ภรรยาเพียงนาม
ภรรยาเพียงนาม โดย...ธัญปัณณ์


เป็นเรื่องสุดท้ายของหนุ่มๆ ตระกูลเศรษฐินาธรนะคะ

นำแสดงโดย คุณใหญ่ โคแก่มาดขรึม และ ใบบัว สาวน้อยจอมดื้อ!






‘พิชาภพ เศรษฐินาธร’ มหาเศรษฐีหนุ่มหล่อ เจ้าของธุรกิจโรงแรมและรีสอร์ทที่ร่ำรวยอันดับต้นๆ ของประเทศ จำต้องรับ ‘ณัฐชาดา’ สาวน้อยหน้าหวานเข้ามาใช้นามสกุลเดียวกันด้วยบุญคุณที่พ่อของเธอเคยช่วยชีวิตเขาเอาไว้ แรกนั้นจะให้อยู่ในสถานะ ‘ภรรยาเพียงนาม’ แต่ความดื้อดึงปนน่ารักในการเอาตัวรอดของเธอ ทำให้หนุ่มใหญ่นึกอยากเอาชนะ แม่กวางน้อยไร้เดียงสาน่ะหรือ...จะรอดพ้นราชสีห์หนุ่มเจ้าป่าอย่างเขา

และสิ่งที่เขาสังหรณ์ใจแต่แรก จึงจดทะเบียนสมรสกับเธอเสียก็เกิดขึ้นจริง เมื่อหญิงสาวถูกหลอกขาย แต่เขานี่แหละที่จะซื้อเธอด้วยความรักอย่างเต็มใจ!



ตัวอย่างจ้าาาาาา

“คุณใหญ่ปล่อยนะ!”

สาวน้อยร้องลั่นเมื่อเขาตวัดคว้าเอวบางเข้าหาตัวก่อนจะกดเธอลงกับเตียงนอนแล้วโน้มใบหน้าเข้ามาหาเสียใกล้ ท่าทางล่อแหลมมากเหลือเกิน

“เด็กโกหก!”

“คุณใหญ่ไม่รู้หรอกว่าผู้หญิงที่ไหนก็ต้องกลัวเรื่องแบบนี้ทั้งนั้น”

“เรื่องแบบไหน”

“ก็เรื่องเซ็กซ์”

“ใครบอกเธอว่าฉันจะทำแบบนั้น”

“ก็คนนอนเตียงเดียวกันก็ต้องคิดเรื่องนี้ทั้งนั้นแหละค่ะ”

“คราวหน้าอย่ามาทำอะไรไม่เข้าเรื่องแบบนี้อีก เข้าใจไหม” พิชาภพเลี่ยงที่จะตอบว่าเขาคิดเรื่องพวกนั้นกับเธอหรือเปล่าเพราะยังไม่แน่ใจตัวเองนัก จะว่าคิดก็ใช่ จะว่าไมได้คิดก็ใช่

“ค่ะ” เธอตอบเสียงแผ่ว

“ไม่งั้นจะถูกลงโทษ” ชายหนุ่มยิ้มเจ้าเล่ห์ นัยน์ตาพราวระยับเมื่อจับจ้องที่ริมฝีปากซึ่งเผยอน้อยๆ ในขณะนี้

“ลงโทษ?”

“ถ้าใบบัวดื้อ ฉันจะจูบ!”

“จะ...จูบ!” สาวน้อยเบิกตาโตเท่าไข่ห่าน

“ใช่! ดังนั้นอย่าดื้อหรือทำให้ฉันไม่พอใจอีก”

“ค่ะ ใบบัวจะไม่ดื้อแล้ว” สาวน้อยรีบรนตอบจนลิ้นแทบพันกัน “คุณใหญ่คะ ครั้งนี้ยกเว้นใช่ไหม”

“ถ้ายกเว้น ใบบัวจะเข็ดหลาบไหม”

“ใบบัวยังไม่แปรงฟันด้วยนะ”

