโลกของฉัน มันมีโลกของมัน และเรามาแชร์โลกของเราเป็นบางครั้งบางคราว โดยที่เราไม่ไปยึดความฝัน หรือความคิดของใคร และฉันชอบตัวฉันและชอบมันที่เป็นอย่างในตอนนั้นมากกว่า... "
"ฮะ?"
"ฉันก็เลยตัดสินใจ กลับไปเป็นเพื่อนกับมันเหมือนเดิม อยู่เป็นเพื่อนกันไปคงดีกว่ามาทำร้ายกันโดยไม่รู้ตัว.... แกเข้าใจที่ฉันพูดรึเปล่า?"
"..นี่แก... ติสแตกไปรึเปล่าวะ?"
"แกไม่เข้าใจ!"
"เออ ไม่เข้าใจ!!!! วิน โคตร น่าสงสารสุดๆ เรื่องนี้แกเล่นพูดเอง เออเอง ตัดสินใจเองคนเดียวหมดเลย ฉันเศร้าแทนมันนะ "
"แกเข้าข้างมันอะ"
"ไม่ใช่!!! ฉันไม่ได้เข้าข้างมัน แต่สิ่งที่แกทำ ฉันอดคิดไม่ได้จริงๆว่ามันจะมีประโยชน์จริงๆเหรอวะ? มันดีกว่าจริงๆเหรอ ที่แกสองคนหย่ากัน? แกงี่เง่าเกินไปอะ เอาจริงๆ แกยังรักมันอยู่แท้ๆ แต่แกก็ทำตัวเหมือนเสียสละ ผลักให้มันไปซะอย่างนั้น ทั้งๆที่มันก็ไม่ได้อยากไปเลย"
"ไม่ใช่ ฉันไม่ได้รักมันแล้ว ฉันแค่อยากได้เพื่อนสนิทคืน เพื่อนที่เป็นเพื่อนจริงๆ ไม่ต้องมีอารมณ์มาหึงหวง เครียด เหนื่อย แกไม่เข้าใจอะ"
"ไม่เข้าใจจริงๆนั้นแหละ ยิ่งฟังก็ยิ่งงง แกเอาคำว่าเพื่อนมาเป็นข้ออ้างอะ แกสองคนมันไม่ใช่เพื่อนกันมาตั้งนานแล้ว สิ่งที่แกทำมันต่างจากที่แกพูด แกพูดว่าแกไม่รักมัน แต่แกก็ยังเก็บมันเอาไว้ในใจ ไม่ยอมให้ใครเข้าไป ไม่ยอมให้ใครรู้ แกหลอกใครก็หลอกไปเหอะ แต่แกหลอกฉันไม่ได้หรอก แกมันดูง่ายจะตาย"
"..."
"เอาเป็นว่าแกจะคิดยังไงฉันไม่รู้ จะเพื่อนก็เพื่อน แล้วแต่แก... แต่มีสิ่งหนึ่งที่ฉันอยากจะเตือนแกเอาไว้นะ จริงใจ... ความรักอะ ยิ่งห้ามมันเท่าไหร่ มันก็จะมีแต่จะยิ่งมากขึ้น มากขึ้น ไม่มีลดลงหรอก ถ้าแกเก็บมันไว้กับตัวมากๆ ระวังมันจะระเบิดออกมา สุดท้าย ทั้งแกกับวิน ก็จะตายกันทั้งคู่ เพียงเพราะความเอาแต่ใจของแกนี่แหละ"

ยิ้มพูดกระแทกกระทั้นอย่างอดไม่ได้ เมื่อเห็นความดื้อดึงของเพื่อนที่รู้จักกันมานาน

จริงใจฟัง ก็ได้แต่นิ่งเงียบ แม้เธอจะไม่อยากยอมรับ แต่จริงใจก็เข้าใจความหมายของมันดี...

เป็นเรื่องจริงที่เธอยังรักวินอยู่ ...

แม้เธอจะโกหกคนได้ทั้งโลก แต่เธอก็โกหกตัวเองไม่ได้

เพียงแต่เธอแค่คิด ว่าเธอจะสามารถห้ามมันได้ ... ต่อให้ความรู้สึกจะเพิ่มขึ้นมามากมายแค่ไหน เธอก็ห้ามมันได้ มันจะต้องผ่านไปได้สิ นี่สองปีผ่านมาแล้ว ทั้งจริงใจและภาคภูมิ ก็ยังมีชีวิตอยู่ต่อไปได้อยู่เลย

"ฉันไม่พูดกับแกแล้ว อยากทำอะไรก็ทำ" ยิ้มพูดตัดบทในที่สุด

"แต่พรุ่งนี้ฉันมีคนจะแนะนำให้รู้จัก ... และแกต้องมาด้วย" เธอกล่าวประโยคต่อไป ซึ่งเป็นประโยคที่จริงใจกลัวที่สุด เป็นอันรู้กันว่า ถ้ายิ้มพูดอย่างนี้เมื่อไหร่ ก็แสดงว่าหล่อนหาหนุ่มมาให้

"10โมง พรุ่งนี้ห้ามสาย ... แล้วเจอกันยะ" เธอพูดเป็นเชิงออกคำสั่ง พร้อมเรียกเช๊คบิลอาหารมื้อนี้เป็นบทสรุป เหลือทิ้งเอาไว้ก็แต่เพียงภารกิจอันหนักอึ้ง ที่ให้จริงใจต้องกลับไปขบคิด และหวาดกลัว




แว่นกระดาษ
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 16 ธ.ค. 2557, 18:11:46 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 30 ม.ค. 2558, 22:31:36 น.

จำนวนการเข้าชม : 1212





<< ตอนที่ 3    ตอนที่ 5 >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account