***********
Tags: โคแก่หญ้าอ่อน

ตอน: บทที่ 5 เรื่องยุ่งยาก 2

บ่ายจรดเย็น ณัฐชาดานั่งประดิษฐ์ของแฮนด์เมดง่วนอยู่ภายในห้องนอนของตนเองโดยมีหนูบิ๊กคอยให้กำลังใจร้องเมี้ยวๆ อยู่ข้างๆ หญิงสาวทำเพลินจนลืมเวลา ซึ่งจริงๆ แล้วเธอจะต้องทำความสะอาดห้องเพื่อกำจัดขนของหนูบิ๊กให้หมดก่อนที่พิชาภพจะกลับมา ทว่ากลับเพลิดเพลินจนลืมเช่นนี้ หญิงสาวจึงเบิกตากว้างและสะดุ้งเฮือกเมื่อประตูห้องถูกเปิดออกพร้อมกับร่างสูงโปร่งที่ก้าวเข้ามา

“ฮัดเช้ย!” พิชาภพจามทันทีที่ได้กลิ่นเจ้าหนูบิ๊ก

“คุณใหญ่!”

“นี่อย่าบอกนะว่า...”

“หนูบิ๊กรีบออกไปเร็วๆ” สาวน้อยรีบอุ้มเจ้าเหมียวตัวอ้วนออกไปปล่อยข้างนอกห้อง “ไปเล่นก่อนนะ เดี๋ยวแม่จะตามไป”

“คุณใหญ่คะ ออกไปก่อนนะคะเดี๋ยวใบบัวจะรีบทำความสะอาดให้”

“ไม่เป็นไรๆ ฉันดีขึ้นแล้ว” ชายหนุ่มยกมือห้าม หลังพยายามกลั้นจาม เขาเห็นท่าทางตื่นตกใจของเธอแล้วก็นึกสงสาร ไม่อยากให้ต้องมาลำบากทำความสะอาด

“แต่น่าจะยังมีเศษขนหนูบิ๊กอยู่นะคะ”

“ไม่เป็นไรครับ ว่าแต่ใบบัวทำอะไรอยู่” เขาเอ่ยถามหลังก้าวเข้ามาหาเสียใกล้จนได้กลิ่นหอมอ่อนๆ ของเรือนผมเงางาม

“ใบบัวทำสร้อยแฮนด์เมดค่ะ” หญิงสาวตอบก่อนจะเอื้อมมือไปปลดกระดุมคอเสื้อให้เขา เธอสูงแค่อกของเขาเท่านั้นเองจึงเลือกมองแค่ระดับสายตา ไม่หาญกล้าสบนัยน์ตาลุ่มลึกด้วยกลัวจะตัวสั่นอย่างวันนั้นอีก

“อันนี้หรือเปล่า” ชายหนุ่มถือโอกาสคว้ามือนุ่มข้างที่สวมสร้อยแฮนด์เมดที่ทำจากหินสีฟ้า ใจนึกอยากยกขึ้นมาจรดริมฝีปากให้ชื่นใจแต่ไม่กล้า

“ชะ...ใช่ค่ะ” ณัฐชาดาตอบพลางเผลอเงยหน้าขึ้นไปสบนัยน์ตาคู่คม เพียงเสี้ยววินาทีก็ต้องรีบก้มงุดลงมาดังเดิมด้วยไม่อาจทนต่ออะไรบางอย่างที่แฝงอยู่ในลูกแก้วใสคู่นั้นได้

“สวย”

“ขอบคุณค่ะ” หญิงสาวพยายามดึงมือกลับเบาๆ แต่เขาไม่ยอมปล่อยจึงต้องยอมตกอยู่ในอุ้งมือหนาอุ่นร้อนเช่นนั้น ซึ่งพาลจะทำให้เธอเป็นไข้เสียเพราะตอนนี้แก้มเริ่มร้อนซู่อีกแล้ว อยู่ใกล้เขาทีไร รู้สึกเหมือนเป็นไข้ทุกที

“อุปกรณ์เยอะแยะเลย วันนี้ออกไปซื้อมาหรือ” เขาเอ่ยถามหลังเหลือบไปมองอุปกรณ์ในตะกร้าและที่เกลื่อนกลาดอยู่รอบๆ

“เปล่าค่ะ พี่เล็กหาซื้อมาให้ค่ะ”

“นายเล็กหรือ” เขารำพึงชื่อน้องชายเบาๆ ถอนหายใจยาว เขานี่แย่เสียจริง น้องชายยังรู้ใจและเข้ามาดูแลเมียเขามากกว่าตัวเขาเสียอีก

“ค่ะ วันก่อนพี่เล็กมาถามว่าใบบัวอยากทำอะไร แล้วก็หาอุปกรณ์มาให้ค่ะ”

“ดีแล้ว ใบบัวจะได้ไม่เหงานะ”

“ตอนนี้ไม่เหงาแล้วค่ะ มีทั้งงานประดิษฐ์ ทั้งหนูบิ๊ก”

ชายหนุ่มถอนใจอีกครั้ง แต่ไม่มีเขาเลยที่ทำให้เธอหายเหงา น่าน้อยใจจริงๆ

“ถ้าใบบัวอยากได้อะไรเพิ่มเติมบอกฉันนะ”

“ค่ะ แต่เท่านี้ใบบัวก็พอใจแล้วค่ะ” หญิงสาวยิ้มสดใสขึ้น มือน้อยอยู่ในมือของเขาราวกับจะกลืนเป็นเนื้อเดียวกันแล้ว

พิชาภพจับจ้องหญิงสาวนิ่ง ด้วยสัญชาติญาณสาวน้อยจึงเงยหน้าขึ้นมอง เขาใช้อีกมือหยิบกระเป๋าเงินของตนเองใส่มือที่เขากุมเอาไว้

“อะไรกันคะ” หญิงสาวมองกระเป๋าตังค์ในมือแล้วก็ส่ายศีรษะอย่างแรง “ใบบัวรับไม่ได้หรอกค่ะ”

“รับไว้เถอะ ฉันมีหน้าที่ต้องดูแลใบบัวนะ”

“แต่ว่า...” หญิงสาวลำบากใจ เมื่อเปิดกระเป๋าดูก็เห็นธนบัตรสีเทาในนั้นราวยี่สิบใบเห็นจะได้ อีกทั้งยังมีบัตรเครดิตอีกสองใบด้วย “มากมายขนาดนี้ ใบบัวเกรงใจคุณใหญ่ค่ะ” แล้วเธอก็ส่งกระเป๋าคืน

“มากมายที่ไหนกัน ใบบัวใช้ได้ทั้งเงินสดและบัตรเครดิตในนั้น ฉันให้ใบบัวหมดเลย”

“แล้วคุณใหญ่จะใช้อะไรล่ะคะ ให้ใบบัวทั้งกระเป๋าแบบนี้”

“ฉันมีก็แล้วกัน เราเถอะ อย่าคิดมากแล้วรับไว้ เผื่อเอาไปซื้ออุปกรณ์มาประดิษฐ์อะไรต่อมิอะไรที่เราอยากทำยังไงล่ะ” ชายหนุ่มมีเทคนิคล่อใจสาวน้อย ซึ่งได้ผลจริงๆ ด้วย

“งั้นก็ได้ค่ะ ไว้ใบบัวจะทำพวงกุญแจห้อยให้คุณใหญ่บ้าง” ณัฐชาดาสบายใจขึ้นหลังจากคิดหาทางตอบแทนเขาได้บ้าง แม้จะเทียบกันไม่ติดเลยก็ตามที

“เอาซี ฉันอยากได้ไว้ห้อยพวงกุญแจรถอยู่พอดี”

“คุณใหญ่เหนื่อยไหมคะ” หญิงสาวเอ่ยถาม หลังจากเพิ่งสังเกตว่าใบหน้าคมมีร่องรอยการอิดโรย เขาคงทำงานหนักน่าดู

เหนื่อยไหม? พิชาภพแทบลืมไปเสียสนิทว่าก่อนมาถึงบ้านเขารู้สึกทั้งเครียดทั้งเหนื่อยจากภาระงานที่มากมาย ทว่าเมื่อพบหน้าสาวน้อย ได้พูดคุย ได้จับมือ ความเหนื่อยนั้นก็มลายหายไปเป็นปลิดทิ้ง เขารู้แล้วว่าที่พิริยะบอกว่า ‘แค่เห็นหน้าเมียก็ชื่นใจ’ นั้นเป็นอย่างไร

“ไม่เหนื่อยแล้วครับ”

“แล้วคุณใหญ่จะอาบน้ำเลยไหมคะ ใบบัวไปผสมน้ำอุ่นให้นะคะ”

“ไม่เป็นไร ฉันทำเองได้”

“ใบบัวผสมไม่ได้เรื่องเหรอคะ” หญิงสาวถามอย่างตกใจ กลัวเขาจะไม่พอใจในสิ่งที่เธอทำให้

“ไม่เลย ใบบัวผสมน้ำอุ่นได้พอดีที่สุด กลิ่นเทียนก็หอมมาก”

“แล้วทำไม...” หญิงสาวถามเสียงอ่อย

“ฉันไม่อยากให้ใบบัวลำบาก ใบบัวมาเป็นเมียฉันนะ ไม่ใช่คนรับใช้ของฉัน” ที่บอกอย่างนี้ รู้ดีว่าจะทำให้เธอเขินอาย แต่อย่างไรก็ต้องการเน้นย้ำสถานะ

“แต่ใบบัวอยากทำเพื่อไถ่โทษค่ะ”

“ไถ่โทษอะไร” ชายหนุ่มย่นหัวคิ้วดกหนาเข้าหากัน

“ไถ่โทษที่เคยระแวงคุณใหญ่ ทั้งๆ ที่คุณใหญ่ใจดีกับใบบัว”

“ฉันก็ไม่ได้อยากใจดีนักหรอก” เขาบอกพลางส่งสายตาร้อนแรงมาให้โดยไม่รู้ตัว แต่หญิงสาวสั่นสะท้านเลยทีเดียว

“คะ?”

“ฉันไม่เคยบอกว่าจะจดทะเบียนสมรสกับเธอเฉยๆ”

“หมายความว่ายังไงคะ” หญิงสาวทำหน้าตื่น

“คนเป็นสามีภรรยา เขาต้องทำอะไรกันล่ะ ฉันก็จะทำแบบนั้นกับใบบัว” ชายหนุ่มพูดตรงๆ ทำเอาสาวน้อยตัวสั่นสะท้าน เผลอกลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็น

“แต่ว่าเราไม่ได้รักกันนะคะ ใบบัวจะยอมมีอะไรกับคนที่ใบบัวรักเท่านั้น” หญิงสาวยืนยันเจตนารมณ์

“สักวันมันก็ต้องเป็นแบบนั้น”

“คุณใหญ่จะรักใบบัวเหรอคะ” สาวน้อยรีบถามทันควันไม่ทันยั้งคิด หลังเบิกตาโตบ๊องแบ๊วอย่างตกใจกับคำพูดตรงๆ ของเขา

คนถูกถามจับจ้องลึกซึ้งราวกับจะกลืนกิน ก่อนรั้งร่างบางเข้ามากอด เป็นครั้งแรกที่เขาได้กอดเธอ ร่างของเธอนุ่มนิ่ม มีกลิ่นกายสาวหอมละมุน ชายหนุ่มสัมผัสได้ถึงความรู้สึกพิเศษฉันท์หนุ่มสาว

หญิงสาวตกใจแต่ไม่กล้าขืนตัวออกมา ยอมยืนนิ่งอยู่ภายในอ้อมกอดแข็งแกร่งของชายหนุ่ม ผู้ชายคนแรกที่หอมแก้มเธอและกอดเธอ เขาหรือ...ที่จะต้องใช้ชีวิตร่วมกันตลอดไปเพราะเธอคงไม่ยินยอมให้ใครทำแบบนี้ด้วยอีกแล้ว

และชายหนุ่มก็ยืนยันคำตอบเสียงหนักแน่น

“คิดว่าจะรัก”



“พ่อมีเรื่องจะคุยด้วย”

คุณพิมุกต์เอ่ยขึ้นหลังก้าวเข้ามาในห้องทำงานของพิชาภพยามดึก ใบหน้าที่มีรอยเหี่ยวย่นเล็กน้อยดูตึงเครียดกว่าปกติ เมื่อท่านทรุดกายลงนั่งที่เก้าอี้ตรงข้าม ชายหนุ่มจึงเอ่ยถามอย่างข้องใจ

“คุณพ่อมีอะไรเหรอครับทำไมดูเครียดๆ” พิชาภพวางภาระงานในมือลงทั้งหมด เขาสังหรณ์ใจว่าจะเป็นเรื่องของณัฐชาดา

“เรื่องคู่ครองของใหญ่” ท่านเปรยเสียงเครียดจัด

“ใบบัวเหรอครับ” พิชาภพแปลกใจด้วยเคยคุยเรื่องนี้กันแล้ว ท่านเองก็ดูเข้าใจดีว่าเขารักใบบัวจริงๆ แม้อาจจะไม่เชื่อร้อยเปอร์เซ็นต์ก็ตาม หรือว่าท่านจะระแคะระคายเรื่องที่เขาโกหก

“ไม่ใช่!”

“หมายความว่ายังไงครับ ไม่ใช่ใบบัว” ชายหนุ่มเบิกตากว้าง ขยับตัวนิดหนึ่งเพื่อตั้งใจฟังท่านอย่างเต็มที่

“พ่อต้องขอโทษใหญ่ด้วยที่ทำเรื่องยุ่งยากไปเสียแล้ว” ท่านถอนหายใจยาว ท่าทางไม่สบายใจ

“หมายถึงเรื่องคู่ครองน่ะหรือครับ”

“ใช่ พ่อถือวิสาสะหาคู่ครองให้ใหญ่ก่อนหน้าที่ใหญ่จะพาใบบัวเข้ามา คือพ่อไม่คิดว่าใหญ่จะมีใครเลยเผลอบอกไปว่าอยากให้ใหญ่ได้ลองคุยๆ กับลูกสาวของธเนศ นักธุรกิจอัญมณี เพื่อนเก่าของแม่เขาน่ะ” คุณพิมุกต์เล่าเสียงเครียดไม่สร่างซา ธเนศเป็นเพื่อนเก่าของวิชชุดา ภรรยาของเขาที่เสียชีวิตไปหลายปีแล้ว แต่เนื่องจากรู้จักและติดต่อกันมาโดยตลอดจึงได้พูดคุยกันในงานเลี้ยงสังสรรค์ของเจ้าของธุรกิจในคืนวันนั้น

“คุณพ่อ!” พิชาภพตกใจ เขาไม่อยากให้เกิดเรื่องยุ่งยากขึ้นกับณัฐชาดา

“เธอชื่อหนูพลอยหยกเป็นดีไซน์เนอร์ชื่อดัง พ่อพบเธอแล้ว อายุอานามน่าจะย่างสามสิบปีแต่ยังไม่มีคนรัก บุคลิกท่าทางดูมั่นใจ ทำงานเก่ง พ่อคิดว่าน่าจะเหมาะสมกับใหญ่เลยเผลอพูดไปแบบนั้น”

“แล้วทางโน้นก็โอเคเหรอครับ”

“ใช่”

“ทั้งๆ ที่ยังไม่รู้จักและเห็นหน้าผม” ชายหนุ่มโคลงศีรษะอย่างไม่อยากเชื่อ ผู้หญิงคนนั้นท่าทางจะมั่นใจในตัวเองสูงอย่างที่ผู้เป็นบิดาบอกจริงๆ

“ไม่มีใครไม่รู้จักพิชาภพ เศรษฐินาธรหรอก”

“แต่เขาก็รู้จักเพียงชื่อและหน้าตาผ่านสื่อที่เขียนอวยผมไปต่างๆ นานาเท่านั้น”

“แต่แค่นั้นหนูพลอยหยกก็สนใจลูกมาก ทางพ่อของเขาก็เห็นดีเห็นงามว่าจะให้ลองคบหาดูใจกัน ซึ่งพ่อเป็นคนเสนอเรื่องนี้เองเลยไม่กล้าไปปฏิเสธ ยิ่งบอกว่าใหญ่มีเมียแล้วยิ่งไม่กล้าใหญ่เพราะเพิ่งคุยเรื่องนี้กันเมื่อเดือนที่แล้วเท่านั้นเอง”

“โธ่! แล้วคราวนี้จะทำยังไงล่ะครับ” ชายหนุ่มกลุ้มใจ

“ใหญ่ว่าควรทำยังไง” ชายสูงวัยรู้ดีว่าปัญหานี้เขาเป็นผู้ก่อ แต่อยากจะดูเชิงลูกชายว่าจะจัดการอย่างไร และดูท่าทีที่มีต่อณัฐชาดาด้วย อยากแน่แก่ใจมากกว่านี้ว่ารักเด็กผู้หญิงคนนั้นจริง

“ก็คงต้องบอกตามตรงครับเพราะจะให้ผมแกล้งไปคบหากับเขาแล้วทำทีว่าไม่ชอบคุณพลอยหยกอะไรนั่นก็เห็นทีจะไม่ดี ผมกลัวใบบัวจะรู้เข้า”

คุณพิมุกต์ยิ้มกับคำตอบ ท่าจะเอาจริง

“ใหญ่ว่าทางโน้นจะว่ายังไง พ่ออยากให้รักษาความสัมพันธ์เอาไว้เพราะอย่างไรเขาก็เป็นเพื่อนเก่าของแม่ทั้งคุณธเนศและภรรยาของเขาด้วย”

“ผมว่าทางนั้นต้องเข้าใจครับ”

“คุณธเนศอาจจะเข้าใจ แต่หนูพลอยหยกนี่สิ ดูเธอตั้งความหวังไว้เต็มที่ว่าต้องเอาชนะใจลูกได้ ดูเธอจะชอบพอลูกอยู่เป็นทุนเดิมแล้วด้วย”

“ผมไม่ชอบผู้หญิงแบบนี้” พิชาภพเอ่ยออกไปก็แปลกใจตัวเอง นี่เขารู้ใจตัวเองตั้งแต่เมื่อไรว่าชอบผู้หญิงแบบไหน และแบบไหนที่ไม่ชอบ

“พ่อก็ดูใหญ่ผิดไปเอง ไม่คิดว่าใหญ่จะชอบแบบ...เด็กๆ”

“ผมไม่ได้ชอบเด็กนะครับ แต่ผมชอบผู้หญิงน่ารักและใสซื่อแบบใบบัวเท่านั้นเอง” เขาตอบจากใจจริง ไม่ได้แสดงละครเหมือนอย่างวันแรกที่พาณัฐชาดามาที่นี่ หรือไม่แน่เขาอาจจะชอบกินเด็ก

“ตอนแรกพ่อไม่กล้าบอกใหญ่เลยเร่งให้ใหญ่แต่งงานกับหนูใบบัวเสีย เรื่องทุกอย่างคงง่ายขึ้น”

“ถ้าแต่งงานปุบปับจะเสียความสัมพันธ์ได้ง่ายกว่าเราบอกก่อนนะครับคุณพ่อ”

“ใหญ่จะแต่งงานกับใบบัวจริงหรือเปล่า” ผู้เป็นบิดาถามเพื่อความแน่ใจ

“ใบบัวเป็นผู้หญิงคนเดียวที่ผมจะแต่งงานด้วย” เขาแปลกใจที่ตัวเองมั่นใจขนาดนี้ แต่ก็ยังตอบไม่ได้เหมือนกันว่าจะแต่งงานกับณัฐชาดาเมื่อไร ที่จริงเขาอยากให้งานแต่งเกิดขึ้นเพราะความรักมากกว่าเหตุผลจำเป็น

“ตอนนี้หนูพลอยหยกติดงานที่ออสเตรเลีย แต่ก็คงกลับมาเร็วๆ นี้”

“เอาไว้เขากลับมา เราค่อยไปอธิบายเหตุผลให้เขาฟัง คุณพลอยหยกคงไม่อยากแย่งของของคนอื่นหรอกครับ เรื่องคงไม่ยากเท่าไร” พิชาภพคาดเดา ผู้หญิงดีๆ และรักศักดิ์ศรีที่ไหนๆ คงไม่ทำตัวเป็นนางร้ายกันหรอก

“ถ้ามีโอกาสพ่อจะไปเกริ่นเรื่องนี้กับคุณธเนศไว้ก่อน”

“ครับ”

แม้จะพูดเหมือนเรื่องไม่ยาก แต่พิชาภพก็ไม่สบายใจเอาเสียเลย ด้วยเป็นห่วงณัฐชาดา ไม่อยากให้เธอคิดว่าเขามีคนอื่นมาก่อน เขาเพิ่งรู้ตัวว่าเป็นห่วงความรู้สึกของหญิงสาวถึงเพียงนี้



จรดปลายรุ้ง
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 3 ม.ค. 2558, 20:29:57 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 3 ม.ค. 2558, 20:29:57 น.

จำนวนการเข้าชม : 2397





<< บทที่ 5 เรื่องยุ่งยาก 1   บทที่ 6 หาทางหนีจาก 1 >>
แว่นใส 3 ม.ค. 2558, 20:39:16 น.
ยุ่งจริงด้วย


konhin 3 ม.ค. 2558, 21:00:01 น.
อ้าว คุณพ่อ คิดจะจับลูกคลุมถุงชนซะงั้น แบบนี้เรียกหาเรื่องให้นะคะเนี่ยยยย


ผักหวาน 11 ก.พ. 2558, 20:49:49 น.
รักเด็กแล้วค่ะคุณใหญ่


Zephyr 27 ก.พ. 2558, 20:54:35 น.
เริ่มกลัว เอ้ยยย เกรงใจ เมียเด็กแล้วสินะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account